หนังชนโรง : พร้อมชนโรงไปกับ ‘เจสัน สเตทแธม’ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/entertain/605247

หนังชนโรง : พร้อมชนโรงไปกับ ‘เจสัน สเตทแธม’

วันพุธ ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.

ได้เวลาคอหนังสายบู๊นับถอยหลัง “เจสัน สเตทแธม”พาพลิกแผนปล้นระห่ำในภาพยนตร์ “WRATH OF MANคนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก”ผลงานของผู้กำกับสุดคูล กาย ริชชี่ Snatch (2000), King Arthur (2004) ที่ก่อนหน้านี้หนังได้ถูกเลื่อนโปรแกรมฉายออกไปเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดถือเป็นข่าวดีของแฟนๆ เมื่อได้มีการยืนยันกำหนดวันฉายใหม่อย่างเป็นทางการออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยภาพยนตร์มีกำหนดจ่อคิวเข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเราวันที่ 1 ตุลาคมนี้

กำกับและเขียนบทโดย กาย ริชชี่ อำนวยการสร้างโดย บิล บล็อค, อิวาน แอตคินสัน โดยนักแสดงมือเก๋าของวงการ อาทิ เจสันสเตทแธม (Fast & Furious Presents : Hobbs & Shaw) ฮอลท์ แม็คคัลลานีย์ (The Losers), จอร์ช ฮาร์เน็ต (Pearl Harbor),สก๊อต อีสต์วูด (Pacific Rim : Uprising) เจฟฟรีย์ โดโนแวน (Sicario : Day of the Soldado) และนักแสดงอีกคับคั่ง

“WRATH OF MAN คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก” เรื่องราวของ “เอช” (เจสัน สเตทแธม) ชายปริศนาผู้เย็นชาและเต็มไปด้วยความลึกลับ พนักงานใหม่ของบริษัทคุ้มกันรถขนเงินรายใหญ่ใน
ลอสแองเจลิส หน้าที่ของเขาคือคุ้มกันรถที่บรรทุกเงินจำนวนมหาศาลไปส่งตามสถานที่ต่างๆโดยต้องทำงานร่วมกับคู่หูคนใหม่อย่าง“บุลเลท” (โดย ฮอลท์ แม็คคัลลานีย์)ในตอนแรก เอช ดูเหมือนจะเป็นคนเงียบๆ เอาแต่ก้มหน้าทำงานหาเลี้ยงชีพ แต่เมื่อทั้งสองตกเป็นเป้าหมายของการโจรกรรม ทักษะการฆ่าระดับพระกาฬของเอชจึงถูกเปิดเผย เขาไม่เพียงแต่เป็นนักแม่นปืน ผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกาจในการต่อสู้แบบประชิดตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่กล้าหาญไร้ความปรานีและเป็นตัวอันตรายขั้นสุด อีกทั้งยังเก็บงำความแค้นบางอย่างที่กำลังรอวันสะสาง

สำหรับ เจสัน สเตทแธม และ กาย ริชชี่ถือเป็นอีกหนึ่งคู่ผู้กำกับ-นักแสดง ที่ผ่านการร่วมงานกันมาอย่างยาวนาน โดย สเตทแธมเคยแสดงนำในหนังของ กาย ริชชี่ มาแล้วถึง 3 ครั้ง นับตั้งแต่ผลงานแก๊งสเตอร์คอเมดี้สุดคัลท์อย่าง “LOCK, STOCK AND TWO SMOKING BARRELS (1998)” ต่อด้วยผลงานแอ๊กชั่นคอเมดี้สุดกวน อย่าง “SNATCH (2000)” และ “REVOLVER (2005)”

ล่าสุดทั้งคู่ได้โคจรกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งใน “WRATH OF MAN (2021)”ผลงานแอ๊กชั่นอาชญากรรมระทึกขวัญแต่ยังคงไว้ซึ่งความเท่อันเป็นลายเซ็นประจำตัวตามสไตล์หนังของผู้กำกับ กาย ริชชี่ ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่แฟนๆ ว่าเต็มไปด้วยการหักเหลี่ยมเฉือนคม
ตลกร้ายและวายป่วงอย่างแน่นอน

“WRATH OF MAN คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก”

1 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

หนังชนโรง : ‘Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง’ แฉภารกิจมืดกลางกรุง #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/entertain/603667

หนังชนโรง : ‘Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง’  แฉภารกิจมืดกลางกรุง

วันพุธ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.

“Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง” ซีรี่ส์สัญชาติไทย แนวแอ๊กชั่น-ระทึก ความยาว 6 ตอน ที่จะพาผู้ชมไปเสาะหาความจริงกับภารกิจมืดภายใต้เงา ของคนดีในเมืองหลวง ที่คุณไม่มีวันรู้ถ้าไม่ได้ก้าวเข้ามาสัมผัสด้วยตัวเอง

พร้อมด้วยทัพนักแสดงมากฝีมือนำทีมโดย “เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ” และ “ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง” ภายใต้การกำกับของ ก้องเกียรติ โขมศิริ โดยมี ปราบดา หยุ่น รับบทผู้จัดและผู้อำนวยการผลิต นอกจากนั้น ผู้ชมยังจะได้เห็นฝีมือของนักแสดงคุณภาพที่มาร่วมประชันบทบาทกันอย่างดุเดือด อาทิ ปู-สหจักร บุญธนกิจ, แบงค์-ปวริศร์ มงคลพิสิฐ, ฮาร์ท-สุทธิพงศ์ทัดพิทักษ์กุล, หนึ่ง-ภาสวร บวรกีรติ, เป้-ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์, เฟรช-อริศรา วงษ์ชาลี,ปุ้มปุ้ย-พรรณทิพา อรุณวัฒนชัย, สุปราณี เจริญผล, สุดา ชื่นบาน และ มายด์-วรัทยา ว่องชยาภรณ์

“มหานครเมืองลวง” นำเสนอภาพของกรุงเทพฯ ในมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งจะทำให้ผู้ชมทั่วโลกได้ขบคิดและหาคำตอบให้กับตัวเองว่าแท้ที่จริงแล้วมหานครแห่งนี้เป็น “เมืองหลวง” หรือ “เมืองลวง” กันแน่ นอกเหนือจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้นจนนับว่าเป็นอีกหนึ่ง Netflix Seriesที่น่าจับตามองแล้ว โปรดักชั่นของซีรี่ส์เรื่องนี้ยังถือเป็นซีรี่ส์ไทยเรื่องแรกที่ถ่ายทำในระบบ HDR

“เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ” ในบท “วันชัย”เล่าว่า “เมื่อก่อนเวลาขับรถบนถนนผมก็จะได้ยินเสียง “หวอๆ ขอทางหน่อยครับ มีผู้ป่วยบาดเจ็บต้องรีบส่งโรงพยาบาล” ผมเป็นคนที่หลบให้ตลอดและก่อนที่จะได้มาเล่นซีรี่ส์เรื่อง Bangkok Breaking ผมอาจจะมองว่ากู้ภัยเป็นอาชีพอาชีพหนึ่งที่คงไม่ง่าย แต่พอมาสัมผัสด้วยตัวเองตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย มันไม่ใช่แค่ไม่ง่าย แต่นับเป็นงานที่ยากและท้าทายมากครับ สำหรับฉากที่ถ่ายทำยากๆ อย่างฉาก action ผมมีโอกาสได้ถ่ายทำฉากประเภทนี้ที่ต้องเกี่ยวข้องกับไฟหรือระเบิด มาประมาณหนึ่งในชีวิตวงการบันเทิง แต่พอได้มาทำงานกับ Netflix ยิ่งมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยและเอฟเฟกท์ต่างๆ เพราะทุกอย่างมีความเป็นมืออาชีพมากๆ กล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าผมรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของซีรี่ส์Netflix สัญชาติไทยเรื่องล่าสุดนี้”

“Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง”

23 กันยายน นี้ ทาง Netflix

หนังชนโรง : ‘ON THE JOB’ ตีแผ่อาชญากรรมนักการเมือง ฟิลิปปินส์ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/entertain/602103

หนังชนโรง : ‘ON THE JOB’  ตีแผ่อาชญากรรมนักการเมือง ฟิลิปปินส์

วันพุธ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.

“ON THE JOB” ซีรี่ส์อาชญากรรมระทึกขวัญตีแผ่อาชญากรรมนักการเมืองของฟิลิปปินส์ ที่เข้าฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส ที่ได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริง ดำเนินเรื่องราวเป็นภาษาอังกฤษและภาษาฟิลิปปินส์ ถ่ายทำในประเทศฟิลิปปินส์ มีทั้งหมดหกตอนทาง HBO GO

อำนวยการสร้างโดย Ronald“Dondon” Monteverde, Erik Matti,Joe Caliro และ Quark Henares

นำแสดงโดย Joel Torre (Tatang), Gerald Anderson (Daniel), John Arcilla (นักข่าว Sisoy), Dennis Trillo (Roman), Joey Marquez (Joaquin), Piolo Pascual (Francis), Dante Rivero (นายกเทศมนตรี Pedring Eusebio), Christopher De Leon (Arnel) และ Lotlot De Leon (Weng)

ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมที่ปล่อยตัวนักโทษชั่วคราวเพื่อให้ออกมาปฏิบัติการลอบสังหารผู้มีอำนาจทางการเมือง แต่องค์กรอาชญากรรมนี้กลับมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังเสียเอง นักโทษมือปืน อย่าง Tatang, Daniel และ Roman ได้รับการปล่อยตัวจากคุกชั่วคราวเพื่อทำการลอบสังหารตามคำสั่งของผู้มีอิทธิพลลึกลับ ในขณะที่ตำรวจ Joaquin, นักสืบ Francis, นักข่าว Sisoy และ Arnel พยายามสืบหาและเปิดเผยความจริงของเบื้องหลังการสังหารและการหายตัวไป 

ซีรี่ส์เรื่องนี้ยังเน้นย้ำเรื่องราวเกี่ยวกับข่าวปลอมในชีวิตจริง รวมถึงการสร้างและเผยแพร่ “ความจริง” ที่สามารถทำได้อย่างง่ายดายในยุคแห่งข้อมูลข่าวสารในปัจจุบัน โดยสองตอนแรกของซีรี่ส์ On The Job ได้เข้าฉายในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ ประจำปี 2013 ขณะที่สี่ตอนสุดท้ายของซีรี่ส์เรื่องนี้ก็กำลังจะเข้าฉายในฐานะภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส ครั้งที่ 78 ประจำปีนี้อีกด้วย

หนังชนโรง : ‘คิมซอนโฮ’ ขึ้นแท่นนักแสดงมาแรงที่สุดในเกาหลี #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/entertain/600447

หนังชนโรง : ‘คิมซอนโฮ’  ขึ้นแท่นนักแสดงมาแรงที่สุดในเกาหลี

วันพุธ ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.

