Inter Entertainment : 19 ตุลาคม 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/240698

วันพุธ ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

อีวา ลองกอเรีย ยันไม่ได้ท้อง แค่อินเลิฟ

ออกมาประกาศชัดเจนว่าไม่ได้ท้อง สยบข่าวลือที่ว่ากันว่าดาราสาว อีวา ลองกอเรีย กำลังตั้งครรภ์ โดยเธอยืนยันว่าเธอและสามีใหม่นักธุรกิจหนุ่มนั้นมีความสุขดีแต่ยังไม่ได้คิดจะเพิ่มสมาชิกใหม่ให้กับครอบครัวแต่อย่างใด

ข่าวลือว่าลองกอเรียกำลังตั้งครรภ์นั้นเกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว ด้วยมีผู้สังเกตเห็นว่าดาราสาวดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งลองกอเรียก็กล่าวว่านั่นเป็นเพราะเธอกำลังมีความรักต่างหาก “ทุกคนต่างพูดกันว่าฉันดูเปล่งปลั่ง แต่ฉันไม่ได้ท้องนะคะ ฉันแค่กำลังมีความรัก เราไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลยในตอนนี้ เราแต่งงานกันมาได้สี่เดือนเอง”

นอกจากนี้ เธอยังบอกกับผู้สื่อข่าวอย่างมีความสุขอีกด้วยว่า การแต่งงานของเธอในครั้งนี้ทำให้ชีวิตหวานชื่นเอามากๆ แถมเธอยังตื่นนอนตอนเช้าด้วยความรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก ลองกอเรียกล่าวว่า “การมีใครสักคนที่อยู่ข้างๆ กายของคุณ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษสุด เราช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหน้าที่การงาน และชีวิตส่วนตัว”

ลองกอเรียแต่งงานกับ แอนโตนิโอ แบสตัน นักธุรกิจชาวเม็กซิกัน ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเธอกล่าวถึงชีวิตแต่งงานว่า “มันเยี่ยมมาก เขาเติมเต็มชีวิตของฉัน เรายึดค่านิยม และศีลธรรมในการทำงานแบบเดียวกัน และเราก็ไม่เพียงแต่อุทิศให้กับอาชีพของเรา แต่ยังรวมไปถึงครอบครัวของเราอีกด้วย ผู้ชายทุกคนที่มางานแต่งงานของฉันบอกว่า หากฉันไม่แต่งงานกับเขา พวกเขาจะแต่งเอง ใครๆ ก็รักเขา”

การแต่งงานครั้งนี้เป็นการแต่งงานครั้งที่สามแล้วของดาราสาว โดยเธอแต่งงานครั้งแรกกับ ไทเลอร์ คริสโตเฟอร์ และจบลงด้วยการหย่าร้างเมื่อปี 2004 หลังจากนั้น 3 ปี เธอก็แต่งงานกับนักบาสเก็ตบอลชาวฝรั่งเศส โทนี พาร์กเกอร์ ก่อนจะเลิกกันในปี 2011

‘ไอดานา รอส’ เดินหน้าช่วยเหลือ ‘ปารีส แจ๊คสัน’ ให้พ้นโรคซึมเศร้า

ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่า อดีตราชาเพลงป๊อป ไมเคิล แจ๊คสัน ลาจากโลกนี้ไปเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว ตั้งแต่ที่เขามีอายุ 50 ปี โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า ในขณะที่คนทั่วโลกรู้จักเขาในแง่มุมของศิลปินที่เป็นที่ยอมรับระดับโลก เขายังได้ใช้เวลาในปีท้ายๆ ของชีวิตอุทิศตัวเป็นพ่อที่ดีของลูกทั้งสาม อันได้แก่ พรินซ์ ไมเคิล, ปารีส และ แบลงเก็ต

แน่นอนว่าไมเคิลเป็นห่วงลูกๆ ทั้งสามมาก แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับครอบครัวแจ๊คสันเปิดเผยว่า อดีตราชาเพลงป๊อปได้ระบุความต้องการสุดท้ายไว้อย่างชัดเจนในสัปดาห์ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายว่า เขาต้องการให้เพื่อนสนิทของเขา ไดอานา รอส เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของลูกๆ ทั้งสาม

ไมเคิลได้แต่งตั้งให้ แคทเธอรีน แจ๊คสัน แม่ของเขา เป็นผู้ปกครองให้กับลูกๆ ของเขาตามกฎหมาย ในขณะที่รอสทำหน้าที่เป็นดังผู้แนะนำ และย่าคนที่สอง แหล่งข่าวกล่าวว่า “ไดอานายอมรับว่าลูกๆ ของไมเคิลนั้นมีความเป็นห่วงเป็นใยให้กับเธอเสมอ” แน่นอนว่าศิลปินระดับตำนานคนนี้ก็เป็นห่วงชีวิตของเด็กๆ ทั้งสาม ที่จะเติบโตมาท่ามกลางการถูกสื่อมวลชนและคนแทบทั้งโลกจับตามอง ในขณะที่พ่อของพวกเขาไม่อยู่ในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว

แหล่งข่าวกล่าวว่า รอสให้ความเป็นห่วงเป็นใยกับปารีสวัย 18 ปีเป็นพิเศษ โดยมีรายงานว่าปารีสได้เคยพยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้งแล้ว และก็ยังคงมีปัญหาทางด้านอารมณ์และความซึมเศร้าซึ่งรอสมองเห็นเงาสะท้อนในวัยเยาว์ของตัวเธอเองในตัวของปารีส แหล่งข่าวกล่าวว่า “ไดอานาเชื่อมั่นจริงๆ ว่าปารีสต้องการการบำบัดในระยะยาว เพราะว่าเธอไม่เคยได้พูดออกมาถึงความรู้สึกจริงๆของเธอเลย ต่อการเสียชีวิตของบิดา”

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังกล่าวอีกด้วยว่า “คนมากมายเรียกเธอ (รอส) ว่าดีว่าแต่เธอก็ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเธอเป็นแม่ที่ดีด้วยเช่นกันให้กับลูกๆ ทั้ง 5 คนของเธอ และเธอก็จะต่อสู้ต่อไปเพื่อความเป็นอยู่ของลูกๆ ของไมเคิลด้วย”

เว็บไซต์ออกประกาศขอโทษ คิม คาร์เดเชียนหลังอ้างเซเลบฯสาวกุข่าวโดนปล้น

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีข่าวอันน่าตกใจจากครอบครัวคาร์เดเชียนว่า คิม คาร์เดเชียน ถูกปล้นโดนชายที่สวมชุดคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยกลุ่มชายดังกล่าวใช้กำลังพยายามเข้ามาในห้องพักในโรงแรมของเซเลบฯสาวที่ปารีส โดยหลังจากนั้น คิมก็ได้หยุดพักการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเวลาราวหนึ่งอาทิตย์เพื่อทำใจกับเหตุการณ์ และครอบครัวคาร์เดเชียนก็ร้องขอความสงบและความเห็นใจจากสาธารณชนในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่กี่วัน กลับมีรายงานว่าคิมได้กุเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับผู้ที่ได้รับทราบข่าว แถมยังมีคนบอกว่าที่จริงแล้วโจรกลุ่มนี้ถูกจ้างมาโดยสามีสุดที่รักอย่าง คานเย เวสต์เพื่อนำเงินประกันที่ได้มาจ่ายหนี้อีกต่างหาก

ท่ามกลางข่าวลือที่ยังไม่มีใครยืนยันได้เหล่านี้ ก็มีเว็บไซต์หนึ่งที่กระทำเกินกว่าเหตุ โดยอ้างว่าพวกเขามีหลักฐานว่าโจรกลุ่มนี้เป็นโจรปลอมที่โดนจ้างมาโดยครอบครัวคาร์เดเชียนเอง เพื่อเรียกร้องความสนใจต่อสาธารณชน และเพื่อหวังเงินประกัน โดยเว็บไซต์ดังกล่าวก็มีชื่อที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้วในด้านความน่าเชื่อถือ

งานนี้คิมคงสุดจะทนแล้วเซเลบฯสาวได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องเว็บไซต์เจ้าปัญหานั้นทันที โดยหลังจากนั้นไม่นาน เว็บไซต์ที่ว่านี้ก็ได้ออกบทความฉบับใหม่ มีใจความพาดหัวประมาณว่า “เรามีความคืบหน้าในข่าวคิม คาร์เดเชียนโดนปล้น และคุณจะต้องอยากอ่านแน่ๆ” และหากใครคลิกเข้าไปอ่านก็จะเจอกับเนื้อข่าวที่ว่า “เมื่อสิบวันก่อน กลุ่มผู้ชายสวมหน้ากากและพกอาวุธได้ทำการบุกเข้าไปที่ห้องพักที่โรงแรมในปารีสของ คิม คาร์เดเชียนจับเธอมัดและปิดปากเธอ และขโมยอัญมณีมูลค่าหลายล้านเหรียญไป รวมถึงแหวนเพชรมูลค่า 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่เธอได้มากจากสามี คานเย เวสต์พวกเราคือหนึ่งในหน่วยข่าวที่สงสัยว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ตอนนี้ หลังจากได้พูดคุยกับแหล่งข่าวมากมาย รวมถึงบางคนที่มีความเชื่อมโยงกับครอบครัวคาร์เดเชียน และได้รับข้อมูลมากขึ้นในเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้พวกเรามั่นใจแล้ว และไม่มีข้อสงสัยอีกต่อไป ในการที่จะเชื่อว่าคิม คาร์เดเชียนถูกปล้น และได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในปารีส ใครก็ตามที่ยังคงสงสัยอยู่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง”

เกว็น สเตฟานี ฉลองครบรอบ 1 ปี กับ เบลค เชลตัน

หากย้อนเวลาไปเมื่อ 18 เดือนก่อน เบลค เชลตัน และ เกว็น สเตฟานี ต่างคนต่างก็แต่งงานมีครอบครัวของใครของมัน และคงไม่มีใครคาดคิดว่าเส้นทางของศิลปินชื่อดังทั้งสองจะมาบรรจบกันจนได้เดทกันเหมือนในปัจจุบันนี้

ในระยะเวลาราว 1 ปีที่ผ่านมา เชลตันและสเตฟานีต่างคบกันอย่างหวานชื่นและเปิดเผย ท่ามกลางข่าวลือที่ว่าทั้งสองกำลังจะหมั้นกันในเร็วๆ นี้ แต่เราก็ยังไม่เห็นแหวนในมือฝ่ายหญิงแต่อย่างใด ซึ่งนั่นก็ไมได้เป็นอุปสรรคต่อความรักที่ทั้งคู่มีให้กันอย่างเห็นได้ชัดจนหลายๆ ฝ่ายต่างก็ลุ้นให้ทั้งสองมีข่าวดีเสียที

แม้จะไม่ได้เป็นที่เปิดเผยว่าทั้งสองเริ่มออกเดทกันตอนไหน แต่หากจะนับเอาวันที่ทั้งสองประกาศผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการว่าคบกันแล้ว ก็จะเห็นว่าเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันครบรอบ 1 ปี ซึ่งสเตฟานีกล่าวถึงวันครบรอบว่า “ฉันกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ เพราะว่าฉันรู้สึกว่าเวลานี้เมื่อปีที่แล้ว ฉันยังเพิ่งจะพาลูกๆ ของฉันไปดู “The Sound of Music” เนื่องในโอกาสวันเกิดของฉันอยู่เลย…คุณก็ต้องทำอย่างนั้นแหละ คุณจะต้องมานั่งนึกว่าเอ…เมื่อปีที่แล้วฉันทำอะไรนะ”

นักร้องสาวไม่ยอมให้สัมภาษณ์อย่างเจาะจงว่าเธอจะทำอะไรกับวันครบรอบ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของเธอและเชลตันยังหวานชื่นอยู่มาก เมื่อกล่าวถึงฝ่ายชาย สเตฟานีบอกว่า “ฉันพูดอะไรไม่ได้ แต่ฉันรู้สึกได้รับพร… มันเป็นเรื่องที่บ้ามากเมื่อคิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันหมายความว่ายังไง ความทรงจำอันสวยงามเกิดขึ้นมากมาย”

ตอนนี้ทั้งสองก็เริ่มฉลองวันครบรอบล่วงหน้ากันบ้างแล้ว ด้วยการพาลูกๆ ของสเตฟานีไปดิสนีย์แลนด์ และแวะไปเยี่ยมบ้านเกิดของฝ่ายหญิง ตอนนี้แฟนๆ ก็ได้แต่รอว่าคู่นี้น่าจะมีข่าวแต่งงานมาให้ได้ชื่นใจจริงๆ เร็วๆ นี้

 

Inter Entertainment : 12 ตุลาคม 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/239606

วันพุธ ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

แองเจลีนา โจลี บอบช้ำหนักจากการหย่าร้าง

แม้จะเป็นคนดำเนินเรื่องการหย่าร้างให้เป็นผลสำเร็จด้วยตัวเอง แต่ก็ใช่ว่า แองเจลีนา โจลี จะรู้สึกว่าเธอเป็นผู้ชนะ มีรายงานข่าวว่าสภาพจิตใจของนางเอกสาวในตอนนี้กำลังบอบช้ำอย่างหนัก และส่งผลต่อสภาพร่างกายของเธอด้วย

แหล่งข่าวกล่าวว่า “เพื่อนๆ ของเธอพยายามขอร้องให้เธอกินอะไรบ้าง และพยายามให้เธอขอความช่วยเหลือ แต่เธอก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้นจากการหย่า” แม้ว่าโดยปกติโจลีจะผอมอยู่แล้ว แต่การไม่ทานอาหารของเธอในตอนนี้ก็ส่งผลให้ร่างกายยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ “ถึงจุดหนึ่งที่มือของเธอสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ จนเธอทำน้ำหกตอนที่พยายามจะดื่มน้ำ…เธอมีอาการของโรคฮิสทีเรียหลังจากนั้น และร้องไห้ไม่หยุดเป็นชั่วโมงๆ สูบบุหรี่หลายมวนติดต่อกัน”

นอกจากนี้ ทั้งนางเอกสาวและลูกๆ ทั้งหกก็เข้ารับการบำบัดเพื่อจัดการกับอารมณ์หลังจากการหย่าร้างครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งสาเหตุหลักในการหย่าร้าง ว่ากันว่าเป็นเพราะความเห็นไม่ตรงกันระหว่างโจลี
กับ แบรด พิตต์ ในการเลี้ยงลูก

ฟางเส้นสุดท้ายของทั้งสองเกิดขึ้นเมื่อแมดด็อกซ์ทะเลาะกับพิตต์ ระหว่างที่ทั้งครอบครัวเดินทางกันด้วยเครื่องบินส่วนตัว แมดด็อกซ์เองตกเป็นเป้าหมายสำคัญของสาเหตุในการหย่าร้าง แต่เขาก็พยายามปกป้องมารดา และเรื่องนี้ก็ถึงหูของหน่วยงานปกป้องสิทธิเด็กอย่างลอส แองเจลลิส ดีพาร์ทเมนต์ ออฟ ชายด์
แอนด์ แฟมิลี่ เซอร์วิส ในที่สุด

ในเรื่องของลูกๆ นั้น โจลีถือได้ว่าเป็นผู้ปกครองที่ดีเยี่ยม โดยระหว่างที่เธอยื่นคำร้องขอดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว เธอก็ยังพยายามปกป้องลูกๆ ให้พ้นจากสายตาของสาธารณชนอีกด้วย แหล่งข่าวกล่าวว่า “พวกเขาไม่ออกจากบ้านเช่าเลยเป็นเวลาหลายๆ วัน มันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับทุกๆ คน พวกเขาเคยมีกิจกรรม และความสนุกสนานต่างๆ ให้ทำมากมาย มันเลยเป็นเรื่องยากที่ทำให้พวกเขาต้องอยู่แต่กับบ้าน ลูกคนเล็กของพวกเขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น”

ยิ่งแย่ไปกว่านั้น เพื่อนของพิตต์อย่าง เมลิสซา อีเธอริดจ์ ได้ต่อว่าโจลีระหว่าการปรากฏตัวในรายการทอล์กโชว์ทางวิทยุว่า “มันทำให้ฉันหัวใจสลายที่ได้เห็นใครคนหนึ่งกำลังพยายามพรากบางสิ่งบางอย่างไปจากชีวิตการแต่งงานของคุณ จากความสัมพันธ์ของคุณ และจากสิทธิของคุณต่อลูกๆ ของคุณ และทำมันอย่างตั้งใจอย่างที่ฉันเห็นว่ามันเกิดขึ้น”

