ชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างโรงพยาบาลที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/dhamma/668062

วันที่ 12 พ.ย. 2564 เวลา 18:59 น.ชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างโรงพยาบาลที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย

คณะศิษย์หลวงพ่อทองยอดจัดดทอดผ้าป่าสามัคคี ณ พระอุโบสถ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เพื่อรวบรวมปัจจัยสร้างโรงพยาบาลที่พุทธคยา ประเทศอินเดียให้แล้วเสร็จ 

โดย…สมาน สุดโต

พระเทพโพธิวิเทศ หรือหลวงพ่อทองยอด ภูริปาโล ป.ธ. Ph.D อดีต หัวหน้าพระธรรมทูตไทย สายอินเดีย เนปาล และอดีตเจ้าอาวาสวัดไทย พุทธคยา(23ปี) มรณภาพ 28 พ.ค. 2554 สิริอายุ 83 ปี ก่อน มรณภาพได้บอกแก่ศิษย์ใกล้ชิดว่า ขอให้สร้างโรงพยาบาลสงเคราะห์ผู้แสวงบุญ ที่สังเวชนียสถานสักแห่งหนึ่งใกล้ ๆ พุทธคยา เพราะแต่ละปีผู้แสวงบุญทั้งพระสงฆ์และฆราวาส อาพาธและเจ็บป่วยจำนวนมาก

ในขณะที่ชาวอินเดีย บริเวณพุทธคยา และใกล้เคียงก็ต้องการยารักษาโรคด้วย เพราะคลีนิกในวัดไทยพุทธคยา ก็มีขนาดเล็ก คณะศิษย์ นำโดยพระครูสิทธิปริยัติวิเทศ (ดร.พระมหาฉลอง จนฺทสิริ) เจ้าอาวาสวัดไทยไวสาลี จึงจัดหาซื้อที่ดิน ห่างจากมหาเจดีย์พุทธคยา หนึ่งกิโลเมตรเศษ เพื่อสร้างโรงพยาบาล 5 ชั้น และเป็นที่ตั้งศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน นานาชาติด้วย พร้อมทั้งตั้งชื่อเป็นที่ระลึกแก่หลวงพ่อว่า โรงพยาบาลและศูนย์วิปัสสนา ภูริปาโล 

ทั้งนี้ โครงการเป็นรูปเป็นร่างหลังจากพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2561 โดยรัฐมนตรีพัฒนาชนบทแห่งรัฐพิหาร (Mr. Swarn Kumar) ขณะนี้ล่วงเลยมา 3 ปี การก่อสร้างเดินหน้าถึงชั้นที่ 4 แม้โรคโควิด-19 จะระบาดแต่ไม่กระทบการก่อสร้างแต่อย่างใด ส่วนการทอดผ้าป่าสามัคคี ก็เพื่อหาปัจจัยสมทบ ให้โครงการเดินหน้าได้ตลอด

อย่างไรก็ตาม ได้หลวงพ่อพระธรรมปัญญาบดี (พีร์ ) อธิบดีสงฆวัดมหาธาตุยุราชรังสฤษฎิ์ วัย 91 ปีเป็นประธานอุปถัมภ์ ส่วนประธานดำเนินการฝ่ายฆราวาสได้แก่นายณรงค์ -ดร.ศุลีมาส สุทธิสัมพันธ์ และครอบครัว นายบุญยง สวาทยานนท์ พร้อมญาติธรรม นายศุภสาร ศิริบุญรัตน์ นางกนกพร รัตนวิจิตตากร นางพินัดดา-นายสนั่น เพลินสิริ วิมลสุข ,ปรียานันท์ โยธิน, ขจรจิตร์ สังไพศาล แม่ชีปราณี แสงเพชรพราว มธนภัทร์ เทพทอง นิรมล ช่วงชู และครอบครัวม.ร.ว.ศรีสุดา คงประเสริฐม กอบแก้ว พงษ์เมตต์ มศรุตา อิ่มอำนวยทรัพย์ และครอบครัว

สำหรับ ผู้ที่มีจิตเป็นกุศล สามารถบริจาคผ่านธนาคารกสิกรไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่645-2-04208-6 หรือขอทราบรายละเอียดได้ที่ พระครูวินัยธร สมุทร ถาวรธมฺโม 081 721 5241 พระมหาพิรุฬห์ พทฺธสีโล + 91 870 996 1507 

กดพิมพ์นำฤกษ์สร้างพระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นอนุสรณ์ครบรอบ 150 ปี 

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/dhamma/667731

วันที่ 09 พ.ย. 2564 เวลา 16:50 น.กดพิมพ์นำฤกษ์สร้างพระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นอนุสรณ์ครบรอบ 150 ปี 

พระเทพประสิทธิคุณเป็นประธานกดพิมพ์นำฤกษ์ พระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นอนุสรณ์ครบรอบ 150 ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) นำรายได้มอบให้รพ.ทุ่งสง และบูรณะวัดบางหลวงหัวป่า (วัดร้าง) จ.ปทุมธานี

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ได้ประกอบพิธีบวงสรวงบูชาเทพยดา และดวงพระวิญญาณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรสี) และพิธีกดพิมพ์นำฤกษ์ โดยพระเดชพระคุณ พระเทพประสิทธิคุณ ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นองค์ประธาน กดพิมพ์นำฤกษ์ พระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นอนุสรณ์ครบรอบ 150 ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหฺมรํสี) โดยมี พระครูสมุห์วัชระ ภทฺทธมฺโม (พระครูต้น) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ประธานดำเนินงาน นายยืนยง โอภากุลหรือแอ๊ด คาราบาว ประธานจัดสร้าง นายพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย นายสุรเดช ลิ้มพานิช หรือหมึก ท่าพระจันทร์ รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย นายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอเมืองปทุมธานี ประชาชน เข้าร่วมพิธี

สำหรับ การจัดสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นอนุสรณ์ครบรอบ 150 ปี มีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้มอบให้โรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราชและบูรณะวัดบางหลวงหัวป่า(วัดร้าง) สาขาวัดระฆัง จ.ปทุมธานี โดย ชุดนำฤกษ์ จัดสร้าง 150 องค์ ผสมชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดระฆัง ทั้ง 150 องค์ เปิดให้ร่วมบุญสั่งจอง องค์ละ 20,000 บาท และ พระสมเด็จวัดระฆัง ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ กว่า 150 ชนิด จัดสร้าง 84,000 องค์ สั่งจององค์ละ 300 บาท ปั๊มตรายาง มีโค้ดและหมายเลขกำกับทุกองค์

ทั้งนี้ พระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นอนุสรณ์ครบรอบ 150 ปี ชุดนี้ จัดว่า เป็นพระสมเด็จชุดมาตรฐาน มีประวัติชัดเจน อีกทั้งพิธี และเจตนาการสร้างก็ดีเยี่ยม โดยมีมวลสาร อาทิ พระสมเด็จวัดระฆัง , พระสมเด็จวัดสามปลื้ม , พระสมเด็จวัดใหม่ปากบาง , พระว่านกำแพงเพชร , พระร่วงยืนกรุหริภุญชัย ฯลฯ นายสุรเดช ลิ้มพานิช หรือหมึก ท่าพระจันทร์ รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย นำพระสมเด็จวัดระฆัง องค์แชมป์ มูลค่า 50 ล้านบาท ถอดแบบแม่พิมพ์จัดสร้างในรุ่นนี้ โดยจะมีพิธี พุทธาภิเษก ในวันที่ 31ธ.ค.2564 – 1ม.ค.2565 ณ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) หรือนามที่นิยมเรียก “สมเด็จโต” และ “หลวงปู่โต” นับเป็นพระเกจิเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพนับถือทั่วไปมาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชน นอกจากจริยาวัตรด้านความสมถะอันโดดเด่นของท่านแล้ว ท่านยังทรงคุณทางด้านวิชาคาถาอาคม เมตตามหานิยมการจัดสร้างวัตถุมงคลพระสมเด็จวัดระฆัง 150 ปีชาตกาล เพื่อเป็นอนุสรณ์และรำลึกถึงท่านเจ้าประคุณสมเด็จ และให้พุทธศาสนิกชนที่มากราบไว้ในพระคุณท่าน ได้นำไปสักการะบูชา และนำติดตัวเพื่อความเป็นสิริมงคลกับตนเองและครอบครัว และเพื่อนำรายได้มอบให้โรงพยาบาลทุ่งส่ง จ.นครศรีธรรมราช และบูรณะวัดบางหลวงหัวป่า(วัดร้าง) สาขาวัดระฆัง จ.ปทุมธานี

สามารถ ติดต่อบูชาได้ที่ โทร.081-5720575 (คุณไก่ ผจก.วงคาราบาว) โทร.086-0557117 (คุณหนึ่ง) โทร.083-0078521 (คุณบอล ท่าพระจันทร์) โทร.089-0161036(คุณเอ๋-แอน คำพันธ์) โทร.0816595251 (คุณก้อย วัดระฆัง)

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์เททองหล่อ“พระพุทธพัฒนปชานาถ”

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/dhamma/666894

วันที่ 31 ต.ค. 2564 เวลา 15:06 น.สมเด็จพระมหาวีรวงศ์เททองหล่อ“พระพุทธพัฒนปชานาถ”

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์-ปลัดมหาดไทยประกอบพิธีเททองหล่อ “พระพุทธพัฒนปชานาถ” พุทธคุณล้นเกจิอาจารย์ทั่วประเทศกว่า 200 รูป ร่วมอธิษฐานจิตแผ่เมตตาจารแผ่นทอง แผ่นเงิน และแผ่นนาค

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราชฯ กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีเททองหล่อ “พระพุทธพัฒนปชานาถ”เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดยมี พระเทพประสิทธิคุณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม พระครูสมุห์วัชระ ภทฺทธมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ข้าราชการ และประชาชน เข้าร่วมประกอบพิธี

นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า ในโอกาสที่กรมการพัฒนาชุมชน ครบรอบ 60 ปี จึงได้สร้างพระพุทธรูปปางประทานพร โดยได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร ถวายพระนามว่า “พระพุทธพัฒนปชานาถ” แปลว่า “พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นที่พึ่งของประชาชนให้ประสบความเจริญ” อันเป็นพระพุทธรูปประจำวันจันทร์ การกระทำพิธีเททองหล่อนำฤกษ์ พระพุทธพัฒนปชานาถ ครบรอบ 60 ปี ได้มีการนำแผ่นทอง แผ่นเงิน และแผ่นนาคที่ทำการจารจากเกจิอาจารย์ทั่วประเทศไทยกว่า 200 รูป ร่วมอธิษฐานจิตแผ่เมตตาจารให้ โดยมีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 5 รูปเมตตาอธิษฐานจิตนั่งปรก ประกอบด้วย พระเทพประสิทธิคุณ รักษาการแทน เจ้าอาวาสวัดระฆังฯ พระพิมลภาวนาพิธานวิ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ พระบวรรังสี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ พระมงคลวโรปการ เจ้าอาวาสวัดชินวราราม จ.ปทุมธานี และ พระครูสิริธรรมวิภูษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ

ทั้งนี้ การสร้างพระพุทธพัฒนปชานาถ ในครั้งนี้ทำการสร้าง จำนวน 3 ขนาด คือ 1. ขนาดสูง 75 นิ้ว จำนวน 14 องค์ เพื่อประจำกรมการพัฒนาชุมชน 2 องค์ ประจำศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน 11 แห่ง และวิทยาลัยการพัฒนาชุมชน 1 แห่ง 2.ขนาดสูง 24 นิ้ว สำหรับบูชาบนสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด และอำเภอ รวม 898 องค์ 3. ขนาดสูง 16 นิ้ว และ เหรียญพระพุทธพัฒนปชานาถ เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวะกลับดำ เนื้อทองแดง และเนื้อทองเหลือง เพื่อให้ข้าราชการและประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้บูชาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ สร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน และเป็นสิริมงคลแก่ชาวพัฒนาชุมชนและประชาชนทั่วไป

สำหรับ ผู้ที่มีจิตศรัทธาสนใจสามารถสั่งจองบูชาพระพุทธพัฒนปชานาถ ได้ทุกขนาด และ เหรียญพระพุทธพัฒนปชานาถ เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวะกลับดำ เนื้อทองแดง และเนื้อทองเหลือง โดยสามารถติดต่อสั่งจองและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเลขานุการกรม กลุ่มงานสวัสดิการ โทร. 02-6566026 น.ส.อิสราพรรธน์ น้ำหมั่นคง ID Line : 0899203893 /น.ส.ปณิชา ริมทอง โทร. 02-1416046 ,081-2657410 ID Line : monrimthong /นางบุญศิริ เทพภูธร โทร.02-1416036 ,095-3546324 ID Line: tainieboonsiri และ น.ส.อำพา ดวงเนตร โทร.02-1416033 ,094-4931270 ID Line : ampa_pa

ในหลวงโปรดเกล้าฯสถาปนาสมณศักดิ์”พระพรหมมงคลวัชราจารย์”

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/dhamma/665866

วันที่ 19 ต.ค. 2564 เวลา 09:30 น.ในหลวงโปรดเกล้าฯสถาปนาสมณศักดิ์"พระพรหมมงคลวัชราจารย์"

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมณศักดิ์ “พระธรรมวุฒาจารย์” เจ้าอาวาสวัดศรีสุรยวงศาราม วรวิหาร พระอนุชาในสมเด็จพระสังฆราช เป็น “พระพรหมมงคลวัชราจารย์”

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่า พระสงฆ์ ซึ่งดำรงในสมณคุณ มีอุปการะยิ่งแก่การพระศาสนา สมควรจะได้เลื่อนอิสริยฐานันดรในสมณศักดิ์ สูงขึ้นมีอยู่

จึงทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา “พระธรรมวุฒาจารย์” ขึ้นเป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมมงคลวัชราจารย์ ศาสนกิจวิธานโกศล สังฆโสภณ ญาณปยุต วิสุทธศีลาจารนิวิฐ พิพิธธรรมคุณสุนทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดศรีสุริยวงศาราม วรวิหาร พระอารามหลวง จังหวัดราชบุรี มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ ๘ รูป

ขออาราธนาพระคุณ จงรับธุระพระพุทธศาสนา เป็นภาระสั่งสอน ช่วยระงับอธิกรณ์ และอนุเคราะห์พระภิกษุสามเณรในคณะและในพระอาราม ตามสมควรแก่กำลังและอิสริยยศ ซึ่งพระราชทานนี้ และจงเจริญอายุ วรรณ สุข พล ปฏิภาณ คุณสารสิริสวัสดิ์ จิรัฏฐิติ วิรุฬหิไพบูลย์ ในพระพุทธศาสนาเทอญ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่  ๑๗  ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔

ประกาศ ณ วันที่ ๑๘  ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔  เป็นปีที่ ๖ ในรัชกาลปัจจุบัน

สำหรับ พระธรรมวุฒาจารย์ หรือ หลวงปู่ไสว เดิมเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เจ้าอาวาสวัดศรีสุรยวงศาราม วรวิหาร จังหวัดราชบุรี และเป็นพระอนุชาในเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์-ปลัดมท.ร่วมพิธีวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 217 ปี ร.4

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/dhamma/665864

วันที่ 18 ต.ค. 2564 เวลา 20:47 น.สมเด็จพระมหาวีรวงศ์-ปลัดมท.ร่วมพิธีวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 217 ปี ร.4

เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 217 ปี และวันครบรอบ 2 ปี แห่งการถวายพระราชสมัญญา“พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช”

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่วัดวชิรธรรมาวาส เขตลาดกระบัง กทม. เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 217 ปี และวันครบรอบ 2 ปี แห่งการถวายพระราชสมัญญา “พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช” โดยมี นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธี

ทั้งนี้ นายสุทธิพงษ์ ได้จุดธูปเทียนบูชาพระพุทธวชิรธรรมมงคลบพิธ และจุดเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช พระสงฆ์ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์อุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช และเป็นประธานพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปปางลีลา สูง 1.99 เมตร เพื่อประดิษฐานบนซุ้มประตูหินอ่อน และพิธีเททองหล่อขันน้ำมนต์เพื่อมอบให้กับผู้ร่วมสร้างอุโบสถ และปลูกต้นสาละถวายเป็นพุทธบูชา โดยปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า วัดวชิรธรรมาวาส เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต มีปฐมนามว่า วัดเฉลิมพระเกียรติพระบรมราชานุสรณ์ 200 ปี รัชกาลที่ 4 สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช (รัชกาลที่ 4) ในโอกาสครบรอบ 200 ปี นับแต่วันพระราชสมภพ ตามโครงการของคณะสงฆ์คณะธรรมยุต ผ่านมติมหาเถรสมาคมและมติคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ นับเป็นอารามสุดท้ายที่ได้รับการอนุมัติให้สร้างขึ้นในเขตกรุงเทพมหานคร โดยได้เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2548 และได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นวัด ตามประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง การตั้งวัดในพระพุทธศาสนา ลงวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ปัจจุบันมี พระครูโฆษิตสุทธสร (ภัทรพล ภทฺทพโล) เป็นเจ้าอาวาส มีพระภิกษุ สามเณร อยู่จำพรรษา จำนวน 13 รูป โดยทุกรูปได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม และปฏิบัติเจริญจิตภาวนาตามสมควร ภายใต้การสนับสนุนของพระครูโฆษิตสุทธสร (ภัทรพล ภททพโล) เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้วัดวชิรธรรมาวาสอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอุโบสถ 2 ชั้น สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา อาทิ พิธีบรรพชาอุปสมบท พิธีถวายเทียนจำนำพรรษา พิธีทำสามีจิกรรม อธิษฐานเข้าพรรษา ปวารณาออกพรรษา สังฆกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและโอกาสต่าง ๆ อีกทั้งเป็นสถานปฏิบัติธรรมให้อยู่คู่บวรพระพุทธศาสนาสืบต่อไป โดยมีความคืบหน้าร้อยละ 40 ซึ่งในขณะนี้ จึงนับเป็นวาระมหากุศลสำหรับผู้มีกุศลจิตศรัทธาในการมีส่วนร่วมสร้างอุโบสถประจำวัดวชิรธรรมาวาสในกาลนี้ ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี “วัดวชิรธรรมาวาส” บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนเฟื่องนคร เลขที่บัญชี 159-1-10767-5 หรือ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตรีเพชร เลขที่บัญชี 066-290927-4 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 08-2194-4656 หรือหมายเลข 09-5942-4419 หรือ Line ID : fluke4656

สมเด็จพระมหาธีราจารย์-ปลัดมท.ร่วมปลูกต้นไม้ประจำ 77 จังหวัดเฉลิมพระเกียรติร.10

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/dhamma/665342

วันที่ 11 ต.ค. 2564 เวลา 18:22 น.สมเด็จพระมหาธีราจารย์-ปลัดมท.ร่วมปลูกต้นไม้ประจำ 77 จังหวัดเฉลิมพระเกียรติร.10

ปลัดมหาดไทยเป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์โครงการปลูกต้นไม้ประจำ 77 จังหวัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรม “ธมฺมรํสี” จ.เพชรบุรี เพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้พันธุ์พืชที่หลากหลายในอนาคต

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม “ธมฺมรํสี” ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ โครงการปลูกต้นไม้ประจำ 77 จังหวัดเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โอกาสนี้ พระครูวัชรสุวรรณาทร เจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี พระครูวัชรชลธรรม เจ้าคณะอำเภอท่ายาง พระสังฆาธิการ พระเถรานุเถระ นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำนักปฏิบัติธรรม”ธมฺมรํสี” เป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดพระเชตุพนวิมลมังคราราม ก่อตั้งขึ้นโดยพระอาจารย์มนัส ธัมมรังสี วัดพระเชตุพน ได้อุทิศที่ดินถิ่นกำเนิดที่ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อันเป็นมรดกตกทอดจากโยมบิดามารดาจำนวน 39 ไร่เศษ สร้างสถานปฏิบัติธรรม มีเสนาสนะ คือ ศาลาปฏิบัติธรรม 1 หลัง กุฏิสงฆ์ 12 หลัง ที่พักผู้ปฏิบัติธรรม โรงครัว ห้องสุขา และบ่อน้ำบาดาล หลังจากพระอาจารย์มนัส ธัมมรังสี ถึงมรณภาพเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552 คณะสงฆ์วัดพระเชตุพน ได้เข้ามาดูแลในสมัยพระธรรมปัญญาบดี (ถาวร ติสฺสานุกโร ป.ธ.๔) และพระธรรมรัตนากร (สีนวล ปญฺญาวชิโร ป.ธ.๙) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลปรับปรุงพัฒนาและซื้อที่ดินเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ได้ร่วมกับมูลนิธิ “ทุนพระพุทธยอดฟ้า” ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิสังเค็ตสมเด็จพระสังฆราช ปุ่น ปุณฺณสิริ ปัจจุบันมีเนื้อที่ 115 ไร่เศษ สภาพพื้นที่แห้งแล้งเป็นดินทราย โดยได้มีการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ด้วยการปรับปรุงดิน ขุดบ่อน้ำ ปลูกต้นไม้หลากหลายชนิดจำนวนหลายพันต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความร่มรื่น และทำให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้พันธุ์พืชที่หลากหลายในอนาคต โดยปัจจุบันมีพระราชเวที (สุรพล ชิตญาโณ ป.ธ.๙) เจ้าคณะภาค 12 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เป็นประธานคณะกรรมการดูแลศูนย์ปฏิบัติธรรม “ธมฺมรํสี” ซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นลำดับ ร่วมกับส่วนราชการ ภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่ ปลูกต้นไม้ไปแล้วหลายชนิด จำนวนหลายพันต้น

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า โครงการปลูกต้นไม้ประจำ 77 จังหวัด เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันนี้ คณะสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ร่วมกับมูลนิธิ “ทุนพระพุทธยอดฟ้า” ในพระบรมราชูปถัมภ์ กระทรวงมหาดไทย กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบุรี มูลนิธิสิริวัฒนภักดี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และชุมชนในพื้นที่ ดำเนินการปลูกต้นไม้สัญลักษณ์ของจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้เป็นที่ศึกษาเรียนรู้ต้นไม้ประจำท้องถิ่นต่าง ๆ ของไทย จึงได้ให้จังหวัดเพชรบุรี เข้ามาดำเนินการจัดทำข้อมูลต้นไม้เพื่อเป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) และขอกราบขอบพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ที่เมตตามาเป็นประธานสงฆ์ และขอขอบพระคุณหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น ที่ได้ให้การอุปถัมภ์ สนับสนุน ส่งเสริมกิจกรรมนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

ด้าน สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กล่าวว่า รู้สึกมีความปีติยินดีอย่างยิ่ง ที่โครงการปลูกต้นไม้ประจำ 77 จังหวัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับความอุปถัมภ์จากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนจังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ที่ได้ให้ความสนใจในโครงการฯ โดยสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ จะเป็นสถานที่สำคัญในการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นพรหมนียสถาน ทั้งในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและประเทศไทย ให้สมกับที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก

จากนั้น สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ประธานฝ่ายสงฆ์ ได้ร่วมปลูกต้นยางนา (ต้นไม้ประจำจังหวัดอุบลราชธานี) นายสุทธิพงษ์ ประธานฝ่ายคฤหัสถ์ ร่วมปลูกต้นไทรย้อยใบแหลม (ต้นไม้ประจำกรุงเทพมหานคร) โดยมี ประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันปลูกต้นไม้ประจำ 77 จังหวัด ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

“เจ้าประคุณสมเด็จธงชัย”ชวนร่วมบุญทอดผ้าป่าการกุศลเพื่อการศึกษา

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/dhamma/665240

วันที่ 10 ต.ค. 2564 เวลา 15:57 น."เจ้าประคุณสมเด็จธงชัย"ชวนร่วมบุญทอดผ้าป่าการกุศลเพื่อการศึกษา

เจ้าประคุณสมเด็จธงชัย วัดไตรมิตรเป็นประธานจัดทอดผ้าป่าการกุศลเพื่อการศึกษาให้แก่วิทยาสัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ เพื่อจัดการเรียนการสอนตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาพุทธทาส

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าประคุณสมเด็จธงชัย วัดไตรมิตร) ได้มีเมตตาเป็นประธานจัดทอดผ้าป่าการกุศลเพื่อการศึกษา ให้แก่วิทยาสัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00  น.โดยมี ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ริเริ่มโดยพระภาวนาโพธิคุณ (อาจารย์โพธิ์)เจ้าอาวาสวัดสวนโมกข์ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการเรียนการสอนตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษา ของท่านพุทธทาส ที่มุ่งสอนธรรมะ ฝึกธรรมะ ให้แก่นักศึกษา ควบคู่กับการสอนวิชาชีพ โดยเปิดสอนวิชาการโรงแรม การท่องเที่ยว บัญชี คอมพิวเตอร์ธุรกิจ การทำอาหาร และภาษาต่างประเทศ เฉพาะภาษาอังกฤษ และจีน เพื่อผลิตบุคลากรที่เป็นมืออาชีพที่แท้จริง

ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิดศรัทธา จัดทำพุ่มผ้าป่าเพื่อร่วมทำบุญกับสมเด็จฯ ในการทอดผ้าป่าครั้งนี้ การบริจาคเงินทำบุญให้วิทยาลัยฯ ครั้งนี้ ทางวิทยาลัยฯ จะออกใบเสร็จรับเงินให้ผู้บริจาคนำไปหักภาษีได้สองเท่าหากท่านไม่สามารถไปร่วมพิธีในวันทอดผ้าป่าได้ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีของวิทยาลัยฯ พร้อมแนบหลักฐานการโอนเงินและที่อยู่ เพื่อทางวิทยาลัยฯ จะได้จัดส่งใบเสร็จรับเงินและผ้ายันต์รุ่นพิเศษที่สมเด็จฯ ได้เมตตาสร้างขึ้น ให้แก่ผู้เป็นเจ้าของพุ่มผ้าป่า เพื่อเป็นสิริมงคลต่อไป

สำหรับ ผู้บริจาศสามารถโอนเงินเข้าบัญชี “วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ” ได้โดยตรงธนาคาร กสิกรไทย สาขาสุขุมวิท 6 เลขที่บัญชี

637-0-01722-2 ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเดิมได้ที่โทรศัพท์ 02-6532952-3 โทรสาร 02-6532955E-mail : donate.bbvc@gmail.com

ชวนทำบุญใหญ่บูชาเหรียญหลวงพ่อพัฒน์เพื่อสาธารณประโยชน์

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/dhamma/664111

วันที่ 26 ก.ย. 2564 เวลา 19:24 น.ชวนทำบุญใหญ่บูชาเหรียญหลวงพ่อพัฒน์เพื่อสาธารณประโยชน์

ปทุมธานี-อำเภอเมืองปทุมธานีจัดสร้างเหรียญ”หลวงพ่อพัฒน์”เกจิดังเมืองปากน้ำโพนำรายได้ช่วยสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. พระมงคลวโรปการ (หลวงพ่อชำนาญ อุตฺตมปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดชินวรารามวรวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี (ประธานที่ปรึกษา) นายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอเมืองปทุมธานี (ประธานอำนวยการ) และประชาชนในพื้นที่ ร่วมแถลงข่าวการจัดสร้างเหรียญ(พระราชมงคลวัชราจารย์) หลวงพ่อพัฒน์ ปุญฺญกาโม เจ้าอาวาสวัดธารทหาร (ห้วยด้วน) เป็นเหรียญที่ระลึก รุ่นเลื่อนตำแหน่ง ยกฐานะ และรุ่นปลอดภัย ณ วัดชินวรารามวรวิหาร จ.ปทุมธานี 

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า การสร้างเหรียญหลวงพ่อพัฒน์ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1.นำรายได้สมทบทุน บูรณปฏิสังขรณ์วัดบางหลวงหัวป่า (ร้าง) เพื่อเป็นสาขาของวัดระฆังโฆสิตารามโดยยกฐานะวัดร้างขึ้นเป็นวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา 2.นำรายได้สมทบทุน สร้างเมรุ และศาสนสถานวัดธารทหาร (ห้วยด้วน) อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ 3.นำรายได้สมทบทุน ปรับปรุงห้องผู้ป่วย อาคารศูนย์การแพทย์ 18 ชั้น โรงพยาบาลปทุมธานีและโรงพยาบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี และ 4.นำรายได้ ปรับปรุงซ่อมแซมที่ว่าการอำเภอเมืองปทุมธานี และเป็นทุนสนับสนุนการใช้จ่าย ในกิจการสาธารณประโยชน์ในพื้นที่จ.ปทุมธานี

ทั้งนี้ การจัดสร้างเหรียญหลวงพ่อพัฒน์ ปุญฺญกาโมในครั้งนี้ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ได้ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา พร้อมกับผู้ที่เคารพนับถือในพระเดช พระคุณ ของหลวงพ่อพัฒน์ ปุญฺญกาโม จะได้มีเหรียญที่ระลึกดังกล่าวไว้สักการบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัวต่อไป โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ประทานแผ่นทองคำ แผ่นเงิน และแผ่นนาคที่ทรงจารึกอักขระ และทรงอธิฐานจิตเป็นชนวนหล่อจำนวน 9 แผ่น จากเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และรับแผ่นเงินจาร 3 แผ่นจากเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีทั้ง 2 นิกาย คือวัดเขียนเขตกับวัดโบสถ์ สามโคกกำหนดพิธีพุทธาภิเษกเหรียญ หลวงพ่อพัฒน์ ปุญฺญกาโม 2 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดธารทหาร (ห้วยด้วน) อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ครั้งที่ 2 พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดชินวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยเกจิอาจารย์ดังแห่งยุคกำหนดการเปิดจอง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 29 ก.ย. 2564 เพื่อให้ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ได้ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา

หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม วัดห้วยด้วน (ธารทหาร) เป็นพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมที่มีชื่อเสียง เป็นศิษย์พุทธาคม หลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ, หลวงพ่ออิน วัดหางน้ำสาคร, หลวงพ่อหมึก วัดสระทะเล และหลวงพ่อโหมด วัดโคกเดื่อหลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม มีนามเดิม พัฒน์ ก้อนจันเทศ เกิดเมื่อวันที่ 12 พ.ค.2465 ที่บ้านสระทะเล ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ บิดา-มารดาชื่อ นายพุฒ และนางแก้ว นามสกุลเดิม (ฟุ้งสุข) พออายุครบเกณฑ์ทหารถูกคัดเลือกเข้าไปเป็นทหารกองประจำการ แต่ขณะที่จะหมดวาระปลดจากทหารเกณฑ์กลับเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา (สงครามโลกครั้งที่ 2) ขึ้นเสียก่อน จึงทำให้ต้องเป็นทหารต่อไปจนอายุ 24 ปี ปลดประจำการเมื่อปีพ.ศ.2489

จากนั้น เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปีพ.ศ.2489 ที่อุโบสถวัดสระทะเล ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี โดยมีพระธรรมไตรโลกาจารย์ (หลวงพ่อยอด) วัดเขาแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และพระอธิการชั้ว วัดสระทะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ด้วยเหตุที่ท่านร่ำเรียนสรรพวิชาวิทยาคมมากมาย ส่งผลให้วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสก มีพุทธคุณที่เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ สร้างประสบการณ์มากมายในทุกรุ่นจนเป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวาง กลายเป็นพระเกจิชื่อดังระดับประเทศ ที่ ในแต่ละวันจึงมีญาติโยมเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อกราบนมัสการ รับฟังคำสั่งสอน รับการประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์จากท่าน เสริมความเป็นสิริมงคลที่วัดอย่างไม่ขาดสาย ขณะเดียวกันในด้านวัตถุมงคลก็มีจัดสร้างออกมาอย่างต่อเนื่องจากคณะศิษย์ทั้งหลาย เพื่อมอบให้ผู้ที่ร่วมทำบุญร่วมสร้างบารมีกับหลวงพ่อพัฒน์ ซึ่งทุกรุ่นต่างเป็นที่ยอมรับของบรรดาเซียนพระและนักสะสมทั้งในประเทศและต่างประเทศและทุกวันนี้แม้ว่าท่านจะมีอายุ 100 ปีแล้วก็ตาม แต่หลวงพ่อท่านยังเมตตาเดินทางไปร่วมงานพุทธาภิเษก ปลุกเสกพระเครื่องรุ่นต่างๆ ที่ได้รับนิมนต์อยู่เป็นประจำไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคลหรือพระเครื่องของวัดไหน หากนิมนต์หลวงพ่อมาท่านมักจะไม่ปฏิเสธ

สำหรับ รายละเอียดในการจัดสร้างเหรียญหลวงพ่อพัฒน์ รุ่นเลื่อนตำแหน่ง ยกฐานะ และรุ่น ปลอดภัย 2 รุ่นนี้ประกอบด้วย เนื้อทองคำหนัก 25 กรัม จัดสร้างตามสั่งจอง เหรียญละ 59,999 บาท เหรียญรวมเนื้อ 9 ชนิด ชุดใหญ่(100เหรียญ) จัดสร้าง 299 ชุด ชุดละ 22,000 บาท เหรียญรวมเนื้อ 9 ชนิด ชุดกลาง(9เหรียญ)จัดสร้าง 299ชุด ชุดละ 3,999 บาท เหรียญรวมเนื้อ 9 ชนิด ชุดเล็ก(7เหรียญ) จัดสร้าง 299ชุด ชุดละ 2,999 บาท เหรียญรวมเนื้อ9ชนิด ประกอบด้วย 1.เนื้อเงินลงยา 2.เนื้อเงิน 3.เนื้อนวะลงยา 4.เนื้ออัลปาก้าลงยา 5.เนื้อทองแดงลงยา 6.เนื้อทองเหลืองลงยา 7.เนื้อสัตตะลงยา 8.เนื้อซาติน 9.เนื้อทองเหลืองผิวรุ้ง โดยเหรียญทั้งหมดนี้ ปลุกเสกและนั่งอธิฐานจิต โดยหลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม และหลวงพ่อชำนาญ อุตฺตมปญฺโญสถานที่สั่งจองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 29 กันยายน 2564 ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองปทุมธานี โทร. 02-5816130 ต่อ 203คุณบุญส่ง เนียมหมวด โทร. 081-4316196 คุณจงจิต อินถา โทร. 088-2526923 คุณกาญจนา สุดชารี โทร. 089-8819395

ชูรพ.สนามวัดสุทธิวรารามเป็นต้นแบบดูแลคนป่วยโควิดในวัด

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/dhamma/663907

วันที่ 23 ก.ย. 2564 เวลา 16:24 น.ชูรพ.สนามวัดสุทธิวรารามเป็นต้นแบบดูแลคนป่วยโควิดในวัด

สสส.จับมือภาคีเครือข่ายสุขภาพพระสงฆ์ ดันมติมหาเถรสมาคม ให้วัดดูแลผู้ป่วยโควิด-19 “1 วัด 1 จังหวัด” ชู รพ.สนามวัดสุทธิวราราม เป็นต้นแบบการรักษา

เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่วัดสุทธิวราราม กทม. พระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และผู้จัดการโครงการการเสริมสร้างสุขภาวะและการเรียนรู้ตามแนวพระพุทธศาสนา สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า โรงพยาบาลสนามวัดสุทธิวราราม ตั้งขึ้นในอาคารศูนย์เรียนรู้พระพุทธศาสนาและการพัฒนาสังคม ภายใต้โครงการการเสริมสร้างสุขภาวะและการเรียนรู้ตามแนวพระพุทธศาสนา สนับสนุนโดย สสส. เพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด วัดสุทธิวรารามมีรูปแบบการจัดการและวางระบบที่มีความพร้อม 5 ด้าน คือ 1.ด้านสถานที่ รองรับ 138 เตียง 2.ด้านการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย ที่ผ่านมา มีผู้เข้ารับการรักษากว่า 138 คน ปัจจุบันรักษาผู้ป่วยหายดีกลับบ้านแล้วกว่า 60 คน 3.ด้านอาหาร จัดตั้งโรงครัวทำอาหาร 3 มื้อ 4.ด้านการค้นหาผู้ป่วยและเยี่ยมผู้ป่วยในชุมชน กลุ่ม “พระไม่ทิ้งโยม” ลงพื้นที่เชิงรุกในชุมชนรอบข้าง และ 5.ด้านการสื่อสาร พัฒนานวัตกรรมด้านการสื่อสารรูปแบบรูปภาพเชิงสัญลักษณ์ 4 ภาพ

ทั้งนี้ ได้ให้ผู้ป่วยสำรวจอาการเบื้องต้นแล้วใช้รูปภาพสื่อสารกับพระสงฆ์ บุคลากรทางการแพทย์ หรือคนในครอบครัว เพื่อลดการแพร่ระบาดจากการสัมผัส และลดปัญหาในการสื่อสาร โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และแรงงานข้ามชาติ โดยขยายการผลิตสื่อในรูปแบบสติกเกอร์ เพื่อส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 10,000 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเตรียมเปิดพื้นที่การเรียนรู้ Mini-Sandbox ย่านเจริญกรุง เพื่อเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่

ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. มุ่งพัฒนาสุขภาวะองค์กรพระสงฆ์และชุมชน โดยสนับสนุนให้โรงพยาบาลสนามวัดสุทธิวรารามเป็นต้นแบบดูแลคนป่วยในวัดที่มีความพร้อมในการขยายผล พร้อมสานพลังภาคีธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ผลักดันให้มหาเถรสมาคมเห็นชอบแนวทางการดูแลคนป่วยในวัดได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยให้วัดที่มีศักยภาพจัดตั้งเป็นศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนอย่างน้อย 1 วัด 1 จังหวัดทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีวัดและวิทยาลัยสงฆ์ภูมิภาคต่าง ๆ ของ มจร. นำรูปแบบการจัดการของวัดสุทธิวรารามไปปรับใช้แล้ว 17 แห่ง อาทิ วัดสิงห์ กรุงเทพฯ วัดไร่ขิง จ.นครปฐม วัดท่าโรงช้าง จ.สุราษฎร์ธานี วิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง จ.ลำปาง วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด เพื่อช่วยให้ประชาชนที่กลับภูมิลำเนาได้เข้าถึงบริการสุขภาพ ลดภาระปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ตัดวงจรการระบาดและลดจำนวนผู้เสียชีวิตของไทย

สำหรับ วัดที่สนใจจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนในวัด หรือหารือแนวทางการจัดตั้ง ติดต่อได้ที่เว็บไซต์ https://stopcovid.anamai.moph.go.th/dashbord_center/  โดยจะมีทีมงานประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหาแนวทางการจัดการวางระบบที่มีศักยภาพและมีความพร้อมที่ได้มาตรฐานต่อไป

“สมเด็จพระสังฆราช”ประทานพระคติธรรมในวันเยาวชนแห่งชาติ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/dhamma/663571

วันที่ 20 ก.ย. 2564 เวลา 10:07 น."สมเด็จพระสังฆราช"ประทานพระคติธรรมในวันเยาวชนแห่งชาติสมเด็จพระสังฆราช ประทานพระคติธรรมเนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ 20 ก.ย. 64 ทรงแนะให้เยาวชนอาศัยหลักธรรม “อัตตัญญุตา” ความเป็นผู้รู้จักตนอย่างรอบคอบและรอบด้าน

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ 20 กันยายน 2564 ความว่า

ท่ามกลางวิกฤตการณ์ของโลกและของบ้านเมือง บุคคลผู้มีปัญญาย่อมพยายามปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีสวัสดิภาพและคุณภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่เว้นแม้แต่เด็กและเยาวชนผู้กำลังเติบโตใหญ่ในภาวะอันผันผวนและได้รับผลกระทบมากบ้างน้อยบ้างด้วยกันทุกคน

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลง ควรต้องมีทิศทางที่ชัดเจน มีเหตุผล รู้จักตัวตนอย่างรอบคอบและรอบด้าน จึงจะสามารถเป็นคุณแก่ตน ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติได้ การปรับตัวหรือการเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย จึงสามารถอาศัยหลักธรรมมาช่วยชี้แนะมิให้ผิดพลาดหรือหลงทาง

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอบรมสั่งสอนคุณธรรมสำคัญประการหนึ่งซึ่งจะสนับสนุนให้บังเกิดความดีงามขึ้นในชีวิตของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน หรือผู้ใหญ่ กล่าวคือ “อัตตัญญุตา” หมายถึง ความเป็นผู้รู้จักตน ฐานะ บทบาท หน้าที่ ภาวะ กำลังความรู้ความสามารถ ความถนัด และคุณธรรมของตนให้เห็นกระจ่างก่อนว่าเป็นเช่นไร ความรู้ความเข้าใจตนอย่างถูกต้องย่อมนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเหมาะสมกับตน ทำให้เกิดผลดีขึ้นได้

และเมื่อรู้จักพิจารณาตนด้วยใจตนเองอย่างยุติธรรมปราศจากอคติแล้ว ก็จะสามารถมองเห็นส่วนที่ต้องพยายามแก้ไขเปลี่ยนแปลง และส่วนดีเด่นที่ต้องพยายามเพิ่มพูน เป็นเหตุนำไปสู่การพัฒนาตนเองให้บรรลุเป้าหมายอันดีงามที่กำหนดไว้ ด้วยทัศนคติที่ถูกต้อง เป็นสัมมาทิฐิ กระทั่งบังเกิดผลสัมฤทธิ์เป็นชีวิตที่ประสบสวัสดิภาพและมีคุณภาพได้ดังที่ปรารถนา

ขออนุโมทนาในความดีที่เด็กและเยาวชนรวมทั้งของผู้ทำประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนได้ประพฤติปฏิบัติ ขออานุภาพแห่งกุศลจริยาและปณิธานในการดำรงตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โปรดอภิบาลรักษาให้ท่านประสบความสำเร็จในการประกอบกรณียกิจ สามารถพัฒนาชีวิตให้เพียบพร้อมด้วยสุจริตธรรม เป็นกำลังของประเทศชาติสืบไป เทอญ