Bready Instantly แซนด์วิชสังขยาชาไทย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

http://www.posttoday.com/travel/restaurant/424618

01 เมษายน 2559 เวลา 11:12 น

Bready Instantly แซนด์วิชสังขยาชาไทย

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

ญี่ปุ่นเขามีเทรนด์แซนด์วิชหวานกันมานมนาน ใช้ขนมปังแซนด์วิชมาประกบคู่กับครีมสดและผลไม้นานาชนิด หั่นเป็นสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยม มองดูผิวเผินคล้ายแซนด์วิชคาวที่เราคุ้นตา แต่หารู้ไม่ว่ารับประทานกันเป็นขนม ของหวานคล้ายกับเค้กจำพวกสตรอเบอร์รี่ช็อตเค้ก หรือเค้กผลไม้ครีมสด มามองดูเมนูขนมปังแบบหวานๆ ที่มีกลิ่นอายไทยของเรา ต้องยกให้เมนูสังขยาที่ขึ้นชื่อ

ผู้เขียนซื้อสังขยาตามร้านขายนมสดร้อน ขนมปังนึ่ง มาเนิ่นนานตั้งแต่เด็กๆ กินจนติดใจต้องยกให้ตรงร้านข้าวต้มปลา ซอยรามคำแหง 24 เพราะกินมาตั้งแต่เล็กๆ ไม่ได้กินร้านนี้มาเป็นสิบๆ ปี ไม่รู้ยังอร่อยเหมือนเดิมไหม อีกร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องขนมปังนึ่งจิ้มสังขยา ต้องยกให้ร้านนมสดร้อน ตรงสะพานเหลือง ว่างเมื่อไร ไปแถวนั้นเป็นต้องแวะกินที่แผงลอยแถวสะพานเหลือง แล้วตบท้ายด้วยโอวัลตินนมสดร้อน คู่กับขนมปังนึ่งจิ้มสังขยา

ช่วงวัยรุ่น เรียนที่เกษตรฯ มีร้านรถเข็น ขายขนมปังโรลยาว ป้ายสังขยาสีเขียวหรือส้มตรงกลาง นึ่งร้อนควันฉุยๆ รู้ทั้งรู้ว่าสังขยาแบบนั้นเต็มไปด้วยแป้งและน้ำตาล มีไข่ไก่ผสมอยู่น้อยมาก แต่ก็ยังกิน เพราะทนกับความหอมนุ่มของขนมปังนึ่งที่สีตัดกับสังขยาไม่ได้จริงๆ

 

มาถึง Bread Ready Instantly ของเรา ผู้เขียนคงต้องขออนุญาตนำสูตรสังขยาที่ทำกินเองที่บ้าน มาแบ่งปันคุณผู้อ่านสักหน่อย เพราะเมื่อลองทำเองแล้ว สังขยาจิ้มขนมปังไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย

สูตรนี้เป็นสังขยาชาไทย ที่อาศัยสีส้มและความหอมของชาไทยยอดนิยม ความหอมของชาไทยที่เข้ากันได้กับกะทิสด หากรู้สึกยุ่งยาก จะหันไปใช้กะทิกล่องแบบ UHT ก็สะดวกและให้รสชาติอร่อยใกล้เคียงกัน ที่สำคัญสังขยาจากกะทิกล่อง ยังเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานกว่ากะทิสดด้วย ถ้าคุณผู้อ่านวางแผนจะทำเก็บไว้สัก 4-5 วัน แนะนำเป็นกะทิกล่องไปเลยจะดีกว่า

ผู้เขียนตั้งใจให้สังขยามีความข้นพอที่จะจิ้มขนมปังแล้วเกาะขึ้นมาไม่หยดแหมะๆ จึงต้องอาศัยแป้งอเนกประสงค์และแป้งข้าวโพดเข้าช่วย นอกเหนือไปจากโปรตีนในไข่ไก่ การใช้แป้งในสังขยา ไม่ได้ผิดอะไรนัก พูดไปแล้วช่วยให้สังขยามีความเนียนละมุนลิ้นมากกว่าการใช้ไข่ไก่ล้วนๆ เสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ต้องใส่แป้งอย่างสมดุลสักหน่อย จึงจะเข้าท่า เลือกใช้แป้งอเนกประสงค์ เพราะ “Look” หรือรูปแบบของสังขยาที่ผู้เขียนต้องการอยากให้มีเนื้อๆ หน่อย ส่วนแป้งข้าวโพดช่วยเรื่องของ “Body” ให้เนียนมาก เรียกว่ามือใหม่หัดทำขนมไม่ต้องกลัวว่าสูตรนี้จะทำให้คุณเสียท่า กวนสังขยาแล้วไม่สำเร็จ เพราะส่วนผสมนี้จะช่วยให้ง่ายขึ้น ขอร้องว่า สูตรนี้จะอร่อย ต้องไม่กดแป้งลงในช้อนเวลาตวง เพราะจะทำให้แป้งเยอะกว่าและสังขยาข้นขึ้น

