
‘ศึกษิษฏ์’ซัด‘อนุทิน’โยกย้าย‘มหาดไทย’ไม่หยุด ตั้งข้อสังเกตโยง‘บ้านใหญ่’รับศึกเลือกตั้ง
วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 15.45 น.
‘ศึกษิษฏ์’ซัด‘อนุทิน’โยกย้าย‘ขรก.มหาดไทย’ไม่หยุด ตั้งข้อสังเกตโยงเครือข่าย‘บ้านใหญ่’รับศึกเลือกตั้ง ตอก‘ธนาธร’หลังออกโรงป้อง‘เสี่ยหนู’ เหน็บ‘ภท.-ปชน.’ติดค้างสินน้ำใจกันอยู่หรือไม่
เมื่อเวลา 14.55 น. วันที่ 19 ธ.ค.68 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยว่า ภายใต้รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ที่ตัวเลขโยกย้ายข้าราชการล่าสุดคือ 395 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่มีที่สิ้นสุด คาดว่าคิวต่อไปจะเป็นหัวหน้าสำนักงานระดับจังหวัด ทั้งนี้ เรามีผู้ว่าทั้งหมด 76 จังหวัด 50 คนโดนโยกย้ายไปแล้ว ในส่วนของกรมทั้งหมด 6 กรม ย้ายไปแล้ว 5 กรม ปลัดจังหวัด 76 จังหวัด ย้ายไปแล้ว 40 คนแล้ว ขณะที่นายอำเภอมี 787 อำเภอ 200 คนโดนโยกย้ายไปแล้ว ซึ่งเป็นจำนวนที่น่าตกใจมาก เป็นสัดส่วนที่ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยบอกว่าไม่เคยเห็นมาก่อนในระยะสั้นๆ แค่นี้
นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่า นอกจากตัวเลขที่น่าตกใจแล้ว สิ่งที่น่ากังวลกว่านั้นคือความใกล้ชิดกับเครือข่ายของบางจังหวัด สองปีที่นายอนุทินเป็น รมว.มหาดไทยสมัยรัฐบาลเพื่อไทย อธิบดีกรมการปกครองเป็นอดีตผู้ว่าบุรีรัมย์ทั้งสองคน ขณะที่กรมการปกครองมีความสำคัญกับการเลือกตั้งอย่างมาก สามารถควบคุมกลไกในพื้นที่ได้หมดโดยเฉพาะกำนันผู้ใหญ่บ้าน 2.9 แสนคน และอาสาสมัครรักษาดินแดนอีก 2.7 หมื่นคน รวมแล้ว 3.1 แสนคน ในส่วนของอธิบดีกรมที่ดินซึ่งมีความสำคัญมากกับคดีเขากระโดง ก็เป็นลูกชายของอดีตผู้ว่าฯ บุรีรัมย์
ขณะที่ในส่วนของนายอำเภอตัวเลขโยกย้ายใกล้เคียงกับข่าวบ้านใหญ่ย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างมาก เช่น จ.ชลบุรีมี 11 อำเภอ ย้ายไปแล้ว 6 อำเภอ จ.สุพรรณบุรีมี 10 อำเภอ ย้ายไป 4 อำเภอ จ.นครราชสีมา เขต 6 เขตเดียวย้ายไป 2 อำเภอ จ.นครปฐมเขต4 และเขต 6 มีการโยกย้ายนายอำเภออีก ซึ่งเปรียบเทียบสัดส่วนกับการเลือกตั้งเห็นได้ชัดเจน ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกัน การโยกย้ายมีรูปแบบทั้งจำนวน ที่มาที่ไปและแนวทางที่บังเอิญคล้ายคลึงกับที่บ้านบ้านใหญ่ย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งไม่ใช่การโยกย้ายตามฤดูกาลแน่นอน
นายศึกษิษฏ์ กล่าวต่อว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่านายอนุทินยังโชคดีและจริงอย่างที่นายอนุทินเคยพูดว่าถ้ามีฝ่ายค้ำอยู่ ขณะที่แกนนำพรรคประชาชนก็ออกมาพูดแก้ตัวให้เรียบร้อย ว่าการโยกย้ายข้าราชการแบบนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับการใช้กลไกข้าราชการไปช่วยพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งพรรคเพื่อไทยขอตั้งข้อสังเกตว่าไม่แน่ใจว่าการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าพูดแบบนี้เป็นเพราะไม่รู้เรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน หรือไร้ประสบการณ์ ทั้งที่ตัวแทนของพรรคประชาชนเองเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบราชการมาโดยตลอดหรือรัฐพันลึก เลยไม่แน่ใจว่าไร้ประสบการณ์หรืออะไรกันแน่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากยอมรับแล้วว่าถูกหลอกผิดสัญญา MOA ดังนั้นพูดไม่ได้ว่าเป็นการโทษเหยื่อหรืออะไร ซึ่งเกิดขึ้นจากการถูกหักหลังไปแล้ว และขอตั้งข้อสังเกตว่ามีสินน้ำใจติดค้างอะไรกันอยู่หรือเปล่าระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน ไปตกลงอะไรกันไว้ตนก็ไม่แน่ใจเพราะมาดูท่าทางแล้วไม่ค่อยอยากจะตรวจสอบการทำงานรัฐบาลเท่าไหร่
“ในฐานะพรรคเพื่อไทยแม้ยุบสภาแล้ว เราจะยังตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลรักษาการอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด เพราะเราถือว่าเป็นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในระยะยาว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขอให้ประชาชนช่วยกันจับตาดูด้วยว่าการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงเหล่านี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์พี่น้องประชาชนหรือไม่ หรือทำเพื่อผลประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่งเพื่อเตรียมการเลือกตั้งสำหรับการเลือกตั้งที่มาถึงเร็วๆ นี้” นายศึกษิษฏ์ กล่าว












