Inter Entertainment : 10 พฤษภาคม 2560

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/269449

วันพุธ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ใครจะไปคิดว่าพี่บึกกล้ามโตอย่าง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ จะมีมุมน่ารักตะมุตะมิหยอกล้อกับนักท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน กลายเป็นที่ฮือฮาเมื่อมีนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มหนึ่งไปยืนถ่ายรูปหน้าหอไอเฟล กรุงปารีส จู่ๆ ก็มีนักปั่นจักรยานโผล่มาแย่งซีนหน้ากล้อง มองไปมองมา อ้าว! นั่นอาร์โนลด์นี่นา เมื่อตัวตนถูกเปิดเผยคุณพี่กล้ามโตก็ปั่นจักรยานหนีไปดื้อๆ พร้อมกับขบวนติดตามอีก 4-5 คน

ด้านคุณพี่อาร์โนลด์ก็ได้อัพภาพลงอินสตาแกรมขณะที่กำลังปั่นจักรยานชิลๆ ในปารีส พร้อมขอบคุณคณะทัวร์ที่ให้ร่วมแจมถ่ายรูปในเฟรมหอไอเฟลนี้ด้วย…น่ารักจริงๆ เลย

 

The Beatles ฉลองครบรอบ 50 ปี

ฉลองครบรอบ 50 ปีที่สุดของอัลบั้มชิ้นเอก “Sgt. Pepper’s Lonely Hearts Club Band” (ในปี 1967) จากวงดนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก “The Beatles” ด้วยผลงานชุดที่ทรงอิทธิพลรอบด้าน ทั้งการแต่งเพลง เรียบเรียง บันทึกเสียง โปรดิวซ์ ไปจนถึงงานออกแบบปกอัลบั้มที่มีความหมายสำคัญต่อโลกใบนี้ โดยอัลบั้ม “Sgt. Pepper’s Lonely Hearts Club Band” นำกลับมาจำหน่ายใหม่ในแพ็กเกจแบบ 2 ซีดี แผ่นแรกเป็นงานมิกซ์ใหม่ล่าสุดที่สร้างสรรค์โดย Giles Martin
และ Sam Okell ทำงานปรับและปรุงเสียงใหม่ในแบบสเตอริโอที่ Abbey Road Studios มิกซ์โดยตรงจากเทปสี่แทร็กต้นฉบับที่ George Martin และ Geoff Emerick ทำไว้ร่วมกับวง ส่วนแผ่นที่สองเป็นงานเพลงที่ไม่เคยถูกนำออกเผยแพร่มาก่อน ซึ่งรวมไปถึงเพลง “Penny Lane” และ “Strawberry Fields Forever” ที่วงทำงานในช่วงเดียวกันแต่ถูกปล่อยออกมาก่อน
จึงไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในอัลบั้ม กำหนดการวางจำหน่ายเดือนพฤษภาคมนี้แน่นอน

 

สวนสนุกในโลกแห่ง Avatar!

สายแฟนตาซีจะต้องกรี๊ดหนักมาก เมื่อ Walt Disney World Resort ที่ เบย์ เลค ในรัฐฟลอริด้า พร้อมเปิดสวนสนุกโซนใหม่ที่มีชื่อว่า Pandora : The World of Avatar ซึ่งเป็นการจำลองเมืองสมมติจากภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่องดัง “Avatar” เนรมิตโลกแพนโดร่าบนเนื้อที่กว่า 12 เอเคอร์ หรือพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ ให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานกับโซนโลกใบใหม่แบบสุดๆ แม้ว่าคุณจะไม่เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้มาก่อนก็ตาม เตรียมเปิดให้เข้าสนุกในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้

สีสันงาน  ‘Met Gala 2017’

ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย กับงาน “Met Gala” ประจำปี 2017 งานยักษ์ของคนดังในวงการฮอลลีวู้ดที่จะต้องออกมาเดินพรมแดงอวดโฉมประชันแฟชั่นสุดอลังการ ธีมของงานและนิทรรศการในปีนี้คือ “Rei Kawakubo/Comme des Garçons: Art of the In-Between”  โดย เร คะวะกุโบะ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ กอมม์ เดส์ การ์ซงส์ จัดที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทันในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาไฮไลท์ อยู่ที่นางเอกสาว คาร่า เดอลาวีญ และ ริฮานน่า จากภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์แห่งปี 2017 อย่าง “Valerian and the City of Thousand Planet”  ที่เตรียมเข้าฉาย 20 กรกฎาคมนี้ และ เจสสิก้า แชสเทน กับชุดสีเหลืองอร่าม จากหนัง “The Zookeeper’s Wife ฝ่าสงครามกรงสมรภูมิ” ปิดท้ายด้วย โซอี้ ดุตซ์ ที่มาในชุดสีขาวสะอาดตา กำลังจะมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง “Before I Fall ตื่นมา ทุกวัน ฉันตาย” จ่อคิวฉายบ้านเรา 15 มิถุนายนนี้

Inter Entertainment : 28 ธันวาคม 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/250355

วันพุธ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

7 คู่รักคู่ร้างยอดแย่แห่งปี 2016

ปี 2016 จัดเป็นปีที่ยุ่งเหยิงเอามากๆ สำหรับคู่รักดารานักร้องคนดังหลายต่อหลายคู่ บางคู่ออกตัวแรงมากกก แต่ก็ไปกันไม่รอด บางคู่ก็กลับมาคืนดีกันแบบงงๆ “บันเทิงแนวหน้า” เลยขอรวบรวมเอา 7 คู่รักคู่ร้างที่ทุกคนต้องจำได้ แต่ทุกคนต่างผ่านสถานการณ์ที่ไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไรมาฝากกัน

เทย์เลอร์ สวิฟท์ และ ทอม ฮิดเดิลส์ตัน

รักเร็ว เลิกเร็วที่สุดแห่งปีต้องยกให้คู่นี้ และเนื่องจากทั้งสองเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงทั้งคู่ ทำให้ความรักของสวิฟท์และฮิดเดิลส์ตันถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ และแน่นอนว่าเมื่อทั้งคู่เลิกกัน ข่าวการเลิกราก็ขายดิบขายดีไม่แพ้ตอนเดทกัน เรียกได้ว่าอย่างน้อยในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งสองคงจะไม่กลับมาคืนดีกันง่ายๆ แน่ๆ

เลียม เฮ็มส์เวิร์ธ และ ไมลีย์ ไซรัส

รักๆ เลิกๆ กันมาแล้วหลายต่อหลายครั้งจนแฟนๆ หัวหมุนไปหมด และแม้จะมีข่าวว่าเพิ่งกลับมาคืนดีกันได้ไม่นาน แต่ก็ว่ากันว่าเฮ็มส์เวิร์ธกับไซรัสก็ทะเลาะกันอย่างหนักอีกแล้ว และท่าทางงานแต่งงานที่ตั้งเป้าว่าจะจัดในปี 2017 ก็คงจะเป็นหมันอีกครั้ง

คิม คาร์เดเชียน และ คานเย่ เวสต์

เมื่อต้นปีคงไม่มีใครคิดว่าคาร์เดเชียนและเวสต์จะติดโผคู่รักยอดแย่แห่งปี แต่เวลาเดินทางมาถึงปลายปี ความสัมพันธ์ของทั้งสองกลับมีปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ ชนิดที่แม้จะมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจก็แทบจะเอาไว้ไม่อยู่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทั้งคิมและคานเย่ก็ยังไม่เลิกรากันแต่อย่างใด

แบรด พิตต์ และ แองเจลีนา โจลี

เลิกรากันมาตั้งแต่เดือนกันยายน จนถึงทุกวันนี้ เรายังคงเห็นข่าวการหย่าร้างของพิตต์ และโจลีปรากฏเป็นหัวข้อข่าวที่ประชาชนสนใจไม่เว้นแต่ละวันไม่เพียงแต่เรื่องที่ความรักที่เคยดูดดื่มของทั้งสองจืดจางลงเพราะเหตุใด แต่ที่ทุกคนกังขามากกว่าคงเป็นเรื่องที่ว่าพิตต์ทำร้ายร่างกายลูกๆ จริงหรือไม่ และข้อตกลงเรื่องการเลี้ยงดูบุตรที่ยังคงอยู่ในดุลพินิจของศาล

จัสติน บีเบอร์ และ โซเฟีย ริชชี่

ความรักของบีเบอร์และริชชี่นั้นทั้งร้อนแรงและหนักหน่วง จนกระทั่งทั้งสองเลิกรากัน เพียงเพราะบีเบอร์เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่พร้อมที่จะมีความสัมพันธ์กับใคร (อ้าว)

แอมเบอร์ เฮิร์ด และ จอห์นนี่ เด็ปป์

เป็นข่าวครึกโครมตั้งแต่ตอนที่คบกัน เพราะในตอนนั้นเด็ปป์เองก็มีภรรยาอยู่แล้ว แต่เขาก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขารักเฮิร์ดมาก และยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ แต่หลังจากแต่งงานกันเพียงไม่นาน ฝ่ายหญิงก็ขอหย่า แถมยังแจ้งความอีกด้วยว่าถูกเด็ปป์ทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด

ลินด์เซย์ โลฮาน และ อีกอร์ ทาราบาโซฟ

ที่สุดของที่สุดคงต้องยกให้คู่นี้ เพราะหลังจากที่โลฮานพยายามเคลียร์ตัวเองให้สะอาด เพื่อกลับมาผงาดในวงการได้อีกครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จนัก หลายๆ คนก็แอบลุ้นให้เธอมีความสุขในความรัก แต่กลายเป็นว่าโลฮานต้องมาเป็นกระสอบทรายให้กับทาราบาโซฟซะอย่างนั้น เคราะห์ดีที่ทั้งคู่เลิกกันขาดแล้ว

Inter Entertainment : 14 ธันวาคม 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/248596

วันพุธ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

มิค แจคเกอร์ กับลูกคนที่ 8 เมื่อวัย 73 ปี

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีข่าวว่า เมลานี แฮมริค แฟนสาววัย 29 ปี ของแจคเกอร์กำลังตั้งท้องลูกคนที่ 8 ของร็อกเกอร์รุ่นเดอะ ซึ่งข่าวนี้ได้สร้างความฮือฮาให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก

ตัวแทนของแจคเกอร์ได้ออกแถลงการณ์ว่า “มิคอยู่ที่โรงพยาบาลด้วยเมื่อตอนที่ทารกคลอดออกมา ทั้งแม่และเด็กแข็งแรงดี และเราก็อยากจะขอให้สื่อมวลชนช่วยเคารพความเป็นส่วนตัวของพวกเขาในขณะนี้ด้วย”

ลูกๆ ของแจคเกอร์ทั้ง 7 คนก่อนหน้านี้มีอายุเรียงกันไปตั้งแต่ 45-17 ปีเลยทีเดียว ทำเอาหลายคนกล่าวอย่างติดตลกว่า ร็อกเกอร์รุ่นเดอะคนนี้ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกในวัยที่คนอื่นต้องใส่ผ้าอ้อมให้ตัวเองเสียแล้ว

แม้จะมีลูกเยอะขนาดนี้ และผ่านความสัมพันธ์กับผู้หญิงมาแล้วถึง 5 คน แต่แจคเกอร์เคยแต่งงานมาแล้วแค่ครั้งเดียวกับ บริอังกา แจคเกอร์ ซึ่งเป็นแม่ของ เจด ลูกสาวคนหนึ่งของเขา

สำหรับข่าวดีที่เกิดขึ้นนี้ ทั้งแจคเกอร์และลูกๆ คนอื่นๆ ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมแต่อย่างใด ตรงข้ามกับสาธารณชนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นที่ติดตลกอย่างคับคั่ง อาทิ “ความจริงประจำวัน : มิค แจคเกอร์ ตอนนี้มีลูกที่อายุน้อยกว่าเหลนของตัวเองเสียอีก” หรือ “หากคุณคิดว่าโลกของเรามันบ้าไปแล้ว เมื่อคุณรู้ว่ามิค แจคเกอร์มีลูกกับนักบัลเลต์สาววัย 29 ปี ทุกอย่างก็จะดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที” และ “คนกลุ่มหนึ่งอาจจะคิดว่ามิค แจคเกอร์ แก่เกินกว่าจะมีลูก คนอื่นๆ ที่เหลือนั่นคือตัวมิค แจคเกอร์เอง”

คนใกล้ตัวเตือน คานเย่ เวสต์

อย่าอยู่ใกล้คาร์เดเชียน

ข่าวลือที่ว่า คิม คาร์เดเชียน ต้องการหย่าขาดจาก คานเย่ เวสต์ ยังคงโหมกระหน่ำอยู่ในกระแส แม้ว่าทั้งคิมและคานเย่จะยังคงปิดปากเงียบ ถึงขนาดว่ากันว่าคิมได้เดินทางไปพบกับทนายเพื่อขอคำปรึกษาในเรื่องนี้ เพราะเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของสามีจนเกินทนเสียแล้ว

ส่วนหนึ่งของสาเหตุในความร้าวฉาน คาดว่าน่าจะเกิดจากเมื่อตอนที่คิมถูกปล้นเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เธอขอเก็บตัวเงียบ ไม่ไปทัวร์คอนเสิร์ตกับสามีเหมือนเมื่อก่อน ทั้งสองจึงเริ่มมีปากเสียงกันนำไปสู่ปัญหาทางจิตใจของแร็พเปอร์หนุ่มที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

จนตอนนี้มีข่าวว่า คานเย่กำลังกลัวว่าจะเป็นอีกชื่อที่ถูกฆ่าทิ้งจากครอบครัวคาร์เดเชียน เพราะหากมองดีๆ จะเห็นได้ว่า บรรดาหนุ่มๆ ที่มาข้องแวะกับครอบครัวนี้ ไม่ว่าจะเป็น คริส ฮัมฟรีย์ สามีคนแรกของคิม หรือ ลามาร์ โอดอม อดีตสามีของ โคลอี คาร์เดเชียน ทำให้คนอื่นๆ มองว่าหนุ่มคนไหนก็ตามที่มายุ่งเกี่ยวกับสาวๆ ตระกูลคาร์เดเชียน และเจนเนอร์ ต่างก็ต้องเสียใจในภาพหลังทั้งสิ้น

แหล่งข่าวกล่าวว่า “ผู้คนรอบข้างเวสต์ต่างก็บอกว่า เขาต้องหนีให้ไกลจากคนบ้าๆ พวกนั้น มันน่าจะมีคำสาปแน่ๆ อะไรก็ตามที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับครอบครัวคาร์เดเชียนต่างก็ถูกทำให้มัวหมองในภายหลัง พวกนั้นเป็นพวกฉวยโอกาสที่พยายามจะหาผลประโยชน์จากเขา”

ตอนนี้ทั้งคิมและคานเย่ต่างก็แยกกันอยู่ โดยคิมได้พาลูกๆ ไปอาศัยอยู่กับมารดา คริส เจนเนอร์ เป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ส่วนคานเย่เองก็เพิ่งถูกปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาลเมื่อต้นเดือนนี้ หลังจากที่มีอาการคลุ้มคลั่ง โดยเขายังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดที่บ้าน

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่าทั้งสองไม่น่าจะหย่าร้างกัน แหล่งข่าวอื่นๆ กล่าวว่า “ข่าวเรื่องการหย่าร้างนั้นไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย หากจะมีอะไรเกิดขึ้น ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งในเรื่องการปล้น และเรื่องของเขา มันทำให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น คิมอยู่เคียงข้างเขา และพวกเขาก็ใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ข่าวลือเรื่องหย่าร้างเป็นเรื่องกุขึ้นทั้งเพ และมันเป็นข่าวที่แย่ เพราะมันทำให้กลายเป็นว่าเธอทิ้งเขาในตอนที่เขาต้องการ ซึ่งมันไม่จริงเลยสักนิด เพื่อนของเขาก็สนับสนุนทั้งเขาและเธอ”

แองเจลีนา โจลี ประณามแบรด พิตต์ ทำลูกๆ สะเทือนใจ

ตั้งแต่มีข่าวว่าหย่าร้างกัน ก็ดูเหมือนทั้ง แบรด พิตต์ และ แองเจลีนา โจลี จะมีเรื่องให้ต้องสาดโคลนใส่กันไม่เว้นแต่ละวัน และเรื่องหลักๆ ก็หนีไม่พ้นเรื่องลูกๆ ของทั้งสอง ล่าสุด แบรด พิตต์ ก็เพิ่งจะยื่นคำร้องต่อศาลอย่างเร่งด่วน โดยกล่าวหาว่าโจลีได้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเขาต่อสื่อมวลชน เพื่อทำให้เขาเสียชื่อเสียง

งานนี้โจลีก็ไม่รอช้าขอยื่นคำร้องบ้าง โดยว่ากันว่าเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของพิตต์และแมดด็อกซ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

เอกสารลงวันที่ 1 ธันวาคม เปิดเผยว่า ทนายความของโจลีได้สั่งให้พิตต์เข้ารับการบำบัดกับนักบำบัดผู้ซึ่งชำนาญในการประสานรอยร้าวระหว่างเขากับลูกๆ โดยยื่นเป็นเงื่อนไขว่า หากพิตต์ต้องการจะได้โอกาสมาเยี่ยมลูกๆ แบบที่ไม่ต้องมีผู้คอยสอดส่องดูแล เขาจะต้องเข้ารับการบำบัดเพื่อทำตัวเป็นผู้สนับสนุนที่ดี และเรียนรู้วิธีที่จะเป็นพ่อที่ดีให้กับเด็กๆ

ที่จริงแล้วจนกระทั่งตอนนี้ ก็ยังไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในเครื่องบินส่วนตัวของเขาเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าโจลีจะเชื่อว่าเด็กๆ จะยังคงบอบช้ำทางด้านจิตใจจากเหตุการณ์ในวันนั้น

ก่อนหน้านี้ ทนายความของพิตต์ได้รับทราบว่า แมดด็อกซ์ และ แพกซ์ ไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมการพบปะกับพ่อของพวกเขา ซึ่งทำให้คนอื่นๆ เชื่อว่าเด็กทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นดังกล่าว

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม พิตต์เองไม่ได้เจอลูกๆ มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์หลังจากนั้น และต่อมา การเยี่ยมลูกๆ ของเขาก็จะต้องถูกจับตามองตลอด ซึ่งทีมงานของพิตต์กล่าวว่านี่เป็นแผนการของโจลีที่ต้องการจะทำลายชื่อเสียงของอดีตสามี

ขณะเดียวกันฝ่ายโจลีเองก็อ้างว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะฝ่ายหญิงต้องการให้มั่นใจว่าเด็กๆ จะปลอดภัยเท่านั้น

ริฮานนา ยันไม่เกาเหลา บียอนเซ

ดูเหมือนว่าหลังๆ มานี้ ริฮานนา จะมีชื่อตกเป็นข่าวในเรื่องส่วนตัวมากกว่าเรื่องงาน แถมเรื่องส่วนตัวดังกล่าวยังโยงให้เธอเกาเหลากับคนนั้นทีคนนี้ที ล่าสุดนักร้องสาวออกมาเปิดใจถึงข่าวลือที่ว่าเธอไม่ถูกกับ บียอนเซ่ โดยเธอกล่าวว่าข่าวนี้ไม่เป็น

ความจริง

ริฮานนายอมรับว่าข่าวเกาเหลาระหว่างเธอและบียอนเซ่นั้นกระทบจิตใจเธอและแฟนเพลงของทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมาก โดยข่าวลือนี้มีมาได้สักระยะ และมาเป็นกระแสอีกครั้งเมื่อทางแกรมมี่อวอร์ดส์ประกาศชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในปี 2017

แฟนเพลงของริฮานนาคนหนึ่งไม่พอใจที่นักร้องสาวได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงเพียง 8 รางวัล ที่สำคัญคือไม่มีชื่อของริฮานนาในรางวัลใหญ่ๆ อย่าง อัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี และเพลงยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งไม่เพียงแต่บ่นเรื่องรางวัลแกรมมี่อวอร์ดส์เท่านั้น แฟนเพลงของริฮานนาคนดังกล่าวยังได้พาดพิงถึงบียอนเซ่เป็นนัยๆ ว่าคณะกรรมการของแกรมมี่คงจะเข้าข้างควีนเบย์มากกว่า จึงทำให้พลาดชื่อของริฮานนาไป

อย่างไรก็ตาม ริฮานนาได้ออกมาตอบโต้แค่ว่า “ฉันหวังว่าทุกคนจะหยุดพูดถึงเรื่องนี้ และมองไปที่ภาพรวมมากกว่า เราไม่อยากให้ใครปั่นให้ผู้หญิงผิวสีสองคนต้องมาทะเลาะกัน พวกเราทุกคนควรเฉลิมฉลอง และสถาบันแกรมมี่ก็คงจะเห็นด้วย”

คอมเมนต์จากริฮานนาถูกนักร้องสาวโพสต์ขึ้นหลังจากที่เธอเองก็ได้เข้าไปกดไลค์อินสตาแกรมภาพดังกล่าวของแฟนซึ่งนั่นคงทำให้คนอื่นๆ คิดว่าเธอเห็นด้วยกับโพสต์ดังกล่าว นักร้องสาวเลยต้องออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด

 

Inter Entertainment : 7 ธันวาคม 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/247762

วันพุธ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

คิม คาร์เดเชียน แยกกันอยู่กับคานเย เวสต์

เมื่ออาทิตย์ก่อน คานเย เวสต์ ถูกหามส่งโรงพยาบาลด้วยอาการป่วยทางจิต ทำเอาทุกคนตกตะลึง และวิจารณ์กันว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาสาว คิม คาร์เดเชียน ต้องสั่นคลอนหรือไม่

ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าแร็พเปอร์หนุ่มถูกปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งว่ากันว่าอาการคุ้มดีคุ้มร้ายของเขา และพฤติกรรมที่เป็นอันตราย ได้สร้างความร้าวฉานให้เกิดขึ้นในชีวิตสมรสจริงๆ และดูเหมือนจะเป็นที่ยืนยันแล้วว่าในตอนนี้ทั้งสองแยกบ้านกันอยู่

อย่างไรก็ตาม การแยกกันอยู่ในครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองจะเลิกราหรือหย่าร้างกันแต่อย่างใด แหล่งข่าวกล่าวว่าการแยกบ้านกันเพื่อความปลอดภัยของทั้งสองมากกว่า “เขาต้องเข้ารับการดูแลแบบผู้ป่วยนอกพร้อมกับทีมผู้รักษา คิมก็ยังเป็นห่วงเขา และให้ความช่วยเหลือ พวกเขาไม่รู้เลยว่าคานเยจะต้องการการรักษาไปจนถึงเมื่อไร”

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังกล่าวอีกด้วยว่าคิมเป็นห่วงสวัสดิภาพของลูกๆ ซึ่งพวกเขาไม่ได้เจอกับผู้เป็นพ่อเลยตั้งแต่เวสต์เข้าโรงพยาบาล “เธอกังวลมากในเรื่องให้ลูกๆ ไปอยู่ใกล้ๆ คานเย” แหล่งข่าวกล่าว พร้อมทั้งบอกว่าคิมไม่เคยพาลูกๆ ไปที่โรงพยาบาลเลย

ยังไม่มีรายงานแน่ชัดถึงความรู้สึกของคิมและคานเยในเรื่องนี้ และแม้ว่าปัญหาของทั้งสองอาจจะยังไม่ถึงขั้นหย่าร้างกัน แต่การจะกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันได้อย่างแนบแน่นอีกครั้งดูเหมือนจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะเลยทีเดียว

มีลา คูนิส และ แอชตัน คัทเชอร์ เผยชื่อลูกคนที่สอง

เพิ่มเติมความอบอุ่นให้กับครอบครัว มีลา คูนิส เพิ่งคลอดลูกคนที่สองให้กับสามี แอชตัน คัทเชอร์ ไปเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมาโดยทั้งสองตั้งชื่อลูกว่า ดิมิทรี พอร์ทวูด คัทเชอร์ น้ำหนักแรกคลอดราว 8 ปอนด์ กับอีก 15 ออนซ์

ทั้งสองออกแถลงการณ์สั้นๆ ว่า “เราอยากให้ลูกๆ ของเรามีโอกาสเลือกว่าเขาอยากใช้ชีวิตในสายตาของสาธารณชนหรือไม่ เราไม่อยากจะเลือกให้เขาในตอนนี้” ซึ่งนั่นหมายความเป็นนัยๆ ว่าทั้งสองคงจะยังไม่เปิดเผยรูปของลูกในตอนนี้

หากยังจำกันได้ เมื่อตอนที่หนูน้อย ไวแอต ลูกสาวคนแรกของทั้งคู่เกิด คัทเชอร์ได้แชร์ภาพเด็กทารกน้อยมากมายหลายภาพ เพื่อให้แฟนๆ ลองเดากันว่าคนไหนคือไวแอต และเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เขาก็ได้โพสต์ภาพเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ซึ่งอายุน่าจะประมาณไวแอต แต่เขาก็ไม่เคยบอกว่านั่นใช่รูปของเธอหรือไม่

สำหรับดิมิทรีแล้ว คาดว่าคงอีกนานกว่าสื่อมวลชนจะได้ยลโฉมความน่ารักของหนูน้อย

แอนนา ฟาริส กังวลสามีนอกใจ

เคยเป็นคู่ขวัญคู่หวานของวงการ มาวันนี้กลับมีข่าวว่าเกิดรอยร้าวขึ้นในความสัมพันธ์ของ แอนนา ฟาริส กับสามี คริส แพรตต์ เสียแล้ว

เมื่อเดือนก่อน ทั้งสองเพิ่งจะมีข่าวถูกฟ้องร้องเรื่องละเลยสัตว์เลี้ยง โดยทั้งสองได้รับเลี้ยงสุนัขมาจากศูนย์ดูแลสัตว์แห่งหนึ่ง ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องดูแลมันให้ดีที่สุด และไม่ยกให้ใครต่อ แต่ทั้งสองก็ทำผิดสัญญา ทำให้ทั้งสองต้องจ่ายค่าปรับกับทางศูนย์ เป็นจำนวนสูงถึง 5,000 เหรียญสหรัฐ

และในตอนนี้ ดูเหมือนว่าฟาริสจะตกเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อเธออกมาเปิดเผยว่าเธอกับสามีได้ฝ่าฟันอย่างมาก
ในการที่จะเป็นคู่รักของสาธารณชน ซึ่งมันก็ยากขึ้นเรื่อยๆ จนมีข่าวลือว่าชีวิตรักของทั้งสองกำลังมีปัญหา

ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่า คริสได้แอบไปกุ๊กกิ๊กกับนางเอกสาว เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ตอนที่ทั้งคู่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Passengers” ด้วยกัน ซึ่งฟาริสพูดถึงเรื่องนี้ว่า “ฉันจำได้ว่ามันเจ็บปวดและรบกวนฉันแค่ไหน เพราะว่าฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นคนที่รู้สึกอะไรกับข่าวไร้สาระบนหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ ฉันภูมิใจในความสัมพันธ์อันดีเยี่ยมของฉันกับคริส แต่แน่นอนว่า ในโลกบ้าๆ ใบนี้ เวลาที่เขาต้องออกไปข้างนอกเพื่อถ่ายหนัง และฉันต้องอยู่ที่แอล.เอ.เพื่อเลี้ยงลูก แน่นอน ฉันก็รู้สึกไม่มั่นคง
เหมือนๆ กับคนธรรมดาคนอื่นๆ บนโลก”

ฟาริสทิ้งท้ายว่าข่าวลือต่างๆ มันทำให้เธอรู้สึกไม่มั่นคงได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าข่าวลือเหล่านั้นจะไม่มีมูลความจริงก็ตาม

 

ลือหึ่ง เคที่ แพร์รี่ ท้องแล้วกับออร์แลนโด บลูม

ตกเป็นเป้าข่าวลือว่ากำลังจะแต่งงานมาสักระยะแล้ว สำหรับนักร้องสาว เคที่ แพร์รี่ และแฟนหนุ่ม ออร์แลนโด บลูม ซึ่งทั้งสองก็ไม่ออกมาตอบรับให้แฟนๆ ชื่นใจได้สักที มาวันนี้ข่าวลือรุนแรงขึ้นเมื่อมีข่าวว่าแพร์รี่ตั้งท้องกับบลูมแล้ว ทีนี้ล่ะ เราคงจะได้ยินเสียงระฆังวิวาห์เสียที

มีคนตาดีแอบเห็นแพร์รี่สวมแหวนเพชรเม็ดเขื่องเมื่อเธอออกเดทกับบลูมในอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งแหล่งข่าวกล่าวว่า แพร์รี่พยายามจะเลี่ยงที่จะตอบคำถามเรื่องแต่งงานกับบลูม แต่ตอนนี้ ข่าวลือไปไกลกว่านั้นแล้ว

แพร์รี่และบลูมปรากฏตัวขึ้นในงานเลี้ยงของยูนิเซฟในแมนฮัตตัน ซึ่งในขณะที่ ฮิลลารี่ คลินตัน กำลังอยู่บนเวทีเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ กล้องก็ได้จับภาพไปที่คู่หวานคู่นี้ และเห็นได้ชัดเจนว่าบลูมใช้มือลูบท้องของแพร์รี่อย่างรักใคร่ เพียงเท่านั้น แฟนๆ ก็รอตั้งชื่อลูกของทั้งสองแล้ว

แน่นอนว่าทั้งสองก็ยังไม่ได้ออกมาตอบรับหรือปฏิเสธข่าวดังกล่าวเช่นเคย

Inter Entertainment : 30 พฤศจิกายน 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/246901

วันพุธ ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

จัสติน บีเบอร์ ชกหน้าแฟนเพลงในบาร์เซโลนา

ผ่านมาได้สักระยะหนึ่งแล้วที่ จัสติน บีเบอร์ ไม่มีข่าวฉาวออกมาให้หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ได้ตื่นเต้น จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีข่าวว่านักร้องหนุ่มทำร้ายร่างกายแฟนเพลงคนหนึ่งที่บาร์เซโลนา ด้วยการชกเข้าที่หน้า

ก่อนที่จะตัดสินว่าบีเบอร์ทำตัวเลือดร้อนอีกครั้ง ก็มีผู้ถ่ายภาพวีดีโอเหตุการณ์ครั้งนั้นเอาไว้ได้ โดยจากวีดีโอเห็นได้ชัดว่านักร้องหนุ่มกำลังนั่งเพลินๆ อยู่ในรถที่เปิดหน้าต่าง โดยคนขับรถกำลังขับออกไป ท่ามกลางเสียงกรี๊ดของแฟนเพลงจำนวนมาก ก่อนที่ผู้ชายคนหนึ่งจะเดินเข้ามาประชิดรถด้านที่บีเบอร์นั่งอยู่ และแหย่มือเข้าไปหานักร้องหนุ่มแบบไม่ยอมปล่อย พร้อมกับวิ่งตามรถไปด้วย

ไม่มีใครเห็นว่าบีเบอร์คิดอะไรอยู่ แต่ที่ทุกคนเห็นคือมือของบีเบอร์ได้ชกเข้าไปที่หน้าของแฟนเพลงคนดังกล่าวเข้าอย่างจัง ทำเอาชายคนนั้นถึงกับเลือดกบปาก ก่อนที่รถของนักร้องหนุ่มจะถูกขับออกไป

งานนี้หลายคนเข้าข้างบีเบอร์ โดยแก้ตัวแทนเขาว่าเขาทำไปเพื่อป้องกันตัวเอง เนื่องจากนักร้องหนุ่มน่าจะตกใจกับการกระทำดังกล่าว และทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ต่างจากตอนที่เขาทำร้ายช่างภาพปาปาราซซีในปารีสเมื่อสองสามปีก่อน ซึ่งอันนั้นเป็นผลมาจากที่นักร้องหนุ่มโกรธที่ถูกแอบถ่ายรูปนั่นเอง

เซลีนา โกเมซ กับบทสัมภาษณ์แรกหลังเข้ารับการบำบัด

เกือบสองเดือนที่ผ่านมา นักร้องสาว เซลีนา โกเมซ ได้เข้ารับการบำบัดเพื่อรักษาอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล ที่รัฐเทนเนสซี่ โดยเธอเคยกล่าวว่ามันเป็นผลมาจากที่เธอเป็นโรคลูปัส หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง และตอนนี้เธอได้กลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง โดยนักร้องสาวปรากฏตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานประกาศรางวัลอเมริกัน มิวสิค อวอร์ดส์ เมื่ออาทิตย์ก่อน

โกเมซได้ขึ้นรับรางวัลนักร้องหญิงยอดนิยมสาขาเพลงป๊อป/ร็อก โดยเธอกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีมีใจความตอนหนึ่งว่า“ฉันต้องหยุด เพราะฉันมีทุกอย่างแล้วและฉันก็รู้สึกแตกสลายอยู่ภายใน ฉันเก็บมันเอาไว้มากพอจนฉันไม่อยากทำให้พวกคุณต้องผิดหวัง แต่ฉันเก็บมันไว้มากเกินไปจนทำให้ตัวฉันต้องผิดหวังเสียเอง”

หลังจากนั้นเธอก็ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับหนึ่งถึงการบำบัดว่า “เราไปเดินป่ากัน เรามีเครื่องพิลาทิสด้วย ฉันได้นอนบนเตียงเรียกเหงื่อที่มีหน้าตาเหมือนบูริโต้ที่ฉันห่อตัวเองเอาไว้ข้างใน และฉันก็นอนให้เหงื่อออกสัก 45 นาที มันเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆที่ทำให้ฉันสุขภาพดีขึ้น และทำให้ฉันมีสมาธิขึ้น”

นักร้องสาวกล่าวต่ออย่างติดตลกอีกด้วยว่า เธอได้สระผมนานๆ ครั้ง “รู้สึกเหมือนกับว่าทุกๆ สามวันนะที่ฉันได้อาบน้ำ เอ้ย..ไม่ใช่อาบน้ำ…สระผม ฉันอาบน้ำทุกวัน เฮ้ อย่ามาตัดสินกันนะ ที่นั่นมันปลอดภัย” โกเมซกล่าว

นอกจากนี้ การบำบัดยังทำให้เธอตระหนักได้ว่า คนเราไม่ควรจะต้องแต่งหน้าทุกวัน “ฉันไม่เข้าใจเลย…ไม่ได้ว่านะ…แต่ทำไมคนเราต้องแต่งหน้าอยู่ตลอดเวลา แล้วก็บอกว่า โอ้ คุณสามารถนอนหลับไปพร้อมๆ กับทามอยซ์เจอไรเซอร์แบบมีสี หรือสเปรย์สีแทนบนใบหน้า และคุณก็ตื่นขึ้นมาได้ สำหรับฉันนะฉันคิดว่านั่นไม่ใช่ฉันเลย นอกจากนี้ฉันเป็นคนมีสิวด้วย ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นคำแนะนำที่แย่หรือเปล่า…สำหรับฉัน ฉันไม่สามารถจะนอนหลับได้โดยมีอะไรก็ไม่รู้อยู่บนตัว หรือมีอะไรสีๆ ทาอยู่เพราะฉันจะกังวลมาก” นักร้องสาวกล่าวทิ้งท้าย

คานเย เวสต์ ถูกหามส่งโรงพยาบาลด้วยอาการทางจิต

ทำเอาทุกคนตกอกตกใจเมื่อแร็พเปอร์ชื่อดัง คานเย เวสต์ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเมื่ออาทิตย์ก่อน โดยว่ากันว่าเป็นเพราะเขามีอาการเหนื่อยอ่อน พร้อมกับข่าวลือว่าเวสต์อาจกำลังมีปัญหาทางจิตด้วยซ้ำ

ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่าเวสต์ได้ทำร้ายร่างกายพนักงานในฟิตเนสแห่งหนึ่ง ก่อนถูกคุมตัวส่งโรงพยาบาล แถมเขายังถูกใส่กุญแจมือและมัดไว้กับเตียงผู้ป่วย เพื่อไม่ให้ไปทำร้ายร่างกายใครได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นิตยสารฉบับหนึ่งได้ออกมาหักล้างข่าวลือดังกล่าว โดยบอกว่าเวสต์ไม่ได้ถูกจับหรือใส่กุญแจมือแต่อย่างใด การทะเลาะเบาะแว้งนั้นอาจเกิดขึ้นจริง แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ในตอนนี้ หลายฝ่ายต่างมุ่งประเด็นไปที่สาเหตุแห่งการสติแตกของแร็พเปอร์ชื่อดัง โดยก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเวสต์มีปัญหาไม่ทางร่างกายก็จิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการที่เขาเหน็บแนม บิยอนเซ่ บนเวทีคอนเสิร์ต ก่อนจะจบการแสดงของตัวเองหลังจากร้องไปได้แค่สามเพลง พร้อมทั้งยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตทั้งหมดที่เหลือ หรือการที่เขาสติแตกที่ฟิตเนส ก่อนจะถูกคุมตัวให้อยู่ในการดูแลของแพทย์

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวใกล้ชิดของเวสต์ออกมาปกป้องเขาว่า แร็พเปอร์หนุ่มเพียงแค่พักผ่อนไม่พอ และได้เข้ารับการรักษาตัวตามคำแนะนำของแพทย์ส่วนตัวเท่านั้นเอง

คริส แพรตต์ และ แอนนา ฟาริสถูกฟ้องฐานละเลยสัตว์เลี้ยง

กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของอเมริกานั้นแรงใช่ย่อย และเมื่อคู่รักนักแสดงอย่างคริส แพรตต์ และ แอนนาฟาริส ออกอาการไม่สนใจ ปล่อยปละละเลยสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ทางการสหรัฐอเมริกาก็ไม่รอช้า ตั้งข้อหากับทั้งสองทันที

ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อฟาริสรับเลี้ยงสุนัขมาตัวหนึ่งเมื่อราว4 ปีก่อน โดยเธอตั้งชื่อมันว่าพีท โดยตอนนั้น ดาราสาวได้เซ็นสัญญากับผู้ประสานงานศูนย์ให้ความช่วยเหลือสัตว์ว่าเธอยินดีที่จะจ่ายค่าปรับ 5,000 เหรียญสหรัฐ หากเธอเอาสุนัขตัวนี้ไปให้กับคนอื่น

แต่เมื่ออาทิตย์ก่อน มีผู้พบเห็นสุนัขตัวดังกล่าวเดินเร่ร่อนอยู่บนถนนที่นอร์ท ฮอลลีวู้ดในสภาพผอมกะหร่องอย่างน่ากลัว หลังจากตรวจที่ไมโครชิพที่ฝังไว้ก็พบว่าสุนัขตัวนี้คือพีท ที่มีแพรตต์และฟาริสเป็นเจ้าของ โดยทั้งสองไม่อยู่ในเมือง และตัวแทนของทั้งสองก็บอกว่า ดาราทั้งคู่ได้จัดการส่งสุนัขตัวนี้ให้กับคนอื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากทั้งสองพบว่าพวกเขาไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้อีกต่อไป

งานนี้ยังไม่มีใครทราบว่าทำไมฟาริสและแพรตต์ถึงกล้าฝ่าฝืนข้อตกลง และทั้งสองได้จ่ายเงินให้กับทางศูนย์แล้วหรือไม่ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของดาราทั้งคู่ที่ต้องเจอกับปัญหาเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 แพรตต์เองเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์มาแล้ว เมื่อเขาพยายามจะยกแมวอายุ 15 ปีของเขาให้กับคนอื่นทางทวิตเตอร์

บรรดาคนรักสัตว์ต่างตำหนิดาราหนุ่มเป็นการใหญ่ โดยแพรตต์ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะเขาอยากสร้างครอบครัว และคิดว่าเป็นการไม่เหมาะสมที่จะเลี้ยงแมวและเลี้ยงลูกไปพร้อมๆ กัน

แบรด พิตต์ พ้นข้อกล่าวหาทำร้ายลูก

สองสามเดือนที่ผ่านมาไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนักสำหรับ แบรด พิตต์ เพราะนอกจากที่ทั่วโลกจะจับตามองเรื่องการหย่าร้างของเราจากอดีตภรรยา แองเจลินา โจลี แล้ว พระเอกหนุ่มยังตกเป็นเป้าการสอบสวนเรื่องการทำร้ายร่างกายลูกจากเอฟบีไอ ทำให้ในบางครั้ง เขาไม่ได้เจอหน้าลูกๆ เป็นอาทิตย์ๆ

ตอนนี้โจลีได้รับสิทธิ์การเลี้ยงดูบุตรทางด้านร่างกายแต่เพียงผู้เดียว และกว่าที่ทั้งสองจะตกลงกันในเรื่องการเลี้ยงดูบุตรแบบถาวรได้ ดูเหมือนว่าพิตต์จะยังคงถูกปิดกั้นไม่ได้ได้เจอกับลูกๆ เป็นการชั่วคราวไปก่อน

อย่างไรก็ตาม ยังคงพอมีข่าวดีอยู่บ้างสำหรับพิตต์ เมื่อทางเอฟบีไอได้ออกมาประกาศยุติการสอบสวนเรื่องการทำร้ายร่างกายบุตรของพระเอกหนุ่ม และไม่ได้ตั้งข้อหาพิตต์แต่อย่างใด แม้จะยังไม่มีใครทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงที่เขาได้มีปากเสียงกับลูกชายคนโตอย่าง แมดด็อกซ์ จนทำให้โจลีย้ายออกจากบ้าน และฟ้องหย่าในที่สุด

งานนี้ดูเหมือนพิตต์จะยังพอกู้ชื่อเสียงคืนกลับมาได้บ้าง โดยเอฟบีไอได้ประกาศว่า “เพื่อเป็นการตอบสนองต่อข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นบนเที่ยวบินด้วยเครื่องบินพิเศษที่บินอยู่เหนือน่านฟ้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ลงจอดที่ลอส แองเจลิส นำพามิสเตอร์ แบรด พิตต์ และลูกๆ ของเขา เอฟบีไอได้ดำเนินการตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้ว และจะไม่ทำการสืบสวนอื่นใดต่อไป ไม่มีการตั้งข้อหาต่อใครในเรื่องนี้”

ลินด์เซย์ โลฮาน วิจารณ์ อาเรียนา แกรนเด แต่งหน้าจัด

ใครๆ เขาก็รู้ทันกันแล้วว่า ลินด์เซย์ โลฮาน มักจะอาศัยความเป็นเกาเหลาของเธอกับดาราคนอื่นๆ ในการทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้เกาเหลาชามนั้นตกเป็นของนักร้องสาว อาเรียนา แกรนเด

เมื่อเร็วๆ นี้ แกรนเดโพสต์ภาพของเธอและเพื่อนลงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งภาพนั้นก็ดูดีไม่มีอะไร จนกระทั่งโลฮานมาคอมเมนต์ว่า “แต่งหน้าจัดเกิน”

แม้ว่าแกรนเดจะดูเหมือนไม่สนใจ และไม่ออกมาตอบโต้อะไรกับดารารุ่นพี่คนนี้ แต่แฟนๆ ของเธอกลับอดรนทนไม่ได้ ออกมาปกป้องนักร้องสาวทันทีด้วยการคอมเมนต์ตอบโต้โลฮานอย่างรุนแรง

ต้องบอกว่าชีวิตของโลฮานกลับมามีปัญหาอีกครั้ง หลังจากที่เธอเลิกกับแฟนหนุ่มขี้โมโหที่ชอบทำร้ายร่างกายอีกอร์ ทาราบาโซฟ ชีวิตดาราสาวกลับไม่ดีขึ้นเลย นอกจากเธอจะคอยแต่หาเรื่องคนดังคนอื่นๆ ไปวันๆ เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้จัดการส่วนตัวของเธอยังขอถอนตัว และออกมาประณามดาราสาวอย่างรุนแรง ถึงพฤติกรรมคุ้มดีคุ้มร้าย และชอบทำตัวเป็นนางพญาของเธอ เป็นการยากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับโลฮานในการที่จะกลับมาเจิดจรัสในวงการบันเทิงอีกครั้ง จนถึงตอนนี้ ดาราสาวก็ยังไม่มีผลงานอะไรเข้าตาเป็นชิ้นเป็นอัน ตรงข้ามกับข่าวฉาวที่มีมากเป็นระลอกๆ

Quote

ชีวิตเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ในท้ายที่สุด ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสที่คุณได้เจอจะกลายเป็นกำลังอันยิ่งใหญ่ของคุณเอง

ดรูว์ แบร์รี่มอร์

Inter Entertainment : 23 พฤศจิกายน 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/245912

วันพุธ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ลือสนั่น คริส เจนเนอร์ ต้นเหตุ เจย์ ซี นอกใจ บิยอนเซ่

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าอัลบั้ม “Lemonade”ของนักร้องสาว

บิยอนเซ่ จัดว่าเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ด้วยยอดขายและคำนิยมอย่างล้นหลาม

เมื่อมองให้ลึกลงไปจะเห็นว่าเพลงนี้ของเธอได้กล่าวถึงผลลัพธ์ในแง่บวกที่ได้จากสถานการณ์ในแง่ลบ ซึ่งแม้ว่าเนื้อเพลงจะไม่ได้กล่าวถึงสามีสุดที่รักอย่าง เจย์ ซี โดยตรง แต่ก็ทำให้ใครหลายๆ คนเห็นรอยร้าวในความสัมพันธ์ของคู่รักคู่นี้

นั่นทำให้นักข่าวแต่ละสำนักต่างพยายามขุดคุ้ยว่าใครกันที่เป็นมือที่สามของความรักระหว่างควีนเบย์ กับ เจย์ ซี ผู้หญิงชื่อดังมากมายหลายคนที่มีความใกล้ชิดกับแร็พเปอร์ชื่อดังต่างตกเป็นเป้าหมายของผู้สื่อข่าวมาแล้วแทบจะทั้งสิ้น ไล่กันตั้งแต่ที่น่าจะเป็นไปได้อย่าง ริฮานนา ไปจนถึงบุคคลที่ไม่น่าเชื่ออย่าง มาดอนนา ซึ่งเมื่อจับมือใครดมไม่ได้ ข่าวการนอกใจของ เจย์ ซี ก็ดูจะถูกลืมๆ ไปในที่สุด

จนเมื่อเร็วๆ นี้ กลับมีข่าวประหลาดออกมาว่า ไม่แน่ว่าผู้หญิงที่ เจย์ ซีแอบไปกุ๊กกิ๊กด้วยอาจจะมีชื่อว่า คริสเจนเนอร์ ก็เป็นได้ โดยหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ฉบับหนึ่งของอังกฤษ ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ช่างทำผมคนหนึ่งในวงการฮอลลีวู้ดซึ่งได้เคยร่วมงานกับบิยอนเซ่มาก่อน นามว่า แอนโธนี่ ปาโซส ซึ่งอ้างว่าเขามีข้อมูลเกี่ยวกับการนอกใจของแร็พเปอร์ชื่อดัง

ปาโซสกล่าวว่า “ที่น่าตลกก็คือ ไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้เพราะว่าเจนเนอร์นั้นแก่กว่า แล้วทำไม เจย์ ซี ถึงทำอย่างนั้น แต่ถ้าคุณลองคิดให้ดี มันก็มีเหตุผลอยู่”

อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือนักในสายตาคนอื่นๆ ทำให้สาวปริศนาของ เจย์ ซี ก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป

‘เอ็ดดี้ เรดเมย์น’ ปฏิเสธไม่เคยเดท ‘เทเลอร์ สวิฟท์’

คนอะไรจะเป็นข่าวได้ตลอดเวลาขนาดนี้ แถมตอนนี้หัวใจยังว่าง ทำให้นักร้องสาว เทเลอร์ สวิฟท์ ถูกจับไปโยงว่าเป็นคู่กับคนนั้นคนนี้อยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่พระเอกหนุ่มที่มีภรรยาแล้วอย่าง เอ็ดดี้ เรดเมย์น

เกิดข่าวลือขึ้นว่า เรดเมย์กับสวิฟท์เคยมีประสบการณ์กุ๊กกิ๊กกัน เมื่อมีคนถาม พระเอกหนุ่มก็ตอบอย่างนุ่มๆ ว่าเขากับสวิฟท์ไม่เคยมีเรื่องราวโรแมนติกเกิดขึ้นซึ่งกันและกันมาก่อนอย่างแน่นอน

การที่เรดเมย์นออกมาปฏิเสธข่าวนี้คงไม่ช็อกวงการเท่าไร แต่เมื่อเขาเปิดเผยว่า เขาเคยได้เจอกับสวิฟท์เมื่อตอนที่เธอมาเข้ารับการทดสอบคัดเลือกเพื่อรับบทเอพโพนี ในภาพยนตร์เรื่อง “Les Miserables” นั่นทำให้ข่าวลือก่อนหน้านี้ที่เคยบอกว่าสวิฟท์ไม่ผ่านการคัดเลือกในภาพยนตร์เรื่องดังนั้นเป็นจริงอย่าง 100% เพราะบทนี้ตกเป็นของนักแสดงดาวรุ่งอย่าง ซาแมนธา บาร์คส์ ในภายหลัง

เทเลอร์ สวิฟท์ หวังช่วย เดรก แก้แค้น ริฮานนา

ใครที่ลุ้นคู่นี้อยู่คงต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เมื่อมีข่าวว่าแท้จริงแล้ว เทเลอร์ สวิฟท์ ไม่ได้เดทกับ เดรก อย่างจริงจังเหมือนที่คนอื่นคิด แต่เธอพยายามตีข่าวให้ใหญ่โตนั้น เป็นเพราะเธออยากจะตอกหน้า ริฮานนา ที่หักอกเพื่อนรักของเธอไปต่างหาก

ก่อนหน้านี้ เดรกได้เคยคบหากับริฮานนามาแล้วถึงสองครั้ง แต่น่าเสียดายว่าทั้งสองก็ไปกันไม่รอดเสียที จนหากว่าสวิฟท์จะเป็นราชินีจอมอกหักแล้ว เดรกก็สามารถครองบังลังก์ราชาในเรื่องนี้ได้เช่นกัน ซึ่งนั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แฟนๆ ต่างก็ลุ้นว่าคู่นี้จะคบกันเกินเพื่อนได้จริงๆ

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สวิฟท์กำลังช่วยงานในอัลบั้มใหม่ของเดรกอยู่ โดยว่ากันว่าเพลงใหม่ของเขาน่าจะเป็นการเสียดสีรักเก่าๆ อย่างริฮานนาไม่มากก็น้อย แหล่งข่าวกล่าวว่า “แน่นอนว่าจะต้องมีการขุดคุ้ยเรื่องเก่า เดรกเองก็ยังทำใจไม่ได้กับการที่เขาต้องเลิกกับริฮานนาและก็หวังว่าเพลงนี้จะทำให้เธอรู้สึกอะไรบ้าง”

นอกจากจะต้องการช่วยเพื่อนแล้ว สาเหตุหนึ่งที่สวิฟท์รู้สึกเหม็นขี้หน้าริฮานนาก็อาจจะมาจากการที่เพลงของแฟนเก่า เคลวิน แฮร์ริส ที่ร่วมงานกับริริ ในระยะหลังๆ กลับดังระเบิดระเบ้อ ซึ่งน่าจะทำให้นักร้องสาวหมายหมั้นปั้นมือว่าการร่วมงานของเธอกับเดรกจะทำให้เธอได้เพลงที่ดีกว่า และดังกว่าเพลงของแฟนเก่าอย่างแน่นอน

ไบรอัน กรีน เห่อลูก อวดรูปชุดใหญ่

คงไม่มีใครปฏิเสธว่าคุณแม่ลูกสามอย่าง เมแกน ฟ็อกซ์ ดูยังไงก็ยังสาวยังสวย ไม่เหมือนคนมีลูกแล้ว แต่ถ้าหากจะบอกว่าลูกๆ ของเธอเป็นเด็กที่หน้าตาดี อันนี้หลายคนอาจจะยังสงสัยเพราะทั้งฟ็อกซ์และสามี ไบรอัน กรีน ต่างก็ไม่ยอมให้ใครมายุ่งความเป็นส่วนตัวของลูกๆ ได้เลย

ลูกๆ ของฟ็อกซ์และกรีนประกอบด้วยโนอาห์ อายุ 4 ขวบ, โบดิ วัย 2 ขวบ และ เจอร์นีย์ที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน

ล่าสุด เห็นท่าว่าจะทนความน่ารักของลูกๆ ทั้งสามไม่ไหว คุณพ่อกรีนเลยแชร์ภาพใหม่ 4 ภาพของลูกๆ ทั้งสามลงบนอินสตาแกรม ทำเอาแฟนๆ กดไลค์กันเป็นการใหญ่ ซึ่งก็รวมไปถึงภาพของหนูน้อยเจอร์นีย์ด้วย

ก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ว่ากรีนปล่อยให้อินสตาแกรมของเขาร้างมานานถึง 7 เดือนไม่เหมือนภรรยาสาวที่อวดรูปลูกคนเล็กไปตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมาแล้ว

มีแต่คนกล่าวว่าการที่เจอร์นีย์มาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวนั้น ทำให้ความรักของทั้งสองแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยก่อนหน้านี้นางเอกสาวได้ฟ้องหย่าจากกรีนไปเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2015 หลังจากครองรักกันมาได้ 5 ปี

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองก็คืนดีกัน โดยนางเอกสาวได้ปรากฏตัวที่งานซีเนมาคอนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในแบบที่เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ แหล่งข่าวกล่าวว่า “ไบรอันและเมแกนได้พยายามดำเนินชีวิตไปแบบเป็นตัวของตัวเอง และทุกอย่างมันก็เริ่มดีขึ้นในฐานะคู่รัก พวกเขาเข้ากันได้ดีเยี่ยม พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีของกันและกัน และรู้จักกันดี พวกเขาชื่นชมกันและกันในฐานะที่เป็นพ่อแม่ของลูกๆ และก็ตั้งตารอลูกคนที่สามที่จะลืมตามาดูโลก”

Quote

“เงินและความสำเร็จไม่ได้เปลี่ยนคนได้หรอก มันเพียงแต่ทำให้อะไรที่เราเป็นอยู่แล้วชัดเจนขึ้นต่างหาก”

 

Inter Entertainment : 16 พฤศจิกายน 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/244791

วันพุธ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

แบรด พิตต์ เตรียมปล่อยเทปทำลายชื่อเสียง แองเจลินา โจลี

เรื่องราวการหย่าร้างระหว่างแบรด พิตต์ และ แองเจลินา โจลี ยังคงวุ่นวายไม่จบ โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่ทั้งสองฝ่ายอยากเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าฝ่ายโจลีจะได้เปรียบ เนื่องจากพิตต์เองมีข่าวว่ามีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับเด็กๆ มานาน

อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือว่า พิตต์กำลังมีไม้ตายเป็นเทปบันทึกเสียงของโจลี ที่ว่ากันว่าหากเขาตัดสินใจปล่อยเทปนี้เมื่อไร ก็ไม่แน่ว่าสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรอาจถูกเปลี่ยนมือก็เป็นได้

ข่าวลือก็ยังคงเป็นแค่ข่าวลือ เพราะไม่มีใครทราบว่าจริงๆ แล้วเทปบันทึกนั้นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร แต่ว่ากันว่านี่คือการแก้แค้นของพิตต์ต่ออดีตภรรยา โทษฐานที่เธอปล่อยข่าวว่าเขามีปากเสียงและทำร้ายแมดด็อกซ์ จนทำให้พิตต์ตกเป็นเป้าหมายของเอฟบีไอในการสอบสวน ซึ่งแหล่งข่าวใกล้ชิดกับพระเอกหนุ่มเปิดเผยว่า “ใช่ มีการโต้เถียงระหว่างเขากับแมดด็อกซ์ แต่มันก็แค่นั้น มันไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกาย แบรดเองก็ทำตัวให้คนอื่นๆ เห็นได้ชัดเจนว่าเขาอยากจะให้ข้อตกลงเป็นผลสำเร็จเสียที และหยุดกล่าวหากันและกันได้แล้ว”

แหล่งข่าวกล่าวถึงเรื่องเทปลึกลับนี้ว่า “ไม่มีใครอยากเล่นสกปรกแบบนี้หรอก มันไม่ดีต่อเด็กๆ ตอนนี้โจลีกับทีมของเธอก็พยายามทำลายความน่าเชื่อถือของแบรดเพื่อไม่ได้เขาได้สิทธิ์ในการร่วมเลี้ยงดูบุตร”

ในโลกแห่งอุดมคติ พิตต์ คงอยากจะให้การจัดการเรื่องการเลี้ยงดูบุตรเป็นไปอย่างสงบ โดยปราศจากการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรม และทำร้ายจิตใจลูกๆ แต่เชื่อว่าเขาก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะยังได้พบปะเลี้ยงดูลูกทั้ง 6 คนอยู่

เมแกน มาร์เคิล ย้ายเข้าวังเคนซิงตันแล้ว

กลายเป็นผู้หญิงที่คนทั้งโลกอิจฉาไปแล้ว สำหรับนักแสดงสาวเมแกน มาร์เคิล ที่มีข่าวว่ากำลังเดทกับ เจ้าชายแฮร์รี่ ซึ่งตอนนี้ นอกจากเธอจะใช้เวลาที่ลอนดอนกับเจ้าชายอยู่บ่อยๆ แล้ว ยังมีข่าวว่าเธอย้ายเข้าไปอยู่ในวังเคนซิงตันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งวังเคนซิงตันยังเป็นสถานที่ที่เคท มิดเดิลตันและเจ้าชายวิลเลี่ยมทรงประทับอยู่ด้วยเช่นกัน

มาร์เคิลได้มีโอกาสเจอกับเจ้าชายแฮร์รี่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่โตรอนโตหลังจากนั้นเธอก็เดินทางไปอังกฤษบ่อยครั้งขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา โดยที่เธอเพียงแต่แชร์รูปการไปเที่ยวของเธอบนอินสตาแกรมเท่านั้น แต่ไม่เคยบอกใครว่าเธอไปอังกฤษทำไม

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน ข่าวที่ว่าทั้งสองเดทกันก็แพร่กระจายไปทั่วอินเตอร์เนต ซึ่งกระแสเป็นไปในทางไม่ชื่นชอบดาราสาวสักเท่าไรนัก ทำให้เจ้าชายแฮร์รี่ต้องออกโรงปกป้อง และยืนยันว่าเขากำลังคบหากับมาร์เคิลอยู่จริง

สำนักพระราชวังของอังกฤษได้ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ มีใจความว่า “สัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เห็นเส้นข้ามผ่าน แฟนของพระองค์ท่าน เมแกน มาร์เคิล ได้ตกเป็นกระแสในการโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง…บางส่วนนั้นกระทำต่อสาธารณชน ละเลงกันอยู่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ระดับประเทศ การวิจารณ์ในเรื่องเชื้อชาติ และการเหยียดหยามทางชนชาติ และเพศที่เกิดขึ้นในหมู่นักเลงคีย์บอร์ดและคอมเมนต์ต่างๆ บนเว็บไซต์…” จดหมายกล่าวต่อไปว่าเจ้าชายแฮร์รี่ทรงหวาดกลัวและเป็นห่วงในความปลอดภัยของเมแกน และทรงผิดหวังที่ไม่สามารถจะปกป้องเธอได้ดีกว่านี้

ตอนนี้ดูเหมือนว่าดาราสาวจะขอพักจากการถ่ายทำซีรี่ส์ดัง “Suits” เป็นการชั่วคราว ทำให้หลายคนมองว่าหรือเธอจะกำลังเตรียมตัวแต่งงาน เพราะเธอเองก็มีโอกาสได้เข้าเฝ้าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระบิดาของเจ้าชายแฮร์รี่แล้วด้วย

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่า“มันไม่น่าแปลกใจหรอกหากเจ้าชายแฮร์รี่จะทรงคิดถึงเรื่องหมั้นหมาย เพราะว่านี่เป็นสิ่งที่พระองค์ท่านสนใจในตอนนี้ แต่ความสัมพันธ์ของพระองค์ท่านนั้นยังไม่ถึงเวลา…นี่คือเจ้าชายแฮร์รี่ตัวจริง ปัญหาของพระองค์ท่านคือเมื่อท่านทรงตกหลุมรักท่านทรงจริงจังกับมันมาก ท่านกำลังอยู่ในช่วงเวลานั้น”

หนุ่มโรคจิตตามติด ‘เทเลอร์ สวิฟท์’ โดนจับกุมแล้ว

ตกเป็นเป้าพวกโรคจิตชอบสะกดรอยตามอีกราย สำหรับนักร้องสาวชื่อดัง เทเลอร์ สวิฟท์ ที่ตอนนี้ทั้งเธอและครอบครัวกำลังไม่เป็นสุขจากการถูกติดตามของนักสะกดรอยรายหนึ่ง นามว่า แฟรงค์ แอนดรูว์ ฮูเวอร์ ที่กระทำการดังกล่าวมาเป็นเวลา 2-3 เดือนแล้ว โดยแม้ว่านักร้องสาวจะขอคำสั่งศาลในการสั่งห้ามฮูเวอร์ไม่ให้เข้าใกล้เธอในระยะ 500 ฟุตแล้ว แต่เรื่องราวอันน่าขนลุกก็ยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆ

มีรายงานข่าวว่า ฮูเวอร์พยายามติดตามสวิฟท์ไปทุกๆ ที่ และพยายามเข้าใกล้นักร้องสาวให้ได้มากที่สุด ซึ่งไม่เพียงแต่ตัวของสวิฟท์เท่านั้น แต่สมาชิกในครอบครัวของเธอก็โดนติดตามไปด้วย ซึ่งทำให้นักร้องสาวไม่พอใจเป็นอย่างมาก

แน่นอนว่าสวิฟท์มีบอดี้การ์ดส่วนตัวคอยอารักขาเธออยู่เสมอ ซึ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับบอดี้การ์ด ฮูเวอร์ก็โอดครวญว่าเขาแค่อยากจะถ่ายรูปกับศิลปินคนโปรด และอยากติดตามเธอไปไหนต่อไหนเท่านั้นเอง

แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เขายังพยายามติดต่อกับพ่อของนักร้องสาวทางอีเมล์ และส่งข้อความแปลกๆ ที่อ่านแล้วชวนขนลุกไปให้ด้วย อาทิ “หากไม่มีเธอแล้ว ผมคงจะเดินอยู่บนโลกนี้เพียงคนเดียวไปตลอดกาล และเธอก็จะยังคงต้องเจอกับความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว ซึ่งนั่นมันทำให้หัวใจของเธอแตกสลาย”

ล่าสุด ฮูเวอร์ถูกจับกุมแล้วในข้อหาการก่อความรุนแรงซ้ำซาก ซึ่งขัดต่อคำสั่งในการปกป้องคุ้มครอง โดยเขาต้องการเงินประกันตัวสูงถึง 100,000 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว

ฮูเวอร์ไม่ใช่นักสะกดรอยคนเดียวที่สร้างความปวดหัวให้นักร้องสาว ก่อนหน้านี้ มีแฟนเพลงสติเฟื่องคนหนึ่งได้ปรากฏตัวที่บ้านของสวิฟท์ และแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์ของเธอกับทอม ฮิดเดิลส์ตัน

เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ทะเลาะหนัก จัสติน เธอโรกซ์

แฟนๆ ของ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน กำลังกลัวว่าเธอจะเจริญรอยตามอดีตสามี แบรด พิตต์ ไปเสียแล้ว เมื่อล่าสุดมีข่าวว่าดาราสาวทะเลาะกับสามีคนปัจจุบัน จัสติน เธอโรกซ์ จนอาจถึงขั้นหย่าร้างกันเร็วๆ นี้

แม้ว่าอนิสตันจะให้สัมภาษณ์ถึงเธอโรกซ์อย่างหวานซึ้งทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการยกยอว่าเขาเป็นคนดี และน่ารักเพียงใด แต่สื่อมวลชนบางฉบับก็ยังออกมาประกาศว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองมาถึงทางตันเสียแล้ว แถมดาราสาวยังน้ำหนักขึ้นอีกถึง 20 ปอนด์

ส่วนสาเหตุในการทะเลาะกันของทั้งสอง ว่ากันว่าก็มาจาก แบรด พิตต์ นั่นเอง “เขาโกรธมากที่แบรดโทร.หาเจน…ความหึงหวงทำให้เกิดเรื่องขึ้นหลังจากที่แบรด พิตต์ และเจนนิเฟอร์ อนิสตัน กลับมาติดต่อกันลับหลังสามีอย่างจัสติน เธอโรกซ์…”

เห็นได้ชัดว่าอนิสตันมักตกเป็นเป้าข่าวแย่ๆ จากสื่อมวลชนมาตลอดชีวิตการทำงานของเธอ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงานของเธอกับพิตต์ที่ล้มเหลว การที่เธอไม่สามารถหาชายอื่นใดมาเคียงกายได้ ไปจนถึงรูปร่างหน้าตาของเธอ

แหล่งข่าวกล่าวว่า “เจนและจัสตินทะเลาะกันตั้งแต่เขารู้เรื่องของแบรด เขารู้สึกเหมือนถูกทรยศ แต่เจนก็บอกเขาว่าแบรดต้องการคนที่ฟังเขาอย่างเห็นอกเห็นใจเท่านั้น และเธอรับสายเขาก็เพราะเธออยากสนับสนุนเขา เธอเองไม่คาดคิดว่าจัสตินจะมีปฏิกิริยาแบบนี้…”

