ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160606/229034.html
จับตาคสช.ปรับมาตรการลดอุณหภูมิการเมือง : ขยายปมร้อนโดย อนพัทย์ ดีช่วย สำนักข่าวเนชั่น
เมื่อเส้นทางเดินใกล้เข้าสู่ป้ายของการทำประชามติ ก็มีอีกปมปัญหาระหว่างทางคือ กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ มาตรา 61 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ขัดรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว หรือไม่ โดยเรื่องนี้เกิดเป็นประเด็นคำถามไปยังผู้มีอำนาจของบ้านเมืองทันทีว่า จะสะเทือนถึงการทำประชามติหรือไม่ อย่างไร
โดยฝั่งฟากรัฐบาล โดย “นายกฯ ตู่” มองถึงประเด็นนี้ และฮึ่มใส่ทันทีที่ถูกยิงคำถาม ว่า การทำประชามตินั้นถ้ามีความขัดแย้งก็ต้องเลื่อนออกไป ซึ่งไม่ใช่ตัวเองเป็นผู้สั่งให้เลื่อน อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับผลของศาลรัฐธรรมนูญ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันว่าจะเอาอย่างไรต่อ
ด้าน “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ มือกฎหมาย ปรับโทนใส่น้ำเย็นให้คำพูดของ “บิ๊กตู่” โดยบอกว่า สิ่งที่นายกฯ พูดไปนั้น เป็นการ “มองไกลไป 5 ช็อต” มองไปถึงว่า ถ้ามีเหตุการณ์วุ่นวายจากปมข้อกฎหมายที่รอการตีความนี้ออกมาแล้ว ซึ่งสิ่งที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งให้ศาลพิจารณา เนื่องจากติดใจ 3 คำ คือ “ก้าวร้าว รุนแรง และหยาบคาย” ถ้าคำใดคำหนึ่งถูกศาลวินิจฉัยว่าผิดก็เพียงแค่ตัดคำนั้นทิ้ง หรือถ้าผิดทั้ง 3 คำก็ตัดทิ้งทั้งหมดเสีย แม้ว่าผลวินิจฉัยจะถูกเคาะออกมาแบบไหนก็ไม่สะเทือนต่อเส้นทางการทำประชามติ 7 สิงหาคม แน่นอน หรือหากแม้ศาลจะพิจารณาหลังจากนั้นก็ไม่เป็นปัญหา
ขณะที่ฝ่ายอื่นๆ ทั้ง กรธ. สนช. รวมถึง กกต.เอง ก็พร้อมใจกันแสดงความมั่นใจในปมปัญหานี้ว่า ไม่กระทบไปถึงวันหย่อนบัตร และเชื่อว่ามิใช่ปัจจัยที่ทำให้โรดแม็พต้องยืดยาวออกไป
“มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธาน กรธ. ก็มองว่า นี่ไม่ใช่เรื่องสาหัส แต่ก็เหมือนจะแอบกังวลว่าข้อกฎหมายที่เป็นปัญหาอาจจะกระทบไปถึงการบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญมากขึ้น
อย่างไรก็ตามต้องมาดูที่คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้งว่าจะทำให้ต้องขยับปรับแก้ เป็นผลมากน้อยแค่ไหน
แต่อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โรดแม็พเป็นอันต้องยืดยาวขยายก็คือ ในเรื่องของความสงบเรียบร้อย ซึ่ง “บิ๊กตู่” เอง ได้ประกาศชัดในเวทีนานาชาติ ของที่ประชุมประเทศสมาชิกจี 77 ว่า จะไม่ไปไหน หากประเทศยังไม่สงบ
ประโยคนี้อาจเป็นอีกหนึ่งป้ายเตือนที่ต้องการสื่อถึงฝ่ายการเมือง ซึ่งช่วงหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ฮึ่มกลับอยู่บ่อยครั้ง แม้เร็วๆ นี้เพิ่งจะมีการปลดล็อกผ่อนผันให้มีการเดินทางออกนอกประเทศตามเงื่อนไขได้ แต่ก็เหมือนไม่ใช่อย่างที่พรรคการเมืองต้องการเสียทีเดียว เพราะข้อเสนอให้พรรคจัดกิจกรรมประชุมพรรคได้ ยังไม่ได้รับการหืออือ
หรือแม้แต่ปรับโทนในส่วนของการเรียกบุคคลมาปรับทัศนคติ โดยได้รื้อโต๊ะปูพรมใหม่ โยนคำว่า “ปรับทัศนคติ” ทิ้งใส่กล่องลายพราง และเปลี่ยนคำใหม่ให้นุ่มนวลเป็น “พูดคุยทำความเข้าใจ” พร้อมย้ายสถานที่พบเจอเป็นสถานีตำรวจหรือศาลากลางจังหวัด ซึ่งอาจทำให้ลดองศาบรรยากาศทางการเมืองที่ตอนนี้ แม้จะได้ไม่ร้อนระอุ แต่ก็กำลังเข้าสู่ช่วงเข้มข้นสุดๆ ท่ามกลางสภาพอากาศที่กำลังบอกลาฤดูร้อน
นี่ก็เข้าสู่ขวบฤดูฝนที่รอบสองของรัฐบาลและ คสช.แล้ว และอีก ประมาณ 2 เดือน ก็จะถึงการทำประชามติ ต้องจับตาว่าจะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมที่จะปรับเปลี่ยน ผ่อนปรน หรือแก้เกม เพื่อที่จะช่วยลดให้โทนของสถานการณ์การเมืองดูผ่อนคลายลงรับช่วงเวลาสำคัญอีกหรือไม่









