‘ผอ.ไซเตส’คนดังพร้อมให้ปลดอีก2รองอธิบดีอุทยานพ้น‘กก.สรรหาซี9’
หึ่ง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช หลังรักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งเด้ง“ธนวัฒน์ ทองตัน” พ้นตำแหน่งรักษาการ ผอ.ไซเตส ทั้งที่รักษาการมานานกว่า 3 ปี ทำงานรณรงค์ไม่ค้างาช้างเถื่อนจนไทยรอดถูกขึ้นบัญชีมีส่วนกระตุ้นค้างาช้างผิด ก.ม. แล้วตั้ง “สมเกียรติ สุนทรพิทักษ์กูล” ที่กำลังถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงคดีอุทยานฯ สิรินาถ จ.ภูเก็ต ขึ้นแทน พร้อมสั่งปลดอีก 2 รองอธิบดีกรมอุทยานฯพ้นกรรมการสรรหาซี 9 แล้วตั้งเพื่อนร่วมรุ่นเข้ามาแทน ด้าน “เกษมสันต์ จิณณวาโส” ปลัด ทส. ยันตั้ง ผอ.ไซเตส เพราะค้างมานาน ทั้งที่ผ่านการสรรหามาถูกต้อง และเตรียมตั้งอธิบดีกรมป่าไม้รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ ก่อนเปิดสรรหา
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ส่ออลเวงหลังมีการแต่งตั้งโยกย้ายระดับผู้บริหาร โดยเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธัญญา เนติธรรมกุล รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายนายธนวัฒน์ ทองตัน รักษาการ ผอ.กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา (ไซเตส) กรมอุทยานฯ พ้นจากตำแหน่ง พร้อมแต่งตั้งนายสมเกียรติ สุนทรพิทักษ์กูล นักวิชาการป่าไม้ส่วนศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติ สำนักอุทยานแห่งชาติ เป็น ผอ.ไซเตส นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งยกเลิกคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการเพื่อเสนอรายชื่อเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการสูง (ซี 9) ที่มีนายสมหมาย กิตติยากุล รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กับนายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เป็นกรรมการ และแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อ นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานฯ ซึ่งเป็นเพื่อนคณะวนศาสตร์ รุ่น 47 กับนายธัญญา รวมอยู่ด้วย
ต่อมาเมื่อสอบถามนายธัญญาถึงเรื่องดังกล่าวก็ได้รับคำตอบว่า การแต่งตั้งนายสมเกียรติ เพราะนายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ร้องขอมา เนื่องจากนายสมเกียรติไปร้องเรียนขอความเป็นธรรม เพราะสอบเลื่อนขึ้นเป็น ผอ.ไซเตส ได้ตั้งแต่ปี 2556 แต่กลับไม่มีการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ เมื่อขั้นตอนต่างๆ แล้วเสร็จจึงมีการคืนความเป็นธรรมกับนายสมเกียรติ
ขณะที่เมื่อไปสอบถามนายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ก็ได้รับคำตอบว่า การแต่งตั้งให้นายสมเกียรติเป็น ผอ.ไซเตส เป็นเรื่องที่ค้างมานานและที่ผ่านมา ได้หารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) โดย ก.พ.ตอบกลับมาว่า นายสมเกียรติผ่านกระบวนการสรรหามาอย่างถูกต้อง โดยนายสมเกียรติไปร้องต่อศาลปกครองว่า กรมอุทยานฯ ไม่ยอมดำเนินการแต่งตั้งปล่อยให้เรื่องคาราคาซัง ต่อมานายธนวัฒน์ก็ร้องเรียนขอความเป็นธรรมเหมือนกัน ก็มีการชี้แจงไปแล้วว่า เป็นการทำตามระเบียบเรื่องที่ค้างกันมา แต่นายธัญญาพูดไม่ถูกว่าเป็นคำสั่งของตนให้แต่งตั้งนายสมเกียรติ ตนบอกว่า เมื่อตอนนี้ทำหน้าที่รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ อะไรที่ค้างคาก็ให้ไปจัดการให้เรียบร้อย ตนไม่ได้ขอร้องหรือสั่งใคร
เมื่อถามว่าการตั้งนายสมเกียรติ ที่ถูกตั้งกรรมการสอบกรณีอุทยานฯ สิรินาถ เหมาะสมหรือไม่ นายเกษมสันต์ กล่าวว่า เรื่องความผิดก็ว่ากันไปตามกระบวนการสอบสวน แต่เรื่องการแต่งตั้ง ผอ.ไซเตส เป็นเรื่องที่ค้างอยู่ นอกจากนี้ จะเสนอ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรฯ ให้ลงนามในคำสั่งให้นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ไปรักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานฯ และให้ น.ส.สุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ โดยให้มีอำนาจเต็มในการสั่งการเรื่องต่างๆ ด้วย เพื่อให้รองอธิบดีที่รักษาการทั้ง 2 กรมสามารถเสนอชื่อตัวเองเข้ารับการสรรหาได้
นายเกษมสันต์กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ยังมีตำแหน่งเทียบเท่าระดับ 9 คือตำแหน่ง ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ว่าง 18 ตำแหน่ง ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคอีก 2 ตำแหน่ง ซึ่งได้ทำหนังสือเวียนให้ทุกหน่วยงานเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาแล้ว โดยคาดว่าจะมีผู้มีคุณสมบัติเข้ารับการสรรหาจากทุกหน่วยงานสูงสุด 400 ราย และในเดือน ม.ค.59 จะมีตำแหน่งระดับ 10 ว่างอีก 7 ตำแหน่งที่ต้องมีการสรรหา โดยรองอธิบดีทุกกรมมีสิทธิ์เข้ารับการสรรหา ซึ่งแต่ละคนจะรู้ว่าตัวเองมีคุณสมบัติในการสมัครในตำแหน่งใด
เมื่อถามว่า บุคคลที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ทางวินัยร้ายแรงมีสิทธิ์เข้ารับการสรรหาในตำแหน่งต่างๆ ที่ว่างอยู่หรือไม่ นายเกษมสันต์กล่าวว่า ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ถ้ายังไม่มีการตัดสินลงโทษก็สามารถเข้ารับการสรรหาได้ เหมือนศาลยังไม่ตัดสิน ห้ามเอามาเป็นเงื่อนไขในการพิจารณา เพราะบางกรณีอาจเป็นการกลั่นแกล้งกัน
ด้านนายธนวัฒน์ ทองตัน ที่มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งรักษาการ ผอ.ไซเตส กล่าวว่า การโยกย้ายตนออกจากตำแหน่ง ผอ.ไซเตส ถือว่าไม่มีความเป็นธรรม เพราะตนรักษาการ ผอ.ไซเตสมานานกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ตนเคยเสนอขอย้ายตัวเองกลับต้นสังกัด คือ ส่วนต้นน้ำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) หลังจากนายสมเกียรติสอบได้ แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากอธิบดีกรมอุทยานฯ ในช่วงที่ผ่านมา เหมือนหลอกใช้และตนก็เรียกร้องให้มีการสอบใหม่มาตลอด การย้ายตนครั้งนี้เหมือนเสร็จนาฆ่าโคถึกเสร็จศึกฆ่าขุนพล เพราะตนเพิ่งทำงานเรื่องการรณรงค์การค้างาช้างสำเร็จและจองตั๋วเตรียมเดินทางไปประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาไซเตส ครั้งที่ 66 ในวันที่ 5-11 ม.ค.2559 ที่หนึ่งในวาระสำคัญในการประชุมคือการชี้ชะตาตัดสินว่าไทยจะถูกระงับการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าในบัญชีไซเตสหรือไม่ ซึ่งผลล่าสุดไซเตสประเมินผลงานของประเทศไทยน่าพอใจได้คะแนนเต็ม 100 และเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่จะถูกถอดออกจากบัญชีไซเตส ที่ประกาศให้ไทยเป็น 1 ใน 8 ประเทศที่ถูกระบุว่ามีส่วนกระตุ้นการค้างาช้างที่ผิดกฎหมาย (Primary Concern) ทั้งนี้ ตนจะขออุทธรณ์คำสั่งโยกย้ายและจะฟ้องศาลปกครองต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่งดังกล่าวได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในกลุ่มข้าราชการกรมอุทยานฯ เพราะเห็นว่าไม่ถูกต้องและไม่มีความเป็นธรรมต่อนายธนวัฒน์ นอกจากนี้ ยังมองว่านายสมเกียรติ ไม่มีความเหมาะสมเพราะกำลังอยู่ระหว่างการถูกกรมอุทยานฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีเกี่ยวพันกับการออกเอกสารสิทธิในอุทยานฯสิรินาถ จ.ภูเก็ต เช่นเดียวกับการปลดนายสมหมายและนายอดิศร รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ออกจากกรรมการสรรหาซี 9 แล้วตั้งนายทรงธรรม ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นมาแทน ทำให้อำนาจในการสรรหาอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม