Pizza Toast หอมอร่อยจากชีสมอซซาเรลลาเยิ้มและซอสขาวที่ฉ่ำกำลังพอดี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

http://www.posttoday.com/travel/restaurant/423348

25 มีนาคม 2559 เวลา 10:57 น

Pizza Toast หอมอร่อยจากชีสมอซซาเรลลาเยิ้มและซอสขาวที่ฉ่ำกำลังพอดี

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

ขนมปังแผ่นยังทำอะไรได้มากกว่าแค่เป็นขนมปังปิ้งทาเนย หรือสอดไส้แซนด์วิชเท่านั้น ซีรี่ส์เล็กๆ ของเราในช่วงนี้จึงเป็นไอเดียของการนำขนมปังแผ่นมาทำเป็นอาหารจานใหม่ที่ไม่ยากจนเกินไปและใช้เวลาไม่นาน ตามคอนเซ็ปต์ Bread Ready Instantly กันเลย

ผู้เขียนนำเสนอสูตรของ Pizza Toast หรือขนมปังแผ่นแทนแป้งพิซซ่า ทาซอสพิซซ่าง่ายๆ ที่ทำจากซอสมะเขือเทศ ใส่หัวหอมใหญ่สับละเอียด โรยผงออริกาโน ทาลงบนขนมปัง โรยด้วยชีส ตามด้วยแฮม ไส้กรอก และเห็ด อบจนชีสเยิ้ม ขนมปังยังกรอบไปด้วย กลายเป็นพิซซ่าโทสต์ง่ายๆ ที่ใช้เวลาไม่นาน เป็นอาหารเช้าในเวลาอันรวดเร็ว คล้ายกับหยิบจับอะไรมาได้ก็จัดแต่งเป็นพิซซ่าได้ จึงเรียกชื่อตอนนั้นว่า Grab & Go Pizza Toast

 

ฉบับนี้ขอนำเสนอไอเดีย Pizza Toast อีกครั้ง แตกต่างกันที่ไม่ได้ใช้ซอสพิซซ่าแดงด้วยซอสมะเขือเทศ อิตาเลียนเขาก็มี Pizza สไตล์นี้ เรียกหัวข้อรวมๆ ว่า Pizza Bianca หรือพิซซ่าขาว ใช้เป็นมาสคาโปเน่ชีสโรยออริกาโนแทนซอสพิซซ่า แต่ของเราเป็นซอสขาวที่ทำขึ้นเองง่ายๆ โรยหน้าด้วยทูน่ากระป๋องและชีส ออกมาคล้ายๆ กับ Tuna Casserole หรือเมนูทูน่าครีมซอส แบบดั้งเดิม แทนที่จะเสียเวลาทำแป้งพายโปะหน้าก่อนเข้าอบ เรากลับด้านเอาฐานเป็นขนมปังราดหน้าด้วยซอสขาว ทูน่า และชีส อบให้ขนมปังกรอบกัดเข้าไปชีสยืดก่อนที่จะเจอซอสขาวครีมเข้มข้น

ซอสขาวสามารถทำไว้ได้ล่วงหน้า โดยผัดหอมให้นุ่ม เติมแป้งสาลีลงไปผัดให้แป้งสุก เป็น Roux ที่จะช่วยทำให้นมจืดที่เติมลงไปข้นขึ้นกลายเป็น Bechamel หรือซอสขาวที่เราเรียกกันติดปาก แช่เย็นไว้โดยมีเคล็ดลับอยู่ที่ต้องแนบแผ่นฟิล์มพลาสติกถนอมอาหารให้สนิทกับซอส เพื่อไม่ให้เกิดเป็นฟิล์มแห้งอยู่บนซอส

เมื่อพร้อมจะลงมือกิน คนซอสให้เหลวเข้ากัน สูตรนี้ใช้เวลาอบไม่นาน พร้อมกันเมื่อไหร่ค่อยเริ่มละเลงซอสลงบนขนมปัง เบ็ดเสร็จได้ Tuna Casserole Toast ภายในเวลาไม่เกิน 10 นาที

สูตรนี้ต้องรับประทานร้อนๆ จึงจะได้ความอร่อยจากชีสมอซซาเรลลาเยิ้มและซอสขาวที่ฉ่ำกำลังพอดี และขนมปังกรอบเหลืองด้านล่าง ขนมปังแซนด์วิชแผ่นบางจะได้ความกรอบของขนมปัง แต่ถ้าชอบกรอบนอกนุ่มใน แนะนำให้เลือกเป็นขนมปังแผ่นหนาจะอร่อยขึ้น

Tuna Casserole Toast (สำหรับ 4 ที่)

ส่วนผสม

ขนมปังแผ่นหนา แบบหัวกะโหลก หรือขนมปังเเซนด์วิช 4 แผ่น

เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ

หอมใหญ่ สับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ

นมจืด 2 ถ้วย

เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

พริกไทยดำขาว 1/4 ช้อนชา

ลูกจันทน์ป่น 1 เหยาะ

ทูน่ากระป๋อง (บีบเอาน้ำหมาด) 1 กระป๋อง

ชีสมอซซาเรลลา ขูด 1 ถ้วย

ออริกาโนแห้ง แบบป่น 1/2 ช้อนชา

มะเขือเทศราชินี หั่นเป็นแว่น สำหรับเพิ่มรสชาติและตกแต่ง

ตกแต่งด้วยพาร์สลีย์สับละเอียด หรือต้นหอมซอส

วิธีทำ

ตั้งอุณหภูมิเตาอบไว้ที่ 200 องศาเซลเซียส เตรียมถาดอบ ถ้าจะให้กรอบทั่วทั้งแผ่น แนะนำเป็นวางบนตะแกรงก่อนรองด้วยถาดอบอีกครั้ง

เริ่มทำซอสขาว โดยผัดหอมใหญ่กับเนยจืดให้นุ่ม เติมแป้งอเนกประสงค์ลงไปผัดให้แป้งสุก

เติมนมจืดลงไปคนเร็วๆ ที่ไฟกลาง เพื่อให้แป้งสุกและข้นขึ้นกลายเป็นส่วนของซอสขาว

ปรุงรสซอสขาวด้วยเกลือ พริกไทยดำ ลูกจันทน์ป่น ชิมปรับให้รสชาติชัดเจน

วางขนมปังลงบน ทาซอสขาวให้ทั่ว โดยให้มีปริมาณตามความชอบ ถ้าชอบชุ่มฉ่ำซอสให้ทาเยอะหน่อยได้

โรยออริกาโนลงบนซอสขาว ตักทูน่าเกลี่ยลงบนซอสขาวในปริมาณตามชอบ ประมาณแผ่นละ 2 ช้อนโต๊ะ

โรยชีสให้ทั่วทั้งแผ่น ตกแต่งด้วยมะเขือเทศ

นำเข้าเตาอบที่ 200 C ใช้เวลาประมาณ 5-8 นาที หรือจนชีสละลายและขนมปังกรอบ ใช้พายตักขึ้นใส่จาน โรยพาร์สลีย์สับ หรือต้นหอมซอย เสิร์ฟทันที

อาหารเช้าเก๋ๆ Egg Benedict

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

http://www.posttoday.com/travel/restaurant/422312

18 มีนาคม 2559 เวลา 18:42 น

อาหารเช้าเก๋ๆ  Egg Benedict

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

เทรนด์อาหารยอดฮิตช่วงนี้ คงจะหนีไม่พ้นอาหารเช้าเก๋ๆ ที่เหล่าผู้คนต่างแห่แหนไปจ่ายค่าอาหารราคาไม่ใช่น้อยๆ ตามคาเฟ่ต่างๆ ที่นอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังได้ “อัพ” รูปลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กอีกด้วย

ฉบับนี้ Bready Instantly จึงอยากนำสูตรอาหารเช้ายอดนิยม ที่ผู้เขียนเห็นรูปบ่อยๆ ตามกระแสมารวมไว้ใน Bready Instantly ของเรา ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ต้องการ คือ ขนมปังแผ่นง่ายๆ ดัดแปลงเพิ่มมูลค่าให้กลายเป็นเมนูใหม่ขึ้นมา ที่สำคัญต้องหน้าตาดูเฉียบ กินที่บ้านก็ต้องเก๋ไก๋ตามกระแสสังคม

อาหารเช้าเก๋ๆ ที่ว่า ต้องมีขนมปังสไตล์ Country Bread มีครัสต์หรือขอบขนมปังหนา จะได้กรอบหอมเวลาปิ้งเพิ่มจนกรอบ ที่ขาดไม่ได้คือ ไข่ลวกนอกเปลือก หรือ Poached Egg วางลงไป ความน่ากินอยู่ที่เวลาเจาะไข่แดงให้เยิ้มลงมาสู่สารพันที่อยู่ในจาน เรียกคะแนนน้ำย่อยไปได้เยอะสำหรับคนที่ปลื้มความฉ่ำเยิ้มของไข่ที่สุกมาพอดี

ที่จริงเมนูอาหารเช้าสไตล์นี้มีมานานแล้ว อย่าง Egg Benedict ไข่ลวกนอกเปลือกบนอิงลิชมัฟฟินเเละเเฮมเเผ่นพิเศษที่เรียกว่า Canadian Bacon ราดด้วยซอสฮอลลองเดสที่เข้มข้นยิ่งขึ้นไปอีกด้วยเนยและไข่แดงที่ปรุงเป็นซอส เรียกว่า เช้าเดียวก็ได้แคลอรีเกือบเพียงพอได้ทั้งวัน ยังมีอีกเวอร์ชั่นที่ใกล้เคียงกัน คือ Egg Florentine ที่เก่าแก่จากตระกูล Medicis แห่งเมืองฟลอเรนซ์ที่เบาๆ ขึ้นมาอีกนิด เพราะเปลี่ยนจากเนื้อสัตว์เป็นผักโขมผัดกระเทียม

 

ยุคนี้จึงเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เพราะอาหารเช้าแคลอรีเยอะๆ แลกกับความเก๋อาจจะไม่คุ้มความอ้วนแล้ว ไข่ลวกนอกเปลือกบนขนมปังจำเป็นต้องปรับลดแคลอรีแต่ไม่ออมความอร่อย แทนที่ซอสเข้มข้นเนยและไข่แดงด้วยอโวคาโดบดปรุงรสให้เข้มข้นคล้ายกับ Guacamole ของเม็กซิกันป้ายลงบนขนมปัง ช่วยให้ลิ้นละมุนไปได้คล้ายกับครีมซอสเข้มข้น แม้ว่าแคลอรีจะลดลงไปเยอะเอาการ แต่ความอร่อยอยู่ครบ

Avocado Spread สำหรับทาขนมปังแบบนี้ มีสูตรหลากหลาย หลักๆ ต้องมีเกลือเพื่อให้ความเค็ม ไม่ใช้ซอสใดๆ เพราะจะทำให้สีสันของอโวคาโดสวยน้อยลงไป ที่สำคัญต้องมีความเป็นกรดจากความเปรี้ยวธรรมชาติของน้ำมะนาว ไม่ว่าจะเป็นมะนาวเหลือง หรือมะนาวเขียว ต้องมาพอที่จะรักษาสีสันไม่ให้อโวคาโดดำคล้ำไป ความเปรี้ยวที่พอเหมาะจะช่วยให้รสชาติของอาหารจานนี้สดชื่นขึ้นด้วยเป็นของแถม

โดยปกติอโวคาโดสเปรดแบบต้นตำรับแบบกวากาโมเล่ มีเพียงแค่สับหอมใหญ่ ใส่ผักชีซอยและมะเขือเทศก็เรียบร้อย ปรุงรสด้วยเกลือ มะนาว และพริกไทย เรารู้ส่วนผสมแบบต้นตำรับแล้วถ้าอยากดัดแปลงก็ไม่ยากเลย อาศัยว่าเข้ารสชาติที่แท้จริงของอโวคาโด อยากจะเพิ่มความมันอาจเหยาะน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์หอมๆ ลงไป หรือถ้าอยากให้มีความมัน อาจขูดชีสหรือบิชีสนุ่ม ลงไปเพิ่มเติม รักษาน้ำหนักแต่ไม่หนีความอร่อย เลือกเป็น Cottage หรือ Ricotta Cheese ก็เยี่ยม

สูตรนี้เป็นสูตรง่ายๆ คุณผู้อ่านอยากเพิ่มเติมอะไรลงไป ทดลองเพิ่มได้ตามชอบ ถ้าอยากปรับเป็นอาหารเบาๆ เสิร์ฟอโวคาโด สเปรดกับเนื้อสัตว์เบาๆ อย่างปลา กุ้ง แซลมอนรมควัน หรือเนื้อปูก็เข้ากัน รับประกันแบบไร้แป้งสามารถจับมาเข้าคู่กับสลัดได้ ถือว่าเป็นเมนูอเนกประสงค์อีกสูตรที่ควรมีติดบ้านไว้

Poached Egg on Avocado Toast

(สำหรับ 2 ที่)

ส่วนผสม

ขนมปังแผ่นหนา 2 แผ่น

อโวคาโด 1 ลูก

หอมใหญ่สับละเอียด 1 ช้อนชา

กระเทียม สับละเอียด ครึ่งช้อนชา

น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา

มะเขือเทศ หั่นเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

พริกไทยดำป่น 1/4 ช้อนชา

มะนาวเหลือง หรือมะนาวเขียว 2 ช้อนชา

ไข่ลวกนอกเปลือก หรือ Poached Egg 2 ฟอง

ขนมปังชนิดที่เป็น Multigrain 2-3

แผ่นผักสลัดที่ชอบ และโรยชีสแบบ soft cheese ที่ชอบ

แนะนำเป็น Feta หรือ Cottage Cheese

วิธีทำ

* เคล้าอโวคาโดกับส่วนผสมทั้งหมด

* ปิ้งขนมปังให้กรอบเหลือง

* ป้ายอโวคาโดลงบนขนมปัง

* วางไข่ต้มลง โรยเกลือและพริกไทยดำ เพิ่มเล็กน้อย โรยชีส พร้อมเสิร์ฟ

* พร้อมเสิร์ฟทันที อาจเสิร์ฟแบบไร้ขนมปังแล้วเพิ่มสลัด เนื้อปูก้อนต้มสุก หรือแซลมอนรมควันลงไปได้ตามชอบเพื่อเป็นอาหารเบาๆ

ขนมปังรีดให้เป็นแผ่นบางๆ ห่อไส้แอปเปิ้ล วิธีทำ Apple Pie แบบที่ง่ายที่สุด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

11 มีนาคม 2559 เวลา 12:28 น. http://www.posttoday.com/travel/restaurant/420903

ขนมปังรีดให้เป็นแผ่นบางๆ ห่อไส้แอปเปิ้ล วิธีทำ Apple Pie แบบที่ง่ายที่สุด

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

สําหรับ Bready ในฉบับนี้ยังคงเป็นขนมปังแผ่นแบบแซนด์วิช ดัดแปลงเป็นเมนูที่ดูเหมือนจะยากให้ง่าย คล้ายกับเป็นทางลัด ฉบับก่อนเราใช้ขนมปัง รีดด้วยไม้คลึงแป้งให้เป็นแผ่นบาง ก่อนจะทาเนย โรยน้ำตาลทราย แล้วนำไปอบจนกรอบ ทำหน้าที่เป็นแป้ง Puff Pastry สำหรับขนมมิลเฟย สำหรับในฉบับนี้ขนมปังของเราทำหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง แทนที่จะใช้แป้งพาย Pate Brisee ที่ยุ่งยาก เราใช้ขนมปัง รีดให้เป็นแผ่นบางๆ ห่อไส้แอปเปิ้ล แปลงร่างเป็น Apple Pie แบบที่ง่ายที่สุด

ยิ่งตอนนี้ Apple Pie กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบขนม มีวางขายที่อิเซตัน ตรงราชประสงค์ เป็นแป้งพายแบบนุ่มคล้ายครัวซองต์หรือเดนิช ห่อหุ้มแอปเปิ้ลชิ้นพอดีคำ ที่ผัดจนนุ่ม รับประทานร้อนๆ ตอนที่ออกจากเตาอบใหม่ๆ อร่อย หรือซื้อกลับมาอุ่นให้ร้อนแล้วเพิ่มไอศกรีมวานิลลาไปยิ่งเข้ากัน

พายแอปเปิ้ลถือเป็นขนมพื้นฐานสไตล์ตะวันตกที่สาวฝรั่งโบราณต้องเรียนรู้ไว้ เรียกว่าแม้แต่การ์ตูนคลาสสิกอย่างสโนว์ไวท์ ยังต้องมีตอนที่สโนว์ไวท์คลึงแป้งพาย แล้วหั่นแอปเปิ้ลไส้ลงไปก่อนที่จะนำเข้าเตาอบโบราณ ใครทำไม่ได้ ถือว่าความสามารถทางด้านงานครัวยังไม่ถึงขั้น

ความอร่อยของพายแอปเปิ้ลตัดสินกันที่แป้งต้องหอม กรอบนอกนุ่มใน ไม่แฉะและไม่แห้งแข็งจนเกินไป ที่สำคัญแป้งและไส้แอปเปิ้ลต้องสุกไปพร้อมกัน ตัดทะลุแป้งพายไปเจอแอปเปิ้ลยังกรอบแข็งกระโดก ถือว่าสอบตก

 

สำหรับแอปเปิ้ลพายของ Bready Instantly ของเรา ตัดความยากของการทำแป้งพายไป นำเอาขนมปังแซนด์วิชมารีดให้เป็นแผ่นบางลง ทาเนยเพื่อช่วยให้ขนมปังกรอบและหอมขึ้นเมื่ออบได้ดี

คุณผู้อ่านเอาเวลามาทำไส้แอปเปิ้ลผัดแบบง่ายๆ โดยใช้แอปเปิ้ลชนิดใดก็ได้ที่ชอบ หั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ ถ้ามีเวลาแนะนำเป็นขนาดลูกเต๋าใหญ่สัก 1 นิ้ว แต่ถ้าอยากให้เร็วลองลดขนาดลงเหลือแค่เต๋า 1 ซม. ผัดกับเนยให้พอนุ่มด้านนอก แล้วเติมน้ำตาลทรายลงไป เพื่อให้แอปเปิ้ลสุก แต่ยังคงรูปร่างได้อยู่ เพราะน้ำตาลมีผลต่อเส้นใยผักผลไม้ ให้แน่นและคงตัวขึ้น ถึงจะสุกแต่ก็ไม่เละ แต่งรสให้จัดจ้านด้วยมะนาวสักนิด จะเขียวหรือจะเหลืองแล้วแต่ชอบ ตัดรสให้แหลมขึ้นด้วยเกลือสักหน่อย

ถ้าชอบ “Look” รูปร่างขนมแบบมือโปรด้านเบเกอรี่ แนะนำให้หาซื้อแป้งกวนไส้มาเติมลงไป เพื่อให้น้ำซอสจากแอปเปิ้ลข้นหนืดขึ้น แต่ถ้าจะถือความสะดวกสามารถผัดไปเรื่อยๆ จนน้ำงวดลงได้ อาจทดแทนแป้งกวนไส้ได้ด้วยแป้งข้าวโพด หรือแป้งมันที่มีอยู่ในครัว ผสมน้ำสักหน่อยแล้วเติมลงไป ผัดที่ไฟอ่อน คนเร็วเพื่อไม่ให้แป้งเป็นก้อนๆ เท่านี้ก็ได้ไส้แอปเปิ้ลที่ข้นๆ สำหรับสอดไส้พาย

พายแอปเปิ้ลง่ายจากขนมปังแซนด์วิชนี้ สามารถขึ้นรูปได้ 2 แบบ แบบแรกคือ เป็นพายถ้วยเปิดหน้า อาศัยพิมพ์ก้นลึกที่มี กรุขนมปังแผ่นรีดแล้วทาเนย ก่อนเติมไส้ลงไปอบให้ขนมปังเหลืองกรอบ หรืออีกแบบยุ่งยากขึ้นมาอีกนิด คือ พายปิด ที่อาศัยไข่ไก่ทำหน้าที่เสมือนกาวผนึกขนมปังเข้าด้วยกัน อย่าลืมทาเนยให้ทั่วขนมปังด้านบน เพื่อให้กรอบหอมขึ้นเวลาอยู่ในเตาอบ

เมื่อขนมสุกได้ที่แล้ว จะได้กลิ่นหอมเกือบเหมือนเวลาอบแอปเปิ้ลพายจริงๆ อย่าลืมเตรียมไอศกรีมวานิลลาไว้ เพื่อให้ได้ Apple Pie a la mode ขนมยอดฮิตยุค 60s แบบที่ง่ายที่สุดไว้เป็นของว่างวันหยุดสัปดาห์นี้เลย

Bready Apple Pie (สำหรับ 1-2 ที่)

ส่วนผสมไส้แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ลเขียว หั่นเต๋า 1 ซม. 2 ลูก

เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาวเหลือง 0.25 ช้อนชา

เกลือป่น เล็กน้อย

อบเชย 0.025 ช้อนชา

กลิ่นวานิลลา 0.25 ช้อนชา

น้ำสะอาด 0.5 ถ้วย

แป้งกวนไส 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมเนื้อพาย

ขนมปังแผ่น 10-12 แผ่น

เนยจืด สำหรับทา ประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ

ไข่ไก่ 1 ฟอง

วิธีทำ

สำหรับแอปเปิ้ล : ตั้งกระทะให้ร้อน เติมเนยจืดลงไป แล้วเติมแอปเปิ้ลลงไปผัดกับเนยให้พอนุ่ม เติมน้ำตาลทราย น้ำมะนาว เกลือ ผัดให้เคี่ยวที่ไฟอ่อนจนแอปเปิ้ลสุกนุ่ม เติมน้ำสะอาดที่ผสมแป้งกวนไส้ลงไป ผัดให้ข้นหนืดขึ้นที่ไฟอ่อน

สำหรับขนมปัง : อุ่นเตาอบให้ร้อนที่ 180 องศา ใช้ไม้คลึงแป้งรีดขนมปังให้บางลง

สำหรับแบบพายเปิดหน้า : ตัดให้เป็นแผ่นกลมโดยใช้พิมพ์ทาเนยให้ทั่วทั้งแผ่น แล้วกรุลงพิมพ์มัฟฟิน

สำหรับพายแบบพัฟฟ์ : ตัดให้เป็นแผ่นกลม ตักไส้ใส่ลงไปตรงกลาง เว้นขอบไว้เพื่อทาไข่ไก่ พับครึ่งเพื่อประกบกันเป็นพายขนาดครึ่งวงกลม ใช้ส้อมกดให้แน่นที่ริมเพื่อผนึกขนมปังเรียงใส่ถาดอบ

อบ : นำขนมอบในเตาอบประมาณ 10-12 นาที หรือจนขนมปังกลายเป็นสีเหลืองทอง

วิธีเสิร์ฟ : เพื่อให้เป็น a la mode แอปเปิ้ลพายอุ่นๆ แนะนำให้เสิร์ฟกับไอศกรีมวานิลลา จะเข้ากันมากค่ะ

 

Bready Instantly มิลล์เฟย ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

26 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 11:31 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/418318

Bready Instantly มิลล์เฟย ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

Mille Feuille (มิลล์เฟย) หรือ ใบไม้พันชั้น ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่ง สังเกตจากร้านขนมมากมายมักมีเมนูนี้วางขายอยู่ด้วย เหตุที่เรียกว่า Mille Feuille นั้นมาจากส่วนของแป้งบางกรอบ ที่มองดูน่าจะมาจากความบางกรอบของแป้งที่กลายเป็นสีเหลืองทองจากการอบ คล้ายกับใบไม้ที่ซ้อนกันทับกัน แป้งชนิดนี้ในทางนักทำขนม เรียกว่า Puff Pastry เป็นแป้งสาลีทำขนมปังที่รีดซ้อนกับเนย พับทบไปมาตามแบบแผนจนได้การซ้อนทับกันแบบทวีคูณ นับได้เป็นร้อยๆ ชั้น จะว่าเป็นพันก็อาจจะเกินความจริงไปนิด

แป้ง Puff Pastry ทำขนมได้หลายชนิด ตั้งแต่พายอบ พายกรอบอย่างพายผีเสื้อที่เราเรียกกัน เมื่อรีดให้บางแล้วอบจนกรอบ โรยน้ำตาล ซ้อนกับเพสตรีครีม บางครั้งมีผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สีแดงอย่างสตรอเบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ กลายเป็น Mille Feuille ขนมชั้นสูงที่เขาว่าทำให้อร่อยยากนัก

Mille Feuille ที่อร่อย เวลาเสิร์ฟแป้งต้องกรอบ ครีมต้องหวานกำลังดี หลายๆ ร้านทำทิ้งไว้นานเวลาเอามาเสิร์ฟแป้งนิ่มไม่อร่อย เพราะความชื้นจากครีมซึมลงในแป้ง บางร้านใส่ผลไม้ลงไปแทรกระหว่างครีมกับแป้ง ผลไม้ที่อาจมีน้ำซึมออกมา กลายเป็นเละไปได้

Bready Instantly ฉบับนี้ มีวิธีในการปรับสูตรให้ง่ายขึ้นโดยใช้ “ขนมปังแซนด์วิช” แบบแผ่น รีดให้บางจากนั้นทาเนย โรยน้ำตาล แล้วอบจนกรอบ คล้ายๆ กับขนมปังกรอบที่บางเฉียบ ซ้อนกับคัสตาร์ดครีมที่เบานุ่ม จะสลับชั้นด้วยราสพ์เบอร์รี่หรือสตรอเบอร์รี่ แม้แต่ผลไม้ไทยๆ อย่างกล้วย มะม่วง ก็เข้ากันได้

แผ่นขนมปังกรอบถึงแม้จะไม่ได้ให้สุนทรีย์ในการรับประทานเท่าๆ กับแป้งพัฟเพสตรีเพราะไม่มีชั้นบางเท่า แต่ได้ความกรอบ หอมเนยไม่แพ้กัน ขอเพียงนิดว่าแผ่นขนมปังกรอบทำแล้วเก็บไว้ได้ล่วงหน้าในกล่องพลาสติก ก่อนจะเสิร์ฟหรือรับประทาน จึงนำมาบีบคัสตาร์ดครีมและเติมผลไม้ลงไป ทำให้กรอบอร่อยได้นานกว่า

สามารถใช้เมนูนี้เป็นกิจกรรมสำหรับครอบครัวในวันว่าง เพียงเตรียมทุกอย่างล่วงหน้าไว้ คัสตาร์ดควรแช่เย็นไว้จนกว่าจะใช้เพื่อให้คงความเบานุ่มไม่ละลายเละ แถมยังให้รสชาติที่อร่อยกว่าด้วย

 

Raspberry Mille Feuille

สำหรับขนมปัง

ขนมปังแผ่น 4 แผ่น

เนยจืดนุ่ม 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำขนมปัง

รีดให้ขนมปังให้บางประมาณ 2 มม. หรือบางกว่านี้อีกเล็กน้อย

ทาเนยบางๆ โรยน้ำตาลให้ทั่ว

นำ เข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 C ประมาณ 5-8 นาที หรือจนแผ่นขนมปังเหลือง บางกรอบ พักบนตะแกรงให้เย็นสนิท

สำหรับคัสตาร์ดครีม

นมจืด 1 ถ้วย

น้ำตาลทราย ส่วนที่ 1 2 ช้อนโต๊ะ

ไข่แดง 2 ฟอง

น้ำตาลทราย ส่วนที่ 2 2 ช้อนโต๊ะ

นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ

แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ

เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ

กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (หรือเราใช้เป็นวานิลลาเพส เติมลงไปตอนอุ่นนมได้)

วิปครีมตีขึ้นฟู 1 ถ้วย

เสิร์ฟกับ ไอซิ่ง สตรอเบอร์รี่หรือราสพ์เบอร์รี่สด และซอสที่ชอบ สะระแหน่จิ๋วๆ และเศษคุกกี้เนยบิๆ คล้ายครัมเบิลตกแต่ง

วิธีทำคัสตาร์ดครีม

อุ่นนมและน้ำตาลทรายส่วนที่ 1 ให้เดือดเบาๆ ในชามอีกใบผสมไข่แดงกับนมข้นจืดคนให้เข้ากัน เติมน้ำตาลทรายและแป้งข้าวโพด คนให้เข้ากัน

ตักนมอุ่นลงมาผสมกับส่วนผสมไข่แดง คนให้เข้ากัน จากนั้นเติมกลับลงในหม้อ กวนที่ไฟอ่อนจนเดือดเบาๆ กลายเป็นคัสตาร์ดข้นๆ ยกลงจากเตา เติมเนยจืดและกลิ่นวานิลลาลงไป

คนให้คัสตาร์ดเย็นสนิท จากนั้นตะล่อมกับวิปป์ครีมที่ตีจนตั้งยอดอ่อน (หากชอบเข้มข้น สามารถใช้คัสตาร์ดได้เลย) ตะล่อมไว้ให้คัสตาร์ดเบาขึ้น พักไว้ในตู้เย็นจนกว่าจะใช้วิธีประกอบ

วางแผ่นขนมปังลงเป็นชั้นแรก จากนั้นบีบครีมลงไปให้สวยงามเรียงสตรอเบอร์รี่หั่นเป็นชิ้นบางให้เต็ม หรือวางราสพ์เบอร์รี่ทั้งลูก เรียงให้เต็ม วางแผ่นขนมปังเป็นชั้นที่ 2 ทำ ซ้ำจนมาถึงชั้นบนสุดเป็นขนมปังแผ่นที่ 3

อาจจะวางหรือตกแต่งชั้นบนด้วยวิปครีมหรือครีมคัสตาร์ด วางผลไม้สดโรยไอซิ่งให้ทั่วเพื่อความสวยงาม ตกแต่งด้วยใบมินต์

 

Bready Instantly Crispy Cheesy Stick ชีสยืดเยิ้มชวนให้คนรักชีส “หิวโฮก”

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

19 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 11:34 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/417083

Bready Instantly Crispy Cheesy Stick ชีสยืดเยิ้มชวนให้คนรักชีส “หิวโฮก”

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

ชีสยืดเยิ้มชวนให้คนรักชีส “หิวโฮก” ขึ้นมาได้ เเต่จะทำชีสทอดที่บ้านอาจจะยุ่งยากในบางเวลาที่รีบร้อน เพราะไหนจะต้องหั่นชีส ชุบเเป้ง 3 ขั้นตอน ทั้งเเป้งเเห้ง ไข่ไก่ เเละเกล็ดขนมปัง ต้องรอให้เเข็งเป๊กในช่องเเช่เเข็ง เพื่อให้ส่วนชุบเกล็ดขนมปังคงตัว ก่อนนำลงทอดเพื่อให้ทอดได้ง่ายเเละชีสไม่ละลายออกมาในกระทะทอด ทั้งกระบวนการทำชีสทอดใช้เวลารวมๆ เเล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง ถ้าอยากกินชีสทอด เรียกว่าจะต้องวางเเผนล่วงหน้า เเถมทอดไม่เก่ง ดีไม่ดีอาจเหลือชีสชิ้นกระจ้อยร่อย เพราะที่เหลือละลายลงไปในกระทะเสียหมด อดรับประทาน

ฉบับนี้ Bread Ready Instantly ได้ไอเดียนำเอาเเผ่นขนมปังมาห่อชีสมอสซาเรลล่า จับไปทอดน้ำมันท่วมจนขนมปังเหลืองกรอบ เเผ่นขนมปังทำหน้าที่เป็นเหมือนภาชนะรับประทานได้ ห่อชีสเอาไว้ ค่อยๆ ให้ความร้อนจากการทอดช่วยให้ชีสนุ่มละลาย กัดเข้าไปยืดเยิ้มกำลังดี หรือถ้าไม่อยากอ้วนมากนักจากการทอดน้ำมันท่วม เปลี่ยนวิธีเป็นจี่บนกระทะเคลือบ ใช้เนยเล็กน้อยช่วยให้กรอบเเละหอมไปในตัว ถึงจะไม่กรอบเท่ากับการทอดน้ำมันท่วม เเต่ก็นับว่ากรอบกำลังดี ไม่อมน้ำมันนัก

อยากจะประยุกต์ขึ้นไปอีก อย่างแอบใส่เเฮม ไส้กรอก หรือเบคอนหั่นชิ้นเล็กๆ รวมเข้าไปกับชีส หรือจะเป็นปูอัด ทูน่า ยีเป็นชิ้นเล็ก เพิ่มคุณค่าทางอาหารได้ไม่ยาก เเถมเพิ่มรสชาติอร่อย

ชีสที่เเนะนำให้ใช้ควรเป็นชีสที่ยืดเยิ้มถึงจะอร่อย ที่รับประทานได้ง่าย รสชาติดีไม่รุนเเรงเกินลิ้นคนไทยเห็นจะเป็นชีสมอสซาเรลล่าที่หอม นุ่ม กำลังอร่อย อยากเพิ่มความเจ๋งอาจผสมกับ Cheddar เพื่อความหอมมัน หรือเลือกเป็น Emmental Munster หรือ Gouda ถ้าชอบชีสสไตล์สวิส หรือถ้าเป็นชีสสัญชาติอิตาเลียน ต้องเลือกเป็น Fontina หรือ Provolone หรือตระกูลยืดเยิ้ม อาจใช้ Colby หรือ Monterey Jack ก็เอาอยู่ ยืดถูกใจ

ชีสทอด ยืดๆ เยิ้มๆ เเบบนี้ รับประทาน เปล่าๆ ก็อร่อยเเล้ว หากต้องการซอส เเนะนำเป็น Marinara Sauce ง่ายเเถมวิธีลัด โดยใช้ซอสสปาเกตตีมะเขือเทศกึ่งสำเร็จรูปเเบบขวด มาเพิ่มความหอมอร่อยเเบบไม่ให้ใครรู้เลยว่าเราเอาซอสสำเร็จรูปมาใช้ เพียงเเค่ผัดหอม กระเทียม ให้นุ่มเพิ่มลงไป เติมเครื่องเทศอีกนิด เพียงเเค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟเเล้ว !

Crispy Cheesy Bread Stick

สำหรับขนมปัง

ขนมปังเเผ่น 10 เเผ่น

ชีสมอสซาเรลล่าเเบบขูด 2 ถ้วย

หรือเเบบหั่นเเท่งขนาด 1x1x8 ซม. จำนวน 10 เเท่ง

สมุนไพรอิตาเลียนเเบบเเห้ง 1 ช้อนชา

พริกไทยดำ บดใหม่ๆ

กระเทียมกลีบ

น้ำมันมะกอก หรือเนย (สำหรับเเบบจี่)

น้ำมันพืช (สำหรับเเบบทอด)

วิธีทำ

รีดหรือคลึงขนมปังให้บางลงเล็กน้อย วางชีสลงที่ด้านหนึ่งของขนมปังโรยพริกไทยเเละสมุนไพร เเล้วม้วนขนมปังขึ้นมาให้เเน่น รีดด้านข้างให้เเนบสนิทกันเเล้วกลัดด้วยไม้จิ้มฟัน

วิธีเเบบทอด : ถ้าชอบกรอบทั่วกันทั้งชิ้น ตั้งน้ำมันสำหรับทอดในหม้อเนื้อหนา รอให้น้ำมันร้อนจัดที่ไฟกลาง ทอดให้ขนมปังกรอบเเละเหลืองทองตักขึ้นมาพักไว้บนตะเเกรงเพื่อสะเด็ดน้ำมัน ถูเบาๆ ด้วยกระเทียม

วิธีเเบบจี่ในกระทะ : ตั้งกระทะให้ร้อน เติมน้ำมันมะกอกหรือเนยลงไปเล็กน้อย จี่ขนมปังที่ห่อชีสไว้ทีละข้างจนเหลืองทั่วทุกด้าน ตักขึ้นวางบนตะเเกรง ถูเบาๆ ให้ทั่วด้วยกระเทียม

เสิร์ฟพร้อมกับซอสพิซซ่า

สำหรับซอสพิซซ่า

กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

หอมใหญ่ สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

ใบโหระพาอิตาเลียน หรือจะใช้โหระพาไทยก็ได้ 3-4 ใบ

ซอสมะเขือเทศสำหรับพาสต้าเเบบขวด 1 ถ้วย

น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะสมุนไพรอิตาเลียนเเบบเเห้ง ครึ่งช้อนชา

พริกไทยดำ บดใหม่ๆ เเละเกลือป่นชีสพาเมซาน 1 ช้อนชา

ตั้งกระทะให้ร้อน ผัดหอมใหญ่เเละกระเทียมด้วยน้ำมันมะกอก รอให้นุ่มที่ไฟอ่อนๆ เติมซอสมะเขือเทศลงไป รอให้เดือด ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยดำ สมุนไพรอิตาเลียน เคี่ยวให้งวดลงสักนิดเพื่อให้เป็นซอสข้นๆ

