3 มิ.ย. 2568 05:07 น.

• ไลฟ์สไตล์
• อินทรีเหล็ก

บุคคลในข่าว 3 มิถุนายน 2568

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ…..ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ…..ฉบับประจำวันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2568 …….ตรงกับ วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบรมราชินี ขอจงทรงพระเจริญ

ประเทศไทย ยังอยู่ในสภาวะทิ้งตัว…… การเมืองนำเศรษฐกิจ…..สำรวจผลโหวต รับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระแรก…..แม้จะผ่านฉลุยด้วยคะแนน 322 เสียงต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง……ในจำนวนมือ สส.ที่เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 จำนวน 322 เสียง….มี สส.ฝ่ายค้านร่วมลงมติสนับสนุน มาตามนัด…..กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน….รำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี….สุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร และ ฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยสร้างไทย…..กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ และ ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า…….บรรทัดนี้ ต้องโฟกัสไปที่ พรรคกล้าธรรม และ โอกาสใหม่…..น้องใหม่มาแรงชุดใหญ่ไฟกะพริบ

ส่วน สส.ฝ่ายค้านที่ไม่ได้เข้าร่วมลงมติ…..มีชื่อ รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน เดินทางไปต่างประเทศ…..วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนอีกราย แอดมิตอยู่ในโรงพยาบาล…..พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ….ตรีนุช เทียนทอง–ขวัญเรือน เทียนทอง สส.สระแก้ว พลังประชารัฐ….หรั่ง ธุระพล และ อดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี พรรคไทยสร้างไทย…..สส.ฝ่ายรัฐบาลที่ไม่เข้าร่วมลงมติ….ประกอบด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ….อมรเทพ สมหมาย สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย….ซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส ภูมิใจไทย….กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส และซูการ์โน มะทา สส.ยะลา พรรคประชาชาติ…..พอจะฉายภาพหนังตัวอย่างของ การเมืองในอนาคต…..ปัจจุบัน สส.ในสภา มีอยู่ทั้งสิ้นจำนวน 495 คน เสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่ง คือจำนวน 248 คนขึ้นไป……เมื่ออนาคตประเทศไทยต้องฝากไว้กับมือ สส.ในสภา ก็เป็นเช่นนี้เอง

ส่วนควันหลงจากศึกอภิปรายงบประมาณ……ที่ ภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชน จะรวบรวมรายชื่อ สส.เพื่อเสนอความเห็นต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 144 วรรคสาม….กรณีการ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 ซึ่งมีพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภาคนที่ 1 อาจมีส่วนร่วมในการใช้งบประมาณรายจ่ายไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยการเสนอการแปรญัตติ หรือกระทำการใดๆ เข้าข่ายการกระทำที่ห้ามไว้ในรัฐธรรมนูญ ม.144 วรรคสอง…..โดยฝ่ายค้านจะพิจารณา ดำเนินการตรวจ สอบผ่าน ป.ป.ช. อีกช่องทางด้วย……บานตะไท

ลามไปจนถึง ข่าวการปรับ ครม. หลังการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569…..สองประเด็นร้อน บีบภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล……หรือ เพื่อไทย ยึดมหาดไทยคืน แลกกับ สาธารณสุข หรือ พาณิชย์ หรือ ดีอีเอส…..แม้ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร จะยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า อำนาจการตัดสินใจปรับ ครม. เป็นของนายกฯ แต่เพียงผู้เดียว เรื่องการปรับ ครม.เป็นเรื่องของอนาคต……หรือ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะให้สัมภาษณ์ชัดเจน พรรคภูมิใจไทยไม่ถอนตัว จากพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน…….หรือ พิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์คนปัจจุบัน จะฟันธงว่า เก้าอี้ รมว.พาณิชย์ ต้องเป็นของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น…….แต่เมื่อฟังจากปาก อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ว่า กระทรวงมหาดไทย–เกษตรฯ และกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหลาย เพื่อไทย ควรเอามากำกับดูแลเอง…….ต้องฟังหูไว้หู…….ก็เล่นตั้งป้อมปล่อยข่าวฟันธงถี่ๆว่าเพื่อไทย จะแลก สาธารณสุข กับ มหาดไทย ให้อนุทินคืนถิ่นมาคุม สาธารณสุข งานที่ชอบ โยกเอา ประเสริฐ จันทรรวงทอง ไปคุมมหาดไทยแทน….แล้วเอา สมศักดิ์ เทพสุทิน มากำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯตามแนวถนัด……ปัญหาคือจะเอา พรรคกล้าธรรม ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไปไว้ที่ไหน……และที่มองข้ามความปลอดภัยไม่ได้คือ กระทรวงศึกษาธิการ….ยุ่งเป็นฝอยขัดหม้อ

ไหนๆก็ไหนๆ…….ประเทศยังต้องเดินหน้า…..นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ เปิดเผยมีข่าวดีจากการประกาศกฎระเบียบ EU Deforestation-free Regulation…..ว่าด้วย การส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ต้องปลอดการตัดไม้ทำลายป่าและกระบวนการผลิตต้องถูกกฎหมาย…โดย คณะกรรมาธิการยุโรป ได้ประกาศรายชื่อประเทศที่ได้รับการจัดกลุ่มความเสี่ยงภายใต้ระเบียบว่าด้วยผลิตภัณฑ์จากการตัดไม้ทำลายป่า…..ให้ ประเทศไทย ได้รับการจัดอยู่ในกลุ่มประเทศ ความเสี่ยงต่ำ เป็นผลจากความก้าวหน้าของประเทศไทยในการพัฒนาเกษตรกรรมที่ยั่งยืน…..จบข่าว

มองเศรษฐกิจรอบด้าน……พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง…เปิดเผยผ่านโซเชียล ได้หารือกับ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เกี่ยวกับ ภาพรวมเศรษฐกิจของไทย….เห็นตรงกันว่า การค้าระหว่างประเทศมีความไม่แน่นอนสูง และ การกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย วันนี้ ต้องเน้นไปที่การ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างงาน และ การกระจายโอกาสไปทั่วประเทศ…ทำให้ รัฐมีรายได้ที่เหมาะสม ปรับอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสมและ เร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน….ยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา ในเมื่อ ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ จนถึงปัจจุบันลดลงต่อเนื่อง…จีน ลดลงไป 32.38%เที่ยวบินจากจีน ปรับลด ยกเลิก โดยเฉพาะ เครื่องเช่าเหมาลำ ลดไป 68%…..นักท่องเที่ยวจาก ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ หันไปเที่ยว เวียดนาม ….กระทบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ลดจำนวนสาขา ไปจนถึงปิดกิจการ…..ขนาดร้านสุกี้ชื่อดัง แพนด้าบะหมี่ สุกี้ ประกาศเตรียมอำลา 3 มิ.ย.นี้ เฮ้อ…..พระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ฉัตรชัย พลเดชวิสัย ที่วัดผาสุกมณีจักร เมืองทองธานี วันที่ 5 มิ.ย. เวลา 17.00 น.

“อินทรีเหล็ก”

คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม

2 มิ.ย. 2568 04:30 น.

• ไลฟ์สไตล์
• อินทรีเหล็ก

บุคคลในข่าว 2 มิถุนายน 2568

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ…..ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ….ฉบับประจำวันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568

งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ผ่านวาระแรก ภายใต้การใช้งบประมาณของภาครัฐที่มีข้อจำกัดด้านการเงินการคลังของประเทศ…. งบประมาณจำนวน 3.78 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณแบบขาดดุลที่เพิ่มขึ้นทุกปี….ถูกตั้งข้อสังเกตมีการ จัดสรรปันส่วน ก่อนงบประมาณยังไม่คลอดด้วยซ้ำ……เช่น การตั้งข้อสงสัยการจัดสรรงบประมาณ วงเงิน 140 ล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์แพทย์แผนไทยที่ จ.สุโขทัย…บ้านเกิดของ รมว.สาธารณสุข สมศักดิ์ เทพสุทิน…..และมี หลาน รมว.สาธารณสุข เป็นเจ้าของ ร้านตำรับไทย เสียด้วย…..งานนี้แม้ รมว.สาธารณสุข จะออกมาชี้แจงในสภา อ้างว่าที่ต้องสร้างศูนย์สาธารณสุขเกี่ยวกับแพทย์แผนไทย ที่อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย เพราะเป็นเขาสมุนไพรตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหง ย้อนอดีตไปไกลลิบ…..ยืนยัน ไม่เอื้อญาติ เจ้าของร้านยา มาหากินในสาธารณสุข….ร่ายยาวขนาดนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

แต่ที่กำลังจะเป็นชนวนการเมืองร้อน……กรณี รมว.สาธารณสุขวีโต้ มติแพทยสภา ให้ลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร…..อ้างเหตุผลตั้งแต่ขั้นตอนการร้องเรียน และการพิจารณาของ อนุกรรมการทั้ง 3 ชุด ……มาติดใจที่ อนุกรรมการจริยธรรม เมื่อดูจากข้อมูลที่ได้รับรายงานมาแล้ว สมควรยกประโยชน์ให้กับผู้ถูกร้องและอ้างว่าหากปล่อยให้มีมาตรฐานในการลงโทษแพทย์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ จะทำให้เดือดร้อนกันไปหมด….. ทันทีที่ รมว.สาธารณสุข วีโต้ มติแพทยสภา……เป็นเหตุให้ ผศ.นพ.ประยงค์ เต็มชวาลา อดีตนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ออกแถลงการณ์ถึง ประชาคมแพทย์ ทั่วประเทศ……เตรียมหามาตรการตอบโต้ เป็นแนวทางต่อสู้กับฝ่ายการเมือง และ ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง……โดยเชิญชวนแพทย์ที่เป็น กรรมการแพทยสภา มีมติยืนยันมติของ แพทยสภา อีกรอบ…..รวบรวม รายชื่อแพทย์ และประชาชน เพื่อถอดถอน รมว.สาธารณสุข ออกจากตำแหน่ง…..ร่วมกับประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงและโค่นล้มรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ……ถอดบทเรียนการเมืองการปกครองที่มีผลกระทบจาก การเลือกตั้ง สส. และ สว. ที่ผ่านมา ……และช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เห็นเป็นรูปธรรม…..เดินเกมล้มรัฐบาลทั้งคณะ……ประกอบกับการออกมาแฉ แชตหลุด ของ อดีตนายกฯ ทักษิณ มีการด่าก่อนลงมติด้วยแล้ว…..การเมืองกลับเข้าสู่วงจรอุบาทว์อีกกระทอก

ลามไปจนถึง การปรับ ครม. ยึดโควตา กระทรวงมหาดไทย คืนจาก พรรคภูมิใจไทย……จากปากของ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ตรงๆ……แม้จะไม่มีเสียงตอบรับจากรองนายกฯและ รมว.มหาดไทย อนุทิน ชาญวีรกูล หรือจาก แกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ในประเด็นดังกล่าว……แค่มีเสียงกระซิบเบาๆว่า มีแต่คนอยากได้กระทรวงมหาดไทย…….แต่ที่มีคำตอบชัดเจนแล้ว จากประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ตอบสื่อกรณีที่ เพื่อไทย จะยึด กระทรวงเกษตรฯ คืนด้วย……“ของมหาดไทยไม่ทราบ แต่กระทรวงเกษตรฯต้องกล้าธรรม” เป็นคำตอบสุดท้าย…….ส่วน การปรับ ครม.ที่คาดว่าจะมีการปรับใหญ่ เพื่อให้มีผลงานตามที่ อดีตนายกฯ ระบุไว้…..พาณิชย์ คลัง คมนาคม ที่เป็นกระทรวงหลักทางเศรษฐกิจด้วยหรือไม่…….ห้ามกะพริบตา

ไม่รอช้า พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุ……ความผิดฐานฟอกเงิน ของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้อง การได้มาซึ่ง สว. รวมถึง ผู้ที่เป็นอั้งยี่และผู้สนับสนุน มีการสอบพยานไปกว่า 60 ปาก….ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จาก ดีเอสไอ และ กกต. ร่วมเป็นอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน ……ส่องรายชื่อผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว….ล้วนมีส่วนกระทบ อนาคตทางการเมือง ตั้งแต่ เพิกถอนสิทธิ เลือกตั้งมีกำหนด 20 ปี ไปจนถึง ยุบพรรคการเมือง….ในเวลาเดียวกับที่ อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมากล่าวถึงกรณีที่ ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน ถูกดำเนินคดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น จนถึงขณะนี้เหตุใด ดีเอสไอ ยังไม่นำตัวส่งให้อัยการส่งฟ้องศาล…..ทั้งที่คดีผ่านมาเนิ่นนานแล้ว……นิติสงครามของแทร่

ไหนๆก็ไหนๆ ในที่สุด ที่ประชุมวุฒิสภา ที่มี มงคล สุระสัจจะ ประธาน สว. เป็นประธานการประชุม มีมติเห็นชอบให้บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งมีจำนวน 3 คน ได้แก่ ประกอบ ลีนะเปสนันท์ รองประธานศาลฎีกา เพียรศักดิ์ สมบัติทอง อธิบดีอัยการภาค 2 และ ประจวบ ตันตินนท์ กรรมการอิสระบริษัทเอกชน ….ผลปรากฏว่า สว.เห็นชอบให้ เพียรศักดิ์ เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยมติเอกฉันท์…..ส่วนอีก 2 รายไม่ผ่านความเห็นชอบ……เป็นอันว่าข้อเสนอให้เลื่อนการเลือกคณะกรรมการในองค์กรอิสระ ที่ สว.กลุ่มอิสระนำโดย นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ต้องการให้เลื่อนออกไปก่อน ต้องจั่วลม ไปตามระเบียบ….โฟกัสไปที่การสรรหาองค์กรอิสระที่จะครบวาระอีกบานตะไท….จ่อจะเข้าพิจารณาอีกเป็นขบวน อาทิ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้ง กกต. ที่จะต้องสรรหากันใหม่ทั้งชุด….ส่วนปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านถึง อดีตนายกฯทักษิณ ยืนยันข้อพิพาทระหว่าง ไทยกับกัมพูชาบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี จบแล้ว….หลังคุยกับ สมเด็จฮุน เซน ด้วยตัวเอง…..แต่การขับเคลื่อนใน โซเชียลกัมพูชา ยังเดือดไม่จบ…..ปลุกระดม ไม่ให้ใช้สินค้าไทย เพื่อแสดงจุดยืนส่งเสริมการเคลื่อนไหวทางชาตินิยมให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น……อย่าประมาทปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียว

“อินทรีเหล็ก”

คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม

1 มิ.ย. 2568 04:30 น.

• ไลฟ์สไตล์
• ธนูเทพ

บุคคลในข่าว 1 มิถุนายน 2568

กฎหมายทั้งหลายมีไว้เพื่อผดุงความยุติธรรม

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2568

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ ท่านผู้หญิงปรียา เกษมสันต์ ณ อยุธยา และ คุณหญิงนงนุช อูนากูล ณ วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. วันที่ 1 มิ.ย.2568 เวลา 17.30 น.

“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน…เป็นไปตามคาด เมื่อวันที่ 28 พ.ค. สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้ส่งเอกสารความเห็นต่อ มติ ของแพทยสภา ที่ได้พิจารณากรณีแพทย์ จำนวน 4 คน ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยให้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่ง แพทยสภา มีมติ ยกคำร้อง 1 คน ลงโทษ ตักเตือน 1 คน และลงโทษ พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน…ทั้งนี้ รมว.สาธารณสุข ได้ส่งความเห็นให้ แพทยสภา ต่อกรณีมติลงโทษแบบเป็น รายบุคคล โดยในส่วน แพทย์ 1 คน ที่ แพทยสภา ลงมติให้ ยกข้อกล่าวหา นั้น เห็นชอบด้วย ส่วน มติแพทยสภา ที่ลงโทษ ตักเตือน แพทย์ 1 คน และ พักใช้ใบอนุญาตฯ แพทย์อีก 2 คน มีความเห็นว่า ควรยับยั้งมติลงโทษ

ทั้งนี้ เมื่อ สภานายกพิเศษ ใช้อำนาจ ยับยั้งมติแพทยสภา ที่ให้ลงโทษ แพทย์ 3 ราย ตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม กำหนดว่าหาก แพทยสภา ต้องการยืนยันมติเดิมจะต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของกรรมการแพทยสภา จำนวน 70 คน หรือ 47 เสียง จากนี้คงรอลุ้น ผลการลงมติ ของ แพทยสภา ที่นัดประชุมในวันที่ 12 มิ.ย. นี้ จะมีเสียงท่วมท้นที่จะ ยืนยันมติเดิม ลงโทษ แพทย์ 3 ราย เพื่อหักลำ รมว.สาธารณสุข ได้หรือไม่…ต้องติดตามด้วยความระทึก

ผ่างๆ…ในห้วงสถานการณ์ที่ สว. ถูกจับตา เรื่อง คดีโพยฮั้ว โยงเครือข่าย พรรคการเมือง บางพรรค แต่ สว.บางคน ก็ยังเร่งรัดให้มีการลงมติให้ความเห็นชอบเพื่อ เสนอแต่งตั้งบุคคล เข้าไปเป็นกรรมการใน องค์กรอิสระ ทั้งที่มี กระแสคัดค้าน ว่าเป็นการ ไม่สมควร เพราะอาจมีการ ฮั้วลงมติ เห็นชอบบุคคลที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันให้เข้ามาเป็น กรรมการองค์กรอิสระ สร้างความได้เปรียบให้กับ พรรคการเมืองต้นสังกัด แต่ สว. ประเภทอย่างหนาตราช้าง ก็ยังจะดันทุรังสร้างตราบาป น่าสมเพชสุดๆ

ฮัดชิ้ว…เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา สถานการณ์ชายแดน ไทย–กัมพูชา กลับปะทุเดือดถึงขั้นมีการยิงปะทะระหว่าง ทหารไทย กับ ทหารกัมพูชา ที่เคลื่อนกำลังเข้ามาในเขตพื้นที่ทับซ้อนชายแดน ช่องบก จ.อุบลราชธานี ก่อนที่ระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ประสานเจรจาหยุดยิง โดยการปะทะครั้งนี้มี ทหารกัมพูชา เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ ทหารไทย ปลอดภัย…ล่าสุด วันที่ 29 พ.ค. พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พร้อมด้วย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางไปบริเวณประตูด่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อพบกับ พล.อ.เมา โซะพัน ผบ.ทบ. กัมพูชา เพื่อพูดคุยแก้ไขปัญหาหลังเกิดเหตุการณ์ ทหารไทย และ ทหารกัมพูชา ปะทะกันที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี โดยจากการหารือมีข้อสรุปร่วมกันคือ 1.ให้ทั้งสองฝ่ายแก้ไขปัญหาครั้งนี้ผ่าน คณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) ซึ่งจะจัดขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ 2.ให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ในจุดที่เหมาะสม ถอยฝ่ายละ 200 เมตร ลดการเผชิญหน้า 3.ให้รักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ให้ใช้ความอดทนอดกลั้น

ขณะที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ยืนยันว่าไม่มีความตึงเครียดแล้ว ขอให้พี่น้องประชาชน ทั้งสองประเทศ มั่นใจว่าจะไม่มีการนำไปสู่การใช้กำลัง และการใช้อาวุธที่จะทำให้พี่น้องทั้งสองประเทศเดือดร้อน ขอให้มั่นใจและสบายใจ เชื่อมั่นว่าจะได้รับความปลอดภัย…สรุปต้องเร่งตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่ง บานปลาย กลายเป็น สมรภูมิรบ จนทำให้ ชาวบ้านทั้งสองฝ่ายต้องเดือดร้อน

ส่วนสถานการณ์ชายแดน ไทย–เมียนมา ก็ไม่ปกติ มีการสู้รบระหว่าง รัฐบาลเมียนมา กับ ชนกลุ่มน้อย ตามแนวชายแดนไทยเป็นระยะๆ ขณะเดียวกันก็มี เครื่องบิน ของ กองทัพเมียนมา บินโฉบเฉี่ยวเข้าใกล้แนวเขตชายแดนไทย บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ กองทัพอากาศไทย ต้องส่ง เครื่องบินขับไล่ F–16 ขึ้นสกัดกั้น 2-3 ครั้งแล้วในรอบไม่กี่สัปดาห์ และล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ก็บินท้าทายเข้ามาใกล้ชายแดนไทย ตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ทำให้ กองทัพอากาศ ต้องส่ง F–16 ไปสกัดป้องปราม …ถ้าเหิมห้าวเกินพิกัด บินรุกล้ำเข้าเขตน่านฟ้าไทยแบบไม่เกรงศักดิ์ศรีกัน อาจโดนสอยร่วงเป็นข่าวใหญ่พาดหัว

สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย และ บริษัทเมืองไทย ครีเอทีฟ แอนด์ ทัวร์ จัดกิจกรรมนั่งรถไฟ SRT Royal Blossom ไปเที่ยว ไปชม ไปกินทุเรียนปราจีนบุรี ไปกินผลไม้ในสวน เลือกซื้อสินค้าการเกษตรและสินค้าอื่นๆหลากหลาย ในงาน “วันเกษตรปราจีนบุรี” 3 มิ.ย.นี้ สอบถามเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง 08-1251-2207, 09-4737-1030 และ 06-2669-6441

สังคมทั่วไป

พิธีอุปสมบท ปวริศร์ กาญจนสุขสกุล และ บุญโชค กาญจนสุขสกุล ลูกชาย นนทพัฒน์ กาญจนสุขสกุล–ปริศนา ทับใบแย้ม ที่อุโบสถวัดเพรางาย ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี 1 มิ.ย. 08.00 น.

พระราชทานเพลิงศพ พ.ต.อ.ประสงค์ กฤษณสุวรรณ บิดา ชนาธิป กฤษณสุวรรณ รองบรรณาธิการข่าวหน้า 1 นสพ.ไทยรัฐ วัดเทพศิรินทราวาส 1 มิ.ย.17.00 น.

ศพ สุเมธ เพ็ญบุญรอด ตั้งสวดศาลา 1 วัดเจ้าอาม 18.00 น. ถึง 4 มิ.ย. พระราชทานเพลิง 5 มิ.ย. 16.00 น.

ศพ รุจ แสนโกศิก ตั้งสวดศาลา 9 วัดมกุฏกษัตริยาราม 18.30 น. ถึง 4 มิ.ย. (3 มิ.ย.งดสวด) ฌาปนกิจ 5 มิ.ย. 17.00 น.

ศพ คุณหญิงสุมนา ทรัพย์เจริญ ตั้งสวดศาลา 150 ปี วัดมกุฏกษัตริยาราม 18.30 น. ถึง 5 มิ.ย. (3 มิ.ย.งดสวด) พระราชทานเพลิง 6 มิ.ย. 18.30 น.

“ธนูเทพ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม

31 พ.ค. 2568 04:40 น.

• ไลฟ์สไตล์
• ธนูเทพ

บุคคลในข่าว 31 พฤษภาคม 2568

งบประมาณแผ่นดินต้องใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2568

“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน…ในการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระแรก เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงต่อที่ประชุมสภาฯว่า เศรษฐกิจปี 2569 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.3-3.3 มีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภค การลงทุนภาคเอกชน การฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ มาตรการกีดกันทางการค้า ของประเทศเศรษฐกิจหลัก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักต่อการขยายตัวเศรษฐกิจ ส่วนหนี้สาธารณะคงค้าง ณ เดือน มี.ค.2568 มี 12.08 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 64.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ยังอยู่ภายใต้กรอบบริหารหนี้สาธารณะ ตามกฎหมายวินัยการเงินการคลังที่ไม่เกินร้อยละ 70 ขณะที่เงินคงคลัง ณ วันที่ 30 เม.ย.2568 มี 252,124 ล้านบาท

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจาก นโยบายการค้าโลก อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย ด้านภาวการณ์การเงินโดยรวมยังตึงตัว แต่ฐานะการเงินด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี เงินสำรองระหว่างประเทศ วันที่ 31 ธ.ค.2567 มี 237,045 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจดังกล่าวทำให้ ปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลต้องดำเนินนโยบาย งบประมาณขาดดุล เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ สนับสนุนการฟื้นตัวและส่งเสริมอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับเหมาะสม…โดยรายละเอียดงบฯปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 2.65 ล้านล้านบาท รายจ่ายชดใช้เงินคงคลัง 123,541 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 864,077 ล้านบาท และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 151,200 ล้านบาท

นายกฯแพทองธาร ยังระบุด้วยว่า งบรายจ่ายปี 2569 จำแนกตามยุทธศาสตร์ได้ 6 ด้าน คือ 1.ด้านความมั่นคง 415,327 ล้านบาท 2.ด้านการสร้างความสามารถการแข่งขัน 394,611 ล้านบาท 3.ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 605,927 ล้านบาท 4.ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 942,709 ล้านบาท 5.ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 147,216 ล้านบาท และ 6.ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาการบริหารจัดการภาครัฐ 605,441 ล้านบาท และได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย 669,365 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรองรับเหตุการณ์กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น การบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ และชดใช้เงินคงคลัง อาทิ การเยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติร้ายแรง ภารกิจที่มีความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐ การกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ

โดย ร่าง พ.ร.บ.งบฯรายจ่าย ปี 2569 มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟู และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้ข้อจำกัด ด้านรายได้ และ สถานการณ์เศรษฐกิจโลก พร้อมยืนยันจะให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณอย่าง มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างมั่นคง เกิดผลสัมฤทธิ์การพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ เมื่อการอภิปรายเสร็จสิ้น ช่วงเย็นวันที่ 31 พ.ค.นี้ จะมีการลงมติ ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ วาระแรก และด้วยเสียงที่แน่นหนาของ ฝ่ายรัฐบาล มั่นใจได้เลยว่าร่าง พ.ร.บ.งบฯ 3.78 ล้านล้านบาท ต้องผ่านฉลุย เข้าไปสู่การพิจารณา วาระที่ 2–3 จนสามารถ ประกาศบังคับใช้ ได้ตามกำหนดแน่นอน แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เมื่อถึงเวลาใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินก้อนนี้ รัฐบาล ต้องบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง อย่าปล่อยให้มีการทุจริต คอร์รัปชันอย่างเด็ดขาด ในสภาวะที่ ประเทศ และ ชาวบ้าน กำลังเดือดร้อนสาหัสจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ เข้าใจตรงกันนะ

ฮัดชิ้ว…เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา สาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ คณะ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า ที่ประชุม ป.ป.ช. ได้ลงมติชี้มูลความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ อดีตข้าราชการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) 3 ราย จากกรณี ทุจริตเงินอุดหนุนวัด โดยมีการชี้มูลความผิด พัฒนา สุอำมาตย์ มนตรี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ ร่ำรวยผิดปกติ 24,973,519 บาท ในรายการเงินฝากในบัญชีธนาคาร 8 บัญชี รถยนต์ 1 คัน เงินให้กู้ยืม 3 แสนบาท โฉนดที่ดิน อ.สามพราน จ.นครปฐม

ชี้มูลความผิด พรเพ็ญ กิตติธรางกูร อดีต ผอ.ส่วนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ ร่ำรวยผิดปกติ 12,818,335 บาท ในส่วนบัญชีเงินฝากในธนาคาร 2 บัญชี โฉนดที่ดิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 2 แปลง เงินชำระหนี้ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ 2 รายการ รวมทั้งชี้มูลความผิด จุไรรัตน์ มีศิริ อดีตเจ้าพนักงาน ฝ่ายเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่ำรวยผิดปกติ 10,863,181 บาท ในรายการเงินฝากในธนาคาร 6 บัญชี การชำระหนี้เช่าซื้อรถยนต์ 3 คัน การชำระหนี้เงินกู้ธนาคาร 2 แห่ง โดยทั้ง 3 กรณี ได้ส่งรายงานและสำนวนไต่สวนไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อให้ยื่นคำร้องต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พิจารณาสั่งให้ทรัพย์สินที่พบว่าร่ำรวยผิดปกติดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน…บรรดาฝูงเหลือบ ในหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับ พระพุทธศาสนา สมควรถูกขจัดให้สิ้นซาก เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป

สังคมทั่วไป

เสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสภาพรถ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน รุ่นที่ 3 ที่ห้องแมจิก 3 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น 31 พ.ค. 08.30 น.

พระราชทานเพลิงศพ ม.ร.ว.เดชนศักดิ์ ศักดิเดช ภาณุพันธ์ วัดเทพศิรินทราวาส 31 พ.ค. 17.30 น.

ศพ ศุภวัฒน์ วัฒนสมบูรณ์ชัย บิดา ศักดิ์ชัย วัฒนสมบูรณ์ชัย ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำ จ.พิษณุโลก ตั้งสวดที่วัดคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถึง 31 พ.ค. และฌาปนกิจ 1 มิ.ย. เวลา 15.00 น.

“ธนูเทพ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม

30 พ.ค. 2568 04:50 น.

• ไลฟ์สไตล์
• ธนูเทพ

บุคคลในข่าว 30 พฤษภาคม 2568

การเป็นผู้นำย่อมต้องเผชิญความยากลำบาก

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสีจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2568

“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน… ห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าชีพจรลงเท้า สำหรับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ ประเทศอังกฤษ และ โมนาโก กลับมาถึงเมืองไทย วันที่ 25 พ.ค. ได้พักไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องเดินทางต่อไป กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เข้าร่วม การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 ที่ประเทศมาเลเซีย เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 26-27 พ.ค. โดยมี ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้ง 9 ชาติ เข้าร่วมการประชุม…ทั้งนี้ในช่วงที่มีการหารือเกี่ยวกับทิศทางการเสริมสร้างประชาคมอาเซียนให้มั่นคงและมีเสถียรภาพ จากความไม่แน่นอนของโลกและแนวทางการดำเนินความสัมพันธ์ของอาเซียนกับภาคีภายนอก นายกฯแพทองธาร ได้กล่าวถ้อยแถลง โดยระบุว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในช่วงเวลาที่ภูมิทัศน์โลกกำลังเปลี่ยนไปสู่นโยบายที่แข็งกร้าวและมุ่งผลประโยชน์ตอบแทน มาตรการด้านภาษี ของ สหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อพลวัตทางการค้าโลก ทำให้อาเซียนต้องประเมินยุทธศาสตร์ เพื่อรับมือกับภูมิทัศน์ เศรษฐกิจโลก ที่ผันผวน อาเซียน จำเป็นต้องสร้างเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานแบบครบวงจร และทำงานร่วมกันมุ่งไปสู่การบูรณาการระดับภูมิภาค เพื่อให้อาเซียนยังคงมีบทบาทความสำคัญที่น่าดึงดูดและแข่งขันได้ จึงต้องสนับสนุนการค้าภายในอาเซียน ใช้ประโยชน์จาก FTA พิจารณาจัดทำ FTA กับภาคีใหม่ๆ ควบคู่กับส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ MSMEs เพื่อให้สามารถต่อสู้กับความท้าทายในอนาคตได้

นอกจากนี้ ในช่วงที่ ผู้นำอาเซียน ได้หารือสถานการณ์ในภูมิภาคและระดับโลก นายกฯแพทองธาร ได้กล่าวย้ำต่อที่ประชุมว่า การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่โลกกำลังเผชิญความตึงเครียดทาง ภูมิรัฐศาสตร์ ความเปราะบางทางเศรษฐกิจ และการแข่งขันระหว่าง มหาอำนาจ การส่งเสริมระบอบพหุภาคีเพื่อรักษาบทบาทเชิงยุทธศาสตร์และผลประโยชน์ของ อาเซียน จึงเป็นสิ่งสำคัญ อาเซียนต้องหลีกเลี่ยงการถูกดึงเข้าไปในการแข่งขันในพื้นที่ขัดแย้ง เสริมสร้างความเป็นศูนย์กลางและเอกภาพของอาเซียนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อรักษาความสำคัญของกลไกที่นำโดย อาเซียน พร้อมกับเสริมสร้างความสมดุลในความสัมพันธ์กับ มหาอำนาจ โดยไทยจะทำงานร่วมกับสมาชิกอาเซียนและพันธมิตรต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าอาเซียนยังคงเป็นผู้เล่นระดับโลกที่มีความรับผิดชอบ และเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกฝ่าย และต้องยึดมั่น ปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะแนวทางร่วมกันของ อาเซียน ต่อ นโยบายภาษี ของ สหรัฐอเมริกา ที่สร้างสรรค์และมีเอกภาพ

แสดงความมุ่งมั่นชัดเจนว่าต้องการให้ อาเซียน ผนึกกำลังกันต่อรอง มาตรการกำแพงภาษี ของ ประธานาธิบดีทรัมป์ แห่ง สหรัฐอเมริกา แต่จะได้ความร่วมมืออย่างจริงใจจาก ชาติสมาชิกอาเซียน หรือไม่ ยังต้องรอวัดใจกัน เพราะในยาม หน้าสิ่วหน้าขวาน แต่ละประเทศก็ต้องพยายามหาทาง เอาตัวรอด จาก วิกฤติสงครามการค้า ของ มหาอำนาจอเมริกา แบบ ตัวใครตัวมันไว้ก่อน เพราะฉะนั้น รัฐบาล ของ นายกฯแพทองธาร ก็อย่าชะล่าใจ หวังให้ ชาติในอาเซียน ผนึกกำลังช่วยกัน ควรต้องถือคติ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไว้ก่อนดีที่สุดนะจ๊ะ

ส่วนภารกิจสำคัญต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา นายกฯแพทองธาร นำทีม ครม. เข้าร่วมประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2569 กรอบวงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระแรก โดยเปิดให้มีการอภิปรายตั้งแต่วันที่ 28–31 พ.ค.นี้…แน่นอนว่า ฝ่ายค้าน ต้องใช้เวทีนี้ ถล่มการจัดทำงบฯ ของ รัฐบาล อย่างหนัก ตามที่ฉายหนังโฆษณาไว้ ขณะที่ รัฐบาล ก็ต้องชี้แจงไปตามเนื้อผ้า…แต่เมื่ออภิปรายจบสิ้น ลงมติวาระแรก ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 ผ่านฉลุยแน่

ผ่างๆ…ส่วนทางด้าน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เก็บเนื้อเก็บตัวมาหลายวัน ได้โอกาสรับเชิญไปปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ที่ สำนักงาน ป.ป.ส. เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา…งานนี้ นอกจาก อดีตนายกฯทักษิณ แสดงวิสัยทัศน์ให้แนวทางหน่วยงานต่างๆในเรื่อง การปราบปรามยาเสพติด แล้ว ยังถือโอกาสใช้การปรากฏตัวในเวทีนี้ สยบข่าวลือว่า หนีไปต่างประเทศ จากปมที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวน คดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ …โดย อดีตนายกฯทักษิณ กล่าวบนเวทีปาฐกถา ว่ามีคนปล่อยข่าวว่าตนเองหนีไปแล้ว และเพิ่งกลับมาวันนี้ หนีไปทางช่องทางธรรมชาติ แล้วบินไปที่อื่น ไปกันใหญ่ ไม่อยากให้ทุกคนแต่งนิยาย อย่าง เจ.เค.โรว์ลิง แต่งนิยายเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ จนดัง จนรวย อันนี้เขาใช้จินตนาการแต่งนิยายให้เกิดประโยชน์ แต่ของเรา นิยายน้ำเน่า จินตนาการเลอะเทอะบอกว่า นายกฯอิ๊งค์ ไปรอลอนดอน แล้วตนเองจะหนีตามไป เป็นเรื่องที่ตลก วันนี้คนไทยต้องตั้งหลักให้ดี อย่าให้คนจูงได้ง่ายๆ เฟกนิวส์ มาจาก 2 ช่องทาง คือหนังสือพิมพ์ที่ไม่มีคนอ่านแล้ว และทีวีตกรุ่น ขณะที่ สื่อออนไลน์ ของสังคมไทยก็ไม่มีการเซ็นเซอร์…สรุป ยุคนี้ ต้องฟังหู ไว้หู ดีที่สุด ไม่งั้น อาจโดนแหกตาได้ง่ายๆ จบข่าว

สังคมทั่วไป…สุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษ ฝ่ายการสอบสวน 1 และ สุทธิ สุขยิ่ง อัยการพิเศษ ฝ่ายกิจการต่างประเทศ 3 เป็นวิทยากรบรรยายเรื่องการบริหารคดีความผิดตามกฎหมายไทยกระทำนอกราชอาณาจักร และการบริหารคดีด้านความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา ในโครงการอบรมนักบริหารงานยุติธรรมระดับสูง หลักสูตรการอบรมอัยการจังหวัด รุ่นที่ 48 ที่ห้องบอลรูม 1 โรงแรม ดิเอมเมอรัลด์ 30 พ.ค. 09.00 น.

ศพ ม.ร.ว.เดชนศักดิ์ ศักดิเดช ภาณุพันธ์ ตั้งสวดศาลากวีนิรมิต (ศาลากลางน้ำ) วัดเทพศิรินทราวาส 18.30 น. 30 พ.ค. คืนสุดท้าย พระราชทานเพลิง 31 พ.ค. 17.30 น.

“ธนูเทพ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม

29 พ.ค. 2568 04:40 น.

• ไลฟ์สไตล์
• เพลิงสุริยะ

บุคคลในข่าว 29 พฤษภาคม 2568

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2568

เพลิงสุริยะ รายงานตัวท่านผู้อ่าน เสร็จสิ้นจากภารกิจเดินสายต่างประเทศ สหราชอาณาจักร–ราชรัฐโมนาโก ต่อด้วย การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 ที่มาเลเซีย นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ประจำการอยู่ประเทศไทย เพราะมีวาระสำคัญคือการประชุมสภาฯ ระหว่างวันที่ 28-31 พ.ค.นี้ เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท รัฐบาลเสนอของบเพิ่มขึ้นจากปีก่อน (2568) 27,900 ล้านบาท คิดเป็น 0.7%

ตีเข้าแสกหน้า สำนักงบประมาณของรัฐสภา (สงร.) ทำรายงานวิเคราะห์ไว้ให้ สส.ศึกษาก่อนอภิปรายเนื้อหา มีจุดที่น่าสนใจคือ ข้อเสนอพึงระวังต่อสถานการณ์การบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2567 ที่ลดลง อาทิ ดัชนีประชาธิปไตย, อัตรารายได้ต่อหัวประชากร, คุณธรรมของคนในสังคม, การมีส่วนร่วมด้านชีวิต ครอบครัวและชุมชน, ความยากจนของกลุ่มผู้สูงอายุ ขณะที่ รายจ่ายประจำสูงถึง 70.1% เป็นภาระต่องบประมาณ ควรได้รับการทบทวนปรับโครงสร้างการบริหารภาครัฐ มีงบลงทุนอยู่ที่ 22.9% แม้สัดส่วนจะไม่น้อยกว่า 20% ตามกรอบวินัยการเงินการคลัง แต่รัฐบาลควรทบทวนความเหมาะสม เพื่อให้รายจ่ายลงทุนสามารถยกระดับการแข่งขันของประเทศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหลายมิติ โดยเฉพาะช่วงที่เศรษฐกิจต้องการแรงกระตุ้นจากภาครัฐ

ลองไปดูท็อป 10 ของหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรสูงสุด ได้แก่ งบประมาณกลาง วงเงิน 6.32 แสนล้านบาท…..กระทรวงการคลัง 3.97 แสนล้านบาท…..กระทรวงศึกษาธิการ 3.55 แสนล้านบาท…..กระทรวงมหาดไทย 3.01 แสนล้านบาท …..กระทรวงกลาโหม 2.04 แสนล้านบาท…..องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2.02 แสนล้านบาท…..กระทรวงคมนาคม 2 แสนล้านบาท…..กระทรวงสาธารณสุข 1.77 แสนล้านบาท….. รัฐวิสาหกิจ 1.43 แสนล้านบาท และ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ 1.4 แสนล้านบาท

เห็นหรือยังว่าทำไม อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคสีน้ำเงิน ภูมิใจไทย ถึงย้ำนักย้ำหนาว่าไม่มีทางที่จะคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ก็ใน 10 อันดับแรก มี 3 กระทรวงที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยกำกับดูแล รวมกันก็ปาเข้าไปกว่า 7.96 แสนล้านบาทแล้ว รวม กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานในกำกับอีกเกือบจะ 1 ใน 3 ของงบประมาณปี 69 การเมืองมันเรื่องของผลประโยชน์ทั้งนั้น

ตัดกลับไปที่ฉากเวทีประชุมสุดยอดอาเซียน นายกฯแพทองธาร เพิ่งจะขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม เรียกร้องให้ชาติสมาชิกต้องประเมินยุทธศาสตร์ของอาเซียนอีกครั้ง เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นร่วมกัน มีจุดยืนอันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อรับมือกับภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน รวมถึงเสริมสร้างความเป็นศูนย์กลาง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน บนผลประโยชน์ของพลเมืองอาเซียนอย่างแท้จริง “ไทยจะทำงานร่วมกับสมาชิกอาเซียนและพันธมิตรต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าอาเซียนยังคงเป็นผู้เล่นระดับโลกที่มีความรับผิดชอบ และเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกฝ่าย และต้องยึดมั่นปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะแนวทางร่วมกันของอาเซียนต่อนโยบายภาษีของสหรัฐฯที่สร้างสรรค์และมีเอกภาพ”

ท่ามกลางความพยายามในการสร้างตัวตนของ ผู้นำประเทศไทย ในเวทีนานาชาติ แต่ยังไร้วี่แววความหวัง ก่อนหน้านี้ผู้นำประเทศมหาอำนาจ ทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองโลก อย่าง สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน บินเยือน 3 ชาติอาเซียน คือ เวียดนาม–มาเลเซีย– กัมพูชา มาช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา อิชิบะ ชิเงรุ นายกฯญี่ปุ่น เพิ่งจะเดินทางมาเยือน เวียดนาม–ฟิลิปปินส์ ล่าสุดเป็น เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ยกคณะชุดใหญ่มาเยือน เวียดนาม–อินโดนีเซีย–สิงคโปร์ หมุดหมายของผู้นำระดับโลก คือ เวียดนาม และชาติอื่นในอาเซียน ไม่เคยปักหมุดประเทศไทยในการเจรจาการค้าการลงทุน ถ้าบรรดาท่านผู้มีอำนาจ ทั้งในที่แจ้งและในที่ลับ ที่กำลังเล่นเกมชิงอำนาจกันอยู่ ยังคิดกันไม่ได้ แผนที่ประเทศไทยคงหายไปจากจีพีเอสของนักลงทุน อีกนานนน มันจะเป็นหายนะของแทร่

ทักษิณ.. Where Are You? บรรดาพวก ฝ่ายแค้น ฝ่ายต้าน ปล่อยข่าวต่อเนื่องกันมาหลายวัน อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว หลอนหนักถึงขั้นปล่อยข่าวว่านัดแนะลูกสาว นายกฯอิ๊งค์ เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ หลังคดีความทางการเมืองในช่วงหลังๆ บ่งชี้ทิศทางที่มีแต่ด้านลบ สุดท้ายก็เป็นได้แค่ข่าวปล่อย ตามเกมถนัดปั่นกระแสของพวกฝ่ายต้าน อดีตนายกฯทักษิณ มาตามนัดในฐานะ ที่ปรึกษาประธานอาเซียน ขึ้นเวทีปาฐกถาพิเศษ “ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ของ ป.ป.ส. มีรัฐมนตรีมารอรับกันพร้อมหน้า ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม, อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย, สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. “พี่โทนี่” ถือโอกาสโบกมือทักทายนักข่าว “ยังอยู่ดีกินดี ไม่ได้ไปไหน” “แก่แล้ว 70 กว่าแล้วนะ ใจเย็นๆ” นับเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของ อดีตนายกฯทักษิณ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวน คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ 13 มิ.ย.นี้

การเมืองนับจากนี้ห้ามกะพริบตา จากสงครามตัวแทนกำลังจะเข้าสู่จุดไคลแมกซ์ด้วยนิติสงคราม ทั้ง คดีฮั้วเลือก สว., คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ, ผลต่อเนื่องจากคดีรับจำนำข้าว ฯลฯ น่าจับตาว่า ดีลพิเศษ เพื่อพลิกขั้วการเมืองครั้งนี้ จะถูกล้มดีลหรือไม่ สถานการณ์หลัง ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ผ่าน คงได้เห็นอะไรที่ชัดเจนขึ้นว่า “รัฐบาลอิ๊งค์ 1” จะเกิดความ เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด…..ปรับ ครม. …..ลาออก…..หรือยุบสภา ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเมืองจริงๆ

พิธีฌาปนกิจ เง็กเจ็ง แซ่ฉั่ว วันที่ 29 พ.ค. เวลา 17.00 น. ณ วัดตรีทศเทพ

“เพลิงสุริยะ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม

28 พ.ค. 2568 05:58 น.

• ไลฟ์สไตล์
• ไต้ฝุ่น

บุคคลในข่าว 28 พฤษภาคม 2568

หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสีขายดีที่สุด เร่งสร้างงานกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉบับนี้ประจำวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568

อยู่เมืองไทย หัวจะปวด ทั้งเรื่องสงครามการค้า เศรษฐกิจในประเทศตกตํ่า การเมืองฟาดฟันกันเละ นายกฯอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร เลยหนีไปเที่ยวยุโรปดีกว่า ไปเดินเล่นในกรุงลอนดอน ไปดูสินค้า ไทยในซุปเปอร์มาร์เกต ไปเยี่ยมค่ายมวยไทย ถ่ายรูปเป็นข่าว ช่วยดันมวยไทยให้เป็น Soft Power ระดับโลก และไปเที่ยว มอนติคาร์โล เมืองเศรษฐีไฮโซบ่อนกาสิโนชื่อดัง โมนาโก

กลับมาเมืองไทยเจอนักข่าวถาม ใช้งบหลวงไปเที่ยวส่วนตัวหรือเปล่า ภาพที่โพสต์ร่วมกับ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แอบไปพบกันที่อังกฤษหรือเปล่า นายกฯแพทองธาร ชี้แจงว่า เรื่องอาปูเป็นรูปเก่า และ ไม่ได้เจอกัน จะมีใครเชื่อไหมเนี่ย

เรื่องไปเที่ยวอังกฤษ นายกฯแพทองธาร ชี้แจงว่า ตอนอยู่ลอนดอนไปคุยเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ เรื่องทำตลาดเอฟทีเอได้หรือไม่ ในลอนดอนต้องการสินค้าอะไร ไป โมนาโก ก็ไปคุยเรื่อง การแข่งรถเอฟวัน ไปเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 แห่งราชรัฐโมนาโก สื่อตามข่าวกันบ้าง หรือไม่

“ไต้ฝุ่น” เชื่อว่า สื่อไทยตามข่าวนายกฯมาตลอดนั่นแหละ จึงได้มีคำถามว่า นายกฯใช้งบหลวงไปเที่ยวส่วนตัวหรือเปล่า อย่างที่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นายกฯแพทองธาร ก็ไม่ได้พบกับ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่ได้พบกับ รัฐมนตรีพาณิชย์อังกฤษ โปรโตคอลระดับการทูต เขาถือไปเที่ยวส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลอังกฤษ

และที่นายกฯแถลงโดยอ้างเหตุผลว่า ไปคุยเรื่องกระทรวงพาณิชย์ ทำเอฟทีเอได้หรือไม่ ลอนดอนต้องการสินค้าอะไร ทำไม นายกฯอิ๊งค์ ไม่คุยกับ พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ ใน ครม. ต้องบินไปคุยกับเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ถึงกรุงลอนดอน? นักข่าวที่สงสัยก็สงสัยถูกต้องแล้ว

เอาอีกแล้ว เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ยกทีมนักธุรกิจฝรั่งเศสชุดใหญ่ บินมาเยือน 3 ประเทศอาเซียน ตั้งแต่ วันจันทร์ 26 พ.ค. ไปเยือน เวียดนาม เป็นประเทศแรก เซ็นสัญญาการค้ากันหลายสิบฉบับ ต่อด้วย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ข้ามหัว ประเทศไทย ไปมา แต่ไม่แวะเยือนประเทศไทย ทั้งที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอาเซียน แต่ผู้นำโลกกลับมองไม่เห็น นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ

ก็งงกันไปงงกันมา คำพิพากษา ของ ศาลปกครองสูงสุด คดีค่าเสียหายจำนำข้าวของ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้ ศาลปกครองสูงสุด ต้องออกเอกสารชี้แจงว่า กรณี กระทรวงการคลัง มีคำสั่งให้ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชดใช้เงินกว่า 35,700 ล้านบาทว่า ศาลไม่มีอำนาจพิพากษาให้คู่กรณีฝ่ายผู้ฟ้อง (คุณยิ่งลักษณ์) รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แต่ ศาลปกครองสูงสุด เห็นว่าคำสั่งพิพาทไม่ชอบด้วยกฎหมายบางส่วน จึงมีคำพิพากษาถอนคำสั่งพิพาทเฉพาะส่วนที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าจำนวน 10,028,861,880.83 บาท โดย ศาลปกครองสูงสุดไม่ได้มีคำพิพากษาและออกคำบังคับให้นางสาวยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 9 แต่อย่างใด

ประสา “ไต้ฝุ่น” เข้าใจแบบชาวบ้านที่ไม่เชี่ยวชาญกฎหมาย ศาลคงเห็นว่าคำสั่งที่กระทรวงการคลังให้ชดใช้เงินกว่า 35,700 ล้านบาท ไม่ชอบด้วยกฎหมายบางส่วน จึงเพิกถอนคำสั่งบางส่วน ให้อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ชดใช้แค่ 10,000 ล้านบาทเศษก็พอแล้ว ส่วนจะชดใช้หรือไม่อย่างไร กระทรวงการคลังคงต้องไปฟ้องร้องเอาเอง ส่งผลให้คดีนี้กลายเป็น มหากาพย์จำนำข้าวภาค 2 ที่ต้องใช้เวลาอีกยาวนานแน่นอน เขียนไป “ไต้ฝุ่น” ก็นึกถึง คดีโฮปเวลล์ที่ฟ้องร้องกันมานานกว่า 34 ปีแล้ว รัฐยังไม่ได้เงินสักบาท

เช้าวันนี้ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร จะเสนอ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท เข้าพิจารณาในสภาผู้แทนฯ วาระแรก เปิดให้ฝ่ายค้านอภิปราย4 วัน 4 คืน ตั้งแต่ 28-31 พฤษภาคม สุดท้าย “ไต้ฝุ่น” เชื่อว่า ผ่านฉลุย ฝ่ายรัฐบาลมีมือมากกว่าฝ่ายค้านในสภา

ประเด็นที่น่าสนใจคือ งบปี 69 เป็นงบขาดดุล 860,000 ล้านบาท คือ ต้องกู้มาเพิ่มอีก 860,000 ล้านบาท จึงจะครอบคลุมค่าใช้จ่าย 3.78 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลตั้งเป้าว่า จะมีรายได้สุทธิ 2,920,600 ล้านบาท โดยอิงกับ คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2569 ของสภาพัฒน์ ที่คาดว่า จีดีพีปี 69 จะเติบโตระหว่าง 2.3–3.3 ค่ากลาง 2.8% แต่ ไอเอ็มเอฟ คาดว่า ปี 69 จีดีพีไทยจะโตแค่ 1.6% สอดคล้องกับ สภาพัฒน์ ที่เพิ่ง ปรับลดจีดีพีปี 68 ลงมาเหลือ 1.8%

ถ้า จีดีพีปี 69 เติบโตแค่ 1.6% รายได้กว่า 2.92 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลคาดว่าจะเก็บได้ “ไต้ฝุ่น” ก็คาดว่า น่าจะเก็บไม่ได้ตามเป้า ทำให้รัฐบาล อาจต้องกู้เงินมาใช้เพิ่มมากกว่า 860,000 ล้านบาทก็เป็นไปได้ ขณะที่ ค่าใช้จ่ายประเภทหาเสียง ซ่อนอยู่เต็มไปหมด

สังคมความจริงดีกว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี “เงิน” ยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้น สินเชื่อ และ การลงทุน ก็ยังต้องดำเนินต่อไปไม่มีวันหยุด ภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม Money Expo 2025 แถลง ยอดธุรกรรมการเงินการลงทุน ภายใน งานมหกรรมการเงิน Money Expo กรุงเทพ ครั้งที่ 25 ระหว่าง 15-18 พฤษภาคมที่ผ่านมา มียอดธุรกรรมการเงินการลงทุนทั้งสิ้นกว่า 16,830 ล้านบาท จาก ผู้สมัครใช้บริการภายในงานและออนไลน์กว่า 32,200 ราย ทั้งประชาชนทั่วไปและธุรกิจเอสเอ็มอี ถือเป็นยอดธุรกรรมที่สูงมากภายใต้ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ แต่ชีวิตและธุรกิจก็ต้องเดินหน้าต่อไป

31 พฤษภาคม เป็น วันงดสูบบุหรี่โลก ปีนี้ องค์การอนามัยโลก ได้กำหนดประเด็นการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ว่า “Unmasking the Appeal : Industry Tactics on Tobacco and Nicotine Products” เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงกลยุทธ์อุตสาหกรรมยาสูบที่ใช้การตลาดดึงดูดผู้บริโภค ศ.เกียรติคุณ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธาน มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เตรียมจัดงาน “วันงดสูบบุหรี่โลก” 31 พฤษภาคม ในประเด็น “กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า : นิโคตินเสพติดจนตาย” เพื่อให้สังคมทุกภาคส่วนตระหนักถึงอันตรายของการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

สายกินต้องไม่พลาด นิตยสาร Gourmet & Cuisine จัดแข่งแรลลี่ Gourmet Foodie Party 2025 ในธีม East Feast Paradise สวรรค์นักกิน ถิ่นตะวันออก เส้นทาง กรุงเทพฯ–จันทบุรี ระหว่าง 7-8 มิถุนายน พักที่ โรงแรมมณีจันท์รีสอร์ท พร้อมกิจกรรมลุ้นรางวัลกว่า 100,000 บาท รับจำนวนจำกัด

บนแผงวันนี้ วารสารการเงินธนาคาร พฤษภาคม ประกาศผล 300 บริษัทจดทะเบียนยอดเยี่ยมแห่งปี 2568, เจาะลึก Tech War จีน–สหรัฐฯ กลยุทธ์ต่อกร Reciprocal Tariffs สหรัฐฯ เคล็ดวิชาราชวงศ์สู่ธุรกิจครอบครัว, นักกินต้องไม่พลาด Gourmet & Cuisine ฉบับพฤษภาคม พาไปชิมแชะชิล สวรรค์นักกิน …ถิ่นตะวันออก Explore Eastern Thailand’s Hidden Culinary Gem, สดชื่นด้วยเครื่องดื่มจากผลไม้, ขนมหม้อแกงถั่ว ที่ยังไม่เคยกิน, ศิลปวัฒนธรรม พระราชประวัติพระปิ่นเกล้าฯ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 4 จากกรณีสวรรคต พ.ศ.2408 4 WHEELS กระบะพลังงานทางเลือกใหม่ แกะกล่องรถใหม่ HONDA E:N1

สวดพระอภิธรรม พ.อ.(พิเศษ) สุเจตน์ อภัยวงศ์ 18.30 น. ศาลา 8 วัดอนงคาราม ถึงวันที่ 28 พ.ค. ฌาปนกิจ 29 พ.ค. 14.00 น.

“ไต้ฝุ่น”

คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม

27 พ.ค. 2568 04:40 น.

• ไลฟ์สไตล์
• อินทรีเหล็ก

บุคคลในข่าว 27 พฤษภาคม 2568

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2568

นายกฯแพทองธาร ชินวัตร โพสต์ข้อความมีเนื้อหาว่า “ดิฉันซาบซึ้งที่ได้เข้าเฝ้าฯเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 แห่งราชรัฐโมนาโก โดยได้แลกเปลี่ยนทัศนะอย่างรอบด้านเกี่ยวกับศักยภาพเชิงยุทธศาสตร์ของการแข่งขัน Formula 1 ในฐานะกลไกการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ การพัฒนาเทคโนโลยี และความยั่งยืน ดิฉันใช้โอกาสนี้ ในการแสดงความซาบซึ้งต่อการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของโมนาโก ที่มีการพัฒนาและส่งเสริมโครงการ Formula 1 ในประเทศไทย ประสบการณ์และบทบาทความเป็นผู้นำของโมนาโกในการผสานมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับนวัตกรรมสมัยใหม่เป็นแบบอย่างที่มีคุณค่าสำหรับประเทศไทย และประเทศไทยเชื่อว่าการจัดการแข่งขัน Formula 1 ในอนาคตจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยว นักลงทุนจากทั่วโลก นอกจากนี้ เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 ทรงรำลึกถึงการเสด็จฯเยือนประเทศไทยในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสที่ได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร โดยได้ตรัสถึงความซาบซึ้งในไมตรีจิต และการต้อนรับอย่างอบอุ่นที่ได้รับ ทั้งนี้ เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 มีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จฯเยือนประเทศไทยอีกครั้งในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและความเคารพซึ่งกันและกันที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างไทยกับโมนาโก”

ราชรัฐโมนาโก เป็นนครรัฐในยุโรปตะวันตก ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็น ประเทศเอกราชที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลก มีขนาดพื้นที่เพียง 2.02 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก ราว 19,009 คนต่อตารางกิโลเมตร โดยมีประชากรไม่ถึง 4 หมื่นคน .การแข่งขันฟอร์มูลาวัน หรือ F1 มี ศูนย์กลางการแข่งขันที่ยุโรป เป็น กีฬามอเตอร์สปอร์ตที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดมีราคาแพงที่สุด ผู้จัดการแข่งขันและทีมนักแข่งจะต้องมีใบอนุญาต Super Licence ที่ถูกต้อง การแข่งขันต้องจัดขึ้นในสนามแข่งรถเกรด 1 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เฉพาะ การบริหารทีมในแต่ละปี จะใช้เงินถึงประมาณ 220 ล้านปอนด์ ทำให้ในระยะหลังมีการลดจำนวนครั้งในการจัดการแข่งขันลง อย่างไรก็ตาม การแข่งขันรถสูตร 1 ฤดูกาล 2025 ได้รับความนิยมในการรับชมทางโทรทัศน์ที่มีการถ่ายทอดสดในปัจจุบัน ที่เพิ่งเสร็จสิ้น การแข่งขันเป็นสนามที่ 8 ที่ โมนาโก กรังด์ปรีซ์ (ระหว่าง 23-25 พ.ค.) ถ้า ประเทศไทย จะจัดแข่งขัน F1 จริงๆไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะที่ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล

กลับจาก โมนาโก นายกฯแพทองธาร เดินทางไปร่วมประชุม สุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ ประเทศมาเลเซีย ทันที หัวข้อการประชุมภายใต้แนวคิด “การมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึงและความยั่งยืน” เพื่อกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนของอาเซียน นอกจาก ผู้นำอาเซียน 9 ประเทศ และ ปลัดกระทรวงต่างประเทศเมียนมา รวมทั้ง เลขาธิการอาเซียน แล้ว ยังมีกลุ่มผู้นำประเทศความร่วมมือ รัฐอ่าวอาหรับ อาทิ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย ที่เป็นคีย์แมนคนสำคัญคือ นายกฯจีน นอกจากข้อหารือในการ สร้างสันติภาพในเมียนมา แล้ว หัวข้อสนทนาว่าด้วยการรับมือกับ มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่จำเป็นจะร้องขอสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร นอกอาเซียน เป็นกำลังต่อรองเป็นที่น่าจับตา ลำพัง จำนวนประชากรในอาเซียน 673.02 ล้านคน ไม่สามารถรับมือกับ สงครามการค้าโลก ที่หนักหนาสาหัส

ไหนๆก็ไหนๆ กลยุทธ์ สงครามการค้า ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่พลิกแพลงไปตามสถานการณ์ ตบหัวแล้วลูบหลัง ในช่วงเวลา 90 วันก่อนจะมีการประกาศบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้อย่างเป็นทางการ ยังปั่นป่วนได้อีกหลายกระทอก วันนี้ ทรัมป์ ขู่ผู้บริหารบริษัทแอปเปิล จะต้องเสียภาษีนำเข้า 25% ถ้ายังผลิตไอโฟนที่ขายในสหรัฐฯในประเทศอื่น (ปัจจุบันแหล่งผลิตไอโฟนขนาดใหญ่อยู่ที่อินเดีย) นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือน การใช้ชิปของ Huawei อาจ ละเมิดกฎหมายการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ด้วย ประเทศไทย ในฐานะทางผ่าน…ไตรมาสแรก พบว่ามีการ ส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯมูลค่า 15,808 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25% นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 5,069 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% ไทยได้ดุลการค้าสหรัฐฯ ไตรมาสแรกของปีนี้ 10,738 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ประเทศอื่นได้รับไฟเขียวในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ส่วนประเทศไทยยังนิ่ง ความเสี่ยงถูกประกาศเก็บภาษีนำเข้า 36% ยังลูกผีลูกคน ทำเป็นเล่นไป ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษี สหภาพยุโรป 50% เริ่มทันที ในเดือน มิ.ย.นี้ ถ้าการเจรจาทางการค้ายังไม่คืบหน้า จบข่าว

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ปักหมุดความสำเร็จครบรอบ 1 ปี เดินหน้าวิสัยทัศน์ ปตท.แข็งแรงร่วมกับสังคมไทยและเติบโตระดับโลกอย่างยั่งยืน วางแผนการดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2568 เน้นธุรกิจ Hydrocarbon ปรับพอร์ตธุรกิจสู่สมดุลใหม่ สร้างความแข็งแกร่งจากภายในสู่ภายนอก ทำให้มีกำไรสุทธิ 23,315 ล้านบาท นำเงินเข้ารัฐกว่า 7 พันล้านบาท วันนี้ 09.00 น. ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เปิดสัมมนาการร่วมสร้างเครือข่ายภาคธุรกิจเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน 10.00 น. บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ โชว์ศักยภาพครัวโลกที่ยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมอาหารหลากหลายเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในงาน Kitchen of the World Quality Through Sustainovation ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารไทยสู่ระดับโลก ที่บูธ CPF ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี งานมีไปจนถึง 31 พ.ค.นี้

“อินทรีเหล็ก”

คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม

26 พ.ค. 2568 05:56 น.

• ไลฟ์สไตล์
• อินทรีเหล็ก

บุคคลในข่าว 26 พฤษภาคม 2568

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ…..ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ…..ฉบับประจำวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

มหากาพย์คดีรับจำนำข้าว ตั้งแต่ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังเป็นส่วนหนึ่งของ นิติสงคราม …..ที่เพิ่มเติมจาก คดีชั้น 14 และ คดีฮั้วเลือก สว. …..พัวพันไปจนถึง วิกฤติการเมืองระดับชาติ…….กรณีที่ ศาลปกครองสูงสุดคณะใหญ่ มีคำสั่งให้ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจาก การนำข้าวในโครงการรับจำนำข้าวไประบายข้าวตามโครงการของรัฐบาลในระบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ……ที่ประเมินความเสียหายเฉพาะใน โครงการระบายข้าวรัฐต่อรัฐ เป็นเงิน 20,057 ล้านบาท จากการขายข้าวในราคาต่ำและความเสียหายจากการได้รับเงินน้อยกว่าข้าวที่ส่งมอบ…….โดยให้เพิกถอนคำสั่งการยึดหรืออายัดทรัพย์ของ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ในเฉพาะส่วนที่เกินจาก 10,028 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ศาลมีคำสั่งให้ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ต้องร่วมชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากโครงการนี้…..และ ให้กันส่วนทรัพย์สินบางส่วนของสามี ที่ถูกยึดหรืออายัดไว้ด้วย …..จับประเด็นจากคดีนี้…..อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่ปรากฏว่าได้เกี่ยวข้องกับ การทุจริต ในการเจรจาและลงนามในการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (ปฏิบัติตามขั้นตอนการระบายข้าว โดยตั้งอนุกรรมการพิจารณาการระบายข้าวในโครงการมี รมว.พาณิชย์เป็นประธาน, ตั้งอนุกรรมการมีอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้เจรจา)

ส่วน อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ มีหน้าที่ในการบริหารงานและกำกับดูแลภาพรวมทั่วไป…..ทั้งยังมีการตั้ง อนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการทุจริต ในโครงการระบายข้าว……ดังนั้น อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ จึงใช้เป็นข้อต่อสู้ว่า ไม่ได้มีเจตนาปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการระบายข้าว แต่อย่างใด ……ในขณะที่ ศาลปกครองสูงสุด ไม่ได้มองเรื่อง มีการกระทำการที่ปล่อยให้มีการทุจริตหรือไม่…….แต่เป็นการวินิจฉัยการปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดฝ่ายบริหาร ไม่ใช้อำนาจในการยับยั้งโครงการนี้ แม้จะมีการทักท้วงจาก หน่วยงานและองค์กรต่างๆ (สตง.-ป.ป.ช.) แล้วก็ตาม ……ทำให้นำไปสู่การ เกิดการทุจริตในโครงการระบายข้าวแบบจีทูจี……ที่ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ จะต้องร่วมชดใช้ หรือที่ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกมาแสดงความคิดเห็น…..แบ่งเป็นสองส่วน ในส่วนของ การดำเนินการระดับนโยบายของ ครม. ที่แถลงต่อสภา ต้องถูกตรวจสอบโดยสภา ตั้งกระทู้ถามหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ…และไม่ถือว่า เป็นเจ้าหน้าที่ ดังนั้น ส่วนแรกนี้นายกฯไม่ต้องรับผิดชอบทางละเมิด….ส่วนที่สอง การที่ นายกฯให้อำนาจตามกฎหมาย เพื่อให้โครงการระบายข้าวบรรลุผล……ถือเป็นการกระทำทางปกครอง ไม่ใช่ส่วนของนโยบาย จึงถือเป็นเจ้าหน้าที่…..อันจะต้องรับผิดชอบทางละเมิด

จากกรณีมีการตั้งข้อสังเกตจาก สตง.–ป.ป.ช. จะมีความเสียหายเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ แต่นายกฯไม่ดำเนินการใดๆ แม้จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตามขั้นตอน แต่ไม่ได้ติดตามผล และ ยังมีกระทู้ถามในสภา การอภิปรายไม่ไว้วางใจ…..ถือว่านายกฯได้รับรู้ข้อมูล เกี่ยวกับการดำเนินการตามนโยบาย ว่ามีปัญหาการทุจริต แต่ไม่ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบตามมากลับปล่อยให้ดำเนินการต่อไป…..ถือว่าปล่อยปละไม่ใช้อำนาจยับยั้งป้องกัน ไม่ให้เกิดการทุจริต…..จนทำให้เกิดความเสียหาย……แต่ในการพิจารณาว่า นายกฯเป็นเจ้าหน้าที่ ใช้อำนาจตามกฎหมาย ทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือไม่นั้น……จำเป็นต้องยึดวัตถุประสงค์ของกฎหมายว่าด้วยความรับผิดชอบทางละเมิดของเจ้าหน้าที่….เพราะเช่นนี้แล้ว นายกฯประเทศนี้จะไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้เลย (ถือว่าคดีนี้เป็นที่สิ้นสุดแล้ว ตามกระบวนการของกฎหมาย)….. “อินทรีเหล็ก” มองว่า นิติสงคราม ที่กำลังล้ำเส้น…..ระหว่าง ฝ่ายบริหารกับตุลาการ ที่ดึงเอา ฝ่ายนิติบัญญัติ ไปร่วมวงด้วย……จะเกิดศึกใหญ่ที่เป็นองค์คณะในแผ่นดิน ……จาก แพทยสภาคณะใหญ่ จนถึง ศาลปกครองสูงสุดคณะใหญ่…….ที่มีมติเป็นเอกฉันท์ไปในทิศทางเดียวกัน ……ผลลัพธ์สุดท้ายของวิกฤติจะไปจบหรือเริ่มต้นที่…….ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือ ศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่ก็ อำนาจจากปากกระบอกปืน เพียงเท่านี้

นายกฯแพทองธาร ชินวัตร พร้อมคณะ ได้ร่วมหารือกับ ภาคเอกชนและผู้นำเข้าสินค้าของอังกฤษ ที่กรุงลอนดอน มีทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่คุ้นชื่อคุ้นหน้ากันอยู่แล้ว อังกฤษนับเป็นประเทศคู่ค้า ที่มีมูลค่าทางการค้าที่ 6,657.26 ล้านเหรียญ…. จากนั้นเดินทางไปยังเมือง มอนติคาร์โล ประเทศโมนาโก หารือกับผู้บริหาร Formula One ในการเตรียมจัดแข่งขัน F1 ในไทย…….ท่ามกลางการตั้งคำถามในโซเชียล ไม่มีกำหนดการเป็นทางการ ใช้งบประมาณส่วนตัวหรืองบรัฐ……โดยเฉพาะรูปภาพที่โพสต์ในโซเชียลกับ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นรูปเก่าหรือรูปใหม่…..เก่ากี่วัน…..นานาจิตตัง….วันนี้ 26-27 พ.ค. นายกฯแพทองธาร จะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย อีกระลอก….ยาวไป

รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวถึง การรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์….ควรเป็นบทเรียนให้ทุกฝ่ายตระหนักว่าระบอบประชาธิปไตยมีกติกาที่ต้องอาศัยความอดทนเพื่อแก้ปัญหามากกว่าการใช้กำลังหรือทางลัด……ดร.บุรณินรัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และความยั่งยืน ปตท. เป็นประธานลงนามบันทึกความตกลงในการจัดหาแอมโมเนียคาร์บอนต่ำเป็นเชื้อเพลิงร่วมในโรงไฟฟ้าของกลุ่ม GPSC มี วรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ และ รัฐกร กัมปนาทแสนยากร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ความยั่งยืน ปตท. ร่วมลงนาม…..วันนี้ 09.00 น. จรีรัตน์ ตันติเวชกุล เลขาธิการสถาบันข้าราชการฝ่ายตุลาการ เปิดโครงการอบรมกฎหมายเฉพาะด้าน กฎหมายภาษีอาการเบื้องต้น ที่ห้องพระมาตุลี 1 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น

“อินทรีเหล็ก”

คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม

25 พ.ค. 2568 04:30 น.

• ไลฟ์สไตล์
• ธนูเทพ

บุคคลในข่าว 25 พฤษภาคม 2568

ผลลัพธ์วันนี้มาจากการกระทำเมื่อวันก่อน

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568

“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน…วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุด ได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา ศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่ง กระทรวงการคลัง ที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค.2559 ที่ให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริต โครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท…โดย ศาลปกครองสูงสุด มีคำวินิจฉัย เพิกถอน คำสั่งของ กระทรวงการคลัง ที่สั่งให้ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้านบาท แต่สั่งให้ ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายเฉพาะในส่วน ขั้นตอนการระบายข้าว (จีทูจี) เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจทางปกครองดำเนินการ ซึ่งทาง ป.ป.ช. และ สตง. เคยทำหนังสือเตือนว่า อาจมีการทุจริต แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อระงับยับยั้ง จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ โดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทำให้เจ้าหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ ทำให้เกิดความเสียหายต่อการเงินการคลังของประเทศ มูลค่า 20,057,723,761 บาท และไม่มีเหตุอันควรยกเว้นความผิดจึงให้ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ กระทรวงการคลัง ร้อยละ 50 ของความเสียหาย เป็นจำนวน 10,028,861,880 บาท

งานนี้ เมื่อคดีพลิกจากที่ ศาลปกครองกลาง วินิจฉัย ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย แต่ ศาลปกครองสูงสุด สั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ กระทรวงการคลัง จากความผิดพลาดใน ขั้นตอนการระบายข้าว แบบ จีทูจี เป็นเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท จึงถือเป็นการเผชิญวิบากกรรมซ้อนวิบากกรรม ในห้วงที่ยังหาช่องทางกลับไทยแบบพี่ชายไม่ได้

ขณะที่ นรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ รับผิดชอบเป็นเงิน หมื่นกว่าล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อมีการรัฐประหารในวันที่ 22 พ.ค.2557 มีข้าวคงเหลือในคลังประมาณ 18.9 ล้านตัน ในส่วนนี้คำสั่งของ กระทรวงการคลัง ข้างต้น บอกว่าถ้าทางราชการขายข้าวได้ในราคาที่สูงกว่ามูลค่าที่อนุกรรมการปิดบัญชี โครงการรับจำนำข้าว คำนวณไว้เมื่อ 22 พ.ค.2557 ก็สามารถนำมา หักทอน กับที่อดีต นายกฯยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบได้ ปัจจุบันข้าวจำนวนนี้ได้ขายไปหมดแล้วในรัฐบาลนี้ กิโลกรัมละ 25 บาท ถ้าขายจริงๆ จะได้เงินประมาณ 2.5 แสนล้านบาท และเมื่อนำมาหักทอนกันก็สามารถหักทอนกันได้กับเงิน หมื่นล้านบาท…ดังนั้น อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ อาจจะไม่ต้องชดใช้เลยก็ได้ ในฐานะทนายความเห็นว่าการจำหน่ายข้าวส่วนนี้ถือว่าเป็น พยานหลักฐานใหม่ ดังนั้น ทีมทนายจะหารือกันว่าจะนำประเด็นนี้ไปขอ พิจารณาคดีใหม่ได้หรือไม่ โดยต้องยื่นขอพิจารณาคดีใหม่ภายใน 90 วัน ซึ่งหากศาลไม่รับพิจารณาใหม่ถือว่าสิ้นสุด แต่ก็พยายามสู้ให้เต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้อดีตนายกฯ…เรียกว่าพยายามหาช่องสู้คดีต่อตามประสาทนาย

แต่ที่แน่ๆ ทางด้าน อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ทำได้แค่โอดครวญถึงผลคดีครั้งนี้ โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า วันที่ 22 พ.ค.ปีนี้ เป็นวันครบรอบ 11 ปี รัฐประหาร ซึ่งถือเป็นการยึดอำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งประเทศ และเป็นวันที่ ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำวินิจฉัยให้ต้องชดใช้หนี้กว่า 10,000 ล้านบาท จาก คดีระบายข้าว ทั้งที่ไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้ และ ศาลปกครองกลาง ได้เคยวินิจฉัยว่า ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ในกรณีดังกล่าวมาแล้ว จากคำตัดสินในวันนี้ทำให้ต้องชดใช้หนี้ ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ความเป็น หัวหน้าฝ่ายบริหาร ที่ต้องมารับภาระหนี้ที่เกิดจาก การระบายข้าว ของ ฝ่ายปฏิบัติ ทั้งนี้ นโยบายรับจำนำข้าวเป็นนโยบายของ พรรคเพื่อไทย และเป็นนโยบายที่ ครม. แถลงต่อ รัฐสภา ซึ่ง รัฐธรรมนูญ กำหนดให้ต้องปฏิบัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ จากฐานราก ผ่านการจับจ่ายใช้สอยของครอบครัวชาวนา กว่า 20 ล้านคน มีเจตนาช่วยเหลือให้พี่น้องชาวนาได้ลืมตาอ้าปาก ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น แต่หากการดำเนินนโยบายแบบนี้กลับถูกกล่าวหาว่าทำให้เกิดความเสียหาย ต่อไปใครจะกล้าคิดนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่เข้าไม่ถึงโอกาสทางเศรษฐกิจได้อีก…ยืนยัน ไม่มีเจตนา จะทำให้โครงการเสียหาย การดำเนินโครงการแต่ละขั้นตอนเกี่ยวข้องกับ หน่วยงาน และ บุคลากรหลายฝ่าย มีลำดับขั้นการบังคับบัญชาตามระบบราชการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ หัวหน้าฝ่ายบริหาร จะไปก้าวก่ายแทรกแซงในรายละเอียดได้ แต่กลับต้องรับผิดชอบกับความเสียหาย เพียงลำพัง หากจะบอกว่าสิ่งนี้คือ ความเป็นธรรม ก็เป็นเรื่องยากเย็นอย่างยิ่งที่จะเข้าใจและยอมรับได้ หนี้ 10,000 ล้านบาท ชดใช้ทั้งชีวิตยังไงก็ไม่มีวันหมด ทุ่มเททำงาน แบกรับแรงเสียดทานทั้งทางการเมืองและอีกหลายรูปแบบ เพื่อค้ำยันราคาข้าวให้สูงและมีเสถียรภาพ เพื่อพี่น้องชาวนาได้มีชีวิตที่ดีกว่า กลับมีบทสรุปที่เจ็บปวดที่สุด

แน่นอนสิ่งที่ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์เผชิญ หลายคนมองว่า เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ แต่อีกหลายคนก็มองว่า ผลย่อมเกิดจากเหตุ เมื่อทำให้เกิดความเสียหายก็ต้องรับผิดชอบ แล้วแต่มุมมองของแต่ ละบุคคล แต่ที่แน่ๆเมื่อ ศาลมีคำพิพากษาแล้ว ก็ต้องพร้อมยอมรับ เพราะมีผลทางกฎหมาย

สังคมทั่วไป

ชูวิทย์ ปงกาวงศ์ นายกสมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ และ ดร.สดใส ศรีสวัสดิ์ ผอ.โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ ขอเชิญผู้ปกครองร่วมประชุมใหญ่ ที่ห้องประชุมโรงเรียนฯ 25 พ.ค. 08.00 น.

พิธีมงคลสมรส บัณฑิตา กล้าขยัน ลูกสาว สมจิตต์-ดวงเดือน กล้าขยัน กับ วรนาถ อรรถกานต์วิกัย ลูกชาย วทัญญู–อมรรัตน์ อรรถกานต์วิกัย ที่ห้องปารีส แกรนด์ บอลรูม โรงแรมคริสตัล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 25 พ.ค. ตั้งแต่ 09.09 น.

ศพ ธรรมนูญ ประจวบเหมาะ บิดา พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ ตั้งสวดศาลาจีรวัสส์ รัชนีบูล วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน 18.00 น. ถึง 29 พ.ค. และบรรจุศพ.

“ธนูเทพ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม