มุมมองยุทธศาสตร์ : ผู้ล้างแค้นแห่งลุ่มแม่น้ำไนเจอร์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160523/228168.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2559
มุมมองยุทธศาสตร์ : ผู้ล้างแค้นแห่งลุ่มแม่น้ำไนเจอร์

มุมมองยุทธศาสตร์ : ผู้ล้างแค้นแห่งลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ : โดย…เรือรบ เมืองมั่น http://www.facebook.com/ruarob.muangman

                    หากใครเติมน้ำมันทุกวันนี้สังเกตสักหน่อยก็จะพบว่าตอนนี้เป็นช่วงขาขึ้นของราคาน้ำมันแล้วชัดๆ เดี๋ยวปั๊มก็ขึ้นสี่สิบสตางค์ห้าสิบสตางค์กันแทบทุกอาทิตย์ เขาว่าเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลมาจากปัจจัยเฉพาะสามสี่ตัว เช่น ไฟป่าในแคนาดาที่ไหม้รุนแรงเหลือเกิน และสงครามกลางเมืองในลิเบียที่กระทบต่อการส่งออกน้ำมัน แต่ที่แปลกกว่าใครคือที่ไนจีเรีย มีกลุ่มนักรบท้องถิ่นทำการก่อวินาศกรรมท่อน้ำมันของไนจีเรียอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ทำให้ธุรกิจน้ำมันของประเทศที่ส่งออกน้ำมันมากที่สุดในแอฟริกานี้ซวดเซ กลุ่มที่ว่านี้ชื่อเหมือนตัวการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่หนังฮอลลีวู้ด ว่า ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ หรือผู้ล้างแค้นแห่งลุ่มแม่น้ำไนเจอร์
                    พวกเขาไม่ใช่กลุ่มก่อการร้ายอ้างศาสนาแนวเดียวกับกลุ่มโบโกฮาราม ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่กเฬวรากอันดับสองของโลกรองมาจากกลุ่มไอเอส (ความน่าสะพรึงกลัวของโบโกฮารามดังไปทั่วโลก และทำให้ไนจีเรียกลุ้มใจอย่างหนักจนทุกวันนี้) แต่เป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนท้องถิ่นแถวลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ พวกเขาอ้างว่าต่อสู้กับรัฐบาลไนจีเรียที่ไม่เป็นธรรมกับพวกเขา คิดดูว่าไนจีเรียมีรายได้จากการขายน้ำมันมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดของประเทศ หรือปีละเจ็ดหมื่นกว่าล้านดอลลาร์สหรัฐ น้ำมันมาจากสันดอนตรงนี้ทั้งนั้น แต่ประชาชนแถวนั้นจนแหง็ก พวกเขาและประชาชนเหล่านี้เคยต้องการให้รัฐแบ่งสัดส่วนรายได้ให้มากขึ้น แต่เมื่อรัฐไม่ทำ พวกผู้ล้างแค้นนี่ก็จะแยกประเทศ และประกาศว่าจะไม่เกินตุลาคมปีนี้ ฝันจะเป็นจริงเสียด้วย
                    การจองเวรของกลุ่มนี้เริ่มรุนแรงขึ้นตั้งแต่กุมภาพันธ์ปีนี้ ด้วยการส่งหน่วยจู่โจมเข้าไประเบิดท่อส่งน้ำมันใต้น้ำของบริษัทเชลล์ก่อนเลย ผลคือต้องปิดเทอร์มินัลนี้ จนบัดนี้ก็ยังไม่เปิด การส่งออกวูบไปเลยสองแสนห้าหมื่นล้านบาร์เรลต่อวัน รายได้ของประเทศไนจีเรียก็สูญพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน การโจมตีแบบนี้ยังมีอีกหลายจุด ล่าสุดเดือนนี้ก็เล่นงานท่อของบริษัทเชฟรอน ที่ส่งออกเก้าหมื่นบาร์เรลต่อวันชะงักไปอีก เจอแบบนี้อย่าว่าแต่บริษัทน้ำมันต่างชาติชักไม่อยากอยู่ต่อเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่ประเทศไนจีเรียก็หายนะ การผลิตน้ำมันที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 22 ทำให้เงินหายไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ แล้วสังคมจะอยู่อย่างไร
                    ไนจีเรียเป็นประเทศใหญ่ มีศักดิ์ศรีมากที่สุดในแอฟริกาตะวันตก เป็นพี่เบิ้มด้านการทหารคอยส่งกำลังป้อนสหภาพแอฟริกันไปรักษาสันติภาพทั่วทวีป แต่ปีที่ผ่านมาเจอเรื่องร้ายๆ หลายเรื่องแทบบ้า ทั้งโบโกฮาราม โรคระบาดอีโบลา แล้วยังมีความขัดแย้งภายใน ชาวนาสู้กับคนเร่ร่อน ปะทะกันทีตายเป็นเบือ เมื่อมาเจอเรื่องกลุ่มผู้ล้างแค้นมุ่งทำลายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศก็ยิ่งกลุ้ม กระนั้นก็ตาม ตอนนี้ยังมีกลุ่มหนุนหลังรัฐบาลมิใช่น้อย และมองว่ากลุ่มนักทำลายท่อนี่มันก็แค่อาชญากรเถื่อนที่นักการเมืองรัฐบาลก่อนหนุนหลังบ่อนทำลายชาติอีกที ปัญหานี้คงไม่ดับเร็วไปกว่าไฟป่าแคนาดาหรอกครับ และน่าจะกระทบต่อราคาน้ำมันดิบโลกและแก๊สโซฮอล์เติมรถเราต่อไป
——————-
(มุมมองยุทธศาสตร์ : ผู้ล้างแค้นแห่งลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ : โดย…เรือรบ เมืองมั่น http://www.facebook.com/ruarob.muangman)

