ทรู ยืดจ่าย 900 MHz แทงกั๊กคลื่น 700

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/it/588594

  • วันที่ 08 พ.ค. 2562 เวลา 18:59 น.

ทรู ยืดจ่าย 900 MHz แทงกั๊กคลื่น 700

ทรู มูฟ เอช จะยื่นกสทช. ขอจ่ายค่าประมูลคลื่น 900 MHz เป็นสิบงวด ส่วนคลื่น 700 ขอดูความชัดเจนเงื่อนไขก่อนตัดสินใจ

น.ส.ยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE)เปิดเผยว่า ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้มีคำสั่งที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคม (คำสั่ง คสช. ที่ 4/2562) กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 890-915 MHz/935-960 MHz(คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz)ที่ประสงค์ขอแบ่งชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ตามคำสั่ง คสช. ที่ 4/2562 มีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คำสั่งดังกล่าวมีผลใช้บังคับ นั้น

บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น แจ้งว่าบริษัทย่อย คือ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น (TUC)ในฐานะผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 MHzได้มีหนังสือแจ้งกสทช ถึงความประสงค์ในการแบ่งชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ที่ต้องชำระออกเป็นสิบงวด ปีละงวด งวดละเท่าๆ กัน ตามคำสั่งคสช.ที่ 4/2562 แล้ว

ทั้งนี้ ในส่วนของการจะขอรับจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 700 MHzนั้น ทรู มูฟ เอช มีความจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายละเอียดของหลักเกณฑ์การจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz โดยจะได้พิจารณาและดำเนินการตามที่เห็นว่าเหมาะสมต่อไป ภายหลังจากที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขของหลักเกณฑ์การจัดสรรคลื่นดังกล่าว

เปิดสูตรจ่ายชดเชย-คืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ขีดเส้น10 พ.ค. ห้ามเปลี่ยนใจ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/it/588049

  • วันที่ 02 พ.ค. 2562 เวลา 17:16 น.

เปิดสูตรจ่ายชดเชย-คืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ขีดเส้น10 พ.ค. ห้ามเปลี่ยนใจ

กสทช. เผยหลักเกณฑ์จ่ายค่าชดเชยการคืนใบอนุญาตดิจิทัลทีวี ต้องยื่นขอคืนใบอนุญาตภายใน 10 พ.ค. ห้ามยกเลิกภายหลัง เตรียมเชิญ 22 ช่อง รับทราบรายละเอียด 7 พ.ค. นี้

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (2 พ.ค. 2562) สำนักงาน กสทช. ได้ออกประกาศสำนักงาน กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายค่าชดเชยอันเนื่องมาจากการคืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล แล้ว ผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอลจะมีเวลาศึกษาหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ล่วงหน้า และสำนักงานฯ โดยจะเชิญผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอลทั้ง 22 ช่อง มาประชุมชี้แจงในวันอังคารที่ 7 พ.ค. 2562 พร้อมตอบข้อซักถามและทำความเข้าใจ ก่อนที่ผู้ประกอบการจะตัดสินใจ

ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าว กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัลที่มีความประสงค์จะคืนใบอนุญาต มายื่นความประสงค์ต่อสำนักงานกสทช. ภายในวันที่ 10 พ.ค. โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวไม่สามารถขอยกเลิกความประสงค์ดังกล่าวภายหลังได้

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 เม.ย. สำนักงานกสทช.ได้เชิญผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ผู้ให้บริการโครงข่ายฯ และสื่อมวลชน เข้าร่วมประชุมเพื่อทำความเข้าใจคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2562 เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคม และได้แจ้งในที่ประชุมว่า ให้ผู้ที่จะขอคืนใบอนุญาต มายื่นความประสงค์ขอคืนใบอนุญาต ตาม ม. 44 ก่อน หากเปลี่ยนใจก็สามารถขอยกเลิกในภายหลังได เนื่องจากขณะนั้นสำนักงาน กสทช. อาจออกหลักเกณฑ์ไม่ทันวันที่ 10 พ.ค. 2562 ดังนั้น ผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอลอาจจะยังไม่มีข้อมูลประกอบการพิจารณา แต่ในขณะนี้ วันที่ 2 พ.ค. 2562 สำนักงาน กสทช. ได้ออกประกาศ สำนักงาน กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายค่าชดเชย จากการคืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลแล้ว จึงทำให้ผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัลมีข้อมูลในการตัดสินใจยื่นขอคืนใบอนุญาตดังกล่าวได้

ทั้งนี้ผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอล สามารถดูรายละเอียดของประกาศสำนักงาน กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายค่าชดเชยอันเนื่องมาจากการคืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ได้ทางเว็บไซต์สำนักงาน กสทช. http://www.nbtc.go.th

“ดีเอชแอล” เปิดแพลตฟอร์มขนส่งด่วนรองรับอีคอมเมิร์ซ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/it/587339

  • วันที่ 25 เม.ย. 2562 เวลา 13:31 น.

"ดีเอชแอล" เปิดแพลตฟอร์มขนส่งด่วนรองรับอีคอมเมิร์ซ

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เปิดตัว iExpressByDHL แพลตฟอร์มขนส่งด่วนระหว่างประเทศที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ ดำเนินการได้ครบบนอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์

นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ได้พัฒนา iExpressByDHL เพื่อพลิกประสบการณ์การขนส่งด่วนระหว่างประเทศให้เป็นเรื่องง่ายและสะดวกกับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซมือใหม่ แม้ไม่เคยส่งของระหว่างประเทศมาก่อน ขั้นตอนการให้บริการ ง่าย และจบในแพลตฟอร์มเดียว จะเป็นตัวช่วยสำคัญให้ผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซและผู้ค้าบนโซเชียลมีเดียเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ iExpressBy DHL เหมาะสำหรับผู้ขายในระยะตั้งต้นหรือสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มร้านค้าออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย หรือกำลังขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างประเทศแต่ขาดประสบการณ์ด้านการขนส่งระหว่างประเทศ ใช้งานง่ายแม้ในครั้งแรก เช็คราคาค่าบริการได้เบื้องต้นภายในไม่กี่คลิก บุ๊คกิ้งการจัดส่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่คูเรียร์มารับสินค้าหรือเลือกนำสินค้าไปส่งด้วยตัวเอง ณ จุดบริการดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสใกล้บ้าน พร้อมสั่งพิมพ์ใบนำส่งสินค้า (Waybill) ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice) และชำระค่าขนส่งได้ง่ายและปลอดภัยผ่านบัตรเครดิต ครบถ้วนทุกขั้นตอนสำคัญผ่านอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์อย่างไรก็ตามจากผลการสำรวจ Global Connectedness Index (GCI) โดยดอยช์โพสต์ ดีเอชแอล พบว่าประเทศไทยจัดอยู่อันดับที่ 25 จาก 169 ประเทศทั่วโลก ด้านการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ (connectedness) และอันดับ 6 ด้านความสามารถในการติดต่อทางการค้า (trade connectivity)[1] ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีและบ่งบอกถึงศักยภาพของประเทศไทย รวมถึงโอกาสที่มากขึ้นในการพาประเทศเข้าสู่เวทีการค้าระดับโลก

ญี่ปุ่นเล็งออกกฎคุมเข้มยักษ์เทคโนโลยี หวั่นเอาเปรียบผู้ค้าออนไลน์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/it/586913

  • วันที่ 21 เม.ย. 2562 เวลา 16:07 น.

ญี่ปุ่นเล็งออกกฎคุมเข้มยักษ์เทคโนโลยี หวั่นเอาเปรียบผู้ค้าออนไลน์

คณะทำงานของหน่วยงานญี่ปุ่นเตรียมเสนอรัฐบาลออกมาตรการเข้มงวดควบคุมบริษัทด้านเทคโนโลยีเพื่อปกป้องผู้ขายสินค้าออนไลน์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะทำงานที่จัดตั้งขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงกิจการภายใน และคณะกรรมาธิการการค้าที่เป็นธรรมของญี่ปุ่น ได้เตรียมเสนอรายงานต่อรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อเรียกร้องให้ กำหนดมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นกับบริษัทด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ อาทิ อะเมซอน และกูเกิล เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทเหล่านั้นเอาเปรียบผู้ขายสินค้า

รายงานข่าวระบุว่า คณะผู้เชี่ยวชาญได้ย้ำถึงความจำเป็นในการปกป้องธุรกิจขนาดเล็กที่ขายสินค้าในตลาดออนไลน์ โดยแนะนำให้รัฐบาลออกกฎหมายเพื่อให้อำนาจเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นในการตักเตือน และสั่งปรับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มต่างๆ หากกระทำการเรียกร้องที่ไม่เหมาะสม และละเมิดกฎเกณฑ์ต่างๆ

กฎหมายดังกล่าวจะกำหนดให้บริษัทด้านเทคโนโลยีเปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับสัญญาที่ทำกับผู้ขายสินค้าเพื่อรับประกันกับผู้ขายว่า พวกเขามีวิธีการที่จะขอความช่วยเหลือ หากไม่ได้รับความเป็นธรรม

ทั้งนี้คณะทำงานดังกล่าวเตรียมจะยื่นรายงานและข้อเสนอต่อรัฐบาลญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้

ภาพ เอเอฟพี

กสทช.ประกาศเปิดประมูลคลื่น 700MHz เริ่มใช้คลื่น-จ่ายเงิน 1 ต.ค.63

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/it/586638

  • วันที่ 17 เม.ย. 2562 เวลา 23:17 น.

กสทช.ประกาศเปิดประมูลคลื่น 700MHz เริ่มใช้คลื่น-จ่ายเงิน 1 ต.ค.63

ค่ายมือถือโอด กดดันเรื่องเวลาที่สั้น ราคาประมูลสูง ชี้เทคโนโลยี 5G ใช้เวลาเตรียมการอย่างน้อย 2 ปี

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า จากคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้ผู้รับใบอนุญาตคลื่น 900 MHz สามารถขยายเวลาออกไปจากปี 2563 ที่ต้องจ่ายงวดสุดท้าย ออกไป 10 งวด นับตั้งแต่วันที่เริ่มจ่ายใบอนุญาต ซึ่งคือ ในปี 2559 หรือขยายเป็นปี 2569 และต้องเข้าร่วมประมูลคลื่น 700 MHz (สำหรับเทคโนโลยี 5G) โดยให้แจ้งความจำนงภายในวันที่ 10 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ กสทช.จะเปิดประมูลคลื่น 700MHz จำนวน 15 MHz 3 ใบอนุญาต ๆ ละ 15 MHz ในเดือนมิ.ย.นี้ เป็นการประมูลล่วงหน้าก่อน และให้จ่ายและใช้จริงในวันที่ 1 ต.ค.2563 โดยให้ผู้ประกอบโทรคมนาคมยื่นประมูลก่อน โดยหลักเกณฑ์การประมูลจะออกปลายเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการจัดตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อม รวมทั้งการประเมินค่าคลื่น 700MHz ด้วย

“การออกคำสั่งตามมาตรา 44 เกี่ยวกับทางด้านโทรคมนาคม โดยการใช้สิทธิตามมาตรา 44 ที่ออกมา จะมีการแบ่งงวดการชำระเงินออกเป็น 10 งวด ซึ่งผู้ที่ต้องการใช้สิทธิดังกล่าว จะต้องยื่นเรื่องต่อสำนักงาน กสทช.ภายในวันที่ 10 พ.ค.นี้ หรือภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.2562 เป็นต้นไป และหากยื่นสิทธิดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ขอรับการจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz ที่จะเปิดประมูลในเดือนมิ.ย.นี้ ให้ถือว่าสิทธิ์นั้นถูกยกเลิกไป” นายฐากร กล่าวภายหลังการประชุมกับผู้ประกอบการโทรมือถือและทีวีดิจิทัล วันที่ 17 เม.ย. 2562 เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายระเอียดต่าง ๆ ที่ คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการมีมาตรการช่วยเหลือ

สำหรับการชำระเงินค่าใบอนุญาตคลื่น 900 MHz ตามคำสั่ง คสช. จะแบ่งออกเป็น 10 งวด จากการนำเงินจากการประมูลทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งในส่วนของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) จำนวนกว่า 7.6 หมื่นล้านบาท และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส จำนวนกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท รวม 1.4 แสนล้านบาท นำไปหาร 10 ปี โดยปีที่ 1 คือปี 2559 ทั้งสองรายมีการชำระเงินค่าประมูลเข้ามาในจำนวน 17,206 ล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการทั้งสองรายจะต้องมีการจ่ายเงินเพิ่มเติมให้กับทางกสทช. ส่วนปี 2560 ที่ไม่มีการชำระเงิน ผู้ประกอบการต้องชำระเข้ามาเต็มจำนวนทั้งสองงวด ขณะที่ปี 2561 มีการชำระเงินเข้ามาเพียง 12,904 ล้านบาท และปี 2562 มีการชำระ 8,603 ล้านบาท ทำให้ในปี 2563 เมื่อมีคำสั่ง คสช.ออกมา เดิมรัฐจะมีรายได้เกิดขึ้น 1.3 แสนล้านบาท จะเหลือเป็น 54,800 ล้านบาท และทยอยจ่ายเพิ่มเติมไปอีก 4 งวด โดยจะสิ้นสุดการชำระเงินในปี 2569 รวมทั้งสิ้นรัฐจะมีรายได้ 2.03 แสนล้านบาทนอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่จะได้รับสิทธิดังกล่าวจะต้องเข้าร่วมประมูลคลื่น 700 MHz ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นราคาประมูลต่ำสุดไม่น่าจะต่ำกว่า 25,000 ล้านบาทต่อหนึ่งใบอนุญาตขนาด 15 MHz โดยใบอนุญาตฯ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.2563

ฉะนั้นผู้ประกอบการที่เข้าประมูลจะจ่ายเงินจริงในเดือน ต.ค.2563 ซึ่งจะทำให้รัฐมีรายได้ที่เกิดจากการประมูลอย่างน้อย 75,000 ล้านบาท ของจำนวน 3 ใบอนุญาต จากเดิมในปี 2563 รัฐจะมีรายได้ 54,800 ล้านบาท จะกลายเป็น 62,300 ล้านบาท และในปี 2564 รัฐจะมีรายได้เกิดขึ้น 27,000 กว่าล้านบาท จนไปถึงปี 2572 รวมทั้งสิ้นรัฐจะมีรายได้เกิดขึ้น 2.78 แสนล้านบาท

นายฐากร กล่าวว่า ผู้ประกอบการโทรคมนาคมสามารถยื่นขอรับสิทธิขยายเวลาการชำระค่าคลื่น 900 MHz ภายในวันที่ 10 พ.ค.2562 และให้รับการจัดสรรคลื่นความถี่ 700 MHz รายละ 15 MHz ในราคาประเมินเบื้องต้น 2.5 หมื่นล้านบาท/ใบอนุญาต แต่หากผู้ประกอบการรายใดไม่ใช้สิทธิ ก็จะให้เปิดประมูลเป็นการทั่วไป และจ่ายงวดค่าใบอนุญาตคลื่น 900 MHz ตามเดิม 4 งวด

“3 ค่ายถ้ารับสิทธิก่อน ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่ 700 MHz แต่ถ้าไม่ใช้สิทธิ ก็จะเปิดประมูลทั่วไป เราเซ็ตซีโร่ ด้านโทรคมนาคม ทีวี รัฐและผู้ประกอบการก็ได้ประโยชน์”นายฐากร กล่าว

นายวีระวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจสัมพันธ์และองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า ระยะเวลาในการจัดประมูลคลื่นความถี่ 700 MHz ค่อนข้างสั้น ขณะที่ราคาประมูลก็ยังสูง โดยเห็นว่าไม่ควรนำ 900 MHz มาเป็นพื้นฐาน เนื่องจากการให้บริการเทคโนโลยี 5G ต้องใช้ระยะเวลาเตรียมการอย่างน้อย 2 ปี และหากภาคอุตสาหกรรมที่เป็นผู้ใช้งานรายสำคัญไม่ตื่นตัวเกี่ยวกับ 5G ก็คงจะใช้เวลาอีกนาน

นายราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มกิจการองค์กรและพัฒนาธุรกิจ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) กล่าวว่า DTAC รับทราบการขยายระยะเวลาชำระเงินค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ซึ่งเป็นการยืนยันว่าราคาคลื่นความถี่ของประเทศไทยสูงเกินไป DTAC จะหารือกับทาง กสทช.เพื่อความชัดเจนเพิ่มขึ้นจากคำสั่งฯในเรื่องมาตรการดังกล่าว ก่อนที่จะพิจารณาตัดสินใจดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ดี DTAC ยังยืนยันตามได้เคยแจ้งไว้กล่าวคือ สนับสนุน กสทช.ในการจัดทำแผนจัดสรรคลื่นความถี่ที่ชัดเจน รวมถึงการกำหนดช่วงเวลาที่จะนำคลื่นมาจัดสรรล่วงหน้า และการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ ทั้งหมดที่จะถูกนำมาจัดสรรอย่างเหมาะสมก่อนที่จะดำเนินการประมูลครั้งต่อไป

ทั้งนี้ ใบอนุญาตคลื่นความถี่มีอายุ 15 ปี และจะมีการลงทุนไม่น้อยเลยหรือเป็นแสนล้านบาท กสทช.จึงควรกำหนดให้ชัดเจน เกี่ยวกับ Spectrum Roadmap ไม่ใช่ประกาศประมูลคลื่นความถี่เป็นก้อนๆ ในภาพการลงทุนควรจะเห็นแผนการจัดสรรคลื่นความถี่ชัดเจนจะได้วางแผนการลงทุนได้ ไม่ใช่ออกมาประมูลเป็นรอบๆ อย่างไรก็ตาม DTAC จะขอใช้สิทธิก่อน

นายอติรุฒน์ โตทวีแสนสุข รองประธานคณะกรรมการบริหาร TRUE กล่าวว่า จากการประมูลคลื่นความถี่ที่ผ่านมาทั้ง 3G และ 4G ทั้งอุตสาหกรรมโทรคมนาคมก็มีการแบกรับภาระมากขึ้น โดยเฉพาะ 900 MHz ถือได้ว่ามีราคาคลื่นความถี่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก เมื่อเทียบกับรายได้ต่อหัวของประชากร ทำให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมปัจจุบันนี้ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน และมีการเติบโตช้าลง หรือไม่มีการเติบโตเลย และด้วยความเข้าใจของรัฐบาลและกสทช. ทราบดีว่าการที่จะผลักดันให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าให้มีศักยภาพและแข่งขันได้ จะต้องนำคลื่นความถี่ 5G เข้ามาใช้ เพื่อสร้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งตรงนี้ส่วนหนึ่งก็ดีต่อประเทศ แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นภาระของผู้ให้บริการโทรคมนาคมทุกรายการที่มีมาตรการผ่อนผัน หรือหลายประเด็นที่ผู้ให้บริการฯ ได้เสนอไป เชื่อว่าในเรื่องเหล่านี้จะประกอบอยู่ในรายละเอียดที่ทางกสทช.มีความเข้าใจอย่างดีจะต้องเร่งและนำมาสื่อสารต่อสาธารณะต่อไป โดยเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหม่ ซึ่งจะต้องก้าวข้ามกรอบจำกัด และเชื่อว่ามีระยะเวลาเป็นตัวกดดัน ก็หวังว่ารายละเอียดจะออกมาโดยเร็ว โดยในส่วนของบริษัทฯ เองก็จะมีการรายงานเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาต่อไป

ดีป้าแนะนำแอพฯ Police i lert u ดูแลประชาชนช่วงสงกรานต์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/it/586394

  • วันที่ 14 เม.ย. 2562 เวลา 09:59 น.

ดีป้าแนะนำแอพฯ Police i lert u ดูแลประชาชนช่วงสงกรานต์

ดีป้าแนะนำแอพพลิเคชั่น Police i lert u ดูแลประชาชนช่วงสงกรานต์ อุ่นใจเหมือนมีตำรวจอยู่ใกล้ตัว

ดร. ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นฯ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) หรือ ดีป้า กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ประชาชนจากทั่วสารทิศจะร่วมกิจกรรมรื่นเริงในเทศกาลแห่งความสุข ดีป้า ห่วงความปลอดภัยของประชาชนจึงขอแนะนำแอพพลิเคชั่น Police i lert u บน iOS และ Android ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติพัฒนาร่วมกับ Anywhere To Go ซึ่งเป็น Startup เจ้าของ Application ชื่อดัง Claimdi โดย App Police i lert u นี้สะดวกต่อการใช้งาน

“ช่วงเกิดเหตุฉุกเฉิน จะแจ้งเหตุร้ายทาง 191 ก็มีอุปสรรคในเรื่องคู่สายเต็ม ต้องเสียเวลารอ หรือต้องเดินเรื่องถึงที่ สน. แอปพลิเคชั่น Police i lert u เป็นช่องทางเร่งด่วน และได้ข้อมูลครบถ้วน ทั้งเรื่องพิกัดแผนที่จุดเกิดเหตุ รูปภาพ และรายละเอียดเหตุการณ์จากผู้แจ้งเบาะแส จะส่งถึงตำรวจในท้องที่โดยตรง เป็นแอปพลิเคชันที่จะมีความปลอดภัย ผู้ใช้งานต้องลงทะเบียนกรอกรายละเอียดของผู้ใช้ในการสมัครเข้าใช้งาน และเมื่อแจ้งเหตุ ข้อมูล หมายเลขโทรศัพท์ ชื่อ รวมถึงตำแหน่งที่อยู่ของผู้แจ้งเหตุ จะไปปรากฏอยู่ในข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในท้องที่เกิดเหตุทันที เพื่อสามารถเข้ารับการช่วยเหลือโดยตรง” ดร.ชินาวุธ กล่าว

สำหรับวิธีใช้งาน เพียงดาวน์โหลดแอพ Police i lert u โหลดได้ทั้งบน App Store สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS และ Play Store สำหรับระบบปฏิบัติการ Android จากนั้นแตะที่ Sign Up แล้วกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน ทั้งชื่อ นามสกุล อีเมล วันเกิด เพศ และ ใส่รูปถ่ายจริงของตัวเองด้วย หากใครเคยใช้แอพ i lert u ตัวอื่นมาแล้วไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ สามารถใช้ USER เดิมในการ Sign In เข้าสู่ระบบได้ทันที

นอกจากสามารถแจ้งเบาะแสผ่านทางหน้ารายงานเหตุ i lert ได้แล้ว ยังสามารถโทรหาตำรวจผ่านทาง i CALL บนตัวแอพ หรือแชตคุยสดๆถึงตำรวจ ผ่านทาง i chat maps ถึงทีมงาน Police i lert u ได้ด้วย

กสทช.ชงไอเดียเก็บค่าOTTบีบเฟซบุ๊ก-ยูทูบ จ่ายเงิน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/it/585666

  • วันที่ 06 เม.ย. 2562 เวลา 07:49 น.

กสทช.ชงไอเดียเก็บค่าOTTบีบเฟซบุ๊ก-ยูทูบ จ่ายเงิน

กสทช. ชงไอเดียเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมการใช้ OTT จากเฟซบุ๊ก-ยูทูบ ถ้าไม่จ่ายจะถูกลดความเร็วในไทย

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. เปิดเผยแนวคิดเก็บค่าธรรมเนียมจากการใช้โครงข่ายจากผู้ให้บริการเนื้อหาที่ไม่มี โครงข่ายเป็นของตนเอง (Over The Top : OTT) ที่มีแบนด์วิดท์สูง ในงานสัมมนา ‘5G ปลุกไทย ที่ 1 อาเซียน’ โดยอธิบายว่า ในไทยมีการใช้งานเฟซบุ๊ก 61 ล้านบัญชี ยูทูบ 60 ล้านบัญชี ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และคาดว่าถ้าไทยเริ่มใช้งาน 5G เมื่อไหร่ การใช้งาน data ของประเทศจะเพิ่มเป็น 200 ล้านเทราไบท์

เพราะฉะนั้น เลขาธิการ กสทช. จึงมีไอเดียที่จะเสนอให้ที่ประชุม ถึงแนวทางการยกร่างหลักเกณฑ์การเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ ‘โครงข่าย’ จากผู้ให้บริการ OTT

ประเด็นสำคัญคือ ถ้าพบว่า OTT รายไหนมีปริมาณการใช้งานมาก แต่ไม่เสียค่าบริการ ความเร็วการใช้งานจะลดลง ซึ่งนี่คือมาตรการเพื่อให้ OTT ต้องหันมาจ่ายค่าบริการกันตามหลักเกณฑ์ที่จะถูกยกร่างขึ้นมา

“เราต้องการเก็บค่าบริการในการใช้โครงข่าย เพราะรัฐเป็นผู้ลงทุน และรายได้ที่ได้มา นอกจากนำไปบำรุงรักษาโครงข่ายแล้ว ส่วนที่เหลือก็จะนำส่งให้กระทรวงการคลัง ซึ่งเรื่องนี้จะต้องทำคู่ขนานไปกับ 5G” เลขาฯ กสทช. กล่าว

หลังจากนี้ กสทช.จะนำแนวคิดเก็บรายได้จากการใช้โครงข่ายจาก OTT ไปหารือระหว่างการประชุมอาเซียนในเดือนสิงหาคมที่กำลังจะถึงนี้

“แม้โลกอินเตอร์เน็ตจะเป็นโลกไร้พรมแดน แต่ผมอยากจะให้มองว่า เมื่อต่างประเทศจะเดินทางเข้ามาประเทศ ก็ยังมีค่าวีซ่า ฉะนั้น การนำข้อมูลเข้ามาให้บริการในไทย ก็ควรจ่ายเงินค่าใช้โครงข่ายอินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศให้กับผู้ประกอบการไทย และประเทศไทยด้วย เพื่อจะได้นำเงินไปบำรุงรักษาโครงข่าย เพื่อรองรับการบริการที่ดีต่อไป”

แอปเปิลหั่นราคาไอโฟนในจีนหวังกระตุ้นยอดขาย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/it/585278

  • วันที่ 02 เม.ย. 2562 เวลา 10:45 น.

แอปเปิลหั่นราคาไอโฟนในจีนหวังกระตุ้นยอดขาย

แอปเปิลปรับลดราคาไอโฟนในจีน หวังแก้ยอดขายซบเซา หลังราคาแพงกว่าคู่แข่ง

หลังจากเผชิญยอดขายซบเซาในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัท แอปเปิล อิงค์ ได้ประกาศปรับลดราคาโทรศัพท์มือถือไอโฟนในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา

เว็บไซต์แอปเปิลระบุว่า ไอโฟน เอ็กซ์อาร์ ปรับลดราคาลง 4.6% จาก 6,499 หยวน เหลือ 6,199 หยวน ขณะที่ ไอโฟน เอ็กซ์เอส และ ไอโฟนเอ็กซ์เอส แม็กซ์ จะปรับลดราคาลง 500 หยวน รวมทั้ง ไอแพด, คอมพิวเตอร์แมค และหูฟัง แอร์พอด ก็จะปรับลดราคาลงด้วยเช่นกัน

ขณะที่ นักวิเคราะห์ มองว่าการปรับลดราคาไอโฟนของแอปเปิลในครั้งนี้ เกิดจากการเผชิญยอดขายตกต่ำในหลายประเทศโดยเฉพาะจีน เนื่องจากที่ผ่านมาแอปเปิลตั้งราคาไอโฟนโดยอ้างอิงกับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งในปีที่แล้วค่าเงินดอลลาร์ได้แข็งค่าขึ้น10% ส่งผลให้ราคาสินค้าของแอปเปิลสูงกว่าคู่แข่ง

ภาพ เอเอฟพี

หัวเว่ยกำไรทุบสถิติ ยอดขายมือถือพุ่ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/it/584989

  • วันที่ 30 มี.ค. 2562 เวลา 07:12 น.

หัวเว่ยกำไรทุบสถิติ ยอดขายมือถือพุ่ง

รายได้-กำไรหัวเว่ยปี 2018 พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ธุรกิจสมาร์ทโฟนหนุน

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ เปิดเผยผลประกอบการปีที่ผ่านมา ว่า บริษัทมีรายได้สุทธิพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 7.21 แสนล้านหยวน (ราว 3.4 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 19.5% จากปี 2017 แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาหัวเว่ยเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากสหรัฐที่เรียกร้องให้ชาติพันธมิตรร่วมแบนอุปกรณ์ของหัวเว่ยก็ตาม