เกวนเน็ธ พัลโทรว ขอให้กำลังใจคนรักเก่า แบรด พิตต์

เคยมีอดีตร่วมกันมา เมื่อเห็นคนรักเก่าอย่าง แบรด พิตต์ กำลังอยู่ในขั้นตอนการหย่าร้างอย่างเจ็บปวด นางเอกสาว เกวนเน็ธ พัลโทรว ก็อดไม่ได้ที่จะให้กำลังใจ และข้อแนะนำบางอย่าง แต่สิ่งที่เธอทำมันช่างทำให้คนอื่นรู้สึกแย่กับเธอเสียมากกว่า

มีรายงานว่า พัลโทรวได้ติดต่อไปยังพิตต์ เพื่อพยายามจะช่วยเขาให้ผ่านพ้นการหย่าร้างไปได้ แหล่งข่าวกล่าวว่า “เธอคิดถึงแต่ตัวเองมากพอที่จะคิดว่าเขาต้องการคำแนะนำจากเธอ ในเรื่องที่ว่าจะเลิกกับแองเจลีนาอย่างไรให้มีสติ”

ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังอาสาเป็นกาวใจให้กับทั้งสองอีกด้วย “นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่แบรดคิดถึงอยู่ในตอนนี้ แน่นอนล่ะ แต่เกวนเน็ธถูกทำให้เชื่อว่าเธอสามารถช่วยเหลือ และพยายามจะเป็นกาวใจให้กับเขาและแองจี้อย่างลับๆ อีกด้วย”

 

แบรดกับเกวนเน็ธเดทกันนานสองสามปี หลังจากที่ทั้งสองเจอกันในภาพยนตร์เรื่อง “Seven” แต่ความรักของทั้งคู่ก็ไปไม่รอด และต่างฝ่ายต่างก็ไปมีคนใหม่ ซึ่งก็ไปไม่รอดอีกเช่นเดียวกัน

ลินด์เซย์ โลฮาน เลิกเด็ดขาดกับ อีกอร์ ทาราบาโซฟ

ดูเหมือนเรื่องราวความป่วนในชีวิตของ ลินด์เซย์ โลฮาน จะยังไม่มีจุดสิ้นสุด เพราะแม้ว่าดาราสาวจะไม่ต้องเข้าๆ ออกๆ สถานบำบัดเป็นว่าเล่นเหมือนแต่ก่อน แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับคู่หมั้นหนุ่มจอมซ้อม อีกอร์ทาราบาโซฟ ก็ทำให้โลฮานมีข่าวฉาวๆ อยู่บนหน้าแทบลอยด์ได้ตลอดเวลา

ดาราสาวให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนก่อนถึงความน่ากลัวของคู่หมั้นของเธอว่า “ฉันเข้านอน แล้วเขาก็พังบ้านของฉันเข้ามา แล้วก็เริ่มบีบคอฉัน…ฉันกลัวว่าอีกอร์อาจจะสาดน้ำกรดใส่หน้าฉันฉันพยายามกระโดดหนีไปที่ระเบียงและตะโกนอย่างสุดความสามารถว่าเขาพยายามจะฆ่าฉัน ช่วยเรียกตำรวจให้ที”โดยเธอกล่าวทิ้งท้ายว่าเธอโชคดีที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้ ซึ่งแน่นอนว่านั่นไม่ใช่เหตุการณ์ร้ายเพียงเหตุการณ์เดียวที่เธอพบมา เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา มีผู้เผยแพร่วีดีโอที่แสดงให้เห็นว่าอีกอร์ตามไล่ลินด์เซย์และทุ่มเธอลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ดาราสาวมีรอยเขียวช้ำอยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ไดนาโลฮาน เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าตอนนี้ลินด์เซย์นั้นปลอดภัยดี และลูกสาวของเธอได้เลิกกับอีกอร์อย่างเด็ดขาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไดนากล่าวว่า “เขาก็แค่ยังเด็กมาก และมันก็เป็นไปไม่ได้ มันเลยถึงขั้นที่เขาต้องใช้กำลัง”

หลายๆ คนก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ ทั้งๆ ที่อีกอร์ทำให้ลินด์เซย์บาดเจ็บมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ปฏิกิริยาของไดนากลับดูสงบ และหาข้อแก้ตัวแทนอีกอร์ด้วย ซึ่งงานนี้มารดาของดาราสาวกล่าวว่า “ฉันเองก็เป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว และมันก็ยาก ฉันไม่เคยคิดเลยในอีกล้านปีว่าลูกสาวของฉันจะมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเหมือนกัน แต่เธอก็เจอไปแล้ว และโชคดีที่ตอนนี้มีความสุข และรอดมาได้ และพอแล้วสำหรับเรื่องนี้…ฉันหวังว่าเขาจะมีความสุข และหวังว่าเขาจะได้รับการช่วยเหลือเพราะอันที่จริงเขาก็เป็นคนดี”

มาร์ค ซัลลิ่ง ตัวอันตรายต่อเด็กๆ และสังคม

โดนจับมาตั้งแต่เดือนธันวาคมเมื่อปีที่แล้ว สำหรับ มาร์ค ซัลลิ่ง ดาราจากซีรี่ส์เรื่องดัง “Glee” โดยในตอนนั้นมีรายงานว่าตำรวจพบภาพโป๊เปลือยของเด็กๆ นับร้อยๆ ภาพในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของดาราหนุ่ม ซึ่งซัลลิ่งได้ประกันตัวเองออกไปด้วยวงเงิน 20,000 เหรียญสหรัฐ

หลังจากนั้นในเดือนพฤษภาคม เขาถูกยื่นฟ้องร้องในสองข้อหาฐานมีสื่อลามกเด็กไว้ในครอบครอง โดยแต่ละข้อหานั้นอาจทำให้เขาติดคุกได้ถึง 20 ปีเลยทีเดียว และในครั้งนั้น วงเงินประกันของเขาได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 100,000 เหรียญสหรัฐ และแม้ว่าจะประกันตัวออกมาได้ แต่ซัลลิ่งก็ต้องใส่สายรัดข้อมือเพื่อบ่งบอกว่าเขาอยู่ที่ไหนตลอดเวลา และยังถูกสั่งให้อยู่ห่างจากเด็กๆ อีกด้วย

ซัลลิ่งมีกำหนดจะขึ้นให้การต่อศาลในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน แต่ตอนนี้ ทางศาลได้ออกเอกสารชี้แจงถึงหลักฐานในการจับกุมดังกล่าว ซึ่งพบว่าทางศาลมีหลักฐานจำนวนมากถึง 100,000 หน้า ที่เป็นการยืนยันการกระทำความผิดของนักแสดงหนุ่ม โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วยภาพถ่าย และผลการทดสอบทางกฎหมาย รวมไปถึงภาพเปลือยของเด็กๆ เท่านั้นยังไม่พอ ว่ากันว่าซัลลิ่งยังมีวีดีโอที่แสดงให้เห็นภาพของเด็กเพียงห้าขวบกำลังทำท่าร่วมเพศไว้ในครอบครองอีกด้วย

‘จัสติน เธอโรกซ์’ ไม่แคร์ ถูกเรียก
‘มิสเตอร์ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน’

กำลังเดินสายโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง “The Girl On The Train” ทำให้ จัสติน เธอโรกซ์ ต้องออกสื่อมากกว่าเดิม และแน่นอนว่าเขาเตรียมพร้อมรับมือกับคำถามถึงคู่รักที่เพิ่งเลิกรากันอย่าง แบรด พิตต์ และ แองเจลีนา โจลี เป็นอย่างดี

เห็นได้ชัดว่าเธอโรกซ์ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องโดยตรงกับการหย่าร้างของพิตต์และโจลี แต่เนื่องจากภรรยาของเขาคือ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน แน่นอนว่าหลายคนมองการเลิกราของ โจลี-พิตต์ เป็นเรื่องของกรรมที่ทั้งสองทำกับนางเอกสาวเอาไว้ เรียกง่ายๆ ว่าพิตต์ทิ้งอนิสตันไปหาโจลีเมื่อครั้งที่ทั้งสองร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง “Mr & Mrs Smith” ในปี 2004 พวกเขามีลูกด้วยกัน 6 คน และแต่งงานกันในเดือนสิงหาคม 2014

เมื่อถูกถามถึงการหย่าร้างของคู่รักคู่นี้ เธอโรกซ์กล่าวว่า “ในฐานะที่ผมเป็นเด็กที่พ่อแม่ก็หย่าร้างเหมือนกัน สิ่งที่ผมพูดได้คงมีเพียงว่ามันเป็นข่าวที่แย่มากๆ สำหรับเด็กๆ เหล่านั้น และนั่นคือสิ่งที่คุณสามารถพูดได้จริงๆ”

เมื่อเร็วๆ นี้ เธอโรกซ์ให้สัมภาษณ์ถึงภรรยาสาวว่า “เธอมีชีวิตผ่านอะไรต่อมิอะไรที่เหลวไหลไร้สาระ โกหกหลอกลวง หลายๆ คนอาจจะป่นเป็นผงไปแล้วท่ามกลางความเครียดเหล่านั้นที่เธอต้องเผชิญ ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเธอมาก ในวิธีที่เธอจัดการกับตัวเอง ดังนั้น ในความรู้สึกที่แปลกประหลาด ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ยืนข้างเธอ จริงๆ ด้วยความรู้สึกที่ว่าเธอเป็นคนที่มหัศจรรย์มาก”

สำหรับเรื่องที่บางคนชอบเรียกเขาว่าเป็นมิสเตอร์อนิสตัน เรื่องนี้นักแสดงหนุ่มกล่าวว่าเขาไม่รู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย “มันไม่ได้มีผลอะไรกับผมเลย มันก็คือหนึ่งในสิ่งที่คนอธิบายว่าผมเป็นใครเท่านั้นเอง”

Quote

ความรู้สึกที่แย่ที่สุดคือการรู้สึกไม่เป็นที่ต้องการต่อบุคคลที่คุณต้องการที่สุด

Inter Entertainment : 5 ตุลาคม 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/238509

วันพุธ ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

นาโอมิ วัตส์ เลิก ลีฟ ชไรเบอร์ จบสัมพันธ์ยาวนาน 11 ปี

คบกันมานานใช่ว่าจะการันตีอะไรได้ ในที่สุด นางเอกสาว นาโอมิวัตส์ ก็เลิกรากับแฟนหนุ่มที่คบกันมานานถึง 11 ปี อย่าง ลีฟ ชไรเบอร์โดยทั้งสองควงกันออกมาประกาศข่าวเศร้านี้เมื่ออาทิตย์ก่อน

นาโอมิและลีฟประกาศว่า “สองสามเดือนที่ผ่านมานี้ พวกเราได้มาถึงบทสรุปแล้วว่า ทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราก้าวเดินต่อไปในฐานะครอบครัวนั้นคือเราคงจะต้องแยกทางกัน…มันเป็นความรัก การเคารพ และมิตรภาพที่ดีในหัวใจของเราที่เราคงจะตั้งตารอที่จะเลี้ยงดูลูกของเราด้วยกัน และค้นหาบทใหม่ของความสัมพันธ์ของเรา ขณะที่เราซาบซึ้งในความสนใจและการให้ความสนับสนุนของคุณ เราก็ขอให้สื่อมวลชนทั้งหลายช่วยให้ความระมัดระวังต่อลูกๆ ของเรา และให้ความเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัว ของพวกเขาด้วย”

รายงานข่าวกล่าวว่าหลังๆ มานี้ ทั้งสองต่างก็แยกกันอยู่บ้างเป็นบางครั้ง แต่ก็ยังคงร่วมกันเลี้ยงลูกๆ อันประกอบไปด้วย อเล็กซานเดอร์ วัย 9 ปี และ แซมวล วัย 7 ปี ซึ่งลีฟและนาโอมินั้นไม่ได้แต่งงานกัน แต่ก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ปี 2005

 

แองเจลีนา โจลี วุ่นเจรจาขอเลี้ยงดูบุตรจาก แบรด พิตต์

ยังคงวุ่นวายไม่จบ สำหรับข่าวการหย่าร้างของคู่รักสุดฮอตแห่งฮอลลีวู้ดแองเจลีนา โจลี และ แบรด พิตต์ ซึ่งมาถึงจุดนี้แล้วทั้งสองคงไม่หวนกลับไปคืนดีกันอีกต่อไป แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่โจลีและพิตต์ยังคงต้องจัดการร่วมกัน และเรื่องที่ใหญ่มากๆ ก็เห็นจะเป็นสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรทั้ง 6 คน

เมื่อตอนที่โจลียื่นเรื่องขอฟ้องหย่าจากพิตต์เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เธอได้ร้องขอสิทธิ์ที่จะเลี้ยงดูบุตรร่วมกับอดีตสามีตามกฎหมาย แต่ขอให้สิทธิ์หลักในการดูแลลูกๆ ด้านกายภาพนั้นเป็นของเธอ ซึ่งนั่นหมายความว่าเด็กๆ ต้องอยู่กับเธอ และพิตต์สามารถมาเยี่ยมลูกๆ ได้ ซึ่งประกอบไปด้วย แมดด็อกซ์ วัย 15 ปี, แพกซ์ วัย 12 ปี, ซาฮารา วัย 11 ปี, ชิโลห์ วัย 10 ปี และฝาแฝด น็อกซ์ กับ วิเวียน วัย 8 ปี ในทางกลับกัน แหล่งข่าวจากทางพิตต์แจ้งว่า พระเอกหนุ่มกำลังยื่นคำร้องขอมีสิทธิ์ร่วมในการดูแลบุตรด้านกายภาพด้วย ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นที่กังขาเพราะเพิ่งมีข่าวว่าพิตต์ทะเลาะกับลูกชายคนโตอย่างรุนแรงก่อนที่เขาจะเลิกกับโจลี

อย่างไรก็ตาม สิทธิ์ในการดูแลบุตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกายภาพ จะอยู่ภายใต้การพิจารณาของศาล ซึ่งเห็นแก่ประโยชน์ของเด็กๆ เป็นหลัก ตอนนี้ทนายความของทั้งสองฝ่ายก็ได้เข้าพบกันอย่างลับๆ เพื่อทำการตกลงกันในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ทนายความอิสระบางท่านลงความเห็นว่า เป็นการยากต่อโจลีในการที่จะได้รับสิทธิ์การเลี้ยงดูบุตรทางด้านกายภาพแต่เพียงผู้เดียวจากศาลแคลิฟอร์เนีย

 

เบน แอฟเฟล็ก ประกาศพร้อมหย่า เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2015 เบน แอฟเฟล็ก และ เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ ประกาศข่าวช็อกแฟนๆ ว่าทั้งสองกำลังแยกทางกัน หลังจากแต่งงานกันมานาน แต่หลังจากนั้น 15 เดือน ทั้งสองก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหย่าร้างกันจริงๆ จนหลายๆ คนแอบลุ้นให้กลับมาคืนดีกัน แต่ตอนนี้เห็นท่าฝ่ายชายจะกำลังดำเนินเรื่องให้การหย่าร้างเป็นผลทางกฎหมายจริงๆ เสียแล้ว

แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่แอฟเฟล็กจะทำทีทำท่าว่าจะหย่าขาดจากการ์เนอร์จริงๆ จังๆ เสียที แต่เห็นทีว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ข่าวมีมูล เนื่องจากข่าวว่าแอฟเฟล็กหันกลับไปคืนดีกับถ่านไฟเก่า (กว่า) อย่าง เจนนิเฟอร์ โลเปซ ก็กลับมาสนั่นหูอีกครั้ง แหล่งข่าวกล่าวว่า “เบนและเจนคุยเรื่องนี้กันในรถ พวกเขาทำท่าทำทางต่างๆ มากมาย และมันก็ดูรุนแรง เจนดูเสียใจมาก เหมือนกับว่าเธอกำลังร้องไห้ เบนก็ดูเหมือนกับทั้งพยายามออกห่าง และบางทีก็พยายามปลอบเธอ”

แหล่งข่าวบางคนกล่าวว่า เจนเองเคยคิดว่าเธอกับสามีจะกลับมาคืนดีกันได้อีกครั้ง และตอนนี้เธอกำลังหัวใจสลายที่ข่าวดีที่รอคอย กลายเป็นข่าวการหย่าร้างแทน “การหย่าร้างกำลังถูกดำเนินการผู้จัดการด้านธุรกิจของทั้งสองกำลังจัดการเรื่องการเงินของทั้งคู่อยู่ในตอนนี้ และเบนก็อยากจะใช้ชีวิตของเขาต่อไป…เจนเริ่มร้องไห้เมื่อเบนบอกเธอ แต่เขาก็รู้สึกว่าพอแล้ว”

ไม่ใช่แค่การ์เนอร์เท่านั้น คนอื่นๆ ต่างก็เห็นว่าทั้งสองกำลังพยายามจะกลับมาเป็นครอบครัวกันอีกครั้งให้ได้ ซึ่งปาปาราซซี่
ก็จับภาพทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันในแบบครอบครัวได้อยู่บ่อยๆ หลังจากที่แยกทางกัน ซึ่งทริปล่าสุดคือเมื่อตอนวันเกิดของแอฟเฟล็ก ที่ทั้งครอบครัวต่างไปแคมปิ้งกันที่มอนทานา

แน่นอนว่าการตัดสินใจของฝ่ายชายในครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ฝ่ายชายมีคนใหม่ ซึ่งเป้าหมายหลักตกไปอยู่ที่ เจนนิเฟอร์ โลเปซแต่ก็ใช่ว่าแอฟเฟล็กจะมีข่าวกับโลเปซแค่คนเดียว ยังมีข่าวว่าเขาใช้เวลาอยู่กับผู้หญิงลึกลับผมสีบรูเนตต์ อีกคนหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้อีกด้วย

 

มีลา คูนิส ป่องอีกแล้ว คาดว่าได้ลูกชาย

ท่ามกลางกระแสดาราดังๆ ในแวดวงฮอลลีวู้ดมีข่าวเลิกราร้าวฉาน แต่คู่รักสุดหวานอย่าง แอชตันคัทเชอร์ และ มีลา คูนิส ขอสวนกระแสด้วยการประกาศข่าวดีว่าฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ลูกคนที่สองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าลูกคนนี้จะเป็นผู้ชาย

ในขณะที่หลายๆ คนเห็นว่าการมีลูกสาวหนึ่งลูกชายหนึ่งทำให้ครอบครัวสมบูรณ์แล้ว และท่าทางมีลาน่าจะปิดอู่เสียที กลับมีรายงานข่าวว่าแอชตันอยากมีลูกอย่างน้อยสามสี่คน ซึ่งทำให้ทั้งสองขัดแย้งกันนิดหน่อย แหล่งข่าวกล่าวว่า “แอชตันอยากจะมีลูกสามหรือสี่คนเสมอ แต่มีลาอยากได้แค่สอง ตอนนี้เธอก็มีลูกผู้หญิงคนผู้ชายคนแล้ว มีลารู้สึกว่าเธอน่าจะทำหมันได้เสียที”

มีลาคลอดลูกสาวคนแรกไวแอท ไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2014 ทั้งสองยังไม่ได้ออกมายืนยันข่าวตั้งท้องลูกชายแต่อย่างใด แน่นอนว่าพวกเขาคงไม่อยากจะพูดถึงแผนการว่าจะมีลูกเพิ่มอีกหรือไม่

‘ไมลีย์ ไซรัส’ เหน็บ ‘มารายห์ แครีย์’ จอมเลียนแบบ

ตั้งแต่ลักกี้อินเลิฟ ก็ดูเหมือนว่า ไมลีย์ ไซรัส จะทำตัวเรียบร้อยขึ้น แต่ก็ใช่ว่าเธอจะเปลี่ยนไปในด้านการแสดงความคิดเห็น ล่าสุด ไซรัสให้สัมภาษณ์นิตยสารฉบับหนึ่งในหัวข้อต่างๆ ที่เธอตอบคำถามได้อย่างเผ็ดร้อน แถมยังว่าเหน็บ มารายห์ แครีย์
ว่าเป็นพวกที่ชอบเลียนแบบอีกด้วย

ไซรัสให้สัมภาษณ์ด้วยการประกาศว่า เธอจะไม่เดินพรมแดงอีกต่อไป หากปัญหาการอดอยากในโลกนี้ยังคงมีอยู่ แลเธอยังกล่าวอีกด้วยว่า เธอจำได้ดีว่าตอนที่เธอแสดงซีรี่ส์เรื่องดัง ฮานนา มอนทานา นั้น เธอได้รับค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม แถมยังไม่มีใครสนใจในพรสวรรค์ของเธออีกด้วย ซึ่งในตอนนั้นเธอยังเด็ก และยังซื่อเกินกว่าที่จะสังเกตเห็น

หลังจากนั้น เธอยังแสดงความคิดเห็นถึงนักร้องสาวระดับตำนานอย่างมารายห์ แครีย์ ว่า “ฉันไม่เคยเป็นแฟนเพลงของเธอเลยจริงๆ เพราะว่าเรื่องราวเกี่ยวกับ มาราย์ แครีย์นั้นมันมากเกินไป มันเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงของเธอ ฉันมองเห็นทะลุเลย” ไซรัสกล่าวถึงแครีย์เนื่องจากในการประกวดเดอะ วอยซ์ เทปหนึ่งที่เธอเป็นโค้ช เธอพูดกับผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นมารายห์ได้ และนั่นไม่ใช่คำชมมารายห์ แต่เธอกำลังบอกให้ผู้เข้าแข่งขันทำตัวให้เป็นตัวจริงมากกว่านี้ “นั่นเป็นส่วนที่ทำให้เธอกลายเป็นไอดอลของพวกเกย์ อย่างนี้คือการเลียนแบบนะ มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับว่าเธอสวมใส่อะไร และมันก็เป็นเรื่องของเธอ แต่สิ่งที่ฉันทำมันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับฉัน มันเป็นการที่ฉันแบ่งปันเรื่องราวของฉัน มันเป็นการที่คนอื่นๆ พยายามเข้าถึงสิ่งที่ฉันกำลังจะพูด”

 

Quote :  ฉันแค่มีวิธีที่จะแหกกฎ แม้ว่าฉันจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม คุณต้องปล่อยให้คนอื่นเป็นตัวของตัวเอง คุณต้องเชื่อว่านั่นคือแบบฉบับที่ดีที่สุดของพวกเขาแล้ว

ริฮานนา

Inter Entertainment : 28 กันยายน 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/237356

วันพุธ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

แบรด พิตต์ อารมณ์ร้อน ทำร้ายร่างกายลูก

ไม่ใช่ข่าวลืออีกต่อไป เมื่อ แองเจลินาโจลี ตัดสินใจยื่นเรื่องฟ้องหย่าสามี แบรดพิตต์ หลังจากปล่อยให้เป็นกระแสมานานว่าความรักของทั้งสองมาถึงทางตันแล้ว โดยฝ่ายหญิงให้เหตุผลว่าเป็นเพราะความแตกต่างกันจนเกินไป และทั้งสองต่างก็ไม่ยอมปริปากให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้สื่อมวลชนขุดคุ้ยกันมากขึ้น

สาเหตุที่ว่ากันว่าทำให้โจลีทนไม่ได้ต้องขอหย่าสืบเนื่องมาจากอาการติดยาของพิตต์ และการที่เขาเป็นคนอารมณ์ร้อน ซึ่งทั้งสองอย่างไม่ใช่สิ่งดีต่อลูกๆ ของทั้งสองเลย และฟางเส้นสุดท้ายของโจลีเป็นผลมาจากการที่พิตต์มีอาการมึนเมาและมีปากเสียงกับ แมดด็อกซ์ ลูกชายคนโตของพวกเขา จนถึงขั้นลงไม้ลงมือ ซึ่งนั่นทำให้พิตต์ตกเป็นเป้าหมายในการสอบสวนเรื่องการทำร้ายร่างกายเด็กของเอฟบีไอทันที

แน่นอนว่าเรื่องแค่นี้คงไม่ทำให้พระเอกหนุ่มถึงกับต้องติดคุกติดตาราง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าข่าวนี้ทำลายภาพลักษณ์ความเป็นพระเอกแสนดีแฟมิลี่แมนของพิตต์ไปจนหมดสิ้น และว่ากันว่างานนี้พิตต์ดิ้นไม่หลุดเพราะมีภาพวีดีโอเป็นหลักฐานอีกด้วย

ในทางกลับกัน มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าอะไรที่ทำให้พระเอกแสนดีคนนี้สติแตกถึงขนาดทำร้ายร่างกายลูก หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้พิตต์ขาดสติคงเป็นเพราะความมึนเมาแต่สำหรับสาเหตุลึกๆ นั้น แหล่งข่าวกล่าวว่าพักหลังนี้พระเอกหนุ่มมีอาการ “กลัวแก่” ขนาดหนัก “เขาเกลียดรูปร่างหน้าตาของตัวเองตอนนี้ แล้วเขาก็เอามันไปลงกับคนอื่นๆรอบตัว” ความกังวลต่อรูปร่างหน้าตาของตัวเองและความกลัวว่ามันจะส่งผลต่ออาชีพการงานทำให้เขากลายเป็นคนโกรธง่ายมากขึ้น และหันไปใช้ยาเสพติดนั่นเอง

อดัม ลาวีน ดี๊ด๊า ได้ลูกสาว ขอพักคอนเสิร์ตชั่วคราว

ต้องขอแสดงความยินดีกับครอบครัวของนักร้องหนุ่ม อดัม ลาวีนและนางแบบสาว บีฮาติพรินซ์ลู ที่ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว เป็นลูกสาวตัวน้อยน่ารักน่าชังไปเมื่ออาทิตย์ก่อน

แหล่งข่าวกล่าวว่านางแบบสาวมีกำหนดคลอดเมื่อวันอังคารที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งลาวีนก็เป็นห่วงภรรยามาก โดยเขาพยายามยกเลิกงานในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะมีเวลาอยู่กับบีฮาติในยามที่เธอคลอด ว่ากันว่าลาวีนเลื่อนคอนเสิร์ตออกไปถึง 7 โชว์ด้วยกัน นักร้องนำวงมารูนไฟว์อธิบายกับแฟนๆ ทางวีดีโอที่เขาโพสต์บนอินสตาแกรมว่า “ผมเสียใจที่จะแจ้งให้ทราบว่าเป็นเพราะว่าลูกของผมกำลังจะคลอด…มันคือชีวิต และมันก็สวยงามมากแต่มันก็ทำให้เรื่องซับซ้อนด้วยเช่นกัน และผมขอโทษหากทำให้ทุกคนไม่สะดวก…พวกเราหวังว่าพวกคุณจะมาดูการแสดงคอนเสิร์ตกัน มันจะต้องออกมาเยี่ยมมากๆ… พวกเรารักคุณ และพวกเราขอโทษครับ”

มารูนไฟว์ ทำการแสดงครั้งสุดท้ายที่แมสสาชูเสตต์ เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา ก่อนที่ลาวีนจะขออนุญาตหยุดพักเพื่อไปดูแลภรรยา โดยพวกเขาน่าจะกลับมาทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้งได้ราวๆ วันที่ 3 ตุลาคมนี้

จิม แคร์รีย์ สวนกลับถึงสาเหตุการตายของแฟนเก่า

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา มาร์ค เบอร์ตันสามีของ แคทธรีนา ไวท์ ได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเอาผิด จิม แคร์รีย์ ว่าเป็นสาเหตุทำให้ภรรยาเสียชีวิต โดยกล่าวหาว่าพระเอกชื่อดังได้ทำให้ภรรยาของเขาเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และให้เธอใช้ยาเสพติด ทำให้เธอซึมเศร้าและฆ่าตัวตายเมื่อเดือนกันยายน ปี 2015 ในที่สุด

ไวท์ได้ทิ้งจดหมายลาตาย มีใจความว่าเธออยากจะขอโทษแคร์รีย์ที่ทำให้เขาผิดหวัง และยอมรับว่าชีวิตของเธอที่ขาดนักแสดงหนุ่มนั้นมันยากขึ้นเรื่อยๆ ในการที่จะมีชีวิตอยู่ ซึ่งเบอร์ตันก็ได้อ้างว่า ยาที่เธอใช้ในการฆ่าตัวตายนั้นเป็นยาที่พระเอกหนุ่มนำมาให้กับเธอ เพราะเมื่อสืบสวนย้อนไปแล้ว ยาดังกล่าวถูกสั่งจ่ายโดยนามแฝงเดียวกับที่แคร์รีย์ใช้อยู่บ่อยๆ และยังกล่าวว่า แคร์รีย์นั้นยอมบีบบังคับไวท์ และยังสามารถสอดส่องเธอผ่านทางกล้องวงจรปิดที่ตัดตั้งเอาไว้ที่บ้านได้อีกด้วย

งานนี้ แคร์รีย์ได้ออกมาตอบโต้ว่า เขามองว่าเบอร์ตันเองอยากได้เงินจากเรื่องนี้พระเอกหนุ่มกล่าวว่า “ช่างเป็นความน่าละอายที่เลวร้ายมาก มันคงเป็นการง่ายสำหรับผมที่จะเข้าไปในห้องกับทนายของผู้ชายคนนี้แล้วจัดการเรื่องให้มันจบๆ ไป แต่มันก็มีช่วงเวลาของชีวิตที่คุณอยากจะยืนหยัด และปกป้องศักดิ์ศรีของตัวคุณเองต่อปีศาจในโลกใบนี้ ผมจะไม่ทนต่อความพยายามอันไร้หัวใจนี้ที่ต้องการเอาเปรียบผม หรือผู้หญิงที่ผมรัก ปัญหาของแคทเกิดขึ้นมานานก่อนที่ผมจะพบกับเธอ และน่าเศร้าที่จุดจบอันน่าเศร้าของเธอนั้นเกินกว่าที่ใครจะสามารถควบคุมได้ ผมหวังจริงๆ ว่าวันหนึ่งในไม่ช้านี้ ผู้คนจะหยุดพยายามที่จะหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้ และปล่อยให้เธอพักผ่อนอย่างสงบ”

เหตุผลหนึ่งในการกล่าวโทษแคร์รีย์ของเบอร์ตันนั้น สืบเนื่องมาจากการที่ภรรยาของเขาเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเขากล่าวหาว่า แคร์รีย์รู้เรื่องนี้ และบอกให้ไวท์เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ซึ่งนั่นทำให้เธอเปราะบางยิ่งขึ้น และฆ่าตัวตายในที่สุด ซึ่งในเรื่องนี้ ทางทนายของแคร์รีย์กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเบอร์ตันและไวท์นั้นเป็นการแต่งงานกันอย่างหลอกลวง เพื่อที่ฝ่ายชายจะได้อยู่ที่อเมริกาตามกฎหมายเท่านั้น และยังกล่าวอีกด้วยว่า จากการเลิกรากันเมื่อปี 2014 ไวท์เป็นฝ่ายอ้อนวอนให้แคร์รีย์กลับมาหาเธอ ซึ่งไม่น่าจะเป็นการกระทำต่อคนที่ทำให้เธอติดโรคทางเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด

แอมเบอร์ เฮิร์ด ไร้บ้านเพราะ จอห์นนี่ เด็ปป์?!

