“การศึกษาที่ออกแบบได้” ของ กศน. ปราจีนบุรี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05093010559&srcday=2016-05-01&search=no

วันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 622

กศน. ทั่วไทย

จิรวรรณ โรจนพรทิพย์

“การศึกษาที่ออกแบบได้” ของ กศน. ปราจีนบุรี

“จังหวัดปราจีนบุรี” เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโดดเด่นด้านงานศิลปวัฒนธรรม ดึงดูดให้คนไทยและต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้ช่วยวางรากฐานการศึกษาในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีได้อย่างแข็งแรงและเข้มข้นไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ

คุณสุรัติ วิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดปราจีนบุรี (ปัจจุบัน รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน. จังหวัดมุกดาหาร) เล่าให้ฟังถึงนโยบายและแผนการทำงานของ กศน. จังหวัดปราจีนบุรี ที่ช่วยให้ชาวจังหวัดปราจีนบุรีมีโอกาสเข้าถึงการศึกษา เข้าสู่สังคมฐานความรู้ ได้เรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนท้องถิ่นตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี

เปิด 4 ศูนย์เรียนรู้ ที่ “กศน. ตำบล”

ท่านเลขา กศน. ได้มอบนโยบายให้ กศน. ตำบล เป็นศูนย์การเรียนรู้ จำนวน 4 ฐาน คือฐานการเรียนรู้ส่งเสริมประชาธิปไตย ฐานการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ศูนย์การเรียนรู้ ICT และ “ฐานการเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน” ซึ่งเปิดให้ทุกคนเข้ามาเรียนรู้ได้ทั้งสายสามัญ สายอาชีพ การเรียนรู้ตามอัธยาศัย

“ฐานการเรียนรู้ตลอดชีวิต” ไม่จำกัดว่า ผู้เรียนต้องเป็นคนในชุมชนที่มีอายุ อยู่นอกระบบการศึกษาเท่านั้น ทาง กศน. ได้สนองนโยบาย “ลดเวลาการเรียน เพิ่มเวลารู้” ของรัฐบาล โดยจัดกิจกรรมตามอัธยาศัยให้แก่เด็กที่อยู่ในระบบโรงเรียน เช่น จัดรถโมบายเคลื่อนที่ เข้าไปยังสถานศึกษาในแต่ละท้องถิ่น เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนได้ใช้เวลาว่างเพื่ออ่านหนังสือในห้องสมุดเคลื่อนที่ รวมทั้งสืบค้นข้อมูลทางระบบอินเตอร์เน็ตจากรถโมบายเคลื่อนที่ของ กศน.

จัดการศึกษา ให้ชุมชน…เพื่อชุมชน

สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดปราจีนบุรี (กศน. จังหวัดปราจีนบุรี) กำกับดูแลด้านนโยบายของ กศน. อำเภอ ทั้ง 7 แห่ง จำนวน 65 ตำบล ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์จังหวัดปราจีนบุรี และนโยบายรัฐบาล รวมทั้งแผนงานของ สำนักงาน กศน. และกระทรวงศึกษาธิการ

ในช่วงต้นปีงบประมาณ กศน. จังหวัดปราจีนบุรี จะนำนโยบายส่วนกลาง จากภาครัฐบาล สู่ภาคการปฏิบัติ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ กศน. ทุกส่วน ตั้งแต่ผู้บริหารระดับจังหวัด กรม กอง และระดับอำเภอ มาประชุมวางแผนปฏิบัติร่วมกัน เช่น นโยบายด้านสังคม ด้านคุณธรรม ด้านการศึกษา ด้านอาชีพ ฯลฯ ที่ผ่านมา กศน. จังหวัดปราจีนบุรี ได้ดำเนินโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง เช่น นโยบายสนับสนุนวิชาชีพระยะสั้นในหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านอาชีพของประชาชนในแต่ละชุมชน รวมทั้งประเมินผลตอบรับว่า โครงการอบรมอาชีพดังกล่าว คุ้มค่ากับการดำเนินงานหรือไม่

ทุกวันนี้ กลุ่มผู้ไม่รู้หนังสือของจังหวัดปราจีนบุรีมีสัดส่วนไม่สูงมาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงวัย ทางครู กศน. ก็เข้าไปดูแลให้กลุ่มผู้สูงวัยสามารถอ่านออกเขียนได้ โดยใช้ตัวครู กศน. เข้าไปสอนโดยตรง หรือให้ศิษย์เก่า นักศึกษา กศน. ที่เป็นรุ่นลูกหลานเข้ามาช่วยเหลือผู้สูงวัยได้เรียนรู้เรื่องการอ่านหนังสือ

จัดการศึกษาในค่ายทหาร

ทุกวันนี้ มีผู้สนใจทุกช่วงวัยเข้ามาศึกษาเรียนรู้กับ กศน. ในแต่ละภาคเรียน ประมาณ 8,000 คน ทางสำนักงาน กศน. จังหวัดปราจีนบุรี ได้จัดส่งครู กศน. อำเภอเมือง ไปจัดอบรมส่งเสริมอาชีพให้กับผู้ต้องขัง ภายในเรือนจำประจำจังหวัดแล้ว ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ที่ผ่านมา ยังไปจัดการเรียนการสอนร่วมกับครูทหาร ในกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ฯ จำนวน 17 กองพัน ส่วน กศน. อำเภอศรีมหาโพธิ เข้าไปช่วยจัดการเรียนการสอนให้แก่ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จังหวัดปราจีนบุรี

รูปแบบการจัดการเรียนการสอนของทหาร จะใช้หลักสูตร 51 ซึ่งมีมาตรฐานการเรียนการสอนเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป ส่วนรายวิชาเลือกของทหาร จะใช้วิธีการเทียบโอนจากการฝึกทหาร ได้แก่ การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ ฝึกท่วงท่าทหารเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ฟังเทศน์ฟังธรรม สวดมนต์ไหว้พระ ฯลฯ เมื่อเรียนจบตามหลักสูตรที่กำหนด จะได้รับใบ รบ. เหมือนกับประชาชนทั่วไป

กศน. เปิดโลกการศึกษาให้น้องไอซ์

น้องไอซ์-น.ส. อารดา วงศ์ดีเลิศ บุตรสาวกำพร้า ของ น.พ. กฤษฎา วงศ์ดีเลิศ อดีตแพทย์ โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ที่เสียชีวิตจากการช่วยคนไข้เมื่อ 10 ปีก่อน จนกลายเป็นกระแสข่าวโด่งดังในช่วงที่ผ่านมา น้องไอซ์มีโรคประจำตัว และมีภาระหน้าที่ในการทำงานเลี้ยงดูคุณย่า เธอจึงพลาดโอกาสจากการศึกษาในระบบ เพราะอายุเกิน 15 ปี ไม่สามารถเรียนต่อที่สถานศึกษาแห่งเดิมได้

น้องไอซ์อยากจะเรียนให้สูงๆ และอยากเป็นครูสอนหนังสือ เธอรู้ว่า กศน. สามารถจัดการเรียนการสอนเข้ากับวิถีชีวิตของเธอได้ ที่สำคัญได้เรียนฟรี เธอจึงสนใจสมัครเรียนกับ กศน. อำเภอกบินทร์บุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีครู กศน. ตำบล เข้าไปช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยให้น้องไอซ์มีโอกาสศึกษาต่อในสายสามัญ ควบคู่กับการเรียนรู้สายงานอาชีพ เพื่อให้เธอมีรายได้ระหว่างการเรียนสำหรับดูแลตัวเองและคุณย่าไปพร้อมๆ กัน

เจาะเคล็ดลับครูภูมิปัญญาท้องถิ่น

กศน. จังหวัดปราจีนบุรี ได้มอบหมายให้ กศน. อำเภอ ทั้ง 7 แห่ง ได้รวบรวมเคล็ดลับความรู้ของครูภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดปราจีนบุรีในด้านการเกษตร ด้านแพทย์แผนไทย ด้านศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้องค์ความรู้เหล่านั้นสูญหายไปกับกาลเวลา และสามารถใช้ถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นคนปราจีนบุรีแก่ประชาชนทั่วไปได้ในอนาคต

ยกตัวอย่าง เช่น ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี มีครูภูมิปัญญาดีเด่น ชื่อ คุณประทวน สิงหะ เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนไทย สาขาการรักษานิ้วล็อก โดยใช้เส้นใบลานสานเป็นรูปนิ้ว เรียกเทคนิคนี้ว่า “งูกินนิ้ว” เธอได้นำงูกินนิ้ว มาใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคนิ้วล็อก ปรากฏว่าได้ผลดี เพราะงูกินนิ้วที่ทำจากใบลาน มีความยืดหยุ่นและนิ่มไม่ทำให้เจ็บนิ้ว ต่อมาคุณประทวนได้พัฒนารูปแบบงูกินนิ้ว ใส่ในกล่องบรรจุภัณฑ์ที่มีความสวยงาม กลายเป็นสินค้าโอท็อปชุมชน จำหน่ายในศูนย์นวดลานทองบ้านทับลาน จนถึงทุกวันนี้

