‘ธรรมนัส’ คู่หู ‘วิรัช’ ตัวตึงอีสาน รู้ซะบ้างไผเป็นไผ

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543115

16 ก.พ. 2566

‘ธรรมนัส’ คู่หู ‘วิรัช’ ตัวตึงอีสาน รู้ซะบ้างไผเป็นไผ

ตัวจริงเสียงจริง ‘ธรรมนัส’ จับคู่ ‘วิรัช’ ลุยอีสาน เจาะพื้นที่เป้าหมายโซนสีแดงเพื่อไทย อิงฐาน อบจ. บวกกลยุทธ์วีดีโอคอลลุงป้อม ไร้ปัญหาผู้สมัครสส.ทับซ้อน

พลังป้อมรุกอีสาน ธรรมนัส จับคู่ วิรัช ลุยพื้นที่เป้าหมาย อิงฐาน อบจ. บวกกลยุทธ์ปั้นเอฟซีลุงป้อม มั่นใจเจาะที่มั่นทักษิณได้

แม้บทบาททางการของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะเป็นแม่ทัพเหนือตอนบนของพรรคพลังประชารัฐ แต่ในวงในบ้านป่ารอยต่อฯ ทราบดีว่า ร.อ.ธรรมนัส จับคู่ วิรัช รัตนเศรษฐ ดูแลภาคอีสานร่วมกัน

หลายคนคงเห็นข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ วีดีโอคอลไปยังชาวอีสานในระหว่างการจัดอีเวนท์งานบุญประเพณีอยู่หลายครั้ง ทั้งที่ จ.มหาสารคาม ,จ.ร้อยเอ็ด, จ.กาฬสินธุ์ และ จ.มุกดาหาร นี่คือกลยุทธ์การตลาดการเมืองของทีมงาน พปชร. ที่มีธรรมนัส-วิรัช เป็นกุนซือ

อย่างเช่นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ก.พ.2566 ทีมงาน อบจ.มุกดาหาร ได้ระดมพลชาวบ้านในนามคนรักลุงป้อม มาจัดเวทีปราศรัยย่อยที่ทางขึ้นวัดภูมโนรมย์ ต.ศรีบุญเรือง อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร

ไฮไลท์คืนนั้นคือ พล.อ.ประวิตร ได้วีดีโอคอลทักทายชาวมุกดาหารประมาณ 4 พันคน แถม ร.อ.ธรรมนัส และวิรัช ก็วีดีโอคอลไปที่เวทีหาเสียงดังกล่าวด้วย

สนามเลือกตั้งมุกดาหาร เป็นพื้นที่เป้าหมายของพรรคพลังประชารัฐ เฉพาะเขต 1 อ.เมืองมุกดาหาร ลุงป้อมวางตัว รองติ๋ว-กัลยกร สุขสานต์ รองนายก อบจ.มุกดาหาร ลงสมัคร สส.เขตนี้

พล.อ.ประวิตร และกัลยกร สุขสานต์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มุกดาหาร พล.อ.ประวิตร และกัลยกร สุขสานต์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มุกดาหาร

ในรอบ 3 เดือนมานี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจราชการที่ จ.มุกดาหาร ถึง 2 ครั้ง ในพื้นที่ อ.เมืองมุกดาหาร และ อ.หนองสูง

หักเพื่อไทย

ช่วงที่ ธรรมนัส นั่งเก้าอี้ รมช.เกษตรฯ ได้สร้างเครือข่าย อบจ.ในภาคอีสานหลายจังหวัด เช่นเดียวกับ วิรัช ที่รับผิดชอบโคราช แต่ก็ส่องหาดาวรุ่งท้องถิ่นแถวอีสานเหนือมาลงสนาม

ปลายปีที่แล้ว อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ สส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย เผชิญวิบากกรรมเรื่องน้ำบาดาล และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ฝั่ง พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ นายก อบจ.มุกดาหาร ได้ขยับห่างบ้านใหญ่มุกดาหาร ไปหาบ้านป่ารอยต่อฯ

ถ้าจำกันได้ การเลือกตั้งนายก อบจ.มุกดาหาร ปี 2563 พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ในนามพรรค พท. ชนะวิริยะ ทองผา สามีมลัยรัก ทองผา อดีตนายก อบจ.มุกดาหาร แบบฉิวเฉียดแค่ 178 คะแนน

คนมุกดาหารรู้กันทั้งจังหวัดว่า ชัยชนะของ พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ มาจากการหนุนช่วยของเครือข่ายหัวคะแนน สส.มุกดาหาร พรรค พท. 2 คนคือ อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ และบุญฐิน ประทุมลี

การเลือกตั้งสมัยหน้า อนุรักษ์ ส่งลูกชาย นนทภูมิ ตั้งปณิธานนท์ ลงสนาม สส.มุกดาหาร เขต 1 พรรค พท. ชนรองติ๋ว-กัลยกร สุขสานต์ รองนายก อบจ.มุกดาหาร พรรค พปชร. ทีมของ พ.ต.ท.จิตต์

ตัวแปรของสนามนี้คือ วิริยะ ทองผา บ้านใหญ่มุกดาหารที่เคยยึดครอง อบจ.มานานกว่า 10 ปี เพิ่งย้ายจากพรรคสร้างอนาคตไทย มาอยู่พรรค พปชร. จะถูกจัดวางไว้แบบไหน หรือบ้านใหญ่ทองผา จะต้องขยับไปหาพรรคใหม่สังกัด เพื่อลงสนามเขต 1

พื้นที่ทับซ้อน

ประเด็นผู้สมัครสส.ทับซ้อนกัน ไม่ได้มีแค่มุกดาหาร วิรัช เพิ่งเจอปัญหาทีมพรรคสร้างอนาคตไทย ไหลเข้ามาบ้านป่ารอยต่อฯ อย่างกรณีชัยภูมิ สุดท้ายความสงบคงจบที่ลุงป้อม

สืบเนื่องจากการจัดตัวผู้สมัครสส.ชัยภูมิ วิรัช รัตนเศรษฐ ได้เปิดตัวประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ อดีต สส.ชัยภูมิ และลูกสาว เป็นผู้สมัคร สส.ชัยภูมิไปก่อนหน้านี้แล้ว

ช่วงต้นเดือน ก.พ.2566 อร่าม โล่ห์วีระ นายก อบจ.ชัยภูมิ ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ตามคำเชิญชวนของ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร.

ย้อนไปต้นปีใหม่ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ไปพบอร่าม โล่ห์วีระ นายก อบจ.ชัยภูมิ เพื่อมอบให้อร่ามเป็นแม่ทัพอีสานใต้ แต่เมื่อสนธิรัตน์ ย้ายมาอยู่พรรค พปชร. อร่ามจึงต้องตามมาอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการจัดตัวผู้สมัคร สส.ชัยภูมิ คงอยู่ที่การตัดสินใจของ พล.อ.ประวิตร จะเลือกแนวทางวิรัช หรืออร่าม ก็พอมองกันออกในเกมนี้

อีสานแลนด์สลบ “อุ๊งอิ๊ง”ลุยจุดเสี่ยง สกัดเด็ก“เนวิน”

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543081

16 ก.พ. 2566

อีสานแลนด์สลบ “อุ๊งอิ๊ง”ลุยจุดเสี่ยง สกัดเด็ก“เนวิน”

เพื่อไทยลุยอีสาน “อุ๊งอิ๊ง” โฟกัส 9 จุดเสี่ยง 5 จังหวัด รุกชิงคืนเขตที่มีแนวโน้มพ่ายค่ายสีน้ำเงิน “เนวิน”ส่งศักดิ์สยาม เจาะพื้นที่เป้าหมายเสาเข็มเกรดเอ

เคลื่อนทัพใหญ่สู่อีสาน อุ๊งอิ๊ง โฟกัส 9 จุดเสี่ยง 5 จังหวัด แนวโน้มพ่ายค่ายสีน้ำเงิน เจอแผน เนวิน เสริมเสาเข็มเกรดเอ

แลนด์สไลด์อาจพลิกเป็นแลนด์สลบ อุ๊งอิ๊งนิ่งไม่ได้ เดินสายปราศรัย 3 วันรวด เพราะน้องชาย เนวิน ลุยพื้นที่เป้าหมายไปก่อนหน้าแล้ว

ช่วงวันที่ 17-19 ก.พ.2566 อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นำทัพครอบครัวเพื่อไทยเดินสายปราศรัยรวดเดียว 3 วัน 5 จังหวัดคือ อุบลฯ ,อำนาจเจริญ,ร้อยเอ็ด,กาฬสินธุ์ และขอนแก่น

มีข้อสังเกตจากการจัดเวทีปราศรัย 9 จุด เป็นเวทีปราศรัยใหญ่ 3 จุด และที่เหลือเป็นเวทีระดับอำเภอ ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้ง ที่เจอคู่แข่งสายแข็งจากพรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้น

