ตกเป็นข่าวฮือฮาในรอบสัปดาห์เมื่อคู่รักที่เคยหวานอย่าง จอห์นนี่ เด็ปป์ และ เอ็มเบอร์ เฮิร์ด ออกมาประกาศข่าวหย่าร้าง โดยฝ่ายหญิงเป็นคนยื่นเรื่องขอฟ้องหย่าต่อศาล พร้อมทั้งขอค่าเลี้ยงดูเมื่อเร็วๆ นี้ โดยให้เหตุผลในการหย่าร้าง
ครั้งนี้ว่า เป็นเพราะความแตกต่างที่ไม่สามารถประสานกันได้

เด็ปป์และเฮิร์ดแต่งงานกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 โดยทั้งสองแยกทางกันตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาเพียงแค่ 2 วันหลังจากที่มารดาของพระเอกหนุ่มเสียชีวิตลง โดยก่อนหน้านั้น สื่อมวลชนได้ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมจึงไม่เห็นทั้งสองออกงานด้วยกัน ซึ่งทางพระเอกหนุ่มกล่าวเพียงว่าภรรยาของเขายุ่งอยู่กับงาน

เมื่อมีข่าวออกมาว่าทั้งคู่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินเรื่องฟ้องหย่า เรื่องราวก็เริ่มถูกเปิดเผยมากขึ้น โดยมีข่าวว่าเด็ปป์ได้ยื่นขอปฏิเสธต่อศาลในการจ่ายค่าเลี้ยงดูว่าที่อดีตภรรยา โดยให้เหตุผลว่าเธอเองก็เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จคนหนึ่งเช่นเดียวกัน

หลังจากยื่นฟ้องหย่าได้ไม่นานนัก ฝ่ายหญิงก็ได้ยื่นคำร้องใหม่ต่อศาล เพื่อขอให้ศาลออกคำสั่งห้ามว่าที่อดีตสามีเข้าใกล้เธอ โดยกล่าวว่าเด็ปป์ได้ทำร้ายร่างกายเธอ พร้อมทั้งส่งรูปภาพที่เธอมีรอยช้ำที่บริเวณตาขวาเอาไว้เป็นหลักฐานประกอบ

งานนี้ฝ่ายพระเอกยังคงปิดปากเงียบ โดยตัวแทนของเด็ปป์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เมื่อมองถึงความสั้นของการแต่งงานในครั้งนี้ ประกอบกับความสูญเสียอันน่าเศร้าที่เพิ่งเกิดขึ้นจากมารดาของเขา จอห์นนี่จะยังคงไม่ตอบอะไรกับเรื่องราวผิดๆ ที่แสนจะสกปรก ข่าวซุบซิบนินทา การให้ข้อมูลผิดๆ และการโกหก ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัวของเขา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสิ้นสุดของการแต่งงานอันแสนสั้นในครั้งนี้จะคลี่คลายในเร็ววัน”

‘จัสติน บีเบอร์’ หวานฉ่ำรักครั้งใหม่กับ ‘นิโคลา เพลท์ซ’

นิค โจนัส เผยเคยกลัว เดมี่ โลวาโต เสียชีวิตเพราะเสพยา

สนิทกันมานาน เห็นเพื่อนผ่านมรสุมชีวิตมาโดยตลอด นิค โจนัสเผยความในใจว่า เขาเคยถึงขนาดกลัวว่าจะได้รับทราบข่าวการเสียชีวิตของเพื่อนสนิทอย่าง เดมี่ โลวาโต เมื่อครั้งที่เธอยังต้องเข้ารับการบำบัด

น้องคนสุดท้องของครอบครัวโจนัสรู้จักกับโลวาโตมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ในฐานะที่อยู่ดิสนีย์ด้วยกัน นิคกล่าวว่าเขามองเห็นโลวาโตต้องประสบปัญหาทางด้านจิตใจ ทำร้ายตัวเองมีปัญหาการรับประทานอาหารที่ผิดปกติซึ่งทำให้ในที่สุดเธอต้องเข้ารับการบำบัดเมื่อปี 2010 เมื่ออายุเพียง 18 ปี

เมื่อเร็วๆ นี้ โลวาโตเพิ่งฉลองครบรอบ 4 ปีให้กับการที่เธอยังคงรักษาสุขภาพที่ดี และไม่ข้องแวะกับยาเสพติดเอาไว้ได้ งานนี้เพื่อนสนิทอย่างนิคก็อดรู้สึกภูมิใจในตัวเพื่อนไม่ได้ เขาให้สัมภาษณ์ว่า “เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่เธอได้จัดการกับตัวเอง และทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น เธอเป็นคนที่มหัศจรรย์มาก และเป็นนักร้องที่ดีกว่าด้วย เพราะว่าเธอแข็งแรง แต่ผมก็เคยกังวลมากจริงๆ ว่าผมจะสูญเสียเพื่อนของผมคนนี้ไป”

ลีโอนา ลูอิส รับบทนำละครบรอดเวย์ ‘Cats’ แทน นิโคล เชอร์ซิงเจอร์

ไม่หวั่นต่อความท้าทายอยู่แล้ว นักร้องสาว ลีโอนา ลูอิส พร้อมรับบทนำในละครบรอดเวย์ “Cats” แทน นิโคล เชอร์ซิงเจอร์ ที่เพิ่งจะถอนตัวไป

ลูอิสจะมารับบทเป็นกริซาเบลลา ซึ่งเป็นบทของเชอร์ซิงเจอร์เมื่อครั้งที่แสดงที่ลอนดอน โดยนักร้องนำวงพุซซี่ แคท ดอลล์ ตัดสินใจขอถอนตัวจากการแสดงที่อเมริกา โดยเธอให้เหตุผลว่าเพราะต้องเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินให้กับรายการ “X Factor”

ขณะที่ลูอิสรู้สึกตื่นเต้นกับบทบาทในครั้งนี้ แอนดรูว์ ลอยด์ เว็บเบอร์ ผู้แต่งเพลงให้กับละครเวทีเรื่องนี้กล่าวว่าเรารู้สึกโกรธในการตัดสินใจนาทีสุดท้ายของเชอร์ซิงเจอร์มาก โดยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมหมายถึง เธอมันบ้า แต่โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันก็กลับมองอีกมุมหนึ่ง “อืม…ดีเหมือนกัน เราจะหาคนใหม่” เพราะว่าเธอเองก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากมายอะไรในอเมริกา น่าแปลกใจ
จริงๆ เธอเป็นที่รู้จักมากกว่ามากที่นี่ (ลอนดอน) ผมโกรธเพราะว่าผมเชื่อจริงๆ ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีพรสวรรค์อย่างน่าอัศจรรย์ที่สุดแล้ว และผมก็ออกมาด้วยแขนขาของผมเองเพื่อให้เธอได้เข้ามาสู่ที่ลอนดอน พาลลาเดียมที่นี่ และมันทำให้ผมดูกลายเป็นคนโง่ในสายตาคนอื่นๆ แต่ก็ช่างมันเถอะ ยังมีผู้หญิงคนอื่นๆ ที่บรอดเวย์และนิโคลก็จะไม่ได้รับรางวัล โทนี่ อวอร์ด หรอก”

“หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่คุณจะต้องทำ นั่นคือการหยุดรักใครสักคน เพราะเขาหยุดรักคุณแล้ว”

พระเอกรุ่นเดอะ เดวิด ฮัซเซลฮอฟฟ์ ออกมายอมรับว่าเขามีปัญหาทางด้านการเงิน หลังจากหย่าร้างกับอดีตภรรยา พาเมลา บาค เมื่อปี 2006 โดยตามสัญญา เขาต้องจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูให้กับอดีตภรรยาสูงถึง 21,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน และตอนนี้ฮัซเซลฮอฟฟ์ ก็ขอยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อลดหย่อนเงินจำนวนนี้ลง เพราะเขาถังแตกเต็มที

รายงานข่าวแจ้งว่า ฮัซเซลฮอฟฟ์ มีรายได้รวมราว 112,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน แต่ก็มีค่าใช้จ่ายประจำเป็นจำนวนเงินราว 66,000 เหรียญสหรัฐ โดยเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเลี้ยงดูอดีตภรรยา ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เรียกได้ว่าพระเอกรุ่นเดอะแทบไม่มีเงินเหลือเก็บเลยในแต่ละเดือน นอกจากนี้ การเดินสายโชว์ตัวของเขาที่ยุโรปนั้นถูกหั่นให้เหลือระยะเวลาสั้นลง เนื่องจากบัตรขายไม่ดีนัก แถมรายการเรียลิตี้โชว์ของเขาก็ไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าที่คาดไว้

ฮัซเซลฮอฟฟ์แจกแจงว่าเขามีสินทรัพย์เป็นอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ ฯลฯ รวมเป็นมูลค่า 1.79 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถึงกระนั้นหากพูดถึงเรื่องเงินสดแล้ว เขาไม่ได้มีมากมายอย่างที่คนอื่นเข้าใจ

อย่างไรก็ตามอดีตคู่สมรสอย่างบาคก็ออกมาตอบโต้ทันที โดยกล่าวหาว่าฮัซเซลฮอฟฟ์โกหก และทำรายได้รวมสูงถึง 120 ล้านเหรียญสหรัฐต่างหาก โดยเขายังมีโอกาสทางด้านการงานรุมล้อมเข้ามาไม่ขาดสาย รวมถึงยังเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์อีกเป็นจำนวนมากทั่วโลก…งานนี้คงต้องรอศาลสั่งสืบสวนและตัดสินอีกทีว่าใครกันแน่ที่โกหก

ปิดให้แซด เซ็กซ์เทปของ ไคลี เจนเนอร์

เจริญรอยตามพี่สาวดี๊ดี สำหรับ ไคลี่ เจนเนอร์ ที่ก่อนหน้านี้พี่สาวต่างบิดาอย่าง คิม คาร์แดเชียน ได้เคยถูกมือดีปล่อยเซ็กซ์เทปของเธอกับ เรย์ เจ ออกมา และสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสเข้าวงการบันเทิงได้อย่างงดงาม มาวันนี้ เจนเนอร์คนน้องก็กำลังจะลงอีหรอบเดียวกัน

มีรายงานข่าวว่า มีมือดีปล่อยเซ็กซ์เทปของเจนเนอร์กับแฟนเก่าที่เพิ่ง เลิกรากันอย่าง ไทกา ออกมา โดยคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ที่เว็บของไทกาเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ก่อนจะถูกลบออกไป

แม้ว่าคลิปนั้นจะถูกปล่อยบนเว็บของไทกา แต่แหล่งข่าวก็ออกมายืนยันว่าไทกาไม่มีทางเป็นผู้ปล่อยคลิปแน่นอน “ไทกาไม่มีทางยอมอนุญาตให้ปล่อยคลิปนี้เพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายแน่ แต่ไคลีเองก็กลัวว่าเซ็กซ์เทปนี้
จะตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่ประสงค์ดี ด้วยเพื่อนคนใดคนหนึ่งของไทกา และพวกนั้นอาจจะโพสต์มันลงออนไลน์เพื่อทำให้เธออับอาย เธอเองกลัวมากว่าอะไรแบบนี้จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเธอโจมตีไทกาด้วยวิธีใดก็ตาม หากครอบครัวคาร์แดเชียนโจมตีเขา มันก็จะเป็นโอกาสให้อะไรแบบนี้เกิดขึ้นได้ เขาเองมีอำนาจมากเลยในตอนนี้”

รักหวานฉ่ำ อาเรียอานา แกรนเด้กับ แฟนหนุ่มแดนเซอร์

ใครบอกว่าลัคกี้อินเกมแล้วจะลัคกี้อินเลิฟไปพร้อมๆ กันไม่ได้ คำนี้คงใช้ไม่ได้สำหรับนักร้องสาว อาเรียอานา แกรนเด้ที่นอกจากชีวิตจะรุ่งพุ่งแรงในเรื่องหน้าที่การงานแบบสุดๆ แล้ว เธอยังมีหนุ่มแสนดีข้างกายที่ทำให้เธอมีความสุขได้ในทุกๆ วันอีกด้วย

นักร้องสาวให้สัมภาษณ์ถึงความรักของเธอกับแดนเซอร์หนุ่ม ริคกี้ อัลวาเรซ ว่า “เรามีความสุขกันดี ฉันเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากเลยค่ะ ฉันมีชีวิตที่ดีมากในตอนนี้ และฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่คนอื่นๆ อยากรู้ จบละ”

นอกจากนี้ แกรนเด้ยังกล่าวถึงความเท่าเทียมกันของผู้หญิงและผู้ชายว่า “ถ้าคุณรู้สึกว้าวกับการที่นักร้องชายหุ่นเซ็กซี่ถอดเสื้อโชว์กล้าม และเห็นผู้หญิงตัดสินใจโชว์ชั้นใน หรือหน้าอกเวลาถ่ายแบบ คุณก็ต้องมองพวกเธอด้วยความรู้สึกว้าว และความชื่นชมแบบเดียวกัน ฉันจะพูดอย่างนี้จนกว่าฉันจะกลายเป็นหญิงแก่โชว์หัวนมที่ห้างโฮลฟู้ดส์ ฉันจะอยู่ที่ชั้นขายสินค้า และก็เปลือยกายในวัย 95 ปี พร้อมกับยังคงผูกผมหางม้า ปล่อยปอยผมด้านหนึ่ง และผูกโบชาแนล จำคำพูดฉันไว้นะ แล้วเจอกันพร้อมกับสุนัข 95 ตัวของฉัน”

ชาร์ลี ชีน เผยความรู้สึกเข้ารับการรักษาเอชไอวีด้วยการฉีดยา

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ชาร์ลี ชีน ได้ให้สัมภาษณ์ช็อกโลกว่าเขาได้มีผลเลือดเป็นบวก และได้รับเชื้อเอชไอวี และตอนนี้เขากำลังเข้ารับการรักษาแบบทดลอง เพื่อทดสอบประสิทธิภาพตัวยาตัวใหม่สำหรับผู้ป่วยเอชไอวี

ชีนให้สัมภาษณ์ถึงการเข้ารับการรักษาด้วยตัวยาใหม่นี้ว่า “จริงๆ แล้วผมเข้าร่วมกับโครงการทดลองการบำบัดของเอฟดีเอ (องค์กรอาหารและยาของอเมริกา) ซึ่งมันกำลังจะเปลี่ยนมุมมองของการรักษาผู้ป่วยเชื้อเอชไอวีไปเลยทีเดียว มันเป็นบริษัทที่มีชื่อว่าไซโตไดน์ และการรักษานี้ก็เรียกว่า โปร140 ซึ่งแทนที่ผมจะต้องทานยาทุกๆ วัน ก็กลายเป็นว่าผมต้องมาฉีดยาทุกสัปดาห์แทน

นอกจากนี้ อดีตพระเอกยังกล่าวอีกด้วยว่า “ผมก็เลยบอกกับหมอและผู้ช่วยของเขาว่า ผมอยู่ในสัปดาห์ที่สามของการรักษาแล้ว และผมก็รู้สึกสบายดีมาก เพราะว่าการทานยาเหล่านั้นทุกๆ วันมันก็เหมือนกับการรับพิษเข้ามาทีละเล็กละน้อย แต่การรักษาแบบใหม่นี้มันให้ผลตรงกันข้ามเลย ดังนั้นพวกเราก็เลยตื่นเต้นมากกับการรักษาแบบใหม่นี้”

โรบิน ไรท์ เรียกร้องเงิน ค่าตัวเทียบเท่า เควิน สเปซีย์

เป็นดาราอีกคนที่ออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมกันระหว่างดาราหญิง-ชายในแวดวงฮอลลีวู้ด ในเรื่องค่าตัวที่ไม่เป็นธรรมที่ดาราหญิงมักจะได้รับน้อยกว่าดาราชายเสมอ โรบิน ไรท์ออกมาให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า เธอได้ยื่นคำขาดกับทางผู้สร้างซีรี่ส์เรื่องดัง “House of Cards” ว่าเธอขอค่าตัวเทียบเท่ากับเพื่อนนักแสดงนำด้วยกันอย่าง เควิน สเปซีย์ มิฉะนั้นเธอจะออกมาเรียกร้องเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อสาธารณชน

ไรท์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “มันเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมเลย แทบจะไม่มีภาพยนตร์ หรือละครทางโทรทัศน์เรื่องไหนเลยที่ผู้ชาย พระสังฆราช และปูชนียบุคคล ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และพวกเขาก็มารวมกันอยู่ในเรื่อง “House of Cards” ฉันรู้สึกว่าฉันควรจะได้รับค่าตัวเท่าๆ กับเควินนะ”

ในซีรี่ส์เรื่องนี้ ไรท์และสเปซีย์แสดงเป็น แคลร์ และแฟรงค์ อันเดอร์วู้ดและเพราะความนิยมในตัวละครของเธอทำให้ไรท์รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะได้เงินค่าตัวเพิ่มขึ้นเสียที “ฉันเฝ้ามองดูข้อมูลทางสถิติว่าตัวละคร แคลร์ อันเดอร์วู้ด นั้นเป็นที่นิยมมากกว่าแฟรงค์ มานานแล้ว ฉันเลยใช้เรื่องนี้ให้เป็นประโยชน์ ฉันรู้สึกว่าคุณน่าจะจ่ายเงินฉันเสียดีๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะประกาศเรื่องนี้ต่อสาธารณะ และพวกเขาก็ขึ้นเงินค่าตัวให้”