ดูเหมือนว่าหลังจากที่ แอมเบอร์ เฮิร์ด และ จอห์นนี่ เด็ปป์ หย่าขาดจากกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชีวิตของทั้งสองก็น่าจะดำเนินต่อไป เรื่องราวอันยุ่งเหยิงคงจะจบลงได้ด้วยดีแล้ว หลังจากปล่อยให้คาราคาซังกันมานาน… ผิดซะล่ะ

หากหลายคนยังจำได้ เฮิร์ดเคยประกาศว่าเธอจะขอนำเงินทั้งหมดที่ได้เป็นค่าเลี้ยงดูจากอดีตสามี มาบริจาคเข้าการกุศล ซึ่งงานนี้ เด็ปป์ก็สนองน้ำใจอดีตภรรยาด้วยการเขียนเช็คให้กับองค์กรการกุศลโดยตรงเสียเลย แทนที่จะเป็นการเขียนเช็คให้กับเฮิร์ด ซึ่งทำให้ทนายความของฝ่ายหญิงไม่พอใจ กล่าวหาว่าเด็ปป์พยายามฉวยโอกาสสร้างภาพแสดงความเป็นคนดีแถมยังได้รับการลดหย่อนภาษีจากการบริจาคครั้งนี้ไปฟรีๆ อีกด้วย

งานนี้ทนายความของเฮิร์ดเลยยื่นเรื่องให้เด็ปป์จ่ายเงินเป็นสองเท่า เพื่อเป็นการลงโทษที่เขากระทำข้ามหน้าข้ามตาอดีตภรรยา ซึ่งว่ากันว่าเรื่องการบริจาคเงินครั้งนี้เป็นเพียงแค่หนึ่งในหลายๆ เรื่องที่ทั้งสองกำลังมีปัญหากัน

หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ฉบับหนึ่งกล่าวอ้างว่าตอนนี้เฮิร์ดเรียกได้ว่าไม่มีบ้านจะอยู่ อันเป็นผลมาจากการหย่าร้างของเธอ และเด็ปป์เองก็ยังปฏิเสธไม่ให้เธอมาเก็บข้าวของออกจากอพาร์ทเมนท์ที่ทั้งสองเคยอยู่ด้วยกันอีกด้วย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เฮิร์ดได้เดินทางไปลอนดอนเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Justice League” และหลังจากปิดกล้อง กลายเป็นว่าดาราสาวไม่มีบ้านให้กลับอีกต่อไปแล้ว แหล่งข่าวกล่าวว่า “แอมเบอร์ไม่มีที่จะให้อยู่เมื่อตอนเธอเดินทางกลับมาถึงแคลิฟอร์เนีย” แถมยังบอกอีกด้วยว่าดาราสาวยังไม่ได้หาที่อยู่ใหม่ และยังไม่มีข้าวของอะไรติดตัวอีกด้วย “ทั้งหมดที่เธอมีก็แค่เสื้อผ้าที่เธอเอาไปลอนดอนด้วย จอห์นนี่ไม่อนุญาตให้เธอกลับเข้าไปในบ้านของพวกเขาเพื่อเก็บของเลย”

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมเธอยังไม่หาบ้านอยู่นั้น ก็เพราะว่าเธอไม่มีเงินเลย “เธอหมดตัวแล้วจริงๆ ที่จริงเธอสามารถจะใช้เงินค่าเลี้ยงดูได้ แต่เธอก็มั่นใจในตัวเองเกินไป ดังนั้นจนกว่าเงินค่าตัวจากภาพยนตร์เรื่อง “Justice League” จะออก เธอคงต้องอาศัยอยู่กับเพื่อนๆ ไปก่อน

‘คิม คาร์เดเชียน’ กลับลำ ขอเป็นแฟนเพลง ‘เทเลอร์ สวิฟท์’

เป็นกระแสในอินเตอร์เนตเมื่อไม่นานมานี้ ต่อการที่ เทเลอร์สวิฟท์ ออกอาการไม่พอใจที่ คานเย่ เวสต์ แต่งเพลงพาดพิงถึงเธอในแง่ไม่สู้ดีนัก ก่อนที่ศรีภรรยาคนดีของเวสต์ คิม คาร์เดเชียนจะออกมาแฉว่าสวิทฟ์มีส่วนรู้เห็นในการแต่งเพลงครั้งนี้ และไม่พอใจที่นักร้องสาวทำเหมือนกับตัวเองเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ ทำให้คนบนโลกออนไลน์ต่างแบ่งพรรคแบ่งพวกเข้าข้างคิมบ้าง เทเลอร์บ้าง… แต่ล่าสุด กลายเป็นว่าสาวคิมอยู่ข้างเทเลอร์ไปซะอย่างนั้น

ล่าสุด คาร์เดเชียนให้สัมภาษณ์ถึงสวิฟท์ว่า “ฉันไม่เคยพูดจาแย่ๆ เกี่ยวกับใครต่อสาธารณชนเลย ฉันไม่รู้สึกเลยว่าฉันเคยทำอย่างนั้น… ฉันขอพูดจากใจ ฉันเป็นแฟนเพลงของเธอ ฉันชอบเพลงของเธอ”

งานนี้ทำเอาทีมคิมหงายหลังกันเป็นแถว เพราะก่อนหน้านี้ภรรยาสาวของเวสต์แสดงอาการไม่ชอบสวิทฟ์เอามากๆ จริงๆ

Quote

สนุกกับชีวิตซะ มันมีวันหมดอายุนะ

เชน มาลิค

Inter Entertainment : 21 กันยายน 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/236246

วันพุธ ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

คานเย เวสต์ ประกาศงดใช้โทรศัพท์ หวังไอเดียแล่นกว่าเดิม

ออกมาประกาศว่าจะของดใช้โทรศัพท์เป็นการชั่วคราว เนื่องจากหลังๆ มานี้ไอเดียไม่แล่นเอาเสียเลย แร็พเปอร์หนุ่มพ่อลูกอ่อน คานเย เวสต์ เลยขอบอกกับแฟนๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย เมื่อเร็วๆ นี้ว่า “ผมไม่ใช้โทรศัพท์แล้วนะผมจะได้มีพื้นที่ไว้สร้างสรรค์งาน”

เวสต์กล่าวว่า เขาเริ่มใช้โทรศัพท์ครั้งแรกเมื่อปี 2011 เมื่อเขาได้รู้ว่าสาวที่เขาปิ๊งมานานอย่าง คิม คาร์เดเชียน นั้นได้แต่งงานไปแล้วกับ คริส เฮ็มฟรีย์ โดยทั้งสองได้แต่งงานกันเมื่อเดือนสิงหาคม และแยกทางกันหลังจากนั้นแค่ 72 วัน

เวสต์ให้สัมภาษณ์อย่างติดตลกว่า “ผมมีโทรศัพท์เพราะใครบางคนดันตัดสินใจแต่งงานกับ คริส เฮ็มฟรีย์… ผมไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเลย ผมเข้าไปในอินเตอร์เนต และก็เห็น คิม คาร์เดเชียนกับใครก็ไม่รู้ที่สูงมากๆ แล้วผมก็บอกกับตัวเองว่า “ผมจะโทร.หาเธอดีไหมเนี่ย’”

อย่างไรก็ตาม เวสต์จัดได้ว่าเป็นศิลปินที่ติดทวิตเตอร์เอามากๆ คนหนึ่ง แถมยังมีภรรยาที่ชอบโพสต์อินสตาแกรมเป็นชีวิตจิตใจ แบบนี้จะอยู่ห่างจากโทรศัพท์ไปได้สักกี่น้ำก็ไม่รู้

เชียร์หรือไม่! เบน แอฟเฟล็ก รีเทิร์น เจนนิเฟอร์ โลเปซ

เชียร์หรือมั่ว ชัวร์หรือไม่ ตอนนี้ เบน แอฟเฟล็ก ก็ได้แยกทางกับ เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ มากกว่าหนึ่งปีแล้ว แต่ทั้งสองก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหย่ากัน และในขณะที่ใครต่อใครก็เชียร์ให้กลับมาคืนดีกัน ก็กลับมีอีกข่าวแทรกเข้ามาว่าแอฟเฟล็กกำลังติดต่อกับ เจนนิเฟอร์ โลเปซ อดีตคนรักเก่า ที่เพิ่งเลิกกับแฟนหนุ่มแคสเปอร์ สมาร์ท มาหมาดๆ

หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้ตีพิมพ์ข่าวที่ว่า แอฟเฟล็ก และเจโลกลับมาคุยกันอีกครั้ง ซึ่งนั่นทำให้ฝ่ายชายต้องทะเลาะกับว่าที่อดีตภรรยาอย่างการ์เนอร์ และว่ากันว่าทั้งสองอยากจะรอให้เรื่องมันซาลงกว่านี้เสียก่อนจึงจะเปิดตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหย่าร้างของแอฟเฟล็ก หรือเรื่องที่เพิ่งเลิกกับแฟนของโลเปซ

มีแหล่งข่าวให้สัมภาษณ์ว่า “ด้วยเหตุที่เจโลอยู่ดีๆ ก็โสด และเจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ เองกำลังเตรียมตัวเรื่องการหย่าร้างอย่างเป็นทางการจากเบน เบนกับเจโลเลยกำลังวุ่นอยู่กับการกลับมาติดต่อกันใหม่…พวกเขาคุยโทรศัพท์กันนานครั้งละเป็นชั่วโมงๆ ความสัมพันธ์ของพวกเขามักจะรุนแรงและเต็มไปด้วยความปรารถนา มันดูเหมือนกับว่าพวกเขากลับมาคบกันอีกครั้งแล้ว”

นอกจากนี้ ยังมีข่าวอีกด้วยว่าการกลับมาติดต่อกันในครั้งนี้เป็นความคิดของฝ่ายหญิง “หลังจากเลิกกับแคสเปอร์ (สมาร์ท) เธอก็ติดต่อไปหาเบน เธอคิดว่าเขาควรจะเป็นคนที่ใช่ และก็ถูกพูดกรอกหูว่าพวกเขาเหมาะสมกัน”

แน่นอนว่าท่ามกลางข่าวเหล่านี้ ทั้งแอฟเฟล็กและโลเปซต่างไม่ออกมาตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด

หัวใจไม่ว่างแล้ว เทเลอร์ สวิฟท์ ตั้งเป้าเดท แซค แอฟรอน

บอกแล้วว่าไม่ต้องไปเสียอกเสียใจแทนสาว เทเลอร์ สวิฟท์ที่ความรักครั้งล่าสุดของเธอไปไม่รอด เพราะเพียงแค่ชั่วเวลาไม่นาน เธอก็หาหนุ่มคนใหม่มาดามใจได้ทันที และหนุ่มคนใหม่ของเธอก็มีนามว่า แซค แอฟรอน

มีข่าวลือมาว่า แค่ไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่สวิฟท์เลิกรากับ ทอม ฮิดเดิลสตัน บรรดาเพื่อนๆ ของเธอก็รู้แล้วว่าเธอได้เป้าหมายใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เธอพูดถึงเขาแบบไม่หยุดเลยตั้งแต่เธอเลิกกับทอม…เธอมักจะพูดว่าเธอรู้สึกว่าเธอกับแซคมีอะไรที่เชื่อมโยงกันอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้เพราะทั้งคู่กำลังเดทกับคนอื่นอยู่”

ส่วนใครที่สงสัยว่าสองคนนี้ เค้าไปกิ๊กกันตอนไหน แหล่งข่าวกล่าวว่า “เทเลอร์กับแซคเค้ามักจีบๆ หยอกๆ กันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว…เธอเป็นคนติดต่อแซคไป แล้วบอกเขาว่าพวกเขาควรจะออกไปเที่ยวกันบ้าง อาจจะออกไปดินเนอร์ด้วยกัน แล้วเขาก็ตกลง พวกเขาแค่ยังไม่ได้ออกไปด้วยกันจริงๆ เพราะตารางงานยังไม่ลงตัว”

ที่จริงแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สวิฟท์มีข่าวกับแอฟรอน เมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา มีข่าวว่าทั้งสองไปเดทด้วยกันมาแล้วสองสามครั้ง ที่สำคัญ แอฟรอนน่าจะเป็นสเปกผู้ชายในฝันของสาวเทย์ เพราะเขานั้น ก็ทั้งประสบความสำเร็จ รวย และหล่อ แต่รวมๆ แล้วก็ยังไม่เท่าสวิฟท์แน่นอน

‘ปารีส แจ๊คสัน’ ท้ออยากฆ่าตัวตายหนี ไซเบอร์บูลลี่

ไม่ใช่แค่เด็กธรรมดาทั่วไปที่ตกเป็นเหยื่อของไซเบอร์บูลลี่ หรือการกลั่นแกล้งทางอินเตอร์เนต แม้แต่ ปารีส แจ๊คสัน ลูกสาววัย 18 ปี ของอดีตราชาเพลงป๊อปผู้ล่วงลับไมเคิล แจ๊คสัน ก็ถึงกับออกมาโพสต์วีดีโอทั้งน้ำตาว่าเธอถูกเกรียนคีย์บอร์ดกลั่นแกล้งจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

ปารีสกล่าวในวีดีโอว่า “ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงได้มีความเกลียดชังบนโลกใบนี้ได้มากมายขนาดนี้ ฉันพยายามจะต่อสู้เพื่อตัวเองแล้ว ฉันพยายามจะปิดกั้นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคนที่มีความเกลียดชังแล้ว พยายามไม่อ่านคอมเม้นท์ ฉันพยายามมาแล้วหลายอย่าง เพิกเฉยกับมัน แต่มันก็ยากเหลือเกิน”

แจ๊คสันต้องมีชีวิตที่ลำบากมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อเธอสูญเสียพ่อไปตั้งแต่อายุ 11 ปี เธอพยายามฆ่าตัวตายเมื่อปี 2013 และเธอก็ออกมายอมรับเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาว่าเธอมีรอยสักที่แขนเพื่อปิดบังร่องรอยการพยายามทำร้ายร่างกายตัวเองในอดีต หลังจากนั้นในเดือนมิถุนายน เธอก็ออกมาแสดงความเข้มแข็งให้คนอื่นๆ เห็น ด้วยการเขียนบันทึกว่า “พวกเราต่างก็ต้องข้ามผ่านนรกอยู่บ่อยๆ แต่มันก็ทำให้เราเป็นนักรบแห่งความรักที่พวกเราควรจะเป็น ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังมีปัญหา มันจะดีขึ้น คุณไม่ได้อยู่คนเดียว”

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าหลังจากนั้นเหตุการณ์จะเลวร้ายลงเรื่อยๆ แจ๊คสันกล่าวว่า “เมื่อฉันอายุ 14 ปี ฉันรู้สึกว่าคนอื่นๆ เกลียดฉันมากจนฉันพยายามฆ่าตัวตาย และฉันก็หยุดเล่นโซเชียลมีเดียไปเลย 2 ปีและจากนั้นผู้คนก็ขอร้องให้ฉันกลับมา เพื่อทำให้อินสตาแกรมของฉันเป็นสาธารณะอีกครั้ง ซึ่งฉันก็ทำ แล้วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ฉันเหนื่อยกับมันมาก ฉันเหนื่อยมากๆ จริงๆ และฉันก็รู้ว่าฉันไม่ได้เป็นแบบนี้คนเดียว”

หลังจากโพสต์วีดีโอได้ไม่นานแจ๊คสันก็ลบมันออก แต่ก็ยังมีคนแพร่ภาพวีดีโอดังกล่าว ซึ่งสร้างเสียงคอมเม้นท์ทั้งในแง่เห็นอกเห็นใจ และในแง่ลบ

แบรด พิตต์ จะหย่ากับ แองเจลินา โจลี หรือไม่!?!

หรือนี่จะถึงกาลอวสานของโจลี-พิตต์ เมื่อมีรายงานข่าวว่า แบรด พิตต์ ปฏิเสธที่จะใช้เวลาช่วงวันหยุดฤดูร้อนกับภรรยา แองเจลินา โจลี และลูกๆ ทั้งหกคน แต่เขากลับออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่โครเอเชียแทน

แหล่งข่าวกล่าวว่า “ทันทีที่แบรดออกจากประตูไป แองเจลินาก็ร้องไห้อย่างหนัก เธอรู้สึกจริงๆ ว่าเธอสูญเสียแบรดไปอีกครั้ง…การแต่งงานของพวกเขาล้มเหลว และแบรดกับแองเจลีนาก็มีการหย่าร้างมูลค่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐรออยู่ข้างหน้า”

หากใครสงสัยว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ นี่รวมถึงอะไรบ้าง อันดับแรกคฤหาสน์ชาโตว์ มิราวัลของพวกเขาหลังเดียวก็มีมูลค่ามหาศาลราว 60 ล้านเหรียญสหรัฐเข้าไปแล้ว ไหนจะบ้านหลังอื่นๆ และธุรกิจอีกมากมาย โดยคาดการณ์ว่าหากมีการหย่าร้างเกิดขึ้นจริงๆ พิตต์ก็คงพยายามที่จะขายมัน เพราะเขาทุ่มเทอย่างมากในการฟื้นฟูมันขึ้นมาตลอดระยะเวลา 8 ปี

มีข่าวว่าหลังๆ มานี้ พิตต์และโจลีทะเลาะกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ โดยย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ก็เคยตีพิมพ์ข่าวว่าทั้งสองกำลังจะหย่าร้างกันมาแล้ว “แองจี้พร้อมแล้วที่จะหย่ากับแบรด…เธอทนมามากพอแล้วกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของตัวเองและเธออยากจะเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นบ้าง” แหล่งข่าวกล่าว

ว่ากันว่า โจลีเคยเข้าพบกับทนายเพื่อเตรียมพร้อมเรื่องหย่าแล้ว ซึ่งทำให้พิตต์กลัวมากจนต้องกระโดดขึ้นเครื่องบินมาที่ลาสเวกัส เพื่อป้องกันตัวเอง แหล่งข่าวกล่าวว่า “เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่เขาก็จะเข้าพบกับทนายเพื่อปรึกษาเรื่องทางเลือกของตัวเอง ในเรื่องสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร และปกป้องทรัพย์สินของตัวเอง…การหย่าร้างครั้งนี้ดูท่าจะออกมาไม่สวย”

อย่างไรก็ตาม ดูท่าทางโจลีจะควบคุมความเจ็บปวดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเธอกำลังมุ่งทำงานเพื่อที่จะช่วยเหลือ ผู้ลี้ภัยชาวเซอเรียในฐานะทูตพิเศษของยูเอ็น

Quote

‘ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน’ อาจจะฟังดูมีเสน่ห์ แต่มันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือการที่คุณเป็นพลังนั้น สำหรับตัวคุณเอง และบางทีอาจจะสำหรับผู้อื่นด้วย

แฮร์ริสัน ฟอร์ด

Inter Entertainment : 14 กันยายน 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/235104

วันพุธ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

เทเลอร์ สวิฟท์ ประกาศเป็นฝ่ายทิ้ง ทอม ฮิดเดิลสตัน

กลายเป็นกระแสล้อเลียนไปต่างๆ นานาว่าในที่สุดแล้วความรักของนักร้องสาว เทเลอร์ สวิฟท์ กับพระเอกหนุ่ม ทอม ฮิดเดิลสตัน ก็ไปไม่รอด ซึ่งอันนี้ไม่ได้เป็นที่น่าแปลกใจของผู้ที่ติดตามข่าวนี้แต่อย่างใด สิ่งที่น่าสนใจคือสรุปว่าใครเป็นฝ่ายขอเลิกมากกว่า

ด้านแหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกับพระเอกหนุ่มก็ออกมาเปิดเผยว่าฮิดเดิลสตันเป็นผู้ที่ขอเลิกกับนักร้องสาว เพราะรู้สึกว่าถูกฝ่ายหญิงชักจูงมากเกินไป และไม่อยากจะมีความสัมพันธ์แบบนี้อีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อนของนักร้องสาวกลับออกมาบอกว่า
สวิฟท์ต่างหากที่เป็นฝ่ายอยากยุติความสัมพันธ์ในครั้งนี้

ความสัมพันธ์ของสวิฟท์และฮิดเดิลสตันนั้นเรียกได้ว่าออกตัวแรงมาตั้งแต่ต้น ทำให้ทั้งสองแทบจะไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยไม่ว่าจะทำอะไรด้วยกัน นอกจากนี้ การที่พระเอกหนุ่มต้องเดินทางไปที่ออสเตรเลียเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ ก็ทำให้สวิฟท์ถึงกับออกปากว่ารักทางไกลนั้นมันยากสำหรับเธอ และว่ากันว่ามีส่วนทำให้ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรงเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

นอกจากการไม่มีเวลาให้กันแล้ว มีข่าวว่านักร้องสาวอยากจะเดินทางไปเที่ยวไกลๆ เพื่อให้พ้นหูพ้นตาเหล่าปาปาราซซี่
แต่พระเอกหนุ่มกลับเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แหล่งข่าวด้านนักร้องสาวกล่าวว่า “ทอมอยากให้เรื่องความสัมพันธ์ในครั้งนี้เปิดเผยต่อสาธารณชนมากกว่าที่สวิฟท์จะรู้สึกโอเคกับมัน…เธอเลยเป็นคนพูดเรื่องเลิกราขึ้นมา พวกเขาเข้ากันได้ดี และยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่พวกเขามองไม่เห็นว่าความสัมพันธ์ในครั้งนี้จะเป็นไปในทางโรแมนติกได้ในตอนนี้”

สำหรับใครที่เป็นห่วงว่านักร้องสาวจะเจ็บหนักจากอาการอกหักติดๆ กันในระยะเวลาไม่นาน เพื่อนของนักร้องสาวก็บอกว่าเธอกำลังจัดการกับอาการปวดใจอยู่ แต่ทุกอย่างยังไปได้สวย โดยสวิฟท์ใช้เวลาไปกับการออกกำลังกาย และเตรียมผลงานเพลงใหม่ จะหนักใจอยู่บ้างก็คงเป็นที่ทั่วโลกจับตามองความสัมพันธ์ในครั้งนี้เสียเหลือเกิน และมันก็สิ้นสุดลงในเวลาไม่นาน อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายก็ต่างเชียร์ให้คู่นี้มาคืนดีกัน โดยเฉพาะเมื่อพระเอกหนุ่มเสร็จสิ้นจากการถ่ายภาพยนตร์แล้ว

เกว็น สเตฟานี ปิดปากสนิทเมื่อถูกถามถึงเรื่องแต่งงาน

เวลาผ่านไปไวเหลือเกิน แป๊บๆ เกว็น สเตฟานี ก็หย่าร้างกับอดีตสามี เกวิน รอสส์เดล มาครบ 1 ปีแล้ว และตอนนี้ทุกคนก็กำลังจับตามองรักครั้งใหม่ของเธอกับนักร้องหนุ่ม เบลค เชลตันที่กำลังไปได้สวย

นักร้องสาวให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตของเธอ และการทัวร์คอนเสิร์ตในปีที่ผ่านมาว่า “ฉันมองย้อนกลับไปในปีนี้ แล้วก็คิดว่าฉันรู้สึกตื่นตัวมาก…ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวา และรู้สึกขอบคุณคนอื่นๆ และบอกได้เลยว่า สองสามวันสุดท้ายหลังจากทัวร์คอนเสิร์ต ที่ฉันมาระลึกได้ว่ามันกำลังจะจบลง ฉันรู้สึกเศร้ามาก เพราะว่าปีนี้มันเต็มไปด้วยความสนุก ความรู้สึกขอบคุณ และความคิดสร้างสรรค์ที่มาพร้อมกันหมด”

และเมื่อถูกถามถึงเรื่องความรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคืบหน้าในความสัมพันธ์กับเชลตันว่ามีโอกาสจะต่อยอดไปถึงขั้นแต่งงานไหม นักร้องสาวถึงกับหน้าแดงและตอบว่า “ฉันไม่รู้หรอก พระเจ้า ฉันไม่รู้ ทุกอย่างมันผ่านไปเร็วมาก ฉันกำลังอยู่ในช่วงเวลา แล้วก็…ดูสิ ฉันต้องปิดปากแล้วล่ะ”

อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ว่าสเตฟานีและเชลตันกำลังวางแผนที่จะแต่งงานกัน แม้ว่าจะยังไม่มีการกำหนดวัน แต่ข่าวบอกว่าทั้งสองดูมีความสุข และสนุกสนานในการวางแผนแต่งงานครั้งนี้ ทั้งนี้ยังไม่มีข่าวว่าฝ่ายชายได้ขอฝ่ายหญิงแต่งงานแล้วแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสเตฟานีกำลังยุ่งอยู่กับการทัวร์คอนเสิร์ตของเธออยู่นั่นเอง

ลือสนั่น สก็อตต์ ดีซิค แย่ง โซเฟีย ริชี่ แก้แค้น จัสติน บีเบอร์

เป็นอีกหนึ่งคู่เซเลบฯคนดังที่ไม่ถูกกันด้วยเรื่องที่อาจจะเรียกได้ว่าแปลกที่สุดเท่าที่เราจะเคยได้ยินมาสำหรับ จัสติน บีเบอร์ และ สก็อตต์ ดีซิค ที่เหม็นขี้หน้ากันเนื่องจากนักร้องหนุ่มเคยถูกหาว่ามีความสัมพันธ์กับ คอร์ทนีย์ คาร์เดเชียนที่เคยคบหากับดีซิคมานาน และแถมยังเป็นมารดาของลูกทั้งสามของเขา

ที่จริงแล้ว สก็อตต์กับคอร์ทนีย์นั้นได้เลิกรากันมาหลายเดือนก่อนหน้าที่เธอจะเป็นข่าวกับจัสติน แต่ว่ากันว่านั่นก็ยังถือเป็นการหยามหน้าสก็อตต์อยู่

ตอนนี้ บีเบอร์กำลังออกเดทกับนางแบบสาว โซเฟีย ริชี่ ซึ่งทั้งสองอาจจะยังห่างไกลคำว่าแฟนอยู่มาก เนื่องจากฝ่ายชายมักไม่ค่อยคบใครนาน แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้พบเห็นโซเฟียกับสก็อตต์อยู่ด้วยกันที่ผับแห่งหนึ่งในแอล.เอ.อย่างใกล้ชิดสนิทสนม แบบที่ไม่มีบีเบอร์ปรากฏอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย

งานนี้ยังไม่มีใครรู้ตื้นลึกหนาบางว่าทั้งโซเฟียและสก็อตต์บังเอิญเจอกันที่นั่นหรือว่าไปด้วยกัน และเป็นไปได้มากว่าทั้งสองอาจจะไม่ได้มีอะไรกันเป็นพิเศษ เนื่องด้วยวัยของโซเฟียนั้นก็เพียงแค่ 18 ต่างจากสก็อตต์ที่อายุราว 33 ปีแล้ว แต่การที่บีเบอร์
ไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ข้างๆ นางแบบสาวก็ทำเอาคนคิดกันไปได้ไกลเลยทีเดียว

แคสเปอร์ สมาร์ท ส่งดอกไม้ ตื๊อ 

เจนนิเฟอร์ โลเปซ แบบเก็บเงินปลายทาง

ใครรู้ข่าวก็คงจะบอกได้ทันทีว่าคู่นี้สิ้นหวังแล้วแน่ๆ เมื่อ แคสเปอร์ สมาร์ท อยากขอสานสัมพันธ์ต่อกับอดีตคู่รักเจนนิเฟอร์ โลเปซ ด้วยการส่งดอกกุหลาบสีชมพูจำนวน2 โหล สนนราคา 525 เหรียญสหรัฐ แต่ดันส่งให้โลเปซพร้อมกับบิลเรียกเก็บเงินเสียได้

หลายคนอาจจะคิดว่าเกิดการผิดพลาดอะไรหรือเปล่า ทางร้านอาจจะเข้าใจผิด หรือเกิดความผิดพลาดในการเรียกเก็บเงินค่าบริการ แต่กลายเป็นว่าสมาร์ทตั้งใจที่จะจ่ายเงินด้วยบัญชีของอตีตแฟนสาว เพราะหลังจากนั้นหลายชั่วโมงผู้จัดการของเจโลก็ได้โทร.หาแดนเซอร์หนุ่ม พร้อมกับต่อว่าที่เขาใช้บัญชีส่วนตัวของเจโลในการจ่ายค่าดอกไม้

โลเปซและสมาร์ทเลิกรากันเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลอายุที่ต่างกันจนเกินไปทำให้ทั้งสองเข้ากันไม่ได้ แหล่งข่าวกล่าวว่า “เจนนิเฟอร์และแคสเปอร์เลิกกันแล้ว พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันมาสองสามอาทิตย์แล้ว ไม่มีเรื่องอะไรใหญ่โต และพวกเขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีกันอยู่ มันก็แค่การเลิกรากันโดยธรรมชาติ พวกเขาจะยังเป็นเพื่อนกัน และยังคงเจอกัน แต่แค่พวกเขาไม่ได้คบกันแล้ว มันเป็นการเลิกรากันที่เป็นมิตร”

อย่างไรก็ตาม มีข่าวเม้าท์ขุดคุ้ยเรื่องราวไม่น่าชมของการเลิกราในครั้งนี้ออกมาว่าแคสเปอร์ไม่ยอมย้ายออกจากบ้านของฝ่ายหญิง และขู่จะแจ้งความหากโลเปซเปลี่ยนล็อกประตูบ้าน เนื่องจากเขารับไม่ได้ที่ต้องเลิกกับนักร้องสาว หรืออีกนับหนึ่งคือ…รับไม่ได้ที่จะไม่มีเงินใช้อย่างคล่องมือแล้ว เพราะการคบหากับโลเปซนั้นนำมาซึ่งความสะดวกสบายอย่างเครื่องบินส่วนตัว ทริป
สุดหรูและปาร์ตี้สุดเจ๋ง จนทำให้ฝ่ายหญิงต้องหวนคิดว่าแคสเปอร์รักเธอ หรือรักไลฟ์สไตล์ที่อยู่กับเธอกันแน่

‘เบน แอฟเฟล็ก’ ถูกจับได้

หลังสานสัมพันธ์รักเก่า ‘เจนนิเฟอร์ โลเปซ’

แม้ว่าจะแยกทางกันมานาน และไม่ได้หย่าร้างกันเสียที จนใครต่อใครต่างพากันลุ้นว่า เบน แอฟเฟล็ก อาจกลับไปคืนดีกับ เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์และสร้างสัมพันธ์รักครอบครัวอันแสนอบอุ่นได้อีกครั้ง แต่กลับกลายเป็นว่ามีตัวแปรใหม่ชื่อ เจนนิเฟอร์ โลเปซ เข้ามาในสมการรักของทั้งสอง

แอฟเฟล็กและโลเปซเคยคบหากันถึงขั้นหมั้นหมายมาตั้งแต่ปี 2002-2004 และเพิ่งจะเมื่อปีที่แล้วที่มีข่าวว่าทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนิทสนมในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของออสการ์ทำให้โลเปซตกเป็นขี้ปากชาวบ้านว่ามีส่วนทำให้ครอบครัวของแอฟเฟล็กต้องพังพินาศ

 

ตอนนี้ เจโลเองก็หัวใจยังว่าง หลังจากเลิกรากับ แคสเปอร์สมาร์ท ทำให้มีข่าวว่าเธอกลับมาติดต่อกับคนรักเก่าอย่างแอฟเฟล็กอีกครั้ง มีข่าวลือว่าการ์เนอร์จับได้ว่าเบนส่งข้อความหาเจโล ตอนที่ทั้งสองฉลองวันเกิดกันที่มอนทานา ทำให้หลังจากที่เธอหัวใจพองโตกับข่าวที่ใครต่อใครลุ้นว่าครอบครัวของเธอจะกลับมาคืนดีกันได้อีกครั้ง การ์เนอร์กำลังตั้งข้อสงสัยว่าเธอกับเบนอาจจะต้องหย่าร้างกันจริงๆ ในเร็วๆ นี้

Qaote : ฉันรู้สึกว่าเด็กผู้หญิงมักถูกบอกว่าพวกเขาต้องเป็นเจ้าหญิง เป็นคนที่ละเอียดอ่อน และเปราะบาง นั่นไร้สาระสิ้นดี ฉันชอบความคิดที่ว่าเราต้องเป็นนักรบมากกว่า

Inter Entertainment : 7 กันยายน 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/233985

วันพุธ ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

คริส บราวน์ ปฏิเสธ ไม่ได้เอาปืนจ่อหัว เบย์ลี เคอร์แรน

กลายเป็นข่าวอื้อฉาวเมื่ออาทิตย์ก่อน เมื่อดาราสาวโนเนมนามว่า เบย์ลี เคอร์แรน โทรศัพท์แจ้งความโดยอ้างว่าเธอถูกแร็พเปอร์หนุ่ม คริส บราวน์

ข่มขู่ด้วยอาวุธปืน เมื่อเธออยู่ในงานปาร์ตี้ที่บ้านของนักร้องหนุ่ม ทำให้บราวน์โดนจับกุมตัวไว้ก่อนจะประกันตัวเองออกไปด้วยเงิน 250,000 เหรียญสหรัฐ

เคอร์แรนให้การว่าเธอมางานปาร์ตี้ของบราวน์ ก่อนจะเข้าไปในบ้าน และชื่นชมกับสร้อยเพชรเม็ดงาม แล้วอยู่ๆ เธอก็ถูกแร็พเปอร์หนุ่มเอาปืนจ่อ พร้อมตะโกนไล่ให้เธอออกจากบ้านของเขาไป ซึ่งเธอก็ทำตาม ก่อนจะโทร.แจ้งความ และเมื่อตำรวจเดินทางมาถึงก็พบว่านักร้องหนุ่มปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาสอบสวนในบ้าน แถมยังมีผู้ให้การว่าเห็นถุงที่เต็มไปด้วยปืนและยาเสพติดถูกโยนลงมาจากหน้าต่างขณะที่บราวน์ยังอยู่ในบ้านอีกด้วย เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงประวัติของนักร้องหนุ่มแล้ว เจ้าหน้าที่จึงออกหมายจับทันที นักร้องหนุ่มถูกตั้งข้อหาข่มขู่และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง

หลังจากถูกประกันตัวออกมาแล้ว บราวน์ก็ปฏิเสธเสียงแข็งโดยกล่าวว่า เขาไม่ได้เอาปืนจี้หัวเคอร์แรนตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด

ด้านเคอร์แรนก็ออกมาสาบานว่าเธอถูกข่มขู่จริงๆ และทำเอาเธอกลัวแทบตาย “ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงกลายมาเป็นเหยื่อ…เห็นๆ กันอยู่ว่าเขามีคนให้การสนับสนุนเยอะแยะ ทั้งแฟนๆ ที่คอยช่วยเหลือเขา ฉันมันก็แค่ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ที่อยากจะเป็นที่สนใจ…ถึงแม้ว่าฉันอยากจะให้คนมาสนใจในชื่อเสียงของฉัน ฉันก็จะไม่ทำมันแบบนี้หรอก” ดาราสาวยืนยัน

ลือสนั่น!! เซลีนา โกเมซ อ้าง โรคลูปัสทำชีวิตเละเทะ

กำลังป่วยด้วยโรคลูปัส หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง ทำให้ เซลีนา โกเมซ ต้องพักรักษาตัวอยู่บ่อยๆ และหลายๆ คนก็ชื่นชม และให้กำลังใจเธอในการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ แต่แล้วกลับมีข่าวว่าเธอกำลังใช้โรคนี้เป็นข้ออ้างทำตัวให้น่าสงสาร

แหล่งข่าวกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องเลวร้ายที่เธอเป็นโรคลูปัส แต่เธอก็ใช้มันเป็นข้ออ้างกับทุกๆ สิ่งเลยในระยะหลังๆ…ความจริงก็คือตอนนี้เธอเละเทะมาก…เธอรู้สึกโดดเดี่ยวมากๆ เลยหลังๆ มานี่”

ใครๆ ก็รู้ว่าโกเมซกำลังรักษาตัวด้วยโรคลูปัส แต่โรคนี้มันทำให้เธอเละเทะอย่างที่แหล่งข่าวกล่าวหรือไม่นั้น ก็ยังไม่มีผู้ออกมายืนยันแต่อย่างใด และเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โกเมซเองก็เพิ่งจะสูญเสียเพื่อนสนิทอย่าง คริสตินา กริมมี จากเหตุการณ์การฆาตกรรม ซึ่งนั่นทำให้เธอเสียศูนย์ไปเลยทีเดียว นอกจากนี้ มีข่าวว่ามันยังทำให้เธอหันมาติดยาที่เธอใช้บ่อยๆ ในระยะหลังอีกด้วย และทำให้เธอถูกส่งตัวไปบำบัด แหล่งข่าวกล่าวว่า “ทุกคนที่ใกล้ชิดเธอต่างก็กังวล เพราะกลัวเธอจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีก”

เมื่ออาทิตย์ก่อน มีการประกาศว่าโกเมซขอหยุดงานเนื่องมาจากอาการวิตกกังวล และตื่นกลัว โดยอ้างว่าเป็นผลมาจากโรคลูปัส โกเมซกล่าวว่า “อย่างที่หลายๆ คนรู้อยู่แล้ว เมื่อหนึ่งปีก่อน ฉันได้บอกทุกคนว่าฉันป่วยเป็นโรคลูปัส และโรคนี้ก็ส่งผลกระทบต่อคนเราได้ในหลายๆ
รูปแบบ…ฉันพบว่าความวิตกกังวล ความตื่นกลัว และความหดหู่มันเป็นผลข้างเคียงมาจากโรคลูปัส ซึ่งอาจส่งผลออกมาได้”

อย่างไรก็ตาม นักร้องสาวก็ออกมายืนยันว่า การตัดสินใจพักงานเอาไว้ก่อนเป็นผลมาจากการเจ็บป่วย ไม่ได้เป็นเพราะว่าเธอติดยาแต่อย่างใด

เดรก หวานเปิดเผยใส่ ริฮานนา กลายเป็นคู่รักสุดหวานแหวว

ของวงการไปแล้วสำหรับ ริฮานนา และ เดรก ที่ตอนนี้โลกของทั้งคู่ต่างเป็นสีชมพู เมื่อฝ่ายชายออกมาพูดถึงความรักที่มีให้กับฝ่ายหญิงซะหวานหยดในงานประกาศรางวัลเอ็มทีวี วีดีโอ มิวสิค อวอร์ดส์

ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าทั้งสองจะกลับมาคืนดีกัน หลังจากเป็นคู่จิ้นกันมานาน แต่แล้วก็ไม่มีใครปริปากคอนเฟิร์มข่าวดังกล่าว

เดรกพูดถึงริฮานนาในงานเอ็มทีวีว่า “เธอเป็นผู้หญิงที่ผมตกหลุมรักมาตั้งแต่อายุ 22 ปี เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่งของผม ตลอดชีวิตการเป็นผู้ใหญ่ ผมเคารพชื่นชมเธอแม้ว่าเธอจะอายุน้อยกว่าผม…”

งานนี้ ริฮานนาใช้อินสตาแกรมของเธอกล่าวตอบคำพูดของเดรกว่า “สุนทรพจน์ของคุณช่างกินใจและฉันรักคุณที่คุณเป็นอย่างนั้น ทั้งหมดทั้งปวง มันเป็นคืนที่ดีที่สุดเลย ฉันเป็นผู้หญิงที่โชคดี แด่พระเจ้าที่เป็นดั่งความรุ่งโรจน์”

นิค ลาเชย์ เฮลั่น ภรรยาท้องลูกคนที่สาม

เรียกได้ว่าตั้งแต่ นิค ลาเชย์ และภรรยาสาว วาเนสซา ลาเชย์ ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่ บรรยากาศของครอบครัวก็อบอุ่นมีความสุขแบบสุดๆ คนตอนนี้ภรรยาคนสวยตั้งท้องลูกคนที่สามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นักร้องหนุ่มโพสต์ภาพครอบครัวลงบนโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นการต้อนรับว่าที่สมาชิกคนที่ห้าของครอบครัว พร้อมข้อความบรรยายว่า “เราได้บ้านใหม่ ตอนนี้เราต้องการเปลใหม่ สมาชิกลาเชย์คนล่าสุดกำลังจะมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2017”

นิคและวาเนสซาแต่งงานกันเมื่อปี 2011 หลายปีหลังจากที่เขาหย่าร้างกับ เจสสิกา ซิมพ์สัน และเลิกรากับ คิม คาร์เดเชียน โดยเขาและภรรยาสาวมีลูกชายวัยสามขวบด้วยกันนามว่าแคมเดน และลูกสาววัย 8 เดือนนามว่าบรูคลิน

แม้ว่าทั้งสองจะเพิ่งต้อนรับสมาชิกใหม่ไปได้ไม่ถึงปี แต่วาเนสซาก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าเธออยากจะมีลูกคนที่สามแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เธอกล่าวว่า “ลูกคนที่สองก็แตกต่างในลักษณะที่ว่ามันไม่เคยหยุด แต่ฉันชอบนะ มันทำให้ฉันยุ่ง และวุ่นวายมาก แต่ มันก็เป็นสิ่งที่ฉันต้องการ และมันก็เป็นอะไรที่ฉันรู้ตอนนี้ และเหนือสิ่งอื่นใด ฉันมีสามีที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมมากๆ เลย…หากเราจะได้รับพรด้วยลูกคนที่สาม มันจะต้องเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากแน่ๆ ถ้ามันจะเกิด มันก็ต้องเกิด”

งานนี้คุณพ่อลูกดกไม่ต้องกลัวบ้านจะเล็กเกินไปสำหรับสมาชิกครอบครัวทั้งห้าคน เพราะคฤหาสน์ที่นักร้องหนุ่มเพิ่งจ่ายเงินราว 4.15 ล้านเหรียญสหรัฐไปนั้น มีถึง 7 ห้องนอน 10 ห้องน้ำ เลยทีเดียว

‘บลู ไอวี’ ถูกเกรียนคีย์บอร์ดวิจารณ์ขี้เหร่

พาลูกสาวออกงานเอ็มทีวี วีดีโอ มิวสิก อวอร์ดส์แถมยังเลือกชุดที่คล้ายๆ กัน ใครๆ ต่างก็ชื่นชมในความน่ารักของคุณแม่บียอนเซ่ กับหนูน้อย บลู ไอวี่คาร์เตอร์ แต่ก็ดันมีเกรียนคีย์บอร์ดที่วิจารณ์รูปร่างหน้าตาของเด็กน้อยวัย 4 ขวบ คนนี้ได้อย่างใจร้ายที่สุด

ภาพของบลู ไอวี่ ถูกเกรียนบางคนวิจารณ์อย่างเสียๆ หายๆ ว่าเป็นเด็กที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมา และเท่าที่เห็นนั้น คำวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบมักจะมาจากผู้ที่ใช้ชื่อล็อกอินเป็นผู้หญิงทั้งสิ้น

งานนี้บีิยอนเซ่และเจซีย์ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่ในโลกโซเชียลก็ได้มีการพูดถึง และประณามผู้ที่แสดงความคิดเห็นอันไม่เหมาะสมนี้ พร้อมทั้งกล่าวให้กำลังใจบียอนเซ่และลูกสาวอย่างล้นหลาม

‘พาเมลา แอนเดอร์สัน’ ออกมาต่อต้านหนังโป๊

หากจะบอกว่าดาราสาวทรงโต พาเมลา แอนเดอร์สัน ออกมาประณามบรรดาสื่อลามกอนาจาร ก็คงเหมือนกับการที่จัสติน บีเบอร์ ประณามการเปลือยอก

หรือ คริส บราวน์ ประณามการใช้ความรุนแรงต่อสตรีเพศนั่นเอง…ต่างกันตรงที่ แอนเดอร์สันออกมาต่อต้านสื่อลามกจริงๆ

ดาราสาววัย 49 ปีคนนี้ที่ปกติเราจะเห็นเธออวดเนื้อหนังมังสาอยู่บนนิตยสารแนวเซ็กซี่อย่างเพลย์บอย มาคราวนี้เธอขอแสดงความคิดเห็นของเธอร่วมกับ แรบบี้ ชมูเลย์ โบทีช ผ่านทางวอลล์ สตรีทเจอร์นัล เพื่อเตือนเกี่ยวกับอันตรายในการเสพติดสื่อลามกอนาจารต่างๆ

ในงานเขียน ทั้งแอนเดอร์สันและโบทีชกล่าวว่า “หนังโป๊นั้นสร้างความเสื่อมเสียให้กับจิตวิญญาณของผู้ชาย และต่อความสามารถของเขาในการที่จะเป็นสามี และยิ่งไปกว่านั้น การเป็นบิดา… นี่คืออันตรายของสาธารณชน ต่อความร้ายแรงอันเป็นประวัติการณ์ เมื่อมองถึงว่าทุกวันนี้ สื่อลามกนั้นถูกเผยแพร่ และเข้าถึงอย่างอิสระ และไม่ต้องเปิดเผยตัวได้ง่ายเพียงใด…”

บทความนี้สร้างความสนใจให้เกิดขึ้นในวงกว้าง เพราะแอนเดอร์สันเองก็เคยทำเทปโป๊ในปี 1995 กับอดีตสามี ทอมมี ลี แถมเธอเองยังเคยเปลือยอกขึ้นปกนิตยสารเพลย์บอยมาแล้วถึง 14 ครั้ง และครั้งล่าสุดก็เพิ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง

Quote

ไม่ว่าคุณจะมาจากที่ไหน ความฝันของคุณเป็นสิ่งที่เป็นไปได้เสมอ

ลูพิตา ยองโก

Inter Entertainment : 31 สิงหาคม 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/232926

วันพุธ ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ควง เดอะ ร็อก คว้าอันดับดารารายได้สูงสุดของโลก

ยังคงติดอันดับหนึ่งของนักแสดงหญิงที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลกมาเป็นปีที่สองสำหรับดาราสาวมากความสามารถ เจนนิเฟอร์ลอว์เรนซ์ ที่ทำรายได้รวม (ก่อนหักภาษี) ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558-มิถุนายน2559 เป็นจำนวนรวมสูงถึง 46 ล้านเหรียญสหรัฐ

ปีก่อน เราได้เห็นบทบาทของลอว์เรนซ์ในภาพยนตร์ภาคสุดท้ายอย่าง “The Hunger Games : Mockingjay- Part 2” แถมเธอยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงจากภาพยนตร์เรื่อง “Joy” และตามมาด้วยบทซูเปอร์ฮีโร่จาก “X-Men: Apocalypse”

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ารายได้ของเธอจะลดลงไปหน่อยหนึ่ง จากปีที่แล้วที่เธอทำเงินได้ราว 52 ล้านเหรียญสหรัฐ และนอกจากนี้รายได้ของเธอก็ยังน้อยกว่านักแสดงชายที่ทำเงินได้สูงสุดของปีนี้อย่าง เดอะ ร็อกดเวนย์ จอห์นสัน ที่ทำเงินได้สูงถึง 64.5 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งที่ปีก่อนนั้นเดอะ ร็อก ไม่ติดหนึ่งในสิบด้วยซ้ำ

สำหรับอันดับสองฝ่ายหญิงนั้นตกเป็นของดาราตลก เมลิสซา แมคคาร์ธีย์ ที่ทำรายได้ราว 33 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับสามคือดาราสาวสุดเซ็กซี่ สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน กับรายได้ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับสี่คือ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน กับรายได้ 21 ล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับห้าได้แก่ ฟาน ปิงปิง กับรายได้ 17 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับดาราชายนั้น แจ็กกี้ ชาน หรือเฉินหลง คว้าอันดับสองด้วยรายได้ 61 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับสาม คือ แมทเดมอน กับรายได้ 55 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับสี่ ทอม ครูซ กับรายได้ 53ล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับห้าต้องขอแสดงความยินดีกับ จอห์นนี่ เด็ปป์ ที่แม้จะไม่ลัคกี้อินเลิฟ แต่เรื่องงานยังมาแรงกับรายได้ 48 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

เกาเหลา คานยี เวสต์ ทำ เทเลอร์ สวิฟท์ ไม่เข้าร่วมงานเอ็มทีวี

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เทเลอร์ สวิฟท์มักจะดูโดดเด่นในงานประกาศรางวัลทางด้านดนตรีต่างๆ รวมถึงงานเอ็มทีวีมิวสิก วีดีโอ อวอร์ดส์เมื่อปีที่แล้ว ที่ทุกคนเห็นว่าเธอเป็นนักดนตรีที่มีพรสวรรค์ และมีคนรักมากขนาดไหน วันนั้นเธอกวาดรางวัลกลับบ้านมากมาย ท่ามกลางความชื่นชมของใครหลายๆ คน

แน่นอนว่าหนึ่งปีถัดมา สิ่งที่คนอื่นๆ จำได้กลับกลายเป็นความบาดหมางระหว่างสวิฟท์กับ คานยี เวสต์ เรื่องที่นักร้องสาวทำตัวให้ดูน่าสงสาร ที่เนื้อเพลงของเวสต์มีการกล่าวพาดพิงถึงเธอ แต่แล้ว คิม คาร์เดเชียน ภรรยาของเวสต์กลับออกมาบอกว่าเรื่องทุกอย่างสวิฟท์รู้ดีอยู่แล้ว และเรียกนักร้องสาวว่าเป็นจอมโกหก จึงกลายเป็นว่าสวิฟท์มีเรื่องบาดหมางกับคนอื่นไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็น เคที แพร์รี่ หรืออดีตคนรักอย่าง เคลวิน แฮร์ริส ซึ่งทำให้สวิฟท์กลายเป็นคนแย่ๆ ในสายตาคนอื่น

เหตุผลอย่างเป็นทางการที่สวิฟท์จะไม่เข้าร่วมงานประกาศรางวัลของเอ็มทีวีในครั้งนี้ก็เพราะเธอไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอะไรเลย แต่หลายๆ คนก็เชื่อว่าที่จริงแล้วนักร้องสาวอยากจะอยู่บ้านมากกว่า นัยว่าไม่อยากจะเจอกับเหล่าศัตรูคู่อาฆาตที่นับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง

เบลลา ธรอน’ ประกาศตัวเป็นไบเซ็กซ์ชวล

ตั้งแต่ คริสเต็น สจ๊วต ออกมาเปิดเผยตัวเองว่ากำลังคบอยู่กับผู้หญิงก็ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นกำลังใจให้กับกลุ่มรักร่วมเพศที่กล้าเปิดเผยตัวมากขึ้น รวมถึงดาราสาว เบลลา ธรอน ที่เปิดเผยกับแฟนๆ อย่างสบายๆ ว่าเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไบเซ็กซ์ชวล

ธรอนเป็นดาราสาวที่มีผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียอยู่เป็นจำนวนมาก และเธอก็มักจะตกเป็นเป้าของข่าวกอสซิบอยู่เสมอ ทำให้ข่าวการเป็นไบเซ็กซ์ชวลของเธอถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว และตามมาด้วยข่าวลือต่างๆ นานามากมาย

ข่าวแรกคือข่าวลือที่ว่าธรอนกำลังเดทกับแฟนเก่าของพี่ชาย ที่ชื่อเบลลาเหมือนกัน ซึ่งข่าวนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเค้าความจริง เนื่องจากภาพของเบลลากำลังจูบปากกับผู้หญิงคนนั้นถูกเผยแพร่ออกไปว่อนเนต

ข่าวต่อมาคือว่ากันว่าเหตุผลหลักที่ธรอนออกมาเปิดเผยตัวในครั้งนี้ เป็นผลมาจากที่ คริสเต็น สจ๊วต กล้ายอมรับกับคนอื่นๆ ว่า เธอเป็นพวกรักร่วมเพศ แหล่งข่าวกล่าวว่า “เบลลาได้รับแรงบันดาลใจจากคนวัยเดียวกันอย่างคริสเต็น ที่ออกมาพูดถึงรสนิยมทางเพศของตัวเอง…ขณะที่เธอไม่ได้รู้จักคริสเต็นเป็นการส่วนตัว เบลลาก็ชื่นชมความกล้าหาญของเธอ และวิธีที่เธอจัดการกับความสอดรู้ของสื่อมวลชนที่มีต่อชีวิตส่วนตัวของเธอ…ก็เหมือนกับคริสเต็น เบลลาเองก็รู้สึกว่าเราอยู่ในวัยและอายุในตอนนี้ ที่เรื่องที่ว่าเราคบกับใครนั้นมันไม่เกี่ยวกับอาชีพของเราเลย”

ลือสนั่น ‘ไมลีย์ ไซรัส’ เลิกยา เตรียมเข้าหอกับ ‘เลียม เฮ็มส์เวิร์ธ’

ตั้งแต่กลับมาคบกันอีกครั้ง ดูเหมือนว่าชีวิตรักของ ไมลีย์ ไซรัส และ เลียม เฮ็มส์เวิร์ธ จะไปได้สวย และเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนไซรัสไม่มีข่าวบ้าๆ บอๆ ออกมาถี่เหมือนแต่ก่อน แถมตอนนี้ข่าวล่าสุดของเธอคงเป็นข่าวลือที่ว่าทั้งสองกำลังเตรียมงานแต่งงานกันอยู่

แม้ว่าข่าวลือดังกล่าวจะยังไม่มีฝ่ายใดออกมายืนยัน แต่การที่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ออกมาปฏิเสธหรือพูดอะไรเลยก็น่าจะเป็นสัญญาณอันดี ว่าทั้งสองกำลังอยู่ในช่วงที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยกัน

นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าทางเฮ็มส์เวิร์ธจะขอให้แฟนสาวเลิกปาร์ตี้ เลิกเล่นยา เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองจริงจังมากขึ้น และท่าทางไซรัสก็จะเห็นดีด้วย แหล่งข่าวกล่าวว่า “ไมลีย์เปลี่ยนเป็นคนละคน และดูเหมือนว่าเธอจะชอบมันด้วย”

แน่นอนว่าเพื่อนๆ บางคนของนักร้องสาวออกจะไม่พอใจในความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ หลายคนกล่าวว่า ดูเหมือนว่าไซรัสจะพยายามทำให้เลียมพอใจเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลับมาเป็นผู้เป็นคน ไซรัสก็มีงานเยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ วู้ดดี้ อัลเลน ทางเน็ทฟลิกซ์ หรือการเป็นโค้ชเดอะ วอยซ์ ซึ่งนั่นทำให้ทุกคนมองเธอว่าเป็นผู้ใหญ่ และน่าเชื่อถือมากขึ้นกว่าเก่าเยอะ

เจนนิเฟอร์ โลเปซ เลิกขาด แคสเปอร์ สมาร์ท

เพิ่งจะมีข่าวออกมาอีกครั้งว่า เจนนิเฟอร์ โลเปซ เลิกรากับแฟนหนุ่ม แคสเปอร์ สมาร์ท แล้ว ท่ามกลางความแปลกใจของใครหลายๆ คนที่คิดว่า อ้าว! คู่นี้เค้าเลิกกันไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ?

นอกจากข่าวการเลิกรานี้ ยังมีข่าวลืออีกว่า โลเปซตั้งครรภ์ในวัย47 ปีด้วย แน่นอนว่าข่าวนี้ไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม ไม่มีการยืนยันว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนคู่นี้ แต่คนวงในเชื่อว่าโลเปซเป็นคนตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ในครั้งนี้

ทั้งสองคบหากันมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 ซึ่งก็รักๆ เลิกๆ กันมาโดยตลอด ท่ามกลางข่าวลือมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งสองแกล้งเลิกกันเพื่อให้สื่อมวลชนหยุดติดตามความสัมพันธ์ของทั้งคู่เสียที หรือข่าวยอดฮิตอีกข่าวคือ ทั้งสองแกล้งคบหากันมาตั้งแต่ต้น

‘เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์’ เลิก ‘เบน แอฟเฟล็ค’ จริงหรือ?

แยกทางกันมาก็กว่าปีแล้ว ซึ่งตอนนั้น เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ กับ เบน แอฟเฟล็ค ออกมาประกาศเลิกรากัน ซึ่งในตอนนั้น ไม่มีใครคิดว่าทั้งสองจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานขนาดนี้โดยไม่มีการทำเรื่องฟ้องหย่าให้เป็นลายลักษณ์อักษร

ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้าที่จะแยกทางกันอย่างเป็นทางการ ก็มีข่าวลือว่าทั้งสองตั้งท่าจะหย่ากันมาตั้งหลายเดือนแล้ว แต่กลายเป็นว่า 14 เดือนผ่านไปโดยที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมปาปาราซซี่ก็ยังจับภาพทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเป็นปกติ ทำให้หลายคนเชื่อว่า ทั้งสองคงอยากจะลองให้โอกาสกับชีวิตคู่อีกครั้ง

เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวว่าการ์เนอร์กำลังวางแผนที่จะทำให้เรื่องหย่ามีผลทางกฎหมายเสียที หลังจากที่ทนกับพฤติกรรมของว่าที่อดีตสามีมานานพอแล้ว โดยฟางเส้นสุดท้ายของดาราสาวอยู่ตรงที่งานวันเกิดครบรอบ 44 ปีของแอฟเฟล็ค ที่เธอและลูกๆ เตรียมจัดปาร์ตี้ให้ แต่คุณพ่อตัวดีกลับไม่โผล่หัวมา โดยอ้างว่างานยุ่ง ทำให้การ์เนอร์ติดต่อทนายเพื่อทำเรื่องหย่าทันที แถมยังต้องการให้แอฟเฟล็คออกจากบ้านไปอีกด้วย

กลายเป็นว่าข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ เพราะมีรายงานข่าวว่าแอฟเฟล็คกับครอบครัวอันประกอบไปด้วยการ์เนอร์และลูกๆ ทั้งสาม ฉลองวันเกิดด้วยกันอย่างมีความสุขที่มอนทานา เห็นทีว่าทั้งสองคงจะได้กลับมาคืนดีกันเร็วๆ นี้

Quote

คุณค่าของตัวคุณนั้นถูกตัดสินด้วยตัวของคุณเอง คุณไม่ต้องอาศัยคนอื่นมาบอกคุณว่าคุณคือใคร

บิยอนเซ่ โนล์วส์

 

Inter Entertainment : 24 สิงหาคม 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/231858

วันพุธ ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

แอมเบอร์ เฮิร์ด หย่า จอห์นนี เดปป์ สำเร็จในที่สุดอดีตคู่รักที่เคยหวานอย่าง จอห์นนี

เดปป์ และ แอมเบอร์ เฮิร์ด ก็ได้หย่าขาดกันสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีรายงานข่าวว่าฝ่ายหญิงยังได้ถอนแจ้งความอย่างเป็นทางการ กรณี
ที่เธอได้ยื่นคำร้องขอคำสั่งศาลห้ามอดีตสามีเข้าใกล้โดยให้เหตุผลว่าเดปป์มักจะใช้กำลังทำร้ายเธอ ซึ่งการถอนคำร้องครั้งนี้มีผลให้เธอไม่อาจจะยื่นคำร้องแบบเดียวกันนี้ได้อีกต่อไป

ด้านเดปป์เองก็ตกลงที่จะจ่ายอดีตภรรยาเป็นค่าเลี้ยงดูจำนวน 7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้จบสิ้นคดีความกัน โดยทนายความของทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันร่างคำแถลงการณ์ที่มาจากคนทั้งสอง เพื่อประกาศต่อสาธารณชน อันมีใจความว่า “ความสัมพันธ์ของเรานั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาอันรุนแรง และในหลายๆ ครั้งมันก็ขึ้นๆ ลงๆ แต่มันก็ถูกผูกสัมพันธ์เอาไว้ด้วยความรัก เราไม่เคยมีเจตนาให้เรื่องราวมันจบด้วยการทำร้ายร่างกายหรือจิตใจกันเลย”

นอกจากนี้ ยังมีข้อความแถลงข่าวออกมาอีกด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ฟ้องร้องขออะไรเพิ่มเติมทางด้านการเงิน และฝ่ายหญิงยังจะบริจาคเงินที่ได้จากการหย่าร้างในครั้งนี้ให้กับองค์กรการกุศลอีกด้วย

เฮิร์ดและเดปป์แต่งงานกันมาเป็นระยะเวลา 15 เดือน ก่อนจะแยกทางกันในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ตามมาด้วยข้อกล่าวหาว่าเดปป์ชอบใช้กำลังทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมา ว่ากันว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ฝ่ายชายจับได้ว่าเฮิร์ดแอบหลับนอนกับเพื่อนนักแสดงด้วยกัน บิลลี่ บ็อบ ทอร์นตัน แต่งานนี้ ทอร์นตันออกมาปฏิเสธว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง

‘เคนเดลล์ เจนเนอร์’ ย้ำ เกิดเป็นคาร์เดเชียนต้องเข้มแข็ง

จัดเป็นนางแบบแห่งยุคจริงๆ สำหรับ เคนเดลล์ เจนเนอร์ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบแถวหน้าได้ด้วยความสามารถล้วนๆ แบบไม่ต้องอาศัยนามสกุลเข้าช่วย แต่นางแบบสาวก็ยอมรับว่าชื่อเสียงนามสกุลของเธอก็นำความวุ่นวายมาสู่ชีวิตไม่ใช่น้อย

เคนเดลล์ให้สัมภาษณ์ถึงการที่คนอื่นๆ ชอบกล่าวถึงคำว่าคาร์เดเชียนในแง่ลบว่า“โอ้พระเจ้า ฉันเข้าใจเลยว่าคุณพูดถึงอะไร คนอื่นๆชอบพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด และมันก็มักจะไม่ได้เป็นไปในแง่บวก และพวกเขาเองก็ไม่เคยพูดอะไรเลย เราแค่ยอมรับมัน และจากนั้นเวลาที่คนอื่นๆ ได้มาเจอกับพวกเขา พวกเขาจะรู้สึกประหลาดใจ เพราะเราไม่ได้เป็นในแบบที่เขาคิด บทเรียนที่ดีที่สุดที่ฉันได้เรียนรู้จากพี่สาวคือ อย่าไปเครียดกับสิ่งต่างๆ แค่ปล่อยมันไปซะ แล้วมันจะหายไปในเวลาแค่สัปดาห์เดียว นั่นคือวิธีที่ฉันเติบโตขึ้นมา พี่สาวของฉันทุกคนเข้มแข็งมาก และพวกเขาก็สอนให้ฉันกับน้องสาวเป็นคนแข็งแกร่ง และไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้มามีผลกระทบกับเรา เรารู้ดีว่าอะไรจริง”

นอกจากนี้แล้ว การที่พ่อของเธอ เคทลิน เจนเนอร์ เข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ ก็มีผลกระทบกับเธอเช่นกัน นางแบบสาวกล่าวว่า “เราเป็นคนที่ยอมรับในตัวตนของคนอื่น และยอมรับในความแตกต่าง และการเป็นตัวของตัวเอง เราไม่ได้เป็นพวกชอบตัดสินคนอื่น แต่แน่นอนว่ามันก็เป็นเรื่องแปลกที่พ่อของคุณซึ่งเป็นผู้ชาย จะมากลายเป็นอะไรที่ตรงข้ามกันไปเลย มันเป็นประสบการณ์ที่ลำบากแน่นอน แต่ตลอดชีวิตของฉัน เราเป็นเหมือนกับว่าต้องตามจับเธอ (เคทลิน) และเราก็รู้สึกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเรารู้ แต่เรารู้จริงๆ หรือ มีจุดหนึ่งที่ไคลี่กับฉันคิดว่าพ่อกำลังนอกใจแม่ เพราะว่าเขามีเครื่องสำอางและยาทาเล็บ วันหนึ่งเราเจอพวกอุปกรณ์เสริมหน้าแก เราเจอวิกผม และวันหนึ่งฉันก็จับได้ ในบ้านซึ่งเธอไม่รู้เรื่องเลย เธอตื่นเช้ามากๆ เพื่อเธอจะได้แต่งตัวและเดินไปรอบๆ บ้านเพื่อความมีชีวิตชีวาในตอนเช้า แล้วก็กลับมาเป็นบรูซ (ชื่อเดิม) อีกครั้ง พาพวกเราไปโรงเรียน ปกติทุกอย่าง เช้าวันหนึ่งฉันตื่นขึ้นมาตอนตีสี่เพราะหิวน้ำมาก ฉันลงมาข้างล่าง เข้าไปที่ครัว และหยิบขวดน้ำ พอฉันออกมาพ่อก็ลงบันไดมาพอดี พร้อมกับวิกผม แต่งหน้า และรองเท้า ซึ่งเธอไม่ได้เห็นฉันเลย ฉันตัวแข็งเลย ภาวนาว่าอย่าหันมาทางซ้ายนะ เพราะว่าเธออาจจะหันไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ ขอบคุณพระเจ้าที่เธอหันไปทางขวา และเธอเองก็ไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรแบบนี้ขึ้นจนวันนี้ ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเธอ…แม่ฉันรู้นะ เธอรู้ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเดทกันครั้งที่สามแล้ว”

เกาเหลาชามโต ดเวย์น จอห์นสัน มีปัญหากับ วิน ดีเซล

เพิ่งเสร็จจากการถ่ายทำภาพยนตร์ภาคต่อ “Fast and Furious 8” พระเอกหนุ่มกล้ามโต ดเวน จอห์นสันก็โพสต์ขอบคุณทีมงานและเพื่อนนักแสดงทุกคนบนอินสตาแกรม ด้วยข้อความที่ยกย่องและชื่นชมทุกคนอย่างยิ่ง แต่กลับไม่มีชื่อของ วิน ดีเซล อยู่ในข้อความเหล่านั้นแม้แต่น้อย

เดอะร็อกโพสต์ว่า “จบได้อย่างเข้มแข็ง และกำลังเริ่มในขั้นต่อไปเราได้ถ่ายทำ #FastAndFurious8 เสร็จอย่างเป็นทางการแล้ว ขอบคุณผู้กำกับของเรา @fgarygray สำหรับมุมมองและการลงมือทำ ขอบคุณเพื่อนนักแสดงของผมทุกคนสำหรับความพยายามและอุตสาหะในทุกๆ วัน สก็อตต์ อิสต์วู้ด คุณมันโคตรหล่อเลย นาตาลีเอมมานูเอล ผมมีเบียร์บัดไวเซอร์เย็นๆ สำหรับคุณ และ ไทริส กิ๊บสัน คุณยังคงมีรอยยิ้มและหน้าผากที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น และขอบคุณมากๆ กับทีมงานที่ขยันเป็นกระดูกสันหลังของธุรกิจเรา คำพูดอันแสนจะใจดีของคุณเมื่อคืนนี้มีความหมายกับผมมาก ขอบคุณ สุดท้ายนี้ เราทุกคนเป็นทีมที่สุดยอด เจ๋งจริง และจะนำผลงานภาพยนตร์อันยอดเยี่ยมมาสู่โลก ภูมิใจในครอบครัว ฟาส แฟมิลี่ทุกคน”

ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเดอะร็อกเพิ่งโพสต์บนโซเชียลมีเดียประณามเพื่อนนักแสดงชายคนหนึ่งว่า “คนบางคนก็ทำตัวเหมือนกับเป็นคนจริง เป็นมืออาชีพ ในขณะที่คนอื่นไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่คนที่ไม่ได้ทำอย่างนั้นก็ไก่อ่อนเกินกว่าจะทำอะไร ขี้ขลาดเอ๊ย…หากคุณได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในเดือนเมษายนปีหน้า และดูเหมือนว่าผมไม่ได้แสดงในบางฉาก และดูผมกำลังเลือดเดือดล่ะก็ คุณคิดถูกแล้วล่ะ”

งานนี้แหล่งข่าวคอนเฟิร์มว่าเดอะร็อกหมายถึงดีเซลจริงๆ โดยกล่าวว่าดีเซลปล่อยให้ตำแหน่งโปรดิวเซอร์มาทำให้ตัวเองรู้สึกยิ่งใหญ่จนกลายเป็นบ้าอำนาจไป

‘เมแกน ฟ็อกซ์’ คลอดลูกคนที่สาม สร้างสัมพันธ์ครอบครัวให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

นางเอกสาว เมแกน ฟ็อกซ์ คลอดลูกคนที่สามให้กับสามี ไบรอัน ออสติน กรีน ได้อย่างปลอดภัยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยทารกน้อยมีชื่อว่า เจอร์นีย์ ริเวอร์ กรีน ทำให้ครอบครัวกรีนดูจะมีความสุขมากขึ้น หลังจากที่เพิ่งผ่านมรสุมชีวิตคู่มาหมาดๆ จนเกือบจะหย่าร้างกัน

ก่อนหน้านี้ ฟ็อกซ์ ได้ทำให้ทุกคนประหลาดใจ เมื่อเธอปรากฏตัวในงานโปรโมทภาพยนตร์ “Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows” ในสภาพที่เห็นได้ชัดว่ากำลังตั้งครรภ์ ท่ามกลางข่าวว่าเธอกำลังฟ้องหย่าสามีอยู่

หลังจากนั้น ทั้งสองก็ตัดสินใจจะให้โอกาสกันและกันอีกครั้ง ทำให้เรื่องหย่าร้างมีอันตกไป แถมทั้งสองยังออกไปฮันนีมูน รอบสองกันที่ฮาวาย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทั้งคู่แต่งงานกันอีกด้วย

งานนี้นอกจากฟ็อกซ์แล้วบิดาของเธออย่างแฟรงคลินก็ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าลูกสาวและลูกเขยกำลังมีความสุขอย่างมาก “เมแกนเป็นแม่ที่มหัศจรรย์ และผมก็แทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะมีลูกชายคนที่สาม…การได้เป็นตาคนเป็นประสบการณ์ที่มหัศจรรย์มาก และทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้นอีกด้วย…ที่ผมพูดได้ก็คือ พวกเขาอยู่ด้วยกัน และพวกเขามีความสุข ผมได้เจอไบรอันเป็นสิบๆ ครั้งแล้ว และเขาก็เป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยม”

‘เคียรา ไนท์ลีย์’ เผยสวมวิกมา 5 ปี เหตุผมร่วง

เป็นนางเอกเจ้าบทบาทที่รับมันได้ทุกบทจริงๆ นั่นนำมาซึ่งการที่ เคียรา ไนท์ลีย์ ต้องผ่านการแปลงโฉมเพื่อรับบทเป็นผู้หญิงในแบบต่างๆ แทบจะไม่ซ้ำ และมันส่งผลต่อร่างกายของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพผมและสภาพผิว

ไนท์ลีย์กล่าวว่า“ฉันย้อมสีผมมาแล้วเกือบทุกสีเท่าที่คุณจะสามารถจินตนาการได้ ในภาพยนตร์เรื่องต่างๆ มันเลวร้ายมากจนกระทั่งผมของฉันเริ่มร่วง ดังนั้นฉันเลยสวมวิกมา 5 ปีแล้ว ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นกับผมฉันเลย”

งานนี้ นางเอกสาวที่เพิ่งคลอดลูกไปเมื่อไม่นานมานี้กล่าวว่า การสวมวิกทำให้เธอไม่ต้องยุ่งอะไรกับผมมากในภาพยนตร์แต่ละเรื่อง และข่าวดีที่ได้จากการคลอดลูกคือ นอกจากหนูน้อยเอดี้จะน่ารักน่าชังแล้ว การคลอดลูกยังทำให้ผมของเธอหนาขึ้นอีกด้วย

Quote

ฉันเรียนรู้ว่าคุณก้าวผ่านสิ่งต่างๆ คุณเรียนรู้ที่จะจัดการกับมัน และนั่นทำให้คุณมีพลัง และในที่สุด มันจะทำให้คุณมีความสุข

เดมี โลวาโต

Inter Entertainment : 17 สิงหาคม 2559

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/230722

วันพุธ ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

เจเดน สมิท เหยื่อข่าวลวงเสียชีวิต

เจ้าตัวเผยยังสบายดี

เล่นเอาแฟนๆ เป็นห่วงไปตามๆ กันเมื่อมีข่าวลือหลอกลวงทางเฟซบุ๊คว่าเจเดน สมิธ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ วิลล์ สมิธ เสียชีวิตแล้วจากการฆ่าตัวตาย งานนี้เจเดนออกมายืนยันว่าตัวเองยังสบายดีและไม่มีความคิดที่จะฆ่าตัวตายแน่นอน

เมื่อสัปดาห์ก่อน มีมือดีเผยแพร่ข่าวลือบนเฟซบุ๊คถึงการเสียชีวิตของเจเดนซึ่งทำเอาทุกคนแตกตื่นไปตามๆ กัน แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกับครอบครัวสมิธกล่าวว่า “ข่าวนั้นไม่เป็นความจริง และไม่ได้มาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้เลย”

ข่าวลือเท็จเรื่องการเสียชีวิตของเจเดนยังได้กล่าวอ้างเว็บไซต์ข่าวยักษ์ใหญ่สองอัน ได้แก่ซีเอ็นเอ็น และทีเอ็มซี เพื่อทำให้ดูเหมือนว่าข่าวนั้นเชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม เจเดนตัวจริงนั้นกำลังยุ่งอยู่กับการโปรโมทซีรี่ส์เรื่องใหม่ทางเน็ทฟลิกซ์ “The Get Down” และออกเดินทางอยู่กับบิดา ซึ่งกำลังโปรโมทภาพยนตร์เรื่องใหม่“Suicide Squad”

สำหรับบรรดาผู้อ่านที่คลิกเข้าไปยังข่าวหลอกลวงนั้น ก็ปรากฏว่าลิงค์นั้นนำไปสู่การดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นแปลกประหลาดหลายแอพ โดยข่าวลือดังกล่าวนั้นแพร่สะพัดมาตั้งแต่สิ้นเดือนที่ผ่านมา เนื่องมาจากถูกผู้อ่านแชร์บนโซเชียลมีเดียเป็นหลัก

ด้านความรู้สึกของเจ้าตัวนั้น แหล่งข่าวกล่าวว่าเจเดนไม่ได้รู้สึกว่าข่าวนี้ตลกแม้แต่น้อย แต่ด้วยตารางงานที่แน่นเอีี๊ยด ทำให้เขาไม่มีเวลามาให้ความสนใจมากนัก โดยเขานอกจากงานถ่ายซีรี่ส์แล้ว เขายังซุ่มทำงานเพลงอัลบั้มแรก พร้อมทั้งมิวสิกวีดีโอซิงเกิ้ลแรกอีกด้วย

 

เทเลอร์ สวิฟท์’ รอแหวนหมั้นจาก ‘ทอม ฮิดเดิลสตัน’

อาจจะดูเหมือนว่าเพิ่งกุ๊กกิ๊กกันได้ไม่นาน แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง เทเลอร์สวิฟท์ กับ ทอม ฮิดเดิลสตัน กำลังร้อนระอุ และท่าทางฝ่ายหญิงจะจริงจังกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้เป็นพิเศษ ถึงกับมีเพ้อๆ เผยๆ ว่าอยากได้แหวนหมั้นมาใส่กะเค้าสักที

ตัวเร่งปฏิกิริยาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทของสวิฟท์นามว่า อบิเกล แอนเดอร์สัน ที่เพิ่งถูกแฟนหนุ่มช่างภาพขอแต่งงานไปเมื่อเร็วๆ นี้ งานนี้ทำเอาสวิฟท์ถึงกับเพ้อว่าเมื่อไรจะถึงตาของเธอบ้าง

แหล่งข่าวหลายกระแสเชื่อว่าความสัมพันธ์ของสวิฟท์และฮิดเดิลสตันนั้นหลอกลวง หรืออย่างน้อยก็แค่ต้องการโปรโมทตัวนักร้องสาวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ รวมทั้งตัวของทอมเองก็กล่าวว่า พระเอกหนุ่มนั้นหลงรักในความสวยและมากไปด้วยพรสวรรค์ของนักร้องสาวจริงๆ…แต่ก็ไม่น่าจะถึงขั้นได้แต่งงานกันเร็วๆ นี้หรอกนะ

งานนี้นอกจากจะยังไม่มีวี่แววว่าฝ่ายชายจะตกลงปลงใจถอยแหวนหมั้นออกมาให้สวิฟท์แล้ว ฮิดเดิลสตันยังปฏิเสธคำเชิญไปงานแต่งงานของอบิเกลอีกด้วย แหล่งข่าวกล่าวว่า “ทอมรู้ดีว่าเขาจะต้องถูกจับตามองแน่นอนที่งานแต่งงาน และนั่นจะยิ่งทำให้เขากดดัน”

อย่างไรก็ตาม พระเอกหนุ่มปฏิเสธงานแต่งงานครั้งนี้อย่างสุภาพ “ทอมบอกกับสวิฟท์ว่างานแต่งงานของอบิเกลนั้นยังอีกนานเกินกว่าที่เขาจะบอกได้ว่าไปได้หรือไม่” แหล่งข่าวกล่าว

งานนี้ทำเอาข่าวลือด้านแย่ๆ ยิ่งกระพือโหมเข้าไปใหญ่ อย่างไรก็ตาม หากไม่พูดเรื่องแต่งงาน ก็ดูเหมือนเส้นทางรักของสวิฟท์และฮิดเดิลสตันยังไปได้สวย โดยฝ่ายหญิงได้มีโอกาสพบกับแม่ของฝ่ายชายแล้วด้วย

 

สวยสตรอง เซเลนา โกเมซ ไม่แคร์หาคู่เดทไม่ได้

ออกมาพูดแบบสวยๆ ว่าไม่ได้ต้องการความเห็นใจจากใคร สำหรับนักร้องสาว เซเลนา โกเมซ ที่ตอนนี้ยังหาคู่ควงที่ลงตัวกับคนอื่นเค้าไม่ได้เสียที แต่นักร้องสาวก็บอกว่าชีวิตนี้สุดแสนจะแฮปปี้ที่ได้อยู่คนเดียวนี่แหละ

โกเมซให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับเธอแล้ว มันท้าทายมากที่จะให้เธอออกเดทกับคนดังคนอื่นๆ “สักพักแล้วล่ะที่ชีวิตส่วนตัวของฉันเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงเป็นส่วนใหญ่…ไม่มีใครที่รู้อะไรจริงๆ และพวกเขาก็ทำได้แค่เดา คุณอยากจะทำในสิ่งที่คุณรักแต่เรื่องอื่นๆ ก็มาบดบังเรื่องงานไปเสียหมด จนทำให้ยากสำหรับคนอื่นในการจะมองคุณเรื่องที่เป็นการเป็นงาน”

ก่อนหน้านี้ โกเมซเดทเป็นจริงเป็นจังกับ จัสติน บีเบอร์ ด้วยความสัมพันธ์แบบลักปิดลักเปิดมานานหลายปี
จนตอนนี้ฝ่ายชายไปมีสาวใหม่เป็นที่เรียบร้อย คนก็ยังมองโกเมซว่าเป็นแฟนเก่าของบีเบอร์อยู่ดี ซึ่งเรื่องนี้สร้างความหงุดหงิดใจให้กับนักร้องสาวไม่ใช่น้อย

ตอนนี้ก็ดูเหมือนว่างานของโกเมซจะยุ่งเสียจนเธอไม่มีเวลาให้กับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เนื่องจากเธอกำลังอยู่ในระหว่างทัวร์คอนเสิร์ตไปหลายประเทศซึ่งบัตรก็ขายหมดเกลี้ยงทุกที่ “ฉันรู้ตัวว่ามันเรื่องชั่วคราว ฉันรู้สึกได้ ทั้งโชคดี และโชคร้าย มันเป็นที่ที่ชั้นใช้ชีวิตอยู่ตอนนี้ และฉันต้องยอมรับมัน”

ซึ่งถ้าเลือกได้ นักร้องสาวก็บอกว่าเธอยังต้องการแฟนหนุ่มที่รักและมั่นคงกับเธอ แต่ก็เข้าใจดีว่าผู้ชายส่วนใหญ่คงจะลังเลที่จะคบกับเธอ “เพราะฉันคิดว่าคนอื่นคงคิดว่าการเดทกับฉันมันโง่สิ้นดี…ไม่มีใครอยากจะมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องตกเป็นเป้าสายตาของสาธารณชนหรอก จริงไหม” นักร้องสาวกล่าว

‘เรเน่ เซลวีเกอร์’ ยันไม่เคยทำศัลยกรรมพลาสติก

แม้ใครต่อใครจะบอกว่า ยิ่งนานวัน หน้าตาของดาราสาว เรเน่ เซลวีเกอร์ จะดูแปลกตาออกไป แต่เธอก็จะบอกว่าทุกคนคิดไปเอง พร้อมทั้งยืนยันว่าชีวิตนี้ไม่เคยทำศัลยกรรมพลาสติกแน่นอน

ใบหน้าของเรเน่ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยมีผู้สังเกตว่าแทนที่เธอจะดูแก่ขึ้น กลับดูสาวลงอย่างผิดสังเกต เหมือนไปผ่านมือหมอศัลย์มายังไงอย่างงั้น

ดาราสาวให้สัมภาษณ์ว่า “อยู่ที่บ้าน ฉันก็ไม่ได้สังเกตเลย ฉันไม่ได้ใช้โซเชียลมีเดีย ฉันก็เลยไม่ได้เห็นข่าวนี้ ฉันเองชอบที่จะมี…ฉันคิดว่าคุณคงเรียกมันว่าประสบการณ์จริงมากกว่า”

เร็วๆ นี้ เราจะได้เห็นการกลับมาของเซลวีเกอร์อีกครั้งในภาพยนตร์ภาคต่อชื่อดังอย่าง “Bridget Jones’s Baby” ซึ่งเธอก็ถือโอกาสนี้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเกี่ยวกับข่าวลือแย่ๆ อันนี้ และโปรโมทภาพยนตร์ไปพร้อมๆ กัน โดยใจความสำคัญในข้อเขียนของเธอคือเพื่อให้ทุกคนให้ความเป็นธรรมกับเธอ ต่อการวิพากษ์วิจารณ์ถึงรูปลักษณ์ภายนอกของเธอที่หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ได้ตีพิมพ์อยู่ในตอนนี้ แทนที่จะมองถึงผลงานของเธอที่มีอยู่ และกำลังจะเกิดขึ้น

 

‘อเดล’ ผวา รูดบัตรเครดิตไม่ผ่าน

ออกจะเป็นนักร้องตัวท็อปของวงการ แต่กลายเป็นว่าเมื่อนักร้องสาว อเดล ไปช็อปปิ้งที่ร้านเสื้อผ้าชื่อดังแห่งหนึ่ง กลับรูดบัตรเครดิตไม่ผ่านเสียนี่ ทำเอานักร้องสาวถึงกับตกอกตกใจเป็นการใหญ่

หนังสือพิมพ์รายงาน ว่าอเดลกล่าวกับแฟนๆ ในงานคอนเสิร์ตของเธอที่ซานโฮเซ แคลิฟอร์เนียอย่างติดตลกว่า เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านเสื้อผ้า แต่ปรากฏว่าเครดิตการ์ดกลับรูดไม่ผ่าน อย่างไรก็ตาม เธอใช้การ์ดใบเดิมรูดซื้อเครื่องสำอาง
ที่อีกร้านหนึ่ง ซึ่งกลับรูดผ่านได้อย่างไม่มีปัญหา

งานนี้นักร้องสาวยืนยันกับแฟนเพลงว่าตอนที่บัตรรูดไม่ผ่าน ไม่มีใครจำได้ว่าเธอคืออเดล แต่ถึงกระนั้นเธอก็ตกใจมากว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

 

Quote :  ฉันแต่งตัวเหมือนยายแก่เลยในชีวิตจริง หากคุณทำการสนทนากับคนอื่นๆ คุณคงไม่อยากให้พวกเขาจำแค่ว่าคุณคือผู้หญิงที่มีหัวนม คุณคงจะอยากให้เขาเอาใจใส่ในเรื่องที่คุณจะพูดมากกว่า