 

เคล็ดลับในการกวนสังขยา คล้ายกับการทำคัสตาร์ด หรือ Pastry Cream ของฝรั่งเขา คือ ต้องอาศัยความร้อนต่ำๆ ไฟไม่แรง ใช้ไฟสม่ำเสมอ เพื่อให้โปรตีนในไข่ค่อยสุกไปพร้อมกับแป้งที่เราใช้เป็น Thickening ที่ใช้ผสานเนื้อสังขยาให้นวลเนียน ค่อยๆ ส่งกลิ่นหอม ปราศจากกลิ่นคาว ที่สำคัญไม่ทำให้สังขยาเป็น “ลูก” ไม่เนียน เพราะไฟแรงเกินไป ไข่จะยิ่งสุกเป็นไข่กวนก่อนแป้งได้

อีกข้อที่สำคัญ คือ แป้งที่เราใส่ลงไปให้สังขยาเนียน ต้องผ่านจุดเดือด ให้เห็นปุดๆ ที่ไฟอ่อนๆ สัก 5 นาทีขึ้นไป เพื่อให้แป้งสุก 100% สังขยาถึงจะมีรสหอมอร่อย ปราศจากกลิ่นแป้งดิบ ช่วงนี้ต้องเฝ้าระวัง เพราะจะไหม้ได้ง่าย

สูตรนี้ดัดแปลงได้หลายรสชาติอยู่ คั้นน้ำใบเตยให้ได้สัก 3 ส่วน 4 ถ้วย หรือจะเปลี่ยนจากชาไทยเป็นชาฝรั่ง ชาเขียวสามารถปรับเปลี่ยนได้ ขอให้มีของเหลวในสูตรไม่ต่ำกว่า 200 มิลลิลิตร จึงจะพอดีกับแป้งที่ผสมลงไป

ผู้เขียนชอบรับประทานขนมปังสังขยาทั้งแบบจิ้ม และแบบป้ายขนมปังนึ่ง เลยใช้สูตรนี้นำเสนอคุณผู้อ่านให้เลือกรับประทานได้ทั้งสองวิธี หากเป็นแบบจิ้ม ขอให้เติมนมข้นจืดลงไปด้วย คล้ายที่เขาเสิร์ฟกันทั่วไป เพราะจะได้รสชาติอร่อยขึ้นอีกโข ไม่เชื่อต้องลองเอง

 

ส่วนผสมสำหรับสังขยาชาไทย

– ไข่ไก่ 4 ฟอง

– ไข่แดง 1 ฟอง

– น้ำกะทิ UHT 1 1/4 ถ้วย

– น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย

– น้ำเดือด 1 ถ้วย

– ชาไทย 3 ช้อนโต๊ะ

– แป้งอเนกประสงค์ 3 ช้อนโต๊ะ

– แป้งข้าวโพด 1.5 ช้อนโต๊ะ

– เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

– สำหรับแซนด์วิชนึ่ง

– ขนมปังหัวกะโหลกหรือแซนด์วิช

วิธีทำ

ชงชาไทยด้วยน้ำเดือด พักไว้ 5 นาทีกรองออกจะได้ของเหลวประมาณครึ่งถ้วยตวง

ตีไข่ไก่ ไข่แดง และน้ำตาลทรายให้ขึ้นฟูข้นประมาณ 8-10 นาที

ร่อนแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกันพร้อมเกลือป่น

เติมแป้งลงในส่วนผสมของไข่ไก่ ตีให้เข้ากันเติมชาไทยที่กรองไว้ลงไป

เทส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อ กวนที่ไฟอ่อนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมข้นขึ้น รอให้เดือดเบาๆ ประมาณ 3 นาที