มีรายงานว่า ไรท์ได้รับเงินค่าตัว 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับซีรี่ส์ในซีซั่นที่ 3 ขณะที่สเปซีย์ได้รับค่าตัวสูงถึง 9 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม บทบาทที่เธอได้รับนั้นมีส่วนสำคัญมากขึ้นในซีซั่นที่ 4 ด้วยเหตุนี้เธอจึงรู้สึกว่าเธอควรได้รับค่าตัวเพิ่ม

เซียรา แพ้คดีขอเลี้ยงดูบุตรแต่เพียงผู้เดียว

หลังจากพยายามมานาน ด้วยหวังว่าจะได้รับสิทธิ์การเลี้ยงดูบุตรชาย ฟิวเจอร์ จูเนียร์ แต่เพียงผู้เดียว แต่ก็ดูเหมือนว่าความพยายามจะเป็นหมันเมื่อนักร้องสาวเซียรา กลับแพ้คดี ยังต้องแชร์สิทธิ์กับอดีตคู่หมั้นหนุ่มในการเลี้ยงดูบุตรชาย

เมื่ออาทิตย์ก่อน ศาลแคลิฟอร์เนียได้ตัดสินปฏิเสธคำร้องของนักร้องสาวสุดเซ็กซี่ ที่ได้ยื่นเรื่องขออนุญาตต่อศาลในการได้สิทธิ์เลี้ยงดูบุตรแต่เพียงผู้เดียว โดยศาลได้สั่งให้การเลี้ยงดูบุตร ซึ่งมีชื่อเต็มว่าฟิวเจอร์ซาฮีร์ วิลเบิร์น ยังคงเป็นสิทธิ์ร่วมกันของเซียราและฟิวเจอร์ อดีตคู่หมั้นหนุ่ม

ยิ่งไปกว่านั้น เซียราผู้ซึ่งตอนนี้กำลังหมั้นกับนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลดาวรุ่ง รัสเซล วิลสัน ยังขอฟ้องร้องฟิวเจอร์ อดีตคู่หมั้น เป็นจำนวนเงินสูงถึง 15 ล้านเหรียญสหรัฐ ในคดีหมิ่นประมาทและใส่ความ ด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์ที่เขาได้กระทำต่อผลงานดนตรีของเธออีกด้วย

Quote

เจนนิเฟอร์ อนิสตัน

ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ดังเอบีซีออกมาประกาศยกเลิกการสร้างซีรี่ส์สะท้อนวงการเพลงคันทรีอย่าง “Nashville” เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ดารานำของเรื่อง เฮย์เดน แพนเน็ตเทียร์ ประกาศว่าเธอต้องเข้ารับการบำบัดด้วยอาการซึมเศร้าหลังการคลอด

ดาราสาววัย 26 ปี มีอาการป่วยทางจิตใจตั้งแต่เธอให้กำเนิดลูกสาวเมื่อปี 2014 และเธอเคยเข้ารับการบำบัดมาก่อนเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากขอหยุดพักการถ่ายทำซีรี่ส์เรื่องดัง จนเมื่ออาทิตย์ก่อน แพนเน็ตเทียร์ออกมาบอกว่าการรักษาในขั้นเบื้องต้นดูจะไม่เพียงพอเสียแล้ว โดยประกาศทางทวิตเตอร์ว่าเธอกำลังมองหาการช่วยเหลือต่อไป “อาการซึมเศร้าหลังคลอดที่ฉันได้เผชิญมานั้น มีผลกระทบต่อทุกๆ ด้านของชีวิตของฉัน แทนที่จะอยู่เฉยๆ แล้วต้องติดอยู่กับวิธีการที่ไม่เป็นผลดี ฉันได้เลือกที่จะใช้เวลาเพื่อที่จะสะท้อนให้เห็นถึงสุขภาพและชีวิตของฉันแบบองค์รวม ช่วยอวยพรให้ฉันด้วย”

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการทวิตดังกล่าวผู้บริหารจากเอบีซีก็ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาตัดสินใจยกเลิกการผลิต “Nashville” ซึ่งได้ฉายมาเป็นซีซั่นที่ 4 แล้ว โดยนอกจากนี้ ก็ยังมีซีรี่ส์อีกเรื่องอย่าง “Castle” ที่ฉายมายาวนาน ถูกประกาศยกเลิกด้วยเช่นกัน หลังจากที่ สเตนา เคทิค ประกาศไม่ร่วมงานกับซีรี่ส์เรื่องดังกล่าว

คีธ เออร์เบน ควง ‘นิโคล คิดแมน’ ร้องเพลงในรถ

เป็นคู่รักที่ยังคงความน่ารักและสวีทหวานกันได้ไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับ คีธ เออร์เบน และภรรยาสาว นิโคล คิดแมน ที่งานนี้ออกมาช่วยสามีถ่ายภาพประกอบมิวสิกวีดีโอทางโทรศัพท์กับเพลงใหม่ “The Fighter”

งานนี้แฟนๆ จะได้เห็นทั้งเออร์เบนและนางเอกสาวกระโดดขึ้นรถจี๊ปแรงเลอร์ ร่วมด้วยดารานักร้องสาวอย่าง แคร์รี่ อันเดอร์วู้ด และ
นักร้องแบ๊กอัพ

สำหรับการทำงานของเออร์เบนนั้น เขาเผยให้แฟนๆ ได้ฟังว่า “ผมมักจะทำเพลงตัวอย่างอยู่ที่บ้านมาตั้งแต่เมื่อตอนที่เป็นเด็ก แม้แต่ก่อนที่ผมจะซื้อเครื่องมิกซ์เสียงแบบมัลติแทรค ผมก็เคยซื้อวิทยุเทปคาสเซ็ทแบบสองหัว เพื่อใช้ด้านหนึ่งเอาไว้เล่นเพลง แล้วกดเล่นและร้องตามไปด้วย เพื่อใช้อีกด้านหนึ่งอัดเสียง ผมใส่เสียงของตัวเองลงไปในไมโครโฟนที่ต่อกับวิทยุเทป และเพิ่มเติมทำนองของผมลงไป จากนั้นก็เล่นกลับอีกครั้งในวิทยุอีกเครื่องหนึ่ง แล้วก็เพิ่มทำนองลงไปอีก นั่นล่ะวิธีที่ผมเริ่มต้นใช้เครื่องมิกซ์เสียงแบบมัลติแทร็กราคาถูก”

‘เบลค ไลฟ์ลี่’ ปรี๊ดแตก วู้ดดี้ อัลเลน ถูกถากถางเรื่องข่มขืน

นางเอกสาว เบลค ไลฟ์ลี่ ออกมาแสดงความไม่พอใจพิธีกรและนักแสดงตลกชาวฝรั่งเศส ที่กระเซ้าเย้าแหย่นักแสดงและผู้กำกับฯ ชื่อดังอย่าง วู้ดดี้ อัลเลน เรื่องการข่มขืนจนเกินงามและไม่เหมาะสม ระหว่างพิธีเปิดเทศกาลภาพยนตร์ คานส์ ฟิล์ม เฟสติวัล

โลลอง ลาฟิตเต พิธีกรของงานทำให้บรรดาผู้ชมช็อกไปตามๆ กัน ในการฉายรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์คอเมดี้เรื่องใหม่ของอัลเลน “Cafe Society” ด้วยการกล่าวว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีนะ ที่คุณเคยถ่ายทำภาพยนตร์มาแล้วตั้งหลายเรื่องในยุโรป ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยกระทำความผิดฐานข่มขืนในอเมริกาก็เถอะ”

คำพูดดังกล่าวของลาฟิตเตทำเอาผู้ชมอ้าปากค้างไปเลยทีเดียว เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าพิธีกรหนุ่มกล่าวพาดพิงถึงข้อหาละเมิดทางเพศที่อัลเลนถูก ดีแลน โอ’ซุลลีแวน ฟาร์โรว ลูกเลี้ยงของเขากล่าวหา งานนี้ผู้กำกับฯรุ่นเดอะ ทำเป็นไม่สนใจตลกร้ายดังกล่าว โดยตั้งหน้าตั้งตาโปรโมทภาพยนตร์ของตัวเองต่อไป พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า “ผมนี่ชอบที่จะให้พวกนักแสดงตลกเล่นมุขอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ…มันต้องใช้ความพยายามมากเลยในการทำให้ผมไม่พอใจ”

อย่างไรก็ตาม นางเอกสาวของเรื่อง “Cafe Society” อย่าง เบลค ไลฟ์ลี่ กลับเป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้ ออกมาแสดงความไม่พอใจกับคำพูดของลาฟิตเต ที่นอกจากจะพูดจาไม่เหมาะสมใส่อัลเลนแล้ว พิธีกรหนุ่มยังมีการพูดพาดพิงถึงกลุ่มชุมชนชาวเกย์ และผู้นำนาซีอย่าง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์อีกด้วย

ไลฟ์ลี่กล่าวว่า “ฉันคิดว่ามุขตลกอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการข่มขืน รักร่วมเพศ หรือนาซีนั้น มันไม่ตลกเลยสักนิด…” ก่อนจะกล่าวต่อว่า “เทศกาลภาพยนตร์มันช่างเป็นเทศกาลที่สวยงาม และน่าเคารพ ของทั้งภาพยนตร์ และนักแสดง และการที่จะมีเทศกาลแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ามันคงมีอะไรแบบนี้ไม่ได้หากเรายังอยู่ในยุคปี 1940 ฉันคงไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเฟรด แอสเทียร์ และ บิง ครอสบี้ จะออกมาทำอะไรแบบนี้ได้ มันเลยเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสำหรับนักแสดงที่อยู่ในห้องนั้น ในการที่มีใครสักคนมาพูดเรื่องตลกเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ตลกสักนิด…แล้วเขายังวิพากษ์วิจารณ์พวกรักร่วมเพศถึงสามครั้งติดต่อกันไหนจะเรื่องตลกเกี่ยวกับฮิตเลอร์ และเรื่องตลกเกี่ยวกับการข่มขืน เขาพูดเรื่องเหล่านั้นทั้งหมดภายในเวลา 30 วินาทีนี่มันเกิดอะไรขึ้น มันน่าสับสนจริงๆ”

ข้อโต้แย้งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ โรแนน ฟาร์โรว ลูกชายของอัลเลน เผยแพร่ข้อความต่อว่าวงการฮอลลีวู้ดที่ยังคงให้การสนับสนุนพ่อของเขา แม้ว่าเขาจะถูกกล่าวหาว่าข่มขืนลูกสาวก็ตาม ซึ่งอัลเลนเองไม่เคยถูกตั้งข้อหา และยังคงถูกมองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยโรแนนกล่าวชัดเจนว่าพี่สาวของเขาไม่ได้โกหก

อัลเลนปรากฏตัวอย่างไม่สะทกสะท้านที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกของเขา ผู้กำกับฯ รุ่นเดอะกล่าวว่า “ผมไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เลย ผมเคยพูดกับนิวยอร์กไทมส์เมื่อนานมาแล้ว ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้มันเหลวไหล ทั้งหมดเลย มันไม่รบกวนผมหรอก ผมไม่คิดถึงมันน่ะ”

จอห์นนี่ เด็ปป์ เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยไลฟ์สตรีมวีดีโอในดิสนีย์แลนด์

ใครเป็นแฟนพระเอกหนุ่ม จอห์นนี่ เด็ปป์ ต้องร้องกรี๊ดกับข่าวนี้ เมื่อเขายอมลงทุนปรากฏตัวขึ้นที่ดิสนีย์แลนด์ในรูปแบบไลฟ์สตรีมเพื่อสร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยือน

เด็ปป์แต่งตัวเป็น แมด แฮทเตอร์ คาแร็กเตอร์ของเขาในภาพยนตร์เรื่องใหม่ “Alice Through The Looking Glass” จากนั้นก็ไลฟ์สตรีมวีดีโอ เพื่อแพร่ภาพผ่านบูธในดิสนีย์แลนด์ โดยเริ่มจากนั่งนิ่งๆ ทำให้ดูเผินๆ เหมือนเป็นแค่รูปภาพเท่านั้น

แน่นอนว่าเมื่อแขกผู้มาเยือนดิสนีย์แลนด์เดินผ่านบูธไปแบบไม่คิดอะไร และกลับเห็นพระเอกหนุ่มขยับกายทักทาย เล่นเอาทุกคนต่างพากันกรี๊ดด้วยความประหลาดใจ แถมยังประทับใจที่สามารถทักทายกับดาราคนโปรดแบบสดๆ ได้อีกด้วย

โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับ เข้ารับการบำบัดกับภรรยาเป็นประจำ

ผ่านเรื่องราวทั้งดีและร้ายในชีวิตมาเยอะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องยอมรับว่าพระเอกหนุ่มโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ที่เคยล้มเหลวทำผิดพลาดมาก่อนในอดีต ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างหนักในทางที่ดี จนตอนนี้เรียกได้ว่าเขากลายมาเป็นดาราที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งแห่งยุค

เมื่อพูดถึงความล้มเหลวแล้ว พระเอกหนุ่มกล่าวถึงความคิดเห็นของเขาต่อคำคำนี้ว่า “หากมันเป็นคำว่าล้มเหลวแบบตรงๆ ตัวล่ะก็ ผมไม่อยากพูดถึงคำว่าล้มเหลวเลย ผมอยากจะพูดถึงความนอบน้อมถ่อมตัวมากกว่า อย่างตอนที่คุณรู้สึกแย่และอับอายขึ้นมาทันที แต่คุณก็ยังคงต้องปั้นหน้าต่อไปเพื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ ให้ได้นั่นล่ะ เพราะว่ามันไม่ใช่แค่ความล้มเหลวหรอกที่จะทำให้คุณเป็นที่จดจำ ผมอาจจะขาดๆ ไปสักหน่อย แต่มันก็โอเคแหละ”

นอกจากนี้ พระเอกหนุ่มยังยอมรับอีกด้วยว่า เขากับซูซาน ภรรยาที่ครองรักกันมานานได้เข้าคลาสบำบัดการใช้ชีวิตคู่เป็นประจำ “มันก็เหมือนกับการมีแม่บ้านนั่นล่ะ คุณเข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม และมันก็ดีกว่าการมีแม่บ้านเข้ามาดูแลอยู่ตลอดด้วย แค่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนอาทิตย์ละสองสามครั้ง ไม่ใช่เมื่อตอนที่รอนวู้ดเพิ่งจะทิ้งมันไปนะ ดังนั้นผมก็เลยคิดว่างานครึ่งหนึ่งน่ะคือการสื่อสารถึงความคิดว่าสิ่งที่คุณกำลังทำคือการสร้างทีม และแก้ไขข้อขัดแย้ง และอะไรแบบนั้น มันก็มีหลายครั้งที่ อย่างเราอาจะมีการนัดหมายกัน แล้วซูซานก็บอกว่า ฉันโอเค คุณก็แค่ต้องบอกพวกเขาในเรื่องนี้ แล้วผมก็จะบอกว่า โอเค นั่นล่ะดีแล้ว”

Quote

“เราควรจะรัก ไม่ใช่ตกหลุมรัก เพราะทุกอย่างที่ตกมักแตกเสมอ”

เทเลอร์ สวิฟท์

หากใครถามว่าเขาชอบฉากไหนที่สุดในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดัง “Iron Man” พระเอกหนุ่ม โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ สามารถตอบได้อย่างไม่ลังเลเลยว่า คงเป็นฉากที่เขาได้จูบกับนางเอกสาว กวินเน็ธ พัลโทรว์ นั่นเอง

โรเบิร์ตให้สัมภาษณ์ว่า “ผมคิดว่าผมสามารถฝันได้อีกหน่อย บัตรผ่านของผมก็คือ เพราะว่าเธอกับซูซานภรรยาของผมเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คือ พัลโทรว์ ผมต้องเอาเธอกลับคืนมาในภาพยนตร์ให้ได้ เพื่อที่ว่าผมจะได้จูบเธอในฉากอีกครั้งหนึ่ง”

แน่นอนว่าพระเอกหนุ่มไม่ลืมที่จะพูดว่า “ผมมีชีวิตแต่งงานที่มีความสุขดี” และแน่นอนว่าซูซาน ภรรยาของเขาคงจะไม่สนใจอะไร หากการจูบระหว่างสองพระนางยังคงดำเนินไปต่อหน้ากล้อง และหยุดเมื่อผู้กำกับสั่งคัท!