โรยชีสเเล้วเสิร์ฟพร้อม Cheesy Bread Stick

 

Banana Caramel Roll ทำกินเองง่ายๆ ที่บ้าน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

12 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 11:25 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/415691

Banana Caramel Roll ทำกินเองง่ายๆ ที่บ้าน

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

อาจมีหลายครั้งที่อยากทำขนมกินเองที่บ้าน แต่เกิดขี้เกียจประดิดประดอยอะไรมากมาย ไม่ว่าจะชั่งตวงวัดหรือผสมแป้ง นวดโดอะไรให้ยุ่งยาก หากมีขนมปังแผ่นสักถุง รับรองว่าสนองกิเลสความอยากรับประทานขนมจานร้อนได้ง่ายดาย ฉบับนี้ของเราจึงเป็นสูตรง่ายๆ ที่ใช้ขนมปังแผ่นหรือ Sandwich Bread กับขั้นตอนง่ายๆ เร็วๆ ที่จะกลายเป็นเมนูใหม่ๆ

อย่างเมนูนี้ Banana Caramel Roll ของเรา เป็นขนมจานร้อนๆ ใช้ขนมปังแผ่นห่อกล้วยให้แน่นนำเข้าอบให้กรอบด้วยเนยที่พาให้ไอน้ำในแผ่นขนมปังระเหยออกไป ช่วยให้ขนมปังกลายเป็น “Crust” กรอบๆ หอมคาราเมลจากน้ำตาลและอบเชยที่คลุกเคล้าอยู่ด้านนอก

กล้วยเป็นผลไม้ที่นิยมนำมาปรุงเป็นขนมจานร้อนมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ถ้าเลือกกล้วยที่สุกกำลังดี ความร้อนจะส่งผลดีให้กับกล้วย ความร้อนทำให้กล้วยนุ่มขึ้น กินร้อนๆ อร่อยนัก แถมยังส่งกลิ่นหอมๆ ขึ้น กลิ่นหอมของกล้วยยังเข้ากับความหอมของเนย ครีม ไข่ แป้ง เรียกว่าเป็นผลไม้ที่ตอบโจทย์ความเป็นเบเกอรี่ร้อนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ หากในจานนั้นมีส่วนประกอบอื่นๆ กล้วยยังเข้ากับความเย็นของไอศกรีม และความขมผสมหวานของซอสคาราเมลอีกด้วย

หลังตรุษจีนแบบนี้ เชื่อว่าคุณผู้อ่านที่จัดโต๊ะไหว้ น่าจะมีกล้วยหอมที่สุกกำลังพอเหมาะสำหรับเมนูนี้ เดินไปร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ บ้าน พร้อมขนมปังสักถุง และไอศกรีมสักกระปุก ถ้าขยันหน่อย แนะนำซอสคาราเมลแบบเข้มข้นตามสูตรฉบับนี้ ทำใส่ขวดเก็บไว้ในตู้เย็น เข้ากันกับเมนูขนมอีกหลายๆ เมนู

Bready Banana Caramel Roll ของเราทำได้ถึง 2 วิธี ไม่ว่าจะเป็นเตาอบ ทั้งแบบเตาอบขนาดใหญ่ หรือเตาอบขนาดเล็กแบบเตาติ๊งก็อบเมนูนี้ได้กรอบ หรือจะเป็นกระทะเคลือบ กลิ้งขนมปังที่ม้วนกล้วยหอมไปเรื่อยๆ จนเหลืองหอม ถือเป็นอีกเมนูที่อร่อยได้จริงโดยไม่ง้อเตาอบ

ทาเนยแล้วกลิ้งกับน้ำตาลทรายที่โรยอบเชยไว้ เมื่อโดนความร้อนน้ำตาลที่เคลือบด้านนอกจะกลายเป็นคาราเมลที่กลายเป็นน้ำตาลกรอบๆ เคลือบชิ้นขนมปังไว้อย่างเงางามชวนให้น่ารับประทานยิ่งขึ้นไปอีก

เมนูนี้เหมาะสำหรับเสิร์ฟร้อนๆ เข้ากับวิปครีมง่ายๆ แบบฉีดจากกระป๋องที่หาซื้อได้ทั่วไป หรือจะเป็นไอศกรีมก็ยิ่งเหมาะ เสมือน Honey Toast ยอดฮิต

เพิ่มความอร่อยขึ้นไปอีกนิดโดยใช้ซอสคาราเมลที่ทำไว้ ผัดเร็วๆ กับกล้วยหอมในกระทะหรือใส่ชามเข้าไมโครเวฟพออุ่นๆ ราดซ้ำลงไปอีก

Banana Caramel Roll กล้วยหอมม้วน

ส่วนผสม สำหรับ 2-3 ที่

ขนมปังแผ่นแซนด์วิช 6 แผ่น

เนยจืดทิ้งไว้ให้นุ่ม 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทรายป่น 4 ช้อนโต๊ะอบเชย 1/2 ช้อนชา

เสิร์ฟพร้อมกับ : วิปครีม กล้วยหอมสุก หรือไอศกรีมวานิลลา

วิธีทำ

อุ่นเตาอบให้ร้อนที่ 200 องศาเซลเซียส เตรียมถาดอบปูกระดาษไขไว้เพื่อให้ทำ ความสะอาดได้ง่ายขึ้นผสมน้ำตาลทรายและอบเชยตัดขอบออกจากแผ่นขนมปังรีดขนมปังให้บางลงเล็กน้อยม้วนกล้วยหอมที่ตัดให้มีขนาดพอดีกับความกว้างแผ่นขนมปัง ใช้ไม้จิ้มฟันกลัดไว้ทาเนยให้ทั่วผิวหน้าขนมปังที่ม้วนไว้ นำลงไปกลิ้งบนน้ำตาลอบเชยวิธีตั้งเตาอบ : อบที่ 200 องศาเซลเซียส จนขนมปังกรอบเหลือง ประมาณ 5-7 นาที นำออกมาพักไว้สักครู่ก่อนเสิร์ฟหรือหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เสิร์ฟคู่กับกล้วยหอมผัดคาราเมล วิปครีม

วิธีจี่บนกระทะ : ตั้งกระทะเคลือบให้ร้อนที่ไฟกลาง กลิ้งโรลกล้วยหอมไปเรื่อยๆ จนผิวเป็นสีเหลืองทองและกรอบ

ส่วนผสม ซอสคาราเมล

น้ำตาลทราย 125 กรัม

น้ำสะอาด 50 กรัม

วิปครีม 75 กรัม

นมข้นหวาน 50 กรัม

เกลือป่น 1 ส่วน 8 ช้อนชา

เนยจืดเย็นจัด 75 กรัม

กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำ

ในหม้อเนื้อหนาๆ แนะนำเป็นหม้อสเตนเลส ผสมน้ำตาลทรายและน้ำสะอาด ตั้งไฟประมาณ 8 นาทีที่ไฟกลาง น้ำตาลจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นคาราเมล หรี่ไฟอ่อนจนน้ำเชื่อมในหม้อกลายเป็นสีน้ำตาลอำ พันเติมวิปครีมลงไป พร้อมนมข้นหวานและเกลือป่น เคี่ยวต่อที่ไฟอ่อนประมาณ 5 นาที

ยกลงจากเตา เติมวานิลลาและเนยจืดเย็นจัดๆ ลงไปทีละน้อยคนไปเรื่อยๆ จนหมด ส่วนผสมจะเย็นตัวลง คนต่อไปให้เย็น ใส่ขวดสะอาดมีฝาปิด เก็บไว้ในตู้เย็นได้เป็นอาทิตย์ค่ะ

สำหรับกล้วยหอมผัดคาราเมล : ตั้งกระทะเคลือบให้ร้อน ใส่กล้วยหอมที่หั่นไว้แล้วลงไป เติมคาราเมลลงไปให้พอเคลือบชิ้นกล้วยหอม ปิดไฟ ยกลงจากเตา

 

Bready Instantly Breakfast Sandwich

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

07 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 11:03 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/414678

Bready Instantly Breakfast Sandwich

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

ตอนใหม่ของเราในสัปดาห์นี้ เป็นซีรี่ส์ที่ผู้เขียนตั้งใจจะทำขึ้นมาเพื่อเอาใจคุณผู้อ่านที่ชอบซื้อขนมปังเเผ่น หรือที่เรียกว่า Sandwich Bread ไว้ติดบ้านขนมปังแซนด์วิชที่เเสนจะธรรมดา มักจะมีบทบาทเเค่ทาเเยมหรือเนย สอดไส้เเซนด์วิชธรรมดาๆ

Bread Ready Instantly ของเรา จึงเป็นซีรี่ส์ที่เกิดจาก Bread ชนิดขนมปังเเผ่นพร้อมใช้ตามชื่อ Ready Instantly อร่อยได้ในพริบตา ขนมปังเเผ่นนี่เเหละ นำมาดัดเเปลงให้เป็นเมนูได้หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ เเล้วแคลอรีต่อเเผ่นไม่ได้มากมายอะไรนัก ไม่เกิน 200-250 แคลอรี/คู่เเซนด์วิช ยังเหลือที่ให้คุณผู้อ่านเพิ่มเติมสิ่งละอันพันละน้อยลงไปได้จนเกิดเป็นอาหารจานด่วนเเต่ไม่ทิ้งความอร่อย น่ารับประทาน เเละที่สำคัญ หน้าตาดูดีพอที่จะอวดชาวบ้านตามสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กได้อย่างไม่อายใคร

สำหรับฉบับเเรก ขอเริ่มเเบบ “เบาะๆ”ด้วยเเซนด์วิชแฮมที่เรานิยมรับประทานกันในตอนเช้า หรือเเม้กระทั่งเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ เเทนที่จะเป็นเป็นเเซนด์วิชธรรมดา จับคู่ขนมปังประกบกับเเฮม เเต่เพิ่มความน่าสนใจโดยการจับมาชุบไข่ทอด กลายเป็น “French Toast” เเบบ Savoury หรืออาหารคาว ที่ใช้ชื่อว่า Breakfast Sandwich จากส่วนประกอบทั้งขนมปัง ไข่ เเฮมเเละนมคล้ายกับอาหารเช้าสไตล์อเมริกัน เพียงเเต่ถูกจับเเต่งตัวเสียใหม่ให้รับประทานได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีวิธีทำที่ท้าท้ายขึ้นอีกหน่อย

ขนมปังที่เลือกมาใช้ได้หลากหลายทั้งขนมปังเเผ่นขาวไปจนถึงโฮลวีต ไม่จำกัดอยู่เเค่ขนมปังเเซนด์วิชเท่านั้น ยังปรับเป็นขนมปังได้เเทบทุกชนิด เเต่ละชนิดจะให้เนื้อสัมผัสเเละชุ่มฉ่ำในเนื้อขนมปังเเตกต่างกันออกไป เพราะชนิดของขนมปังที่มีรูพรุนมากจะดูดซับส่วนผสมของไข่ไก่ได้ต่างกันออกไป

สำหรับส่วนผสมไข่ไก่หรือ Royale ตามหลักการของ French Toast มีไข่ไก่ตีผสมกับนม ปรุงรสให้หอมเข้มข้นด้วยซอสปรุงรส เเต่งความหอมด้วยพริกไทย แอบเหยาะผงกะหรี่ลงไปเป็นเคล็ดลับความอร่อยที่ไม่บอกก็ไม่รู้ ปรุงรสมาเข้มข้นครบรสเเบบนี้ ไม่ต้องง้อซอสอะไรให้ยุ่งยาก ถ้าจะเพิ่มก็เเค่ซอสมะเขือเทศเเบบ “เบรกฟาสต์” เเท้ๆ

ไส้เเซนด์วิชไม่ได้จำกัดอยู่ที่แฮมเท่านั้นยังสามารถประยุกต์เป็นทูน่า เเซลมอนรมควันหรือเเม้เเต่ปูอัด เรียกว่าได้สารพัดตามที่มีอยู่ในตู้เย็น สูตรนี้เหมาะสำหรับทำร้อน กินร้อนๆ ถ้าจี่ที่ไฟกลางใช้เวลาเหมาะ ปริมาณเนยที่พอดีๆ ไม่มากหรือน้อยจนเยิ้มกระทะเคลือบ ขนมปังจะกรอบนอกที่ผิวเเละด้านในยังคงความนุ่มอยู่

ถ้าใครชอบชีส สามารถประยุกต์เป็นเเซนด์วิชเเฮมชีส เลือกชีสที่ชอบมาประกบขนมปังพร้อมกับแฮม ถ้าชีสอยู่ติดกับเเผ่นขนมปังจะช่วยให้ยืดเยิ้มได้ง่ายกว่า

วิธีอุ่นเเซนด์วิชนี้ไม่ยากเลย สามารถทำทิ้งไว้ เเล้วอุ่นในเตาติ๊งหรือเตาอบขนาดเล็ก พอให้ด้านนอกกรอบเเละด้านในอุ่นกำลังกิน

Cookool Breakfast Sandwich

สำหรับ 2-3 ที่

ขนมปังเเซนด์วิช 6 เเผ่น

ไข่ไก่ 3 ฟอง

นมข้นจืด 3 ช้อนโต๊ะ

ซอสปรุงรส (เเม็กกี้) 2-3 เหยาะ

เกลือป่น 1 ส่วน 8 ช้อนชา

พริกไทยดำป่น 1 ส่วน 8 ช้อนชา

ผงกะหรี่ 1 ส่วน 4 ช้อนชา

พาสลีย์สับละเอียด หยิบมือเล็กๆ

เนยจืด สำหรับจี่ 2-3 ช้อนชา

แฮมเเบบเเซนด์วิชเเฮม หรือโทสต์เเฮม 6 เเผ่น เสิร์ฟพร้อมกับ ผักสลัด มะเขือเทศ ตามชอบ

วิธีทำ

• ผสมไข่ไก่ นมข้นจืดเเละเครื่องปรุงทั้งหมดตีให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ

• ประกบขนมเเซนด์วิช 2 เเผ่น เข้ากับเเฮม 2เเผ่น หั่นเเซนด์วิชครึ่งหนึ่ง ให้มีขนาดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า

• จุ่มเเซนด์วิชลงในส่วนผสมไข่ไก่ปรุงรสไว้ เเช่ไว้ประมาณ ด้านละ 15-20 วินาที

• ตั้งกระทะเคลือบให้ร้อนที่ไฟอ่อน เมื่อกระทะร้อนจัด เติมเนยจืดลงไป จี่ขนมปังด้านละประมาณ1-2 นาที หรือจนสุกเหลือง ตักพักไว้บนตะเเกรงเพื่อสะเด็ดน้ำมัน

• เสิร์ฟในจานพร้อมกับสลัด คู่กับซอสมะเขือเทศ มายองเนส โรยด้วยผงปาปริกาเพื่อความหอมเเละรสชาติ

 

Easy Bites ไก่ทอดซอสญี่ปุ่น

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

31 มกราคม 2559 เวลา 09:47 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/413383

Easy Bites ไก่ทอดซอสญี่ปุ่น

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

หากพูดถึง Finger Foods ไม่ว่าจะเป็นชาติไหนล้วนแล้วแต่มีสูตรปีกไก่ทอดเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น รสชาติของปีกไก่ทอดส่วนใหญ่มักมีรสเข้มข้น แทะอร่อย เข้ากับเครื่องดื่ม เรียกว่าต้องยอมมือเลอะสักข้างหนึ่งถึงจะได้อร่อยได้รสชาติ

อย่างไทยเรายังมีปีกไก่ทอดน้ำปลา ฝรั่งเขาก็มี Buffalo Wings หรือจะเป็น Barbeque wings เขาก็มีกัน เกาหลีเขาก็มีแบบคลุกซอสรสเดียกับกิมจินิดๆ ญี่ปุ่นเขาก็มีปีกไก่ยอดฮิต มีชื่อเรียกว่า ไก่ทอดยามะจัง ปีกไก่ที่ทอดมาแห้งๆ หนังกรอบๆ เคล้ากับซอสสูตรพิเศษหอมกลิ่นโชยุ แต่ที่พิเศษคือ พริกไทยมาเต็มๆ เป็นเอกลักษณ์ของไก่ทอดสไตล์เมืองนาโกยานี้

ได้ข่าวว่าร้านนี้มาเปิดแถวๆ สุขุมวิท แต่ผู้เขียนเองยังไม่มีโอกาสไปลองชิมในเวอร์ชั่นที่มาขายที่เมืองไทยเลย ฟังๆ มามีหลายกระแส บ้างก็ชอบติดใจกับรสชาติเข้มข้นทั้งความเค็มและความเผ็ดของพริกไทย เข้ากันได้ดีหากรับประทานพร้อมๆ กับเบียร์เย็นๆ สักเหยือก หากไปกับสมาชิกที่เป็นลูกเล็กเด็กแดง อาจไม่ค่อยชอบนัก เพราะรสจัดทั้งเค็มและความเผ็ดพริกไทย

สูตรประจำบ้านของผู้เขียน เรามีวิธีทอดปีกไก่ที่พอจะนำมาประยุกต์ได้หลากหลาย ผู้เขียนเลยได้ไอเดีย ขอแกะสูตรปีกไก่ทอดสไตล์ “ยามะจัง” นำเอากลิ่นอายสไตล์นาโกยามาประยุกต์ให้ทำได้ง่าย อร่อยเข้ากับทุกเพศและวัย ขอเพียงแค่มีกระทะใบเขื่องๆ กับเตาที่ไฟเเรงดีไม่มีตก

ไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่นแบบนี้ ต้องใช้ปีกไก่ทั้งปีก เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ต้องหมักไว้ล่วงหน้าอย่างน้อยๆ 1 คืน เพื่อให้ความหอมของส่วนผสมซึมซาบเข้าไปถึงเนื้อใน วิธีการหมักนอกจากช่วยรสชาติแล้ว ยังช่วยให้ทอดได้แห้งขึ้นกว่าเนื้อไก่ที่ไม่ได้หมัก ไก่ที่หมักแล้วคลุกแป้งทอดกรอบที่ไม่ผสมน้ำเลย นำลงทอดแล้วช่วยให้กรอบได้ง่ายขึ้น เวลาทอดแนะนำให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ ทอดไปเรื่อยๆ โดยในช่วงแรกที่นำไก่ลงทอด ใช้ไฟแรงสักหน่อยแล้วค่อยๆ หรี่ไฟลงเป็นไฟกลางๆ ทอดอย่างใจเย็นจนด้านนอกสุกเหลืองและแห้ง