แต่ก่อนที่แฟนคลับของคู่นี้จะตื่นตระหนก ต้องขอบอกว่าอนิสตันและเธอโรกซ์มีข่าวว่าจะเลิกกันบ่อยเอามากๆ ตั้งแต่ถอนหมั้น ไม่ได้แต่งงาน มาจนตอนนี้ที่มีข่าวว่าจะหย่ากัน ซึ่งอันที่จริงแล้ว ทั้งสองก็ยังคงเป็นคู่รักที่รักกันมากคู่หนึ่งในวงการ แต่ข่าวดีๆ มักขายไม่ค่อยออกเท่าไร

Quote

ความแข็งแกร่งไม่ได้เกิดมาจากการชนะ การต่อสู้ต่างหากที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของคุณได้ เวลาที่คุณต้องเผชิญกับอุปสรรค แล้วคุณตัดสินใจที่จะไม่สยบให้มัน นั่นล่ะความแข็งแกร่ง

อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์

Inter Entertainment : 9 พฤศจิกายน 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/243739

วันพุธ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

เดรก เติมเชื้อไฟข่าวเดท เทเลอร์ สวิฟท์

เพราะไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเป็นโสดได้นาน แฟนๆ เลยจับตามองว่าหนุ่มคนใหม่ของ เทเลอร์ สวิฟท์ จะเป็นใคร และเป้าหมายล่าสุดก็ตกมาอยู่ที่แร็พเปอร์หนุ่มหน้ามน เดรก

กระแสข่าวว่าเดรกกับสวิฟท์กำลังคบหากันนั้นเริ่มมาตั้งแต่เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน หลังจากที่นักร้องสาวได้เดินทางไปงานวันเกิดของเดรก แต่นั่นคงไม่ใช่ประเด็น เพราะศิลปินคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น จอห์น เมเยอร์, เคที่ แพร์รี่,เจมี่ ฟ็อกซ์ และ เฟรนช์ มอนทานา ต่างก็ตบเท้าเข้าร่วมงานนี้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแต่หลายคนต่างก็ยืนยันว่าวันนั้น ทั้งเดรกและสวิฟท์ดูสนิทสนมกันเกินเพื่อน

แหล่งข่าวกล่าวว่า ทั้งสองหยอกล้อกันอย่างสนิทแนบแน่น พูดคุยกันอย่างใกล้ชิด และหัวเราะด้วยกัน นอกจากนี้ยังว่ากันว่าคนที่เดรกใช้เวลาด้วยมากกว่าแม่ของเขาก็สวิฟท์นี่ล่ะ

เมื่อพูดถึงแม่ของนักร้องหนุ่มก็มีข่าวออกมาว่าเขาได้แนะนำสวิฟท์ให้รู้จักกับแม่ของเขาแล้ว ซึ่งตามธรรมเนียมแล้ว เป็นแค่เพื่อนกันก็ไม่จำเป็นต้องแนะนำให้รู้จักกับแม่ก็ได้…โดยทางนักร้องหนุ่มแก้ตัวว่า เป็นเพราะแม่ของเขาเป็นแฟนเพลงตัวยงของ
สวิฟท์ต่างหาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้เดรกก็เพิ่งทำให้แฟนๆ ตั้งข้อสงสัยถึงสถานะความสัมพันธ์ของเขากับสวิฟท์อีกครั้ง เมื่อเขาแชร์ภาพของเขากับสวิฟท์บนอินสตาแกรม ซึ่งทำให้แฟนๆ ยิ่งสงสัยถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง โดยบางคอมเมนต์ได้กล่าวว่า “เดรกโพสต์ภาพกับเทเลอร์ สวิฟท์ และฉันไม่เคยรู้สึกเครียดขนาดนี้มาก่อน มันคืออะไรน่ะ” และอีกคอมเมนต์กล่าวว่า“ใครบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเดรกและเทเลอร์ สวิฟท์”

มีรายงานข่าวว่า เดรกและสวิฟท์กำลังร่วมกันทำงานเพลงชิ้นใหม่อยู่ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นคำอธิบายที่ดีว่าทำไมทั้งสองจึงใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ แร็พเปอร์หนุ่มก็บอกว่าเขาอยากร่วมงานกับสวิฟท์ โดยเขากล่าวเมื่อปี 2010 ว่า “ผมมองว่าเทเลอร์เป็นคนที่สนุกสนานอยู่เสมอ วันก่อนผมซื้อเสื้อยืดเทเลอร์ สวิฟท์ ซึ่งผมอาจจะใส่มันคืนนี้…ผมแค่มีอะไรเล็กๆ กับเธอ ผมแค่ชอบที่เธอเป็นเธอ ผมรู้สึกตื่นเต้นกับอาชีพของเธอ”

 

‘นิกกี มินาจ’ ทะเลาะกับแฟนออกสื่อ

มีภาพลักษณ์เป็นสาวบู๊ปากกล้าอยู่แล้ว ไม่เว้นแม้แต่เรื่องความรัก ที่ นิกกีมินาจ ไม่เคยปิดบังความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนหนุ่ม มีค มิล และไม่เคยหวั่นต่อเสียงวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของคนรอบข้าง แต่เมื่อมีข่าวลือว่าทั้งสองหมั้นกันแล้ว ก็ดูเหมือนว่ามินาจจะสงบปากสงบคำ ไม่ยอมเปิดเผยเรื่องส่วนตัวเหมือนแต่ก่อน

ล่าสุด มินาจโพสต์อินสตาแกรมที่ส่อเค้าว่าเธอมีปัญหากับมิล โดยเธอโพสต์ว่า “อย่าไปช่วยคนอกตัญญูให้ยืนได้ด้วยตัวเอง มันเหมือนกับบอกหมาป่าว่าแกะของคุณอยู่ที่ไหน”

แน่นอนว่า จากโพสต์นักร้องสาวไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าเธอกล่าวถึงใคร แต่หลังจากนั้นไม่นาน มิลก็ได้โพสต์ว่า “คนบางคนต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับผู้ชายของคุณอย่างมีความสุข แทนที่จะหาเรื่องทะเลาะกับเขาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง7 วัน อย่าทำเหมือนกับว่าคุณต้องมีปัญหาไปกับทุกเรื่องที่ผมทำ ผมก็แค่ทำหน้าที่ของผม”

เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่มิลดันไปเรียกมินาจว่าเป็น “แฟนชั่วคราว” เมื่อเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่ามินาจกับมิลมีปัญหาอะไรกัน แต่หลายคนก็ลงความเห็นว่าน่าจะเกี่ยวกับที่ฝ่ายชายกำลังมีปัญหากับ เดรก อยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองสนิทกันมาก

 

ลือสนั่น มารายห์ แครีย์ ป่องกับ ไบรอัน ทานากะ

ดูมีน้ำมีนวลขึ้นอย่างผิดหูผิดตาทำให้เกิดข่าวลือขึ้นกับนักร้องสาวมารายห์ แครีย์ ว่าเธอน่าจะกำลังตั้งครรภ์ และเมื่อเธอเลิกกับคู่หมั้นหนุ่มมหาเศรษฐี เจมส์ ปาร์คเกอร์ อย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว เลยมีข่าวว่าพ่อของเด็กน่าจะเป็นนักเต้นสุดเซ็กซี่ ไบรอัน ทานากะคู่ควงคนใหม่

กระแสวิพากษ์วิจารณ์รักครั้งใหม่ของแครีย์ในครั้งนี้เป็นไปอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าเธอเจริญรอยตามเส้นทางความรัก
(ที่น่าจะจบลงอย่างเลวร้าย) แบบเดียวกับนักร้องสาวที่ประสบความสำเร็จคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น มาดอนนา, บริทนีย์ สเปียร์ และ เจโล ที่ต่างเคยสานต่อกับแดนเซอร์หนุ่มรุ่นน้อง และจบลงด้วยความผิดหวังช้ำใจ

แต่ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร นาทีนี้ โลกของแครีย์คงเป็นสีชมพูมากเกินกว่าจะสนใจคนรอบข้าง เพราะไม่ว่านักร้องสาวจะไปไหน ทุกคนก็จะเห็นทานากะไปกับเธอด้วยเป็นเงาตามตัว ซึ่งมีข่าวว่าคนรอบข้างแครีย์หลายคนก็ไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าววิจารณ์ทานากะว่า “ไบรอันเป็นนักร้องและนักเต้นที่กำลังจะแย่ และทุกคนรอบตัวมารายห์ก็เห็นสัญญาณอันตราย แต่มารายห์ก็กลับไม่สน เธอจะช่วยทุกคนที่ช่วยเธอและเขาก็ให้ในสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดในขณะนี้…มารายห์ชอบให้ผู้ชายของเธอบูชาเธอ และเขาก็ทำเช่นนั้น”

 

เจนนิเฟอร์ โลเปซ โชว์ภาพอวดบั้นท้ายคล้าย คิม คาร์เดเชียน

จะเรียกว่ากลับมาทวงบังลังก์คืนก็คงไม่ผิดนัก สำหรับนักร้องสาวบั้นท้ายสุดฮอตอย่าง เจนนิเฟอร์ โลเปซ ที่ก่อนหน้านี้ได้หายหน้าหายตาไปนาน ตอนนี้ หลังจากที่เธอมีข่าวความรักกับอดีตแฟนเก่า เบน แอฟเฟล็กก็ดูเหมือนว่าเจ-โล จะดูสดใส และปรากฏตัวบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น ล่าสุด นักร้องสาวได้ถ่ายภาพเซลฟี่อวดบั้นท้ายที่ยังดูดีสุดๆ แม้ว่าอายุอานามเธอจะอยู่ที่หลักสี่แล้วก็ตาม

หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การถ่ายภาพเซลฟี่ของเจ-โล ในครั้งนี้ดูละม้ายคล้ายคลึงกับภาพเซลฟี่ของ คิม คาร์เดเชียน ที่ถ่ายขึ้นหลังจากที่เธอเพิ่งคลอดลูกคนแรกมาหมาดๆ แถมบางคนยังวิจารณ์ว่าโลเปซดูดีกว่าเยอะ ทั้งที่อายุมากกว่าเป็นสิบปี

แฟนๆ ของเธอคงต้องรอว่าหลังจากนี้ เจ-โล จะมีผลงานอะไรดีๆ ออกมาให้ได้หายคิดถึงกันบ้างหรือเปล่า นอกเหนือไปจากข่าวความรักของเธอที่ดูจะยังไม่ยืนยันว่าตกลงเธอจะหันกลับไปควงถ่านไฟเก่าอย่าง เบน แอฟเฟล็ก หรือเธอจะเริ่มรักครั้งใหม่กับเคลวิน แฮร์ริส อดีตหวานใจของเทเลอร์ สวิฟท์

สำหรับเรื่องราวของเจ-โล กับ แคสเปอร์ สมาร์ท นั้นคงจบกันอย่างสิ้นเชิงแล้วจริงๆ ล่าสุดมีข่าวยืนยันว่าทั้งคู่เลิกกันเนื่องจากฝ่ายชายนอกใจ “เธอเตะเขาออกจากบ้านเพราะเขามีชู้ และเขาก็โดนจับได้มันเกิดขึ้นมาเมื่อสองปีก่อน เขาสัญญากับเธอว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นอีก แต่เขาก็ทำอีก และเธอก็รู้สึกว่าพอแล้ว เขาบอกว่าเขาจะเปลี่ยน เขาจะเป็นคนใหม่ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีวีดีโอที่ถ่ายทำในเม็กซิโก เขาอยู่ในวีดีโอนั้นกับแดนเซอร์สาวๆ ในชุดบิกินี และเขาก็ไม่ได้ดูเหมือนคนที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยแม้แต่น้อย” แหล่งข่าวกล่าว

 

‘ไมเคิล บูเบล’ เผยเรื่องเศร้า ลูกสามขวบเป็นมะเร็ง

เป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆ เมื่อนักร้องหนุ่มเสียงนุ่มชาวแคนาดา ไมเคิล บูเบล ออกมาเปิดเผยข่าวอันน่าเศร้าว่า โนอาห์ ลูกชายคนโตวัยเพียง 3 ขวบของเขา ถูกหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง

นักร้องหนุ่มโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คของภรรยาว่า “เรารู้สึกหัวใจแตกสลาย ต่อการวินิจฉัยโรคมะเร็งของโนอาห์ ลูกชายคนโตของเรา ซึ่งตอนนี้กำลังเข้ารับการรักษาอยู่ในอเมริกา เรามักจะพูดคุยกันเสมอถึงความสำคัญของครอบครัว และความรักที่เรามีต่อลูกๆ ของเรา ผมและภรรยาจะใช้เวลาทั้งหมด ให้ความเอาใจใส่ เพื่อช่วยให้โนอาห์ดีขึ้น โดยเราจะหยุดงานทั้งหมดของเราไว้ก่อนในตอนนี้ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เราอยากจะขอให้คุณช่วยสวดภาวนาให้เขา และกรุณาเคารพในความเป็นส่วนตัวของพวกเราด้วย เรายังมีเส้นทางอันยาวไกลอยู่ข้างหน้า และเราหวังว่ามันจะช่วยสนับสนุนครอบครัวของเรา ตลอดจนเพื่อนๆ แฟนๆ ที่อยู่รอบโลก และส่งเสริมความศรัทธาที่เรามีต่อพระเจ้า เราสามารถชนะในอุปสรรคครั้งนี้ได้”

บูเบลเองมีลูกชายคนเล็กอีกคนนามว่าอีเลียส ซึ่งตอนนี้ทั้งครอบครัวต่างก็ปักหลักอยู่ที่อเมริกา เพื่อทำการรักษาโนอาห์ โดยในตอนแรกนั้น ครอบครัว คิดแค่ว่าโนอาห์ป่วยเป็นคางทูม สำหรับประเภทของมะเร็งนั้น แพทย์ยังไม่ได้ชี้ชัด ว่าโนอาห์ป่วยเป็นมะเร็งในส่วนไหน และยังคง ทำการวินิจฉัยเพื่อหาวิธีการรักษาต่อไป

 

 

Inter Entertainment : 2 พฤศจิกายน 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/242725

วันพุธ ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

เมล กิ๊บสัน ขอทุกคนลืมข่าวฉาวในอดีต

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีพระเอกที่ชื่อว่า เมล กิ๊บสัน เป็นดาราดาวรุ่งมากฝีมือ และเป็นขวัญใจสาวๆ แต่ก็อย่างที่ว่า…มันนานมาแล้ว และเมื่อปี 2006 ที่ผ่านมาเขาก็ได้ทำลายชื่อเสียงตัวเองลงอย่างราบคาบด้วยข้อหาเมาแล้วขับ แถมยังพูดจาหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงอย่างหยาบคาย และพูดจาแย่ๆ ถึงกลุ่มชาวยิวอีกด้วย

แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมันนานมาแล้ว และตอนนี้ กิ๊บสันก็หวังว่าทุกคนจะลืมเรื่องราวเหล่านั้นไปให้หมด โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่า “สิบปีได้ผ่านไปแล้ว ผมรู้สึกดีในตอนนี้ ผมมีสติสมบูรณ์ ในทุกๆ อย่าง และสำหรับผมแล้ว มันก็มีสิ่งที่ไม่ดีในอดีต แต่คนอื่นๆ ก็พยายามพูดถึงมัน ซึ่งผมรู้สึกว่ามันน่ารำคาญ เพราะผมไม่เข้าใจว่าเวลามันก็ผ่านมาสิบปีแล้ว ทำไมมันถึงยังต้องเป็นเรื่องอยู่อีก”

นอกจากนี้ พระเอกหนุ่มยังกล่าวอีกด้วยว่า “แน่นอนว่าหากผมเป็นอย่างที่พวกเขาบอกว่าผมเป็น เป็นพวกที่ชอบเกลียดนู่นนี่ มันก็ต้องมีหลักฐานถึงเรื่องนั้นอยู่ ซึ่งมันไม่เคยมี ผมไม่เคยกล่าวละเมิดใคร หรือทำอะไรที่เป็นการสร้างชื่อเสียงในเรื่องนั้น และกะอีแค่เหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้นในหลังรถตำรวจ หลังจากที่ผมดื่มดับเบิ้ลเตกิลาไปแล้ว 8 แก้ว มันก็กลายเป็นตัวกำหนดเรื่องทั้งหมด ทั้งงาน ชีวิตการทำงาน ความเชื่อ และทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมสร้าง และรักษามาตลอดชีวิต ซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม”

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่เหตุการณ์อื้อฉาวในปี 2006 ที่เขาเมาแล้วขับเท่านั้น เมื่อปี 2010 ก็ได้มีมือดีปล่อยเทปที่แสดงให้เห็นว่านักแสดงชื่อดังนั้นเป็นพวกเหยียดเพศและเหยียดผิวมากขนาดไหน ด้วยการกระทำอันรุนแรงของเขาต่อแฟนสาวในขณะนั้น ออกซานา กริโกริวา ซึ่งในเทปเหล่านั้น เขาได้ด่าทอแฟนสาวอย่างหยาบคาย

เพิ่งจะเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ที่มีข่าวว่ากิ๊บสันผลักผู้หญิงคนหนึ่ง และตะโกนใส่เธอที่งานเทศกาลภาพยนตร์ยิว งานนี้ที่ว่าไม่มีหลักฐานคงจะไม่จริงเสียแล้ว และจะให้คนอื่นลืมพฤติกรรมแย่ๆ ของเขาก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน

มารายห์ แครีย์ รักครั้งใหม่กับแดนเซฮร์หนุ่ม

เพิ่งออกข่าวหมั้นไปได้ไม่เท่าไร นักร้องสาว มารายห์ แครีย์ ก็ทำเอาแฟนๆ ตกอกตกใจเมื่อเธอประกาศถอนหมั้นกับแฟนหนุ่มเศรษฐี เจมส์ ปาร์คเกอร์ และตอนนี้ทุกคนก็ได้ตกใจอีกครั้งเมื่อมีข่าวว่าเธอพบรักครั้งใหม่กับแดนเซอร์หนุ่มแล้ว…อะไรจะรวดเร็วปานนั้น

หลังจากประกาศถอนหมั้น มีข่าวลือออกมามากมายถึงสาเหตุในการเลิกรากันครั้งนี้ บ้างก็ว่าปาร์คเกอร์นั้นเอือมระอากับนิสัยการใช้เงินเกินตัวของแฟนสาว บางคนก็บอกว่าเศรษฐีหนุ่มไม่พอใจกับเรียลิตี้โชว์ของแครีย์ ที่เธอแสดงทัศนคติที่ไม่ดีเอาเสียเลย และอีกหลายเสียงเล่าว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับทั้งสองที่กรีซ ซึ่งเป็นเรื่องราวลับๆ ระหว่างปาร์คเกอร์กับผู้ช่วยคนหนึ่งของแครีย์

ข่าวลือเริ่มฟังดูเลวร้ายขึ้นเมื่อมีคนบอกว่าทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง และมีข่าวว่าปาร์คเกอร์เองมีปัญหาความไม่มั่นคงทางอารมณ์ แหล่งข่าวกล่าวว่า “สุขภาพจิตของเจมส์ไม่ค่อยดีนักในช่วงนี้ และเขาก็ไม่ได้อยู่กับเธอเลย โชคร้ายจริงๆ ที่การที่เขาไม่ค่อยอยู่และพฤติกรรมของเขาไม่ได้เป็นผลดีกับเธอ ดังนั้นเธอเลยทิ้งเขา”

และในตอนนี้ก็มีข่าวว่า แครีย์นั้นให้ความใกล้ชิดสนิทสนมกับแดนเซอร์หนุ่มนามว่า ไบรอัน ทานากะ ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เธอห่างๆ กับคู่หมั้นหนุ่ม โดยมีนักข่าวจับภาพแครีย์กับทานากะไปทานข้าวด้วยกันได้หลายครั้ง แม้ในสถานที่ที่นักร้องสาวรู้ดีว่าเธอจะต้องถูกแอบถ่ายรูปแน่นอน ซึ่งว่ากันว่านั่นเป็นเพราะนักร้องสาวอยากให้ปาร์คเกอร์รู้ถึงความสัมพันธ์ในครั้งนี้

สำหรับการถอนหมั้นครั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าวว่าแครีย์ได้เรียกร้องเงินจากปาร์คเกอร์เป็นจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยให้เหตุผลว่าเขาทำให้เธอต้องย้ายจากนิวยอร์กมาลอสแองเจลิส เพื่อให้เขาได้มีเวลาอยู่ใกล้ลูกๆ ของเขามากขึ้น นอกจากนี้เหตุการณ์ที่กรีซก็ทำร้ายจิตใจเธอมากจนทำให้เธอต้องยกเลิกงานคอนเสิร์ต แถมนักร้องสาวยังอ้างว่าปาร์คเกอร์ยังสัญญาที่จะให้เงินกับเธออีกมากมายด้วย

จัสติน บีเบอร์ ถูกสั่งห้ามเข้าใกล้ เซลีนา โกเมซ

ออกมาประกาศว่าขอพักงานเพื่อหันมาดูแลเรื่องสุขภาพ หลายๆ คนก็หวังว่า เซลีนา โกเมซ จะได้อยู่อย่างสงบๆ ในสถานพักฟื้นอย่างที่เธอหวัง หลังจากที่เธอเข้ารับการบำบัดไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อทำการรักษาอาการติดยาแก้ปวด และรวมไปถึงสภาพอารมณ์ที่หดหู่และวิตกกังวล

กลายเป็นว่านอกจากอาการต่างๆ ที่ทำให้เธอมีสภาพจิตที่ย่ำแย่แล้ว จัสติน บีเบอร์ คืออีกชื่อหนึ่งที่มีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของนักร้องสาว โดยครอบครัวของโกเมซตำหนินักร้องหนุ่มว่าเป็นต้นเหตุในการเข้ารับการบำบัดครั้งนี้ และสั่งห้ามไม่ให้เขาติดต่อกับเธออีกต่อไป

ก่อนหน้าที่โกเมซจะขอพักเพื่อเข้ารับการบำบัด เธอได้ทะเลาะกับบีเบอร์อย่างรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องอินสตาแกรม ซึ่งนักร้องสาวได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอรู้สึกเสียใจกับข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น และพยายามติดต่อบีเบอร์เพื่อขอโทษโดยตรง แต่เขาไม่เคยให้โอกาสเธอเลย ซึ่งนั่นเป็นบาดแผลในใจของนักร้องสาวมาโดยตลอด และว่ากันว่าทำให้เธอมีปัญหาทางด้านอารมณ์จนต้องเข้ารับการบำบัดดังกล่าว

‘เลน ไวซ์แมน’ หย่าขาด‘เคท เบคคินเซล’

ข่าวการหย่าร้างในวงการฮอลลีวู้ดมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ และล่าสุดก็ถึงคราวของคู่รักดารา-ผู้กำกับอย่าง เคท เบคคินเซล และสามี เลน ไวซ์แมน ที่เพิ่งทำเรื่องหย่ากันอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆ นี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะความแตกต่างที่ไม่สามารถปรับให้เข้าหากันได้

สำหรับเรื่องการเลี้ยงดูคู่สมรสนั้นไม่ใช่ปัญหาของคู่นี้ เพราะทั้งสองต่างไม่ขอรับการเลี้ยงดูจากอีกฝ่ายเหมือนกัน แถมยังเซ็นสัญญาข้อตกลงเรื่องสินทรัพย์ก่อนสมรสกันไว้ก่อนหน้านี้แล้วด้วย

นางเอกสาวได้แต่งงานกับผู้กำกับคนนี้เมื่อปี 2004 และทั้งสองก็ไม่ได้มีลูกด้วยกัน โดยเบคคินเซลเองมีลูกสาวอยู่แล้วนามว่าลิลลี่ ซึ่งเกิดจากนักแสดงหนุ่ม ไมเคิล ชีน

ความสัมพันธ์ของเบคคินเซลและไวซ์แมนส่อเค้ามีปัญหามาตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อมีคนเห็นผู้กำกับหนุ่มออกไปเที่ยวกับนางแบบสาว ซีเจ ฟรานโกแถมเบคคินเซลเองก็ออกงานแบบไม่สวมแหวนแต่งงานแล้วอีกด้วย ซึ่งก็มีข่าวออกมาว่าทั้งสองแยกทางกันตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว แต่ไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งใดๆ กันเกิดขึ้น

แหล่งข่าวกล่าวว่า “พวกเขาก็ยังเป็นมิตรต่อกัน และใช้เวลาอยู่ด้วยกันที่แอลเอเมื่อตอนที่เคทยังอยู่ที่นั่น พวกเขาก็แค่มีตารางงานที่ไม่ตรงกัน และก็รู้สึกห่างๆ กันออกไปเรื่อยๆ …พวกเขาพยายามจะทำให้ทุกอย่างมันกลับมาเหมือนเดิม แต่ก็ลงเอยด้วยการกลับไปทำนิสัยแบบเดิมๆ แล้วก็ทะเลาะกันอีก”

‘ชาร์ลีซ เธียรอน’ น้ำหนักขึ้น 30 ปอนด์ เตรียมพร้อมบทตลกในภาพยนตร์เรื่องใหม่

ปกติแล้ว เรามักจะเห็นข่าวเซเลบฯสาวฟิตรูปร่างอย่างหนักเพื่อให้หุ่นดีอยู่เสมอ หรือไม่ก็นางเอกสาวออกมาบอกว่าเธอสามารถกินอะไรก็ได้ตามใจปากแถมยังไม่ต้องกังวลกับเรื่องรูปร่างแม้แต่น้อย ซึ่งในขณะที่ดาราคนอื่นๆ กำลังพยายามฟิตหุ่นให้ดูดีชาร์ลีซ เธียรอน ก็ต้องฟิตรูปร่างให้อ้วนขึ้นอีกครั้ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอ

เธียรอนบอกว่า น้ำหนักเธอพุ่งพรวดขึ้นราว 30 ปอนด์ในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเธอจะรับบทเป็นคุณแม่ผู้มีปัญหามากมายรุมเร้า ในภาพยนตร์ตลกเรื่องใหม่ “Tully”

เป็นที่ทราบกันดีว่าเธียรอนเป็นดารามากฝีมือ และยิ่งเรื่องการแปลงโฉมเธอก็ทำได้ดีไม่แพ้ใคร ก่อนหน้านี้เธอรับบทเป็นฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง ไอลีน วอร์นอส ในภาพยนตร์เรื่อง “Monster” เมื่อปี 2003 เธอก็แปลงโฉมและเพิ่มน้ำหนักจนไม่เหลือเค้านางเอกสาวแสนสวยเลย และด้วยความสามารถในการแสดง เธอจึงได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมาครองในที่สุด

ส่วนใครที่กลัวว่าเธอจะลดความอ้วนไม่ลงหลังจบจากภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเธียรอนเคยน้ำหนักลงถึง 180 ปอนด์หลังจากที่เธอทิ้ง ฌอน เพนน์ ไปเมื่อปีที่แล้ว…อุ๊บส์

Quote

ความรู้ทำให้ฉันรู้สึกมีอำนาจ เพราะมันทำให้ฉันมีส่วนร่วมกับโลกใบนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ความสงสัยใคร่รู้ ความมั่นใจ ความอดทน และความเอื้ออาทร

คาเมรอน ดิแอช

Inter Entertainment : 26 ตุลาคม 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/241663

วันพุธ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

โทบี้ แมกไกวร์ หย่าภรรยา เจนนิเฟอร์ เมเยอร์

แต่งงานกันมา 9 ปี ไม่ได้ช่วยอะไร ในที่สุด พระเอกหนุ่ม โทบี้ แมกไกวร์ ก็หย่าขาดจากภรรยา เจนนิเฟอร์ เมเยอร์ เป็นที่เรียบร้อย

แมกไกวร์ออกแถลงการณ์ในนิตยสารฉบับหนึ่งว่า “หลังจากที่เราพยายามค้นหา และพิจารณา เราก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าเราจะเลิกรากันในฐานะคู่รัก…ในฐานะพ่อแม่ที่เอาใจใส่เป้าหมายสำคัญที่สุดของเราคือการที่เรายังคงร่วมกันเลี้ยงลูกของเราด้วยกัน ด้วยความรักที่ยั่งยืน ความเคารพ และมิตรภาพ”

แมกไกวร์และภรรยาพบรักกันในปี 2003 และแต่งงานกันหลังจากนั้น 4 ปีที่ฮาวาย ตอนนี้ยังไม่มีฝ่ายใดออกมากล่าวถึงสาเหตุของการเลิกรากันในครั้งนี้ ซึ่งทั้งสองก็ได้วอนสื่อมวลชนให้เคารพในความสงบและความเป็นส่วนตัว

ไม่ใช่แค่เรื่องความรักเท่านั้นที่ล้มเหลว จะเห็นได้ว่าหลังจาก “The Great Gatsby” ที่เขานำแสดงคู่กับ ลีโอนาโด ดิคาปริโอ แมกไกวร์ก็แทบจะไม่มีงานเด่นๆ ออกมาอีกเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาจัดว่าเป็นพระเอกงานชุกคนหนึ่งเลยทีเดียว

แบรด พิตต์ ถูกมองว่าล้มเหลวในฐานะพ่อ

สาเหตุหนึ่งที่ลือกันว่าทำให้คู่รักที่แสนจะโด่งดังแห่งฮอลลีวู้ดอย่าง แบรด พิตต์ และ แองเจลีนา โจลี ต้องเลิกรากันนั้นเนื่องมาจากการเปลี่ยนไปของพระเอกชื่อดัง และการที่ไม่สามารถทำตัวเป็นพ่อ เป็นตัวอย่างที่ดีได้ ซึ่งข่าวลือที่ว่าก็เห็นจะมีเค้าความจริง เมื่อพิตต์ผิดนัดลูกๆ เมื่อเร็วๆ นี้

แน่นอนว่าการผิดนัดแค่ครั้งเดียวน่าจะพอให้อภัยได้ แต่หากมองว่าตั้งแต่มีข่าวหย่าร้างเกิดขึ้น พิตต์แทบจะไม่มีโอกาสได้เจอลูกๆ เลย และเมื่อเขาต้องพาบรรดาลูกชายของเขาไปดูคอนเสิร์ต เขากลับเบี้ยวนัดเอานาทีสุดท้าย ทำให้ลูกๆ ทั้งเสียใจและผิดหวังมาก

แหล่งข่าวกล่าวว่า แพกซ์ และ แมดด็อกซ์ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตทั้งสองคนรู้สึกเจ็บปวดมากที่พ่อของพวกเขายกเลิกนัด ไม่ยอมมาตามที่ได้สัญญาเอาไว้ “แบรดทำให้ลูกชายคนโตของเขาผิดหวังเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน เมื่อเขาไม่สามารถพาเด็กๆ ไปชมวงพังก์วงโปรดของพวกเขาได้ ในงานคอนเสิร์ตเดอะ ออฟสปริง แอนด์ ซับไลม์ ที่ลอส แองเจลลิส… แพกซ์และแมดด็อกซ์อยู่กับแบรดที่บ้านของพวกเขาในลอสเฟลิซในช่วงสุดสัปดาห์นั้น และพวกเขาก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ไปชมโชว์ของวงร็อกแอนด์โรลที่ยิ่งใหญ่กับพ่อของพวกเขา แบรดได้ให้สัญญากับทั้งสองมาเป็นเดือนๆ ว่าเขาจะพาไป ก่อนที่เขาจะเลิกกับแองเจลีนาซึ่งเขาก็ตั้งใจจะพาเด็กๆ ไปนั่นแหละ แต่แล้วในนาทีสุดท้าย ด้วยคำแนะนำของทีมรักษาความปลอดภัยของเขา แบรดก็กลับคิดว่าอยู่บ้านดีกว่า เด็กๆ ก็เลยรู้สึกเสียใจมาก”

นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่าเด็กๆ รู้สึกไม่ดีเอามากๆ กับข่าวการหย่าร้างของพ่อแม่ของพวกเขา “ทั้งสองยังเด็กอยู่ และก็เป็นการลำบากสำหรับพวกเขามากในการทำความเข้าใจถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพ่อและแม่…พวกเขาอยากรู้ว่าทำไมพวกเขาถึงมีชีวิตปกติธรรมไม่ได้ทั้งสองทั้งเสียใจทั้งสับสน แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ได้ใช้เวลาอยู่กับแบรดมากขึ้นในระยะหลังๆ มานี้ และนั่นก็เป็นเรื่องที่ดี” แหล่งข่าวกล่าวทิ้งท้าย

โอลิเวีย ไวลด์ คลอดลูกสาว

ให้คู่หมั้น เจสัน ซูเดคิส

บรรดาเพื่อนและคนในครอบครัวต่างแสดงความยินดีกันเป็นแถว เมื่อดาราสาว โอลิเวีย ไวลด์ คลอดลูกสาวออกมาอย่างสมบูรณ์แข็งแรงเมื่ออาทิตย์ก่อน โดยเธอตั้งชื่อลูกว่า เดซี่

ไวลด์โพสต์ลงอินสตาแกรมในเวลาต่อมาเพื่อประกาศถึงข่าวอันน่ายินดีนี้ให้กับแฟนๆ ของเธอได้รับทราบ พร้อมทั้งรูปภาพน่ารักน่าชังของทารกน้อยเดซี่ พร้อมคำบรรยายว่า “เอาล่ะเพื่อนบ้าน เดซี่ โจเซฟีน ซูเดคิส เกิดมาเป็นเจ้านาย #internationaldayofthegirl”

ภาพแรกที่ไวลด์แชร์ให้กับเพื่อนๆ บนโซเชียลมีเดียของเธอได้ดูคือ ภาพทารกน้อยที่กำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนที่นอนรูปแกะ โดยเดซี่เป็นลูกคนที่สองของไวลด์ ที่ถอดแบบความน่ารักน่าเอ็นดูมาจากพี่ชายวัยสองขวบอย่าง โอทิส ไม่มีผิด

ไวลด์ประกาศตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้วว่าเธอกำลังจะคลอดลูกสาว หลังจากที่เธอทวิตแสดงความคิดเห็นเรื่องการเมืองของเธอ ว่าเธอสนับสนุนฮิลารี คลินตัน “ในฐานะที่กำลังจะมีลูกสาว นั่นมันทำให้ฉันรู้สึกซาบซึ้งไปถึงแก่น #NeverTrump” ดาราสาวกล่าวต่อแคมเปญของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา

‘เทเลอร์ สวิฟท์’ พักข่าวฉาว

กลับมามุเรื่องงาน

หากใครกำลังคิดว่าช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมามันช่างไม่มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นเสียเลย อย่ากังวลไป เพราะขนาดศิลปินสาว (ที่ดูเหมือน) ชีวิตดีอย่าง เทเลอร์ สวิฟท์ ก็ต้องขอบอกว่าช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาชีวิตของเธอย่ำแย่มากเลยทีเดียว

เรื่องเริ่มมาจากเกาเหลาชามโตระหว่างสวิฟท์กับ คานเย เวสต์ และ คิม คาร์แดเชียน หลังจากที่เวสต์ได้ปล่อยเพลงใหม่ที่มีเนื้อหาพาดพิงถึงสวิฟท์ ซึ่งทำให้นักร้องสาวแสดงอาการเหมือนตกเป็นเหยื่อ แต่คาร์แดเชียนก็กลับมาแฉทีหลังพร้อมหลักฐานว่าสวิฟท์นั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าเพลงจะออกมาเป็นแบบนี้ ทำเอานักร้องสาวไปไม่เป็นเลยทีเดียว

หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สวิฟท์ ก็ได้เลิกรากับ ทอม ฮิดเดิลสตัน หลังจากเดทกันแค่ไม่ถึงสามเดือนดี การเลิกราในครั้งนี้ทำให้แฟนๆ มองภาพลักษณ์ของนักร้องสาวเปลี่ยนไปเยอะ กลายเป็นว่าเธอเป็นคนที่เปลี่ยนผู้ชายบ่อย และพร้อมจะเลิกรากับหนุ่มๆ ข้างกายได้เสมอ แถมยังมีข่าวออกมาอีกด้วยว่า ที่จริงแล้วสวิฟท์แอบกุ๊กกิ๊กกับพระเอกหนุ่มตั้งแต่ตอนที่เธอยังคบอยู่กับ เคลวิน แฮร์ริส ด้วยซ้ำ และนั่นทำให้เธอทิ้งแฟนเก่าไปหาฮิดเดิลสตัน

แน่นอนว่าข่าวต่างๆ ในระยะหลังๆ ทำให้สวิฟท์กลายเป็นคนไม่ดีไปในสายตาของใครหลายๆ คน และดูเหมือนว่าคนจะโฟกัสในเรื่องส่วนตัวของเธอมากกว่าเรื่องงาน แต่หากใครคิดถึงผลงานเพลงของเธอล่ะก็ ต้องขอบอกว่าเธอเพิ่งมีงานคอนเสิร์ตที่ออสตินไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ท่ามกลางเสียงตอบรับจากแฟนๆ ที่คิดถึงเธออย่างล้นหลาม งานนี้ขอบอกว่าแฟนเพลงของเธอยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม

‘อดัม ลาวีน’ ถูกกล่าวหาทำร้ายลูกเมีย

ใครจะคาดคิดว่า อดัมลาวีน นักร้องนำสุดหล่อแห่งวงมารูนไฟว์ และโค้ชสุดเท่จากรายการทีวี.ชื่อดัง เดอะวอยซ์ อเมริกา แถมยังดูเป็นคนดีทุกกระเบียดนิ้ว จะถูกเจ้าหน้าที่บริการด้านสิทธิเด็กมาตรวจเข้มเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

มีรายงานว่า มีผู้แจ้งความต่อสถานีตำรวจลอสแองเจลิสว่าลาวีนทำร้ายร่างกายลูกสาววัยแบเบาะ และภรรยานางแบบ เบฮาติ พรินซ์ลู โดยกล่าวหาว่านักร้องหนุ่มตีลูกสาวซึ่งยังเป็นทารกน้อยเข้าที่ใบหน้า และยังกระแทกภรรยาของเขาอย่างรุนแรงจนเธอลงไปกองอยู่กับพื้น

งานนี้เจ้าหน้าที่พิทักษ์สิทธิเด็กและครอบครัวได้เดินทางมาตรวจสอบที่บ้านของนักร้องหนุ่ม เพื่อหาหลักฐานของการทำร้ายร่างกายดังกล่าว ซึ่งก็ไม่พบว่ามีร่องรอยความรุนแรงตามที่ได้รับแจ้งความแต่อย่างใด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการแจ้งความเท็จ และเป็นฝีมือของผู้ไม่ประสงค์ดีนั่นเอง

ก่อนหน้านี้ ลาวีนเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่ได้วางแผนมาก่อนว่ามีลูกแล้วจะต้องทำยังไงบ้าง นักร้องหนุ่มกล่าวว่า “ผมเป็นพ่อคนมาสามสัปดาห์แล้ว แล้วผมรู้อะไรบ้าง ผมไม่รู้อะไรเลย แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของความงามของมันนะ เอาจริงๆ มันมีสัญชาติญาณมากมาย มีอะไรมากมายที่ทำให้ผมรู้สึก และก็เปิดสวิตช์ผม มันเป็นประสบการณ์ที่งดงาม”

Quote

บางครั้ง…. คุณไม่สามารถมองเห็นตัวของคุณได้อย่างชัดเจน จนคุณมองเห็นตัวของคุณเองผ่านสายตาของคนอื่น