งานกาชาด 2567 จัดที่ไหน มีกี่วัน เช็กพิกัดพร้อมวิธีเดินทางง่ายๆ ที่นี่

https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2828777

งานกาชาด 2567 จัดที่ไหน มีกี่วัน เช็กพิกัดพร้อมวิธีเดินทางง่ายๆ ที่นี่

2 ธ.ค. 2567 20:50 น.

งานกาชาด 2567 จัดที่ไหน มีกี่วัน เช็กพิกัดพร้อมวิธีเดินทางง่ายๆ ที่นี่

งานกาชาด 2567 เป็นงานที่จะจัดขึ้เป็นประจำในช่วงสิ้นปี มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายรูปแบบ ทั้งงานรื่นเริงและงานการกุศล จะเดินช็อปปิ้งชิลๆ ชิมอาหารรสเด็ด หรือทำบุญเสริมสิริมงคลก็สามารถทำได้ในงานเดียวกัน ทั้งนี้ ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวงานกาชาด 2567 สามารถติดตามรายละเอียดและวิธีเดินทางได้ที่นี่

ประวัติ “งานกาชาด” มีที่มาและความสำคัญอย่างไร

งานกาชาดจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2465 ณ บริเวณท้องสนามหลวง โดยมีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่กิจการของสภากาชาดสยาม และเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมเป็นสมาชิก เนื่องจากมีประชาชนสนใจเป็นจำนวนมาก จึงมีการจัดงานกาชาดต่อเนื่องทุกๆ ปี

ในปี 2471 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มาจัดงานได้ที่พระราชอุทยานสราญรมย์และให้ใช้ชื่อว่า “งานวันกาชาด” ก่อนจะมีการเพิ่มกิจกรรม การแสดง การสอยผลกัลปพฤกษ์ รวมไปถึงการขายลอตเตอรี่สภากาชาดสยาม หรือ “ฉลากกาชาด”

ระยะเวลาต่อมามีการจัดงานกาชาดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละปีก็จะมีการกำหนดคำขวัญหรือแนวคิดขึ้น และมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ซึ่งก็ได้รับความนิยมจากประชาชนจนถึงปัจจุบัน

งานกาชาด 2567 จัดที่ไหน

งานกาชาด 2567 จัดขึ้น ณ สวนลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

งานกาชาดสวนลุม 2567 วันไหน เที่ยวได้กี่โมง

งานกาชาด 2567 จัดขึ้นทั้งหมด 12 วัน 12 คืน ตั้งแต่วันที่ 11-22 ธันวาคม 2567 โดยประชาชนสามารถเข้ามาร่วมงานได้ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. และในวันสุดท้ายงานจะจบเวลา 23.00 น.

งานกาชาด 2567 สวนลุมพินีมีอะไรน่าสนใจบ้าง

กิจกรรมที่น่าสนใจในงานกาชาดมีหลายรูปแบบ เช่น

  • กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” ด้วยระบบแสงสีเสียงสุดตระการตา
  • การจับฉลากลุ้นกิจกรรมและของรางวัลสุดพิเศษ
  • เลือกชม ช็อป ชิมสินค้าทั้งของคาวหวาน และผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ
  • การแสดง การละเล่น และความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ

สลากงานกาชาดออนไลน์ 2567 ซื้อที่ไหน

หากใครสนใจซื้อสลากเพื่อทำบุญ พร้อมร่วมลุ้นของรางวัล สามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้เช่นกัน มีวิธีง่ายๆ ดังนี้

  • เข้าเว็บไซต์ https://www.iredcross.org/raffle/
  • เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย
  • ค้นหาเลขสลาก กดเลือกซื้อ จากนั้นไปที่ตะกร้าสินค้าเพื่อดูสลากที่ต้องการซื้อ
  • เลือก “สั่งซื้อสินค้า” เลือกช่องทางการชำระเงิน
  • ตรวจสอบชื่อ สกุล พร้อมเบอร์โทร จากนั้นชำระเงินให้เรียบร้อย

งานกาชาด 2567 ไปยังไง

การเดินทางไปยังงานกาชาดนั้นทำได้หลายวิธี เช่น

รถไฟฟ้า

  • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีราชดำริ ทางออก 4 หรือสถานีศาลาแดง ทางออก 6
  • รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีสีลม ทางออก 1 หรือสถานีสวนลุมพินี ทางออก 3

รถ Shuttle Bus

  • Shuttle Bus  20 ที่นั่ง 3 คัน จากสนามกีฬาแห่งชาติ และสวนป่าเบญจกิติ รับ-ส่งผู้ร่วมงานที่สวนลุมพินี โดยจะออกจากจุดจอดบริเวณสนามกีฬาแห่งชาติทุกๆ 30 นาที 

รถประจำทาง

  • รถประจำทางผ่านถนนสารสิน ได้แก่ สาย 50, 505 และ A3
  • รถประจำทางผ่านถนนราชดำริ ได้แก่ สาย 15, 50, 76, 77, 505, 514, A3, 504, 547 และ 74
  • รถประจำทางผ่านถนนวิทยุ ได้แก่ สาย 13, 50, 62, 76, 505 และ A3
  • รถประจำทางผ่านถนนพระรามที่ 4 ได้แก่ สาย 4, 45, 47, 50, 67, 76, 141, 505, A3 และ 74

ส่วนใครที่นำรถยนต์ส่วนตัวมาเอง สามารถจอดตามจุดให้บริการ เช่น ลานจอดรถสวนลุมพินี ลานจอดรถสวนป่าเบญจกิติ ลานจอดรถสนามกีฬาแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด แนะนำให้เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะจะสะดวกกว่า

งานกาชาด 2567 จัดขึ้นทั้งหมด 12 คืน 12 วัน ทั้งนี้ หากใครที่ไม่สะดวกเดินทางมาร่วมงาน ก็สามารถเที่ยวงานกาชาด 2567 ออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ iredcross สัมผัสความสนุกรูปแบบใหม่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เปิดไฮไลต์ และกำหนดการ “งานกาชาด 2567” กรุงเทพฯ ชวนคนไทยช็อปปิ้ง ทำบุญ เริ่ม 11 ธ.ค. 2567

https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2826390

เปิดไฮไลต์ และกำหนดการ "งานกาชาด 2567" กรุงเทพฯ ชวนคนไทยช็อปปิ้ง ทำบุญ เริ่ม 11 ธ.ค. 2567

19 พ.ย. 2567 14:46 น.