ความอร่อยของไก่ทอดสไตล์นี้ ต้องมีซอสญี่ปุ่นคลุกทันทีหลังจากทอด เราปรุงรสน้ำซอสไว้ก่อน พร้อมกับทำผงคลุกด้วยส่วนผสมง่ายๆ วิธีคลุกเเบบเจ๋งๆ ต้องมีกะละมังใบใหญ่ๆ ใส่ไก่ที่สะเด็ดน้ำมันไว้แล้วลงไป เหยาะด้วยน้ำซอสปรุงรสที่เตรียมไว้ โรยด้วยผงคลุก แล้วสะบัดกะละมังเพื่อให้ไก่ทอดเคล้ากับเครื่องปรุงทั้งหมดอย่างทั่วถึงกัน ใส่จานเสิร์ฟทันทีตอนร้อนๆ ถ้าสมาชิกร่วมวงเยอะๆ เรียกว่าทอดกันไม่ทันเสิร์ฟเลย

ส่วนผสมหมักไก่

ปีกไก่ 1 กิโลกรัม (ประมาณ 15 ชิ้น)

ซีอิ๊วญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ

พริกไทยดำป่นละเอียด 1 ช้อนชา

น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา

ส่วนผสมในการทอด

แป้งชุบทอด ยี่ห้อที่ชอบ 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช สำหรับทอด ปริมาณ 2 ลิตร จะกำลังเหมาะ

ส่วนผสมน้ำซอส

ซีอิ๊วญี่ปุ่น 1 ส่วน 4 ถ้วย

มิริน (เหล้าทำอาหารญี่ปุ่น) 1 ส่วน 4 ถ้วย

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

พริกไทยดำป่นละเอียด 2 ช้อนชา

พริกไทยขาวป่นละเอียด 2 ช้อนชา

หอมเจียวกรอบแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ

กระเทียมเจียวกรอบแห้ง 2 ช้อนชา

วิธีทำ

• สำหรับน้ำซอส : ผสมน้ำซอสโดยนำซีอิ๊ว มิริน น้ำตาลทราย เข้าไมโครเวฟหรือตั้งไฟพอให้น้ำตาลละลาย พักไว้ให้เย็นสนิท

• ปั่นหรือโขลกกระเทียมเจียวหอมเจียว และพริกไทยเข้าด้วยกันพักไว้เป็นผงปรุงรสแบบเเห้ง

• สำหรับหมักไก่ : หมักไก่ทิ้งไว้ข้ามคืนด้วยส่วนผสมทั้งหมดในถุงพลาสติกหรือกะละมัง เเช่เย็นไว้

• นำมาพักไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ1 ชั่วโมง เพื่อให้คลายความเย็นลง

• ตั้งน้ำมันในกระทะที่ตั้งไฟแรงไว้เมื่อน้ำมันร้อนจัดดีแล้ว ให้หรี่ไฟลงที่ไฟกลาง

• ซับน้ำให้ไก่หมาดๆ เคล้ากับแป้งให้พอติดทั่วทุกชิ้น

• ค่อยๆ ทอดไก่ทีละครึ่งหนึ่ง ทอดที่ไฟกลางๆ จนสุกเหลืองทั่วทั้งชิ้นใช้เวลานานสักนิดเวลาทอด เพื่อให้กรอบนอกนุ่มใน ประมาณ 10-15นาที พยายามอย่าให้กระทะแน่นเกินไป เพราะจะทำให้อมน้ำมัน

• พักไว้บนตะแกรงเพื่อสะเด็ดน้ำมันประมาณ 3 นาที ตักใส่กะละมังขนาดใหญ่สักนิด ตักน้ำซอสที่ผสมไว้ลงไปสัก 2 ช้อนโต๊ะต่อสัดส่วนของไก่ประมาณครึ่งกิโลกรัมที่ทอดไว้ โรยด้วยเครื่องพริกไทยที่ปั่นไว้ แล้วเคล้าให้ส่วนผสมโดยโยนปีกไก่ให้ผสมกับเครื่องปรุง เสิร์ฟทันทีร้อนๆ

 

Easy Bites กระเบื้องลาบแฮมชีส

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

24 มกราคม 2559 เวลา 12:49 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/412041

Easy Bites กระเบื้องลาบแฮมชีส

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

นอกจากแป้งเปาะเปี๊ยะจะม้วนเป็นท่อนสอดไส้แล้ว ยังมีของว่างเรียกน้ำย่อยแบบไทยๆ อีกอย่างที่เราคุ้นเคยในชื่อของ “กระเบื้อง” ด้วยรูปลักษณะทำจากแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะกลมๆ ที่ผนึกเข้าหากันด้วยเนื้อสัตว์ที่บดละเอียดปรุงรส นำไปทอดให้แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะกรอบเหลือง ส่วนไส้ในนอกจากจะผนึกแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะให้ประกบกันแล้วยังให้รสชาติอร่อย ยิ่งทอดไป รับประทานไป จะยิ่งอร่อยมากกว่าทำทิ้งไว้ เพราะจะได้ความกรอบอร่อยของแป้งและรสชาติของไส้ในคำเดียวกัน

โดยมากสูตรของ “กระเบื้อง” มักมีส่วนผสมของหมูสับ หรือกุ้งสับเป็นหลัก จึงมักมีชื่อเรียกว่า กุ้งกระเบื้อง หรือกระเบื้องทะเลกรอบ ส่วนผสมง่ายๆ ที่ถือเป็นสูตรมาตรฐานคือ กระเทียม พริกไทย รากผักชี โขลกรวมกัน ขยำหรือนวดรวมกับเนื้อสัตว์สับละเอียด ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลทราย และเพิ่มความหอมด้วยซีอิ๊วขาว หรือซอสปรุงรส ทาลงบนแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะบางๆ เว้นขอบเส้นรอบวงไว้เพื่อทาไข่ไก่ตีพอแตกเพื่อให้ประกบกันได้แน่นมากขึ้น ก่อนทอดน้ำมันท่วมๆ ให้ทั้งอผ่นกรอบเหลืองได้พร้อมๆ กัน ก่อนหั่นเป็นชิ้นสามเหลี่ยม ดูคล้ายพิซซ่าอิตาเลียน

กระเบื้องกรอบ คล้ายคลึงกับอาหารอีกหลายๆ ชาติ อย่าง Quesadilla ของเม็กซิกัน จากแผ่นแป้งตอร์ตีญ่า สอดไส้เนื้อสัตว์ผัดหรือย่าง หั่นเป็นชิ้นๆ ที่ประกบกันได้แนบแน่น เพราะมีชีสชนิดยืดได้ทำหน้าที่เสมือนกาวแปะแป้งสองแผ่นเข้าด้วยกัน ชีสนอกจากจะช่วยประกบแล้วทำให้เกิดรสละมุนเข้มข้นนมเนย สร้างรายละเอียดที่น่ากินให้ชิ้นอาหารน่ากินยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเจอความยืดเยิ้มของชีส เสิร์ฟคู่กับซัลซ่าเปรี้ยวเค็มเผ็ด หรือจะป้ายกัวกาโมเล่อโวคาโดบด ส่วนวิธีเสิร์ฟกระเบื้องแบบไทยๆ ที่เราคุ้นเคย นิยมเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน ที่เรียกว่า น้ำจิ้มไก่

ผู้เขียนเลยขอนำไอเดีย “กระเบื้องกรอบ” มาดัดแปลงเป็นของว่างรสเข้มข้น ใช้เนื้อกุ้งสดหรือสะดวกเป็นกุ้งแช่แข็งก็ง่ายดี ปั่นในโถบดผสมอาหารหรือสับละเอียด หั่นชิ้นแฮมเล็กๆ ลงไปเพื่อเพิ่มเนื้อๆ หนังๆ เวลากินไปโดนกระเบื้องกรอบ เพิ่มรสชาติอร่อยเข้มข้นมากขึ้น โดยอาศัยผงลาบสำเร็จรูปโรยลงไปขยำกับเนื้อกุ้งและแฮม ก่อนจะป้ายลงบนแผ่นเเป้ง ผู้เขียนลองป้ายหนาๆ เเต่พบว่าไม่ “เวิร์ก” นัก เพราะทำให้แผ่นแป้งไม่กรอบเท่าที่ควร แนะนำให้ป้ายลงไปบางๆ แล้วโรยชีสมอซซาเรลลา ชีสจะเยิ้มเพิ่มความอร่อยให้กับกระเบื้องธรรมดาที่เราคุ้นเคยได้ ด้วยรสชาติจี๊ดจ๊าดง่ายๆ จากผงลาบ ถ้าปรุงให้สมาชิกที่เป็นเด็ก งดใส่ผงลาบ ปรับกลับมาเป็นกระเทียม พริกไทย รากผักชี แล้วใช้แฮมและชีสตามเดิม ก็อร่อยได้เหมือนกัน

กระเบื้องลาบแฮมชีส

สำหรับ 5-6 ชิ้นใหญ่

แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะแบบกลม 12-14 แผ่น

กุ้งแช่แข็ง แกะเปลือก 15-20 ตัว

แฮม หั่นเส้นฝอย 2 แผ่น

ผงปรุงรสลาบ 1 ช้อนโต๊ะ

ชีสมอซซาเรลลา ขูดเส้น 1/2 ถ้วย

ผักชีฝรั่ง ซอยบาง 1 ช้อนชา

ไข่ไก่ตีพอแตก สำหรับทาแผ่นเปาะเปี๊ยะน้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ

• ปั่นหรือโขลกเนื้อกุ้งให้เนียนละเอียด ผสมแฮม ผงปรุงรสลาบและผักชีฝรั่ง เคล้าให้เข้ากัน

• เติมชีสลงไป เคล้าเบาๆ พอให้เข้ากัน

• แผ่แป้งเปาะเปี๊ยะลงบนเขียงหรือจาน ใช้ช้อนป้ายส่วนผสมกุ้งลงบนแผ่นแป้ง เว้นขอบแผ่นแป้งไว้โดยรอบ ทาด้วยไข่ไก่แล้วประกบด้วยแป้งอีกชั้น

• ทอดน้ำมันท่วมในหม้อที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางใกล้เคียงกับแผ่นแป้ง (หรือกระทะที่สามารถทอดได้ทั้งชิ้น) ที่ไฟแรงให้ส่วนแป้งเหลืองกรอบและด้านในสุกกำลังดี

• พักไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน ตัดเป็นส่วนแล้วเสิร์ฟทันทีเพื่อให้แป้งคงความกรอบและชีสละลายกำลังดี

• ตกแต่งจานด้วยพริกแห้งหั่นแว่นเล็กทอดให้สีสวย กรอบ

 

Easy Bites ก๋วยเตี๋ยวหลอดปู

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

17 มกราคม 2559 เวลา 12:04 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/410736

Easy Bites ก๋วยเตี๋ยวหลอดปู

โดย…สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

บางครั้งการเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินซื้อกับข้าวในซูเปอร์มาร์เก็ต มาเป็นเดินตลาดสดอาจได้ผลลัพธ์เป็นเมนูใหม่ๆ หรือแม้แต่เปลี่ยนจากตลาดที่คุ้นเคยไปเดินตลาดใหม่ๆ เจอร้านรวงใหม่ๆ วัตถุดิบใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์อาหารเมนูพิเศษสำหรับครอบครัว

ผู้เขียนเองก็เช่นกัน อย่างครั้งนี้ไปเดินตลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องของการคัดสรรอาหาร เห็นเนื้อปูก้อนนึ่งสุกแกะมาเรียบร้อยพร้อมปรุง ก้อนขาวอวบดูน่ากิน เลยได้ไอเดียนำมาทำก๋วยเตี๋ยวหลอดปู สไตล์ร้านอาหารจีนแต้จิ๋ว นึ่งมาเสิร์ฟร้อนๆ ราดซีอิ๊วดำและน้ำส้มพริกตำ น่าจะทำได้ง่ายไม่ยากจนเกินไป เป็นได้ทั้งอาหารจานเดียว หรืออาจเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่รับประทานรวมกันหลายคน ยิ่งถ้าช่วยกันทำได้ยิ่งสนุก เพราะห่อไป นึ่งไป กินไปก็อร่อยดี

เวลาไปร้านอาหารจีนแต้จิ๋วโบราณ ยกตัวอย่างร้านโปรดอย่าง “เลี่ยวเลี่ยงเซ้ง 555” เขามีก๋วยเตี๋ยวหลอดปูอร่อย ขนาดม้วนเล็กๆ ไม่ใหญ่นัก กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มสักที ตั้งใจว่าถ้าเราทำกินเองละก็ จะขอทำให้คำใหญ่อวบอ้วน กินแล้วเต็มปากเต็มคำ จนได้มาเป็น “เวอร์ชั่น” หนึ่งของก๋วยเตี๋ยวหลอดปูในฉบับนี้

ส่วนประกอบไม่ยากเย็น แต่อาจต้องอาศัยการเดินตลาดมากกว่าซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะเราต้องหาแผ่นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ที่ยังไม่ตัดเป็นเส้น มาแบ่งเป็นขนาดที่ต้องการเอง ซึ่งโดยมากแผ่นก๋วยเตี๋ยวแบบนี้ต้องไปกันแต่เช้าสักหน่อย เพราะสายๆ มาเขาตัดเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่หมดแล้ว นอกเสียจากว่าจะเป็นตลาดใหญ่ๆ ที่ขายกันตลอดทั้งวัน ทั้งคืน

เนื้อปูไม่จำเป็นต้องเป็นขนาดก้อนไซส์จัมโบ้ราคาแพงอะไร สามารถเลือกใช้ได้ทุกขนาด ขอเน้นที่ความสดใหม่ เพราะความสดเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เรารับประทานเนื้อปูได้ปลอดภัย จะก้อนใหญ่หรือเล็ก เราต้องเอาเนื้อปูไปผัดให้เข้ากันกับเครื่องเคราต่างๆ อยู่แล้ว

ก๋วยเตี๋ยวหลอดปู สามารถทำไว้ล่วงหน้าได้ไม่ยาก แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ ผัดเครื่องกับเนื้อปูไว้ก่อน รอให้เย็นสนิท หากต้องการจะรับประทานเมื่อใด ค่อยนำแผ่นก๋วยเตี๋ยวมาห่อ หรืออีกวิธีหนึ่ง คือ ห่อเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอด ม้วนให้แน่นไว้เลย คลุมด้วยพลาสติกห่ออาหาร ทั้งสองวิธีนี้จะรับประทานเมื่อไหร่ ให้นำมานึ่งด้วยไอน้ำให้ร้อนระอุถึงเนื้อปูด้านในถือว่าอร่อยได้ไม่ต่างกันอย่าลืมว่าเมื่อผัดเนื้อปูไว้ ควรรอให้เย็นสนิทก่อน โดยเกลี่ยใส่ถาดหรือจานไว้เพื่อระบายความร้อนก่อนที่จะนำมาห่อ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาหารเป็นพิษได้จากความร้อนที่ระอุอยู่ในเส้นก๋วยเตี๋ยว

ความอร่อยของเมนูนี้ นอกจากจะเป็นเนื้อปูที่ผัดมาอย่างกลมกล่อมแล้ว กระเทียมเจียวใหม่ๆ ยิ่งช่วยเสริมรสชาติให้หอมอร่อยขึ้น ใครจะเจียวกับกากหมูก็ไม่ว่ากัน ยิ่งทำให้อร่อยเหาะขึ้นไปอีก

สำหรับซอสราดก๋วยเตี๋ยว “บาลานซ์” รสชาติง่ายๆ ด้วยการใช้ซีอิ๊วดำที่ให้ความหอมและรสเบาๆ หวานขึ้นมาอีกนิดโดยการผสมกับซีอิ๊วหวานในอัตราส่วนเท่าๆ กัน ผู้ใหญ่กินก็โรยน้ำส้มพริกตำตามสูตร เรียกว่าเบ็ดเสร็จไม่เกิน 30 นาที ก็ได้กินแล้ว

ก๋วยเตี๋ยวหลอดปูสไตล์แต้จิ๋ว

สำหรับไส้ปู

รากผักชี 2 ราก

กระเทียม 4-5 กลีบ

พริกไทยขาว 1/2 ช้อนชา

หัวหอม สับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ

ขึ้นฉ่าย ส่วนก้าน สับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ

เนื้อปูก้อน 2 ถ้วย

ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา

ต้นหอม ซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

เส้นก๋วยเตี๋ยว แผ่นใหญ่ 4-6 แผ่น

ตกแต่งก่อนเสิร์ฟด้วยผักชี ต้นหอมซอยและกระเทียมเจียวพร้อมน้ำมัน

สำหรับพริกน้ำส้ม

พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด

พริกชี้ฟ้าเหลือง 1 เม็ด

เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย

หอมแดง 2 หัว

กระเทียมกลีบเล็ก 3 กลีบ

สำหรับน้ำจิ้ม

ซีอิ๊วดำ อย่างดี 3 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ๊วหวาน อย่างดี 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

• สำหรับพริกน้ำส้ม : โขลกพริกชี้ฟ้าทั้งสองสี หอมแดงและกระเทียม กับเกลือป่น เมื่อละเอียดดีแล้ว เติมน้ำตาลทรายน้ำส้ม หมักไว้สัก 1 คืน จึงจะหอมอร่อย

• สำหรับซีอิ๊ว : ผสมซีอิ๊วทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน

• โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยขาว ให้ละเอียด

• ตั้งกระทะให้ร้อน ผัดรากผักชี กระเทียม พริกไทยและหัวหอมให้หอม

• เติมเนื้อปูก้อนขาวลงไปผัดเบาๆ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเกลือ และน้ำตาลทราย

• ยกลงจากกระทะ โรยต้นหอม พักไว้ให้เย็น

• ปูแผ่นก๋วยเตี๋ยว ขนาดประมาณ 6×6 นิ้วไว้ ตักเนื้อปูที่ผัดไว้ลงไป ห่อขึ้นมาให้แน่น พับด้านข้างเข้ามาแล้วม้วนต่อจนสุดปลายอีกข้างหนึ่ง

• เรียงใส่ถาดไว้ เมื่อต้องการรับประทาน แนะนำหั่นพอดีคำ จัดใส่จาน นึ่งให้ร้อนๆ ที่น้ำเดือดจัด ประมาณ 2-3 นาทีโรยกระเทียมเจียว ต้นหอม ผักชี

• เสิร์ฟพร้อมกับซีอิ๊วดำที่ผสมไว้ และน้ำส้มพริกตำ