ทำให้สังขยาเย็นลงอย่างรวดเร็วในกะละมังอังน้ำแข็ง

สำหรับแซนด์วิช : ทาสังขยาที่ได้ลงบนขนมปังประกบคู่ พักไว้ เวลาจะรับประทานนึ่งที่ไอน้ำจนร้อน

Bready Instantly มิลล์เฟย ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

26 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 11:31 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/418318

Bready Instantly มิลล์เฟย ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

Mille Feuille (มิลล์เฟย) หรือ ใบไม้พันชั้น ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่ง สังเกตจากร้านขนมมากมายมักมีเมนูนี้วางขายอยู่ด้วย เหตุที่เรียกว่า Mille Feuille นั้นมาจากส่วนของแป้งบางกรอบ ที่มองดูน่าจะมาจากความบางกรอบของแป้งที่กลายเป็นสีเหลืองทองจากการอบ คล้ายกับใบไม้ที่ซ้อนกันทับกัน แป้งชนิดนี้ในทางนักทำขนม เรียกว่า Puff Pastry เป็นแป้งสาลีทำขนมปังที่รีดซ้อนกับเนย พับทบไปมาตามแบบแผนจนได้การซ้อนทับกันแบบทวีคูณ นับได้เป็นร้อยๆ ชั้น จะว่าเป็นพันก็อาจจะเกินความจริงไปนิด

แป้ง Puff Pastry ทำขนมได้หลายชนิด ตั้งแต่พายอบ พายกรอบอย่างพายผีเสื้อที่เราเรียกกัน เมื่อรีดให้บางแล้วอบจนกรอบ โรยน้ำตาล ซ้อนกับเพสตรีครีม บางครั้งมีผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สีแดงอย่างสตรอเบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ กลายเป็น Mille Feuille ขนมชั้นสูงที่เขาว่าทำให้อร่อยยากนัก

Mille Feuille ที่อร่อย เวลาเสิร์ฟแป้งต้องกรอบ ครีมต้องหวานกำลังดี หลายๆ ร้านทำทิ้งไว้นานเวลาเอามาเสิร์ฟแป้งนิ่มไม่อร่อย เพราะความชื้นจากครีมซึมลงในแป้ง บางร้านใส่ผลไม้ลงไปแทรกระหว่างครีมกับแป้ง ผลไม้ที่อาจมีน้ำซึมออกมา กลายเป็นเละไปได้

Bready Instantly ฉบับนี้ มีวิธีในการปรับสูตรให้ง่ายขึ้นโดยใช้ “ขนมปังแซนด์วิช” แบบแผ่น รีดให้บางจากนั้นทาเนย โรยน้ำตาล แล้วอบจนกรอบ คล้ายๆ กับขนมปังกรอบที่บางเฉียบ ซ้อนกับคัสตาร์ดครีมที่เบานุ่ม จะสลับชั้นด้วยราสพ์เบอร์รี่หรือสตรอเบอร์รี่ แม้แต่ผลไม้ไทยๆ อย่างกล้วย มะม่วง ก็เข้ากันได้

แผ่นขนมปังกรอบถึงแม้จะไม่ได้ให้สุนทรีย์ในการรับประทานเท่าๆ กับแป้งพัฟเพสตรีเพราะไม่มีชั้นบางเท่า แต่ได้ความกรอบ หอมเนยไม่แพ้กัน ขอเพียงนิดว่าแผ่นขนมปังกรอบทำแล้วเก็บไว้ได้ล่วงหน้าในกล่องพลาสติก ก่อนจะเสิร์ฟหรือรับประทาน จึงนำมาบีบคัสตาร์ดครีมและเติมผลไม้ลงไป ทำให้กรอบอร่อยได้นานกว่า

สามารถใช้เมนูนี้เป็นกิจกรรมสำหรับครอบครัวในวันว่าง เพียงเตรียมทุกอย่างล่วงหน้าไว้ คัสตาร์ดควรแช่เย็นไว้จนกว่าจะใช้เพื่อให้คงความเบานุ่มไม่ละลายเละ แถมยังให้รสชาติที่อร่อยกว่าด้วย

 

Raspberry Mille Feuille

สำหรับขนมปัง

ขนมปังแผ่น 4 แผ่น

เนยจืดนุ่ม 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำขนมปัง

รีดให้ขนมปังให้บางประมาณ 2 มม. หรือบางกว่านี้อีกเล็กน้อย

ทาเนยบางๆ โรยน้ำตาลให้ทั่ว

นำ เข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 C ประมาณ 5-8 นาที หรือจนแผ่นขนมปังเหลือง บางกรอบ พักบนตะแกรงให้เย็นสนิท

สำหรับคัสตาร์ดครีม

นมจืด 1 ถ้วย

น้ำตาลทราย ส่วนที่ 1 2 ช้อนโต๊ะ

ไข่แดง 2 ฟอง

น้ำตาลทราย ส่วนที่ 2 2 ช้อนโต๊ะ

นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ

แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ

เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ

กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (หรือเราใช้เป็นวานิลลาเพส เติมลงไปตอนอุ่นนมได้)

วิปครีมตีขึ้นฟู 1 ถ้วย

เสิร์ฟกับ ไอซิ่ง สตรอเบอร์รี่หรือราสพ์เบอร์รี่สด และซอสที่ชอบ สะระแหน่จิ๋วๆ และเศษคุกกี้เนยบิๆ คล้ายครัมเบิลตกแต่ง

วิธีทำคัสตาร์ดครีม

อุ่นนมและน้ำตาลทรายส่วนที่ 1 ให้เดือดเบาๆ ในชามอีกใบผสมไข่แดงกับนมข้นจืดคนให้เข้ากัน เติมน้ำตาลทรายและแป้งข้าวโพด คนให้เข้ากัน

ตักนมอุ่นลงมาผสมกับส่วนผสมไข่แดง คนให้เข้ากัน จากนั้นเติมกลับลงในหม้อ กวนที่ไฟอ่อนจนเดือดเบาๆ กลายเป็นคัสตาร์ดข้นๆ ยกลงจากเตา เติมเนยจืดและกลิ่นวานิลลาลงไป

คนให้คัสตาร์ดเย็นสนิท จากนั้นตะล่อมกับวิปป์ครีมที่ตีจนตั้งยอดอ่อน (หากชอบเข้มข้น สามารถใช้คัสตาร์ดได้เลย) ตะล่อมไว้ให้คัสตาร์ดเบาขึ้น พักไว้ในตู้เย็นจนกว่าจะใช้วิธีประกอบ

วางแผ่นขนมปังลงเป็นชั้นแรก จากนั้นบีบครีมลงไปให้สวยงามเรียงสตรอเบอร์รี่หั่นเป็นชิ้นบางให้เต็ม หรือวางราสพ์เบอร์รี่ทั้งลูก เรียงให้เต็ม วางแผ่นขนมปังเป็นชั้นที่ 2 ทำ ซ้ำจนมาถึงชั้นบนสุดเป็นขนมปังแผ่นที่ 3

อาจจะวางหรือตกแต่งชั้นบนด้วยวิปครีมหรือครีมคัสตาร์ด วางผลไม้สดโรยไอซิ่งให้ทั่วเพื่อความสวยงาม ตกแต่งด้วยใบมินต์

 

Bready Instantly Crispy Cheesy Stick ชีสยืดเยิ้มชวนให้คนรักชีส “หิวโฮก”

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

19 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 11:34 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/417083

Bready Instantly Crispy Cheesy Stick ชีสยืดเยิ้มชวนให้คนรักชีส “หิวโฮก”

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

ชีสยืดเยิ้มชวนให้คนรักชีส “หิวโฮก” ขึ้นมาได้ เเต่จะทำชีสทอดที่บ้านอาจจะยุ่งยากในบางเวลาที่รีบร้อน เพราะไหนจะต้องหั่นชีส ชุบเเป้ง 3 ขั้นตอน ทั้งเเป้งเเห้ง ไข่ไก่ เเละเกล็ดขนมปัง ต้องรอให้เเข็งเป๊กในช่องเเช่เเข็ง เพื่อให้ส่วนชุบเกล็ดขนมปังคงตัว ก่อนนำลงทอดเพื่อให้ทอดได้ง่ายเเละชีสไม่ละลายออกมาในกระทะทอด ทั้งกระบวนการทำชีสทอดใช้เวลารวมๆ เเล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง ถ้าอยากกินชีสทอด เรียกว่าจะต้องวางเเผนล่วงหน้า เเถมทอดไม่เก่ง ดีไม่ดีอาจเหลือชีสชิ้นกระจ้อยร่อย เพราะที่เหลือละลายลงไปในกระทะเสียหมด อดรับประทาน

ฉบับนี้ Bread Ready Instantly ได้ไอเดียนำเอาเเผ่นขนมปังมาห่อชีสมอสซาเรลล่า จับไปทอดน้ำมันท่วมจนขนมปังเหลืองกรอบ เเผ่นขนมปังทำหน้าที่เป็นเหมือนภาชนะรับประทานได้ ห่อชีสเอาไว้ ค่อยๆ ให้ความร้อนจากการทอดช่วยให้ชีสนุ่มละลาย กัดเข้าไปยืดเยิ้มกำลังดี หรือถ้าไม่อยากอ้วนมากนักจากการทอดน้ำมันท่วม เปลี่ยนวิธีเป็นจี่บนกระทะเคลือบ ใช้เนยเล็กน้อยช่วยให้กรอบเเละหอมไปในตัว ถึงจะไม่กรอบเท่ากับการทอดน้ำมันท่วม เเต่ก็นับว่ากรอบกำลังดี ไม่อมน้ำมันนัก

อยากจะประยุกต์ขึ้นไปอีก อย่างแอบใส่เเฮม ไส้กรอก หรือเบคอนหั่นชิ้นเล็กๆ รวมเข้าไปกับชีส หรือจะเป็นปูอัด ทูน่า ยีเป็นชิ้นเล็ก เพิ่มคุณค่าทางอาหารได้ไม่ยาก เเถมเพิ่มรสชาติอร่อย

ชีสที่เเนะนำให้ใช้ควรเป็นชีสที่ยืดเยิ้มถึงจะอร่อย ที่รับประทานได้ง่าย รสชาติดีไม่รุนเเรงเกินลิ้นคนไทยเห็นจะเป็นชีสมอสซาเรลล่าที่หอม นุ่ม กำลังอร่อย อยากเพิ่มความเจ๋งอาจผสมกับ Cheddar เพื่อความหอมมัน หรือเลือกเป็น Emmental Munster หรือ Gouda ถ้าชอบชีสสไตล์สวิส หรือถ้าเป็นชีสสัญชาติอิตาเลียน ต้องเลือกเป็น Fontina หรือ Provolone หรือตระกูลยืดเยิ้ม อาจใช้ Colby หรือ Monterey Jack ก็เอาอยู่ ยืดถูกใจ

ชีสทอด ยืดๆ เยิ้มๆ เเบบนี้ รับประทาน เปล่าๆ ก็อร่อยเเล้ว หากต้องการซอส เเนะนำเป็น Marinara Sauce ง่ายเเถมวิธีลัด โดยใช้ซอสสปาเกตตีมะเขือเทศกึ่งสำเร็จรูปเเบบขวด มาเพิ่มความหอมอร่อยเเบบไม่ให้ใครรู้เลยว่าเราเอาซอสสำเร็จรูปมาใช้ เพียงเเค่ผัดหอม กระเทียม ให้นุ่มเพิ่มลงไป เติมเครื่องเทศอีกนิด เพียงเเค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟเเล้ว !

Crispy Cheesy Bread Stick

สำหรับขนมปัง

ขนมปังเเผ่น 10 เเผ่น

ชีสมอสซาเรลล่าเเบบขูด 2 ถ้วย

หรือเเบบหั่นเเท่งขนาด 1x1x8 ซม. จำนวน 10 เเท่ง

สมุนไพรอิตาเลียนเเบบเเห้ง 1 ช้อนชา

พริกไทยดำ บดใหม่ๆ

กระเทียมกลีบ

น้ำมันมะกอก หรือเนย (สำหรับเเบบจี่)

น้ำมันพืช (สำหรับเเบบทอด)

วิธีทำ

รีดหรือคลึงขนมปังให้บางลงเล็กน้อย วางชีสลงที่ด้านหนึ่งของขนมปังโรยพริกไทยเเละสมุนไพร เเล้วม้วนขนมปังขึ้นมาให้เเน่น รีดด้านข้างให้เเนบสนิทกันเเล้วกลัดด้วยไม้จิ้มฟัน

วิธีเเบบทอด : ถ้าชอบกรอบทั่วกันทั้งชิ้น ตั้งน้ำมันสำหรับทอดในหม้อเนื้อหนา รอให้น้ำมันร้อนจัดที่ไฟกลาง ทอดให้ขนมปังกรอบเเละเหลืองทองตักขึ้นมาพักไว้บนตะเเกรงเพื่อสะเด็ดน้ำมัน ถูเบาๆ ด้วยกระเทียม