มิแรนดา เคอร์ โอดเป็นนางแบบไม่ใช่เรื่องง่าย

ปรากฏตัวทีไรก็ดูดีอยู่เสมอจนใครๆ ต่างก็คิดว่านางแบบสาว มิแรนดา เคอร์ คงมีเวลาว่างมากพอในการดูแลตัวเองแต่ใครจะรู้ว่านางแบบคิวชุกคนนี้แทบจะหาเวลาพักผ่อนไม่ได้เลยทีเดียวกับตารางงานที่แน่นขนัด

เคอร์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงการทำงานของเธอว่า เธอต้องทำงานหนักถึง 170 ชั่วโมง โดยรวม ในระยะเวลาเพียงแค่สัปดาห์ครึ่ง เมื่อเธอต้อง
เดินทางมาทำงานในแถบเอเชียตอนต้นปีที่ผ่านมา

นางแบบสาวกล่าวว่า“ฉันทำงานไม่ได้หยุดเลยเป็นเวลาถึง 10 วัน ตกวันละประมาณ 16-17 ชั่วโมง เรามีเวลานอนแค่คืนละ 3 ชั่วโมง แต่ฉันก็สนุกกับความท้าทายในการทำงานและการที่จะต้องทำงานหลายๆ อย่างพร้อมๆ กัน” สงสัยนี่คงเป็นเคล็ดลับของนางแบบที่มีค่าตัวสูงที่สุด และเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลกแหงๆ

เทเลอร์ สวิฟท์ ขึ้นอันดับนักร้องทำเงินสูงสุดแห่งปี 2015

อัลบั้มเพลงของเธอก็ขายดี ทัวร์คอนเสิร์ตทีไรบัตรก็หมดเกลี้ยงภายในพริบตา ไม่น่าแปลกใจที่นักร้องสาว เทเลอร์ สวิฟท์ กลายมาเป็นนักร้องที่ทำรายได้สูงสุดแห่งปี 2015 จากการจัดอันดับของนิตยสารบิลบอร์ด

ว่ากันว่าสวิฟท์ทำรายได้ราว 61.7 ล้านเหรียญจากการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกของเธอ จากอัลบั้ม 1989 บวกกับ 4.1 ล้านเหรียญ จากการขายลิขสิทธิ์การเผยแพร่เพลงของเธอ 7.2 ล้านเหรียญจากยอดขายซิงเกิ้ลทั้งหมด และอีก 564,000 เหรียญ ซึ่งเป็นรายได้จากยอดสตรีมเพลงผ่านแอปพลิเคชั่น ทำให้เธอมีรายได้รวมสูงถึง 73.6 ล้านเหรียญสหรัฐ

งานนี้นักร้องสาวทำรายได้ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง เคนนี่ เชสนีย์ ถึง 33 ล้านเหรียญ ส่วน เดอะ โรลลิ่ง สโตน, บิลลี่ โจเอล และ วัน ไดเร็คชั่น ครองอันดับ 3-5 ตามลำดับ

ฟิฟตี้ เซนต์ ใจป้ำ บริจาคเงิน 100,000 เหรียญ

เคยตกเป็นกระแสวิพาษ์วิจารณ์เมื่อ ฟิฟตี้ เซนต์ เกิดคะนองปากไปล้อเลียนชายผู้หนึ่งที่มีอาการแอสเพอร์เกอร์ ซึ่งเป็นอาการผิดปกติทางพฤติกรรม และทำให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมหมกมุ่น และเข้าสังคมได้ยาก มาวันนี้ แร็พเปอร์หนุ่มขอแก้ตัวด้วยการบริจาคเงินเข้ากองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยทางด้านนี้

มีรายงานข่าวว่า ฟิฟตี้ เซนต์ ได้บริจาคเงินสูงถึง 100,000 เหรียญสหรัฐ เข้ากองทุนออทิสซึม สปีคส์ และได้กล่าวขอโทษกับการกระทำที่ผ่านมาของเขา และขณะเดียวกันก็ได้ขอร้องให้บรรดาเพื่อนๆ คนดังของเขาออกมาระดมกำลังกันช่วยเหลือผู้ป่วยทางด้านนี้อีกด้วย

แร็พเปอร์หนุ่มโพสต์วีดีโอแสดงความในใจว่า “ผมอยากจะเปลี่ยนความเข้าใจผิดนี้ ให้กลายมาเป็นความเข้าใจซึ่งกันและกัน มีคนจำนวนมากที่ถูกเพิกเฉย ถูกปฏิบัติอย่างผิดๆ และถูกปฏิเสธด้วยเหตุที่พวกเขาเป็นผู้พิการที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา ผมอยากจะเรียกร้องให้เพื่อนๆ นักดนตรี ดารา นักแสดงของผม และคนอื่นๆ ผู้ซึ่งอาจจะไม่ได้ตระหนักอย่างเต็มที่ถึงสิ่งนี้ ให้ออกมาร่วมกันช่วยเหลือในทางใดก็ตามที่พวกเขาสามารถทำได้”

โคลอี้ มอเรตซ์ ไม่หวั่นเกาเหลา คิม คาร์แดเชียน

ขณะที่สาวๆ ส่วนใหญ่ออกมาให้การสนับสนุน คิม คาร์แดเชียน กับการถ่ายภาพสุดวาบหวิวลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวแบบไม่เกรงใจใคร ดาราสาว โคลอี้ มอเรตซ์ กลับมีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป โดยเธอบอกว่าเธอไม่คิดว่าการกระทำของคิมเป็นการส่งเสริมความมั่นใจในรูปร่างของผู้หญิงแต่อย่างใด

มอเรตซ์ผู้ซึ่งพยายามทำให้คิมตระหนักว่าเธอยังมีแฟนๆ ซึ่งยังเด็กคอยมองดูเธออยู่นั้น ได้โพสต์บนทวิตเตอร์ว่า “ฉันหวังจริงๆ ว่าคุณจะตระหนักว่ามันสำคัญต่อสาวๆ แค่ไหนในการตั้งเป้าหมายให้พวกเขา สอนพวกเขาว่ามันยังมีอะไรดีๆในตัวเราอีกเยอะ มากกว่าแค่ร่างกายของเรา” โดยดาราสาวยืนยันว่าเธอไม่ได้ต้องการที่จะทำให้คิมรู้สึกอับอายกับรูปภาพของตัวเอง แต่เธอรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมกับการโพสต์ภาพแบบนี้ “ฉันเห็นภาพนั้น แล้วฉันต้องพูดอะไรบางอย่าง ภาพนั้นมันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับการสร้างความมั่นใจในรูปร่างเลย มันไม่ใช่ #BodyConfidence หรือ #LoveWhoYouAre มันถูกถ่ายขึ้นในแสงที่แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกทางด้านเพศ ซึ่งฉันรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมกับพวกสาวๆ ที่ดูอยู่ ฉันเกลียดมากๆ เลยกับการที่หญิงสาวต้องรู้สึกว่าพวกเขาต้องโพสต์ภาพอะไรที่จะเรียกให้คนกดไลค์เพิ่มขึ้น รีทวิต กดเฟเวอริทส์ หรือเรียกร้องให้ผู้ชายสนใจ มันไม่ใช่การล้อเลียนทางเพศ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความละอายทางรูปร่าง” มอเรตซ์ให้สัมภาษณ์

แน่นอนว่าคิมได้ออกมาแดกดันดาราสาวในทันที ด้วยการทวิตว่า “พวกเราขอต้อนรับ @ChloeGMoretz สู่ทวิตเตอร์ เพราะคงไม่มีใครรู้จักหรอกว่าเธอเป็นใคร” ซึ่งงานนี้ดาราสาวเห็นว่าเป็นเรื่องตลก พร้อมตอกกลับว่าแม้เธอจะไม่ได้เป็นเจ้าแม่โซเชียลมีเดียเหมือนคิม แต่เธอก็เป็นที่รู้จักนะจ๊ะ

หลังจากนั้นไม่นาน ดูเหมือนว่าทางฝ่ายคิมจะยอมอ่อนข้อให้ โดยโพสต์ว่า “ฉันรู้สึกมีอำนาจด้วยรูปร่างของฉัน ฉันรู้สึกมีอำนาจด้วยความรู้สึกทางด้านเพศของฉัน” ซึ่งงานนี้ดาราสาวรู้สึกว่าคิมควรตอบโต้แบบนี้ตั้งแต่แรก “ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ฉันหวังว่ามันจะออกมาแบบนี้ตั้งแต่แรก มันเป็นข้อความที่ดี มันแค่สายเกินไปหน่อย” ดาราสาวกล่าว

อย่างไรก็ตาม มอเรตซ์เองก็เพิ่งโพสต์ภาพของตัวเองในชุดบิกินีบนอินสตาแกรม โดยดาราสาวยืนยันว่าเธอต้องการสนับสนุนความมั่นใจในรูปร่างของตัวเอง “ฉันโพสต์ภาพหนึ่งตอนที่อยู่ที่เม็กซิโก…ฉันรู้สึกดี และฉันก็กำลังสวมบิกินีอยู่บนชายหาด ฉันไม่ได้ต้องการจะนำเสนอเรื่องราวทางเพศของตัวเอง มันก็แค่เป็นเพราะว่าภาพแบ๊กกราวนด์มันสวย ตอนที่ฉันโพสต์ฉันรู้ว่าจะมีเด็กสาวๆ หลายคนเห็นภาพนี้ ดังนั้นฉันเลยต้องมั่นใจว่ามันจะออกมาดูดี”