เกรียง-กุ่ยเหนื่อย

โปรแกรมเดินสายอีสานเที่ยวนี้ อุ๊งอิ๊ง ให้น้ำหนักกับสนามอุบลฯ เพราะคะแนนนิยมคู่แข่งตีตื้นใน 2 เขต น้องชายเนวิน ลงมาลุยด้วยตัวเอง

เลือกตั้งสมัยหน้า อุบลฯ มี สส.เพิ่มเป็น 11 คน เสี่ยเบี้ยว-เกรียง กัลป์ตินันท์ และเสี่ยกุ่ย-ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ จัดวางตัวผู้สมัคร สส.อุบลฯ เกือบครบแล้ว

สาเหตุที่พรรคเพื่อไทยไปเปิดเวทีปราศรัยวัดม่วงเดียด อ.ตระการพืชผล เพราะรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ สส.อุบลฯ เจอคู่ปรับเก่า สุทธิชัย จรูญเนตร อดีต สส.อุบลฯที่สวมเสื้อสีน้ำเงิน

ปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ภท.เดินสายมาพบพี่น้องชาวตระการพืชผล แล้วเสี่ยโอ๋ ก็เดินทางไปต่อที่ อ.เดชอุดม

พรรคเพื่อไทยจึงต้องเปิดเวทีปราศรัยโรงเรียนมัธยมเดชอุดม อ.เดชอุดม หาเสียงช่วย เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ สส.อุบลฯ เพราะตวงทิพย์ จินตะเวช ลูกสาว ตุ่น จินตะเวช อดีต สส.อุบลฯ กำลังดีวันดีคืน หลังได้น้ำเลี้ยงจากบุรีรัมย์

สนามอุบลฯในชั่วโมงนี้ พรรคภูมิใจไทยมีโอกาสแทรกได้มากกว่า 4 เขต ทำให้เสี่ยเกรียงต้องขยับเปิดเกมรุกจัดปราศรัยใหญ่ ปลุกพลังเสื้อแดงเมืองดอกบัวบาน

ศักดิ์สยาม ไปหาเสียงที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลฯ ช่วยตวงทิพย์ จินตะเวช ศักดิ์สยาม ไปหาเสียงที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลฯ ช่วยตวงทิพย์ จินตะเวช

อีกเวทีหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องไปให้ได้คือ เวทีปราศรัยสวนมิ่งเมืองเฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เพราะสนามนี้มี สส. 2 คน แต่เช็คเสียงก่อนยุบสภา ค่ายสีน้ำเงิน มีโอกาสเหมายกจังหวัด

เจ๊รวย-สุขสมรวย วันทนียกุล สายตรงของศักดิ์สยาม ชิดชอบ ปูทางสร้างฐานในอำนาจเจริญมา 4 ปีเต็ม ขณะที่สมหญิง บัวบุตร สส.อำนาจฯ พรรคเพื่อไทยลงสนามไม่ได้ ต้องลูกชายลงแทน

หมอแคนบ่แลนด์สไลด์

อีสานเหนือ-อีสานกลาง ที่เป็นของตายเพื่อไทย สมัยหน้าก็ต้องลุ้นหลายเขต ทีมงานอุ๊งอิ๊ง จึงกางแผนที่ทัวร์หาเสียงผ่านร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และปิดท้ายที่ขอนแก่น

สำหรับสนามเลือกตั้งขอนแก่น น่าจะเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งในการถอนเสาเข็มค่ายบุรีรัมย์ ที่ได้ เอกราช ช่างเหลา สส.บัญชีรายชื่อ เป็นแม่ทัพใหญ่ 

พรรคเพื่อไทยตั้งเวทีปราศรัยแรกในขอนแก่น ที่ตลาดนัดคลองถม อ.บ้านไผ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของ บัลลังก์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น น้องชายพงศกร อรรณนพพร อดีต สส.ขอนแก่น หลายสมัย

นัยว่า ฟลุ๊ค-พชรกร อรรณนพพร จะลงสมัคร สส.ขอนแก่น เขต อ.บ้านไผ่ แทน สส.บัลลังก์ ตามแผนของเสี่ยพงศกร ซึ่งเจอคู่แข่ง สจ.แม็ค-องอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ เด็กปั้นของศักดิ์สยาม ชิดชอบ

ตกค่ำวันเดียวกัน พรรคเพื่อไทยไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ตลาดอู้ฟู่ อ.เมืองขอนแก่น โดยพื้นที่นี้มีความสำคัญ เพราะสมัยที่แล้ว เสี่ยเต๋า-จักริน พัฒนดำรงจิตร อดีต สส.ขอนแก่น พ่ายเด็กโนเนมจากพรรคอนาคตใหม่

ล่าสุด เสี่ยเต๋าขอถอนตัวจากการลงสมัคร สส.ขอนแก่น เขต 1 อ.เมืองขอนแก่น ด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพ ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องสรรหาตัวผู้สมัคร สส.ใหม่

ภาพรวมสนามขอนแก่น พรรคภูมิใจไทยครองพื้นที่เขต 2 อ.เมืองขอนแก่น คือ วัฒนา ช่างเหลา และพรรค พปชร.ที่เขต 7 อ.หนองเรือ สมศักดิ์ คุณเงิน ทั้งสองคนยังเสียงดี ฐานแน่น

ทัวร์หาเสียงอีสานทริปนี้ มีเป้าหมายหลักอยู่ที่เขตเพลี่ยงพล้ำ ต้องชิงรุกคืนโดยเร็ว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายแลนด์สไลด์

ปริศนาบ้านใหญ่ ‘อิทธิพล’ แยกวง ‘สนธยา’ แหกมติคุณปลื้ม

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543040

15 ก.พ. 2566

ปริศนาบ้านใหญ่ 'อิทธิพล' แยกวง 'สนธยา' แหกมติคุณปลื้ม

เลือดข้นกว่าน้ำ มีคำถาม ‘อิทธิพล’ จะไม่ไปตามพี่ชาย ‘สนธยา’ ทั้งที่มติบ้านแสนสุข ทุกคนคือเพื่อไทย เพจบ้านใหญ่ปลุกชีพกำนันเป๊าะ รวมใจสู้รบกลุ่มบ้านใหม่

บ้านใหญ่ชลบุรีมีคำถามอิทธิพล จะไม่ไปตามพี่ชาย สนธยา จริงหรือ ทั้งที่มติบ้านแสนสุข ทุกคนต้องไปเพื่อไทย เหตุใด น้องรองจึงลังเล

เพจบ้านใหญ่ปลุกชีพกำนันเป๊าะ ศูนย์รวมใจตระกูลคุณปลื้ม สนธยา ย้ำเลือดข้นกว่าน้ำ อิทธิพลจะเลือกทางสายไหน



วันที่ 15 ก.พ.2566 มีรายงานข่าวชิ้นหนึ่งที่ถูกผลิตออกมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติว่า อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีวัฒนธรรม ได้ตัดสินใจและรับปากจะมาช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค รทสช.

อิทธิพล คุณปลื้ม จะเลือกเส้นทางการเมือง ต่างจากคนในตระกูลคุณปลื้มจริงหรือ เป็นคำถามที่คอการเมืองแถวบางแสน อยากได้คำตอบ

เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2566 สนธยา คุณปลื้ม ได้เคยแถลงข่าวไปแล้วว่า ในครอบครัวคุณปลื้ม ตกลงกันแล้วว่าให้อิทธิพล ทำงานในคณะรัฐมนตรี กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนกว่าจะหมดวาระ ซึ่งอิทธิพลได้ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่เดือน ม.ค.2566

สนธยาบอกว่า เราแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ ตนจะทำหน้าที่ในสนามเลือกตั้ง อิทธิพลก็ปฏิบัติหน้าที่ในเวลางาน ในเรื่องงานการเมืองในครอบครัวเราแบ่งกันทำงาน และเราถือมติในครอบครัวร่วมกัน

“เขารู้ถูก รู้ควรในการทำงาน เราไม่แตกกันไปไหน ผมขอยืนยันอีกครั้งครอบครัวคุณปลื้ม ไม่มีแยกพรรคกันอย่างแน่นอนครับ”สนธยา กล่าว

สนธยายังเคยให้สัมภาษณ์สื่อบางสำนักว่า มีคนบางกลุ่มพยายามเสี้ยมให้พี่น้องตระกูลคุณปลื้มทะเลาะกัน แยกทางกัน



รัฐมนตรีเรียกพ่อ



มีข้อน่าสังเกต สนธยา พร้อมทีมงานบ้านใหญ่ ได้นำประวัติและคำคมกำนันเป๊าะ มาเผยแพร่ เหมือนจะปลุกชีพประมุขบ้านใหญ่แสนสุข ให้หลอมรวมพลังทุกซุ้มมาทำศึกใหญ่สมัยหน้า

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2566 แอดมินเพจหลักกลุ่มพลังบ้านใหญ่ ได้นำเสนอประวัติกำนันเป๊าะ นักพัฒนาตัวจริงแห่งบ้านแสนสุข

แอดมินเพจบ้านใหญ่ได้สรุปประวัติกำนันเป๊าะว่า ต่อสู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นกระเป๋ารถเมล์ คนขับรถ และทำเรือประมง

ก่อนจะขยับไปจับธุรกิจทำบ่อลูกรัง และนำไปสู่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างก่อนจะขยายไปเป็นธุรกิจเหล้า โรงแรม พัฒนาที่ดิน จนสามารถขยายกิจการครอบคลุมเกือบทุกกิจการในท้องที่บางแสนและพัทยา

บนเส้นทางนักปกครอง เริ่มจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.แสนสุข ,กำนันตำบลแสนสุข และนายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข ตอนท้ายยังติดแฮชแท็ก #นักเลงเรียกพี่รัฐมนตรีเรียกพ่อ #ไปด้วยกันไปได้ไกล #เรารักกำนันเป๊าะ

เลือดข้นกว่าน้ำ


อิทธิพล ทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาตั้งแต่ยุครัฐบาล คสช. จนถึงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รวมแล้วเกือบ 5 ปี น่าจะมีความผูกพันกันระดับหนึ่ง

ติ๊ก-อิทธิพล เป็นลูกคนที่ 4 ของกำนันเป๊าะ ได้เข้าสู่ถนนสายเลือกตั้ง เป็น สส.ชลบุรี 2 สมัย ก่อนจะผันตัวไปเล่นการเมืองท้องถิ่น เป็นนายกเมืองพัทยา 2 สมัย

ช่วงเดือน เม.ย.2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น แต่งตั้ง สนธยา คุณปลื้ม เป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้านการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน

ส่วนอิทธิพล เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา

ปลายปี 2562 พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แต่งตั้งสนธยา คุณปลื้ม เป็นนายกเมืองพัทยา

การเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี ปี 2562 อิทธิพล นำทีมบ้านใหญ่ในสีเสื้อพรรคพลังประชารัฐ ลงสนาม แต่อิทธิพล สอบตก หลังตั้งรัฐบาลประยุทธ์ ภาค 2 อิทธิพลได้เป็นรัฐมนตรีวัฒนธรรม โควตาบ้านใหญ่ชลบุรี

ในวันที่เสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น ยังเป็นแม่ทัพพรรค พปชร. ได้จัดเวทีปราศรัยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ซึ่งตอนนั้น อิทธิพลก็ติดโผผู้สมัคร สส.ชลบุรี

กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ แยกทางกับ พล.อ.ประวิตร ไปร่วมงานกับพรรค รทสช. เสี่ยเฮ้งก็ตามไปด้วย ทำให้โผว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ชุดเดิมสลายตัวไปโดยปริยาย

สถานการณ์เมืองชลเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อสนธยา นำบ้านใหญ่แสนสุข ไปซบพรรคเพื่อไทย ทำให้สายตาสื่อทุกสำนักจับจ้องไปที่รัฐมนตรีอิทธิพล ว่าจะเลือกทางสายไหน

ทุกวันนี้ รัฐมนตรีอิทธิพล ยังเดินเคียงข้างนายกฯประยุทธ์ไปออกงานตามปกติ เลือดข้นกว่าน้ำ หรือเลือดข้นคนจาง(ชั่วคราว)อีกไม่นานคงมีคำตอบ

เหนือสะดุด ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นรอง ‘พิธา”’ปักธงส้มล้านนา

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/542995

15 ก.พ. 2566

เหนือสะดุด 'อุ๊งอิ๊ง' เป็นรอง 'พิธา”'ปักธงส้มล้านนา

ผ่าแนวรบเชียงใหม่-เชียงราย ‘อุ๊งอิ๊ง’ เพลี่ยงพล้ำ สะดุดค่าย ‘พิธา’ เฉพาะโซนเมืองใหญ่ ประชากรเพิ่ม ความคิดคนเปลี่ยน แนวโน้มเพื่อไทยจะพ่ายก้าวไกล

ตรวจแนวรบเชียงใหม่-เชียงราย อุ๊งอิ๊งเพลี่ยงพล้ำ สะดุดค่ายพิธา เฉพาะโซนเมืองใหญ่ ประชากรเพิ่ม ค่ายเพื่อไทยจะพ่ายค่ายก้าวไกล

เหนือตอนบนเปลี่ยน อุ๊งอิ๊ง ต้องมีนโยบายตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ แถมตัวผู้สมัครเพื่อไทยไม่โดดเด่น เทียบกับก้าวไกล



ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.2565 อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้ยกคณะไปจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ที่เชียงใหม่ และเชียงราย ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญของพรรคเพื่อไทย ในภาคเหนือตอนบน

ทั้ง 2 จังหวัดดังกล่าว มี ส.ส.รวม 19 ที่นั่ง แยกเป็นเชียงใหม่ 11 ที่นั่ง และเชียงราย 8 ที่นั่ง หากประเมินจากผลการเลือกตั้ง ส.ส.ในรอบ 20 ปี พรรคการเมืองของทักษิณ ชินวัตร ยึดครองเหนือบนมาโดยตลอด ยกเว้นสมัยที่แล้ว พรรคอนาคตใหม่แทรกเข้ามาได้ที่เชียงราย 2 ที่นั่ง

วันที่ 4-5 ก.พ.2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยแกนนำ และ ส.ส. พรรคก้าวไกล เดินสายเปิดตัวผู้สมัครในจังหวัดภาคเหนือตอนบน รวมถึงเชียงใหม่และเชียงราย

แหล่งข่าวในสายงานความมั่นคงภาคเหนือ เปิดเผยว่า ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ อ.เมือง ทั้ง 2 จังหวัดดังกล่าวข้างต้น มีคะแนนนิยมเป็นรองพรรคก้าวไกล ทั้งในแง่ตัวบุคคลและพรรค
 

แดงเชียงใหม่เสี่ยงตก



สนามเชียงใหม่ ทีมงานค่าย อุ๊งอิ๊ง ก็รู้ดีว่าเป็นรองค่าย พิธา จึงมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส. แต่ดูเหมือนว่า กระแสความนิยมยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่

ดังที่ทราบกัน เขตเลือกตั้งที่ 1 อ.เมืองเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยวางตัว จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ จาก ส.ส. เขต 3 สลับกับทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ที่จะไปลงสมัคร ส.ส.เขต 3 ด้วยหวังจะดึงเสียงคนรุ่นใหม่ในเขตเมือง

ส่วนพรรค กก. ส่ง พลอย-เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู นักธุรกิจรุ่นใหม่ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ลงเขต 1 ชน ส.ส.จักรพล ซึ่งภาพรวมกระแสพรรคเพื่อไทย กระแสอุ๊งอิ๊งยังไม่โดนใจคนรุ่นใหม่เชียงใหม่ ทำให้โอกาสที่พรรคก้าวไกลจะได้ ส.ส.ที่เขตนี้ก็มีสูง

พลอย-เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 พลอย-เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1



เขตเลือกตั้งที่ 2 อ.เมืองเชียงใหม่(บางส่วน) พรรคเพื่อไทย ส่ง เก่ง-โกวิทย์ พิริยะอนันต์ อดีต ส.อบจ.เชียงใหม่ เขต อ.เมือง กระแสพรรคก็ยังเป็นรองพรรคก้าวไกล ที่ส่งการณิก จันทดา อดีตพนักงานต้อนรับสายการบินลงสนาม

เขตเลือกตั้งที่ 6 อ.เชียงดาว บรรจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ คนสนิท สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังสูสีกับ อรพรรณ จันตาเรือง อดีตรองนายก อบต.เชียงดาว พรรคก้าวไกล

ส้มเชียงรายมาแรง



สนามเชียงราย ค่าย พิธา ในสีเสื้อพรรคอนาคตใหม่ เคยเจาะที่มั่นเพื่อไทยได้ 2 ที่นั่งคือ น.พ.เอกภพ เพียรพิเศษ เขต 1 เเละพีรเดช คำสมุทร เขต 6 ซึ่งปัจจุบัน ทั้งคู่ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย

สมัยหน้า เขตเลือกตั้งที่ 1 อ.เมืองเชียงราย พรรค พท. ส่ง ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธานามณี ลูกชายรัตนา จงสุทธานามณี ส่วนพรรค กก. ส่ง ผอ.ปั๋น-ชิตวัน ชินอนุรักษ์ ผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลสิงห์เชียงรายยูไนเต็ด

ขณะนี้ กระแสพรรคเพื่อไทยเป็นรองพรรคก้าวไกล เฉพาะตัวบุคคล ร.ต.อ.ธนรัช ไม่โดดเด่น และภาพจำของคนรุ่นใหม่ที่มองว่า รัตนา จงสุทธานามณี เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรค พปชร. ก็ส่งผลลบต่อตัวผู้สมัคร ส.ส.ค่ายเพื่อไทย



