วิกฤตฟองสบู่อสังหาจีน “ปัญหาซุกใต้พรม” ที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/world/686794

วันที่ 08 ก.ค. 2565 เวลา 08:13 น.

ช็อก! ชินโซ อาเบะ อดีตนายกฯญี่ปุ่นถูกลอบยิง

นักวิเคราะห์เผยข้อมูลที่น่าตกใจ ชี้อาจมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในจีนอีกกว่า 30 แห่งที่จะผิดชำระหนี้ คิดรวมกันเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้วงการอสังหาจีนสั่นสะเทือนจากการที่ Evergrand Group บริษัทอสังหายักษ์ใหญ่แดนมังกร ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ จนทำให้รัฐบาลจีนได้มีนโยบายการเข้ามาควบคุมการก่อหนี้ของภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ 

Charlene Chu นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Autonomous Research หน่วยงานวิจัยจาก Sanford C. Bernstein & Co. ออกตัวเลขคาดการณ์ว่า จะมีบริษัทอสังหาถึงกว่า 30 แห่งที่ผิดชำระหนี้ คิดรวมเป็นมูลค่าถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์

“เรายังอยู่เพียงแค่ช่วงเริ่มต้น” (การนัดผิดชำระของบริษัทอสังหาในตลาด)

วิกฤตฟองสบู่อสังหาจีน "ปัญหาซุกใต้พรม" ที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น

“สถานการณ์ต่าง ๆ จะหนักหนาสาหัสมากขึ้นเมื่อธนาคารจะตีมูลค่าหลักประกันของบริษัทลดลง รวมทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ของแต่ละบริษัท จะยิ่งกินเวลานาน ยิ่งไปกว่านั้นหนี้เสียก้อนโตที่คนซื้ออสังหาไปแล้วเริ่มผ่อนไม่ไหว ก็มีแนวโน้มมากขึ้น เนื่องจากอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นในจีน”  

“ความจริงวันนี้คือ ภาคอสังหาไม่โตแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งภาวะนี้ก็ยิ่งทำให้กระทบกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องอาศัยพึ่งพากัน ไม่ว่าจะเป็น สินค้าตกแต่งบ้าน, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า ต่าง ๆ ก็จะมียอดขายดร็อปตามไปด้วย รวมทั้งประชากรในจีนที่มีอัตราเกิดน้อยลง”

ทั้งนี้ ประชากรกลุ่มวัยทำงานคือลูกค้าหลักของภาคอสังหา โดยจากสถิติคนกลุ่มนี้เคยมีมากที่สุดราว 801 ล้านคนในปี 2015 และปัจจุบันลดลงมาเหลือเพียง 20 ล้านคน ซึ่งจากปัจจัยลบเหล่านี้ ทำให้ Chu คาดการณ์ว่า มีโอกาสที่จีนกำลังก้าวเดินเข้าสู่ยุคใหม่ ที่อาจเห็นตัวเลขเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับเลขตัวเดียว

อ้างอิง

บอริส จอห์นสัน ประกาศลาออกนายกฯ อังกฤษ รักษาการณ์ต่อถึง ต.ค. นี้

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/world/686792

วันที่ 07 ก.ค. 2565 เวลา 18:32 น.

บอริส จอห์นสัน ประกาศลาออกนายกฯ อังกฤษ รักษาการณ์ต่อถึง ต.ค. นี้

บอริส จอห์นสัน ยอมประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม หลังจากก่อนหน้านี้รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่างพากันลาออกร่วมกว่า 40 คน

จากการเปิดเผยของสำนักข่าว บีบีซี ระบุว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม หลังถูกสมาชิกพรรคกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ แต่จะยังคงรักษาการณ์ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษต่อไปจนกว่าจะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ในเดือนต.ค.

ก่อนหน้าที่นายจอห์นสันจะลาออกเพียง 2 วัน นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายริชี ซูนัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลาออกจากตำแหน่ง และในจดหมายลาออก นายซูนัค และนายจาวิด ระบุถึงความไม่น่าเชื่อถือของนายจอห์นสันในฐานะผู้นำ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันรัฐบาลของนายจอห์นสัน เพิ่งเผชิญกับข่าวฉาวล่าสุดเมื่อนายคริส พินเชอร์ ลาออกจากตำแหน่งรองประธานวิปรัฐบาล ที่คอยดูแลเรื่องระเบียบวินัยของพรรค เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเขาลวนลามชาย 2 คน ที่คลับส่วนบุคคล แต่นายพินเชอร์ปฏิเสธข้อกล่าวหา 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยมได้จัดการประชุมเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายจอห์นสัน ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชน และสมาชิกรัฐสภาต่อการที่รัฐบาลอังกฤษจัดงานเลี้ยงสังสรรค์หลายครั้งที่บ้านพักนายกรัฐมนตรีในช่วง 2 ปี ของมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายกฯอังกฤษ ลั่นไม่ลาออก! แม้ รมต.พร้อมใจยื่นใบลาออกแล้ว

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/world/686784

วันที่ 07 ก.ค. 2565 เวลา 09:36 น.

นายกฯอังกฤษ ลั่นไม่ลาออก! แม้ รมต.พร้อมใจยื่นใบลาออกแล้ว

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนกรานหนักแน่นว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้รัฐมนตรีหลายรายในคณะรัฐบาลจะพร้อมใจกันยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง

ถือเป็นช่วงที่นายจอห์นสันกำลังเผชิญกับมรสุมลูกใหญ่ทางการเมือง หลังจากที่นายจอห์นสันรอดพ้นมติไม่ไว้วางใจในพรรคอนุรักษ์นิยมเมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุด นายริชิ ซูแนค รัฐมนตรีคลังอังกฤษ และนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุข และรัฐมนตรีอีกหลายรายต่างพาเหรดกันยื่นใบลาออก 

นายซาจิด จาวิด และนาย ริชี ซูนัก กล่าวว่า พวกเขาทั้งสองคนไม่สามารถอยู่ในรัฐบาลชุดนี้ได้อีกต่อไป หลังจากผู้นำอังกฤษได้ออกมาขอโทษในกรณีของ นายคริส พินเชอร์ ที่ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งรองประธานวิปรัฐบาล ในกรณีถูกร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมทางเพศซึ่งสร้างความเสื่อมเสียให้กับรัฐบาล ทำให้พวกเขาหมดความเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน เช่นเดียวกับสมาชิกสภานิติบัญญัติหลายคนก็หมดความเชื่อมั่นในตัวผู้นำอังกฤษเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม นายจอห์นสัน ยืนยันว่าจะไม่ลาออกและ การจัดการเลือกตั้งใหม่จะไม่มีทางเกิดขึ้น พร้อมกับแต่งตั้งให้ นายนาดิม ซาฮาวี รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ขึ้นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่ รวมถึงแต่งตั้งให้นายสตีฟ บาร์เคลย์ หัวหน้าสำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ โดยนายซาฮาวีกล่าวว่าเขาจะพิจารณาทางเลือกทั้งหมดเพื่อทำให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาขยายตัวอีกครั้ง รวมถึงแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อโดยเร็วที่สุดต่อไป

‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ รับเฟซบุ๊กเจอวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุด จ่อปลดพนักงาน เซ่นพิษเศรษฐกิจ

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/world/686763

วันที่ 05 ก.ค. 2565 เวลา 11:48 น.

'มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก' รับเฟซบุ๊กเจอวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุด จ่อปลดพนักงาน เซ่นพิษเศรษฐกิจ

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta Platforms ส่งข้อความถึงพนักงานระหว่างการประชุมร่วมกับพนักงาน 77,800 รายผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ว่า บริษัทกำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด และอาจจำเป็นต้องลดขนาดองค์กรลงในเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กล่าวกับพนักงานว่า “ผมคิดว่าพวกคุณบางคนอาจตัดสินใจว่าบริษัทนี้ไม่เหมาะกับตัวเอง และการจะเลือกเดินออกไปด้วยตัวเองนั้นโอเคสำหรับผม ในความเป็นจริงแล้วก็อาจจะมีพนักงานหลายคนที่ไม่เหมาะจะอยู่กับบริษัท”

สำหรับธุรกิจโฆษณาของ Meta ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวซึ่งจำกัดจำนวนข้อมูลผู้ใช้ที่เฟซบุ๊กและ อินสตาแกรม ทำให้ Meta จึงมีกำไรลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ สูญเสียมูลค่าตลาดไปราว 2.3 แสนล้านดอลลาร์

ด้าน คริส ค็อกซ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Meta แสดงความคิดเห็นจากสัญญาณเตือนของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ระบุว่า Meta กำลังเผชิญกับ “ช่วงเวลาที่เลวร้าย” และ “ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนรุนแรง”

Meta ถือเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ที่กำลังเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย (resession) เงินเฟ้อ สงครามในยูเครน โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Tesla, Netflix, Unity Software, Coinbase Global และ Stitch Fix ได้ประกาศลดตำแหน่งงานลงอย่างมากเช่นกัน

อ้างอิง

สหรัฐฯ กดดัน Apple-Google แบน TikTok จากแพลตฟอร์ม ชี้เป็นภัยความมั่นคงชาติ

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/world/686751

วันที่ 01 ก.ค. 2565 เวลา 16:31 น.

สหรัฐฯ กดดัน Apple-Google แบน TikTok จากแพลตฟอร์ม  ชี้เป็นภัยความมั่นคงชาติ

สมาชิกคณะกรรมาธิการด้านการสื่อสารของสหรัฐ ออกมาเรียกร้องให้ Apple และ Google ถอดแอปพลิเคชัน TikTok ออกจากระบบ และไม่ให้มีการเปิดดาวน์โหลดใน App Store เชื่อมีเอี่ยวสอดแนมข้อมูลจากรัฐบาลจีน

นาย Brendan Carr สมาชิกคณะกรรมาธิการด้านการสื่อสารของสหรัฐ ได้ส่งจดหมายถึงนาย Sundar Pichai และ Tim Cook ซีอีโอของ Apple และ Google ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ขอความร่วมมือให้ทำการถอดแอปฯ TikTok โดยมองว่าแอปดังกล่าวกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมจากฝั่งรัฐบาลจีน

TikTok is not just another video app.That’s the sheep’s clothing.It harvests swaths of sensitive data that new reports show are being accessed in Beijing.I’ve called on @Apple & @Google to remove TikTok from their app stores for its pattern of surreptitious data practices. pic.twitter.com/Le01fBpNjn

— Brendan Carr (@BrendanCarrFCC) June 28, 2022

นอกจากนี้ นาย Carr ได้ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นวาระความมั่นคงแห่งชาติ โดยกำหนดเวลาให้ทั้งสองบริษัท พิจารณาที่จะถอด TikTok ออก ภายในวันที่ 8 กรกฏาคมนี้ ซึ่งหากทั้งสองบริษัทยังไม่มีการถอดแอปฯ ดังกล่าว ก็จะต้องทำการชี้แจงถึงเหตุผลในการไม่ถอด

“จากการสอบสวนของ บัซฟีด นิวส์ พบว่า แอดมินของติ๊กต็อก ซึ่งอยู่ในปักกิ่งนั้น สามารถ ‘เข้าถึง’ ข้อมูลทุกอย่างได้ผ่านติ๊กต็อก ทั้ง ๆ ที่ติ๊กต็อกบอกว่า ข้อมูลสำคัญจะอยู่แต่ในสหรัฐเท่านั้น ไม่ถูกส่งกลับไปยังจีน”

นาย คารร์ ระบุว่า เรื่องนี้ ถือเป็นวาระความมั่นคงแห่งชาติ และ ให้เวลาทั้งสองบริษัท พิจารณาการถอดติ๊กต็อกออกจนถึงวันที 8 กรกฎาคมนี้ และหากยังไม่มีการถอดออกตามคำร้อง ทั้ง 2 บริษัทจะต้องชี้แจงว่าทำไมถึงไม่ถอด

อ้างอิง

บทวิเคราะห์ เมื่อจีนผ่อนคลายกฎโควิด เศรษฐกิจจะคืนชีพได้หรือไม่

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/world/686687

วันที่ 30 มิ.ย. 2565 เวลา 14:06 น.

บทวิเคราะห์ เมื่อจีนผ่อนคลายกฎโควิด เศรษฐกิจจะคืนชีพได้หรือไม่

เดือน มิ.ย. หุ้นจีนไหลเข้าดีที่สุดในปี 2565 ตลาดแผ่นดินใหญ่เด้งว 20% จากระดับต่ำสุด กองทุนป้องกันความเสี่ยงขาดทุน ส่วนนโยบายกว้างๆ ของจีนรองรับการเติบโต ไม่เหมือนในตะวันตก

สำนักข่าวรอยเตอร์ – การผ่อนคลายกฎการเดินทางล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโควิด-19 รวมกับสัญญาณนโยบายที่สนับสนุนอื่น ๆ ได้เริ่มดึงดูดนักลงทุนต่างชาติบางส่วนให้กลับมาที่หุ้นจีน เพิ่มโอกาสที่ตลาดจะสามารถรักษาระดับการตีกลับหลังจากการขายอย่างหนักหลายเดือน

ขณะที่ดัชนี S&P 500 กำลังจะปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกที่แย่ที่สุดของปีนับตั้งแต่ปี 1970 และพันธบัตรก็ทรุดตัวลง ตลาดทุนที่ทรุดโทรมของจีนเริ่มดูเหมือนที่หลบภัยจากพายุทั่วโลกของภาวะเงินเฟ้อที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความกลัวต่อภาวะถดถอย 

ดัชนี CSI300 blue-chip ของจีนเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากระดับต่ำสุดในเดือนเมษายน เช่นเดียวกับ Shanghai Composite หลังจากขาดทุนมากกว่า 10% ในไตรมาสแรก

กำไรที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายล็อกดาวน์และสัญญาณว่าปักกิ่งสามารถผ่อนคลายทั้งด้านนโยบายไวรัสและการปราบปรามด้านกฎระเบียบ ได้ล่อใจผู้จัดการเงินที่ลาออกจากกลุ่มในเดือนมีนาคมเพื่อกลับมาทำงานอีกครั้ง

เอลิซาเบธ ควิก ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนของหุ้นเอเชียของบริษัทจัดการสินทรัพย์อังกฤษ abrdn กล่าวว่าบรรดาผู้ที่รอดูอยู่ข้างสนาม “ได้แสดงความสนใจ (ตลาด) จีนเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา” “บางคนเลือกที่จะเพิ่มสถานะ (การลงทุน) ของตน”

นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นที่จดทะเบียนในจีนมูลค่า 74.6 พันล้านหยวน (11 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะเป็นการไหลเข้ารายเดือนที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้ ตามข้อมูลจาก Refinitiv Eikon

สัปดาห์นี้ หุ้นการท่องเที่ยวและการพนันพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากจีนลดการกักกันนักท่องเที่ยวลงครึ่งหนึ่งเหลือหนึ่งสัปดาห์

นักลงทุนหวังว่าจะเป็นสัญญาณว่าในที่สุดปักกิ่งสามารถผ่อนคลายนโยบายเกี่ยวกับ zero COVID-19 ที่เข้มงวด และทางการกำลังพยายามทำตามคำมั่นสัญญาเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley ระบุในรายงานเมื่อวันพุธว่า “นโยบาย zero COVID-19 ถูกกล่าวถึงว่าเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดที่นักลงทุนต้องเผชิญ เนื่องจากพวกเขาต้องการทำความเข้าใจการมุ่งเน้นนโยบายในปัจจุบันของจีน” “การพัฒนาล่าสุดเหล่านี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนอีกครั้งว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจได้รับการจัดลำดับความสำคัญ” จีนไม่มีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อต่างจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก การควบคุมโรค COVID-19 ของไวรัสโคโรน่าและการขาดการกระตุ้นที่เน้นการบริโภคจำนวนมากได้ทำให้อุปสงค์อ่อนตัวและปิดราคา ทำให้ธนาคารกลางผ่อนคลายนโยบายในขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่ยังคงเข้มงวดขึ้น

เจ้าหน้าที่อาวุโสได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนตลาดทุนและการเติบโต และได้บรรเทาการปราบปรามในภาคส่วนที่ครั้งหนึ่งเคยร้อนแรง เช่น เทคโนโลยี

หุ้นในบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba ซึ่งได้รับผลกระทบหนักในปี 2020 และ 2021 ได้พุ่งขึ้น 60% จากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมีนาคม

นักวิเคราะห์ของ J.P. Morgan เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแนะนำให้ลูกค้าเพิ่มตำแหน่งงานในประเทศจีนโดยตรง ซึ่งเปลี่ยนจากคำแนะนำก่อนหน้านี้เพื่อรักษาการเปิดเผยโดยอ้อมผ่านสินค้าโภคภัณฑ์หรือตลาดอื่นๆ

การฟื้นตัวของตลาดยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของกองทุนระดับภูมิภาคที่ยังคงลงทุนไปในปีที่แล้วและตลอดเดือนมีนาคม เมื่อการคว่ำบาตรของตะวันตกต่อรัสเซียทำให้เกิดความกลัวว่าจีนอาจตกเป็นเป้าหมายได้เช่นกัน

ดัชนี Eurekahedge ติดตามกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่เน้นประเทศจีนมากขึ้นด้วยกลยุทธ์ระยะสั้นเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนพฤษภาคม หลังจากขาดทุน 13.6% ในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2022

Anatole Investment Management Ltd ซึ่งเป็นบริษัทในฮ่องกงที่จัดการกองทุนหลักประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ ได้รับผลตอบแทนรายเดือนเป็นบวกในเดือนพฤษภาคม และขยายออกไปในเดือนมิถุนายน หลังจากที่ลดลง 22% ในช่วงสี่เดือนแรก ผู้คนคุ้นเคยกับผลการดำเนินงานกล่าว พวกเขาขอไม่เปิดเผยชื่อเพราะพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พูดในที่สาธารณะ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเดิมพันในบริษัทอินเทอร์เน็ตของจีน หลังจากที่ทางการจีนกังวลเกี่ยวกับตลาด ส่งสัญญาณถึงความเต็มใจที่จะยุติการปราบปรามตามกฎระเบียบเป็นเวลาเกือบสองปี

เมื่อได้รับการติดต่อจากสำนักข่าวรอยเตอร์ กองทุนอธิบายว่าการขยายตัวของเดือนนี้มีความสำคัญ และกล่าวว่าประเทศจีนยังคงมีการเปิดเผยที่ใหญ่ที่สุด

Aspex Management ซึ่งจัดการเงินทุนประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์รายงานผลตอบแทนที่เป็นบวกในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ตามเอกสารที่ Reuters เห็น โดยลดผลขาดทุนในช่วงห้าเดือนแรกของปีเหลือ 14.4% Aspex ไม่ตอบคำถาม

แต่ยังมีเหตุผลที่ควรระมัดระวัง และเงินทุนไหลเข้า 11 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนนั้นค่อนข้างจะพอประมาณเมื่อเทียบกับกระแสน้ำที่ไหลออกจากหุ้นและพันธบัตรประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสแรก ตามการระบุของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ

นักลงทุนกังวลว่าการคว่ำบาตรของตะวันตกต่อรัสเซียอาจเป็นพิมพ์เขียวสำหรับจีน ในขณะที่สุขภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโต เป็นเรื่องที่น่ากังวลนับตั้งแต่ผู้พัฒนา China Evergrande ผิดนัดชำระหนี้บางส่วนเมื่อปีที่แล้ว

State Street Global Markets Yuting Shao กล่าวว่าบริษัทไม่ได้กลับมามีน้ำหนักเกินในหุ้นจีน ในขณะที่ Ewan Markson-Brown ผู้จัดการกองทุนที่ CRUX Asset Management หลีกเลี่ยงไม่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์

“ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นปัญหาใหญ่” เขากล่าว

ถึงกระนั้น เงินก็ไหลกลับมาอีกครั้งและความเชื่อมั่นก็เปลี่ยนไป

กองทุนเปิดและซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุด 20 กองทุนที่ซื้อขายในฮ่องกงด้วยกลยุทธ์ตลาดหุ้นจีนทั้งหมดรายงานผลตอบแทนที่เป็นบวกเมื่อเดือนที่แล้วและ 17 กองทุนเติบโตสินทรัพย์ในเดือนพฤษภาคมตามข้อมูลของ Morningstar

Paul O’Connor หัวหน้าทีม multi-asset ของ Janus Henderson ในลอนดอนกล่าวว่าจีนมี “การยอมคล้อยตาม” แล้ว และตอนนี้ก็มีโอกาสที่จะทำได้ดีขึ้น

“พวกเขาได้รีเซ็ตการประเมินมูลค่าแล้ว และพวกเขาไม่มีอุปสรรคด้านนโยบายที่เรามีในสถานที่อื่นๆ ที่ธนาคารกลางกำลังระบายสภาพคล่องและขึ้นอัตราดอกเบี้ย”

Photo – REUTERS/Marton Monus

สีจิ้นผิงเยือนฮ่องกงครั้งแรกลั่นฮ่องกงคือไฟที่เกิดใหม่

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/world/686712

วันที่ 30 มิ.ย. 2565 เวลา 16:15 น.

สีจิ้นผิงเยือนฮ่องกงครั้งแรกลั่นฮ่องกงคือไฟที่เกิดใหม่

สีจิ้นผิงเดินทางเยือนฮ่องกงในโอกาสฮ่องกงกลับสู่อ้อมกอดจีนรอบ 25 ปี

สำนักข่าว AFP รายงานว่า ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีนเผยว่า ฮ่องกงคือไฟที่เกิดใหม่ ระหว่างเดินทางเยือนในโอกาสครบรอบ 25 ปีที่อังกฤษคืนฮ่องกงให้จีน นับเป็นการเดินทางเยือนครั้งแรกนับตั้งแต่การเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยถูกปราบปราม

การเยือนของผู้นำจีนถือเป็นโอกาศที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนในการแสดงอำนาจในการควบคุมฮ่องกงหลังจากการประท้วงใหญ่เมื่อปี 2019 ส่งผลให้ทางการจีนบังคับใช้การปราบปรามอย่างรุนแรง

สีจิ้นผิงกล่าวหลังเดินทางถึงสถานีรถไฟความเร็วสูงใจกลางฮ่องกงว่า “ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ฮ่องกงผ่านการทดสอบอย่างหนักมามากกว่า 1 ครั้ง และผ่านพ้นความเสี่ยงและความท้าทายมากกว่า 1 ครั้ง…หลังพายุสงบ ฮ่องกงกลายเป็นไฟที่เกิดใหม่และผงาดขึ้นมาด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่ง”

สีจิ้นผิงกล่าวอีกว่า “ข้อเท็จจริงพิสูจน์แล้วว่าหนึ่งประเทศสองระบบมีพละกำลังที่ยิ่งใหญ่ มันสามารถรับประกันความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในระยะยาวในฮ่องกง และปกป้องความเป็นอยู่ที่ดีของชาวฮ่องกง”

ทั้งนี้ การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนออกจากจีนแผ่นดินใหญ่นับตั้งแต่ Covid-19 เริ่มระบาด โดยรัฐบาลฮ่องกงถูกบังคับให้เข้าสู่ระบบควบคุม Covid-19 แบบปิด ต้องปิดพื้นที่บางส่วนของเมือง และผู้สื่อข่าวหลายคนถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมเหตุการณ์ในวันนี้

Selim Chtayti/Pool via REUTERS

ปูตินขู่ตอบโต้ หากนาโตส่งกองกำลังเข้าฟินแลนด์-สวีเดน

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/world/686677

วันที่ 30 มิ.ย. 2565 เวลา 11:20 น.

ปูตินขู่ตอบโต้ หากนาโตส่งกองกำลังเข้าฟินแลนด์-สวีเดน

ปูตินยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับฟินแลนด์-สวีเดนจะตึงเครียดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อทั้งสองประเทศเข้าร่วมนาโต

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่ารัสเซียพร้อมที่จะตอบโต้ทันที หากนาโต (NATO) วางโครงสร้างพื้นฐานทางทหารในฟินแลนด์และสวีเดน หลังจากที่ทั้งสองประเทศเข้าเป็นสมาชิกนาโต

สำนักข่าวรัสเซียอ้างคำพูดของปูตินว่า รัสเซียไม่ได้มีปัญหากับฟินแลนด์และสวีเดนในแบบเดียวกับยูเครน หากทั้งสองประเทศต้องการเป็นสมาชิกนาโตก็เชิญ แต่หากมีการส่งกองกำลังทหารและวางโครงสร้างพื้นฐานในสองประเทศนี้โดยที่ไม่มีเหตุอันควรหรือไม่มีภัยคุกคามใดๆ รัสเซียจำเป็นต้องตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ปูตินกล่าวว่าเขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับฟินแลนด์และสวีเดนจะตึงเครียดขึ้น เมื่อทั้งสองประเทศนี้เข้าร่วมกับนาโต

ความคิดเห็นของปูตินมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ตุรกี หนึ่งในสมาชิกนาโต ถอนสิทธิ์วีโตคำขอเข้าร่วมของทั้งสองประเทศ เปิดทางให้ฟินแลนด์และสวีเดนเข้าร่วมนาโตแล้ว ซึ่งเป็นการยุตินโยบายเป็นกลางทางทหารของสองประเทศที่มีมายาวนานหลายสิบปี

อย่างไรก็ดี เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ไม่ได้ระบุว่าทั้งสองประเทศจะได้เป็นสมาชิกเมื่อใด เนื่องจากประเทศสมาชิกนาโตทั้ง 30 ประเทศจะต้องให้สัตยาบันในคำขอเพื่ออนุมัติสมาชิกใหม่

Photo by Sputnik/Mikhail Metzel/Kremlin via REUTERS

‘ทางรถไฟจีน-ลาว’ บุกตลาดยุโรป หนุนส่งออกเมล็ดกาแฟ

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/world/686638

วันที่ 29 มิ.ย. 2565 เวลา 17:15 น.

‘ทางรถไฟจีน-ลาว’ บุกตลาดยุโรป หนุนส่งออกเมล็ดกาแฟ

รถไฟสินค้าระหว่างประเทศของทางรถไฟจีน-ลาว บรรทุกเมล็ดกาแฟดิบหลายร้อยตันออกจากเมืองผู่เอ่อร์ ก่อนจะถูกขนส่งต่อด้วยรถไฟสินค้าจีน-ยุโรป นับเป็นเมล็ดกาแฟชุดแรกที่ส่งออกจากผู่เอ่อร์สู่ยุโรปทางรถไฟ

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ รถไฟสินค้าระหว่างประเทศของทางรถไฟจีน-ลาว บรรทุกเมล็ดกาแฟดิบกว่า 300 ตัน เดินทางออกจากเมืองผู่เอ่อร์ มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มุ่งหน้าสู่เทศบาลนครฉงชิ่ง โดยเมล็ดกาแฟเหล่านี้จะถูกขนส่งต่อด้วยรถไฟสินค้าจีน-ยุโรป ซึ่งนับเป็นเมล็ดกาแฟชุดแรกที่ส่งออกจากผู่เอ่อร์สู่ยุโรปทางรถไฟ

ยุคอดีต ผู่เอ่อร์เคยส่งออกเมล็ดกาแฟสู่ยุโรปทั้งทางถนนและทางทะเล ก่อนจะหันมาขนส่งทางรางด้วยหลังจากทางรถไฟจีน-ลาว เปิดให้บริการเมื่อเดือนธันวาคม 2021 ซึ่งการขนส่งทางรางช่วยประหยัดระยะเวลาทางโลจิสติกส์ถึงร้อยละ 30

ทางรถไฟจีน-ลาว ระยะทาง 1,035 กิโลเมตร จัดเป็นโครงการสำคัญของความร่วมมือคุณภาพสูงภายใต้แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งมีการขนส่งสินค้ามากกว่า 4 ล้านตันแล้ว เมื่อนับถึงวันที่ 2 มิ.ย. หรือราวครึ่งปีหลังจากเปิดให้บริการ ส่วนปริมาณการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนอยู่ที่ 647,000 ตัน

หวังไห่ ผู้จัดการทั่วไปของสถานีจัดซื้อในเมืองผู่เอ่อร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเนสท์เล่ (Nestle) ในเมืองตงก่วน กล่าวว่าการเปิดให้บริการทางรถไฟจีน-ลาว ช่วยให้บริษัทมีช่องทางใหม่ในการส่งออกสินค้า ทำให้ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น โดยคำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกของบริษัทในปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบปีต่อปี

ทั้งนี้ เมืองผู่เอ่อร์ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงกาแฟ” ของจีน โดยกาแฟผู่เอ่อร์มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์และรสชาติอมเปรี้ยว ขณะปัจจุบันผู่เอ่อร์มีพื้นที่เพาะปลูกกาแฟราว 2.9 แสนไร่ และผลผลิตเมล็ดกาแฟสูงถึง 55,000 ตันต่อปี ซึ่งตัวเลขทั้งสองครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 50 ของตัวเลขทั้งหมดทั่วประเทศ

ด้านข้อมูลสถิติชี้ว่าอวิ๋นหนานส่งออกเมล็ดกาแฟสูงถึง 18,000 ตันในปีนี้ คิดเป็นมูลค่า 550 ล้านหยวน (ราว 2.8 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้น 2.3 และ 3.8 เท่า ตามลำดับ

พลเรือนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในขณะที่รัสเซียบดขยี้ยูเครนมากขึ้นเรื่อยๆ 

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/world/686622

วันที่ 29 มิ.ย. 2565 เวลา 14:09 น.

พลเรือนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในขณะที่รัสเซียบดขยี้ยูเครนมากขึ้นเรื่อยๆ 

เจ้าหน้าที่บอกว่ามีผู้สูญหายประมาณ 36 คนหลังจากการโจมตีห้างสรรพสินค้า

สำนักข่าวรอยเตอร์ – การโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยสามคนในอาคารที่อยู่อาศัยทางตอนใต้ของยูเครนเมื่อวันพุธ เจ้าหน้าที่กล่าว ในขณะที่การค้นหายังคงดำเนินต่อไปอีกหลายสิบคนที่ยังคงหายไปจากการโจมตีห้างสรรพสินค้าเมื่อสองวันก่อน .

นายกเทศมนตรี Oleksandr Senkevych กล่าวว่า มิสไซล์ 8 ลูกพุ่งเข้าใส่เมืองมีโคไลอิว ทางตอนใต้ รวมทั้งอาคารอพาร์ตเมนต์ เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ยูเครนกล่าวว่าขีปนาวุธของรัสเซียได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 18 รายที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใจกลางเมืองเครเมนชุก

ภาพถ่ายจากมีโคลไอิวแสดงให้เห็นว่ามีควันลอยออกมาจากอาคารสี่ชั้นโดยที่ชั้นบนถูกทำลายบางส่วน

ยูเครนกล่าวว่ารัสเซียได้ฆ่าพลเรือนโดยเจตนาเมื่อโจมตีห้างสรรพสินค้าในเครเมนชุก มอสโกกล่าวว่าห้างสรรพสินค้าว่างเปล่าและได้โจมตีคลังอาวุธในบริเวณใกล้เคียง

“ขีปนาวุธของรัสเซียพุ่งชนตำแหน่งนี้อย่างแม่นยำ อย่างตั้งใจทำ … เป็นที่แน่ชัดว่าฆาตกรชาวรัสเซียได้รับพิกัดที่แน่นอน” ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนกล่าวในวิดีโอช่วงค่ำ “พวกเขาต้องการฆ่าคนเป็นจำนวนมาก”

เจ้าหน้าที่กล่าวว่ามีผู้สูญหายประมาณ 36 คนในเครเมนชุก

ไกลออกไปทางตะวันออกในลีซีชานสก์ในภูมิภาคลูฮันสก์ซึ่งเป็นสมรภูมิหลักในการจู่โจมของรัสเซียที่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมดอนบัวผู้ว่าการรายงานว่ามีการดำเนินการทางทหารเพิ่มขึ้น

สถานการณ์ในลีซีชานสก์คล้ายคลึงกับเมืองแฝด เซียเวียโรโนเนตสก์ เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เมื่อชาวรัสเซียเริ่มก่อสร้างทีละหลัง ผู้ว่าการภูมิภาค ลีซีชานสก์ Serhiy Gaidai กล่าวเมื่อวันพุธ เซียเวียโรโนเนตสก์ตกเป็นของรัสเซียในวันเสาร์

“พวกรัสเซียกำลังใช้อาวุธทุกชนิดที่มีให้ … และไม่ต้องแยกแยะว่าเป้าหมายเป็นทางทหารหรือไม่ ทั้งโรงเรียน โรงเรียนอนุบาล สถาบันวัฒนธรรม” เขากล่าวในโทรทัศน์

“ทุกสิ่งกำลังถูกทำลาย นี่เป็นนโยบายการทำลายล้างไม่เลือก”

กองกำลังรัสเซียกำลังพยายามล้อมรอบลีซีชานสก์ เสนาธิการของกองทัพยูเครนกล่าวเมื่อวันพุธ

รัสเซียปฏิเสธการกำหนดเป้าหมายพื้นที่พลเรือนในระหว่างการรุกรานยูเครนเป็นเวลาสี่เดือน สหประชาชาติกล่าวว่าพลเรือนอย่างน้อย 4,700 คนถูกสังหารตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

ในเขตดนิโปรเปโตรวสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ผู้ว่าการ Valentyn Reznychenko กล่าวว่าศพของชายและหญิงถูกพบฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังของสำนักงานบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งซึ่งถูกขีปนาวุธของรัสเซียโจมตีเมื่อวันอังคาร

ในทางกลับกัน เจ้าหน้าที่ที่รัสเซียติดตั้งไว้กล่าวว่ากองกำลังรักษาความปลอดภัยของพวกเขาได้ควบคุมตัวนายกเทศมนตรีเมืองเคอร์ซอน Ihor Kolykhayev เมื่อวันอังคารหลังจากที่เขาปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของมอสโก เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่านายกเทศมนตรีถูกลักพาตัว

สำนักข่าว TASS ของทางการรัสเซียรายงาน หน่วยงานทหารและพลเรือนของมอสโกซึ่งควบคุมโดยทหารและพลเรือนในภูมิภาคเคอร์ซอน กล่าวว่า ได้เริ่มเตรียมการลงประชามติเพื่อเข้าร่วมรัสเซีย

เคอร์ซอน เมืองท่าในทะเลดำ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรไครเมียที่ผนวกรัสเซีย

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชาวยูเครนได้บอกเล่าถึงการโจมตีในภาคใต้ของโอเดสซาและคาร์คิฟทางตะวันออกเฉียงเหนือ

Valery Zaluzhny ผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธของยูเครนกล่าวในแอป Telegram เมื่อวันอังคารว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธประมาณ 130 ลูกใส่ยูเครนภายในสี่วันที่ผ่านมา

การรุกรานของรัสเซีย ซึ่งเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในรัฐในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ได้ผลักดันราคาอาหารและพลังงานไปทั่วโลก และก่อให้เกิดความกังวลด้านความปลอดภัยทั่วโลก

ฟินแลนด์และสวีเดนขยับเข้าใกล้การเป็นสมาชิกนาโต พันธมิตรทางทหารของชาติตะวันตกเพื่อตอบโต้การกระทำของรัสเซียในวันอังคารนี้ หลังจากที่ตุรกีเลิกต่อต้านการเป็นสมาชิกของทั้งสองประเทศ

ความผิดพลาดครั้งใหญ่

การโจมตีเครเมนชุกก่อให้เกิดกระแสการประณามทั่วโลก

Rosemary DiCarlo หัวหน้าฝ่ายกิจการการเมืองของสหประชาชาติ บอกกับคณะมนตรีความมั่นคงว่า “เราไม่มีคำพูดที่จะบรรยายถึงความไร้เหตุผล ความไร้ประโยชน์ และความโหดร้ายของสงครามครั้งนี้แล้ว”

ในขณะที่รัฐบาลเคียฟกล่าวว่าไม่มีเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่าขีปนาวุธของพวกเขาได้โจมตีคลังอาวุธที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งเก็บอาวุธตะวันตกซึ่งระเบิดทำให้เกิดเปลวไฟที่ลามไปยังห้างสรรพสินค้าเครเมนชุกที่อยู่ใกล้เคียง

คำกล่าวยืนยันของรัฐบาลมอสโกว่าห้างสรรพสินค้าว่างเปล่านั้นขัดแย้งกับผู้รอดชีวิตที่ได้รับบาดเจ็บ เช่น Ludmyla Mykhailets วัย 43 ปี ซึ่งบอกว่าเธอเคยไปช็อปปิ้งที่นั่นกับสามีของเธอเมื่อเหตุระเบิดพัดพาเธอขึ้นไปในอากาศ “มุ่งหน้าไปก่อน”

เซเลนสกีกล่าวที่องค์การสหประชาชาติ กล่าวหารัสเซียว่าเป็น “รัฐผู้ก่อการร้าย”  และเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงขับไล่มอสโกออกจากสหประชาชาติ รัสเซียกล่าวหาว่าเซเลนสกีใช้การกล่าวปราศรัยที่สหประชาชาติดังกล่าวเป็น “แคมเปญประชาสัมพันธ์” สำหรับจัดหาอาวุธ

ประเทศตะวันตกได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจำกัดแหล่งที่มาของรายได้หลักของมอสโก รายได้จากการส่งออกน้ำมันและก๊าซ ซึ่งเพิ่มขึ้นจริงจากการคุกคามของอุปทานที่หยุดชะงักซึ่งทำให้ราคาโลกสูงขึ้น

บรรดาผู้นำของกลุ่ม 7 ชาติได้ประกาศแนวทางใหม่ โดยปล่อยให้น้ำมันของรัสเซียเข้าสู่ตลาดในขณะที่จำกัดราคาไว้

สหรัฐฯ ยังกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อเป้าหมายใหม่มากกว่า 100 แห่ง และห้ามการนำเข้าทองคำรัสเซียใหม่ โดยดำเนินการตามข้อผูกพันของ G7

ในการตั้งคำถามสาธารณะที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยๆ เกี่ยวกับเหตุผลของรัสเซียในการทำสงครามโดยหนึ่งในบุรุษที่ร่ำรวยที่สุดของรัสเซีย Oleg Deripaska มหาเศรษฐีอะลูมิเนียมกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงมอสโกว่า “ผมคิดว่าการทำลายยูเครนจะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงพวกเราด้วย”