ยกเลิกคอนเสิร์ต เจเน็ท แจ็คสัน ตั้งท้องลูกคนแรก

และแล้วบ้านแจ็คสันก็กำลังจะมีข่าวดี เมื่อมีข่าวว่า เจเน็ท แจ็คสัน กำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรกกับสามี วิสแซม อัล มานา หลังจากที่เธอเพิ่งฉลองวันเกิดอายุครบ 50 ปีไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยข่าวนี้ตามมาหลังจาก

ที่เจเน็ทประกาศยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตของเธอไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าเธออยากจะให้ความสำคัญกับการสร้างครอบครัวเป็นหลักในตอนนี้

เจเน็ทโพสต์วีดีโอบนทวิตเตอร์ อธิบายว่า “เรากำลังอยู่ในช่วงที่สองของการทัวร์คอนเสิร์ต และทันใดนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่พวกคุณจะเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้รู้ ฉันกับสามีวางแผนที่จะสร้างครอบครัวของเรา ดังนั้นฉันเลยต้องเลื่อนการทัวร์คอนเสิร์ตออกไปก่อน”

ในตอนแรกแฟนๆ ของเธอก็ออกอาการผิดหวังที่คอนเสิร์ตถูกยกเลิก หลังจากที่เจเน็ทได้ทัวร์คอนเสิร์ตที่อเมริกาเหนือจนเสร็จเรียบร้อย แต่หลังจากนั้น นักร้องสาวก็โพสต์วีดีโอเพื่อยืนยันกับแฟนๆ ว่าเธอจะกลับมาแน่นอน แต่เธออยากทำหน้าที่แม่ให้กับลูกน้อยของเธอก่อน “ได้โปรด ถ้าพวกคุณจะสามารถพยายามเข้าใจฉันได้ว่ามันสำคัญแค่ไหนที่ฉันต้องทำสิ่งนี้ในตอนนี้ ฉันต้องพักผ่อน ตามคำสั่งของหมอ แต่ฉันไม่มีทางลืมพวกคุณแน่นอน ฉันจะยังคงทัวร์คอนเสิร์ตต่อไปเมื่อฉันสามารถทำได้”

เจเน็ทแต่งงานกับวิสแซมอย่างเงียบๆ เมื่อปี 2012 โดยเธอแค่ออกมายืนยันข่าวการแต่งงานหลังจากนั้นในปี 2013 ซึ่งการแต่งงานครั้งนี้เป็นครั้งที่สามของนักร้องชื่อดัง โดยเธอเคยแต่งงานมาก่อนกับ เจมส์ เดอบาร์จ เมื่อปี 1984 และแยกทางกันหลังจากนั้น 1 ปี ก่อนจะแต่งงานครั้งที่สองกับ เรเน เอลิซอนโด จูเนียร์ ในปี 1991 และหย่ากันในปี 2000

Quote

ผมรู้สึกเอียนกับการพูดถึงคำว่าเกย์ และเลสเบี้ยน…พวกเขาก็เป็นคนธรรมดา…วันหนึ่งผมอยากให้ลูกชายของผมกลับมาจากโรงเรียน แล้วบอกผมว่า “ผมเจอผู้ชายคนหนึ่ง และผมก็รักเขา” แล้วผมก็จะบอกเขาว่า “ได้ คุณทำได้ และมันก็โอเค”

จอช ฮัทเชอร์สัน

โด่งดังมาจากภาพยนตร์เรื่องดัง “Danish Girl” เร็วๆ นี้นางเอกสาว อลิเซีย วิคานเดอร์กำลังจะกลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อเธอเพิ่งเซ็นสัญญาแสดงนำในภาพยนตร์แอ๊กชั่นผจญภัยที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่าง “Tomb Raider”

แน่นอนว่างานนี้นางเอกสาวจะมารับบทเป็นลารา ครอฟท์ กำกับการแสดงโดยผู้กำกับชาวนอร์เวย์ และจัดจำหน่ายโดยค่ายหนังใหญ่อย่าง วอร์เนอร์ บราเธอร์ส

เรียกได้ว่านอกจากเป็นปลื้มแล้ว วิคานเดอร์ยังรู้สึกกดดันไม่ใช่น้อย เพราะลารา ครอฟท์คนก่อนอย่าง แองเจลินา โจลี ได้สร้างชื่อเสียงให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ใน “Lara Croft: Tomb Raider” เมื่อปี 2001 และ “Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life” เมื่อปี 2003 เอาไว้อย่างดีเยี่ยม โดยภาพยนตร์ทั้งสองทำรายได้รวมถึง 432 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก

วิลล์ ฟาร์เรลล์ รับบทนำใน ‘Regan’

ใครๆ อาจจะนึกถึง วิลล์ ฟาร์เรลล์ ในฐานะนักแสดงตลกอารมณ์ดี แต่งานนี้ฟาร์เรลล์ขอกลับมารับบทซีเรียส เมื่อเขาต้องแสดงเป็นอดีตประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน ในภาพยนตร์ชีวประวัติ “Regan”

ฟาร์เรลล์เพิ่งจะเซ็นสัญญากับ แกรี่ ซานเชซโปรดักชั่นส์ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้แล้วยังไม่มีการประกาศชื่อผู้กำกับ หรือผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้แต่อย่างใด

มีรายงานข่าวว่า ฟาร์เรลล์จะมาแสดงเป็นอดีตประธานาธิบดีเรแกน ในช่วงที่เขาเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สอง เมื่อเขามีอาการสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ และเด็กฝึกงานคนหนึ่งพยายามจะบอกกับเขาว่าเขากำลังแสดงเป็นประธานาธิบดีในภาพยนตร์อยู่

‘อิกกี้ อาเซเลีย’ ปลื้ม มี ‘เจสสิกา อัลบ้า’ เป็นแฟนเพลง

ปกติเวลามีใครบอกว่าชื่นชอบเพลงของเธอนักร้องสาว อิกกี้ อาเซเลีย ก็เป็นปลื้มหน้าบานอยู่แล้ว ยิ่งแฟนเพลงคนนั้นเป็นถึงนางเอกดังอย่าง เจสสิกา อัลบ้า งานนี้แร็พเปอร์สาวถึงกับปลื้มตัวลอยเลยทีเดียว

อาเซเลียให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกว่า “ฉันก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าเธอจะยังเป็นแฟนเพลงฉันอยู่หรือเปล่า แต่ย้อนกลับไปวันนั้น ฉันมีเพลงหนึ่งชื่อว่า “Pu$$y” และเธอก็โพสต์มันลงบนเฟซบุ๊คของเธอ แล้วบอกว่าเธอชอบเพลงนี้ ฉันประหลาดใจมากจริงๆ เพราะว่าฉันคิดว่าเจสสิกา อัลบ้า เป็นคนที่มีระดับและอ่อนโยน แล้วเพลงนี้มันก็เป็นเพลงที่หยาบและไร้สาระมาก ฉันคิดว่าฉันคงไม่ได้
คาดว่าใครบางคนที่อ่อนโยนจะมาชอบเพลงที่มันหยาบคาย แบบนี้ แต่มันก็เจ๋งมากเลย”

นอกจากนี้แล้ว นักร้องสาวยังเผยความรู้สึกที่เธอมีต่อแฟนเพลงของตัวเองว่า “ในฐานะที่ต้องเป็นแบบอย่าง ฉันไม่คิดว่าฉันเป็นแบบอย่างที่ดีหรอกนะคะ ฉันพินิจพิเคราะห์ว่าตัวเองทำอะไร เพราะรู้ว่ามีเด็กๆ กำลังจ้องมองฉันอยู่ และมันก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่ฉันจะไม่ทำบนเวทีอีกต่อไปแล้ว แต่ฉันก็คงจะไม่นั่งอยู่ที่สตูดิโอแล้วเอาแต่กังวลว่าแม่ของใครบางคนจะคิดอย่างไรกับเนื้อเพลงของฉันหรอก”

จีเซล บุนด์เช็น เผยเคยถูกวิจารณ์ว่าจมูกใหญ่

เธออาจจะเป็นนางแบบสาวมืออาชีพที่มีรูปร่างหน้าตาสุดแสนจะเพอร์เฟกท์ในสายตาคนค่อนโลก แต่ จีเซล บุนด์เช็นก็เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องรูปร่างหน้าตา เมื่อครั้งที่เธอก้าวเข้ามาวงการนางแบบใหม่ๆ ในช่วงปี’90 แต่ด้วยความไม่ย่อท้อ ประกอบกับกำลังใจที่ดีจากบิดา ทำให้วันนี้เธอกลายมาเป็นนางแบบที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก โดยมีรายงานว่ารายได้ของเธอแต่ละปีนั้นสูงกว่า 386 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่ปี 2001

บุนด์เช็นกล่าวว่า “ฉันจำได้ว่ามีคนบอกฉันว่าจมูกของฉันใหญ่เกินไป หรือไม่ก็ตาของฉันมันเล็กเกินไป ซึ่งนั่นคงทำให้ฉันไม่มีโอกาสได้อยู่บนหน้าปกนิตยสารหรอก…มันไม่ง่ายเลยเมื่อคุณอายุ 14 ปี และต้องได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ มันทำให้ฉันรู้สึกไม่มั่นคง ฉันบอกพ่อของฉัน แล้วเขาก็บอกว่า “คราวหน้า บอกพวกเขาไปว่า ฉันมีจมูกที่ใหญ่ และนั่นมาพร้อมกับบุคลิกที่ใหญ่ตามไปด้วย” ในตอนนั้นฉันรู้สึกว่าถ้าฉันรักษาความขยัน และทำทุกอย่างให้ดีที่สุดได้ ทุกอย่างมันก็จะออกมาดีเอง”

ตอนนี้ บุนด์เช็น เป็นมารดาของเบนจามินวัย 6 ขวบ และวิเวียนวัย 3 ขวบ นอกจากนี้เธอยังดูแลลูกติดของสามี ทอม เบรดี้ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งครอบครัวที่อบอุ่นทำให้ในที่สุดนางแบบสาวตัดสินใจหยุดงานเดินแบบบนรันเวย์ทั้งหมด แต่เธอก็ยังไม่สามารถหยุดทำงานอื่นๆ ได้ “ฉันเองต้องปรับตัวอย่างหนักจากชีวิตก่อนที่จะมาเป็นแม่คน…ลูกๆ ของฉันเป็นเด็กที่ตลก และน่ารัก แต่พวกเขาก็เป็นเด็กที่มีความต้องการไม่สิ้นสุดด้วย” นอกจากนี้เธอยังยืนยันอีกด้วยว่า “ฉันยังไม่ได้เกษียณนะคะ ฉันแค่พยายามจะทำแก้วของฉันให้ว่างเปล่า เพื่อที่ฉันจะได้เติมสิ่งต่างๆ ที่มันสอดคล้องกับความเป็นฉันในทุกวันนี้ได้มากกว่านี้”

คิม คาร์เดเชียน ประณามวอลล์ สตรีท บิดเบือนประวัตศาสตร์

ด้วยเหตุที่มีเชื้อสายอาร์เมเนียน คิม คาร์เดเชียน เลยรู้สึกเจ็บปวดเมื่อวอลล์ สตรีท เจอร์นัล ตีพิมพ์บทความปฏิเสธประวัติศาสตร์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอาร์เมเนีย ย้อนกลับไปเมื่อปี 1915 ว่าไม่เป็นความจริง

คาร์เดเชียนออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงต่อต้านอย่างรุนแรงถึงการกระทำในครั้งนี้ ผ่านบล็อกส่วนตัวของเธอว่า “ให้เงินพูดไป และตอนนี้มันก็พูดถึงเรื่องไร้สาระ ครอบครัวของฉันและฉันเองต่างก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อเรื่องไร้สาระบนสื่อต่างๆ อยู่แล้วและเราเรียนรู้ที่จะทำเป็นไม่สนใจมัน การโกหกทำให้การพาดหัวข่าวมันน่าสนใจ การพาดหัวที่ดีทำให้ปกหนังสือออกมาดูดี และปกหนังสือที่ดีก็ทำให้นิตยสารขายได้ แต่เมื่อฉันได้ยินเรื่องการโฆษณาเต็มหน้า ที่ตีพิมพ์บนวอลล์ สตรีท เจอร์นัล ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อาร์เมเนียว่าไม่เป็นความจริง อันนี้ฉันปล่อยวางไม่ได้”

คิมเขียนต่อว่า “สำหรับวอลล์ สตรีทเจอร์นัล ที่ตีพิมพ์อะไรแบบนี้นั้น มันเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ สร้างความหงุดหงิด และอันตรายมาก มันเป็นเรื่องหนึ่งหากมีหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ที่ไม่น่าเชื่อถือทำแบบนี้เพื่อให้ได้กำไรจากข่าวอื้อฉาว แต่สำหรับหนังสือพิมพ์ที่น่าเชื่อถืออย่างวอลล์ สตรีท เจอร์นัล ที่จะมาหากำไรจากการทำลายล้างเชื้อชาติ มันน่าละอายและรับไม่ได้เลย การเผยแพร่การปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยประเทศที่มีส่วนต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ นี่ไม่ใช่การตีพิมพ์ “มุมมองที่กระตุ้นให้เกิดการปลุกระดม” แต่นี่คือการกระจายความเท็จ มันเป็นการขาดความรับผิดชอบทางศีลธรรม และเหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง หากนี่เป็นโฆษณาที่ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว หรือออกมาผลักดันทฤษฎีการกบฏในเหตุการณ์ 9/11 เรื่องแบบนี้พวกคุณจะตีพิมพ์ไหม”

เปิดตัวแฟนสาวคนใหม่ของ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ

ยังคงรักษามาตรฐานเดิมไม่ว่าจะเปลี่ยนแฟนมาแล้วกี่ครั้ง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ก็ยังหนีไม่พ้นเดทกับนางแบบ และหลังจากเลิกรากับคนเก่ามาได้สักระยะ ดิคาปริโอก็พร้อมจะเปิดตัวหวานใจคนใหม่แล้ว

พระเอกหนุ่มเพิ่งเลิกกับนางแบบสาว เคลลี โรห์รบาค ไปเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา และหลังจากปล่อยตัวให้เป็นโสดมาได้สักพัก ก็มีรายงานว่าเขากำลังคบหาดูใจอยู่กับนางแบบชาวอังกฤษ โรซี ออร์เนอร์

มีข่าวว่าลีโอได้พาโรซีไปร้านขนมชื่อดังแห่งหนึ่งในนิวยอร์กเมื่อเร็วๆ นี้ โดยว่ากันว่าทั้งสองแต่งตัวดูง่ายๆ สบายๆ สวมหมวกเบสบอลทั้งคู่ และดูท่าทางโรซีจะติดลีโอเอามากๆ เรียกได้ว่าบรรยากาศหวานชื่นจนขนมในร้านจืดไปเลยทีเดียว

Quote

“คุณไม่สามารถจะใช้ชีวิตในแง่บวกได้ หากคุณยังมีจิตใจใฝ่แตในแง่ลบ”

ไมลีย์ ไซรัส

ใน ‘Kingsman : The Golden Circle’

เป็นที่แน่นอนแล้วว่า พระเอกหุ่นล่ำแชนนิ่ง ทาทัม จะเข้ามาสร้างสีสันให้กับภาพยนตร์ภาคต่ออย่าง “Kingsman : The Golden Circle” ซึ่งเป็นภาคที่สองของ “Kingsman : The Secret Service” ภายใต้การกำกับของ แมทธิว วอห์น

ภาพยนตร์ภาคแรกนั้นนำแสดงโดย โคลิน เฟิร์ธ, แซมมวล แอล.แจ็คสันและ ทารอน เอเกอร์ตัน เข้าฉายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว กวาดรายได้ไปกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ เฉพาะในสหรัฐอเมริกา และกวาดรายได้รวมเกือบ 415 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก สำหรับภาคต่อนั้นจะเป็นการดำเนินเรื่องราวต่อไปของ แกรี่ เอ็กซี่ อันวิน(แสดงโดย เอเกอร์ตัน) โดยเราจะได้เห็นการกลับมาของตัวละครที่เสียชีวิตไปแล้วทั้งโคลิน และ เอ็ดเวิร์ด ฮอลครอฟท์ แต่จะกลับมาในรูปแบบใดนั้นคงต้องติดตามชม

นอกจากทาทัมแล้ว ยังมีข่าวว่า เปโดร ปาสคาล, ฮัลลี่ เบอร์รี่ และจูเลียน มัวร์ กำลังถูกทาบทามให้มาแสดงในภาพยนตร์ภาคต่อนี้ด้วย ส่วนตัวละครที่ทาทัมมารับบทบาทนั้นยังไม่เป็นที่เปิดเผยแน่ชัดว่าเป็นตัวไหน แต่คาดว่าเขาน่าจะมารับบทเป็นคู่ปรับชาวอเมริกันที่เป็นที่รู้จักกันในนามสเตทส์แมน

และเพื่อทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น มีข่าวว่าทางผู้กำกับฯ ได้ทาบทามให้ท่านเซอร์ เอลตัน จอห์น มาแสดงในภาพยนตร์ภาคนี้ด้วย โดยอันที่จริงเขาได้ถูกวางตัวเอาไว้ตั้งแต่ภาพยนตร์ภาคแรกแล้ว แมทธิว วอห์น ผู้กำกับฯ กล่าวว่า “ผมมีความคิดว่า “ใครคือคนดังที่แย่ที่สุดที่คุณอยากให้เข้าติดอยู่ในคุก” แล้วผมก็คิดถึงเอลตัน จอห์น ขึ้นมา และอยากได้เอลตัน
จอห์น มาแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวในหนัง แล้วผมก็อยากจะทำฉากต่อสู้ที่ได้เอลตัน จอห์นมาไล่เตะผู้คนเอาให้กลัวกันให้หมด”

“Kingsman: The Golden Circle”มีกำหนดเข้าฉายราวเดือนมิถุนายนปีหน้า

เคลลี่ คลาร์กสัน คลอดอย่างปลอดภัย ได้ลูกชาย

เรียกได้ว่าเป็นพระเอกทั้งในจอและนอกจอจริงๆ สำหรับ นิโคลัส เคจ ที่ล่าสุดเพิ่งไปมีเรื่องกับนักร้องนักแต่งเพลง วินซ์ นีล แห่งวงมอทลีย์ ครู เนื่องจากเห็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมของนักร้องรุ่นเก๋า

เรื่องมีอยู่ว่า เคจได้เดินทางไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งในลาสเวกัส และมีหญิงสาวคนหนึ่งได้ขอลายเซ็นจากเขา หลังจากนั้น เขาได้เห็นนีลกระชากผมหญิงสาวคนดังกล่าวอย่างรุนแรง

พระเอกหนุ่มไม่รอช้า ได้ปราดเข้าไปล็อกแขนนีลเอาไว้ พร้อมทั้งตะโกนให้หยุดการกระทำดังกล่าว ก่อนจะผลักเขาไปกระแทกเข้ากับรถที่จอดอยู่ หลังจากนั้น ตำรวจลาสเวกัสได้เข้ามาระงับเหตุการณ์เอาไว้ได้ ก่อนจะตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับนีล แต่ก็ไม่ได้ทำการจับกุมตัวแต่อย่างใด

แอน แฮทธาเวย์ คลอดแล้วจ้า

ต้องขอแสดงความยินดีด้วยจริงๆ เพราะหลังจากตั้งหน้าตั้งตารอจะมีเบบี๋เป็นของตัวเองมานานเป็นปีๆ ในที่สุด แอน แฮทธาเวย์ ก็คลอดลูกชายคนแรกให้กับสามี อดัม ชูลแมน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เบบี๋ตัวน้อยของนางเอกสาวมีชื่อว่า โจนาธาน โรสแบงค์ส ชูลแมน ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา โดยทั้งแม่และทารกน้อยมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงดี

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มีข่าวลือหนาหูว่าแฮทธาเวย์กำลังตั้งครรภ์ และเมื่อเดือนพฤศจิกายน ทุกคนก็เริ่มเห็นชัดว่านางเอกสาวกำลังตั้งท้องจริงๆ ก่อนที่เธอจะแชร์ภาพตัวเองในชุดว่ายน้ำ เผยให้เห็นท้องที่นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด พร้อมคำบรรยายภาพว่า “คือ การโพสต์ภาพในชุดบิกินีเป็นอะไรที่ไม่ค่อยจะใช่ตัวฉันสักเท่าไรนัก แต่ก็แค่ตอนนี้ที่ฉันกำลังอยู่ริมชายหาด และแอบเห็นว่าฉันกำลังถูกถ่ายรูป ฉันก็เลยคิดว่าหากภาพอะไรแบบนี้มันจะหลุดออกไปสู่โลกภายนอก อย่างน้อยมันก็ควรจะเป็นภาพที่ทำให้ฉันมีความสุข และเป็นภาพที่ถูกถ่ายโดยได้รับความยินยอมจากฉัน และคงต้องอาศัยฟิลเตอร์บ้าง

เคท ฮัดสัน เผยไม่ชอบห่างจากลูก

เป็นคุณแม่ลูกสองที่ดูยังสาวและยังสวยจนเป็นที่อิจฉาของใครๆ หลายๆ คน เพราะนอกจากลูกชายทั้งสองหน่อจะน่ารักน่าเอ็นดูแล้ว เคท ฮัดสัน ยังจัดว่าเป็นดาราที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในวงการฮอลลีวู้ด แต่ถึงกระนั้น นางเอกสาวก็ยอมรับว่าเธอกลัวมากกับการที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกๆ

ฮัดสันให้สัมภาษณ์ถึงการเป็นแม่ว่า “ฉันยังเด็กมากเลย อายุสัก 23 ปีได้มั้ง ตอนที่ฉันมีไรเดอร์ ดังนั้นความสัมพันธ์ของเราก็เลยค่อนข้างแปลก ฉันหมายถึงเราก็สนิทกันนะคะ และฉันก็เป็นแม่ของเขา ฉันก็เป็นผู้ใหญ่แล้วล่ะในเรื่องกิริยามารยาท ฉันโตแล้วในเรื่องของความสุภาพเรียบร้อย ฉันโตแล้วในเรื่องของความกตัญญูรู้คุณ แต่ฉันก็ยังคงเป็นแม่ที่ห่ามๆ อยู่สักหน่อย”

นางเอกสาวกล่าวต่อว่า “บางวันฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันควรจะได้รับรางวัลแม่ดีเด่นประจำวัน และบางวันฉันก็พบว่าตัวเองกำลังทำอะไรประหลาดๆ ที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์จริงจังอะไรเลย ในมุมไกลๆ ในบ้านของฉัน และฉันก็พบว่าฉันกำลังจงใจอย่างจริงจังที่จะหลบให้พ้นจากลูกๆ แม้ว่าจะเป็นตอนที่ฉันเขียนหนังสืออยู่ ฉันต้องเดินทางไปไกลจากลูกๆ เป็นสัปดาห์เพื่อโปรโมทหนังสือของตัวเอง ซึ่งฉันก็มีความสุขที่ได้มีเวลาเป็นของตัวเอง และตื่นเต้นที่ได้รับประสบการณ์ดังกล่าว แต่ว่ามันก็มีความรู้สึกที่เหนียวแน่น ดึงรั้ง ที่ไม่สามารถจะลบเลือนไปได้ ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันทำให้ฉันต้องพลาดช่วงสัปดาห์ที่ลูกๆ ของฉันได้เติบโต ซึ่งมันทำให้ฉันเจ็บปวด”

จิม แคร์รีย์ ทิปเบาะๆ

แค่กว่า 8,000 บาท

ออกจะสบายอกสบายใจที่อัลบั้มใหม่ขึ้นอันดับหนึ่งชาร์ตบิลบอร์ด 200 นักร้องสาว เกวนสเตฟานี่ เลยมีเวลามาเล่นแผลงๆ บนอินสตาแกรมรับวันเอพริลฟูล

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาสเตฟานี่โพสต์ภาพอัลตราซาวนด์ลงบนอินสตาแกรมของเธอ พร้อมข้อความประกอบว่า “ผู้หญิงจ้า” และสัญลักษณ์ “Gx” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์รองเท้าที่เธอผลิต

งานนี้มีทั้งคนที่ตกหลุมพราง และคนที่รู้ดีว่านักร้องสาวแกล้งโพสต์ให้เข้ากับกระแสเอพริลฟูล โดยบางคนได้คอมเมนต์ว่า “พระเจ้า นี่มันเป็นแค่เรื่องตลก พวกคุณต้องรู้จักผ่อนคลายเสียบ้างนะ” ในขณะที่บางคนกลับมองว่าสเตฟานี่เล่นตลกร้ายไปเสียหน่อย “ฉันหวังว่าคุณจะท้องจริงๆ เพราะฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกรับวันเอพริลฟูลที่น่ารังเกียจและใจร้ายมาก ลองคิดถึงผู้หญิงที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ หรือได้สูญเสียลูกไปสิ น่าละอายใจจริงๆ ที่คุณเล่นตลกแบบนี้” ซึ่งนักร้องสาวไม่ได้ออกมาตอบโต้แต่ประการใด

เคนเดลล์ เจนเนอร์ ออกเดทนักบาสเอ็นบีเอ

                                                                             Quote

คุณจะรู้ว่ามันคือความรัก เมื่อทุกอย่างที่คุณต้องการคือการทำให้คน
คนนั้นมีความสุข แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสุขนั้นก็ตาม

จูเลีย โรเบิร์ตส