เขตเลือกตั้งที่ 2 อ.เมืองเชียงราย(บางส่วน) พรรคเพื่อไทยส่งโฮม-ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ลูกสาว ยงยุทธ ติยะไพรัช เจอกับ โจ-รัตน์ธนวัตร พุทธจันทร์ เจ้าของผลงานผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยคิงมอเตอร์ อินโนเวชั่น จำกัด พรรคก้าวไกล

แม้ตระกูลติยะไพรัช จะได้เปรียบในเรื่องของฐานเสียง แต่คนรุ่นใหม่ในเขตเมืองเชียงรายตอบรับพรรค กก.ค่อนข้างดี ก็ไม่ง่ายที่ลูกสาวยงยุทธ จะชนะได้ง่ายๆ

สรุปว่า สนามเลือกตั้งในเขตเมืองใหญ่ ทั้งเชียงใหม่ และเชียงราย อาจทำให้แผนเพื่อไทยแลนด์สไลด์สะดุด เมื่อคนชั้นกลาง และนิวโหวตเตอร์เทใจเลือกก้าวไกล

สุพรรณป่วน ‘วราวุธ’ เจอปม ‘ประเสริฐสุวรรณ’ แยก 2 พรรค

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/542972

14 ก.พ. 2566

สุพรรณป่วน ‘วราวุธ’ เจอปม ‘ประเสริฐสุวรรณ’ แยก 2 พรรค

พรรคลุงตู่บุกสุพรรณบุรี ‘วราวุธ’ เจอศึกคนบ้านเดียวกัน ตระกูล ‘ประเสริฐสุวรรณ’ แยกสองทาง ณัฐวุฒิอยู่ ชทพ. แต่ชาญชัยไปอยู่ รทสช. ซ้ำรอยเลือกตั้งปี 2562

พรรคสุพรรณบุรี วราวุธ เจอศึกคนบ้านเดียวกัน ตระกูล ประเสริฐสุวรรณ แยกสองทาง ณัฐวุฒิอยู่ ชทพ. แต่ชาญชัยไปอยู่ รทสช. ซ้ำรอยปี 2562 ตระกูลประเสริฐสุวรรณ เคยย้ายไปเพื่อไทยก่อนที่ณัฐวุฒิจะกลับ ชาติไทยพัฒนา ส่วนชาญชัยไม่กลับ เลือกสวมเสื้อ ไทยรักษาชาติลงสนาม

จบภารกิจปราศรัยใหญ่ของพรรคชาติไทยพัฒนา ได้แค่วันเดียว วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค และประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค พร้อมกับกัญจนา ศิลปอาชา และคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา ต้องรีบยกพลเปิดเวทีปราศรัยที่ทำการสหกรณ์การเกษตร อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 13 ก.พ.2566 

สาเหตุที่ต้องรีบไปที่ อ.บางปลาม้า เพราะมีกระแสข่าวว่า พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จะส่ง ชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ น้องชาย ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 2 ลง ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 1 แข่งกับ สรชัด สุจิตต์ ส.ส.สุพรรณบุรี เจ้าของพื้นที่เดิม

ว่ากันว่า หนูนา-กัญจนา ได้ปราศรัยโต้ตอบนักการเมืองบางคนอย่างเผ็ดร้อน และบอกเล่าถึงเรื่องมารยาททางการเมือง

วันที่ 14 ก.พ.2565 ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ว่า เคยถูกนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เชิญไปทานข้าวในช่วงที่ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อทาบทามให้ย้ายพรรค ซึ่งตนปฏิเสธ พร้อมบอกว่าไปไม่ได้เพราะสุพรรณบุรี ต้องชาติไทยพัฒนาเท่านั้น

กรณีของน้องชาย-ชาญชัย ประเสริฐสุวรรณนั้น ณัฐวุฒิบอกว่า ไม่ได้ติดต่อกับน้องชายมานานแล้ว ไม่รู้ว่าน้องชายจะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร ไม่เกี่ยวกัน

ปมเก่าเล่าใหม่

การเลือกตั้งสมัยที่แล้ว วราวุธ ก็กุมขมับ เพราะเกิดศึกคนกันเอง ทั้งตระกูล ประเสริฐสุวรรณ รวมทั้งกรณีประภัตร-จองชัย ร้อนถึงคุณหญิงแจ่มใส ต้องวิ่งมาช่วยเคลียร์ปัญหาสองสามตระกูลดังกล่าว

เนื่องจากการเลือกตั้ง ส.ส.สุพรรณบุรี ปี 2562 จำนวน ส.ส.ลดลง จาก 5 คนเหลือ 4 คน จึงมีปมขัดแย้ง เริ่มจากมีข่าว ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ อาจจะต้องขยับขึ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ณัฐวุฒิ จึงจูงมือน้องชาย ชาญชัย ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และพาคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สมัยที่เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

ต่อมา คุณหญิงแจ่มใสต่อสายพูดคุยกับณัฐวุฒิ จึงทำให้ณัฐวุฒิ ทิ้งพรรคเพื่อไทยกลับพรรคชาติไทยพัฒนาแต่น้องชาย ชาญชัย ไม่กลับ และเลือกไปสวมเสื้อพรรคไทยรักษาชาติ ลงสมัคร สส.สุพรรณบุรี เขต 1 (พรรค ทษช.ถูกพรรค ก่อนวันเลือกตั้ง)

 ชาญขัย ประเสริฐสุวรรณ สมัยสวมเสื้อพรรคไทยรักษาชาติชาญขัย ประเสริฐสุวรรณ สมัยสวมเสื้อพรรคไทยรักษาชาติ

ชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ เคยเป็น สส.สุพรรณบุรี ครั้งแรก หลังจากพรรคชาติไทยถูกยุบ ชาญชัยจึงได้ลงเลือกตั้งซ่อมแทนวราวุธ ศิลปอาชา ช่วงต้นปี 2552

ปี 2554 ชาญชัยลงสมัคร สส.สุพรรณบุรี เขต 2 แทนพี่ชาย ณัฐวุฒิ ในสังกัดพรรค ชทพ. และได้รับเลือกเป็น ส.ส.อีกสมัย

ทายาทหมอบุญเอื้อ

ตระกูล ประเสริฐสุวรรณมีฐานเสียงอยู่ใน อ.บางปลาม้า โดยหมอบุญเอื้อได้สร้างผลงานให้ชาวสุพรรณฯมากมาย ก่อนส่งต่อมรดกการเมืองให้ลูกชาย

หมอบุญเอื้อ หรือ บุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ เป็นคนบางปลาม้า จบโรงเรียนทหารเสนารักษ์ จึงมาเปิดคลินิกวิริยะการแพทย์ ช่วยเหลือชาวบ้านโดยไม่คำนึงถึงต้นทุนยา

หลังจากนั้น หมอบุญเอื้อ ลงสมัคร สจ.สุพรรณฯ เขต อ.บางปลาม้า และควง อภัยวงศ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชวนลงสมัคร ส.ส.ปี 2500 ก็ได้เป็น สส.สุพรรณฯ และเป็นผู้แทนมายาวนานนับ 10 สมัย

เลือกตั้ง 4 เมษายน 2519 หมอบุญเอื้อ ย้ายจากพรรคธรรมสังคม มาอยู่พรรคชาติไทย ได้โทรศัพท์ไปชวนคหบดีชื่อดัง บรรหาร ศิลปอาชา สมัครผู้แทนฯเป็นคนแรกๆ ประจวบกับบรรหารเป็นเพื่อนไพบูลย์ พานิชชีวะ ที่สนิทกับ พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร บรรหารจึงตัดสินใจเข้าพรรคชาติไทย

นับจากนั้นมา พื้นที่ทางการเมืองในสุพรรณฯ ก็แบ่งกันชัดเจน 4 บ้านใหญ่คือ อ.เมืองสุพรรณฯ ตระกูลศิลปะอาชา , อ.บางปลาม้า ตระกูลประเสริฐสุวรรณ , อ.ศรีประจันต์ ตระกูลโพธสุธน และ อ.เดิมบางนางบวช ตระกูลเที่ยงธรรม

เลือกตั้งครั้งหน้า ณัฐวุฒิ-ชาญชัย แห่งตระกูล ประเสริฐสุวรรณ จะต้องแยกทางกันหรือไม่ ก็รอดูการเปิดตัวผู้สมัคร สส.สุพรรณบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ

คอลัมน์ท่องยุทธภพ  โดย ขุนน้ำหมึก

มือขวา ‘ประวิตร’ จับมือ ‘ซ้อเจน’ สางแค้นเมืองกาญจน์

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/542920

14 ก.พ. 2566

มือขวา 'ประวิตร' จับมือ 'ซ้อเจน' สางแค้นเมืองกาญจน์

ผ่าสมรภูมิกาญจนบุรี ‘ประวิตร’เช็คบิล 4 ส.ส.แปรพักตร์ ส่งมือขวา พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ จับมือ ‘ซ้อเจน’ ลูกสะใภ้เสี่ยฮุก ยึดที่มั่น 5 ที่นั่งชายแดนตะวันตก

สงครามเมืองกาญจน์ ประวิตร ตามเช็คบิล 4 ส.ส.แปรพักตร์ ส่งมือขวา พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ จับมือ ซ้อเจน ลูกสะใภ้เสี่ยฮุก ยึดชายแดนตะวันตก

เดิมที  ซ้อเจน วางแผนจะออกจาก ปชป.ไปเพื่อไทย แต่คนสนิท ประวิตร ดึงกลับมาจัดทีม พปชร.เมืองกาญจน์ พร้อมกองหนุนบ้านป่ารอยต่อฯ

ค่ำวันที่ 13 ก.พ.2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยกทัพมาเปิดปราศรัยใหญ่ เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี ทั้ง 5 เขต ที่บริเวณเกาะรัตนกาญจน์ ตรงข้ามสกายวอล์ค กาญจนบุรี

ฝ่ายจัดการสถานที่และเตรียมมวลชนเข้าฟังการปราศรัยนั้น กำกับดูแลโดยพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกลาโหม คนสนิทของ พล.อ.ประวิตร

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ 5 คน ประกอบด้วยเขต 1 จีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ อดีตผู้ว่าฯกาญจนบุรี ,เขต 2 ชูเกียรติ จีนาภักดิ์ ส.อบจ.กาญจนบุรี เขต อ.ท่าม่วง, เขต 3 พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ อดีต ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี ,เขต 4 ลำยอง ยิ้มใหญ่หลวง ส.อบจ.กาญจนบุรี เขต อ.บ่อพลอย และเขต 5  ประเทศ บุญยงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทองผาภูมิ

ส่วนผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อคือ ซ้อเจน-ศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี ที่ย้ายมาจากพรรค ปชป.

ถ้าจำกันได้ ปลายปี 2564 พล.อ.ประวิตร เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ในตอนนั้น พรรค พปชร. มี ส.ส.กาญจนบุรี 4 คนคือ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ,สมเกียรติ วอนเพียร ,ธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ และอัฏฐพล โพธพิพิธ

ในวันนั้น พล.อ.ประวิตร เปิดตัว พลอย ธนิกุล เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 3 ซึ่งเป็นเขตที่พรรค พปชร. ไม่มี ส.ส.

ข้ามมาปลายปี 2565 ปรากฏว่า 4 ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ ยกทีมย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย แถมลูกเลี้ยงกำนันเซี้ย ชิ่งไปซบพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร ถึงกับจุกพูดไม่ออก

แม่ทัพเมืองกาญจน์

โชคดีที่ ประวิตร มีลูกน้องคนสนิทอย่าง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัด กระทรวงกลาโหม เคยรับราชการอยู่ที่ค่ายสุรสีห์ แถมมีธุรกิจและบ้านพักอยู่ที่ตัวเมืองกาญจน์ด้วย จึงมอบให้จัดทีมใหม่

พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ณัฐ แม่ทัพเมืองกาญจน์ พรรคพลังประชารัฐพล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ณัฐ แม่ทัพเมืองกาญจน์ พรรคพลังประชารัฐ
 

พล.อ.ณัฐ จับคู่ จีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการเมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว เข้าไปพูดคุยกับ เสี่ยสรรค์-รังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี จนได้ข้อสรุปร่วมกัน

ทำไม พล.อ.ณัฐ จึงมากบารมีในเมืองกาญจน์ คำตอบคือ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ โตจาก พล.ร.2 รอ. บูรพาพยัคฆ์ แต่ไปเติบใหญ่ที่ พล.ร.9 กาญจนบุรี ก่อนขึ้นเป็นปลัดกลาโหม

สำหรับเมืองกาญจน์ ถือว่าเป็นบ้านหลังที่สองของ พล.อ.ณัฐ เนื่องจากเคยเป็นทั้งผู้บังคับการจังหวัดทหารบกกาญจนบุรี หรือมณฑลทหารบกที่ 17 ค่ายสุรสีห์ และผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9)

พล.อ.ณัฐ เคยตะลุยสมรภูมิรบมาโชกโชน แต่สำหรับสมรภูมิเลือกตั้ง คงเป็นครั้งแรกที่ต้องลงบัญชาการเต็มตัว เพื่อสางแค้นให้นายประวิตร

ศึกใหญ่ซ้อเจน

แค้นลึก ประวิตร รู้สึกไม่พอใจ 4 ส.ส.ที่ทิ้งบ้านป่าฯไปอยู่บ้านใหญ่บุรีรัมย์ จึงฝากความหวังไว้กับ ซ้อเจน และเสี่ยสรรค์ ทีมบ้านใหญ่ชายแดนไทย-พม่า

ศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ เป็นคนนครศรีธรรมราช มาแต่งงานกับ รังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ลูกชายเสี่ยฮุก พ่อค้าไม้ชายแดนไทย-พม่า อ.สังขละบุรี

ปี 2554 ซ้อเจนลงสนามการเมืองระดับชาติครั้งแรก ในสีเสื้อ ปชป. ซึ่งตอนนั้น กำนันเซี้ย ประชา โพธิพิพิธ ยังเป็นแม่ทัพ ปชป.เมืองกาญจน์

หลังกำนันเซี้ยหายตัวไป ปชป.เมืองกาญจน์ก็เหมือนแพแตก ลูกชายกำนันเซี้ยแยกไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ก่อนจะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งใหม่

เข้าใจว่า เสี่ยสรรค์-ซ้อเจน จะดูแลโดยตรงคือเขต 5 ที่คว้าตัว ประเทศ บุญยงค์ นายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ มาลงสนาม

หากพรรคพลังประชารัฐเมืองกาญจน์ ประสบชัยชนะ ก็ส่งผลดีแก่รังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ที่จะกลับไปทวงเก้าอี้นายก อบจ.กาญจนบุรี สมัยหน้า

สงครามเลือกตั้งที่ชายแดนตะวันตกเที่ยวนี้ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และเพื่อไทยต่างส่งผู้สมัครเกรด A เข้าห้ำหั่นกัน โค้งสุดท้ายวัดกันที่กระสุนใครเข้าเป้ามากกว่ากัน

เดินสองขา ‘ชนม์สวัสดิ์’ ชูท้องถิ่นล้อมปากน้ำ สกัดแดง-ส้ม

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/542885

13 ก.พ. 2566

เดินสองขา 'ชนม์สวัสดิ์' ชูท้องถิ่นล้อมปากน้ำ สกัดแดง-ส้ม

ไม่พึ่งกระแสลุงตู่ ‘ชนม์สวัสดิ์’ สู้ด้วยยุทธศาสตร์ท้องถิ่นล้อมเมือง สกัดพลังสีแดง-สีส้ม เรื่องลูกสาวเสื้อสีน้ำเงิน กับกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า เลือกคนละแบบ

บ้านใหญ่ปากน้ำ ชนม์สวัสดิ์ กุมยุทธศาสตร์ท้องถิ่นล้อมเมือง สู้พลังสีแดง-สีส้ม แยกเรื่องลูกสาวเสื้อสีน้ำเงิน ออกจากแผนยึดเก้าอี้สส. 8 ที่นั่ง

สมรภูมิปากน้ำสมัยหน้า ชนม์สวัสดิ์ ในนามกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ต้องพิสูจน์ว่า บ้านใหญ่ยืนยงด้วยลำแข้งตัวเอง ไม่พึ่งกระแสลุงตู่

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ตกเป็นข่าวกรณีคลิปรัฐมนตรีกลุ่มปากน้ำ พูดอะไรบางอย่างในงานเลี้ยงกลุ่มปิด เรียกเสียงฮือฮาไปทั้งวงการเมือง

ในคลิปนั้น ปรากฏภาพและเสียงของ สุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ขึ้นเวทีพูดคุยกับกลุ่มชาวบ้านแถว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่ไปร่วมงานมองมุมไหนหัวใจเดียวกัน ที่ศูนย์การประชุมของเอกชน แถวจังหวัดชายทะเลภาคตะวันออก


เนื่องจากเป็นงานปิด รมช.สุนทร ก็พูดตรงๆว่า การเลือกตั้งสมัยหน้า มีบัตร 2 ใบ ขอให้เลือกผู้สมัครสส.ระบบเขต กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า และเลือกบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เพราะเพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม เป็นผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อพรรคดังกล่าว

มีข้อน่าสังเกตว่า รัฐมนตรี และ สส.สมุทรปราการ ในซุ้มบ้านใหญ่อัศวเหม จะเน้นย้ำคำว่า กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า มากกว่าพรรคพลังประชารัฐ

เรื่อง 2 ครอบครัว

กรณีของเพลง-ชนม์ทิดา ลูกสาวของ ชนม์สวัสดิ์เป็นเรื่องที่รับรู้กันมานานแล้ว ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็เปิดตัวในฐานะผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ อย่างเอิกเกริก

ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2565 อนุทิน ชาญวีรกูล โพสต์ภาพในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว Anutin Charnvirakul ในภาพนั้น มีเสี่ยเอ๋-ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม พร้อมกับลูกสาวเพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม ส่วนอีกฝั่งหนึ่งคือ อนุทิน กับลูกชาย เป๊ก-เศรณี ชาญวีรกูล วันนั้น เสี่ยเอ๋ และเสี่ยหนู บอกว่า มีแต่คุยเรื่องการแต่งงานของน้องเพลง-น้องเป๊ก ไม่มีเรื่องการเมือง



วันที่ 16 ธ.ค.2565 อนุทินเปิดตัว ชนม์ทิดา อัศวเหม เลขานุการนายก อบจ.สมุทรปราการ ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยพ่อเอ๋-แม่ตู่ ไฟเขียวผ่านตลอด

อนุทินบอกว่า เพลง-ชนม์ทิดา เปรียบเสมือนลูกสาวของตน ซึ่งน้องเพลง จะเป็นผู้สมัครสส.แบบบัญชีรายชื่อ และติดตามตนลงพื้นที่ไปทั่วประเทศ เพื่อเก็บแต้มปาร์ตี้ลิสต์



ท้องถิ่นล้อมเมือง

ชนม์สวัสดิ์ เรียนรู้ความปราชัยในสนาม สส.มาหลายสมัย จึงเน้นการสร้างท้องถิ่นให้แข็งแกร่ง เพื่อขยายฐานมวลชน ในนามกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า มีทั้ง ส.ส. และผู้บริหารท้องถิ่น ทั้ง อบจ.สมุทรปราการ ,เทศบาลนครสมุทรปราการ ,เทศบาลตำบล และ อบต.หลายแห่ง

สำหรับผู้นำท้องถิ่นในสายเครือญาติอัศวเหม ได้แก่ นันทิดา แก้วบัวสาย ภรรยาของชนม์สวัสดิ์ นายก อบจ.สมุทรปราการ และประภาพร อัศวเหม ภรรยาของพูลผล อัศวเหม (พี่ชายชนม์สวัสดิ์) นายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ

อัครวัฒน์ อัศวเหม หลานชายของวัฒนา เป็นแม่ทัพปากน้ำ ดูแล สส.สมุทรปราการ พรรค พปชร. ที่มีสส. 6 คน แยกเป็น สส.เขต 5 คน และบัญชีรายชื่อ 1 คน

การเลือกตั้งครั้งต่อไป สมุทรปราการ จะมีเพิ่มจาก 7 เป็น 8 เขต โดยบ้านใหญ่ปากน้ำ ในสีเสื้อ พปชร. ได้จัดการวางตัวผู้สมัคร สส.ครบแล้ว ส่วนใหญ่เป็น สส.ปัจจุบัน

เขต 1 อัครวัฒน์ อัศวเหม ส.ส.สมุทรปราการ ,เขต 2 ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ ,เขต 3 ภริม พูลเจริญ สส.สมุทรปราการ, เขต 4 จาตุรนต์ นกขมิ้น ลูกชายทรงชัย นกขมิ้นนายก อบต.ราชาเทวะ

เขต 5 กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ ,เขต 6 ฐาปกรณ์ กุลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ, เขต 7 ต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเขต 8 แสน บานแย้ม ที่ปรึกษา รมช.เกษตรและสหกรณ์ (สุนทร ปานแสงทอง)

คู่แข่งสำคัญของกลุ่มบ้านใหญ่ปากน้ำ คงหนีไม่พ้นพรรคเพื่อไทย ที่นำโดย สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ และประชา ประสพดี พร้อมกับพรรคก้าวไกล ที่เปิดตัวครบทั้ง 8 เขตไปแล้ว

ศึกเลือกตั้งปี 2566 ในสนามปากน้ำ จะเป็นบทพิสูจน์ความขลังของบ้านใหญ่อัศวเหม เฉพาะ สส.เขต จะฝ่ากระแสแลนด์สไลด์ได้หรือไม่

อุ้มบ้านใหญ่สุราษฎร์ ‘ประยุทธ์’ รุกใหญ่ กลัวพ่าย ‘ปชป.’

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/542839

13 ก.พ. 2566

อุ้มบ้านใหญ่สุราษฎร์ 'ประยุทธ์' รุกใหญ่ กลัวพ่าย 'ปชป.'

จับตาหาเสียงเมืองสุราษฎร์ “ประยุทธ์” ฉวยจังหวะงานว่าวไชยา อุ้มลูกสาวบ้านใหญ่ข้ามเขตมาชนแชมป์ผูกขาด “ปชป.” ศึกนี้เหนื่อย ตระกูลพริ้งศุลกะ สู้ไม่ถอย

ตะลุยเมืองสุราษฎร์ “ประยุทธ์” ฉวยจังหวะงานว่าวไชยา หาเสียงอุ้มลูกสาวบ้านใหญ่ พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว หวังล้มแชมป์ผูกขาด “ปชป.” 

ตีเหล็กตอนร้อน “ประยุทธ์” เรตติ้งพุ่ง แต่ “ปชป.” เรตติ้งไม่ตก เฉพาะสนาม อ.ไชยา ลูกสาวกำนันศักดิ์ ลุ้นเหนื่อย เจอลูกชาย ส.ส. 7 สมัย  

วันจันทร์ที่ 13 ก.พ.2556 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม เดินทางไปปฏิ บัติราชการในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่อำเภอไชยา และปัญหาที่ดินทำกิน 

ช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมว่าวสุราษฎร์ธานี บริเวณหาดนายอำเภอ อ.ไชยา ซึ่งจังหวะนี้ คงเป็นเรื่องการหาเสียงทางอ้อม เหมือนหลายครั้งที่เดินทางไปตรวจราชการต่างจังหวัดในช่วงนี้

ทำไมต้องเป็น อ.ไชยา เรื่องนี้หาคำตอบได้ไม่ยาก เพราะกำนันศักดิ์-พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฏร์ธานี  วางตัวลูกสาว ลงสมัคร ส.ส.สุราษฏร์ฯ เขต อ.ไชยา และมีเดิมพันสูง เพราะคู่แข่งเป็นลูกชาย นิภา พริ้งศุลกะ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ 7 สมัย

คำว่า ลูกใต้โคน หมายถึงลูกไม้หล่นใต้ต้น กำนันศักดิ์ใช้เป็นเวิร์ดดิ้งหาเสียงสำหรับอนงค์นาถ จ่าแก้ว เปรียบเช่นลูกใต้โคน

ลูกใต้โคน

“ประยุทธ์” ตอบแทนบ้านใหญ่เมืองร้อยเกาะ ที่กระโดดเข้ามาหนุนตัวเอง สานฝันนายกฯอีกสมัย อีกด้านหนึ่ง เมืองร้อยเกาะคือ ที่มั่นใหญ่ของ “ปชป.” 

พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว เป็นกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นภาคใต้ชุดแรก ๆ ที่มาเปิดตัวกับพรรค รทสช. เพราะโดยส่วนตัวกำนันศักดิ์ มีความนิยมชมชอบ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

หลังกำนันศักดิ์ ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.สุราษฎร์ฯ ก็ได้มีการติดต่อขอเข้าพรรคพลังประชารัฐ ผ่านทาง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สมัยเป็นเลขาธิการพรรค ภายหลัง ร.อ.ธรรมนัส ออกจากพรรค พปชร. กำนันศักดิ์จึงถอยออกมา 

กระทั่ง ชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร มาชวนไปหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ในสีเสื้อ รทสช. กำนันศักดิ์ ก็ไปร่วมขบวนทันที

กำนันศักดิ์ วางตัวลูกสาว แจง-อนงค์นาถ จ่าแก้ว ลงสมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 6 ที่ต้องเจอ ส.ส.เชน-ธีรภัทร พริ้งศุลกะ ส.ส.สุราษฎร์ฯ 2 สมัย พรรค ปชป.

เหตุที่กำนันศักดิ์ เลือกเขต 6 เพราะมีลูกเขยชื่อ เกรียงศักดิ์ สินธวาชีวะ นายก เทศ มนตรีตำบลตลาดไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ฯ เป็นฐานเสียง จึงตัดสินใจให้ลูกสาว อนงค์นาถ ลงสนามเขตนี้

ส.ส.ลูกที่

คนไชยากำลังเฝ้าจับตามอง “บ้านใหญ่” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว คน อ.กาญจนดิษฐ์ แต่มีลูกเขย คน อ.ไชยา จะปั้นลูกสาวให้เป็น ส.ส.ได้หรือไม่


พูดถึง นิภา พริ้งศุลกะ เป็นผู้แทนขวัญใจชาวไชยา และอำเภอใกล้เคียง เพราะคลุกคลีอยู่กับกลุ่มสตรี และกลุ่มแม่บ้าน ไม่เคยทิ้งฐานเสียง

ก่อนเล่นการเมือง นิภา มีต้นทุนที่ดีคือ ปู่โชติ วิชัยดิษฐ์ เป็น ส.ส.เก่า และมีพ่อเป็นนายอำเภอดีเด่นของคนไชยา 

ปี 2534 นิภาลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาล และเดือน มี.ค.2535 นิภาลงสมัคร ส.ส.สุราษฎร์ฯ พรรค ปชป. และได้เป็น ส.ส.ติดต่อกันมา 7 สมัย

ปี 2554 นิภาให้ลูกชาย ธีรภัทร พริ้งศุลกะ ลงสมัคร ส.ส.สุราษฎร์ฯ ส่วนตัวเองขยับขึ้นบัญชีรายชื่อ ซึ่งธีรภัทร เป็น ส.ส.เมืองร้อยเกาะ มาแล้ว 2 สมัย

ปัจจุบัน เชน-ธีรภัทร ใช้คำขวัญประจำตัวคือ ส.ส.บ้านเรา ลูกหลานเรา ขายความเป็นลูกที่(เจ้าของพื้นที่) เพราะรู้ดีว่า คู่แข่งมาจากต่างถิ่น 

  ส.ส.เชน และบัญญัติ บรรทัดฐาน แม่ทัพใหญ่ ปชป.ส.ส.เชน และบัญญัติ บรรทัดฐาน แม่ทัพใหญ่ ปชป.

เขตการเลือกตั้งที่ 6 ประกอบด้วย อ.ไชยา อ.ท่าชนะ อ.ท่าฉาง อ.วิภาวดี และ อ.คีรีรัฐนิคม (บางตำบล) มีตัวเลขที่น่าสนใจ เลือกตั้งปี 2554 ธีรภัทร พริ้งศุลกะ  ได้ 75,428 คะแนน แต่ปี 2562 ธีรภัทรได้ 41,877 คะแนน 

สมัยที่แล้ว คู่แข่งของธีรภัทรคือ ภูมิ เทือกสุบรรณ พรรครวมพลัง หลานชายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ได้แค่ 17,620 คะแนน


การเลือกตั้งครั้งต่อไป เป็นศึกใหญ่ของตระกูลพริ้งศุลกะ เมื่อเจอทีมบ้านใหญ่กำนันศักดิ์ และกระแสลุงตู่รอบใหม่

คอลัมน์ … ท่องยุทธภพ              โดย … ขุนน้ำหมึก

ส่องอยุธยา ภท.ทางโล่ง’ซ้อสมทรง’คล้ายเปิดดีล’อุ๊งอิ๊ง’

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/542822

ขุนน้ำหมึก

12 ก.พ. 2566

ส่องอยุธยา ภท.ทางโล่ง'ซ้อสมทรง'คล้ายเปิดดีล'อุ๊งอิ๊ง'

ผ่าสมรภูมิอยุธยา “ซ้อสมทรง”แม่ทัพ ภท. มีลูกเขยอยู่ในก๊วน“อุ๊งอิ๊ง” คนกังขา พท.ส่งเฮียอ๋า อดีต ส.ส.อาวุโส ข้ามฟากจาก อ.เสนา มาสู้หลานสาวบ้านใหญ่วังน้อย

ส่องสนามอยุธยา “ซ้อสมทรง” คล้ายมีดีลลับ“อุ๊งอิ๊ง” ค่าย พท.จึงส่งจอมพเนจร จากเสนาข้ามฟากมาวังน้อย สู้หลานสาวบ้านใหญ่ ค่าย ภท.

บ้านใหญ่“ซ้อสมทรง” โตมาจากค่ายทักษิณ แถมป๋อม-ปรีชาพล ลูกเขยยังอยู่ในก๊วนเพื่อน “อุ๊งอิ๊ง” ประเมินว่า อยุธยาไม่แลนด์สไลด์

สนามเลือกตั้ง จ.พระนครศรีอยุธยา พรรคภูมิใจไทย โดยการนำของซ้อสมทรงหรือสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.อยุธยา และเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.อยุธยา ดูจะมีความพร้อมมากกว่าทุกพรรค

สำหรับพรรคเพื่อไทย ยังไร้แม่ทัพใหญ่ หลัง วิทยา บูรณศิริ อดีต ส.ส.อยุธยา และอดีต รมว.สาธารณสุข เสียชีวิต ดังนั้น วัดกันตัวต่อตัว ทั้ง 5 เขต พบว่าค่าย ภท.อาจกวาดไปถึง 4 เขต และค่าย พท.ก็มีหวังแค่เขตเดียว

เขต 1 (อ.เมืองอยุธยา) เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.อยุธยา เจอหน้าใหม่อย่างเสี่ยก่อง-อัณณพ อารีย์วงศ์สกุล เจ้าของตลาดน้ำอโยธยา พรรค พท.

เขต 2 (อ.มหาราช อ.ท่าเรือ) นพ ชีวานันท์ ส.ส.อยุธยา ที่ย้ายจากพรรค พท.ไปพรรคสีน้ำเงิน ชน สุรเชษฐ์ ชัยโกศล พรรค พท. ที่ย้ายมาจากเขต 1

เขต 3 (อ.วังน้อย อ.อุทัย)  ซ้อสมทรง ส่งหลานสาว พิมพฤดา ตันจรารักษ์ เจอจอมเก๋า องอาจ วชิรพงศ์ อดีต ส.ส.อยุธยา ที่กลับมาสวมเสื้อพรรค พท.อีกหน

เขต 4 (อ.บางปะอิน) สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ส.ส.อยุธยา ลูกชายซ้อสมทรง เจอ อาทิตย์ ภาคอินทรีย์ ส.อบจ.อยุธยา อ.บางปะอิน ตัวแทนของวิทยา บุรณศิริ พรรค พท.

เขต 5 (อ.เสนา อ.ลาดบัวหลวง) ประดิษฐ์ สังขจาย ส.อบจ.อยุธยา เขต อ.เสนา พรรค ภท.ท้าชิงแชมป์ จิรทัศ ไกรเดชา ส.ส.อยุธยา พรรค พท.

ลูกเขยก๊วนอุ๊งอิ๊ง

ลึก ๆ แล้ว “ซ้อสมทรง” ยังมีสายสัมพันธ์กับคนแดนไกล ผ่านลูกเขยที่อยู่ในกลุ่มเพื่อน “อุ๊งอิ๊ง” แต่ความจำเป็นทางการเมือง ซ้อสมทรงจึงจับมือกับเกื้อกูลในเสื้อสีน้ำเงิน

ซ้อสมทรง มีลูกชายหญิง 6 คน และมี 5 คน เป็นนักการเมือง ได้แก่สมศรี พันธ์เจริญวรกุล นายกเทศมนตรีตำบลลำตาเสา อ.วังน้อย 

สุวิมล พันธุ์เจริญวรกุล อดีต ส.ส.อยุธยา พรรคไทยรักไทย และ อดิศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รองนายก อบจ.อยุธยา

พงษ์ปณต พันธ์เจริญวรกุล อดีต ส.อบจ.อยุธยา เขต อ.วังน้อย และสุรศักดิ์  พันธ์เจริญวรกุล ส.ส.อยุธยา 

ส่วน นภัสวรรณ พันธ์เจริญวรกุล ลูกสาวคนสุดท้องไม่เล่นการเมือง แต่เธอแต่งงานกับ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ลูกชายของเสริมศักดิ์-ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช

แม้วันนี้ ป๋อม-ปรีชาพล จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ในฐานะสมาชิกกลุ่มเพื่อนอุ๊งอิ๊ง ป๋อมยังเดินสายไปกับอุ๊งอิ๊งทุกเวทีหาเสียง

ปี 2566 ซ้อสมทรง หวังจะปั้นหลานสาว พิมพฤดา ตันจรารักษ์ (ลูกสาวสมศรี พันธ์เจริญวรกุล และเอนก ตันจรารักษ์ ประธานสภา อบจ.อยุธยา) ให้เป็น ส.ส.อยุธยา อีกคน

เสือเฒ่า-สิงห์หนุ่ม

สำหรับเขต อ.วังน้อย “ซ้อสมทรง” เชื่อว่า หลานสาวน่าจะได้เป็น ส.ส.ป้ายแดง เนื่องจากคู่แข่ง ไม่แกร่ง

พรรค พท. ส่งเฮียอ๋า-องอาจ วชิรพงศ์ อดีต ส.ส.อยุธยา เจ้าของโรงงานเส้นหมี่เก่าแก่ของอยุธยา ซึ่งสมัยที่แล้ว เฮียอ๋า สวมเสื้อพรรค พปชร. พ่ายแพ้แก่ จิรทัศ ไกรเดชา อดีต ส.อบจ.อยุธยา เขต อ.ลาดบัวหลวง พรรค พท.

ส่วนผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ แม็ค-ชณทัต ปัทะมะภูวดล ได้รับแรงหนุนจากลุงป้อม พรรค พปชร.ให้ลงสนามเขต 3 ก็ลงพื้นที่ต่อเนื่อง ด้วยประสบการณ์ที่เคยลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท.สมัยที่แล้ว

แม็ค-ชณทัต ประธานฟุตบอลอโยธยา ยูไนเต็ดอาคาดามี อ.บางซ้าย ได้ผลิตนักเตะดาวรุ่งป้อนสโมสรใหญ่ พาเยาวชนห่างไกลยาเสพติด จึงเป็นที่รู้จักของชาวอยุธยา 

  ลุงป้อม หนุนแม็ค ชณทัต ลงชนหลานสาวซ้อสมทรง ลุงป้อม หนุนแม็ค ชณทัต ลงชนหลานสาวซ้อสมทรง

กรณีเฮียอ๋า องอาจ เคยเป็น ส.อบจ.อยุธยา เขต อ.เสนา 4 สมัย สภากาแฟแถววังน้อย รู้สึกแปลกใจที่พรรค พท. ส่งเฮียอ๋าข้ามฟากมาลงเขต อ.วังน้อย เหมือนยกธงขาว ตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม 
    
 

คอลัมน์ … ท่องยุทธภพ             โดย … ขุนน้ำหมึก

สะท้านเมืองชล ‘จิรวุฒิ’ แดงตัวจริง สู้ ‘สนธยา’ แดงมีเส้น

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/542753

11 ก.พ. 2566

สะท้านเมืองชล 'จิรวุฒิ' แดงตัวจริง สู้ 'สนธยา' แดงมีเส้น

เมืองชลคนเสื้อแดง ‘จิรวุฒิ” สิงห์ป่าอ้อย ยืนข้างเสี่ยเฮ้ง สู้บ้านใหญ่ ‘สนธยา’ เฮียเป้ามองไกลไปถึงศึกท้องถิ่นสมัยหน้า ขอท้ารบตระกูลคุณปลื้มอีกครั้ง

ระเบิดศึกเมืองชล จิรวุฒิ สิงห์ป่าอ้อย ยืนข้างเสี่ยเฮ้ง สู้บ้านใหญ่ สนธยา เฮียเป้ารวบรวมคนเสื้อแดง คนรากหญ้า และอดีตคนเพื่อไทยชลบุรีเป็นแนวร่วม 

ศึกนายก อบจ.ชลบุรี หนที่แล้ว จิรวุฒิ เปิดแนวรบชนบ้านใหญ่ สนธยา แม้ว่าพ่าย แต่ก็ยังพร้อมจะสู้ต่อสมัยหน้า 

ปลายปี 2565 เฮียเป้า-จิรวุฒิ สิงห์โตทอง นายกสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี เตรียมเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ตามคำเชิญของมานิตย์ ภาวสุทธิ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี ซึ่งตอนนั้น กำนันมานิตย์เป็นผู้จัดทีมผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี 

นอกจากนี้ เฮียเป้ายังส่ง ปืน สิงห์โตทอง หรือ ชวินไกรวิชญ์ สิงห์โตทอง ลูกชายไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค พท. และทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ที่เสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรค พท. อาทิเช่น นิศามาศ เลาหรัตนาหิรัญ ,รินทิรา วัฒนวงษ์ภิญโญ  และษรกฤต ผลลูกอินทร์

พลันที่บ้านใหญ่ชลบุรี โดยการนำของ สนธยา คุณปลื้ม ได้รับไฟเขียวจากคนแดนไกลเป็นผู้จัดทีม ส.ส.ชลบุรี ส่งผลให้ทีมคนรุ่นใหม่ที่เคยถูกวางตัวไว้ชุดแรก ถูกลอยแพไปโดยปริยาย

เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2566 สนธยา คุณปลื้ม นำทีมบ้านใหญ่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ไปเปิดตัวที่พรรค พท. ฝ่าย ปืน สิงห์โตทอง ลูกชายเฮียเป้า ก็โพสต์เฟซบุ๊คแถลงท่าทีของตระกูลสิงห์โตทอง 

“..ผมจึงขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และเปิดตัวใหม่ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ กับรัฐมนตรี สุชาติ ชมกลิ่น เคียงคู่กับคุณพ่อของผม เพื่อสู้กับบ้านใหญ่”

เมื่อเฮียเป้า จิรวุฒิ ข้ามฝั่งไปอยู่รวมไทยสร้างชาติ ก็ต้องเจอดราม่าเรื่องย้ายฝั่ง ปืน สิงห์โตทอง ดักคอว่า “บ้านใหญ่แค่ย้ายฝั่งก็เป็นประชาธิปไตย คนที่อยู่กับประ ชาธิปไตยมาตลอดแบบผม ย้ายข้างบ้างคงไม่ผิด การเมืองคือการเมือง”

ปืน สิงห์โตทอง ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรีพรรครวมไทยสร้างชาติปืน สิงห์โตทอง ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรีพรรครวมไทยสร้างชาติ

สิงห์ป่าอ้อย

จิรวุฒิ ลูกชายเฮียซุ้ย-ดรงค์ สิงห์โตทอง อดีต ส.ส.ชลบุรีหลายสมัย ได้เข้าร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย มาตั้งแต่ปี 2544 ในวันที่ สนธยา และบ้านใหญ่กำนันเป๊าะยังอยู่พรรคชาติไทย

ปี 2548 กำนันเป๊าะพาลูกชายเข้าพรรคไทยรักไทย ตามคำชวนของทักษิณ ชินวัตร จิรวุฒิ สิงห์โตทอง ก็ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ทรท. ส่วนทีมบ้านใหญ่ ก็ลง ส.ส.เขต ซึ่งในเขต อ.บ้านบึง ก็คือ ส.ส.นิ่ม-สุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ 

เฮียเป้า จิรวุฒิ ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ทรท. พร้อมลูกกำนันเป๊าะ อย่างสนธยา-วิทยา ได้เป็น ส.ส.ชลบุรี พรรคเดียวกัน

เลือกตั้งปี 2550 ทีมบ้านใหญ่กำนันเป๊าะย้ายไปพรรคชาติไทย เฮียเป้าก็ตามไปด้วย ลงสมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต อ.บ้านบึง แต่แพ้ สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ พรรค ปชป.

ช่วงแดงทั้งแผ่นดิน บ้านใหญ่กำนันเป๊าะ ถอนตัวออกจากค่ายทักษิณ เพราะกระแสเสื้อเหลืองชลบุรีมาแรงมาก แต่เฮียเป้า กลับเดินหน้าจัดตั้งขบวนการคนเสื้อแดงเมืองชล

ปี 2554 เฮียเป้าสวมเสื้อพรรคเพื่อไทย ลงสนามก็พ่ายสรวุฒิ พรรค ปชป. ขณะที่บ้านใหญ่กำนันเป๊าะ เลือกทำพรรคตัวเองชื่อพลังชล หลบกระแสเหลือง-แดง

ปี 2562 สนธยา และบ้านใหญ่กำนันเป๊าะ เลือกฝั่ง คสช. แต่เฮียเป้ายังเป็นคนเสื้อแดง และลงสนามในนามพรรค พท. ก็ยังแพ้สรวุฒิอีกสมัย

มองเกมยาว

การเลือกตั้งนายก อบจ.ชลบุรี สมัยที่แล้ว “จิรวุฒิ” เปิดศึกรบกับ “สนธยา” โดยส่งลูกสาว พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ลงชนกับวิทยา คุณปลื้ม กลุ่มเรารักชลบุรี 

ตอนนั้น เฮียเป้าร่วมกับคนเสื้อแดงเมืองชล ตั้งกลุ่มเปลี่ยนชลบุรี ซึ่งตอนหลัง มีคณะก้าวหน้าของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มาสนับสนุน ใช้ชื่อก้าวหน้าเปลี่ยนชลบุรี ส่งจูน-พลอยลภัสร์ ลงสนาม

ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ชลบุรี วิทยา คุณปลื้ม ชนะพลอยลภัสร์ ด้วยผลคะแนนที่ห่างกันพอควร แต่เฮียเป้าไม่สิ้นหวัง เพราะวันนี้ได้เสี่ยเฮ้งเป็นกองหนุน

สรุปว่า วิถีสิงห์ป่าอ้อย ตระกูลสิงห์โตทอง กับบ้านใหญ่กำนันเป๊าะ คงยากที่จะมาเดินร่วมกันได้อีก ซึ่งศึกนายก อบจ.ชลบุรี สมัยหน้า รับรองสนุกแน่