เปิดไฮไลต์ และกำหนดการ “งานกาชาด 2567” กรุงเทพฯ ชวนคนไทยช็อปปิ้ง ทำบุญ เริ่ม 11 ธ.ค. 2567

งานกาชาด ปี 2567 นี้ งานบุญประจำปีแบบจัดเต็ม 12 วัน 12 คืน ที่จะชวนนักท่องเที่ยวมาช็อป ชิม พร้อมทำบุญในรวดเดียว โดยจะเกิดขึ้นในวันที่ 11-22 ธันวาคม 2567 ณ สวนลุมพินี เวลา 11.00 น. – 22.00 น.

“งานกาชาด” ถือเป็นอีกหนึ่งงานประจำปี และเทศกาลท่องเที่ยวที่คนไทยรู้จักมาอย่างเนิ่นนาน โดยได้จัดงานมาแล้วเป็นปีที่ 102 และพร้อมจุดประสงค์ในการแบ่งปัน ทำบุญ และบริจาคข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงการนำเงินทุนสนับสนุนไปบำรุงสภากาชาดไทย เพื่อผู้ป่วยที่ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาส ผ่านกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน เรียกได้ว่ามางานเดียวนักท่องเที่ยว สามารถเที่ยว ช็อป ชิม และทำบุญ แบบครบวงจร

ปีนี้ทางสภากาชาดมีการออกแบบคอนเซ็ปต์งานในรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการเปลี่ยนโฉมสวนลุมพินีเดิมให้มีแสงสีเสียงแบบตระการตา ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

กิจกรรมในงานกาชาด 2567

  • กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” ด้วยระบบแสงสีเสียงตระการตา
  • กิจกรรมจับฉลาก ลุ้นเสี่ยงโชคได้บุญ เสี่ยงทายได้กุศล
  • อิ่มอร่อยกับร้านอาหารสภากาชาดไทย และสตรีทฟู้ดชื่อดังกว่า 100 ร้านค้า
  • พบกับกิจกรรมสนุกๆ เกมการละเล่น การแสดง และความบันเทิงอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ หากนักท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ หรือไม่สะดวกในวันเวลาดังกล่าว ก็สามารถ “เที่ยวงานกาชาด 2567 นี้ได้ผ่านทางออนไลน์” ในเว็บไซต์ iredcross ที่จะมีกิจกรรมช็อปปิ้งที่รวมร้านค้ามากมาย และเกมสนุกสุดมันส์ พร้อมกับกิจกรรมชิงรางวัลมากมาย รวมถึงสามารถทำบุญได้ตลอดงาน

งานกาชาด 2567 จัดขึ้นที่สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 11-22 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 น. – 22.00 น. เป็นต้นไป และวันสุดท้ายของงานจะจบภายในเวลา 23.00 น.

ข้อมูล : งานกาชาด Red Cross Fair

คริสต์มาสสุดอลัง!! อินสตอลเลชันสโนว์แมน

https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2826203

คริสต์มาสสุดอลัง!! อินสตอลเลชันสโนว์แมน

19 พ.ย. 2567 07:05 น.

คริสต์มาสสุดอลัง!! อินสตอลเลชันสโนว์แมน

สัมผัสความอบอุ่นแห่งเทศกาลเฉลิมฉลองสุดอลังการ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี จัดงาน “CENTRAL EMBASSY LET’S CELEBRATE 2025 : VERY WARM WISHES” ชวนมาสัมผัสประสบการณ์เฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ด้วยผลงานศิลปะอินสตอลเลชันสุดอลังการเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ ลูคัส ซานอตโต (Lucas Zanotto) ศิลปินนักออกแบบและแอนิเมเตอร์ชื่อดังระดับโลก ที่นำเสนอความอบอุ่นผ่านกองทัพ “มิสเตอร์สโนว์แมน” รังสรรค์ จากโลกแห่งจินตนาการที่เต็มไปด้วยความสุขและต้นคริสต์มาสขนาดมหึมา โดย มร.ลูคัส ซานอตโต ศิลปินระดับโลกบินตรงมาสร้างสีสัน ที่ FROSTY CHRISTMAS YARD ชั้น G บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าฯ

เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร, บรม พิจารณ์จิตร และลูคัส ซานอตโต

บรรยากาศงานเปิดตัวเทศกาลแห่งความสุขนี้ อบอวลด้วยมนต์เสน่ห์สุดตระการตา เริ่มต้นด้วย “มิสเตอร์สโนว์แมน” ที่สร้างรอยยิ้มส่งต่อความสุขและยังถ่ายทอดเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมอย่างมีศิลปะ ผ่านสโนว์แมน 3 ตัว พร้อมกับต้นคริสต์มาสสูงกว่า 14 เมตร ด้วยการใช้เทคนิคศิลปะดิจิทัลล้ำสมัยในการสร้างสรรค์ กลายเป็น X’mas Yard แลนด์มาร์กสุดฮิตที่ต้องมาเช็กอิน กิจกรรมได้แผ่ขยายไปทุกมุมของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตั้งแต่บริเวณทางเชื่อม BTS เพลินจิต กับ SNOWMAN FESTIVE TRAIL เส้นทางแห่งสีสันของสโนว์แมนที่พาลัดเลาะสู่ความอบอุ่นแห่งเทศกาล ไปต่อที่ WARM WISHES TUNNEL อุโมงค์แห่งแสงสีบริเวณทางเชื่อมไปเซ็นทรัลชิดลม ไปจนถึง GIANT SNOW CUBE ปล่องสโนว์แมนยักษ์สุดหรรษา ผลงานศิลปะจัดวางที่น่าทึ่ง ซึ่งลูคัส ซานอตโต ได้ออกแบบโดยแฝงเข้ากับรูปทรงเรขาคณิตของตึก Art Tower ที่ตั้งอย่างโดดเด่นสะดุดตา บน OPEN HOUSE ชั้น 6

พร้อมต้อนรับทุกคนเข้าสู่โซน FESTIVE GREEN LAND ดินแดนแห่งการแบ่งปันและสร้างสรรค์ ที่มอบประสบการณ์พิเศษที่ไม่มีใครเหมือน และสนุกไปด้วยกันกับ SNOW TROOP กองทัพสโนว์แมนล้มลุกสุดกวนขนาดเท่าคนจริง ในรูปแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ อาร์ต อินสตอลเลชัน พร้อมโอกาสในการรับสโนว์แมนล้มลุกน่ารักๆกลับบ้าน ผ่านกิจกรรม SNOW TROOP ADOPTION โดยรายได้จากกิจกรรมนี้มอบให้ WWF Founda tion เพื่อร่วมสนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศ สุดพิเศษในทุกมุมของพื้นที่และร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมาย ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี วันนี้ถึง 5 ม.ค.68

เริ่มแล้ว ITA Airways เปิดเส้นทางใหม่บินตรง กรุงโรม – กรุงเทพฯ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2826190

เริ่มแล้ว ITA Airways เปิดเส้นทางใหม่บินตรง กรุงโรม - กรุงเทพฯ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

18 พ.ย. 2567 12:27 น.

