วันพุธ ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
เมล กิ๊บสัน ขอทุกคนลืมข่าวฉาวในอดีต
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีพระเอกที่ชื่อว่า เมล กิ๊บสัน เป็นดาราดาวรุ่งมากฝีมือ และเป็นขวัญใจสาวๆ แต่ก็อย่างที่ว่า…มันนานมาแล้ว และเมื่อปี 2006 ที่ผ่านมาเขาก็ได้ทำลายชื่อเสียงตัวเองลงอย่างราบคาบด้วยข้อหาเมาแล้วขับ แถมยังพูดจาหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงอย่างหยาบคาย และพูดจาแย่ๆ ถึงกลุ่มชาวยิวอีกด้วย
แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมันนานมาแล้ว และตอนนี้ กิ๊บสันก็หวังว่าทุกคนจะลืมเรื่องราวเหล่านั้นไปให้หมด โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่า “สิบปีได้ผ่านไปแล้ว ผมรู้สึกดีในตอนนี้ ผมมีสติสมบูรณ์ ในทุกๆ อย่าง และสำหรับผมแล้ว มันก็มีสิ่งที่ไม่ดีในอดีต แต่คนอื่นๆ ก็พยายามพูดถึงมัน ซึ่งผมรู้สึกว่ามันน่ารำคาญ เพราะผมไม่เข้าใจว่าเวลามันก็ผ่านมาสิบปีแล้ว ทำไมมันถึงยังต้องเป็นเรื่องอยู่อีก”
นอกจากนี้ พระเอกหนุ่มยังกล่าวอีกด้วยว่า “แน่นอนว่าหากผมเป็นอย่างที่พวกเขาบอกว่าผมเป็น เป็นพวกที่ชอบเกลียดนู่นนี่ มันก็ต้องมีหลักฐานถึงเรื่องนั้นอยู่ ซึ่งมันไม่เคยมี ผมไม่เคยกล่าวละเมิดใคร หรือทำอะไรที่เป็นการสร้างชื่อเสียงในเรื่องนั้น และกะอีแค่เหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้นในหลังรถตำรวจ หลังจากที่ผมดื่มดับเบิ้ลเตกิลาไปแล้ว 8 แก้ว มันก็กลายเป็นตัวกำหนดเรื่องทั้งหมด ทั้งงาน ชีวิตการทำงาน ความเชื่อ และทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมสร้าง และรักษามาตลอดชีวิต ซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม”
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่เหตุการณ์อื้อฉาวในปี 2006 ที่เขาเมาแล้วขับเท่านั้น เมื่อปี 2010 ก็ได้มีมือดีปล่อยเทปที่แสดงให้เห็นว่านักแสดงชื่อดังนั้นเป็นพวกเหยียดเพศและเหยียดผิวมากขนาดไหน ด้วยการกระทำอันรุนแรงของเขาต่อแฟนสาวในขณะนั้น ออกซานา กริโกริวา ซึ่งในเทปเหล่านั้น เขาได้ด่าทอแฟนสาวอย่างหยาบคาย
เพิ่งจะเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ที่มีข่าวว่ากิ๊บสันผลักผู้หญิงคนหนึ่ง และตะโกนใส่เธอที่งานเทศกาลภาพยนตร์ยิว งานนี้ที่ว่าไม่มีหลักฐานคงจะไม่จริงเสียแล้ว และจะให้คนอื่นลืมพฤติกรรมแย่ๆ ของเขาก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน

มารายห์ แครีย์ รักครั้งใหม่กับแดนเซฮร์หนุ่ม
เพิ่งออกข่าวหมั้นไปได้ไม่เท่าไร นักร้องสาว มารายห์ แครีย์ ก็ทำเอาแฟนๆ ตกอกตกใจเมื่อเธอประกาศถอนหมั้นกับแฟนหนุ่มเศรษฐี เจมส์ ปาร์คเกอร์ และตอนนี้ทุกคนก็ได้ตกใจอีกครั้งเมื่อมีข่าวว่าเธอพบรักครั้งใหม่กับแดนเซอร์หนุ่มแล้ว…อะไรจะรวดเร็วปานนั้น
หลังจากประกาศถอนหมั้น มีข่าวลือออกมามากมายถึงสาเหตุในการเลิกรากันครั้งนี้ บ้างก็ว่าปาร์คเกอร์นั้นเอือมระอากับนิสัยการใช้เงินเกินตัวของแฟนสาว บางคนก็บอกว่าเศรษฐีหนุ่มไม่พอใจกับเรียลิตี้โชว์ของแครีย์ ที่เธอแสดงทัศนคติที่ไม่ดีเอาเสียเลย และอีกหลายเสียงเล่าว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับทั้งสองที่กรีซ ซึ่งเป็นเรื่องราวลับๆ ระหว่างปาร์คเกอร์กับผู้ช่วยคนหนึ่งของแครีย์
ข่าวลือเริ่มฟังดูเลวร้ายขึ้นเมื่อมีคนบอกว่าทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง และมีข่าวว่าปาร์คเกอร์เองมีปัญหาความไม่มั่นคงทางอารมณ์ แหล่งข่าวกล่าวว่า “สุขภาพจิตของเจมส์ไม่ค่อยดีนักในช่วงนี้ และเขาก็ไม่ได้อยู่กับเธอเลย โชคร้ายจริงๆ ที่การที่เขาไม่ค่อยอยู่และพฤติกรรมของเขาไม่ได้เป็นผลดีกับเธอ ดังนั้นเธอเลยทิ้งเขา”
และในตอนนี้ก็มีข่าวว่า แครีย์นั้นให้ความใกล้ชิดสนิทสนมกับแดนเซอร์หนุ่มนามว่า ไบรอัน ทานากะ ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เธอห่างๆ กับคู่หมั้นหนุ่ม โดยมีนักข่าวจับภาพแครีย์กับทานากะไปทานข้าวด้วยกันได้หลายครั้ง แม้ในสถานที่ที่นักร้องสาวรู้ดีว่าเธอจะต้องถูกแอบถ่ายรูปแน่นอน ซึ่งว่ากันว่านั่นเป็นเพราะนักร้องสาวอยากให้ปาร์คเกอร์รู้ถึงความสัมพันธ์ในครั้งนี้
สำหรับการถอนหมั้นครั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าวว่าแครีย์ได้เรียกร้องเงินจากปาร์คเกอร์เป็นจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยให้เหตุผลว่าเขาทำให้เธอต้องย้ายจากนิวยอร์กมาลอสแองเจลิส เพื่อให้เขาได้มีเวลาอยู่ใกล้ลูกๆ ของเขามากขึ้น นอกจากนี้เหตุการณ์ที่กรีซก็ทำร้ายจิตใจเธอมากจนทำให้เธอต้องยกเลิกงานคอนเสิร์ต แถมนักร้องสาวยังอ้างว่าปาร์คเกอร์ยังสัญญาที่จะให้เงินกับเธออีกมากมายด้วย

จัสติน บีเบอร์ ถูกสั่งห้ามเข้าใกล้ เซลีนา โกเมซ
ออกมาประกาศว่าขอพักงานเพื่อหันมาดูแลเรื่องสุขภาพ หลายๆ คนก็หวังว่า เซลีนา โกเมซ จะได้อยู่อย่างสงบๆ ในสถานพักฟื้นอย่างที่เธอหวัง หลังจากที่เธอเข้ารับการบำบัดไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อทำการรักษาอาการติดยาแก้ปวด และรวมไปถึงสภาพอารมณ์ที่หดหู่และวิตกกังวล
กลายเป็นว่านอกจากอาการต่างๆ ที่ทำให้เธอมีสภาพจิตที่ย่ำแย่แล้ว จัสติน บีเบอร์ คืออีกชื่อหนึ่งที่มีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของนักร้องสาว โดยครอบครัวของโกเมซตำหนินักร้องหนุ่มว่าเป็นต้นเหตุในการเข้ารับการบำบัดครั้งนี้ และสั่งห้ามไม่ให้เขาติดต่อกับเธออีกต่อไป
ก่อนหน้าที่โกเมซจะขอพักเพื่อเข้ารับการบำบัด เธอได้ทะเลาะกับบีเบอร์อย่างรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องอินสตาแกรม ซึ่งนักร้องสาวได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอรู้สึกเสียใจกับข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น และพยายามติดต่อบีเบอร์เพื่อขอโทษโดยตรง แต่เขาไม่เคยให้โอกาสเธอเลย ซึ่งนั่นเป็นบาดแผลในใจของนักร้องสาวมาโดยตลอด และว่ากันว่าทำให้เธอมีปัญหาทางด้านอารมณ์จนต้องเข้ารับการบำบัดดังกล่าว

‘เลน ไวซ์แมน’ หย่าขาด‘เคท เบคคินเซล’
ข่าวการหย่าร้างในวงการฮอลลีวู้ดมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ และล่าสุดก็ถึงคราวของคู่รักดารา-ผู้กำกับอย่าง เคท เบคคินเซล และสามี เลน ไวซ์แมน ที่เพิ่งทำเรื่องหย่ากันอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆ นี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะความแตกต่างที่ไม่สามารถปรับให้เข้าหากันได้
สำหรับเรื่องการเลี้ยงดูคู่สมรสนั้นไม่ใช่ปัญหาของคู่นี้ เพราะทั้งสองต่างไม่ขอรับการเลี้ยงดูจากอีกฝ่ายเหมือนกัน แถมยังเซ็นสัญญาข้อตกลงเรื่องสินทรัพย์ก่อนสมรสกันไว้ก่อนหน้านี้แล้วด้วย
นางเอกสาวได้แต่งงานกับผู้กำกับคนนี้เมื่อปี 2004 และทั้งสองก็ไม่ได้มีลูกด้วยกัน โดยเบคคินเซลเองมีลูกสาวอยู่แล้วนามว่าลิลลี่ ซึ่งเกิดจากนักแสดงหนุ่ม ไมเคิล ชีน
ความสัมพันธ์ของเบคคินเซลและไวซ์แมนส่อเค้ามีปัญหามาตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อมีคนเห็นผู้กำกับหนุ่มออกไปเที่ยวกับนางแบบสาว ซีเจ ฟรานโกแถมเบคคินเซลเองก็ออกงานแบบไม่สวมแหวนแต่งงานแล้วอีกด้วย ซึ่งก็มีข่าวออกมาว่าทั้งสองแยกทางกันตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว แต่ไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งใดๆ กันเกิดขึ้น
แหล่งข่าวกล่าวว่า “พวกเขาก็ยังเป็นมิตรต่อกัน และใช้เวลาอยู่ด้วยกันที่แอลเอเมื่อตอนที่เคทยังอยู่ที่นั่น พวกเขาก็แค่มีตารางงานที่ไม่ตรงกัน และก็รู้สึกห่างๆ กันออกไปเรื่อยๆ …พวกเขาพยายามจะทำให้ทุกอย่างมันกลับมาเหมือนเดิม แต่ก็ลงเอยด้วยการกลับไปทำนิสัยแบบเดิมๆ แล้วก็ทะเลาะกันอีก”

‘ชาร์ลีซ เธียรอน’ น้ำหนักขึ้น 30 ปอนด์ เตรียมพร้อมบทตลกในภาพยนตร์เรื่องใหม่
ปกติแล้ว เรามักจะเห็นข่าวเซเลบฯสาวฟิตรูปร่างอย่างหนักเพื่อให้หุ่นดีอยู่เสมอ หรือไม่ก็นางเอกสาวออกมาบอกว่าเธอสามารถกินอะไรก็ได้ตามใจปากแถมยังไม่ต้องกังวลกับเรื่องรูปร่างแม้แต่น้อย ซึ่งในขณะที่ดาราคนอื่นๆ กำลังพยายามฟิตหุ่นให้ดูดีชาร์ลีซ เธียรอน ก็ต้องฟิตรูปร่างให้อ้วนขึ้นอีกครั้ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอ
เธียรอนบอกว่า น้ำหนักเธอพุ่งพรวดขึ้นราว 30 ปอนด์ในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเธอจะรับบทเป็นคุณแม่ผู้มีปัญหามากมายรุมเร้า ในภาพยนตร์ตลกเรื่องใหม่ “Tully”
เป็นที่ทราบกันดีว่าเธียรอนเป็นดารามากฝีมือ และยิ่งเรื่องการแปลงโฉมเธอก็ทำได้ดีไม่แพ้ใคร ก่อนหน้านี้เธอรับบทเป็นฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง ไอลีน วอร์นอส ในภาพยนตร์เรื่อง “Monster” เมื่อปี 2003 เธอก็แปลงโฉมและเพิ่มน้ำหนักจนไม่เหลือเค้านางเอกสาวแสนสวยเลย และด้วยความสามารถในการแสดง เธอจึงได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมาครองในที่สุด
ส่วนใครที่กลัวว่าเธอจะลดความอ้วนไม่ลงหลังจบจากภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเธียรอนเคยน้ำหนักลงถึง 180 ปอนด์หลังจากที่เธอทิ้ง ฌอน เพนน์ ไปเมื่อปีที่แล้ว…อุ๊บส์

Quote
ความรู้ทำให้ฉันรู้สึกมีอำนาจ เพราะมันทำให้ฉันมีส่วนร่วมกับโลกใบนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ความสงสัยใคร่รู้ ความมั่นใจ ความอดทน และความเอื้ออาทร
คาเมรอน ดิแอช