“คิมซอนโฮ” ขึ้นแท่นหนึ่งในนักแสดงซีรี่ส์เกาหลีที่มาแรงที่สุดแห่งยุค หลังหนุ่มหล่อคนนี้ดังเป็นพลุแตกด้วยฉายาพระรองตลอดกาลจากซีรี่ส์เรื่อง “สตาร์ทอัพ (Start-Up)” เมื่อปีที่ผ่านมา นับจากนั้นมากราฟความคาดหวังที่แฟนๆ มีต่อผลงานซีรี่ส์เรื่องถัดไปของเขาก็พุ่งทะยานขึ้นมาโดยตลอด ล่าสุดคิมซอนโฮกลับมาแล้วในซีรี่ส์ “โฮมทาวน์ ชะชะช่า (HometownCha-Cha-Cha)” เราลองมาดูแต่ละบทบาทของเขาแล้วทบทวนหัวใจดูว่า เราเผลอใจตกหลุมรักคิมซอนโฮไปตั้งแต่เมื่อไหร่

โฮมทาวน์ ชะชะช่า (Hometown Cha-Cha-Cha)

ซีรี่ส์เรื่องล่าสุดนี้ เขารับบทเป็น ฮงดูชิกชายหนุ่มที่คล่องแคล่วไปเสียทุกเรื่อง แถมยังเป็นผู้นำที่ทั้งอ่อนโยนและเข้ากับคนง่ายของหมู่บ้านริมทะเลแห่งหนึ่ง ซึ่งชื่อว่าหมู่บ้านกงจิน ซึ่งแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีงานทำเป็นหลักแหล่ง แต่ก็มีใบอนุญาตทำงานสารพัดไว้ในครอบครอง ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างก็พึ่งพาเขาได้เสมอฮงดูชิกเชี่ยวชาญไปหมดทุกอย่างตั้งแต่ทำงานเป็นบาริสต้าไปจนถึงเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ และที่เหนือไปกว่าคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมาก็คือ เขาเป็นคนจริงใจและจิตใจดีอย่างแท้จริง

สตาร์ทอัพ (Start-Up)

แฟนๆ ต่างตกหลุมรักคิมซอนโฮ หลังได้เห็นเขาในบทบาทฮันจีพยองจากซีรี่ส์เรื่อง “สตาร์ทอัพ (Start-Up)” แม้ว่าจีพยองจะแสดงออกถึงความรู้สึกของตนเองได้ไม่เก่งนัก แต่เขาช่างเหมาะสมอย่างแท้จริงกับฉายา“เด็กดี” ที่คุณย่าของดัลมีตั้งให้ เพราะเขามักทำทุกทางเพื่อช่วยคนที่เขารักและใส่ใจ โดยไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน เราต่างก็แสนเจ็บปวดแทนเมื่อได้เห็นว่าเขารู้หัวใจตัวเองช้าไปว่าเขามีความรู้สึกดีๆ ให้กับดัลมี และต้องทรมานแค่ไหนเมื่อกลายเป็นว่าเขาสูญเสียโอกาสนั้นไปแล้ว

ไวกีกิ เกสต์เฮาส์อลเวง 2 (Welcome to Waikiki 2)

หนึ่งในบทบาทที่ฮาที่สุดของคิมซอนโฮ ก็คือบท “ชาอูชิก” เป็นหนุ่มที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักร้อง แต่ลงท้ายด้วยการมาเปิดเกสต์เฮาส์ร่วมกับเพื่อนที่รู้จักกันมานาน ด้วยความปรารถนาจะเดินตามฝัน อูชิกรับงานสารพัดตั้งแต่นักร้องงานแต่งงานไปจนถึงสอนร้องเพลงเขาเป็นคนขยันทุ่มเทและช่วยเหลือเพื่อนเสมอเมื่อต้องการ อูชิกทำให้ผู้ชมประทับใจจับจิตไม่ว่าจะด้วยฉากฮาๆ อย่างตอนที่เขาเป่ารีคอร์เดอร์ด้วยจมูก หรือด้วยฉากที่ทำเอาเขินม้วนอย่างตอนที่เขาร้องเพลงให้ผู้หญิงที่เขารัก

รัก 100 วันของฉันและ องค์ชาย (100 Days My Prince)

ในซีรี่ส์เรื่องนี้ คิมซอนโฮ พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าเขาก็ดูดีไม่แพ้กันในชุดฮันบก และบทบาทจองเจยุนในเรื่องนี้ก็ตอกย้ำความเป็นพระรองตลอดกาล ของเขา ด้วยความรักอย่างบริสุทธิ์ใจที่เขามีให้กับฮงชิม เขาดำรงตำแหน่งเป็นทหารผู้ตรวจการ (ซึ่งเหมือนกับตำรวจในยุคปัจจุบัน) แต่มีอาการของโรคจำหน้าคนไม่ได้ และสามารถจำได้แค่ใบหน้าของฮงชิมเท่านั้น แม้ว่าเขาจะมีใจให้ฮงชิม แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้ความรู้สึกนั้นกระทบต่อความจงรักภักดีที่มีต่อองค์รัชทายาทอียูล ซึ่งกลายมาเป็นศัตรูหัวใจโดยปริยาย

Strongest Deliveryman

นับเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีพัฒนาการดีที่สุดของเขา กับบทจินกยู เขาเป็นทายาทเศรษฐีที่ถูกสปอยล์และใช้ชีวิตแบบคนไม่เอาไหน แต่ภายใต้เปลือกเหล่านั้น ที่จริงแล้วเขารู้สึกว้าเหว่และสูญเสียความมั่นใจในตนเองไปเพราะมีพ่อที่ชอบใช้ความรุนแรง หลังจากได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมพนักงานส่งอาหาร จินกยูก็ได้เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาเลือกที่จะปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนที่ดีกว่าเดิม

ผู้จัดการดีแตก (Good Manager)

หลังประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงละครเวทีที่มีชื่อเสียงโด่งดัง คิมซอนโฮรับงานละครโทรทัศน์เรื่องแรกคือ “ผู้จัดการดีแตก (Good Manager)” ในบทซอนซังแท พนักงานเด็กใหม่ในแผนกบัญชี เขาทั้งมีความบริสุทธิ์ใจและขยันขันแข็ง โดยพยายามอย่างดีที่สุดไม่ให้เดือดร้อนคนอื่นๆ ในทีม ซังแทดูดีในลุคเนิร์ดๆ แต่น่ารักด้วยแว่นตาและผมหน้าม้าตรง เขาเป็นคนดีโดยธรรมชาติและเป็นคนโรแมนติกอย่างแท้จริง โดยบทบาทของซังแทยิ่งน่าหลงใหลขึ้นอีกขั้นเมื่อชีวิตรักของเขาเริ่มผลิบานStrongest DeliverymanStrongest Deliverymanโฮมทาวน์ ชะชะช่าโฮมทาวน์ ชะชะช่าสตาร์ทอัพสตาร์ทอัพไวกีกิ เกสต์เฮาส์อลเวง 2ไวกีกิ เกสต์เฮาส์อลเวง 2รัก 100 วันของฉันและองค์ชายรัก 100 วันของฉันและองค์ชายผู้จัดการดีแตกผู้จัดการดีแตก

หนังชนโรง : เตรียมพบกับ 2 นักแสดงรางวัลออสการ์ ‘เอ็มมา สโตน’ และ ‘เอ็มมา ทอมป์สัน’ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/entertain/598857

หนังชนโรง : เตรียมพบกับ 2 นักแสดงรางวัลออสการ์  ‘เอ็มมา สโตน’ และ ‘เอ็มมา ทอมป์สัน’

หนังชนโรง : เตรียมพบกับ 2 นักแสดงรางวัลออสการ์ ‘เอ็มมา สโตน’ และ ‘เอ็มมา ทอมป์สัน’

วันพุธ ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.

ตัวละครวายร้ายที่มาพร้อมแฟชั่นจัดจ้านที่สุดในโลกภาพยนตร์กำลังจะเดินเฉิดฉายมาพบกับทุกคนถึงบ้านในภาพยนตร์ไลฟ์แอ๊กชั่นเรื่องใหม่ล่าสุดจากดิสนีย์เรื่อง “Cruella” นำแสดงโดยสองนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ “เอ็มมา สโตน” และ “เอ็มมาทอมป์สัน” ภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งกำกับโดย “เคร็ก จิลเลสพาย” พร้อมทัพนักแสดง อาทิ โจอี้ ฟราย, พอล วอลเทอร์ เฮาเซอร์,เอมิลี่ บีแชม, เคอร์บี ฮาวเวลล์-แบบทิสต์ และ มาร์ก สตรอง

“เอ็มมา สโตน” นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ จาก La La Land ที่ได้มาแสดงนำในภาพยนตร์ไลฟ์แอ๊กชั่นเรื่องใหม่ล่าสุดของดิสนีย์เรื่อง “Cruella”ที่บอกเล่าช่วงเวลาเริ่มต้นสุดขบถของตัวละครวายร้ายที่ร้ายที่สุดและมาพร้อมแฟชั่นที่จัดจ้านที่สุดในโลกภาพยนตร์อย่าง ครูเอล่า เดอ วิลล์

ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวในลอนดอนในทศวรรษ 1970s ท่ามกลางบรรยากาศของยุคปฏิวัติพั้งค์ร็อก พร้อมเล่าเรื่องราวของสาวนักต้มตุ๋นผู้ฉลาดเฉลียวและสร้างสรรค์คนหนึ่งที่ชื่อ “เอสเตลล่า” เธอตั้งใจจะสร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยผลงานการออกแบบของเธอ เธอได้ผูกมิตรกับโจรสาว 2 คน ที่มาถูกใจในความสามารถของเธอ และทำให้ทั้ง3 คนสามารถเอาชีวิตรอดบนถนนในลอนดอนร่วมกันได้ จนกระทั่งวันหนึ่ง ความเก่งกาจด้านแฟชั่นของเอสเตลล่าไปเข้าตา บารอนเนสฟอน เฮลแมน ผู้เป็นตำนานด้านแฟชั่นที่ทั้งชิคและน่าเกรงขาม รับบทโดย “เอ็มมา ทอมป์สัน” เจ้าของ 2 รางวัลออสการ์ จาก Howard’s End และ Sense and Sensi bility แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขานำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้เอสเตลล่าต้องเผยด้านที่ชั่วร้ายของเธอออกมา และทำให้เธอกลายเป็นครูเอลล่าผู้ที่ทั้งดื้อรั้น ก้าวล้ำนำแฟชั่น และเต็มไปด้วยไฟแค้น

“Cruella”

3 กันยายนนี้
ทาง Disney+ Hotstar

หนังชนโรง : ‘The Green Knight’ ขึ้นแท่นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/entertain/595606

หนังชนโรง : ‘The Green Knight’  ขึ้นแท่นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี

หนังชนโรง : ‘The Green Knight’ ขึ้นแท่นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี

วันพุธ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

ไม่เคยทำให้ผิดหวัง สำหรับผลงานภาพยนตร์จากค่ายคุณภาพอย่าง A24 ที่ก่อนหน้านี้เคยส่งภาพยนตร์อย่าง The Lobster, Moonlight, Minari กวาดคำชม และกระแสชื่นชอบจากนักวิจารณ์รวมถึงผู้ชมทั่วโลกมาแล้ว ล่าสุดกับผลงานระดับมาสเตอร์พีซอย่าง “The Green Knight” ภาพยนตร์ที่นำเรื่องราวจากตำนานเหนือกาลเวลาของคิงอาเธอร์และอัศวินโต๊ะกลมมาตีความใหม่ ซึ่งสามารถกวาดคะแนนจาก Rotten Tomatoes ได้สูงถึง 94% รวมถึงได้รับคำวิจารณ์และคำชมบวกๆ จากทุกสถาบัน และกระแสเสียงตอบรับอย่างล้นหลามเตรียมขึ้นแท่นเป็นว่าที่ภาพยนตร์แห่งปีเป็นที่เรียบร้อย

“The Green Knight ทะลายกรอบหนังแฟนตาซีเอพิค คือผลงานคุณภาพที่ควรค่าให้ชมในโรงภาพยนตร์โดยแท้จริง”

Time Magazine

“เป็นอีกหนึ่งบทที่พิสูจน์ฝีมือของ เดฟ พาเทล ซึ่งเขาไม่ทำให้ผิดหวัง ผู้ชมจะสนุกไปกับการผจญภัยของเซอร์กาเวน ตั้งแต่เฟรมแรกถึงเฟรมสุดท้ายของเรื่องอย่างแน่นอน”

The Hollywood Reporter

“เดวิด โลเวอรี แสดงความเป็นศิลปินเต็มที่ใน The Green Knight พร้อมมอบบทบาทการแสดงที่ดีที่สุดในชีวิตการทำงานของ เดฟพาเทล ทั้งสองคนจะพาให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นผลงานระดับขึ้นหิ้งในอนาคตแน่นอน”

RogerEbert.com

The Green Knight บอกเล่าเรื่องราวความกล้าหาญของ เซอร์กาเวน หลานชายของกษัตริย์อาเธอร์ กับบททดสอบสำคัญของอัศวินเมื่อเขาต้องเผชิญกับคำท้าของอัศวินมรกต เซอร์กาเวน เดินทางฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆโดยที่เขาต้องรับมือกับวิญญาณอาฆาต, ยักษ์ และโจร เพื่อค้นหาตัวตนและพิสูจน์คุณค่าของเขาต่อครอบครัวและอาณาจักร การเดิมพันเพื่อก้าวข้ามศึกสำคัญครั้งนี้จะเป็นอย่างไรเมื่อทุกอย่างตกอยู่ในอันตรายไม่เว้นแม้แต่ชีวิตเขาเอง

ผลงานการกำกับโดยผู้กำกับที่ได้รับการยกย่องอย่าง เดวิด โลเวอรี(A Ghost Story, Pete’s Dragon)นำแสดงโดย เดฟ พาเทล (Slumdog Millionaire, Lion), อลิเซีย วิกันเดอร์ (The Danish Girl,Tomb Raider) โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน (The King, The Great Gatsby), ซาริตา ชาวด์ฮิวรี่ (Modern Love) และ ฌอน แฮร์ริส (Mission : Impossible-Fallout)

“The Green Knight”

เร็วๆ นี้ ในโรงภาพยนตร์

หนังชนโรง : ‘Gunpowder Milkshake’ แอ๊กชั่น มันส์ แซ่บ สะใจ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/entertain/592409

หนังชนโรง : ‘Gunpowder Milkshake’  แอ๊กชั่น มันส์ แซ่บ สะใจ

หนังชนโรง : ‘Gunpowder Milkshake’ แอ๊กชั่น มันส์ แซ่บ สะใจ

วันพุธ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

ออกสตาร์ทสาดกระสุ บู๊ จนคว้า Rotten Tomatoes ไปถึง 71% สำหรับภาพยนตร์แอ๊กชั่น “Gunpowder Milkshake” กับการรวมตัวของทีมนักฆ่าหน้าสวยอย่าง คาเรน กิลแลน (Guardians of the Galaxy), ลีนา เฮดดี (Game of Thrones), มิเชล โหย่ว(crazy rich asians), แองเจล่า เบสเซ็ตต์ (Black Panther) และ คาร์ล่า กูจิโน่ (Spy Kids ) ที่พร้อมเช็คบิลความโหด อย่าทำให้เธอแค้นเพราะโหมดการฆ่าก็แค่ของหวานสำหรับพวกเธอ ล่าสุดหลังจากภาพยนตร์เข้าฉาย ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อมวลชน และนักวิจารณ์ถึงความน่าสนใจของเรื่องราว ลีลาแอ๊กชั่นแบบจัดเต็มถึงลูกถึงคน สนุกจนอะดรีนาลีนพลุ่งพล่านกันเลยทีเดียว

“สาวๆ ในเรื่องจัดเต็มแบบไม่ห่วงลุคเราสัมผัสได้เลยว่าพวกเธอสนุกมากระหว่างถ่ายฉากแอ๊กชั่น ซึ่งความสนุกนั้นส่งมาถึงผู้ชมได้ชัดเจน”-Bloody Disgusting

“มันจับเอาข้อดีของหนังแนวต่างๆเข้ามาผสมไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแนวเวสเทิร์น,ฟิลม์นัวร์, หนังศิลปะการต่อสู้จนออกมาเป็นผลลัพธ์ที่กลมกล่อมซดได้คล่องคอ จะว่าไปก็เหมือนมิลค์เชคในชื่อเรื่อง”-Nerdist

“Gunpowder Milkshake จะเพิ่มระดับอะดรีนาลีนในเลือดคุณให้พลุ่งพล่าน พร้อมประกาศตัวว่าจะเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่น่าจับตามอง”- Indiewire

“ผู้กำกับ นาวอท พาพูชาโดแสดงให้เราได้เห็นศักยภาพของเขาผ่านผลงาน “Gunpowder Milkshake” เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเขาพร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำกับสายแอ๊กชั่นแนวหน้าของวงการแล้ว”-The AU Review

“Gunpowder Milkshake เป็นหนังแอ๊กชั่นพลังหญิงชั้นคุณภาพที่นานๆ จะโผล่มาให้เห็นสักเรื่อง นับตั้งแต่ Kill Bill เลยก็ว่าได้”- AV Club

เรื่องราวของสองแม่ลูกมือสังหาร“สการ์เล็ต” (ลีนา เฮดดี) และ “แซม”(คาเรน กิลแมน) ที่ต้องโคจรมาเจอกันเพื่อล้างบางแก๊งอาชญากรขาโหด เพราะหลังจากที่สการ์เล็ตทิ้งแซมไปตั้งแต่อายุ 12 เธอถูกดูแลภายใต้องค์กรลับที่ชื่อ “The Firm” แซมเดินตามรอยแม่ และกลายมาเป็นนักฆ่าสุดแซ่บ แต่เธอกลับทำภารกิจสำคัญผิดพลาด เอาชีวิตเด็ก 8 ขวบ ไปเสี่ยงกับสงครามระหว่างแก๊ง ทางรอดเดียวของแซมคือต้องร่วมมือกับแม่ แถมงานนี้แม่ยังแท็กทีมอดีตเพื่อนร่วมวงการ กลับมาวาดลวดลายปิดบัญชีเลือดครั้งนี้ ให้มันรู้ว่าใครคือนักฆ่าตัวจริง

หนังชนโรง : ‘Jung-E’ ผลงานจากผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/entertain/589080

หนังชนโรง : ‘Jung-E’ผลงานจากผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง

หนังชนโรง : ‘Jung-E’ผลงานจากผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง

วันพุธ ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

“จองอี” (Jung-E) ภาพยนตร์แนวไซไฟเรื่องใหม่ล่าสุดของผู้กำกับมากฝีมือ ยอนซังโฮ พร้อมยืนยันทัพนักแสดงนำแถวหน้าอย่าง คังซูยอนคิมฮยอนจู และ รยูคยองซู

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 22 ซึ่งเป็นยุคที่เกิดหายนะจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจนทำให้มนุษย์ไม่อาจอาศัยอยู่บนโลกได้อีกต่อไป และต้องไปอาศัยอยู่ตามที่หลบภัยที่สร้างขึ้นเอง และแล้วสงครามภายในก็อุบัติขึ้น บทสรุปของสงครามแขวนอยู่บนความสำเร็จของเทคโนโลยีโคลนนิ่งสมองของจองอี หุ่นยนต์ทหารรับจ้างระดับตำนาน โดยผู้กำกับชื่อดัง ยอนซังโฮ ผู้สร้างประวัติศาสตร์และปูทางให้กับอนาคตวงการ

ภาพยนตร์เกาหลีด้วยผลงานการกำกับภาพยนตร์ชื่อดังไว้มากมายอย่าง ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง (Train to Busan), ฝ่านรกซอมบี้คลั่ง(Peninsula) และ สื่อรักข้ามภพ (Hellbound) เปิดเผยว่าธีมหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการโคลนนิ่งสมองและหุ่นยนต์ทหารรับจ้างที่มีความเหมือนมนุษย์จนน่าทึ่ง

สำหรับทัพนักแสดงของภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เริ่มจากตัวแม่ในวงการอย่าง คังซูยอน ที่กลับมารับงานแสดงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี โดยคังซูยอนเป็นนักแสดงเกาหลีคนแรกที่ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากงาน Venice Film Festival หรือเทศกาลภาพยนตร์เวนิส ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 เทศกาลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยเป็นรางวัลที่ได้รับจากบทบาทของเธอในภาพยนตร์เรื่อง The Surrogate Womb เมื่อปี ค.ศ.1986 อีกทั้งคังซูยอนยังได้ฝากผลงานการแสดงชื่อดังไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Blue In You หรือ ศึกชิงบัลลังก์จอมนาง (Ladies of the Palace) ตลอดจนผลงานคุณภาพอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่ทำให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงในตำนานที่กรุยทางให้กับยุคทองของอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลี ในเรื่องนี้ คังซูยอนรับบทเป็น “ซอฮยอน”หัวหน้าทีมห้องปฏิบัติการโคลนนิ่งสมองและเทคโนโลยี AI โดยซอฮยอนเป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบเกี่ยวกับการทดลองโคลนนิ่งสมองและความสามารถในการต่อสู้ของจองอี

คิมฮยอนจู รับบทอันโดดเด่นเป็น “จองอี”ทหารชั้นสูงสุดแห่งกองกำลังพันธมิตรที่ต่อสู้กับกองกำลังศัตรูจากที่หลบภัย และยังเป็นต้นแบบของการทดลองโคลนนิ่งสมอง ด้วยความสามารถด้านการแสดงจากผลงานซีรี่ส์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Watcher และ ปฏิบัติการซ้อนเงา (Undercover) คิมฮยอนจูจะต้องถ่ายทอดอารมณ์อันซับซ้อนผ่านการแสดงเป็น “ทหารรับจ้างระดับตำนาน” ซึ่งต่อสู้สุดกำลังในฉากรบอันทรงพลัง และยังต้องทรมานกับการทดลองโคลนนิ่งสมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

รยูคยองซู รับบท “ซังฮุน” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยซึ่งมุ่งมั่นที่จะโคลนนิ่งสมองของจองอีให้สำเร็จ เพื่อนำกลุ่มพันธมิตรไปสู่ชัยชนะให้ได้ภาพยนตร์เรื่องนี้นับว่าพลิกบทบาทของเขาแบบ180 องศา จากบทที่เคยได้รับในผลงานภาพยนตร์เรื่อง A Resistance รวมถึงผลงานซีรี่ส์อย่าง ธุรกิจปิดเกมแค้น (Itaewon Class) และ ความรักในเมืองใหญ่ (Lovestruck in the City) สำหรับคิมฮยอนจูและรยูคยองซูนั้น นับว่าเป็นการสานต่อการร่วมงานกับผู้กำกับยอนซังโฮ หลังจากที่ทั้งคู่ได้ร่วมงานกับเขามาแล้วในซีรี่ส์เรื่องใหม่จาก Netflix ที่กำลังจะปล่อยออกมาในเร็วๆ นี้ อย่าง สื่อรักข้ามภพ (Hellbound)

หนังชนโรง : คู่แสบสุดซ่าส์ ‘ไรอัน เรย์โนลด์’ และ ‘แซมมวล แอล แจ็คสัน’ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/entertain/587331

หนังชนโรง : คู่แสบสุดซ่าส์ ‘ไรอัน เรย์โนลด์’ และ ‘แซมมวล แอล แจ็คสัน’

หนังชนโรง : คู่แสบสุดซ่าส์ ‘ไรอัน เรย์โนลด์’ และ ‘แซมมวล แอล แจ็คสัน’

วันพุธ ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

หากคุณเคยประทับใจในเรื่องราวของสองขั้วนักฆ่า ผลงานแอ๊กชั่นคอเมดี้ ในภาพยนตร์ “The Hitman’s Bodyguard (2017)” หรือ ในชื่อไทย “แสบ ซ่าส์ แบบว่าบอดี้การ์ด” กับการโคจรมาพบกันของสองนักแสดงสายแข็งฮอลลีวู้ด “แซมมวล แอล แจ็คสัน” และ “ไรอันเรย์โนลด์” ในบทบาทสองยอดคนต่างขั้วสุดอันตราย

โดยหนังภาคแรกกวาดกระแสตอบรับจากแฟนๆ ไปอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในด้านเคมีการแสดงของสองนักแสดงนำ “แซมมวล แอล แจ็คสัน” และ“ไรอัน เรย์โนลด์” ที่รับ-ส่งมุขกันได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ จัดเต็มฉากแอ๊กชั่นและมุขตลกอย่างครบครัน ขึ้นแท่นภาพยนตร์แอ๊กชั่นคอเมดี้สายพันธุ์แท้ มันส์กว่า เข้มข้นกว่า ฮาวายป่วงกว่าหนังบอดี้การ์ดเรื่องไหนๆ ที่คุณเคยสัมผัสบนจอภาพยนตร์

“Hitman’s Wife’s Bodyguard แสบ ซ่าส์ แบบว่าบอดี้การ์ด 2” ในภาคนี้สุดยอดบอดี้การ์ดระดับพระกาฬ ไมเคิล ไบรซ์ (ไรอันเรย์โนลด์) เลือกที่จะพักงานตัวเองเพื่อรักษาสภาพจิตใจ แต่แล้วเขากลับถูก โซเนีย คินเคด(ซัลมา ฮาเย็ก) ภรรยาของมือสังหารรุ่นใหญ่ลายครามแห่งวงการนักฆ่า ดาเรียส คินเคด (แซมมวล แอล แจ็คสัน) หลอกให้มาทำภารกิจตามหาสามีที่โดนลักพาตัว ก่อนที่ทั้งสามคนจะต้องร่วมมือกันหยุดยั้งอาชญากรสุดเหี้ยม อริสโตเติล (แอนโตนิโอ แบนเดอรัส) ที่หมายจะก่อวินาศกรรมทั่วยุโรป

อีกหนึ่งความพิเศษของหนังภาคแรก อย่าง “The Hitman’s Bodyguard (2017)” คือการถูกจับตามองในฐานะภาพยนตร์ที่สร้างเพื่อล้อเลียนผลงานโรแมนติกระดับตำนาน อย่าง “The Bodyguard (1992)” ที่ เควินคอสต์เนอร์ และ วิทนีย์ ฮุสตั้น แสดงนำ สาเหตุหนึ่งมาจากการที่ใบปิดของภาพยนตร์นั้นปรากฏภาพ ไรอัน เรย์โนลด์ ที่กำลังอุ้ม แซมมวลแอล แจ็คสัน ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน ในลักษณะเดียวกับที่ เควิน คอสเนอร์ เคยอุ้ม วิทนีย์ ฮุสตั้น ในใบปิดภาพยนตร์ปี 1992 จนทำให้เกิดข่าวลือหนาหูว่านี่คือภาพยนตร์ล้อเลียนหนังแอ๊กชั่นโรแมนติกชื่อดังระดับตำนาน

กำกับโดย แพททริค ฮิวจ์ (The Hitman’sBodyguard) นำแสดงโดย ไรอัน เรย์โนลด์(Deadpool 2), แซมมวล แอล แจ็คสัน (Avengers: Endgame), ซัลม่า ฮาเย็ค (Frida) สมทบความมันส์โดย แฟรงค์ กริลโล (Captain America : The Winter Soldier) ร่วมด้วยแอนโตนิโอ แบนเดอรัส (The Expendables 3)และ มอร์แกน ฟรีแมน (Angel Has Fallen)

“Hitman’s Wife’s Bodyguard แสบ ซ่าส์แบบว่าบอดี้การ์ด 2”

เร็วๆ นี้ ในโรงภาพยนตร์

หนังชนโรง : จากเรื่องจริง ผ่านการแสดงของ ‘จอห์นนี เดปป์’ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/entertain/585584

หนังชนโรง : จากเรื่องจริง ผ่านการแสดงของ ‘จอห์นนี เดปป์’

วันพุธ ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

“City Of Lies ทูพัค บิ๊กกี้ คดีไม่เงียบ”ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงบันทึกของ แรนดัลล์ ซัลลิแวน ผ่านการแสดงของดาราระดับออสการ์ จอห์นนี เดปป์ และ ฟอเรสต์วิตเทคเกอร์ ปริศนาฆาตกรรมที่อาจถูกทำให้เงียบของสองตำนานแร็พเปอร์ชื่อดังแห่งยุค 90 อย่าง “ทูพัค อมารู ชาเคอร์” และ “โนทอเรียส บี ไอ จี(หรือ บิ๊กกี้ สมอลล์)” สู่การเปิดโปงครั้งสำคัญที่ทำให้ทั้งกรมตำรวจแอลเอ ต้องสะเทือน

เดิมความสัมพันธ์ระหว่าง ทูพัค และ บิ๊กกี้เป็นไปด้วยดี พวกเขาสนิทกันเหมือนพี่น้อง ทั้งคู่พบกันในปี 1993 ซึ่งเป็นช่วงที่ ทูพัค กำลังมีชื่อเสียงจากอัลบั้มชุดแรก ทั้งคู่ถูกคอกันอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเพื่อนรักที่ไม่อาจแยกจากกันในช่วงนั้น บิ๊กกี้ เป็นเพียงนักร้องเพลงแร็พที่ยังทำเดโมเพลงแบบดิบๆ ในขณะที่ทูพัคเป็นศิลปินที่โด่งดัง ในครั้งนั้นทูพัคยังเคยให้บิ๊กกี้ขึ้นเล่นคอนเสิร์ตบนเวทีของเขาด้วย

เรื่องราวความขัดแย้งเริ่มต้นจาก บิ๊กกี้ขอร้องให้ ทูพัค รับเขาไว้เป็นนักร้องร่วมค่าย แต่ทูพัค กลับบอกให้ บิ๊กกี้ รับคำชวนของ ฌอน พัฟฟีโคมบ์ส เพื่อเป็นศิลปินเพลงค่าย Bad Boy Records แทน นั่นทำให้ บิ๊กกี้ มีอารมณ์โกรธอยู่ในใจ แต่ก็เซ็นสัญญากับพัฟฟี ในปี 1994 และออกอัลบั้มแรก Ready to Die โดยใช้ชื่อศิลปินว่า The Notorious B.I.G. และสร้างชื่อเสียงมหาศาลให้กับค่ายของพัฟฟี

สถานการณ์ดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นเมื่อ ทูพัค และผู้จัดการของเขา ไฮเทียน แจ็คถูกตั้งข้อหาทารุณกรรมทางเพศและมีอาวุธผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง ทูพัคให้การว่าอาวุธเหล่านั้นเป็นของบิ๊กกี้ เหตุการณ์นั้นทำให้เขารอดจากการคุมขัง แต่ยังไม่วายถูกลอบยิงในปีเดียวกัน ซึ่งในที่เกิดเหตุขณะที่ทูพัคพยายามเอาชีวิตรอดจากกระสุนห้านัดที่ค้างอยู่ในร่าง เขาได้พบกับ พัฟฟี และ บิ๊กกี้ แต่ทั้งคู่กลับเมินสภาพใกล้ตายของเขาแล้วจากไป

ในเดือนถัดมาศาลนำคดีของทูพัคมาไต่สวนอีกครั้ง ครั้งนี้เขาถูกสั่งจำคุกหนึ่งปี แต่ด้วยการยื่นมือเข้าช่วยเหลือของ ซูจ ไนท์ แห่ง Death Row Records เจ้าของค่ายเพลงฮิปฮอปแกมมาเฟียในแอลเอ ประกันตัวทูพัคและยื่นข้อเสนอให้เขาเข้ามาเป็นศิลปินในค่าย พร้อมโจมตีค่ายของพัฟฟี และแก้เผ็ดด้วยการชวนบิ๊กกี้มาแสดงในงานที่ไม่มีจริง ซึ่งเป็นไปได้ว่าซูจกำลังแบกรับความแค้นของทูพัคไว้ และใช้อิทธิพลของเขาเล่นงานวงการฮิปฮอปฝั่งตะวันออกอย่างกัดไม่ปล่อย ความแตกหักระหว่างสองชายฝั่งจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

7 กันยายน 1996 ทูพัคถูกลอบยิงอีกครั้งหลังจากชมการชกของ ไมค์ ไทสัน ที่แอลเอซึ่งเขาเสียชีวิตในอีกหกวันถัดมา และในวันที่ 9 มีนาคม 1997 ที่แอลเอเช่นเดียวกัน บิ๊กกี้ถูกจ่อยิงกลางแยกไฟแดงขณะนั่งรถกลับบ้าน ความตายของพวกเขายังไม่สามารถหาคนร้ายที่ก่อเหตุได้ แต่ที่แน่ๆ ทั้งคู่ต่างทิ้งผลงานเพลงฮิปฮอปให้คงอยู่ในใจแฟนเพลงทั่วโลก

25 ปีผ่านไป!! คดีนี้ยังไม่คลี่คลาย ยังไม่มีใครที่ล่วงรู้ความจริง มีเพียงนักสืบ รัสเซล พูล รับบทโดย จอห์นนี เดปป์ เพียงผู้เดียวที่เสี่ยงชีวิตเพื่อสืบคดีที่อาจพัวพันไปถึงอำนาจมืด และเขาคือผู้เก็บงำความจริงที่ถูกทำให้เงียบจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แต่ความจริงยังพอมีเค้าลางให้ปรากฏ เมื่อนักข่าวอย่าง แรนดัลล์ ซัลลิแวนรับบทโดย ฟอเรสต์ วิตเทคเกอร์ ได้เคยสัมภาษณ์นักสืบพูล อย่างลับๆ และจดบันทึกทุกสิ่งที่พูลรู้เขาพร้อมที่จะเปิดโปงอะไรบางอย่างที่อาจจะทำให้ระบบรักษาความยุติธรรมของลอสแองเจลิสต้องสั่นคลอน

“City of Lies ทูพัค บิ๊กกี้ คดีไม่เงียบ”

เร็วๆ นี้ ในโรงภาพยนตร์