หัวเว่ย ระบุว่า กำไรสุทธิในปีที่ผ่านมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.93 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.8 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 25% จากปี 2017 ซึ่งได้แรงหนุนจากยอดขายสมาร์ทโฟนหัวเว่ยทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นถึง 45% โดยจัดส่งสมาร์ทโฟนไปทั้งหมด 206 ล้านเครื่อง พร้อมคาดการณ์ว่า รายได้ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นแตะ 8.4 แสนล้านหยวน (ราว 3.97 ล้านล้านบาท) โดยรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจสมาร์ทโฟนและบริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่องค์กร

อย่างไรก็ดี แม้ว่ารายได้จากสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้น แต่รายได้ธุรกิจด้านเครือข่ายโทรคมนาคมของหัวเว่ยกลับลดลง 1.3% จากปี 2017 แตะ 2.94 แสนล้านหยวน (ราว 1.38 ล้านล้านบาท)

“ความกังวลด้านความมั่นคงกำลังส่งผลกระทบต่อหัวเว่ย เนื่องจากประเทศต่างๆ จะเริ่มจำกัดการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย มากขึ้นเรื่อยๆ” บร็อก ซิลเวอร์ส กรรมการ ผู้จัดการของไคหยวน แคปปิตอล กล่าว

รุ่นใหม่ซบสตรีมมิ่งรับข่าวสาร-บันเทิง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/it/584983

  • วันที่ 30 มี.ค. 2562 เวลา 06:19 น.

รุ่นใหม่ซบสตรีมมิ่งรับข่าวสาร-บันเทิง

พีดับบลิวซี เผยคน รุ่นใหม่มากกว่าครึ่งสตรีมมิ่งรับชม สื่อ-บันเทิงทุกวัน ทิ้งการเสพสื่อแบบ เก่าๆ

น.ส.วิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษา บริษัท พีดับบลิวซี (PwC) ประเทศไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรม ลักษณะนิสัย และความ คาดหวังของผู้บริโภคออนไลน์ทั่วโลก พบว่า 38% มีการเสพสื่อและความบันเทิงผ่านการสตรีมมิ่งอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง โดยกว่า 50% เป็นคนรุ่นใหม่กลุ่มเจนแซดที่เกิดระหว่างปี 2533-2543 และมี 25% ที่รับชมข่าวสารหันมาใช้ช่องทางโซเชียลเป็นอันดับแรก

นอกจากนี้ 61% ของผู้บริโภคได้รับอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียในการ จับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจ หรือการบริโภคตามรีวิวเชิงบวก แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้บริโภคน้อยกว่า 20% มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าตามศิลปิน-ดาราที่มีชื่อเสียง หรืออินฟลูเอนเซอร์

สำหรับในประเทศไทยผลสำรวจพบว่า การชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคนั้นเพิ่มขึ้นมาที่ 67% จากปีก่อนที่ 48% เนื่องจากปัจจุบันคนไทยใช้มือถือมากขึ้น โดยข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พบว่า ณ ไตรมาส 3 ปี 2561 มีผู้ใช้มือถือถึง 124.6 ล้านเลขหมาย ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 119.8 ล้านเลขหมาย และส่วนใหญ่ยังใช้มือถือต่ออินเทอร์เน็ต 71.5 ล้านเลขหมาย

น.ส.วิไลพร กล่าวว่า การส่งเสริมให้ไทยก้าวสู่สังคมไร้เงินสดผ่านแผนพัฒนาระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ หรือ National e-payment จะยิ่งทำให้สถาบันการเงินของไทยหันมาให้บริการชำระเงิน ถอนเงินสดจากตู้ผ่านโมบายแบงก์กิ้งโดยไม่ต้องใช้ บัตรเอทีเอ็ม ขณะที่ร้านค้าทั่วไปก็หันมารับชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่น หรือคิวอาร์โค้ดมากขึ้น

สำหรับธุรกิจไทยควรศึกษากลุ่ม เป้าหมายของตัวเองว่ามีกลุ่มลูกค้าอยู่ในช่วงวัยใด และมีพฤติกรรมในการใช้เทคโนโลยีแบบไหน แล้วนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เพื่อ ช่วยออกแบบการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น รวมไปถึงการออกแบบโปรโมชั่น และกิจกรรม ส่งเสริมการขายอื่นๆ ที่ต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าด้วย โดยไม่ลืมเรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้บริโภค