ทำอย่างไรให้เขารักประเทศไทย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160502/226867.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2559
ทำอย่างไรให้เขารักประเทศไทย

มุมมองยุทธศาสตร์ : ทำอย่างไรให้เขารักประเทศไทย : โดย…เรือรบ เมืองมั่น http://www.facebook.com/ruarob.muangman

                    วันก่อนผมไปบรรยายสถานการณ์ข่าวและภัยคุกคามให้แก่หน่วยงานแห่งหนึ่งฟัง มีคำถามหนึ่งจากผู้เข้ารับการอบรมว่า ผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับชาวต่างชาตินั้นถือเป็นภัยคุกคามของประเทศหรือไม่ เพราะเห็นมีหลายฝ่ายพูดกันจังถึงกลุ่มสตรีที่หาทางแต่งงานกับฝรั่ง บางทียกหมู่บ้านกันเลย ทำให้คนต่างด้าวเข้ามาจับจองที่ทางทำธุรกิจในไทย แย่งชิงทรัพยากรและกีดกันคนไทยออกจากผลประโยชน์ของประเทศแม่ตนเองในการนี้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัยคุกคามที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ของไทยและน่าจะรุนแรงมากขึ้นในอนาคต นั่นคือ การที่เกือบทุกอย่างอยู่ในมือหรือบงการของต่างชาติ
                    คำตอบของผมคือคนจะผิดจะเลว สมคบคิดให้ต่างด้าวเอาเปรียบคนไทยนั้นอาจเป็นใครก็ได้ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเมียฝรั่ง แต่สิ่งที่เราควรจะเพ่งเล็งเฝ้ามองนั้น ไม่ใช่เรื่องของการตั้งป้อมกีดกันแบ่งแยกคนต่างชาติที่มาอาศัย มาครอบครอง มาทำธุรกรรมกับไทยแต่ควรเป็นการหาทางให้เขารักประเทศไทย จนทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับประเทศ รวมทั้งเรื่องการเอาเปรียบคนอื่นในสังคม
                    ในอดีตประเทศไทยเคยเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้มาแล้วตั้งแต่ยุคพงศาวดารที่กวาดต้อนครัวชาติพันธุ์อื่นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร จนถึงเมื่อไม่นานมานี้ คนจีนก็เข้ามาแต่งงานกับสาวไทย เป็นนอมินีในการอยู่และทำธุรกิจในประเทศ จนก้าวขึ้นมาครอบครองเศรษฐกิจไทยปัจจุบัน พวกเขาก็ยังอยู่อย่างผสานกลมกลืนกับคนเชื่อสายอื่นในประเทศ จนคนจีนในไทยพูดภาษาไทยเป็นภาษาแม่ ซึ่งมีไม่กี่แห่งในโลกคนอีสาน คนมอญ คนล้านนาก็เช่นกัน แผ่นดินไทยในอดีตเป็นเบ้าหลอมความเป็นไทยอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม นั่นคืออดีตที่โลกยังไม่ร้อยรัดกันได้เท่านี้
                    ในปัจจุบันที่บริบทต่างจากอดีต ทั้งคนทั้งทุนสามารถโยกย้ายได้รวดเร็ว คนต่างชาติเข้ามาแสวงประโยชน์ ทำธุรกรรมและอาศัยในประเทศของเราทั้งถูกและผิดกฎหมายอย่างมหาศาลพวกเขากำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของประเทศนี้ไป โดยที่ไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดอยู่กับเงื่อนไขความเป็นไทยเหมือนในอดีต ในอีก 20 ปีข้างหน้าเรื่องสังคมนานาชาติพันธุ์ในไทยจะเป็นเรื่องใหญ่กว่าการที่ไทยเป็นสังคมคนแก่เสียอีกเพราะหากไม่มีมาตรการจัดการที่เหมาะสมพวกเขาซึ่งไม่จำเป็นต้องยุดโยงกับอัตลักษณ์ไทยอาจก่อให้เกิดปัญหามากกว่านี้แค่การกอบโกยโภคผลและกีดกันคนอื่นนั้นก็แย่แล้วการแบ่งกันยึดประเทศอย่างเป็นระบบโดยปล่อยให้คนไทยที่ด้อยสามารถกว่าแข่งขันหรืออยู่กันไม่ได้นั้นเป็นเรื่องน่ากลัว
                    บริบทใหม่ที่เรากำลังเจอไม่สามารถหยุดยั้งได้หรือใช้แนวทางที่เคยทำกับบริบทเก่ามาจัดการแต่ต้องปรับความคิดของคนต่างชาติเหล่านั้นให้รักประเทศไทยให้ได้เขาไม่ได้เป็นคนไทย ไม่ต้องผูกทรัพย์สินไว้กับประเทศไม่ต้องมีสำนึกไทย แต่เขาต้องรักประเทศนี้และอยากอยู่ร่วมกับคนอื่นในประเทศอย่างไม่เห็นแก่ตัวนั่นคือทางรอดของสังคมและไทยต้องก้าวไปถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่จะทำให้เป็นจริงในทางปฏิบัติได้อย่างไรนั้นต้องเร่งกันคิดครับบางทีอาจเริ่มด้วยการมองออกนอกกรอบของอคติและการถือเขาถือเราเสียก่อน
——————–
(มุมมองยุทธศาสตร์ : ทำอย่างไรให้เขารักประเทศไทย : โดย…เรือรบ เมืองมั่น http://www.facebook.com/ruarob.muangman)

มุมมองยุทธศาสตร์ : กองร้อยทหารข้ามเพศ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160411/225734.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2559
มุมมองยุทธศาสตร์ : กองร้อยทหารข้ามเพศ

มุมมองยุทธศาสตร์ : กองร้อยทหารข้ามเพศ : โดย…เรือรบ เมืองมั่น http://www.facebook.com/ruarob.muangman

                    ฤดูเกณฑ์ทหารมาถึงอย่างคึกคัก ชายไทยและครอบครัวจำนวนมากหมกมุ่นลุ้นกับวาระนี้ เพราะพวกเขาถึงกำหนดต้องมาตรวจเลือกเพื่อจะรู้ว่าต้องเป็นทหารหรือไม่ แต่ละพื้นที่นั้นราชการต้องการคนเข้ารับราชการไม่มากนัก บางคนสมัครเป็นเสียเลยเพื่อได้สิทธิลดหย่อนเวลา หรือทำไปเพราะอยากรับใช้ชาติอย่างแรงกล้า พวกลุ้นจับได้ใบดำก็เฮฮา จับได้ใบแดงก็สลดขาอ่อน คนที่ไม่อยากเป็นทหารก็พยายามถ่วงเวลาด้วยการผ่อนผัน หรือที่เลวร้ายมากคือหาทางทุจริตนอกเกณฑ์ ท่ามกลางพวกเขาเหล่านั้น กะเทยหรือผู้แต่งหญิงแทบจะประกันได้เลยว่า พวกเธอจะไม่ต้องจับใบดำใบแดงแต่อย่างใด ตรวจร่างกายเสร็จหมอก็จะบอกว่าพวกเธอไม่พร้อมจะเป็นทหาร รับใบ สด.แล้วกลับบ้านได้ แต่นั่นคือความประสงค์ของพวกเธอจริงๆ หรือ และแท้จริงแล้ว กองทัพเสียประโยชน์อะไรไปหรือไม่
                    อคติว่ากะเทยไม่ควรเข้ารับราชการในกองทัพในฐานะพลทหารนั้นมีมานานแล้ว เช่น มองว่าเพศสภาพของพวกเธอไม่เหมาะกับการฝึกทางยุทธวิธี คนทั่วไปมีมโนทัศน์ว่า พวกเธอจะตุ้งติ้ง อ่อนแอ หยิบโหย่ง จนฝึกทหารไม่ไหวแล้วจะทำให้ทั้งหมวดหมู่เหล่าย่อหย่อนไปด้วย มองว่าพวกเธอเข้ามาก็เป็นภาระของกองทัพให้ต้องระวังมิให้เกิดคดี เพราะทหารที่เหลือทั้งหมดนั้นเป็นชายวัยฉกรรจ์ที่มีอารมณ์หื่น หากมีพวกเธอเข้ามาอยู่ใกล้แล้วคงมีการปล้ำกันไม่เว้นแต่ละวัน หนำซ้ำก็เป็นพวกเธอนั่นล่ะหาทางเข้าเล่นงานชายหนุ่มเหล่านี้จนทั้งหมวดหมู่เหล่าย่อหย่อนลงไปอีก
                    ที่กล่าวมานั้นมีเหตุผลนะครับ แต่เมื่อมองในอีกแง่มุม การให้โอกาสพวกเพศที่สามเข้าเป็นทหารน่าจะมีผลดีมากกว่าผลเสีย สิ่งเลวร้ายด้านบนนั้นน่าจะปกป้องสกัดกั้นมิให้เกิดได้ด้วยการเป็น “มืออาชีพ” ของกองทัพ หากกองทัพซึ่งมีคนดีมารวมกันเป็นแสนบอกว่าไม่สามารถสอนทหารเกณฑ์ให้เป็นคนดีมีวินัยไม่เหยียดเพศไม่ลวนลามข่มเหงผู้อื่นได้ ไม่สามารถสอนให้คนอ่อนแอกลายเป็นทหารผู้เข้มแข็งได้ กองทัพนั้นก็ไม่พร้อมสำหรับงานด้านกำลังพลและงานที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นเอาซะเลย ซึ่งกองทัพไทยไม่ใช่เช่นนั้นอย่างแน่นอน
                    เราควรจะรับพลทหารสมัครจากเพศที่สามด้วยโดยไม่อ้างเหตุกีดกันพวกเขา แต่จะหาประโยชน์จากพวกเขาได้หลายอย่าง เช่น ความสามารถทางยุทธวิธี พวกนี้อาจมิได้ด้วยเท่าที่คิด หลายคนเล่นกล้าม แข็งแกร่งเพียงพอต่อการฝึกปรือ พวกที่แข็งแกร่งน้อยกว่าก็ใช่ว่าจะด้อยกว่าข้าราชการพลเรือนกลาโหมเพศหญิงที่ฝึกสามเดือนเพื่อติดยศ ดังนั้นพวกเธอน่าจะผ่านขั้นตอนนี้กันเกือบครบทุกคน หลังจากนั้นพวกเธอจะเข้าสู่ส่วนของการทำงานจนกว่าจะครบปลด งานหลายอย่างไม่มีข้อจำกัดด้านเพศ เช่น งานพลาฯ พยาบาล ธุรการ หรือข่าว พวกเธอน่าจะทำงานเหล่านี้ได้ดีไม่น้อยหน้าทหารชาย บางคนอาจจะดีเด่นกว่าเพราะสมองดีกว่า ละเอียดใส่ใจในงานมากกว่าด้วยซ้ำ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงระดับยุทธศาสตร์ที่กองทัพจะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการมีทหารประเภทนี้ เช่น การยอมรับในสิทธิมนุษยชน และการมีทหารประเภทนี้ดีๆ สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ทหารชายปกติว่าจะต้องปฏิบัติตนไม่น้อยหน้าเธอ พวกคิดเลี่ยงเป็นทหารก็อาจเปลี่ยนใจเมื่อเห็นว่าเหล่าเพศที่สามก็เป็นทหารได้และเป็นได้ดี
                    ในการปฏิบัตินั้น ในชั้นต้นควรเป็นการให้โอกาสแบบสมัครใจแก่พวกเธอ คัดเลือกครูฝึกและผู้บังคับบัญชาที่มีความคิดเชิงบวก จัดตั้งกลุ่มเป็นการเฉพาะอาจเป็นระดับหมวดหรือกองร้อยสาธิต ลองดูสักปีหนึ่งก็ได้ว่าจะเวิร์กหรือไม่
——————–
(มุมมองยุทธศาสตร์ : กองร้อยทหารข้ามเพศ : โดย…เรือรบ เมืองมั่น http://www.facebook.com/ruarob.muangman)

สกัดกั้นมฤตยูเครียดในองค์กร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160125/221155.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2559
สกัดกั้นมฤตยูเครียดในองค์กร

มุมมองยุทธศาสตร์ : สกัดกั้นมฤตยูเครียดในองค์กร : โดย…เรือรบ เมืองมั่น http://www.facebook.com/ruarob.muangman

     การอาละวาดสติแตกของผู้พิพากษากลางกรมการขนส่งฯ หรือการชักปืนยิงผู้บังคับบัญชาตายคาสถานีตำรวจไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคลที่หน่วยงานไม่มีทางจินตนาการหรือป้องกันได้ แต่เป็นเรื่องที่ปราศจากการใส่ใจมาเป็นเวลานานต่างหากการละเลยปัญหาความเครียดในที่ทำงานนี้เป็นผลมาจากวัฒนธรรมแบบไทยๆ แต่เราจะปล่อยเรื่องนี้หมักหมมไว้อีกนานเท่าใด ให้มันกลายเป็นระเบิดเวลาที่ทำร้ายคนอื่นขององค์กรต่อไป ทั้งที่พอจะแก้ไขได้
     องค์กรด้านความมั่นคงนับเป็นองค์กรที่มีความเครียดสูงมาก เพราะแบกรับการตัดสินใจหลายหลากเรื่องราว ซึ่งอาจเกี่ยวข้องถึงชีวิต ทรัพย์สิน อิสรภาพของคนอื่นหรือของตัวเอง เมื่อนานวันเข้าความเครียดที่สะสมอยู่ในจิตใต้สำนึกก็ทำให้เขาเป็นโรคประสาท แต่ในระหว่างที่ยังแค่เครียดจังหรือบ้าไม่มากนั้น แทบจะหาโอกาสในการแก้ไขเขาได้ยากเพราะสังคมไทยไม่ยอมรับคนมีอาการทางประสาท ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรจนกว่าจะถึงขั้นเป็นบ้าไปซะแล้ว ถึงตอนนั้นก็อาจเกิดเหตุอะไรร้ายแรงขึ้น บางทีถึงจะเกิดเหตุขึ้นและ
     รู้ว่าไม่ปกติแล้วก็ยังละเลยปล่อยไป ให้ผู้เป็นโรคประสาทหาทางออกเอาเอง ซึ่งอาจไม่ถูกต้องต่อตัวเองและสังคมรอบข้างก็ได้
     หน่วยงานราชการของไทยนั้น ถึงจะมีเจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญชำนาญการของหน่วยอยู่มาก เจ้าหน้าที่ธุรการ กำลังพล การเงิน ก็ต้องมี แต่หาพยาบาลหรือนักจิตวิทยาประจำ
     หน่วยงานนั้นยากเต็มทีเพราะรัฐเห็นว่าไม่จำเป็นใครเป็นโรคประสาทก็ไปหาโรงพยาบาลหรือสำนักงานแพทย์เอาเองการอยู่ไกลอาคารของผู้เชี่ยวชาญการแก้ปัญหาทางจิต ทำให้คนเครียดคนนั้นต้องพึ่งพาเพื่อนฝูงปรึกษาแก้เครียดกันเองแนะนำไปเรื่อยเปื่อยเพราะไม่ใช่มืออาชีพ ถ้าอาการออกมากคนรอบข้างยังอาจล้อเลียนรังเกียจกล่าวหาว่าบ้าเสียภาพลักษณ์ซะอีก ซึ่งเป็นเรื่องน่าสงสารเพราะสังคมไทยมักชอบดูถูกล้อเลียนคนที่รอง
บ่อนในสังคม
     ในสังคมประเทศที่เจริญแล้วให้ความสำคัญต่อสุขภาพจิตบุคลากร การไปพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะไม่ถูกมองว่าบ้าเหมือนสังคมไทย แต่เป็นการป้องกันไว้ก่อนการตรวจสุขภาพจิตและการสร้างกิจกรรมบำบัดก็เป็นสิ่งจำเป็น ในขณะที่หลายหน่วยงานรณรงค์เรื่องลดความอ้วนให้บุคลากร การลดความเครียดโดยใช้ผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าการเล่นกีฬาหรือจัดงานเลี้ยงรื่นเริงด้วยซํ้า และหากบุคลากรไม่อยู่ในวิสัยควบคุมอารมณ์ได้แม้จะชั่วครั้งคราวหน่วยงานในประเทศที่เจริญแล้วจะรีบส่งตัวคนป่วยไปรักษาโดยด่วน ไม่ให้มีโอกาสทำร้ายสังคมหรือตัวเองได้
     สังคมที่เครียดขึ้นทุกวันจากสภาพความกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจ มีส่วนทำให้ผู้อยู่ในหน่วยงานด้านความมั่นคงต้องได้รับการดูแลสภาพจิตใจมากขึ้น อยากขอให้ทุกหน่วยงานบรรจุนักจิตวิทยาสักคนมาช่วยให้คำปรึกษาแนะนำการใช้ชีวิตและการแก้ปัญหาส่วนตัว/ครอบครัว/สังคม แก่พวกเขาอัตราที่เปิดเพียงหน่วยละหนึ่งตำแหน่งอาจช่วยชีวิต รักษาอาชีพ หรือเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากรได้อย่างมากมายมหาศาลคาดไม่ถึง