กศน. เปิดตัว โครงการบรรณสัญจร (Book Voyage)

นายสุรพงษ์ จำจด เลขาธิการ กศน. เปิดเผยว่า สำนักงาน กศน. ร่วมมือกับ องค์กรภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย บมจ. อสมท. บริษัท วัชรพล จำกัด, บมจ. มติชน, บมจ. เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป, บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน (สสส.), บริษัท ทีวีบูรพา และสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (ทีเค พาร์ค) ฯลฯ จัดโครงการบรรณสัญจร (Book Voyage) ประจำปี 2559 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

กศน. และภาคีเครือข่ายได้ทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการบรรณสัญจร (Book Voyage) ประจำปี 2559 ภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 44 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยตั้งเป้ารับบริจาคหนังสือไม่น้อยกว่า 10 ล้านเล่ม ส่งไปยังแหล่งการเรียนรู้ที่มีอยู่จำนวนทั้งสิ้น 26,835 แห่ง แบ่งเป็นห้องสมุดประชาชนจำนวน 911 แห่ง ได้แก่ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” 94 แห่ง ห้องสมุดประชาชนจังหวัด 72 แห่ง ห้องสมุดประชาชนอำเภอ 745 แห่ง กศน. ตำบล 7,424 แห่ง และบ้านหนังสือชุมชน 18,500 แห่ง เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงการรู้หนังสือ ช่วยปลุกกระแสการอ่านหนังสือในทุกชุมชนเป้าหมาย รวมทั้งเกิดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

หากประชาชนท่านใดต้องการสนับสนุนโครงการนี้ สามารถบริจาคหนังสือหรือเงินเพื่อจัดหาหนังสือพิมพ์ วารสาร และนิตยสาร ให้แก่หมู่บ้านในชนบท โดยติดต่อผ่านเว็บไซต์ บ้านหนังสือชุมชน (http://www.nfe.go.th/cbh) ซึ่งเป็นช่องทางที่ให้ผู้บริจาคกับเจ้าของบ้านหนังสือ ได้พบปะกันโดย กศน. ได้จัดทำรายละเอียด ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ของเจ้าของบ้านหนังสือให้สามารถติดต่อได้สะดวก

“ช่างปูกระเบื้อง” หลักสูตรการศึกษาสร้างอาชีพ ที่ กศน. ตำบลท่าทอง สุโขทัย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05090150359&srcday=2016-03-15&search=no

วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 619

กศน. ทั่วไทย

จิรวรรณ โรจนพรทิพย์

“ช่างปูกระเบื้อง” หลักสูตรการศึกษาสร้างอาชีพ ที่ กศน. ตำบลท่าทอง สุโขทัย

“วัด” นับเป็นศูนย์กลางการศึกษาของเด็กไทยตั้งแต่สมัยโบราณ พระที่เชี่ยวชาญภาษาบาลีและแตกฉานด้านพระธรรมวินัย ถูกยกย่องว่าเป็นปราชญ์ จะทำหน้าที่เป็นครูผู้สอนเด็กๆ ทั้งภาษาบาลี ภาษาไทย ในบางท้องถิ่นอาจสอนวิชาชีพต่างๆ เช่น ช่างถม ช่างทอง ช่างแกะสลัก ช่างปั้น วิชาแพทย์แผนโบราณ และวิชาศิลปะป้องกันตัว เป็นการสอนให้รู้จักการใช้อาวุธ การบังคับสัตว์ที่ใช้เป็นพาหนะในการออกศึกและตำราพิชัยยุทธ ไปพร้อมๆ กันด้วย

ปัจจุบัน แม้ว่าบทบาทของวัดและพระสงฆ์จะลดลงไปจากเดิม แต่กระนั้น วัดและพระสงฆ์ก็ยังมีการปรับเปลี่ยนบทบาทให้สอดคล้องกับสภาพสังคม ยังคงเป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียน ประพฤติปฏิบัติธรรม เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน เป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีทางประเพณีวัฒนธรรมของชุมชน และเป็นศูนย์กลางแห่งประชาคม ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของรัฐบาล

วัดหนองป่าตอสามัคคีธรรม

วัดหนองป่าตอสามัคคีธรรม เป็นวัดเก่าแก่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ตามการสืบค้นด้านวัตถุโบราณจากสำนักงานโบราณคดีสรุปว่า เคยเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่พุทธศักราช 1900-2100 แต่ก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ต่อมา ปี พ.ศ. 2531 พระครูวิจิตรธรรมนิเทศก์ (โชติ) ได้ริเริ่มก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ และขอขึ้นทะเบียนวัดตามกฎหมายและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสจนถึงปัจจุบัน

ทางวัดเล็งเห็นประโยชน์ด้านการศึกษา จึงมอบอาคารอเนกประสงค์ของวัด ให้ กศน. ตำบลท่าทอง ใช้เป็นศูนย์การเรียนชุมชนตำบลท่าทอง จัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับนักศึกษาและประชาชนมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาและประชาชนเกิดการเรียนรู้ทั้งด้านวิชาการ ประสบการณ์ เทคโนโลยีและสภาพเหตุการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้สอดคล้องตามโครงการ หนึ่งตำบล หนึ่งวัดพัฒนาของตำบล ตลอดจนจัดการศึกษาเพื่อให้สมกับเจตนารมณ์ของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย

นอกจากนี้ ทางวัดหนองป่าตอสามัคคีธรรม เล็งเห็นว่า การรู้หนังสือ เป็นรากฐานของการแสวงหาความรู้ อันจะนำไปสู่การเรียนรู้อย่างยั่งยืนตลอดชีวิต ทางวัดจึงได้เปิด “ที่อ่านหนังสือชุมชน” ขึ้น ภายใต้การสนับสนุนของ กศน. ตำบลท่าทอง เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนได้พัฒนาการอ่านและมีความรู้เพิ่มมากขึ้น

กศน. ตำบลท่าทอง

กศน. ตำบลท่าทอง มุ่งเป้าเป็นศูนย์กลางการจัดการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับประชาชนในชุมชน เป็นสถานที่เสริมสร้างโอกาสในการเรียนรู้ การถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ วิทยาการ ตลอดจนภูมิปัญญาท้องถิ่น อีกทั้งเป็นแหล่งบริการในการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน โดยเน้นกระบวนการเรียนรู้ในวิถีชีวิตให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของสังคม ก่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้และมุ่งการพัฒนาแบบพึ่งตัวเอง

ที่ผ่านมา คุณสมโภช ช่างดำริห์ ครู กศน. ตำบลท่าทอง ได้ทำงานบูรณการกับหน่วยงานในท้องถิ่น ในรูปแบบต่างๆ เช่น กิจกรรมอำเภอเคลื่อนที่ โดย กศน. ตำบลท่าทอง ได้ร่วมกับห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอสวรรคโลก จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน (รถโมบายเคลื่อนที่) ณ โรงเรียนบ้านหนองป่าตอ โดยนำกิจกรรมต่างๆ มาให้เด็กๆ ได้ร่วมสนุก เช่น กิจกรรมอ่านหนังสือรถโมบาย กิจกรรมเล่านิทานและตอบคำถามจากนิทาน ชิงรางวัล กิจกรรมถาม-ตอบ ปัญหาอาเซียน กิจกรรมทำที่คั่นหนังสือสานด้วยมือ กิจกรรมร้องรำทำเพลง กิจกรรมทำที่คั่นหนังสือด้วยไม้ไอติม กิจกรรมสาธิตการพับริบบิ้น เป็นต้น

“ช่างปูกระเบื้อง”

หลักสูตรการศึกษาสร้างอาชีพ

ที่ผ่านมา กศน. ตำบลท่าทอง ได้จัดหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานทำให้แก่ชุมชนในหลากหลายรูปแบบ ซึ่ง “หลักสูตรช่างปูกระเบื้อง” เป็นหนึ่งในหลักสูตรที่ได้รับความสนใจจากผู้เรียนอย่างมาก เพราะอาชีพช่างปูกระเบื้องเป็นอาชีพอิสระ ที่ผู้เรียนสามารถนำมาเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพรองได้

“ช่างปูกระเบื้อง” เป็นอาชีพที่ผู้สนใจสามารถเรียนรู้ได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่มีต้นทุนในการประกอบอาชีพ เพราะเป็นอาชีพที่ใช้ฝีมือและทักษะในการประกอบอาชีพ ปัจจุบันที่พักอาศัยของประชาชนส่วนใหญ่ก่อสร้างจากวัสดุคอนกรีต ซึ่งการตกแต่งภายในและภายนอกจะนิยมใช้กระเบื้องเป็นส่วนประกอบทั้งพื้นบ้าน ผนัง ห้องน้ำ และปัจจุบันครอบครัวของสังคมไทยเป็นครอบครัวขยาย จึงมีการปลูกที่พักอาศัยมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบอาชีพด้านช่างปูกระเบื้องขาดแคลน อาชีพช่างปูกระเบื้องเป็นอาชีพหนึ่งที่เป็นช่องทางในการประกอบอาชีพของผู้ที่ยังไม่มีงานทำ หรือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพที่เป็นงานอิสระและมั่นคงได้ในอนาคต

หลักสูตรการศึกษาสร้างอาชีพ “วิชาช่างปูกระเบื้อง” ทาง กศน. ตำบลท่าทอง จะเน้นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นประชาชนทั่วไป ที่ไม่มีอาชีพ และผู้ที่มีอาชีพแล้วแต่ต้องการพัฒนาอาชีพ โดยหลักสูตรนี้จะมีระยะเวลาการเรียนการสอนจำนวน 48 ชั่วโมง โดยสอนช่องทางการประกอบอาชีพในระดับพื้นฐาน ตั้งแต่ประโยชน์และความสำคัญของการปูกระเบื้อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปูกระเบื้อง ตั้งแต่ชนิดของกระเบื้อง ที่มี 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กระเบื้องปูพื้น กระเบื้องปูฝาผนัง กระเบื้องดินเผา

รวมทั้ง ชนิดของวัสดุปูกระเบื้อง ได้แก่ กาวซีเมนต์สำหรับปูกระเบื้อง ปูนปูกระเบื้อง (ปูนสำเร็จรูป) ปูนทรายผสมเอง ประเภทของเครื่องมือที่ใช้ปูกระเบื้องและวิธีใช้ ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ และสอนทักษะการประกอบอาชีพ จำนวน 24 ชั่วโมง (ทฤษฎี 4 ชั่วโมง ปฏิบัติ 20 ชั่วโมง) โดยครูผู้สอนจะเตรียมพื้นที่ เตรียมกระเบื้อง และวัสดุอุปกรณ์ สอนให้ผู้เรียนรู้จัก วิธีปูพื้น วิธีปูฝาผนัง วิธีปูกระเบื้องดินเผา วิธีการเก็บรายละเอียดของชิ้นงาน การบริหารจัดการในการประกอบอาชีพ จำนวน 10 ชั่วโมง (ทฤษฎี 3 ชั่วโมง ปฏิบัติ 7 ชั่วโมง) สอนหลักการคำนวณพื้นที่ และคำนวณราคาในการปูพื้น/ปูผนัง/ปูกระเบื้องดินเผาได้ ขั้นตอนการประชาสัมพันธ์ และการหาลูกค้า การเจรจาต่อรองราคากับลูกค้า

หากใครมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กับ คุณสมโภช ช่างดำริห์ กศน. ตำบลท่าทอง ได้ที่ สำนักงาน กศน. ตำบลท่าทอง วัดหนองป่าตอสามัคคีธรรม หมู่ที่ 1 ตำบลท่าทอง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย 64110 โทร. (083) 167-5246

กศน. จับมือ สภาพัฒนาการเมือง ร่วมวางยุทธศาสตร์พัฒนาการศึกษา

นายสุรพงษ์ จำจด เลขาธิการ กศน. เปิดเผยว่า สำนักงาน กศน. มีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทางสภาพัฒนาการเมือง (สพม.) ในการร่วมกันวางแผนยุทธศาสตร์พัฒนาการศึกษาโดยใช้แผนพัฒนาการเมืองเป็นกรอบแนวทางเพื่อสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมสร้างกลไกความร่วมมือในการดำเนินงานในพื้นที่ ระหว่างสภาพัฒนาการเมืองเและสำนักงาน กศน. ในปี 2559 นี้ โดยโจทย์สำคัญของ กศน. ที่ต้องปฏิบัติ คือ ทำอย่างไร ให้กระบวนการของประชาธิปไตย เข้าไปซึมในวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนให้จงได้ โดยผ่านกระบวนการทำงานของ กศน. ระดับจังหวัด และระดับตำบล เพื่อช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีความเข้าใจประชาธิปไตยมากขึ้น

เลขาธิการ กศน. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน กศน. มอบหมายภารกิจให้หน่วยงานทั้งในระดับจังหวัดและตำบลที่มีความใกล้ชิดและมีโอกาสเข้าถึงประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี เข้าไปประสาน รวมถึงเป็นกลไกขับเคลื่อนการสร้างเวที การรับรู้ และการมีส่วนร่วมของประชาชนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้ในที่สุด โดยจะมีการเปิดเวทีในโครงการส่งเสริมและพัฒนาสำนึกพลเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยขึ้น ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน 2559 อันประกอบด้วยผู้แทนภาคประชาชนจาก 53 จังหวัด จังหวัดละ 10 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีทางการเมือง ธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชน ชุมชนและการต่อต้านการทุจริต เพื่อให้ภาคประชาชนที่ร่วมกิจกรรมมีการรับรู้ เกิดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเมืองและระบอบประชาธิปไตยทั้งในระดับพื้นที่และประเทศต่อไป

“กศน. น่าน” สืบสานภูมิปัญญาล้านนา

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05096010359&srcday=2016-03-01&search=no

วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 618

กศน. ทั่วไทย

จิรวรรณ โรจนพรทิพย์

“กศน. น่าน” สืบสานภูมิปัญญาล้านนา

“น่าน” เป็นหนึ่งในเสน่ห์มนตราแห่งล้านนา “แอ่วน่านม่วนไจ๋” ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เพราะน่านเป็นเมืองแห่งความสุข สงบ สะอาด มีแหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พืชไร่ไม้ผลก็มากมี รสชาติอาหารพื้นเมืองก็อร่อยเด็ด ชาวเมืองน่านน่ารัก มีน้ำใจ อัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้ผู้มาเยือนหลายราย “ตกหลุมรัก” Slow Life Slow City ของเมืองน่านอย่างถอนตัวไม่ขึ้น อย่างเช่น “คุณบัณฑูร ล่ำซำ” เจ้าสัวใหญ่ผู้กุมบังเหียนธนาคารกสิกรไทย ที่ย้ายสำมะโนครัวมาเป็นพลเมืองน่านแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ไปแล้ว

กศน. จังหวัดน่าน

ปัจจุบัน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดน่าน (กศน. จังหวัดน่าน) ภายใต้การนำของ ท่านผู้อำนวยการ คุณพีระพงษ์ มหาวงศนันท์ มุ่งเร่งรัดการกระจายโอกาสทางการศึกษา ให้เข้าถึงประชาชนที่อยู่นอกระบบโรงเรียนอย่างทั่วถึง ทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มวัยเรียนการศึกษาภาคบังคับ แต่อยู่นอกระบบโรงเรียน (อายุ 6-14 ปี) กลุ่มประชากรวัยแรงงาน (อายุ 15-59 ปี) กลุ่มวัยแรงงาน กลุ่มผู้พิการ และกลุ่มผู้สูงอายุ กศน. น่าน เลือกใช้สื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษาที่หลากหลายนำมาใช้จัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในการจัดการศึกษา

ปี 2558 กศน. จังหวัดน่าน ได้ปรับรูปแบบกิจกรรมและวิธีดำเนินการ จาก “บ้านหนังสืออัจฉริยะ” ไปสู่ “บ้านหนังสือชุมชน” และขยายการบริการให้กระจายครบทุกหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ โดยคำนึงถึงความต้องการทางการศึกษาเรียนรู้ของประชาชนในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน เพื่อส่งเสริมการรู้หนังสือ การเสริมสร้างนิสัยรักการอ่าน การเข้าถึงข่าวสารข้อมูลและความรู้ของประชาชนอย่างทั่วถึง เน้นเชื่อมโยงการทำงานเป็นเครือข่ายกับ กศน. ตำบล และศูนย์เรียนรู้ชุมชนในพื้นที่ เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

ในปีมหามงคล 2558 ที่ผ่านมา สำนักงาน กศน. จังหวัดน่าน ร่วมกับจังหวัดน่านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการสร้างป่าสร้างรายได้ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพื้นที่ทรงงาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เพื่อฟื้นฟูป่าให้มีสภาพสมบูรณ์ โดยส่งเสริมการปลูกไม้โตเร็ว ไม้ท้องถิ่น และไม้เศรษฐกิจ บนที่ดินทำกินของเกษตรกร เพื่อป้องกันการบุกรุกป่าไม้ธรรมชาติ รวมทั้งอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำลำธารในท้องถิ่นให้มีสภาพอุดมสมบูรณ์ต่อไป

สืบสานภูมิปัญญาล้านนา

สำนักงาน กศน. จังหวัดน่าน ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาและหน่วยจัดบริการการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย นำภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน หรือภูมิปัญญาพื้นบ้าน และแหล่งวิทยาการชุมชนทุกประเภทในพื้นที่นำมาใช้ประโยชน์ในการจัดการศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพและมีการอนุรักษ์ สืบสาน ประยุกต์ใช้ต่อยอดสร้างสรรค์และพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น

โดยใช้ กศน. ตำบล เป็นฐานและสถานีปลายทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงให้กับประชาชนในพื้นที่ ให้ดำรงชีวิตให้อยู่ในสังคมอย่างมีความสุขบนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ทั้งนี้ พบว่า ประชาชนที่เข้ามารับบริการการศึกษานอกระบบ ร้อยละ 80 มีความพึงพอใจต่อกิจกรรมที่ได้รับ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน สร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัว มีชีวิตพอเพียงตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ปัจจุบัน กศน. ตำบล ในพื้นที่จังหวัดน่าน ได้ขึ้นทะเบียนแหล่งเรียนรู้และครูภูมิปัญญา และเข้าร่วมกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้แก่นักศึกษา กศน. อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ นายควง จันต๊ะขัน ครูภูมิปัญญาด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ นายศรีจันทร์ งานมูลเขียว ด้านพิธีกรรม (หมอสู่ขวัญ) และด้านวรรณกรรมล้านนา (การอ่านค่าว จ้อย) นายศรีวิชัย อินต๊ะวิชัย ด้านพิธีกรรม (หมอสู่ขวัญ) นายบุญมี จักริลา ด้านพิธีกรรม (หมอสู่ขวัญ) ท่านพระครูโอภาส นันทสาร วัดน้ำแก่นกลาง (วัดสว่างอรุณ) ด้านภาษาบาลีและวรรณกรรมล้านนา นายเดช ปันแก้ว ด้านวรรณกรรมล้านนา

“ตำบลน้ำแก่น” มีแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตชาวล้านนาที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น วัดสว่างอรุณ บ้านน้ำแก่นกลาง เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องภาษาบาลีและวรรณกรรมล้านนา ศูนย์เรียนรู้เกษตรพืชไร่ บ้านน้ำแก่นกลาง เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านนาเหลืองม่วงขวา เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการทำธูปสมุนไพรไล่ยุง ฯลฯ

“ตำบลน้ำเกี๋ยน” มีครูภูมิปัญญาหลายท่าน ได้แก่ นางระเบียบ สารัตนะ ด้านงานหัตกรรมและศิลปะประดิษฐ์ นางพิกุล ธนะวงค์ ด้านการจักสาน นายอนันต์ นุเสน ด้านสมุนไพรพื้นบ้าน นายจรัส ดีปินตา ด้านช่างฝีมือ การตีเหล็ก นายชูศิลป์ สารรัตนะ ด้านศิลปะสถาปัตยกรรม นางคำ ดีสีใส ด้านการนวดแผนไทย การอบสมุนไพร นายเฉลียว ดีพรมกุล ด้านพิธีกรรม (หมอสู่ขวัญ) นายภัทธาวุฒิ ธนะวงค์ ด้านการแสดงพื้นบ้าน (สะล้อ ซอ พิณ ฟ้อนดาบ)

นอกจากนี้ จังหวัดน่านยังมีแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น วัดโป่งคำ หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำเกี๋ยน ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมและศาสนา ส่วนพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำเกี๋ยน เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง บ้านน้ำเกี๋ยนใต้ หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำเกี๋ยน เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องนิคมอาชีพเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนบ้านน้ำเกี๋ยน ตำบลน้ำเกี๋ยน เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องศิลปินพื้นบ้าน (สะล้อ ซอ ซึง) บ้านใหม่พัฒนา หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำเกี๋ยน ของ กลุ่มชีววิถี เป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านด้านการแปรรูปสมุนไพรในรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ

ธูปสมุนไพรไล่ยุง บ้านนาเหลืองม่วงขวา

กลุ่มอาชีพตำบลน้ำแก่นธูปสมุนไพรไล่ยุง สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับพืชธรรมชาติที่เหมือนไร้ค่าด้วยการใช้ภูมิปัญญา นำพืชหลายชนิดที่มีสรรพคุณโดดเด่นต่างแขนงกันมารวมกันเพื่อผลิตเป็นธูปสมุนไพร พร้อมปรับบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย กลายเป็นสินค้าโอท็อป ระดับ 4 ดาว ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชม อนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้านไปในตัว พร้อมลดปัญหาโรคซึมเศร้าในกลุ่มผู้สูงวัยได้เป็นอย่างดี สร้างความภาคภูมิใจแก่ผู้สูงวัย รวมทั้งถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้ลูกหลานได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน หากใครสนใจอยากเยี่ยมชมกิจการผู้สูงวัยกลุ่มนี้ หรือสนใจอยากเป็นลูกค้าสามารถติดต่อกับ คุณสมพร สิทธิตาคำ โทร. (081) 960-0416 และ คุณบุญยวง อะโนติ๊บ โทร. (087) 193-4906

กลุ่มชีววิถี ชุมชนต้นแบบภูมิปัญญาสร้างอาชีพ

วิสาหกิจชุมชนชีววิถี ตำบลน้ำเกี๋ยน อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เป็นต้นแบบชุมชนแห่งการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพได้อย่างยั่งยืน ปี 2550 ชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ได้นำวัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชนมาใช้ประโยชน์ และใช้สารเคมีให้น้อยที่สุด ผลิตภัณฑ์ที่ได้นอกจากจะปลอดภัยต่อผู้ใช้ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือน และสร้างโอกาสมีรายได้สู่ชุมชน

ทางกลุ่มชีววิถีได้นำพืชสมุนไพรในท้องถิ่น เช่น ใบหมี่ ดอกอัญชัน มะเฟือง มะกรูด มะขาม ขมิ้นชัน มาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มโดยผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาผลิตเป็นสินค้ามากกว่า 20 ชนิด เช่น แชมพู สบู่ ครีมทาผิว ฯลฯ แชมพูทุกสูตร และครีมนวด มียอดการผลิตจำหน่ายเฉลี่ย เดือนละ 1,000 ขวด สินค้าของกลุ่ม มีการจำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ทั้งในจังหวัดน่านและต่างจังหวัดโดยการส่งพัสดุไปรษณีย์ และจำหน่ายตรงให้แก่บริษัทเครื่องสำอาง 2 แห่ง คือ บริษัท เซ้นต์บิวตี้ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และ บริษัท ไบโอเวย์ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

คุณศรินันท์ สารมณฐี ผู้จัดการวิสาหกิจชุมชนชีววิถีตำบลน้ำเกี๋ยน อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันสินค้าของกลุ่มชีววิถีได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง เช่น สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO มาช่วยพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน บรรจุภัณฑ์ และการส่งเสริมช่องทางการตลาด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลน้ำเกี๋ยน เป็นหน่วยงานให้การสนับสนุนด้านการควบคุมคุณภาพการผลิต และนำเครื่องจักรมาช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิต เช่น เครื่องปั่นแชมพู เครื่องปั่นสร้างเนื้อครีม เป็นต้น และทดสอบค่า PH ทุกครั้งที่ผลิต และมีการส่งตรวจคุณภาพการผลิต กับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดน่าน และได้ผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.)

ผลิตภัณฑ์กลุ่มชีววิถี เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นการใช้สมุนไพรในปริมาณมาก และใช้สารเคมีให้น้อยที่สุด เช่น แชมพูสมุนไพร จะมีสารเคมีเพียง ร้อยละ 18 เท่านั้น จึงลดโอกาส การแพ้ หรือระคายเคืองลงได้มาก แชมพูและครีมนวดผม สมุนไพรใบหมี่-อัญชัน ของกลุ่มชีววิถี เหมาะสำหรับใช้สระผมป้องกันผมร่วง และเหมาะสำหรับคนผมบาง ผมแห้งเสีย เมื่อใช้เป็นประจำจะช่วยให้ผมดกดำมากขึ้น ผมนุ่มลื่น เงางาม มีน้ำหนัก

ทางกลุ่มชีววิถีใส่ใจกระบวนการผลิตสินค้าทุกชนิด นับตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ ที่ใหม่ สด เก็บวันต่อวัน เช่น ใบหมี่ ขมิ้น มะกรูด ฯลฯ ผลิตภัณฑ์ชุมชนแห่งนี้ ช่วยสร้างรายได้ให้ชาวบ้านจากการปลูกพืชสมุนไพร เช่น ใบหมี่ และมะเฟือง กลุ่มชีววิถีรับซื้อในราคา กิโลกรัมละ 3 บาท ฝ่ายผลิตมีรายได้ วันละ 150-180 บาท และได้รับโบนัสสิ้นปี เฉลี่ยคนละ 1,500-2,000 บาท ปัจจุบันสินค้าของกลุ่มชีววิถีได้รับการคัดเลือกให้เป็นสินค้าโอท็อปเด่นประจำจังหวัดน่าน เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคทั่วประเทศ มีการวางจำหน่ายทั้งในร้านค้าท้องถิ่น ร้านสปาชั้นนำทั่วไป นำความภาคภูมิใจมาสู่ชุมชน และสร้างรายได้เข้าสู่ท้องถิ่นหลายล้านบาทต่อปี

วิสาหกิจชุมชนชีววิถีตำบลน้ำเกี๋ยน เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรโดยชุมชน และช่วยขยายองค์ความรู้ไปสู่กลุ่มผู้สนใจในจังหวัดน่าน โดยการเป็นวิทยากรฝึกอบรมการทำแชมพูสมุนไพร และสบู่สมุนไพรแล้วกว่า 20 ชุมชน และมีคณะศึกษาดูงาน มาเรียนรู้ที่กลุ่มชีววิถีเป็นประจำทุกเดือน

ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมกิจการวิสาหกิจชุมชนชีววิถี อาคารเลขที่ 130 หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำเกี๋ยน อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน 55000 โทร. (054) 684-079

ภาคเหนือ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05098010359&srcday=2016-03-01&search=no

วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 618

กศน. ทั่วไทย

สุจิต เมืองสุข cheetahmom6@gmail.com

ภาคเหนือ

พัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเปิดโครงการประชุมวิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ของศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยโครงการดังกล่าว สังกัดสำนักงาน กศน. สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดพระปริยัติธรรม เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการศึกษานอกโรงเรียนให้เป็นที่ประจักษ์ทั่วไป สร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานตามโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร

กศน. เชียงของ จัดแข่งกีฬา สานสัมพันธ์

เมื่อเร็วๆ นี้ ที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลครึ่ง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย จัดให้มีการแข่งขันกีฬาภายใน กศน. เชียงของ ครั้งที่ 5 ขึ้น เพื่อเป็นการสานความสัมพันธ์ ระหว่างบุคลากรภายในหน่วยงาน และส่งเสริมให้เห็นความสำคัญของการเล่นกีฬา

เรียนรู้ผ่านกิจกรรมวิทยาศาสตร์

กศน. จังหวัดพิจิตร จัดโครงการดาราศาสตร์ “ดาวชาละวัน” ให้กับนักศึกษา กศน. เพื่อส่งเสริมให้มีกิจกรรมด้านดาราศาสตร์ และเพิ่มเติมความรู้จากบทเรียนผ่านกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ โดยมีวิทยากรจากศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ มาให้คำแนะนำ

กศน. พะเยา จัดประชุมประจำเดือน

เมื่อเร็วๆ นี้ นายปัณณพงศ์ ท้าวอาจ ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน. จังหวัดพะเยา ร่วมประชุมคณะกรรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน ณ ห้องประชุมภูกามยาว ศาลากลางจังหวัดพะเยา อำเภอเมืองพะเยา ทั้งนี้ ได้นำนิทรรศการและนวัตกรรมของ กศน. อำเภอเชียงม่วน มาจัดแสดงหน้าห้องประชุมดังกล่าวด้วย นิทรรศการประกอบด้วย กิจกรรมการทำเครื่องออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ (โดยใช้ยางยืด) กิจกรรมตานความฮู้ สู่ชุมชน และกิจกรรมหนังสือที่ท่านชอบ มอบคนอื่นอ่าน เป็นต้น

โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน

กศน. ตำบลหนองหล่ม อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ดำเนินการจัดโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนตำบลหนองหล่ม ซึ่งเป็นกิจกรรมการอบรมให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพ โดยมี นายสมาน สุภัควานิชย์ นักวิชาการชำนาญการ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลำปาง เป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้

อีสาน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05100010359&srcday=2016-03-01&search=no

วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 618

กศน.ทั่วไทย

ผู้แต่ง

อีสาน

 

เปิดโครงการส่งเสริม

เมื่อเร็วๆ นี้ นายพิทักษ์ ศรีสุภักดิ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ณ ที่ทำการสำนักงาน กศน. อำเภอบรบือ

เรียนรู้วิทยาศาสตร์

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม นำนักศึกษาในสังกัด จำนวน 221 คน เข้าร่วมกิจกรรมโครงการเรียนรูู้วิทยาศาสตร์สู่ประชาคมอาเซียน ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม จังหวัดร้อยเอ็ด

ร่วมบรรยาย วิชาหาเลี้ยงชีพ

ดร. สุประณีต ยศกลาง ผู้อำนวยการ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จังหวัดสกลนคร ร่วมเป็นวิทยากรบรรยาย เรื่อง วิชาหาเลี้ยงชีพ ในการประชุมปฏิบัติการการจัดการสอนทักษะอาชีพในโรงเรียนการศึกษาภาคบังคับ ณ โรงแรมอิมพีเรียล จังหวัดสกลนคร เมื่อเร็วๆ นี้

ทอดผ้าป่า สร้างที่พัก

เมื่อเร็วๆ นี้ นายพัฒนา ปู่วัง ผู้อำนวยการ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อำเภอเมืองหนองคาย นางพรพิมพ์ บุญที และครูผู้สอนคนพิการ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ร่วมทอดถวายผ้าป่าสามัคคี สร้างอาคารที่พักนักศึกษาผู้พิการ ณ โรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ หนองคาย

อบรม ผลิตภัณฑ์จากพลาสติก

เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ตำบลหอคำ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ จัดกิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์จากพลาสติก แก่ประชาชนผู้สนใจในพื้นที่ ณ กศน. ตำบลหอคำ เมื่อเร็วๆ นี้

กศน. ใต้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05101010359&srcday=2016-03-01&search=no

วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 618

กศน.ทั่วไทย

ผู้แต่ง

กศน. ใต้

กศน. สตูล สนับสนุนสานต้นคลุ้ม สร้างรายได้

เรวัฒน์ เพ็ชรสงฆ์ ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน. จังหวัดสตูล เล่าว่า จากการจัดการศึกษาต่อเนื่อง หลักสูตรระยะสั้น ได้ให้ครู กศน. ตำบล จัดการสอนอาชีพ โดยยึดหลักแผนจุลภาค กศน. ตำบล ในการสร้างงาน สร้างรายได้ในท้องถิ่น โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด

กศน. ตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ร่วมกับกลุ่มสตรี มาทำการจักสานต้นคลุ้ม บ้านวังตง ต้นคลุ้ม เป็นพืชที่ขึ้นบนภูเขาในสวนยางพารา โดยปกติเกษตรกรจะตัดทิ้ง เนื่องจากเป็นพืชขึ้นในสวนยางพารา

แต่เกษตรกรนำลำต้นของต้นคลุ้มมาจักสานเป็นของใช้ต่างๆ เนื่องจากต้นคลุ้มเป็นพืชในท้องถิ่น มีความคงทน ลวดลายสวยงาม สามารถขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ง่าย ปัจจุบัน สามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ของตำบล แต่ละตำบลมีการรวมกลุ่มกันผลิต และปลูกต้นคลุ้มขาย ต้นละ 10 บาท ทำเส้นต้นคลุ้มขาย และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังต่างจังหวัด มีสมาชิก 15 ครัวเรือน สร้างรายได้หลักแก่ครอบครัวในยามราคายางพาราตกต่ำได้เป็นอย่างดี

กลุ่มจักสานต้นคลุ้ม ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 4 บ้านวังตง ตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ประธานกลุ่ม บุบผา เชื้อขาว โทร. (091) 315-1142

“สุชล สุขเกษม” ศิษย์เก่าคนเก่ง ของ “กศน. บางคนที” จิรวรรณ โรจนพรทิพย์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05091010259&srcday=2016-02-01&search=no

วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 616

กศน. ทั่วไทย

“สุชล สุขเกษม” ศิษย์เก่าคนเก่ง ของ “กศน. บางคนที” จิรวรรณ โรจนพรทิพย์

จังหวัดสมุทรสงคราม หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “เมืองแม่กลอง” อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถูกเรียกว่า เป็นเมืองแห่งวิถีชีวิต 3 น้ำ เพราะโดดเด่นด้วยระบบนิเวศ 3 น้ำ คือ น้ำจืด น้ำเค็ม น้ำกร่อย กำลังถูกพัฒนาเป็นศูนย์กลางการพักผ่อนและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคมสมุทรสงครามมีความเข้มแข็งและดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

กศน. อำเภอบางคนที

กศน. อำเภอบางคนที มุ่งมั่นทำงานตามกรอบวิสัยทัศน์ ของ สำนักงาน กศน. จังหวัดสมุทรสงคราม ในการส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตและการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำ รองรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมอันดีงามและส่งเสริมให้ประชาชนได้รับการศึกษาตลอดชีวิตอย่างทั่วถึงเท่าเทียมกัน ในทุกที่ทุกเวลา พร้อมจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพของบุคคลและกลุ่มบุคคล เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข็มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชน

เพื่อให้การอ่านเป็นเรื่องใกล้ตัว กศน. อำเภอบางคนที จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างต่อเนื่อง เช่น จัดหาอาสาสมัครส่งเสริมการอ่านประจำตำบลเป็นสื่อกลางในการอำนวยความสะดวก ทำหน้าที่สอบถามความต้องการและนำหนังสือจากห้องสมุดประชาชนในพื้นที่มาให้อ่านถึงบ้าน ให้ชาวบ้านมีโอกาสได้อ่านหนังสือมากขึ้น

นอกจากนี้ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอบางคนที ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน “เล่าข่าวให้เพื่อนฟัง” โดยบรรณารักษ์ได้นำหนังสือพิมพ์หลากหลายฉบับมาให้กับเด็กๆ ได้เลือกหนังสือพิมพ์ที่จะนำมาอ่านแข่งขันกัน และเด็กๆ ก็เลือกคอลัมน์พาดหัวข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์อ่าน เด็กคนไหนอ่านได้ถูกต้องรับรางวัลไปเลย ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นการฝึกสมอง ฝึกการใช้สมาธิ และใช้สติในการอ่านข่าว ทำให้เด็กๆ ได้รู้เหตุบ้านการเมืองในปัจจุบันอีกด้วย

“สุชล สุขเกษม” ศิษย์เก่า คนเก่ง

คุณสุชล เป็นหนึ่งในศิษย์เก่า คนเก่ง ที่ กศน. อำเภอบางคนที ภาคภูมิใจ เขาสมัครเรียนกับ กศน. ตั้งแต่วัยเยาว์ เริ่มจากการศึกษาระดับประถมจนจบระดับมัธยมปลาย เมื่อจบการศึกษา คุณสุชล ตัดสินใจช่วยพ่อแม่ทำอาชีพเกษตรกรรมมาตลอด จนกระทั่ง ปี 2532 จึงเดินทางไปขายแรงงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย นานถึง 8 ปี ทำให้เขาได้เรียนรู้การทำเกษตรของซาอุดีอาระเบีย และตั้งใจกลับบ้านมาทำเกษตรแบบพอเพียงพึ่งตนเองได้ คุณสุชลศึกษาเรียนรู้เรื่องการเกษตรในหลายพื้นที่ มาใช้พัฒนาที่ดินเกษตรกรรมของตัวเอง และสร้างแนวคิดใหม่ๆ ตามวิถีชีวิตเกษตรพอเพียง จนประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ กลายเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่นได้ศึกษาเรียนรู้

สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ได้มอบรางวัลศิษย์เก่าด้านภูมิปัญญาดีเด่น ประจำปี 2555 แก่ คุณสุชล ในปีเดียวกันนี้ คุณสุชล ยังได้รับการคัดเลือกจากสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ให้ได้รับปริญญา สาขาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการจัดการอุตสาหกรรมอีกด้วย

ปัจจุบัน คุณสุชล เปิดบ้านเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง (เกษตรผสมผสาน) เช่น การทำน้ำตาลมะพร้าว การทำปุ๋ยหมัก การเลี้ยงกุ้งขังเดี่ยว การเลี้ยงไก่ไข่หลุม การปลูกผักปลอดสาร การเลี้ยงไก่ไข่ขังเดี่ยว การทำแก๊สชีวภาพจากมูลไก่ไข่ การเลี้ยงชันโรงผสมเกสรผลไม้ ตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ จักรยานสูบน้ำ สาธิตพลังงานโซลาร์เซลล์ การกรองน้ำมันเก่าเป็นไบโอดีเซล ภายใต้การสนับสนุน จาก กศน. รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสิ้น 20 แห่ง ในแต่ละวันมีคนไทยและต่างชาติแวะเข้ามาเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง

การเลี้ยงไก่หลุม

คุณสุชล ได้นำแนวคิดการเลี้ยงหมูหลุม มาประยุกต์เป็นการเลี้ยงไก่ไข่หลุม โดยก่ออิฐฉาบปูนเป็นคอกสี่เหลี่ยม ขนาด 1.5×3 เมตร ลึก 1 เมตร รองก้นบ่อด้วยแกลบดิบ หรือขุยมะพร้าวแห้งเทรองก้นบ่อ หนาประมาณ 2 นิ้ว อิฐที่ก่อก้อนบนสุดของคอกจะมีช่องช่วยระบายอากาศให้ไก่ไข่ เมื่อนำพันธุ์ไก่ไข่ที่เลี้ยงไว้ 2-3 เดือน

เมื่อลูกไก่โตก็จะปล่อยลงเลี้ยงคอกละ 10-15 ตัว มีตาข่ายอวนเก่าปิดด้านบนคอกไม่ให้ไก่บินออกได้ มีถังให้อาหาร ถังน้ำ แขวนไว้ให้ไก่กินอาหารได้สะดวก ทุก 1 เดือน จะใส่แกลบดิบหรือขุยมะพร้าวแห้งใส่ลงไปในคอกหนา ประมาณ 2-3 นิ้ว ไก่ไข่ที่เลี้ยงมีสุขภาพที่ดี ไม่เครียด เพราะดูแลเก็บมูลไก่ทุกวัน เพื่อนำไปใช้เป็นปุ๋ยหมักใส่แปลงพืชผัก ผลไม้ ที่สำคัญมีไข่ไก่รับประทานทุกวัน ที่เหลือก็จำหน่าย พอไก่หมดไข่ก็จะได้ปุ๋ยหมักจากขี้ไก่อีก 100-200 กิโลกรัม ต่อคอก

การเลี้ยงไก่ไข่ขังเดี่ยว

กับต้นมะพร้าว

คุณสุชล ได้ทดลองเลี้ยงไก่ไข่ขังเดี่ยวกับต้นมะพร้าว ปรากฏว่าได้ผลดี เพราะต้นมะพร้าวได้มูลไก่เป็นปุ๋ยคอกทุกวัน ต่อมาได้พัฒนา สร้างคอกเลี้ยงไก่ไข่ไว้บนต้นมะพร้าว ต้นละ 2 คอก คอกละ 1 ตัว ไก่ไข่ก็อยู่อย่างสบายพอควร เจริญเติบโตได้ดีออกไข่ แถมต้นมะพร้าวก็ได้ปุ๋ยคอกทุกวัน ทำให้ต้นมะพร้าวเจริญเติบโตดี ให้ผลผลิตได้ดี

หากใครสนใจวิธีนี้ ก็สามารถลงมือทำตามคุณสุชลได้ไม่ยาก เริ่มจากใช้ไม้ต้นมะพร้าวเลื่อยเป็นไม้หน้า 3 นิ้ว ยาวประมาณ 80 เซนติเมตร จำนวน 2 อัน แล้วใช้ตะปูตอกไม้หน้า 3 นิ้ว สูงจากโคนมะพร้าว ประมาณ 1.5 เมตร แล้ววางตะกร้าคอกไก่ทั้ง 2 ข้าง ของไม้หน้า 3 นิ้ว เลี้ยงไก่ไข่คอกละ 1 ตัว โดยใช้ตะกร้าพลาสติก 2 ใบ คว่ำเข้าหากัน เลี้ยงไก่ 1 ตัว ก็จะอยู่สบาย เพราะอากาศถ่ายเทดี ด้านบนของตะกร้าเลี้ยงไก่ คลุมด้วยถุงพลาสติกป้องกันแดด กันฝน ให้ไก่ นำกระบอกใส่อาหารและใส่น้ำให้ไก่ เก็บไข่ไก่พร้อมกับให้อาหารให้น้ำไปพร้อมๆ กัน

เลี้ยง กุ้งก้ามกราม

ในร่องสวนมะพร้าว

โดยทั่วไป เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามนิยมปลูกมะพร้าว เนื่องจากสภาพดินเป็นดินเหนียว การระบายน้ำไม่ดี จึงนิยมยกร่องปลูกมะพร้าว มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา คุณสุชล สังเกตเห็นว่า มีกุ้งใหญ่เข้ามาเจริญเติบโตตามร่องน้ำในสวนเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ค่อยได้ผลดี เพราะเวลากุ้งโตมักลอกคราบแล้วกินกันเอง ทำให้เกิดความสูญเสีย

คุณสุชล จึงจับลูกกุ้งก้ามกรามในร่องสวน ช่วงเวลากลางคืน เพราะเป็นช่วงเวลาที่น้ำแห้ง ใช้ไฟฉายส่องดู จะเห็นลูกกุ้งมีตาแดง ตัวสีเหลืองก็จับได้ง่าย นำลูกกุ้งมาเลี้ยงในกระชังหรือตะกร้าพลาสติกตาถี่ หาซื้อได้จากร้านค้าทั่วไป นำตะกร้า 2 ใบ คว่ำเข้าหากัน และใช้ขวดน้ำเปล่า ขนาด 1 ลิตร ทำเป็นทุ่นลอย ให้ตะกร้าจุ่มน้ำ 1 ลูก และอยู่บนน้ำ 1 ลูก เจาะรูด้านบนตะกร้าลูกที่อยู่บนน้ำ ขนาดกว้าง 3X3 นิ้ว แล้วปล่อยกุ้งลงไป ชุดละ 1 ตัว ให้อาหารวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

เทคนิคการเลี้ยงกุ้งแบบนี้ กุ้งจะเจริญเติบโตได้ดีและไม่กินกันเองในเวลาที่กุ้งลอกคราบ เพราะมีตัวเดียว เป็นการสร้างรายได้ที่ดีสำหรับเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว เพราะได้กุ้งก้ามกรามที่มีคุณภาพดีแบบกุ้งแม่น้ำไว้บริโภคหรือจำหน่าย สำหรับร่องน้ำ 1 ร่อง สามารถเลี้ยงกุ้งขังเดี่ยวได้ 20-50 กระชัง แล้วแต่ความยาวของร่องน้ำในสวนมะพร้าว เลี้ยงไว้ประมาณ 6-7 เดือน ก็จับขายได้ กุ้งใหญ่ ขนาดประมาณ 5-6 ตัว ต่อกิโลกรัม ขายได้ในราคากิโลกรัมละ 500-800 บาท ทีเดียว

ไข่เค็ม รสต้มยำ

คุณสุชล ได้คิดค้นวิธีทำไข่เค็มรสต้มยำ ที่มีรสชาติอร่อยโดนใจผู้บริโภค วิธีทำก็แสนง่าย เริ่มจากเตรียมไข่เป็ดดิบประมาณ 20 ฟอง ล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้งก่อนเรียงใส่ในภาชนะดอง เช่น ถังพลาสติกหรือโหลแก้วที่มีฝาปิด ทำน้ำดองโดยเทน้ำสะอาด 4 ถ้วย ลงในหม้อ ตามด้วยเกลือเม็ด 1 ถ้วย ซอสปรุงรส 1 ขวดใหญ่ และข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด มะนาว กระเทียม ที่หั่นพอแหลก ประมาณ 1 จาน นำมาต้มรวมกัน หลังจากเดือดให้รอสัก 5 นาที ยกลง ระวังอย่าต้มน้ำนาน เพราะน้ำสมุนไพรจะเหนียวหนืด ซึมเข้าไปในเปลือกไข่ได้ยากขึ้น น้ำต้มเครื่องปรุงเย็นแล้วให้เทลงจนท่วมไข่ ถ้าไข่ลอยให้นำใบเตยกดทับไว้ ดองนาน 12 วัน เมื่อครบกำหนดให้นำไข่มาล้าง ก่อนลงต้มพอน้ำเริ่มเดือด รอ 5 นาที ยกลง ก็จะได้ไข่เค็มรสต้มยำ รอสัก 8 วัน ก็นำไข่เค็มมาทอดเป็นไข่ดาว รับประทานได้ ไข่เค็มสูตรนี้สามารถเก็บไว้รับประทานได้นานถึง 3 เดือน ถ้าเก็บแช่ในตู้เย็น หากวางในอุณหภูมิปกติจะใช้งานได้ไม่เกิน 1 เดือน

หากใครสนใจอยากเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของ คุณสุชล สุขเกษม สามารถแวะเข้าชมได้ทุกวัน ที่ บ้านเลขที่ 56 หมู่ที่ 7 ตำบลจอมปลวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เบอร์โทรศัพท์ (086) 178-4157

กศน. ทั่วไทย ภาคเหนือ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05093010259&srcday=2016-02-01&search=no

วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 616

กศน. ทั่วไทย ภาคเหนือ

สุจิต เมืองสุข cheetahmom6@gmail.com

กศน. พิจิตร จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล

เมื่อเร็วๆ นี้ นายไพฑูรย์ บัวสนิท รองผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน. จังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน. อำเภอ ข้าราชการ บุคลากร และนักศึกษา กศน. อำเภอเมืองพิจิตร เข้าร่วมพิธีวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล ประเทศไทยโปร่งใส Transparent Thailand รัฐบาลไทยร่วมกับประชาชนและภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม สนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

แสดงความยินดี ผู้บังคับบัญชาลูกเสือดีเด่น

คณะลูกเสือ สำนักงาน กศน. จังหวัดแพร่ เข้าร่วมงาน “วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า” ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 โรงเรียนเทพนารี อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ และแสดงความยินดีกับ นางเสาวนีย์ ชาพัฒิพงศ์ ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้บังคับบัญชาลูกเสือดีเด่น ประจำปี 2557 ประเภทผู้บริหาร

เปิดนิทรรศการ โครงการ กศน. พะเยา สร้างอาชีพ

สำนักงาน กศน. จังหวัดพะเยา นำโดย นายถนอม โยวัง ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา นำบุคลากร กศน. อำเภอดอกคำใต้ ร่วมจัดนิทรรศการโครงการ “กศน. พะเยา สร้างอาชีพ สู้ภัยแล้ง” ในงานฤดูหนาว สืบสานประเพณี และของดีจังหวัดพะเยา ภายในงานมีการสาธิตอาชีพการทำวุ้นแฟนซี ขนมไทย การสานกระเป๋าพลาสติก และกิจกรรมตอบคำถาม วาดรูป ระบายสี บริเวณข่วงวัฒนธรรมกว๊านพะเยา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา โดยมีประชาชนเข้าชมนิทรรศการของ กศน. พะเยา จำนวนมาก

กศน. ธานี พาเด็กเรียนรู้ “ทำดีแบบในหลวง”

นายพนม วันจันทร์ ครู กศน. ตำบลธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย นำนักศึกษา กศน. ตำบลธานี เข้าศึกษาเรียนรู้นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ทำดีแบบในหลวง” ณ ศาลาอเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย

มอบกระเช้าอวยพร รอง ผอ. กศน. เพชรบูรณ์

เมื่อเร็วๆ นี้ คณะบุคลากรและเจ้าหน้าที่สำนักงาน กศน. จังหวัดเพชรบูรณ์ นำกระเช้าของขวัญและขอพร เนื่องในวันปีใหม่ 2559 แด่ ว่าที่พันตรีดำริห์ ติยะวัฒน์ รองผู้อำนวยการ กศน. จังหวัดเพชรบูรณ์

กศน. ทั่วไทย ภาคกลาง + ตะวันออก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05094010259&srcday=2016-02-01&search=no

วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 616

กศน. ทั่วไทย ภาคกลาง + ตะวันออก

จิรวรรณ โรจนพรทิพย์ jirawan073@yahoo.com

สมุทรปราการ มอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ ( NN1)

นางธัชชนก พละศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน. จังหวัดสมุทรปราการ ได้นำคณะผู้บริหาร เข้ามอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ แก่ รศ.นพ. กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ และ นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พร้อมทั้งขอพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่

กศน. นนทบุรี จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ( NN2)

สำนักงาน กศน. จังหวัดนนทบุรี โดย ผู้อำนวยการวิบูลผล พร้อมมูล ได้นำบุคลากรสำนักงาน กศน. จังหวัดนนทบุรี จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2559 ณ สำนักงาน กศน. จังหวัดนนทบุรี

สระบุรี อบรมเกษตรธรรมชาติ ( NN3)

นางภัทรมน เยี่ยงไธสงค์ ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี และคณะ เข้าร่วมโครงการอบรมแกนนำเพื่อขยายผลเกษตรธรรมชาติตามโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กศน. มูลนิธิเอ็มโอเอไทย และ MOA International

เพชรบุรี จัดงานวันเด็ก ( NN4)

กศน. ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับ อบต. ตำบลห้วยแม่เพรียง จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2559

งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ ( NN5)

กศน. อำเภอเมืองลพบุรี เชิญผู้สนใจร่วมสัมผัสความเป็นไทย เยือนงานใหญ่เมืองละโว้ “งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” ประจำปี 2559 ระหว่างวันที่ 13-21 กุมภาพันธ์ 2559 ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.facebook.com/kingnaraiLopburi

จันทบุรี ถวายราชสักการะพระเจ้าตาก ( NN6)

คณะ ครู กศน. อำเภอเมืองจันทบุรี ร่วมวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายราชสักการะต่อพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ ณ ค่ายตากสินจันทบุรี

กศน. อำเภอสัตหีบ ปลื้มรับรางวัลสถานศึกษาดีเด่น

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05095150159&srcday=2016-01-15&search=no

วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 615

กศน. ทั่วไทย

จิรวรรณ โรจนพรทิพย์…เรื่อง

กศน. อำเภอสัตหีบ ปลื้มรับรางวัลสถานศึกษาดีเด่น

ปลายปี 2558 ที่ผ่านมา คุณสุรพงษ์ จำจด เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ปลาบปลื้มกับผลงานความสำเร็จ ของ กศน. อำเภอ จำนวน 14 แห่ง ที่ผ่านประเมินภายนอกระดับดีมากถึง 3 ปีซ้อน จากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)

ตลอด 14 ปี ที่ผ่านมา สมศ. ได้จัดประเมินคุณภาพภายนอก ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จำนวน 3 รอบ โดยรอบแรก ระหว่างปีงบประมาณ 2544-2548 รอบสอง ปีงบประมาณ 2549-2553 และรอบสาม ปีงบประมาณ 2554-2558 ปรากฏว่า สถานศึกษา สังกัด กศน. ต้นแบบจำนวน 14 แห่ง ที่มีผลงานคุณภาพดีมาก ทั้ง 3 รอบ มีรายชื่อดังต่อไปนี้

กลุ่ม กศน. ภาคใต้ คือ กศน. อำเภอนาทวี กศน. อำเภอระโนด กศน. อำเภอบางกล่ำ และ กศน. เมืองสงขลา จังหวัดสงขลา กศน. อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา กศน. อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง กศน. อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

กลุ่ม กศน. ภาคกลางและภาคตะวันออก ได้แก่ กศน. อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี กศน. อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา กศน. อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

ส่วน กลุ่ม กศน. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ กศน. อำเภอสุวรรณภูมิ กศน. อำเภอศรีสมเด็จ กศน. อำเภออาจสามารถ และ กศน. อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด

กศน. อำเภอสัตหีบ

สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดชลบุรี ได้รับสนองนโยบายจากกระทรวงศึกษาธิการและขยายผลสู่สถานศึกษาในสังกัด กศน. อำเภอ ทุกแห่ง รวมทั้ง กศน. สัตหีบ เดินหน้าจัดการศึกษาตลอดชีวิต กระจายความรู้สู่ชุมชน ได้มีงานอาชีพและแข่งขันในประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยืน

ปัจจุบัน กศน. อำเภอสัตหีบ อยู่ภายใต้การบริหารงานของ คุณไพรัตน์ เนื่องเกตุ ผู้อำนวยการ กศน. สัตหีบ ดูแลสถานศึกษาในสังกัด กศน. ตำบล จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย กศน. ตำบลบางเสร่ (ตั้งอยู่ที่ ศูนย์ฝึกทหารใหม่, เทศบาลตำบลบางเสร่) กศน. ตำบลนาจอมเทียน (ตั้งอยู่ที่บริเวณวัดหนองจับเต่า) กศน. ตำบลพลูตาหลวง (ตั้งอยู่ที่ อบต. พลูตาหลวงเดิม) กศน. ตำบลแสมสาร (ตั้งอยู่ที่บริเวณวัดช่องแสมสาร) และ กศน. ตำบลสัตหีบ (อยู่ติดเทศบาลเมืองสัตหีบ)

การทำงานปิดทองหลังพระของ ครู กศน. อำเภอสัตหีบ ทุกท่าน ตลอดระยะเวลา 14 ปี ที่ผ่านมา นับเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ กศน. อำเภอสัตหีบ ประสบความสำเร็จ ได้รับรางวัลในครั้งนี้ คงไม่สามารถบรรยายได้ครบถ้วนบนหน้ากระดาษเพียงไม่กี่แผ่น จึงขอรวบรวมผลงาน กศน. อำเภอสัตหีบ ที่เผยแพร่สู่สาธารณชนมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้

ที่ผ่านมา กศน. สัตหีบ ระดมภาคีเครือข่ายให้มีส่วนร่วมในการจัดและส่งเสริมกิจกรรม กศน. ไม่น้อยกว่า 75% พัฒนาบุคลากรของ กศน. เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างทั่วถึง ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ไม่น้อยกว่า 75% ก่อนหน้านี้ กศน. สัตหีบ ตั้งเป้าหมายว่า ประชากรวัยแรงงาน (อายุ 15-59 ปี) ได้รับการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในระดับที่สูงขึ้น ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10%

พร้อมกันนี้ กศน. อำเภอสัตหีบ ตั้งเป้าหมายผ่านเกณฑ์การประกันคุณภาพภายในไม่น้อยกว่า 80% ของตัวชี้วัดตามเกณฑ์การประเมิน พยายามจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปี จัดกระบวนการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนเป้าหมาย โดยจัดตั้งแหล่งเรียนรู้ชุมชน ร่วมกับภูมิปัญญาและผู้รู้ในชุมชน แต่งตั้งครูภูมิปัญญาท้องถิ่น ตำบลละ 2 ราย

กศน. สัตหีบ แสดงจุดยืน

ผู้ใฝ่รู้ ต้องไม่พึ่งยา

ปัญหายาเสพติด สร้างผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และบ่อนทำลายเยาวชนที่เป็นกำลังของชาติในอนาคต ดังนั้น กศน. สัตหีบ จึงประกาศเจตนารมณ์ ทำหน้าที่แก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดให้สิ้นซากหมดไปจากสถานศึกษา สังคม และประเทศไทย เนื่องจากนักศึกษาส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชนที่อยากรู้ อยากลอง ต้องการเรียกร้องความสนใจจากสังคม จนขาดสติยั้งคิด ทำให้เสี่ยงตกเป็นเหยื่อยาเสพติดได้ง่าย

กศน. สัตหีบ ประกาศจุดยืน ให้ “ผู้ใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา จะต้องไม่พึ่งพายาเสพติด” โดยปีที่ผ่านมาได้จัดโครงการ “นักศึกษา กศน. รุ่นใหม่ห่างไกลยาเสพติด” เพื่อสร้างภูมิความรู้ ใช้ในการเป็นเกราะกำบังไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาครอบงำทำลายชีวิต โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นำนักศึกษา กศน. จำนวน 400 คน เข้าตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบว่า นักศึกษาทุกคนปลอดจากสารเสพติด และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมในการร่วมแก้ปัญหายาเสพติด

จัดวันวิชาการ

เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ให้กับนักศึกษา ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่หลากหลายในด้านวิชาการ พร้อมเปิดโอกาส ให้นักศึกษาได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมตามความถนัดและความสนใจของตัวเอง กศน. อำเภอสัตหีบ ได้จัดโครงการวันวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประจำทุกปี

“โครงการวันวิชาการ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้” ช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรู้ให้กับนักศึกษา กศน. ที่เข้าร่วมกิจกรรมประกวดโครงงาน และประกวดซุ้มกิจกรรมในเชิงสร้างสรรค์ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่หลากหลายในด้านวิชาการ ทำให้พวกเขาคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น จากประสบการณ์ตรงได้อย่างสมบูรณ์ และเกิดความกระตือรือร้นที่จะเรียนต่อระดับสูงในอนาคต

ทำงานเชิงรุก

ที่ผ่านมา กศน. อำเภอสัตหีบ ได้เซ็นบันทึกข้อตกลง (MOU) กับโรงละครไทยอลังการ เพื่อสนับสนุนให้พนักงานได้เรียนในระดับที่สูงขึ้น โดย กศน. ได้จัดการเรียนการสอน กศน. พื้นฐาน ให้กับพนักงาน และชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง ทำให้พนักงานส่วนมากจบการศึกษาระดับมัธยมปลายเป็นส่วนใหญ่

กศน. สัตหีบ มุ่งทำงานช่วยเหลือชุมชนที่มีฐานอาชีพที่หลากหลาย สามารถยกระดับไปสู่วิสาหกิจชุมชนอันนำไปสู่การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระดับประเทศได้ เช่น กลุ่มชุมชนบางเสร่เพาะเห็ดเป็นอาชีพ กศน. สัตหีบ ได้เข้ามาสนับสนุนความรู้เรื่องการแปรรูปเห็ด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมส่งเสริมการรวมกลุ่มในรูปวิสาหกิจชุมชนเห็ดโคนญี่ปุ่นในน้ำซอสและน้ำเกลือพร้อมบริโภค และจัดตั้งให้วิสาหกิจแห่งนี้เป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชนเกี่ยวกับเรื่องการแปรรูปเห็ด กลายเป็นแหล่งศึกษาดูงานและสาธิตการทำเห็ดให้แก่กลุ่มแม่บ้านจากทั่วประเทศที่ต้องการศึกษาเรื่องแปรรูปเห็ด และเป็นสถานที่ฝึกอาชีพให้กับทหารเกณฑ์ที่เตรียมปลดประจำการ ปัจจุบัน สินค้าจากชุมชนแห่งนี้กลายเป็นสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการคัดสรร ได้ 5 ดาว เมื่อปี พ.ศ. 2553

ส่วนกลุ่มผู้ไม่รู้หนังสือ กศน. สัตหีบ ได้มอบหมายให้ครู กศน. ทุกคนเฉลี่ยกันสอน สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสร้างนิสัยรักการอ่านให้กับประชาชน และนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้บริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์งาน กศน. ในรูปแบบที่หลากหลาย และทั่วถึง มอบหมายให้ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอสัตหีบ จัดทำเว็บไซต์เพื่อเผยแพร่ความรู้ และกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับห้องสมุด รวมไปถึงประชาสัมพันธ์สถานที่สำคัญในอำเภอสัตหีบ เช่น เขาชีจรรย์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอำเภอสัตหีบ

กศน. สัตหีบ มุ่งหวังให้นักศึกษา กศน. มีความรู้เกี่ยวกับการศึกษาที่หลากหลาย ตามหลักสูตรที่กำหนด โดยจัดกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เช่น กศน. ตำบลนาจอมเทียน จัดกิจกรรม โครงการ นักศึกษา กศน. พบผู้รู้ซันเซ็ทฟาร์มหอยหวาน ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี คุณภานุรักษ์ ตริยางกูรศรี เจ้าของฟาร์มเป็นวิทยากร