เริ่มแล้ว ITA Airways เปิดเส้นทางใหม่บินตรง กรุงโรม – กรุงเทพฯ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

สายการบิน ITA Airways เปิดเส้นทางบินตรงกรุงโรม – กรุงเทพมหานคร เริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ด้วยความถี่ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ Airline Focus เปิดเส้นทางบินใหม่จาก ททท. ที่ต้องการกระตุ้นการเดินทางมายังประเทศไทยช่วงไฮซีซั่น

ITA Airways เป็นสายการบินสัญชาติอิตาลีน้องใหม่ ที่ก่อตั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา โดยเปิดให้บริการไปยังจุดหมายปลายทางถึง 70 เส้นทาง

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาได้มีการต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากสายการบิน ITA Airways แล้ว หลังจากประกาศเปิดเส้นทางการบินใหม่จากสายการบิน เส้นทางโรม – กรุงเทพฯ

โดยเที่ยวบิน AZ758 บินตรงจากกรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี ได้เริ่มเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทยแล้ว

โดยเริ่มให้บริการครั้งแรกในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 และมาถึงประเทศไทย ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ถึงประเทศไทย เวลา 07.40 น. ซึ่งเป็นเที่ยวบินตรงครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการเชื่อมต่อระหว่างประเทศอิตาลี หลังไม่มีสายการบินใดๆ ให้บริการเส้นทางนี้มานานกว่า 4 ปี นอกเสียจากการบินไทย และอลิตาเลีย (Alitalia) ที่มีการหยุดให้บริการไป

เครื่องบินโดยสารจาก ITA Airways ที่ให้บริการในเส้นทางโรม – กรุงเทพ จะใช้ Airbus A330 – 900 มีที่นั่งทั้งหมด 291 ที่นั่ง พร้อมชั้นโดยสารทั้งหมด 3 ระดับ ประกอบด้วยชั้นธุรกิจ 30 ที่นั่ง, ชั้นพรีเมียม 24 ที่นั่ง และชั้นประหยัดอีก 237 ที่นั่ง

ไฟลต์จาก “โรม – กรุงเทพฯ” เที่ยวบิน AZ758 มีตารางบินที่ทำการบินทุกๆ วันอาทิตย์ จันทร์ พุธ พฤหัสบดี และเสาร์ โดยออกเดินทางเวลา 15.15 ถึงปลายทางวันรุ่งขึ้นที่ 07.40 น. โดยประมาณ

ไฟลต์จาก “กรุงเทพฯ – โรม” เที่ยวบิน AZ759 มีตารางบินที่ทำการบินทุกๆ วันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร พฤหัสบดี และศุกร์ โดยออกเดินทางเวลา 12.15 น. และถึงที่หมายในเวลา 19.15 น. โดยประมาณ

เส้นทางบินตรงกรุงโรม – กรุงเทพมหานคร จาก ITA Airways สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ ททท. ที่มุ่งเน้นกลยุทธ์ Airline Focus เปิดเส้นทางบินใหม่ เพื่อกระตุ้นการเดินทางมายังประเทศไทยช่วงไฮซีซั่น เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ กระตุ้นการเดินทางมายังประเทศไทยช่วงไฮซีซั่น

ข้อมูล : ITA Airways, ข่าวสารท่องเที่ยว ททท. , Hfligt

วันเพ็ญเดือนสิบสองนี้ เตรียมตัวเที่ยวงาน “สีสันแห่งสายน้ำ” อีเวนต์ใหญ่รับเทศกาลลอยกระทง 2567

https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2825550

วันเพ็ญเดือนสิบสองนี้ เตรียมตัวเที่ยวงาน “สีสันแห่งสายน้ำ" อีเวนต์ใหญ่รับเทศกาลลอยกระทง 2567

14 พ.ย. 2567 14:09 น.

วันเพ็ญเดือนสิบสองนี้ เตรียมตัวเที่ยวงาน “สีสันแห่งสายน้ำ” อีเวนต์ใหญ่รับเทศกาลลอยกระทง 2567

เปิดกำหนดการ งานเทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ อีเวนต์ลอยกระทงใหญ่ ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2567 ณ บริเวณคลองผดุงกรุงเกษม (ย่านหัวลำโพง) กรุงเทพมหานคร เวลา 16.00-22.00 น. เป็นต้นไป

สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567 ที่ถูกจัดขึ้นโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งในปีนี้มาภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์ สีสันแห่งศรัทธา” Amazing Night of Lights: Loi Krathong Festival เพื่อมุ่งเน้นนำเสนอไปที่ประเพณีลอยกระทงอันทรงคุณค่าที่สะท้อน Soft Power ความเป็นไทยอย่างสร้างสรรค์ และกิจกรรมบนรากฐานวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง

ภายในงานนี้ยังมีการผสานความทันสมัยของสื่อผสม และเทคโนโลยีเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะสามารถได้รับประสบการณ์สุดพิเศษ (Amazing Experience) ที่เน้นย้ำความสุข และคุณค่าอย่างวิถีไทย รวมถึงยังมีการรณรงค์นำส่งคุณค่าและประสบการณ์ของประเพณีลอยกระทงแบบใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

กิจกรรมภายในงาน “สีสันแห่งสายน้ำ” เทศกาลลอยกระทง 2567

1. กิจกรรมเฉลิมฉลองประเพณีลอยกระทง พบกับขบวนแห่ประเพณีลอยกระทง และนางนพมาศทางน้ำซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์อันสง่างามของประเพณีลอยกระทงของไทย ผสมผสานกับความสวยงามของวัฒนธรรมท้องถิ่นต่าง ๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย โดยปีนี้นางนพมาศได้แก่ อุรัสยา เสปอร์บันด์

2. การแสดงกระทงประดับไฟสวยงาม 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมผ่านสื่อสัญลักษณ์แลนด์มาร์คที่เป็นเอกลักษณ์ 5 พื้นที่ ในประเทศไทย ได้แก่

  • ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่
  • ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง จังหวัดตาก
  • ประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย
  • ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม
  • ประเพณีสมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป จังหวัดร้อยเอ็ด

3. การตกแต่งประดับไฟแสงสีด้วย Light Installation, Mapping ฯลฯ ทั่วบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม (ย่านหัวลำโพง)

4. กิจกรรมสาธิตและ DIY การทำกระทง อาทิ โคมล้านนา กระทงกะลามะพร้าว กระทงใบลาน กระทงกาบกล้วย กระทงรวงข้าว โดยผลิตจากวัสดุธรรมชาติเพื่อเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

5. การแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงร่วมสมัยของประเทศไทยที่น่าสนใจในภูมิภาคต่าง ๆ ที่ถูกขนมาไว้รวมกันที่งานแห่งนี้ ประกอบไปด้วย การแสดงบันเทิงเริงระบำ, การแสดงเพชรจรัสแสง x กุมารน้อยหอยสังข์, การแสดงความรุ่งเรืองของวิถีชีวิตสายน้ำ, การแสดงชุดผ้าขาวม้าพาเพลิน การแสดงกลองยาวศิลป์อีสาน, การแสดงฟ้อนโคมล้านนา ฟ้อนนกกิงกะหร่าและเต้นโต พร้อมวงดนตรีพื้นถิ่น และพื้นบ้านอีกมากมาย

6. กิจกรรมลอยกระทงด้วยการใช้เทคนิค และนวัตกรรมลอยกระทงสมัยใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตอบโจทย์กับเทรนด์ของโลกยุคใหม่ เช่น กิจกรรมลอยกระทง Interactive การลอยกระทง Online Metaverse เป็นต้น

7. กิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากชุมชนท่องเที่ยว เช่น สาธิตการสานปลาตะเพียนใบลาน การทำพัดสาน เป็นต้น

8. กิจกรรมประกวดนางนพมาศ

9. กิจกรรมประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก การประกวดกระทงแบ่งเป็นประเภท On Ground และ Online เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์กระทงที่ใช้วัสดุธรรมชาติและย่อยสลายได้

10. โซนสาธิตอาหารไทยโบราณที่หาชิมได้ยาก และซุ้มจำหน่ายอาหารไทย

11. โซนเวทีการแสดงดนตรีจากศิลปิน

วิจิตรเจ้าพระยา 2567 วิจิตร “ตระการตา”สมชื่อ!

https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2827165

วิจิตรเจ้าพระยา 2567 วิจิตร “ตระการตา”สมชื่อ!

24 พ.ย. 2567 04:42 น.

วิจิตรเจ้าพระยา 2567 วิจิตร “ตระการตา”สมชื่อ!

ไปดูชมกันหรือยังครับ “วิจิตรเจ้าพระยา 2567” การประดับประดาตกแต่ง 2 ฝั่งลำน้ำเจ้าพระยารวมทั้งสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาหลายแห่ง ด้วยไฟฟ้าและระบบแสงสีเสียงสื่อผสมอันตระการตาสมกับชื่อ “วิจิตรเจ้าพระยา” ที่ตั้งไว้ทุกประการ

ทีมงานซอกแซกไปล่องเรือชมมาแล้วครับ แม้เวลาจะค่อนข้างจำกัดแค่ 4-5 จุดแต่ก็รู้สึกปลาบปลื้มเหลือเกินที่เกิดมาเป็นคนไทย และมีส่วนเป็นเจ้าของความงดงามอันล้ำค่า 2 ฝั่งเจ้าพระยายามราตรีที่กำลังจัดแสดงอยู่ขณะนี้

หัวหน้าทีมซอกแซกนัดทีมงานไปดูชมเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน หลังคืนลอยกระทงหนึ่งคืน และเป็นคืนที่ 2 ของงาน “วิจิตรเจ้าพระยา” ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่คืนวันที่ 15 พฤศจิกายน หรือคืนลอยกระทงนั่นเอง

เหตุที่ต้องเลือกเช่นนี้เพราะยังอยู่ในช่วงของการจัดงาน “เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” งานใหญ่อีกงานที่มี ไทยเบฟฯ เป็นสปอนเซอร์หลัก และจัดให้มีเรือด่วนพิเศษ น่ังฟรีล่องไปตาม “ท่าน้ำ” ที่จัดงานทั้งหมด “10 ท่า” ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้ว

จึงตั้งใจไปอาศัย “เรือด่วนฟรี” ที่ว่าใช้กระสุนนัดเดียว “ยิงนก 2 ตัว” เพราะท่าน้ำหลายๆท่าก็เป็นหนึ่งในจุดประดับไฟของงาน “วิจิตรเจ้าพระยา” ด้วย ยกตัวอย่างที่ วัดอรุณราชวราราม ท่า ไอคอนสยาม เป็นต้น…ไปท่าใดท่าหนึ่งก็จะเท่ากับได้สัมผัสทั้ง 2 รสชาติจาก 2 งาน ที่มาจัดซ้อมกันในช่วงลอยกระทง

อีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะนึกไม่ออกว่าจะไปนั่งเรืออะไรดีที่ย่อมเยาหน่อย ไม่ใช่เรือสำราญ หรือเรือท่องเที่ยวแบบขายอาหารด้วยที่มีราคาแพง ถึงหัวละเกือบๆ 1 พันบาท

เรือด่วนเจ้าพระยา ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารตามปกติก็หมดแค่ 6 โมงเย็นหรือ 1 ทุ่มเท่านั้น ถ้าจำไม่ผิดจะไปอาศัยนั่งล่องเจ้าพระยาชมจุด “วิจิตร” ต่างๆ คงไม่ทันกาล เพราะแสงเพิ่งสลัว บางจุดอาจยังไม่เริ่มฉายไฟเสียด้วยซ้ำ

“เรือฟรี” คืนลอยกระทง ซึ่งจะแล่นในวันเสาร์ที่แล้วเป็นการส่งท้ายถึง 4 ทุ่ม จึงเหมาะที่สุด… และทีมงานก็ไปลงที่ ท่ามหาราช นั่งล่องไปชมความวิจิตรตระการตาได้ถึง 4-5 จุดด้วยกัน

ณ จุด วัดอรุณราชวราราม นั้น ไม่ต้องกล่าวอะไรมากอยู่แล้ว เพราะไม่ต้องตกแต่งอะไรแค่ฉายไฟสีเหลืองเรืองรองไปรอบๆ เท่านั้น ก็งามอย่างสุดบรรยายได้… เมื่อมีการประดับไฟเพิ่ม และมียิงพลุ +โดรนแปรอักษรเสริมในบางช่วงเวลาจึงยิ่งอลังการขึ้นอีกหลายเท่าตัว

แถวๆนั้นยังมี ป้อมวิไชยประสิทธิ์ ของกองทัพเรือประดับไฟเป็นพิเศษด้วย อาคารสำนักงานราชนาวิกสภา ก็ด้วย ประดับไฟเสีย สดสวยแทบจำไม่ได้เลย

เหนืออื่นใดก็คือ สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ หรือ สะพานพระพุทธยอดฟ้า… สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรก ก็มีการประดับไฟหลากสีสุดงดงาม และมีการแสดงแสงสีเสียง แปรภาพบ้างแปรอักษรบ้าง ละลานตาอยู่ตลอด บางครั้งก็เป็นเหมือนอ่างปลาขนาด ใหญ่ มีปลาหลายชนิดแหวกว่ายอยู่ที่โครงเหล็กของสะพานพุทธ บางครั้งก็เปลี่ยนมาเป็น “ธงไตรรงค์” ผืนยักษ์ ถ่ายภาพออกมาแล้วก็คงต้องใช้คำว่าอลังการเช่นเดียวกัน

ทีมงานซอกแซกไปลงเรือปักหลักที่ท่า ยอดพิมาน ซึ่งอยู่ห่างจากสะพานพุทธประมาณ 200-300 เมตร มองเห็นการแสดงแสงสีเสียงอย่างชัดเจน แต่เสียดายไม่สามารถจะรอเวลา “จุดพลุ” ที่ได้ชื่อว่างามที่สุดของงานนี้ได้ เพราะเขาประกาศเวลาไว้ว่าจะยิงช่วง 20.45 น. เกรงว่าจะหาเรือกลับ ท่ามหาราช ไม่ทัน จึงตัดสินใจลงบัญชีเอาไว้ก่อนว่าจะต้องหาโอกาสกลับมาดูอีกครั้ง

ยังมีอีกหลายจุดครับที่ทีมงานซอกแซกอยากดูชม แต่ยังไม่สามารถไปเยี่ยมชมได้เมื่อคืน 16 พฤศจิกายนก็คือ สะพานพระราม 8 กับ ไอคอนสยาม แต่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะต้องหาโอกาสไปดูให้ได้ก่อน 15 ธันวาคมอย่างแน่นอน

ไปทางเรือไม่ได้ก็อาจจะไปทางรถยนต์ คือนั่งรถไปที่บริเวณแสดงเลยสักคืนละจุด 2 จุดเก็บสะสมไปเรื่อยๆ

ส่วนท่านผู้อ่านเบี้ยน้อยหอยน้อยที่ทีมงานซอกแซกไม่อยากให้พลาดงานนี้เพราะอย่างที่บอก แม้สถานที่บางสถานที่จะเป็นของภาคเอกชน มีเจ้าเข้าเจ้าของ แต่ก็ถือว่าเป็นของพวกเราชาวไทยทุกคนในทางอ้อม

และแม้โดยวัตถุประสงค์หลักจะจัดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างแดน ซึ่งดึงดูดได้จริงๆ แห่มาเที่ยวบ้านเรายามนี้แบบล้นทะลักไปหมด

แต่ผมก็เชื่อว่าลึกๆแล้วกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย รวมไปถึงรัฐบาลคงตัดสินใจจัดงานนี้เพื่อคนไทยเราด้วย ตามนโยบายไทยเที่ยวไทย ที่รัฐบาลกำลังส่งเสริมขณะนี้

จึงขอเชิญชวนท่านผู้อ่านทุกๆท่านไปดูชมงานนี้เท่าที่สามารถจะไปได้ แบบไปคืนละจุด 2 จุด โดยใช้บริการ “รถเมล์ ขสมก.” ดังที่มีการประกาศเส้นทางไว้

อย่างเช่น สะพานพุทธ ก็นั่งสาย 3 (2-37), 5, 7ก (4-48), 73 (2-5) อาจจะงงๆหน่อยเพราะเขาเพิ่งปฏิรูปสายรถเมล์ เปลี่ยนเลขเปลี่ยนสายจนมึนไปหมด…

หรืออย่าง สะพานพระราม 8 ก็มีสาย 3 (2-37), 32 (2-5), 49 (2-43), 53 (2-9), 516 (2-25) และ 4-35 เป็นต้น

สมัยนี้ง่ายครับ พี่น้องชาวไทยแทบทุกกลุ่มอาชีพ ไม่ว่ายากดีมีจนขนาดไหน ส่วนใหญ่ล้วนมีโทรศัพท์มือถือกันทั้งนั้น เข้า “กูเกิล” หาข้อมูลว่าจุดแสดงแสงสีเสียง, จุดแสดงโดรนแปรอักษร หรือจุดยิงพลุอยู่ที่ใด และเวลาใด? ควรนั่งรถเมล์สายอะไร? ขสมก.เขาลงไว้หมดแล้ว หาได้ใน “อากู๋” ครบทุกจุดที่จัดงาน

ไปเที่ยวกันให้สนุกนะครับ…ท่านผู้อ่านทุกท่าน…จะมีไปจนถึง 15 ธันวาโน่นครับ สำหรับงานวิจิตรเจ้าพระยา 2567…นั่งรถเมล์ไปคืนละจุดก็ได้ครับ กว่าจะเลิกงานรับรองได้ดูจุดสำคัญครบทุกจุดแน่นอน.

“ซูม”

พาเปิดโลกกาแฟและข้าวไทยในมุมใหม่ Thailand Coffee Fest 2024 และ Thailand Rice Fest 2024

https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2827046

พาเปิดโลกกาแฟและข้าวไทยในมุมใหม่ Thailand Coffee Fest 2024 และ Thailand Rice Fest 2024

22 พ.ย. 2567 15:55 น.

พาเปิดโลกกาแฟและข้าวไทยในมุมใหม่ Thailand Coffee Fest 2024 และ Thailand Rice Fest 2024

รวมพลังของดีถิ่นไทย ไปกับ 2 เทศกาลใหญ่ ส่งท้ายปีกับงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 และ Thailand Rice Fest 2024 ที่พานักท่องเที่ยวเปิดโลกกาแฟ และข้าวไทยในมุมใหม่ ที่ไม่มีใครเคยรู้ ที่ ศูนย์ฯสิริกิติ์ 12 – 15 ธ.ค. นี้

อีเวนต์ และเทศกาลใหญ่ส่งท้ายปีกับการเปิดตัว 2 เทศกาลสุดยิ่งใหญ่ รวมพลังของดีถิ่นไทยกับงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 และ Thailand Rice Fest 2024

งานเทศกาลกาแฟพิเศษไทย และข้าวไทย ที่จะเกิดขึ้นนี้ ได้ขนทัพกิจกรรม การประกวด ผลิตภัณฑ์สินค้า และเวทีเสวนาความรู้ ในแบบที่มาให้ทุกคนแบบจัดเต็ม

พร้อมโชว์คุณค่าของอุตสาหกรรมกาแฟ และข้าวไทยในมุมมองใหม่ที่หลายคนอาจไม่รู้ พร้อมยกระดับศักยภาพสู่โอกาสใหม่ที่เป็นได้มากกว่าของเกษตรกรชาวไทย โดยงานจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5 และ 6

กิจกรรมไฮไลต์งาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 ประกอบไปด้วย

  • Coffee Happy Hour ชั่วโมงแห่งคำขอบคุณจาก Thailand Coffee Fest ที่ตอบแทนทุกคนด้วยโปรโมชั่นเด็ด จากหลายร้านทั่วงาน
  • Specialty New Year Basket เซตของขวัญที่จะบ่งบอกถึงพลังความพิเศษของกาแฟไทย พร้อมส่งต่อจากมือผู้ผลิต สู่ผู้บริโภคและผองเพื่อนคอกาแฟทุกคน
  • Khongkwan Exchange พรีคริสต์มาส จับของขวัญแบบวงใหญ่ โดยช้อปของจากภายในงาน 300 บาทขึ้นไป จะได้มาร่วมจับสลากแบบวงใหญ่ และลุ้นรางวัลพิเศษในแต่ละรอบ

กิจกรรมไฮไลต์งาน Thailand Rice Fest 2024 ประกอบไปด้วย

  • ข้าวหมูเด้ง แคมเปญพิเศษประจำงานปีนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรนาข้าวอินทรีย์ที่ถูกน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย ด้วยการสนับสนุนผลผลิตล่วงหน้า พร้อมรับการ์ดขอบคุณลายหมูเด้ง
  • โซนกินข้าว ดื่มด่ำความมหัศจรรย์ของข้าวผ่านการกิน กับเมนูอาหารสุดสร้างสรรค์จากเชฟและเกษตรกร อาทิ ข้าวหน้าหมูอีเหี่ยว ลาบปลาตอง และวาฟเฟิลข้าวก่ำน้อย
  • โซนชิมข้าว ทำความรู้จักพันธุ์ข้าวหลากหลายอย่างลึกซึ้ง และชิมข้าวคุณภาพแบบฟรีๆ

กิจกรรมพิเศษเฉพาะที่งานนี้ ประกอบไปด้วยงานประกาศรางวัลเกษตรกรแห่งปี 2567 หรือ Thailand Farmer of The Year 2024 และแคมเปญ The Next Farmer ที่ชวนลูกหลานเกษตรกรวัยมัธยมต้นเดินทางมาชมงาน เพื่อร่วมกันสร้างเกษตรกรที่อยากเห็นในอนาคต และมีอีกหลากหลายกิจกรรมที่จะพาทุกคนไปเห็นข้าวที่มิติหลากหลายขึ้น

ร่วมเติมความสุขส่งท้ายปี พร้อมแบ่งปันรอยยิ้มด้วยของขวัญสุดพิเศษจากงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 และ Thailand Rice Fest 2024 ระหว่างวันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5 – 6 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับงานกาแฟได้ที่ ThailandCoffeeFest และงานข้าวที่ ThailandRiceFest

เปิดประสบการณ์เที่ยว “มาเก๊า” ในมุมมองใหม่ที่หลายคนอาจคิดไม่ถึง

https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2825417

เปิดประสบการณ์เที่ยว "มาเก๊า" ในมุมมองใหม่ที่หลายคนอาจคิดไม่ถึง

13 พ.ย. 2567 18:23 น.

เปิดประสบการณ์เที่ยว “มาเก๊า” ในมุมมองใหม่ที่หลายคนอาจคิดไม่ถึง

มาเก๊า เมืองที่ไปกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ เมืองที่ผสมผสานความเป็นตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน ทั้งสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่สอดแทรกอยู่ในอาหารการกิน ศาสนา

มาเก๊าจึงกลายเป็นชุมทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับการมาบรรจบกันของวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก สถานที่สำคัญที่ใครไปจะต้องแวะนั่นก็คือ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล โบสถ์โรมันคาทอลิกที่ในอดีตได้ส่งผู้สอนศาสนาที่เก่งที่สุดไปสานต่องานของเซนต์ ฟรังซิส เซเวียร์ (ที่เสียชีวิตอยู่ในละแวกนั้นหลังจากที่ได้เปลี่ยนศาสนาของคนในท้องที่ได้หลายคนในญี่ปุ่น) นอกจากนี้ยังมีวิทยาลัยคริสเตียนที่ถูกสร้างขึ้นข้างๆ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล

มาเก๊าเป็นเขตปกครองพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีน เช่นเดียวกับฮ่องกง เขตปกครองพิเศษเล็กๆ อย่างมาเก๊ากำลังเติบโต มีการสร้างอาคารเพิ่มมากขึ้นบนพื้นที่ที่ได้จากการถมทะเล และจำนวนสถานที่ท่องเที่ยวก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นและมีความหลากหลายมากขึ้น

ชาวมาเก๊า เชื่อเรื่องของฮวงจุ้ยและเชื่อในองค์เทพอาม่า หนึ่งในสถานที่สุดฮิตที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องไปไหว้ขอพรนั่นก็คือ  “วัดอาม่า” หรือ A-MA TEMPLE ที่คนไทยเรียกกันว่า ศาลเจ้าแม่ทับทิม  วัดอาม่าเด่นเรื่องการขอพร สามารถขอพรได้ตั้งแต่ การค้าขาย หน้าที่การงาน รวมไปถึงครอบครัว และความรัก  ทำเลของวัดอาม่าถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย หากใครเข้ามาไหว้จะรู้สึกถึงพลังงานดี เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมพลังงานความศักดิ์สิทธิ์ของชาวเกาะมาเก๊าแห่งนี้

ในส่วนของโรงแรมที่พักในมาเก๊าส่วนใหญ่จะเป็นที่พักหรูความสะดวกสบายระดับ 5 ดาว โดยส่วนใหญ่ที่พักในมาเก๊าจะมีคาสิโนอยู่ด้านล่างรองรับนักแสวงหาโชค เน้นความสะดวกสบาย หรูหรา บางทีตกแต่งภายในแบบจีนร่วมสมัยไปจนถึงผลงานศิลปะสั่งทำพิเศษที่สร้างสรรค์โดยศิลปินท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง

ปิดท้ายขนมยอดนิยมของมาเก๊า ทาร์ตไข่ ใครที่มาแล้วไม่ได้กินเหมือนมาไม่ถึงมาเก๊าเกาะสวรรค์แห่งนี้  ทาร์ตไข่ที่นี่จะอบใหม่ๆตลอดทั้งวัน ตัวทาร์ตกรอบเบาๆ เนื้อสัมผัสของคัสตาร์ตไข่นี่นวลๆ หวานน้อย รสชาติกลมกล่อม สมคำร่ำรือแน่นอน

เชียงใหม่คัมแบ็ก นักท่องเที่ยวต่างชาติมีสถิติค้นหาที่พักเพิ่มขึ้น รับช่วงเทศกาลลอยกระทง

https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2825204

เชียงใหม่คัมแบ็ก นักท่องเที่ยวต่างชาติมีสถิติค้นหาที่พักเพิ่มขึ้น รับช่วงเทศกาลลอยกระทง

12 พ.ย. 2567 18:37 น.

เชียงใหม่คัมแบ็ก นักท่องเที่ยวต่างชาติมีสถิติค้นหาที่พักเพิ่มขึ้น รับช่วงเทศกาลลอยกระทง

Airbnb เผยข้อมูล นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติต่างค้นหาที่พักเชียงใหม่เพิ่มขึ้นถึง 30% ในช่วงเทศกาลลอยกระทงและฤดูท่องเที่ยวสิ้นปี

เชียงใหม่กำลังกลับมาในช่วงปลายปีที่เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ พร้อมกับงานเทศกาลที่น่าสนใจมากมาย โดยมีสถิติที่น่าสนใจจาก Airbnb เปิดเผยมาว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนแห่เที่ยวเชียงใหม่มากที่สุดในปี 2567 โดยในช่วงเทศกาลลอยกระทง มียอดค้นหาและยอดจองที่พัก Airbnb พุ่งเกือบ 70% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2566

ส่วนการจองที่พักในครึ่งปีแรกของปี 2567 เติบโตต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจองที่พักในเชียงใหม่เพิ่มขึ้นถึง 97% นักท่องเที่ยวอินเดียเพิ่มขึ้น 47% และนักท่องเที่ยวเกาหลีเพิ่มขึ้น 41% ส่วนคนไทยก็ออกเดินทางแรงไม่แผ่วแพ้ชาติอื่น เพราะมีสถิติจองที่พักในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 30%

ข้อมูลล่าสุดจาก Airbnb นี้ ทำให้พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงให้ความสนใจในการเดินทางไปเชียงใหม่สูงอย่างต่อเนื่องหลังเหตุการณ์น้ำท่วมล่าสุดในภาคเหนือของไทย และเชื่อว่าคนในท้องถิ่นที่เป็นโฮสต์ Airbnb ต่างพร้อมต้อนรับนักเดินทางทั่วโลกด้วยการบริการที่อบอุ่นเป็นเอกลักษณ์ของไทย

อมันพรีท บาจาจ ผู้จัดการทั่วไปประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฮ่องกง และไต้หวัน

อมันพรีท บาจาจ ผู้จัดการทั่วไปประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฮ่องกง และไต้หวัน ของ Airbnb กล่าวว่า “เชียงใหม่ยังคงเป็นเมืองที่ดึงดูดนักเดินทาง Airbnb จากทั่วโลก ด้วยความโดดเด่นของที่พัก Airbnb รวมไปถึงการเติบโตของร้านอาหารที่ได้รับคัดเลือกจากมิชลินไกด์ก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับเชียงใหม่ ทำให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางจากทั่วโลกจะต้องมาเยือน”

นอกจากนี้ยังมีสถิติที่น่าสนใจในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว จาก “จังหวัดเชียงใหม่” ที่ยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่วางแผนท่องเที่ยวและมองหาที่พักที่มีเอกลักษณ์บน Airbnb ในช่วงเทศกาลลอยกระทงและยี่เป็งเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เมื่อเทียบกับการค้นหาในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าเชียงใหม่ยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยว แม้จะเพิ่งผ่านเหตุการณ์น้ำท่วม ที่สอดคล้องถึงการฟื้นตัวที่ดี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นตลาดอันดับต้น ๆ ของเชียงใหม่ในปี 2567

Crybaby เปิดตัว CryBunny & CryTeddy คาแรกเตอร์ไซส์บิ๊ก หน้าสยามพารากอน และในสยามเซ็นเตอร์

https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2826680

Crybaby เปิดตัว CryBunny & CryTeddy คาแรกเตอร์ไซส์บิ๊ก หน้าสยามพารากอน และในสยามเซ็นเตอร์

20 พ.ย. 2567 19:37 น.

Crybaby เปิดตัว CryBunny & CryTeddy คาแรกเตอร์ไซส์บิ๊ก หน้าสยามพารากอน และในสยามเซ็นเตอร์

“Molly Factory Studio” งานครีเอทอีเวนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเอาใจสาวกสาวเจ้าน้ำตา CryBaby เปิดตัวคาแรกเตอร์สุดคิวท์ขนาดยักษ์ CryBunny และ CryTeddy บริเวณสยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ตั้งแต่วันนี้ – 1 ธ.ค. 67

Molly Factory Studio ร่วมกับสยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ จัดอีเวนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เหล่านักสะสม และสาวกอาร์ตทอยห้ามพลาด ด้วยการเนรมิตพื้นที่ศูนย์การค้าให้เป็นพื้นที่แห่งความสบายใจ และเริ่มต้นใหม่ไปพร้อมๆ กัน ผ่านวิสัยทัศน์สุดสร้างสรรค์ของ ‘มอลลี่’ หรือ ‘มด – นิสา ศรีคำดี’ ศิลปินผู้นำเสนอผลงานคาแรกเตอร์อาร์ตทอยที่ฮอต และเป็นกระแสแรงที่สุดแห่งปีอย่าง CryBaby

‘มอลลี่’ หรือ ‘มด – นิสา ศรีคำดี’ ศิลปินผู้นำเสนอผลงานคาแรกเตอร์อาร์ตทอยที่ฮอต และเป็นกระแสแรงที่สุดแห่งปีอย่าง CryBaby

โดยงานในครั้งนี้ นำทุกคนไปสู่การเยียวยาทางอารมณ์สะท้อนถึงเส้นทางการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวของ ‘มอลลี่’ ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานกับคาแรกเตอร์อันเป็นที่รักอย่าง “CryBunny” และ “CryTeddy” คาแรกเตอร์สุดคิวท์ขนาดยักษ์ครั้งแรกในโลก ที่ Siam Paragon x CryBunny “Letting go” ณ พาร์ค พารากอน และ Siam Center x CryTeddy “Holding on” ณ ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ รวมถึงจัดเต็มกิจกรรมสุดเซอร์ไพรส์ และสินค้าคอลเลกชันพิเศษ ลิมิเต็ดเอดิชันที่จำหน่ายเฉพาะในงานเท่านั้น

  • โซนที่ 1 : “CryBunny” (พาร์ค พารากอน ชั้น M สยามพารากอน)

โซนแรกที่สยามพารากอนนี้จะพานักท่องเที่ยวไปพบกับ CryBunny ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการหลุดพ้นจากพันธนาการทางใจ และการต่อสู้ในอดีต ภายใต้คอนเซปต์ Letting Go Space พื้นที่สุดสร้างสรรค์เหนือจินตนาการ

โดย Molly Factory Studio มาร่วมจัดสถานที่ และปล่อยความกังวล ความเสียใจในอดีต และมาฮีลใจด้วยกันด้วยการเนรมิตพื้นที่เป่าลมขนาดใหญ่ พื้นที่รองรับทุกความรู้สึกของทุกท่านตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาสัมผัส (สามารถจองบัตรล่วงหน้าผ่าน Ticketmelon ราคา 290 บาท เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น.ในทุกวัน)

นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายภาพในมุมต่างๆ มาพร้อมโทนสีชมพูสุดน่ารัก และกิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟไม่ว่าจะเป็นการสะสมสแตมป์แลกของรางวัล และเซอร์ไพรส์ของรางวัลที่ซ่อนอยู่ในบริเวณพื้นที่ Letting Go Space อีกมากมาย

  • โซนที่ 2 : “CryTeddy” (เอเทรียม 2 ชั้น G สยามเซ็นเตอร์)

Molly Factory Studio x Siam Center จะชวนนักท่องเที่ยวให้คุณร่วมเดินทางไปกับ “CryTeddy” ในแนวคิด “Holding On” ที่จะพาทุกคนผ่านห้วงแห่งความโศกเศร้าที่ยึดติดสู่การปล่อยวางแล้วก้าวต่อไป

โดยจะได้พบกับ CryTeddy ความสูง 7 เมตร ที่แรก และที่เดียวในไทย ณ เอเทรียม 2 ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ ที่จะมาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้คนที่ได้พบเห็น ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของสยามเซ็นเตอร์ก็จะเห็นความน่ารักของ CryTeddy ได้ครบทุกองศา

  • โซนที่ 3 : CRYBUNNY Pop Up Store และ CRYTEDDY Pop Up Store

ร้านค้าสุดพิเศษ ที่จัดมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ พร้อมสินค้าคอลเลกชันรุ่นพิเศษ โดยจะแบ่งเป็นรอบๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาจับจองสินค้าสุดน่ารัก ทั้งหมด 12 รอบต่อวัน รอบละ 45 นาที สำหรับ 45 ท่านต่อรอบ เริ่มตั้งแต่เวลา 11.00 น.- 20.00 น. โดยเปิดลงทะเบียนการจองสิทธิ์พร้อมกันผ่าน Ticketmelon จำกัด 1 username / 1 สิทธิ์ สำหรับ CRYBUNNY Pop Up Store (สยามพารากอน) และ CRYTEDDY Pop Up Store (สยามเซ็นเตอร์) ตลอดทั้งงานทั้งสองพื้นที่

ทั้งนี้ผู้ที่ลงทะเบียนสามารถร่วมกิจกรรม Lottery Draw สิทธิ์การพรีออเดอร์ Sad Zoo Day Collection ขนาด 200% (เฉพาะตัวที่เปิดขายแบบ Lottery เท่านั้น โปรดตรวจสอบปฏิทิน และกฎกติกาในแต่ละวัน บนเว็บไซต์ Molly Factory Official)

สาวกเด็กเจ้าน้ำตา (CryBaby) สามารถร่วมเดินทางผ่านห้วงแห่งความโศกเศร้า และก้าวต่อไปกับอีเวนต์สุดพิเศษที่จะสร้างความประทับใจและถ่ายภาพแชร์โมเมนต์แห่งความทรงจำไปด้วยกัน ต่อเนื่อง 12 วันเต็มใน 2 พื้นที่ โดยงานนี้จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ – 1 ธันวาคม 2567 ณ สยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Molly Factory Official ทุกช่องทาง หรือ Facebook: SiamParagon และ SiamCenter

ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย