‘เจไอ’ใช้แนวปฏิรูป:‘ไอเอส’เน้นแนวปฏิวัติ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160219/222722.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559
‘เจไอ’ใช้แนวปฏิรูป:‘ไอเอส’เน้นแนวปฏิวัติ

‘เจไอ’ ใช้แนวปฏิรูป:‘ไอเอส’ เน้นแนวปฏิวัติ : วิถีโลกมุสลิมโลก โดย… ศราวุฒิ อารีย์

          นับตั้งแต่วินาศกรรมกลางกรุงจาการ์ตา เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา กระแส “การก่อการร้ายสากล” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจยิ่ง ล่าสุด ซิดนีย์ โจนส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แสดงทัศนะว่า กองกำลังติดอาวุธ “ญามาอะฮ์ อิสลามมียะฮ์” (เจไอ) เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังเงียบหายไปหลายปี โดยพยายามสรรหาสมาชิกรอบใหม่ รวมถึงระดมทุนและส่งแนวร่วมไปฝึกที่ซีเรีย
          ข้อคิดเห็นของ ซิดนีย์ โจนส์ ต่างจาก อะบู รูซัยดาน แกนนำกลุ่มเจไอ ที่ยืนยันว่ากลุ่มตนได้เปลี่ยนมาเคลื่อนไหวแบบสันติวิธี เพราะต้องการเอาชนะใจประชาชนก่อนสร้างรัฐอิสลาม ส่วนกรณีสมาชิกเจไอที่เดินทางไปซีเรียนั้น ก็เป็นเพียงเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่านั้น
          ขณะที่เจไอปัจจุบันก็แตกต่างกับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม “ไอเอส” (หรือกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและซีเรีย) มาก คำถามจึงเกิดขึ้นว่า อะไรคือความแตกต่างระหว่างกลุ่มเจไอกับกลุ่มไอเอส?
          NavhatNuraniyah จากศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านความมั่นคงแห่งชาติ (Centre of Excellence for National Security: CENS) ของสิงคโปร์ อธิบายประเด็นนี้ไว้น่าสนใจครับ เขาบอกว่า เจไอถือเป็นนักรบญิฮาดรุ่นเก่าที่พยายามหลีกเลี่ยงไม่ก่อความรุนแรง โดยเฉพาะหลังปี 2007 เพราะสมาชิกระดับปฏิบัติการจำนวนมากถูกกวาดล้างจับกุม แต่ก็ยังมีกลุ่มของนายนูรดีนท็อป ที่ยังก่อการทำลายผลประโยชน์ของตะวันตกต่อไปจนกระทั่งเขาถูกสังหารในปี 2009 นับจากนั้นมาการก่อเหตุก็เป็นไปอย่างสะเปะสะปะ ทำกันแบบส่วนตัว ส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ตำรวจ
          อีกเหตุผลที่เจไอเลิกก่อการรุนแรงคือ สมาชิกอาวุโสส่วนใหญ่เห็นว่ามันไม่ได้ผล ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการก่อการ เพราะมุสลิมส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย พวกเขาเห็นว่า การใช้ความรุนแรงในแนวปฏิวัติควรเป็นวิธีการในอนาคต หลังจากที่มุสลิมโลกส่วนใหญ่พร้อมจะยอมรับสนับสนุนฉะนั้นการเคลื่อนไหวในขณะนี้ควรเน้นงานด้านการกุศลช่วยเหลือสังคมและสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาคมมุสลิมในเรื่องญิฮาดผ่านการศึกษา
          กลุ่มนับรบญิฮาดของอินโดนีเซียรุ่นใหม่แตกต่างจากเจไอรุ่นเก่าในหลายเรื่อง คนเหล่านี้ไม่ได้เติบโตมาจากการเป็นนักเรียนศาสนา แต่มีภูมิหลังที่มาที่หลากหลาย ไม่ได้ถูกบ่มเพาะหลักการและมีความชำนาญการรบจากการฝึกฝนแบบเจไอรุ่นเก่า ที่น่าสนใจคือ นักรบญิฮาดรุ่นใหม่บางกลุ่มเริ่มต้นรวมตัวจากสื่อโซเชียลด้วยซ้ำไป แต่ไม่ว่ากลุ่มเก่าอย่างเจไอ หรือนับรบรุ่นใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่คือเยาวชน ต่างก็มีเป้าหมายร่วมกันอยู่ นั่นคือ การสถาปนา “รัฐอิสลาม” ตามแนวคิดของพวกเขา
          สิ่งที่แตกต่างคือ ช่วงเวลาของการใช้ความรุนแรงเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับเจไอพวกเขาเริ่มเปลี่ยนวิธีการ แต่นักรบญิฮาดรุ่นใหม่กลับมีความเห็นที่แตกต่าง เยาวชนเหล่านี้มองว่า การต่อสู้ด้วยความรุนแรงต้องดำเนินต่อไป
          อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามกลางเมืองซีเรียปะทุขึ้นจนกลายเป็นสมรภูมิที่ดึงดูดนักรบญิฮาดจากทั่วโลก นักรบญิฮาดรุ่นใหม่ในอินโดนีเซียจึงตอบรับกับพัฒนาการที่เกิดขึ้นอย่างกระตือรือร้น พวกเขาสร้างความชอบธรรมเพื่อทำการญิฮาด โดยอธิบายสมรภูมิซีเรียว่า เป็นสงครามระหว่างซุนนีย์-ชีอะฮ์ อันเป็นการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์ของโลกยุคสุดท้าย
          คำอธิบายลักษณะนี้ถูกเผยแพร่ปลุกกระแสผ่านการตีพิมพ์หนังสือ การบรรยายในงานต่างๆ เกี่ยวกับความเป็นไปในสงครามซีเรีย ตลอดจนสื่อออนไลน์ต่างๆ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจของนักรบญิฮาดรุ่นใหม่ในการเข้าร่วมกับไอเอสในซีเรียและอิรัก