วิธีเเบบจี่ในกระทะ : ตั้งกระทะให้ร้อน เติมน้ำมันมะกอกหรือเนยลงไปเล็กน้อย จี่ขนมปังที่ห่อชีสไว้ทีละข้างจนเหลืองทั่วทุกด้าน ตักขึ้นวางบนตะเเกรง ถูเบาๆ ให้ทั่วด้วยกระเทียม

เสิร์ฟพร้อมกับซอสพิซซ่า

สำหรับซอสพิซซ่า

กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

หอมใหญ่ สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

ใบโหระพาอิตาเลียน หรือจะใช้โหระพาไทยก็ได้ 3-4 ใบ

ซอสมะเขือเทศสำหรับพาสต้าเเบบขวด 1 ถ้วย

น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะสมุนไพรอิตาเลียนเเบบเเห้ง ครึ่งช้อนชา

พริกไทยดำ บดใหม่ๆ เเละเกลือป่นชีสพาเมซาน 1 ช้อนชา

ตั้งกระทะให้ร้อน ผัดหอมใหญ่เเละกระเทียมด้วยน้ำมันมะกอก รอให้นุ่มที่ไฟอ่อนๆ เติมซอสมะเขือเทศลงไป รอให้เดือด ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยดำ สมุนไพรอิตาเลียน เคี่ยวให้งวดลงสักนิดเพื่อให้เป็นซอสข้นๆ

โรยชีสเเล้วเสิร์ฟพร้อม Cheesy Bread Stick

 

Bready Instantly Breakfast Sandwich

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

07 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 11:03 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/414678

Bready Instantly Breakfast Sandwich

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

ตอนใหม่ของเราในสัปดาห์นี้ เป็นซีรี่ส์ที่ผู้เขียนตั้งใจจะทำขึ้นมาเพื่อเอาใจคุณผู้อ่านที่ชอบซื้อขนมปังเเผ่น หรือที่เรียกว่า Sandwich Bread ไว้ติดบ้านขนมปังแซนด์วิชที่เเสนจะธรรมดา มักจะมีบทบาทเเค่ทาเเยมหรือเนย สอดไส้เเซนด์วิชธรรมดาๆ

Bread Ready Instantly ของเรา จึงเป็นซีรี่ส์ที่เกิดจาก Bread ชนิดขนมปังเเผ่นพร้อมใช้ตามชื่อ Ready Instantly อร่อยได้ในพริบตา ขนมปังเเผ่นนี่เเหละ นำมาดัดเเปลงให้เป็นเมนูได้หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ เเล้วแคลอรีต่อเเผ่นไม่ได้มากมายอะไรนัก ไม่เกิน 200-250 แคลอรี/คู่เเซนด์วิช ยังเหลือที่ให้คุณผู้อ่านเพิ่มเติมสิ่งละอันพันละน้อยลงไปได้จนเกิดเป็นอาหารจานด่วนเเต่ไม่ทิ้งความอร่อย น่ารับประทาน เเละที่สำคัญ หน้าตาดูดีพอที่จะอวดชาวบ้านตามสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กได้อย่างไม่อายใคร

สำหรับฉบับเเรก ขอเริ่มเเบบ “เบาะๆ”ด้วยเเซนด์วิชแฮมที่เรานิยมรับประทานกันในตอนเช้า หรือเเม้กระทั่งเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ เเทนที่จะเป็นเป็นเเซนด์วิชธรรมดา จับคู่ขนมปังประกบกับเเฮม เเต่เพิ่มความน่าสนใจโดยการจับมาชุบไข่ทอด กลายเป็น “French Toast” เเบบ Savoury หรืออาหารคาว ที่ใช้ชื่อว่า Breakfast Sandwich จากส่วนประกอบทั้งขนมปัง ไข่ เเฮมเเละนมคล้ายกับอาหารเช้าสไตล์อเมริกัน เพียงเเต่ถูกจับเเต่งตัวเสียใหม่ให้รับประทานได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีวิธีทำที่ท้าท้ายขึ้นอีกหน่อย

ขนมปังที่เลือกมาใช้ได้หลากหลายทั้งขนมปังเเผ่นขาวไปจนถึงโฮลวีต ไม่จำกัดอยู่เเค่ขนมปังเเซนด์วิชเท่านั้น ยังปรับเป็นขนมปังได้เเทบทุกชนิด เเต่ละชนิดจะให้เนื้อสัมผัสเเละชุ่มฉ่ำในเนื้อขนมปังเเตกต่างกันออกไป เพราะชนิดของขนมปังที่มีรูพรุนมากจะดูดซับส่วนผสมของไข่ไก่ได้ต่างกันออกไป

สำหรับส่วนผสมไข่ไก่หรือ Royale ตามหลักการของ French Toast มีไข่ไก่ตีผสมกับนม ปรุงรสให้หอมเข้มข้นด้วยซอสปรุงรส เเต่งความหอมด้วยพริกไทย แอบเหยาะผงกะหรี่ลงไปเป็นเคล็ดลับความอร่อยที่ไม่บอกก็ไม่รู้ ปรุงรสมาเข้มข้นครบรสเเบบนี้ ไม่ต้องง้อซอสอะไรให้ยุ่งยาก ถ้าจะเพิ่มก็เเค่ซอสมะเขือเทศเเบบ “เบรกฟาสต์” เเท้ๆ

ไส้เเซนด์วิชไม่ได้จำกัดอยู่ที่แฮมเท่านั้นยังสามารถประยุกต์เป็นทูน่า เเซลมอนรมควันหรือเเม้เเต่ปูอัด เรียกว่าได้สารพัดตามที่มีอยู่ในตู้เย็น สูตรนี้เหมาะสำหรับทำร้อน กินร้อนๆ ถ้าจี่ที่ไฟกลางใช้เวลาเหมาะ ปริมาณเนยที่พอดีๆ ไม่มากหรือน้อยจนเยิ้มกระทะเคลือบ ขนมปังจะกรอบนอกที่ผิวเเละด้านในยังคงความนุ่มอยู่

ถ้าใครชอบชีส สามารถประยุกต์เป็นเเซนด์วิชเเฮมชีส เลือกชีสที่ชอบมาประกบขนมปังพร้อมกับแฮม ถ้าชีสอยู่ติดกับเเผ่นขนมปังจะช่วยให้ยืดเยิ้มได้ง่ายกว่า

วิธีอุ่นเเซนด์วิชนี้ไม่ยากเลย สามารถทำทิ้งไว้ เเล้วอุ่นในเตาติ๊งหรือเตาอบขนาดเล็ก พอให้ด้านนอกกรอบเเละด้านในอุ่นกำลังกิน

Cookool Breakfast Sandwich

สำหรับ 2-3 ที่

ขนมปังเเซนด์วิช 6 เเผ่น

ไข่ไก่ 3 ฟอง

นมข้นจืด 3 ช้อนโต๊ะ

ซอสปรุงรส (เเม็กกี้) 2-3 เหยาะ

เกลือป่น 1 ส่วน 8 ช้อนชา

พริกไทยดำป่น 1 ส่วน 8 ช้อนชา

ผงกะหรี่ 1 ส่วน 4 ช้อนชา

พาสลีย์สับละเอียด หยิบมือเล็กๆ

เนยจืด สำหรับจี่ 2-3 ช้อนชา

แฮมเเบบเเซนด์วิชเเฮม หรือโทสต์เเฮม 6 เเผ่น เสิร์ฟพร้อมกับ ผักสลัด มะเขือเทศ ตามชอบ

วิธีทำ

• ผสมไข่ไก่ นมข้นจืดเเละเครื่องปรุงทั้งหมดตีให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ

• ประกบขนมเเซนด์วิช 2 เเผ่น เข้ากับเเฮม 2เเผ่น หั่นเเซนด์วิชครึ่งหนึ่ง ให้มีขนาดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า

• จุ่มเเซนด์วิชลงในส่วนผสมไข่ไก่ปรุงรสไว้ เเช่ไว้ประมาณ ด้านละ 15-20 วินาที

• ตั้งกระทะเคลือบให้ร้อนที่ไฟอ่อน เมื่อกระทะร้อนจัด เติมเนยจืดลงไป จี่ขนมปังด้านละประมาณ1-2 นาที หรือจนสุกเหลือง ตักพักไว้บนตะเเกรงเพื่อสะเด็ดน้ำมัน

• เสิร์ฟในจานพร้อมกับสลัด คู่กับซอสมะเขือเทศ มายองเนส โรยด้วยผงปาปริกาเพื่อความหอมเเละรสชาติ