ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05040010559&srcday=2016-05-01&search=no
| วันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 622 |
จัดการดินและน้ำ-ฝ่าภัยแล้ง
พัฒนา นรมาศ
ปลูกพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อยสู้วิกฤตแล้งได้ผลคุ้มทุน ที่ศรีสะเกษ
วิกฤตภัยแล้ง ได้ส่งผลกระทบต่อวิถีเกษตรกรรมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและใกล้เคียง แม้จะมีเขื่อนหรือแหล่งน้ำธรรมชาติ แต่ปริมาณน้ำก็มีไม่พอเพียงให้นำไปใช้ปลูกพืชที่ต้องใช้น้ำในปริมาณมากได้ ทางตันที่ยังมีทางออก เมื่อสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ได้จัดการพื้นที่หลังการเก็บเกี่ยวข้าวด้วยการปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย ทำให้ดินดี เสริมรายได้ ลดต้นทุนการปลูกพืชครั้งต่อไป เป็นทางเลือกเพื่อยกระดับรายได้สู่วิถีพอเพียงที่มั่นคง วันนี้จึงได้นำเรื่อง ปลูกพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อยสู้วิกฤตแล้งได้ผลคุ้มทุน มาบอกเล่าสู่กัน
คุณทวี มาสขาว เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ เล่าให้ฟังว่า สภาวะวิกฤตภัยแล้ง ปี 2558/59 ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตเกษตรเกือบทุกพื้นที่ แหล่งน้ำมีปริมาณน้ำน้อย เกษตรกรไม่สามารถปลูกพืชที่ต้องใช้น้ำปริมาณมากได้ ทำให้รายได้ไม่สมดุลกับรายจ่ายในครัวเรือน เพื่อยกระดับรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร จึงส่งเสริมให้ทำเกษตรอินทรีย์ หรือปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย เช่น ถั่วเหลือง ถั่วพร้า หรือปอเทือง เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนคุ้มทุน
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการส่งเสริมตามนโยบายรัฐบาลเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรสามารถประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้ดำรงชีวิตผ่านวิกฤตแล้งไปให้ได้ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการบูรณาการตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบภัยแล้ง โครงการจัดทำแผนชุมชนเพื่อแก้ไขวิกฤตภัยแล้ง ปี 2558/59 มาตรการโครงการปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย เพื่อบรรเทาภัยแล้งตามความต้องการของชุมชน แล้วทำให้เกษตรกรได้ปุ๋ยพืชสดในการปรับปรุงบำรุงดิน ลดการเผาตอซังข้าว มีการจัดการใช้น้ำอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลผลิตบริโภคและจำหน่ายเป็นการสร้างเสริมรายได้ที่ช่วยทำให้เกษตรกรดำรงชีพอยู่ได้แบบพอเพียงและมั่นคง
คุณนพรัตน์ เกียรติกิตติกร เจ้าพนักงานการเกษตรชำนาญการ เล่าให้ฟังว่า สำนักงานเกษตรอำเภอราษีไศล ได้ถ่ายทอดความรู้ด้านวิชาการและส่งเสริมให้เกษตรกรใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย ได้แก่ ถั่วเหลือง ถั่วพร้า ถั่วเขียว หรือปอเทือง หลังการเก็บเกี่ยวข้าว ส่งเสริมให้จัดการใช้น้ำเพื่อปลูกพืชอย่างเหมาะสม ให้ทำปุ๋ยหมักจากเศษวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น ฟางข้าว มูลสัตว์ หรือแกลบ เพื่อลดต้นทุนการผลิต
ได้ผลผลิตจากการเก็บเกี่ยวไปบริโภคและขาย เมื่อไถกลบเศษซากพืชจะทำให้ได้อินทรียวัตถุในการปรับปรุงบำรุงดินที่ได้คุณภาพ และส่งเสริมให้ผลิตพืชตามระบบเกษตรดีที่เหมาะสมหรือเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพมาตรฐานตามความต้องการของตลาด เป็นทางเลือกเพื่อเสริมสร้างรายได้สู่วิถีดำรงชีพแบบพอเพียง
ลุงบุญมี สาระโคตร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบัน วิสาหกิจชุมชนมีสมาชิก 750 คน พื้นที่เกษตร 3,600 ไร่ มีคณะกรรมการดำเนินงาน 15 คน สมาชิกทำนาเป็นอาชีพหลัก เมื่อเกี่ยวข้าวแล้วได้ปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย จัดการใช้น้ำเหมาะสม ได้ผลตอบแทนคุ้มทุนและทำให้มีรายได้หมุนเวียน
การผลิตข้าวอินทรีย์ ในฤดูนาปีสมาชิกทุกคนได้รวมตัวกันภายใต้แนวทางการมีส่วนร่วมของทุกคนในชุมชน ผลิตข้าวอินทรีย์ให้ได้ผลผลิตตามมาตรฐานสากลสู่ตลาดผู้บริโภค เน้นให้ผลิตและใช้ปุ๋ยหมักเพื่อลดต้นทุนการผลิตเพื่อลดการพึ่งพาปัจจัยจากภายนอก เพิ่มและพัฒนาคุณภาพผลผลิตด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาปรับใช้ในระบบการผลิตและการแปรรูป เพื่อเสริมสร้างให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง เกิดการจ้างงานและมีรายได้เพิ่ม
สู้วิกฤตภัยแล้ง เมื่อเก็บเกี่ยวนวดข้าวเสร็จแล้วได้ส่งเสริมให้สมาชิกและทุกคนในชุมชนปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย ได้แก่ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วพร้า หรือปอเทือง ให้จัดการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เพื่อให้ได้ผลตอบแทนคุ้มทุน
การเตรียมดินปลูก ได้เตรียมดินปลูกพืชอายุสั้นทันทีหลังการเก็บเกี่ยวนวดข้าวเสร็จ เพราะดินมีความชื้นสูง ปกติสมาชิกและชุมชนจะเริ่มเตรียมดินตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม ได้เตรียมดินด้วยการไถพรวนกลบตอซังข้าวให้ดินร่วนซุย ปรับพื้นที่แปลงปลูกให้เสมอกัน
ถ้าดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสมก็ไม่ใส่ปุ๋ย แต่ถ้าดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำได้หว่านปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมักรองพื้นให้กระจายทั่วแปลง ปกติสมาชิกจะใส่ปุ๋ยเฉลี่ย ในอัตรา 100 กิโลกรัม ต่อไร่ เพื่อปรับปรุงดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต จากนั้นจึงปลูกพืชอายุสั้นด้วยการหว่านเมล็ดพันธุ์ให้กระจายทั่วแปลง
จัดการให้น้ำที่เหมาะสม ถ้าดินแปลงปลูกพืชอายุสั้นมีความชื้นต่ำหรือแห้งเกินไปอาจทำให้ชะงักการเจริญเติบโต โดยเฉพาะในช่วงที่มีอายุ 45 วัน หลังจากปลูกหรือช่วงออกดอก ต้องให้พืชอายุสั้นได้รับน้ำเพียงพอเพื่อการเจริญเติบโตติดดอกออกผล แหล่งน้ำที่นำมาใช้ได้จากบ่อตอก สระน้ำ หรือจากแหล่งน้ำธรรมชาติในชุมชน
การเก็บเกี่ยว เมื่อพืชอายุสั้น อายุ 90-120 วัน หลังจากปลูกจะเป็นช่วงที่เจริญเติบโตสมบูรณ์ สมาชิกก็เก็บเกี่ยวและไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด ผลผลิตถั่วเหลืองที่เก็บเกี่ยวสมาชิกจะรวบรวมนำมาขายที่วิสาหกิจชุมชน
พื้นที่ปลูกถั่วเหลือง 250 ไร่ เมื่อเก็บเกี่ยวได้ผลผลิตเฉลี่ย 20 ตัน จะซื้อขายที่ราคา 25-30 บาท ต่อกิโลกรัม ส่วนตอซังไถกลบเป็นการเพิ่มอินทรีย์ให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์
พื้นที่ปลูกถั่วเขียว 200 ไร่ ถั่วลิสง 10 ไร่ นำผลผลิตไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือนหรือนำไปทำขนม ส่วนตอซังไถกลบเป็นการเพิ่มอินทรีย์ให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์
ส่วนปอเทือง ถั่วพร้า พื้นที่ปลูกรวมกัน 4,000-5,000 ไร่ ได้ไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดเพื่อเพิ่มอินทรีย์ให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นการกำจัดแหล่งที่อยู่ของโรคแมลงศัตรูพืช และช่วยให้ระบบนิเวศมีความปลอดภัย
การสู้วิกฤตภัยแล้ง ถั่วเหลืองเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ วิสาหกิจชุมชนเป็นศูนย์กลางของสมาชิกและเครือข่ายอีสานตอนล่าง ได้รวบรวมผลผลิตถั่วเหลืองส่งขายให้กับคู่ค้าตามสัญญาข้อตกลงที่ทำไว้ร่วมกัน ผลกำไรส่วนหนึ่งนำมาพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ที่สำคัญสมาชิกวิสาหกิจชุมชนมีรายได้ต่อเนื่องและดำรงชีพอยู่ได้แบบวิถีพอเพียงมั่นคง
จากเรื่องการ ปลูกพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อยสู้วิกฤตแล้งได้ผลคุ้มทุน เป็นการสร้างงาน ได้ผลผลิตไปบริโภคและจำหน่าย เมื่อไถกลบเศษซากต้นพืชอายุสั้นทำให้ดินมีคุณภาพ เป็นวิถีเกษตรอินทรีย์ ที่นำไปสู่การสร้างรายได้ให้ดำรงชีพแบบพอเพียงมั่นคง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ลุงบุญมี สาระโคตร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เลขที่ 155 หมู่ที่ 7 ตำบลดู่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ โทร. (086) 875-4838 หรือ คุณนพรัตน์ เกียรติกิตติกร โทร. (086) 867-6326 ก็ได้ครับ