“Great Food Good Course” เรียนทำอาหารสุดฮิต ในราคาสุดคูล ต้อนรับเทศกาลวันปีใหม่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05110151258&srcday=2015-12-15&search=no

วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 28 ฉบับที่ 613

มติชนอคาเดมี

อนุภาค ชัยชนะดารา

“Great Food Good Course” เรียนทำอาหารสุดฮิต ในราคาสุดคูล ต้อนรับเทศกาลวันปีใหม่

ต้อนรับเทศกาลปีใหม่…เตรียมตัวกันให้พร้อม แล้วไปสนุกสนานกับการเรียนทำอาหารไว้สำหรับปาร์ตี้ และสังสรรค์กันให้เต็มที่ กับการเปิดตัวคอร์สเรียนทำอาหารและเบเกอรี่สุดชิก ในช่วงกิจกรรม Open House @ MATICHON ACADEMY ซึ่งทีมงานได้รวบรวมอาหาร และเบเกอรี่สุดฮิต ที่กำลังได้รับกระแสนิยมจากสังคมคนรักการทำอาหาร และโลกโซเชียล มาให้คุณได้ลองลิ้มชิมรสชาติแบบต้นตำรับ พร้อมเรียนรู้เคล็ดลับ-เทคนิคการปรุงกับเชฟคนดัง และเจ้าของสูตรตัวจริง! ทุกหลักสูตรทุกวิชา ราคาเดียว 1,299 บาท เท่านั้น!! ตั้งแต่วันที่ 16-20 ธันวาคม 2558 เป็นต้นไป ที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี)

ว่าแล้วก็อย่ารอช้า…ไปดูกันดีกว่า ว่าหลักสูตรอะไร ที่น่าสนใจบ้าง!!

เริ่มกันที่คอร์สแรก อย่าง “Quick Meals & Chill Snacks” นำเสนอ 3 เมนู สำหรับทำรับประทานง่ายๆ ในช่วงปีใหม่ อย่าง ปีกไก่บาร์บีคิว หมักซอสบาร์บีคิวสูตรพิเศษจนเข้าเนื้อ นำไปอบจนหอม สามารถนำไปทำเป็นของว่างรับประทานเล่นของเด็กๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีเมนูอร่อย อย่าง ฟิชฟิงเกอร์ และ ซอสทาร์ทาร์ ที่ใช้ปลาเนื้อขาวหั่นชิ้นยาว ชุบแป้งและเกล็ดขนมปังทอด รับประทานกับทาร์ทาร์ซอส รสชาติหอมมัน หวานอมเปรี้ยว รับประทานตัดเลี่ยนกับปลาทอดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สอนทุกเมนู-เรียนรู้ทุกขั้นตอน กับเชฟชื่อดังจากโรงแรมชั้นนำของไทย อย่าง เชฟประชัน วงศ์อุทัยพันธุ์ Executive Chef โรงแรมอโนมา กรุงเทพฯ ผู้มีฝีไม้ลายมือในการปรุงเมนูอาหารยุโรปขั้นเทพ

ตามติดกันด้วยคอร์ส Traditional Cottage pie & Choc Lava นำเสนอ 2 เมนูเด็ด อย่าง คอทเทจพายเนื้อกับผักอบ และของหวานสุดพิเศษ “ช็อกโกแลตลาวา” เมนูอาหารยุโรปสุดพิเศษ จากเชฟรุ่นใหม่ไฟแรง อย่าง เชฟธีรภัทร ตียาสุนทรานนท์ สำหรับเมนู คอทเทจพายเนื้อกับผักอบ นั้น นำเสนอเมนูอาหารสไตล์อเมริกัน สอนตั้งแต่เทคนิคการทำพายเนื้อ การผัดซอส การทำมันบด การอบพาย และการทำผักอบ สำหรับไว้รับประทานเคียงกับพายเนื้อ และเมนู ช็อกโกแลตลาวา ที่ใช้ช็อกโกแลตแท้เป็นส่วนผสมหลัก รับประทานคู่กับซอสราสป์เบอร์รี่ โดยในชั่วโมงเรียน เชฟจะสอนตั้งแต่การผสมแป้ง การละลายช็อกโกแลต การเตรียมพิมพ์ขนม การอบเค้ก สอนเทคนิคการเช็กขนม สอนการทำซอสราสป์เบอร์รี่ และการตกแต่งเพื่อความสวยงาม น่ารับประทาน

คอร์สถัดมาที่น่าสนใจ อย่าง Pizzas For Party พาเหรดสารพัดเมนูพิซซ่ายอดนิยม อย่าง ฮาวายเอี้ยนพิซซ่า ซีฟู้ดพิซซ่า ดับเบิ้ลชีสพิซซ่า มาให้คุณได้ลองทำทุกขั้นตอน พร้อมสอนทุกเทคนิคโดยเชฟทีมชาติไทย อย่าง เชฟจารึก ศรีอรุณ ที่จะมาสอนคุณทำ พิซซ่าสไตล์โฮมเมด แป้งบางกรอบสุดพิเศษ พร้อมหน้ายอดฮิต อย่าง ซีฟู้ด ฮาวายเอี้ยน และดับเบิ้ลชีส พร้อมบอกเทคนิคการทำแป้งพิซซ่าบางกรอบและซอสมะเขือเทศคองกาเซ่ สอนการอบและการตกแต่งหน้าต่างๆ อีกด้วย

The Best Charcoal Burger (เบอร์เกอร์ชาร์โคล) ชวนคุณมาเรียนรู้การทำเมนูสุดฮิตที่มาแรงเป็นอันดับหนึ่งในปี 2558 อย่าง “เบอร์เกอร์ชาร์โคล” ที่ใครหลายคนคิดว่า “ยาก” แต่จริงๆ แล้ว “ง่ายกว่าที่คิด” เปิดเผยทุกเทคนิค-ทุกขั้นตอน สอนการทำตัวแป้งเบอร์เกอร์ การทำไส้เบอร์เกอร์ทั้งหมูและเนื้อ โดย เชฟเขมจิรา คำสุวรรณ เชฟประจำศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน

Mini Fruit Tart เมนูเบเกอรี่สุดสร้างสรรค์ ทำรับประทาน…ก็ง่าย จะทำเป็นของขวัญปีใหม่…ก็อินเทรนด์ พบกับเมนู ทาร์ตเค้กผลไม้รวม แต่งหน้าทาร์ตด้วยผลไม้อบแห้ง ถั่วอบ เคลือบแยมแอปริคอต คอร์สนี้ เชฟอภิวรรณ ฟักน่วม จะมาสอนการทำทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำตัวแป้งทาร์ต การกรุแป้ง ผสมแป้ง การทำเนื้อเค้กมิกซ์ฟรุตบัตเตอร์เค้ก การเชื่อมส้ม และการหมักมิกซ์ฟรุต รวมทั้งการตกแต่งอีกด้วย

Fantasy Cupcake Decorations สนุกกับการแต่งหน้าคัพเค้กต้อนรับเทศกาลปีใหม่ เรียนรู้เทคนิคการปั้นแผ่นน้ำตาลฟองดอง (Fondant) ที่กำลังอินเทรนด์สุดๆ ในวงการเบเกอรี่ยุคนี้ สอนโดย อาจารย์เมรนีย์ โชติสกุลรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเบเกอรี่ตัวจริง! ที่จะมาสอนตั้งแต่การตีแป้งเนื้อบัตเตอร์เค้ก การทำแยมมิกซ์ฟรุต และสอนการปั้นลวดลายต่างๆ ขั้นพื้นฐานอีกด้วย

Trendy Pandan Cake ฮิตติดกระแสไปกับ ขนมเค้ก สุดเทรนดี้ ที่จับเอาของหวานยอดนิยมแบบไทยๆ อย่าง “ฝอยทอง” มาผนึกความอร่อยกับ “เค้กใบเตย” ผสมผสานออกมาให้เข้ากับช่วงเทศกาลปีใหม่ได้อย่างลงตัว โดย เชฟเกษราภรณ์ รอดไหม จะมาสอนการทำเค้กชิฟฟ่อนใบเตย และการแต่งหน้าเค้กด้วยฝอยทอง ให้ทุกคนได้เรียนรู้กัน…

Popular Caf? Dessert พบกับ 3 เมนูยอดนิยมประจำร้านกาแฟ ที่คุณไม่ควรพลาด!! อย่าง บลูเบอร์รี่พาย สตรอเบอรี่พาย และ บานอฟฟี่พาย ที่ฮอตฮิตตลอดกาลทุกร้านต้องมี!! สำหรับคอร์สนี้ เชฟเขมจิรา คำสุวรรณ จะมานำเสนอการทำขนมแบบไม่ต้องใช้เตาอบ โดยสอนตั้งแต่การทำแป้งพายจากแครกเกอร์ แต่งด้วยซอสบลูเบอร์รี่ สตรอเบอรี่ พร้อมซอสทอฟฟี่ของขนมบานอฟฟี่ ที่ทำเองทุกขั้นตอน พร้อมสอนการทำซอสบลูเบอร์รี่ ซอสสตรอเบอรี่ และซอสทอฟฟี่ อีกด้วย

Wonderful Jelly สารพัดวุ้นหลากสี ครีเอตออกมาเป็นรูปดอกไม้ และสัตว์ต่างๆ แบบ 3 มิติ งดงามและน่ารับประทานในรูปแบบ 3 มิติ ต้อนรับเทศกาลวันปีใหม่ สอนการลงสีของวุ้นชนิดต่างๆ คอร์สนี้ อาจารย์บุศรินทร์ บุศยรัตน์ จะมาสอนการหยอดตัววุ้นลงพิมพ์ในแต่ละแบบ ทั้งหมด 3 รูปแบบ คือ วุ้นกุหลาบ วุ้นเป็ด 3 มิติ วุ้นแฟนซีสีรุ้ง พร้อมแนะนำเทคนิคการหยอดวุ้นก็จะแตกต่างกันไปตามพิมพ์ที่เราใช้อีกด้วย

Signature Strawberry Crepe Cake By Natty สุดยอดเครปเค้กต้นตำรับ โดย เชฟแนทตี้ ที่ได้รับการยกย่องจากแฟนเบเกอรี่ว่า เป็นเจ้าแห่งเมนู “เครปเค้ก” สอนทุกขั้นตอน-บอกทุกเทคนิค โดย เชฟนภาวดี พยัฆโส แห่งร้าน Natty Cake ที่จะมานำเสนอ เครปแป้งบางสลับชั้นด้วยครีมสด รับประทานกับซอสสตรอเบอรี่ พร้อมสอนการผสมแป้ง การทอดแป้ง การประกอบตัวเค้กและวิธีการเก็บรักษา สอนการทำซอสสตรอเบอรี่

Christmas Chocolate Dome เฉลิมฉลองช่วงเทศกาล ไปกับเมนูมูสเค้กช็อกโกแลตแสนอร่อย ตกแต่งในธีม “ปาร์ตี้” ที่สามารถรังสรรค์ได้ด้วยตัวคุณเอง สอนโดย เชฟพุทธิพงศ์ เชี่ยววิจิตรพันธุ์ ที่จะมานำเสนอ มูสไวท์ช็อกโดมครีมสดไส้บลูเบอร์รี่ ตกแต่งแบบสัตว์ต่างๆ โดยในชั่วโมงเรียนจะสอนตั้งแต่การเคลือบช็อกโกแลตในรูปแบบต่างๆ สอนการตกแต่งลวดลายหน้าตาของมูสแต่ละชนิด เช่น ตา หู จมูก เป็นต้น

Classic Homemade Donuts สุดยอดโดนัทแสนอร่อยสุดคลาสสิก ที่สามารถทำได้ง่าย ด้วยตัวคุณเอง สอนโดย เชฟเกษราภรณ์ รอดไหม วิทยากรชื่อดังจากคอร์สเบเกอรี่ อย่าง “ฮอกไกโดเค้ก” ที่จะมานำเสนอโดนัททอด ตกแต่งด้วยช็อกโกแลตและน้ำตาลเคลือบ พร้อมสอนการตีแป้งโดนัท ขึ้นรูปร่างต่างๆ บอกวิธีการเช็กและการสังเกตแป้งที่มีคุณภาพที่ดี พร้อมสอนการตกแต่งลวดลายต่างๆ ให้อีกด้วย

จัดเต็มมาขนาดนี้…ใครที่กำลังเรียนทำอาหารไว้สำหรับเทศกาลปีใหม่ หรือนำไปเฉลิมฉลองปาร์ตี้ในกิจกรรมต่างๆ ต้องไม่พลาด ด้วยประการทั้งปวง!!

สำหรับท่านที่สนใจอยากจับจองคอร์สเรียน หรือหลักสูตรอาหารอื่นๆ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) หรือสำรองที่นั่งได้ที่โทร. (02) 954-3977-85 ต่อ 2123, 2124 (จันทร์-ศุกร์), (082) 993-9097, (082) 993-9105 (เสาร์-อาทิตย์) http://www.matichonacademy.com และ https://www.facebook.com/Matichon.Academy.Thailand

“Akira” เปิดมุมมองธุรกิจ รุกโครงการสร้างอาชีพ สานฝัน คนอยาก “สวย” โดยไม่ต้อง “ศัลยกรรม”

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05084011158&srcday=2015-11-01&search=no

วันที่ 01 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 28 ฉบับที่ 610

มติชนอคาเดมี

อนุภาค ชัยชนะดารา

“Akira” เปิดมุมมองธุรกิจ รุกโครงการสร้างอาชีพ สานฝัน คนอยาก “สวย” โดยไม่ต้อง “ศัลยกรรม”

ใบหน้า คือโอกาสดีๆ ของชีวิตสำหรับคนทุกเพศ-ทุกวัย แน่นอนว่าคงไม่มีใครยอมปล่อยปละละเลยการดูแลใบหน้าให้สวยเสมออย่างแน่นอน เพราะส่วนหนึ่งเราเชื่อเสมอว่า ความสวยจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จนกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ที่ทำให้ได้รับโอกาสดีๆ อย่างมากมายในอนาคตอีกด้วย

หนึ่งในศาสตร์ของการดูแลผิวหน้าที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการความสวย ความงาม คงต้องยกให้ “การนวดยกกระชับผิวหน้า” ที่สามารถรังสรรค์ความงามให้กับทุกคนได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาการศัลยกรรม ซึ่งในวันนี้ธุรกิจการนวดหน้าได้กลายมาเป็นหนึ่งในอาชีพทำเงินที่น่าสนใจ และถ้าหากได้เรียนรู้ หลักการ “นวดหน้า” ที่ถูกต้อง สามารถนวดยกกระชับใบหน้าให้สวยงามให้กับลูกค้าได้รับความพึงพอใจแล้ว นี่คือ…หนึ่งในธุรกิจที่หากลงทุน และตั้งใจทำแล้ว รับรองได้ว่า ไม่มี คำว่า…จน!!!

คุณธัญญ์นภัส ภัทร์ฐานนท์ชัย (อาจารย์ธัญญ์) เจ้าของธุรกิจการนวดหน้า อย่าง “Akira” ที่นอกเหนือจากการเปิดให้บริการนวดหน้า V-Shape แบบ Dilivery แล้ว ยังจัดตั้งคอร์สอบรม ระเบิดความรวย…สวยทั่วไทย ด้วยเงินลงทุนหลักพัน ในคอร์สเรียน “นวดหน้า V-Shape ด้วยวิถีธรรมชาติบำบัด” ซึ่งเธอได้มีโอกาสเรียนรู้สูตรการนวดยกกระชับผิวหน้าจาก อาจารย์สมคิด ลวางกูร ผู้คิดค้นสูตรสวยย้อนวัยคนแรกของโลก ซึ่งที่นั่นเองเธอได้เรียนรู้เทคนิคมากมาย อาทิ ศาสตร์การกดจุดจากญี่ปุ่น, ศาสตร์การรีดน้ำเหลืองจากอินเดีย, ศาสตร์การนวดหน้าของไทย, ศาสตร์การเหลาหน้าของเกาหลี, ศาสตร์การกัวซาของจีน และศาสตร์การนวดอายุรเวชของไทย ซึ่งทุกศาสตร์ล้วนเป็นวิถีธรรมชาติบำบัด ที่เราไม่เคยเรียนรู้มาก่อน พร้อมกันนี้ยังมีการสอนศาสตร์นวดหน้าที่ทันสมัยด้วยวิธีการต่างๆ เรียนแล้วก็ได้มีโอกาสฝึกฝน พัฒนาฝีมืออยู่ที่ Kusodaw The Kingdom Of Rejunavation ของอาจารย์สมคิด จนสามารถนำความรู้เหล่านั้นไปถ่ายทอดให้กับคนอื่นได้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะก้าวออกมาทำธุรกิจนวดหน้า ด้วยวิถีธรรมชาติบำบัด “Akira” ในปัจจุบัน

อาจารย์ธัญญ์ กล่าวว่า “ปัจจุบัน มีลูกศิษย์มาเรียนกับเรา ทั้งคนไทยที่เรียนแล้วนำไปประกอบอาชีพเปิดร้าน และรับนวดแบบ Delivery หรือนำไปเป็นอาชีพเสริมควบคู่กับงานประจำ และคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ เมื่อเรียนจบแล้วก็นำไปทำเป็นอาชีพในต่างประเทศ สามารถสร้างรายรับได้ดีทีเดียว ตรงนี้เราการันตรีว่า ทุกคนที่มาเรียนที่นี่ ต้องทำได้ ทำเป็น และทำให้สวย เพื่อนำความรู้และสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้เป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ ผู้ที่เรียนจบไปแล้วสามารถเข้ามาเรียนเพิ่มเติม ปรึกษาขอคำแนะนำได้ตลอด และด้วยเหตุผลนี้ ผู้ที่อยากมีวิชาชีพติดตัว อยากมีอาชีพดีๆ ที่สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับตัวเองตลอดชีวิต”

“ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีการสอนนวดหน้าผุดขึ้นมาราวดอกเห็ด แต่สำหรับ “Akira” มีความแตกต่างด้วยสูตรสำเร็จที่เรียนจบแล้วสามารถรับลูกค้าสร้างรายรับหลักหมื่นถึงแสนบาทต่อเดือนเลยทีเดียว และที่สำคัญการนวดแบบวิถีธรรมชาติบำบัด โดยใช้ผลิตภัณฑ์ พ.ใจใส Organic ที่ออกแบบ-คิดค้นจากผู้เชี่ยวชาญ มีการพัฒนาสูตรมามากกว่า 10 เดือน เพราะเราเน้นการลงทุนที่ถึงลูกค้าไวที่สุด ช่วยประหยัดต้นทุน เพราะเราเองเคยผิดพลาดในการทำธุรกิจมาก่อน ฉะนั้นการทำธุรกิจในสมัยใหม่ ไม่จำเป็นที่ต้องลงทุนสูง ขอเพียงจริงใจ, ใส่ใจลูกค้า, ขยัน, มีคุณภาพ, และมีมาตรฐาน ทำแล้วต้องเห็นผลจริง สำหรับลูกศิษย์ที่เสียเงินค่าเรียน “นวดหน้า V-Shape ด้วยวิถีธรรมชาติบำบัด” เพียงครั้งเดียว นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะวิชาความรู้ที่เรียนไปนั้น สามารถใช้เรียกเงินเข้ากระเป๋าได้ไม่มีวันจบสิ้น เพราะมนุษย์ทั้งโลกต่างก็ต้องการสวย-หล่อ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองกันทั้งนั้น เราเน้นการสอนแบบตัวต่อตัว เทคนิคเพียบ สอนระบบท่องทำให้ทำจนกว่าจะทำได้จริง ไม่มีค่าแฟรนไชส์ ไม่มีค่าแรกเข้า และไม่มีค่ารายปีอีกด้วย” อาจารย์ธัญญ์ กล่าวเพิ่มเติม

เมื่อโอกาสมาจ่อตรงหน้า…มติชนอคาเดมี จึงไม่รอช้า จับมือ คุณธัญญ์นภัส ภัทร์ฐานนท์ชัย (อาจารย์ธัญญ์) เจ้าของธุรกิจการนวดหน้า อย่าง “Akira” เปิดคอร์สอบรมระเบิดความรวย สวยได้ทั่วไทย หลักสูตรเร่งรัด 1 วัน ในหลักสูตร นวดหน้า V-Shape ด้วยวิถีธรรมชาติบำบัด ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2558 นี้ ในราคา 2,140 บาท เท่านั้น!! โดยเนื้อหาในคอร์สเรียนนี้ ผู้เรียนรู้ตั้งแต่โครงสร้างและระบบการทำงานของผิว, ความรู้ความเข้าใจหลักสรีระบนผิวหน้า เข้าถึงต้นเหตุริ้วรอยของความแก่, ลักษณะและประเภทของผิวต่างๆ, เรียนรู้ทฤษฎี ศาสตร์ที่นวด 5 ศาสตร์ ที่ทำให้ผิวหน้า V-Shape เน้นการสอนแบบท่องทำ เพื่อความเข้าใจ และปฏิบัติได้จริง พร้อมเวิร์กช็อปและลงมือปฏิบัติจริงในชั่วโมงเรียนอีกด้วย ซึ่งในคอร์สนี้อาจารย์ธัญญ์ได้รวบรวมหลักสูตรการนวดแบบเร่งรัดมาให้ทั้งหมด ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก เพียงคุณเรียนแล้ว กลับไปฝึกปฏิบัติตามที่สอน ก็สามารถนำไปทำเป็นอาชีพและสร้างรายได้ ได้ไม่ยากเลย

ปิดท้าย สำหรับคนที่สนใจบริการเสิร์ฟความสวยจาก อาจารย์ธัญญ์นั้น “Akira” ยังมีบริการนวด V-Shape ด้วยวิถีธรรมชาติบำบัด บริการถึงหน้าบ้านสำหรับผู้ที่สนใจ และเปิดสอนนวดหน้าตัวเองให้สวยที่สุดในแบบที่เราเป็น สไตล์ อาจารย์ธัญญ์ ที่การันตีว่า นวดแล้วสวย…ประทับใจ อย่างแน่นอน ติดต่อเพิ่มเติมได้ที่ ซอยลาดพร้าว 87 หมู่บ้านเกตุนุติเชอมิเน่ ข้างๆ CDC หรือ โทร. (086) 374-2362, Line Id : porjaisai.akira. หรือ http://www.facebook.com/Porjaisai.Akira

สำหรับคนที่อยากมีใบหน้าที่สวย หรืออยากมีอาชีพที่ช่วยสร้างงาน-สร้างเงิน แบบยั่งยืนให้กับชีวิต และอยากมาเป็นลูกศิษย์ อาจารย์ธัญญ์ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมมาได้ที่ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้ที่ โทร. (02) 954-3977-84 ต่อ 2123, 2124 (จันทร์-ศุกร์), (082) 993-9097, (082) 993-9105 (เสาร์-อาทิตย์) หรือจะเข้าไปดูเพิ่มเติมที่ http://www.matichonacademy.com และ https://www.facebook.com/Matichon.Academy.Thailand

ขนมครกสองแคว ตลาดนางเลิ้ง ชูความอร่อย ด้วย “ข้าวไรซ์เบอร์รี่”

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05096151058&srcday=2015-10-15&search=no

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 28 ฉบับที่ 609

มติชนอคาเดมี

โดย : อนุภาค ชัยชนะดารา

ขนมครกสองแคว ตลาดนางเลิ้ง ชูความอร่อย ด้วย “ข้าวไรซ์เบอร์รี่”

ตลาดนางเลิ้ง เป็นชุมชนและตลาดที่ตั้งอยู่บนถนนนครสวรรค์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นตลาดบกแห่งแรกของประเทศไทย มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี

ตลาดแห่งนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อ วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2443 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดเอง

แต่เดิมเรียกว่า บ้านสนามควาย ก่อนจะเรียกว่า “อีเลิ้ง” ตามชื่อ คือตุ่มชนิดหนึ่งของชาวมอญ จนมาเปลี่ยนชื่ออีกครั้งในยุค จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า “นางเลิ้ง” ในปัจจุบัน ตลาดนางเลิ้ง เป็นชุมชนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครและเขตดุสิต ขึ้นชื่อทางด้านขนมหวาน และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม

ด้วยความขึ้นชื่อเกี่ยวกับในเรื่องอาหารการกินนี้เอง ทำให้เป็นที่มาของการออกเดินทางตามหาร้านอร่อยของทีมงานมติชนอคาเดมี จนกระทั่งมาสะดุดตากับ ร้านขนมครกริมถนน ในบริเวณย่านตลาดนางเลิ้งอยู่ร้านหนึ่ง ที่คนขับรถผ่านไปผ่านมาก็ต้องแวะซื้อขนมครกร้านนี้ คนละกล่อง…สองกล่อง จนเราเกิดความสงสัยในความอร่อยของขนมร้านนี้ ??

แป้งขนมครกกรอบนุ่ม หวานมัน เข้มข้นด้วยน้ำกะทิ ผสานกับวัตถุดิบ อย่าง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ทำให้ “ขนมครกสองแคว” กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ หนึ่งในขนมไทยแสนอร่อยของตลาดนางเลิ้ง ที่คุณต้องไปลอง !!

คุณบีจง ผาสุข เจ้าของร้าน ขนมครกสองแคว แห่งตลาดนางเลิ้ง เล่าว่า แต่เดิมมีงานประจำทำ แต่ต่อมาตกงาน จึงมีแนวคิดที่จะทำการค้าขาย และเลือกที่จะเรียนการทำอาหาร เพื่อนำมาค้าขาย โดยตัดสินใจไปขอเรียนรู้วิธีการทำ “ขนมครก” จากแม่ค้าที่รู้จักกัน ที่จังหวัดพิษณุโลก โดยเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อสูตรมา หลังจากนั้นจึงนำสูตรที่ได้มาพัฒนาปรับปรุงอีกรอบ โดยใส่ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เสริมเข้าไปด้วย ก็ปรากฏว่า…อร่อยดี แต่ก็ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะได้สูตรขนมครกที่ลงตัวแบบในปัจจุบันนี้ โดยขนมครกของที่ร้านเราจะมีความอร่อยอยู่ที่ความหวานมันของน้ำกะทิ และมีส่วนผสมอย่าง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และแป้ง เป็นส่วนผสมเพิ่มเติม ทำให้มีเอกลักษณ์ความอร่อยที่ไม่เหมือนใคร

“เทคนิคสำคัญหลักๆ ของขนมครกที่ร้านเรา อยู่ที่น้ำกะทิ จะต้องสดใหม่ทุกวัน ใช้น้ำกะทิค้างคืนไม่ได้เลย ถ้าเหลือต้องทิ้งอย่างเดียว และใช้ของใหม่มาทำในทุกๆ วัน ส่วนใหญ่ที่ร้านจะไปซื้อกะทิสดที่ตลาดแล้วให้คั้นมาใช้วันต่อวันเลย ในส่วนขั้นตอนทำขนมครกนั้น อยู่ที่การหยอดแป้งขนมครกด้วย ซึ่งตรงนี้จะต้องรู้ไปจนถึงการใช้ไฟ และการหยอด เพราะถ้าเราหยอดช้าไป หรือเร็วไป แป้งจะสุกก่อนกะทิ ถ้าเราหยอดลงไปแล้วแป้งสุกก่อน กะทิยังไม่สุก ขนมครกก็จะเสียรสชาติไปเลย ถือเป็นศาสตร์และศิลป์ในการทำอาหารที่ต้องเรียนรู้ และฝึกหัดอยู่เป็นประจำ จึงจะสามารถทำได้ชำนาญ”

สำหรับรายได้ต่อวันที่เราขายขนมครกนั้น จะได้กำไรเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 กว่าบาท ต่อแป้ง 1 ถัง ถือว่าสามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

พูดมาถึงขนาดนี้ ทีมงานมติชนอคาเดมี จึงไม่รอช้า รีบเชิญ คุณบีจง ผาสุข มาเปิดเผยสูตรเด็ด-เคล็ดลับของเมนูขนมครกสองแคว แห่งตลาดนางเลิ้ง ในหลักสูตรครัวสาธิต ขนมครกนางเลิ้ง ใน วันที่ 24 ตุลาคม 2558 นี้

“สำหรับคนที่มาเรียนชั่วโมงเรียนนี้ จะได้เรียนรู้วิธีการทำทุกขั้นตอน ตั้งแต่เทคนิคการเลือกวัตถุดิบในการทำ, เรียนรู้สูตรการทำแป้งขนมครก, เรียนรู้เทคนิควิธีการหยอดขนมครก, เทคนิคการปรับไฟเตาขนมครก ทำอย่างไรไม่ให้หน้าของขนมครกขึ้นฟอง และดูสวยงามน่ากิน รวมไปถึงแนะนำเทคนิคการขาย พร้อมบอกวิธีการทำการตลาดให้อีกด้วย” คุณบีจง กล่าว

ก่อนทีมงานของเราเดินทางกลับ…คุณบีจง ได้ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการทำมาค้าขายไว้อย่างน่าสนใจว่า…

เคล็ดลับที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการทำมาค้าขายมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็คือ เราต้องพัฒนาตัวเรื่อยๆ และพัฒนาสูตรของเราให้อร่อยจริงๆ จนลูกค้าประทับใจ ต้องรักษามาตรฐานการทำให้อร่อยสม่ำเสมอตลอดเวลา ลูกค้าที่จะติดเรา กลับมาซื้อขนมของเราใหม่ และกลายเป็นลูกค้าประจำของเราในที่สุด

สำหรับ ท่านที่สนใจอยากจับจองคอร์สเรียน หลักสูตรครัวสาธิต ขนมครกนางเลิ้ง สอนโดย คุณบีจง ผาสุข ใน วันที่ 24 ตุลาคม 2558 นี้ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมมาได้ที่ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) หรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. (02) 954-3977-85 ต่อ 2123, 2124 (จันทร์-ศุกร์), (082) 993-9097, (082) 993-9105 (เสาร์-อาทิตย์) http://www.matichonacademy.com และ https://www.facebook.com/Matichon.Academy.Thailand

กศน. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดโครงการ ครู กศน. สร้างรอยยิ้ม สร้างอาชีพ สู่ชุมชน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05110011058&srcday=2015-10-01&search=no

วันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 27 ฉบับที่ 608

มติชนอคาเดมี

โดย : มติชนอคาเดมี

กศน. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดโครงการ ครู กศน. สร้างรอยยิ้ม สร้างอาชีพ สู่ชุมชน

สถาบัน กศน. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) เปิดโครงการ ครู กศน. สร้างรอยยิ้ม สร้างอาชีพ สู่ชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2558 ระหว่าง วันที่ 29-30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน โดยมี ดร. วิเชียรโชติ โสอุบล ผู้อำนวยการ สถาบัน กศน. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ นายสุรพล พิทยาสกุล ผู้อำนวยการศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 20 คน จาก กศน. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มาฝึกอาชีพที่ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีมาตรฐาน ทั้งด้านบรรยากาศ วิทยากร และมีหลักสูตรที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต สามารถนำไปใช้ได้จริง ซึ่งครั้งนี้ทุกท่านได้มีส่วนร่วมในการทำอาหาร 9 เมนู เป็นเวลา 16 ชั่วโมง โดยมี เชฟเอก ชาติตระกูล เชฟทีมชาติ TCA คอยให้คำแนะนำในด้านทฤษฎีและการลงมือปฏิบัติในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้นำไปถ่ายทอดต่อได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

ดร. วิเชียรโชติ ผู้อำนวยการ สถาบัน กศน. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของโครงการนี้มาจากนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการส่งเสริมให้ศูนย์ราชการสามารถดำเนินงาน หรือในส่วนของคนที่ปฏิบัติการสอน หรือปฏิบัติงานอื่นใดก็ตาม สามารถทำให้ประชาชนมีความสุขและเข้าใจสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นในส่วนของงานการศึกษา ที่เราต้องการให้ประชาชนทุกคนได้เรียนรู้อยู่ตลอด มีการส่งข่าวและสื่อสารต่างๆ ให้เข้าใจ ด้วยการสร้างรอยยิ้มให้กันและกัน เราจึงตั้งชื่อโครงการว่า คืนรอยยิ้มให้กับครู เพื่อสร้างอาชีพ ตอบสนองนโยบายรัฐบาลข้างต้น

“สิ่งที่ ครู กศน. จะได้จากโครงการนี้คือ ความรู้ในด้านการทำอาหารจากเชฟระดับทีมชาติ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ทำให้เกิดความมั่นใจในตัวเอง และสามารถถ่ายทอดให้ผู้เรียนที่เป็นชาวบ้านได้ หากต้องการประกอบอาชีพเหล่านี้ควบคู่ไปกับการเป็นครูก็สามารถทำได้ โดยมุ่งเน้นให้ทุกคนสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปสร้างอาชีพได้ในอนาคตอีกด้วย” ดร. วิเชียรโชติ โสอุบล กล่าว

นางสกุลตรา ขอสุข ครูชำนาญการพิเศษ สังกัด สถาบัน กศน. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หนึ่งในผู้เข้าอบรมครั้งนี้ กล่าวว่า “ศูนย์ฝึกอาชีพและธุรกิจมติชน เป็นหน่วยงานเอกชนที่ดำเนินการคืนความสุขให้กับประชาชน ในฐานะที่เป็นภาคเอกชน ด้วยรูปแบบการดำเนินงานเป็นแบบ CSR ให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งในด้านการมอบความรู้ และสร้างโอกาสในการทำอาชีพ กอปรกับสถานที่ทันสมัย เครื่องมืออุปกรณ์ครบครัน เพราะฉะนั้นจึงถือเป็นโอกาสที่ดีของ ครู กศน. ของเราที่ได้มาเรียนรู้ที่นี่ ซึ่งเราเองก็มุ่งหวังจะนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดอื่นๆ ให้เกิดประโยชน์ต่อไป และต้องการนำความรู้ไปเผยแพร่ต่อชาวบ้านและนักศึกษาจะได้มีอาชีพ”

“มติชนอคาเดมี” ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 เปิดหลักสูตร “999” เสริมความรู้…สร้างรายได้ ให้กลายเป็นอาชีพ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05112150958&srcday=2015-09-15&search=no

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 27 ฉบับที่ 607

มติชนอคาเดมี

โดย : อนุภาค ชัยชนะดารา

“มติชนอคาเดมี” ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 เปิดหลักสูตร “999” เสริมความรู้…สร้างรายได้ ให้กลายเป็นอาชีพ

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 แล้วสำหรับ “ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี)” ผู้นำด้านการฝึกอาชีพของเมืองไทย ที่ได้สร้างอาชีพให้กับผู้เรียนมาแล้วไม่ต่ำกว่าหมื่นราย สามารถพลิกผันให้ผู้เรียนนับพันมีรายได้ และก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจอย่างเต็มตัว และหลังจากเจอกระแสวิกฤตเศรษฐกิจมาได้พักใหญ่ มติชนอคาเดมีจึงเตรียมพร้อมรับมืออย่างทันควัน ด้วยการ เปิดตัว 20 หลักสูตรทำเงิน ที่อาจจะทำให้คุณพลิกผันชีวิตได้ ด้วยเงินลงทุนเพียง 999 บาท เท่านั้น!!!

ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจค่อนข้างผันผวนเช่นนี้ ต้องบอกว่าภาคอุตสาหกรรมใหญ่ๆ หลายแห่ง ล้วนประสบปัญหาทั้งสิ้น ในขณะที่หลายคนเอง ก็ประสบปัญหาเกี่ยวกับการจับจ่ายใช้สอยในช่วงนี้เช่นกัน แต่จะทำอย่างไร? หรือมีวิธีไหนบ้าง? จึงจะสามารถช่วยสร้างอาชีพให้ทุกๆ คนได้ด้วยตัวเองในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ด้วยเงินลงทุนที่ไม่ต้องมาก แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของแต่ละคนให้มีรายได้เสริม สามารถเลี้ยงครอบครัว และแบ่งเบาการใช้จ่ายได้อีกทางเลือกหนึ่งในยามเศรษฐกิจถดถอย

การเปิดคอร์สอบรม 999 จึงเกิดขึ้น โดยมีหัวใจสำคัญว่า หลักสูตรอาหารที่เราเลือกมาสอนนั้น จะต้องเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด สามารถนำไปทำขายได้ง่าย ลงทุนไม่ต้องเยอะมาก และคนทั่วๆ ไปก็สามารถตัดสินใจซื้อรับประทานได้ไม่ยาก ดังนั้น คอร์สเรียนทั้ง 20 หลักสูตรนี้ จึงเปรียบเสมือนการช่วยชี้ช่องทางในการทำมาหากินของทุกคน ด้วยเงินลงทุนเพียงคอร์สละ 999 บาท เท่านั้น ซึ่งเราถือว่าเป็นการช่วยเหลือทุกคนให้ร่วมกันสู้ชีวิต ในยามเศรษฐกิจถดถอย พร้อมนำเสนอแนวทางสร้างรายได้ให้ทุกท่านในอนาคตได้อีกด้วย

ว่าแล้ว…อย่ารอช้า ไปดูหลักสูตรอาหารทั้ง 20 วิชา ที่จะเปิดสอนตลอดเดือนตุลาคม 2558 นี้กันดีกว่า

เริ่มกันที่ ข้าวต้มมัดไส้กล้วย-ไส้ถั่วเหลือง สูตรโบราณ จากจังหวัดนนทบุรี ของ คุณประนอม โตจันทร์ (ป้านอม) ที่อร่อยจนเป็นที่เลื่องลือมายาวนานกว่า 30 ปี ถ้าอยากรับประทานต้องสั่งล่วงหน้า เพราะว่าเขามีออเดอร์เต็มกันทุกวัน เคล็ดลับความอร่อยนั้นก็คือ การเลือกวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ เริ่มตั้งแต่ข้าวเหนียวเขี้ยวงูคุณภาพดี หัวกะทิสดใหม่ และกล้วยน้ำว้าที่ลูกโต ที่จะทำให้ได้อรรถรสเวลารับประทาน ใครอยากเรียนรู้ป้านอมก็ใจดีพร้อมบอกเทคนิค-วิธีการทำชั่งตวงเองทุกขั้นตอน พร้อมสอนเทคนิคที่ควรรู้ เช่น การมัดข้าวต้มมัด ให้มีลักษณะแน่น พอดีคำออกมาสวยงามน่ารับประทาน ไปจนถึงขั้นตอนการนึ่งเลยทีเดียว ถ่ายทอดสูตรเด็ดพร้อมกัน ทั้ง 2 รอบ ในวันที่ 2 ตุลาคม และวันที่ 16 ตุลาคม 2558 นอกจากนี้ ป้านอมยังมีสูตรเด็ดเคล็ดลับในการทำ วุ้นเป็ด (วุ้นมะพร้าวน้ำหอม) หนึ่งในเมนูยอดฮิตในปัจจุบัน ที่ขายกันมาตั้งแต่เป็นวุ้นมะพร้าวน้ำหอมธรรมดากว่า 20 ปีแล้ว ด้วยเทคนิคการขูดเฉพาะเนื้อมะพร้าว โดยไม่ติดเยื่อมะพร้าว แล้วนำมาสับอย่างละเอียดเพื่อนำไปผสมในวุ้นก่อนนำมาหยอดลงพิมพ์ ทำให้เมนูนี้น่าสนใจอยู่ไม่น้อย อยากรู้เทคนิคการทำ มีให้เรียน 2 รอบ วันที่ 16 ตุลาคม และวันที่ 30 ตุลาคม 2558 นี้

ตามติดมาด้วยความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นที่ฮิตจนหลายร้านเบเกอรี่นำไปทำขายจนรวยกันถ้วนหน้า อย่าง มิลค์เค้กครีมสด (ฮอกไกโดเค้ก) เค้กชิฟฟ่อนสไตล์ญี่ปุ่น เนื้อเค้กละเอียด เบา และนุ่มกว่าเค้กชิฟฟ่อนทั่วๆ ไป ชูรสชาติความอร่อยด้วยเค้กเนื้อละเอียด เบา นุ่ม ฉีดไส้ครีมสด มีกลิ่นหอมของนมเหมือนกลิ่นไอศกรีม ที่สำคัญมิลค์เค้กครีมสดยังเก็บไว้ได้นานนับเดือนในตู้เย็นอีกด้วย เรียนรู้ขั้นตอนการทำ โดย อาจารย์เกษราภรณ์ รอดไหม (คุณหญิง) วิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเบเกอรี่มานานกว่า 12 ปี ปัจจุบันทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตเบเกอรี่ของโรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิต และมีธุรกิจเบเกอรี่เป็นของตัวเอง ในย่านตลาดอโศกอีกด้วย เปิดสอน 2 รอบ วันที่ 2 ตุลาคม และวันที่ 16 ตุลาคม 2558 นี้

อีกหนึ่งเมนูแนะนำ อย่าง ขนมถ้วยตะไล เจ้าดังแห่งย่านนางเลิ้ง ของ คุณจิราพรรณ คงเทียน (คุณนก) ที่ทำขายมายาวนานกว่า 40 ปีแล้ว เป็นสูตรของคุณยายที่ได้มาจากวังหลัง ในตระกูลปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา สืบทอดต่อมาถึง คุณมณฑา คงเทียน (คุณแม่) แล้วนำมาทำขายที่ตลาดนางเลิ้ง เป็นเวลากว่า 10-20 ปี ซึ่งปัจจุบันคุณนกมารับช่วงต่อ 15 ปีแล้ว และได้ปรับสูตรให้นิ่มลง และน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ส่วนในเรื่องของรสชาติขนมถ้วยตะไลของคุณนกนี้ได้รสชาติเหมือนรับประทานเนื้อมะพร้าว ตัวขนมถ้วยรสนุ่มนวล หอมกลิ่นมะพร้าวและใบเตย นอกจากนี้ คุณนกยังใช้เทคนิคการหยอดแบบกะลาตาเดียว เพราะจะทำให้ขนมสวยน่ารับประทาน สำหรับใครที่อยากรู้เทคนิค-เคล็ดลับ มีเปิดสอน 2 รอบ วันที่ 2 ตุลาคม และวันที่ 9 ตุลาคม 2558 นี้

นอกเหนือจากนี้ยังมีหลักสูตรที่น่าสนใจอื่นๆ รวมแล้วถึง 20 หลักสูตร อาทิ ครองแครงพริกไทยดำ (วันที่ 2 ตุลาคม และ 9 ตุลาคม 2558), กล้วยปิ้ง (วันที่ 2 ตุลาคม และ 16 ตุลาคม 2558), ไก่ทอดสมุนไพร (วันที่ 2 ตุลาคม และ 9 ตุลาคม 2558), สลัดแขก (วันที่ 2 ตุลาคม และ 9 ตุลาคม 2558), เต้าหู้ทอด (วันที่ 2 ตุลาคม และ 9 ตุลาคม 2558), ทองม้วนกรอบ (วันที่ 2 ตุลาคม และ 16 ตุลาคม 2558), มันโบราณ (วันที่ 2 ตุลาคม และ 9 ตุลาคม 2558), หมูทอดเจียงฮาย ตลาดบางแค (วันที่ 16 ตุลาคม และ 30 ตุลาคม 2558), ก๋วยเตี๋ยวหลอด เจ้าดังนางเลิ้ง (วันที่ 16 ตุลาคมและ 30 ตุลาคม 2558), ขนมเบื้องญวน เจ้าดังนางเลิ้ง (วันที่ 9 ตุลาคม และ 30 ตุลาคม 2558 ), เปาะเปี๊ยะสด เจ้าดังนางเลิ้ง (วันที่ 9 ตุลาคม และ 30 ตุลาคม 2558), ไก่ทอดหาดใหญ่ (วันที่ 16 ตุลาคม และ 30 ตุลาคม 2558) ปั้นสิบไส้ปลา (วันที่ 9 ตุลาคม และ 30 ตุลาคม 2558), หมูอบโอ่ง (วันที่ 9 ตุลาคม และ 30 ตุลาคม 2558), คุกกี้อัลมอนด์สไลซ์ (วันที่ 16 ตุลาคม และ 30 ตุลาคม 2558), ขนมเปี๊ยะไข่เค็ม (วันที่ 16 ตุลาคม และ 30 ตุลาคม 2558)

ซึ่งต้องบอกว่า 20 หลักสูตร ที่คัดเลือกมานั้น ล้วนเป็นอาหารที่สามารถทำเองได้ง่าย หรือจะนำไปต่อยอดเปิดร้านขาย สร้างรายได้ก็ไม่ยากเย็นเท่าใดนัก ใช้เวลาอบรมเพียงแค่ 1 วัน โดยผู้เรียนสามารถเลือกหลักสูตรอบรมที่มีทั้งภาคเช้า และภาคบ่าย สะดวกช่วงไหนก็เลือกเรียนได้ไม่ยาก เพราะไม่เสียเวลาอบรมตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังใช้เงินลงทุนในการอบรมไม่มากอีกด้วย นอกจากนี้ เมนูอาหารที่นำมาสอนนั้น ยังซื้อง่ายขายคล่อง ถ้านำไปทำขายกลุ่มลูกค้าก็สามารถตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก เพราะเป็นสินค้าราคาไม่แพง ซื้อได้ตั้งแต่พนักงานทั่วไป ไปจนถึงพนักงานออฟฟิศเลยทีเดียว ถ้าคุณมุ่งมั่นตั้งใจในห้องเรียน และเก็บความรู้เทคนิค-เคล็ดลับต่างๆ จากผู้สอนไปได้อย่างครบถ้วน แล้วนำไปฝึกฝนให้ชำนาญอีกซักนิด รับรองว่าท่านก็อาจเปิดร้านขายอาหารได้ไม่ยากเย็นแน่นอน

สำหรับท่านที่สนใจอยากเรียนรู้เทคนิค-เคล็ดลับของหลักสูตรสร้างอาชีพ ทั้ง 20 หลักสูตร ตลอดเดือนตุลาคม 2558 นี้ หรืออยากทราบรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับคอร์สอบรมอาชีพ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมมาได้ที่ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้ที่ โทร. (02) 954-3977-84 ต่อ 2123, 2124 (จันทร์-ศุกร์), (082) 993-9097, (082) 993-9105 (เสาร์-อาทิตย์) หรือจะเข้าไปดูเพิ่มเติมที่ http://www.matichonacademy.com

เปิดสูตรเด็ด-ร้านดัง “ครัวคุณจ๋า” ชิมอาหารทะเลพื้นบ้านแท้ๆ แห่งวัดเขายี่สาร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05112010958&srcday=2015-09-01&search=no

วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 27 ฉบับที่ 606

มติชนอคาเดมี

อนุภาค ชัยชนะดารา

เปิดสูตรเด็ด-ร้านดัง “ครัวคุณจ๋า” ชิมอาหารทะเลพื้นบ้านแท้ๆ แห่งวัดเขายี่สาร

สมุทรสาคร ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดทางภาคกลาง ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยว เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่นิดเดียว แต่มีที่เที่ยวให้ไปเยือนมากมาย อาทิ ตลาดน้ำอัมพวา ดอนหอยหลอด ตลาดน้ำบางน้อย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักชิม เพราะมีสารพัดเมนูอร่อยมากมายที่ได้รับความนิยม เช่น อาหารทะเลนานาชนิด, ปลาทูสด จากอำเภอแม่กลอง, กะปิคลองโคน, ลำไยบ้านแพ้ว, ข้าวเหนียวมะม่วง และลอดช่องวัดเจษฯ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นหลายคนอาจคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ในฉบับนี้ เราไม่ได้พาทุกคนไปลิ้มลองเมนูเหล่านี้หรอกครับ…แต่เราจะแวะเวียนไปลองชิมอาหารจานเด็ดจากร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง ในอำเภออัมพวา ที่มีชื่อว่า “ร้านครัวคุณจ๋า” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในร้านอร่อยของคนรักอาหารทะเลพื้นบ้านแท้ๆ ซึ่งใครหลายคนต้องรู้จักเป็นอย่างดีแน่นอน

“ครัวคุณจ๋า” ความอร่อยนี้ มีที่มา…

คุณนิภาภัทร พยนต์ยิ้ม หรือ คุณจ๋า เจ้าของร้าน ครัวคุณจ๋า เล่าว่า “เมื่อก่อนขายก๋วยเตี๋ยว-ผัดไทย-ผัดซีอิ๊ว-ราดหน้า และขายอาหารตามสั่งให้ชาวบ้านย่านนั้น และคนที่มาเที่ยวทำบุญที่วัดเขายี่สาร เนื่องจากร้านตั้งอยู่ติดวัด แต่ในตอนหลังเริ่มมีคนติดใจในรสชาติอาหาร จึงขยับขยายร้านเปลี่ยนมาเป็นร้านขายอาหารพื้นบ้าน เน้น ผักชะคราม เป็นเครื่องเคียง แต่ก็ยังไม่วายทำร้านกาแฟบริการคอกาแฟ ตั้งแต่ตอน 6 โมงเช้า เป็นต้นไป และจะเริ่มขายอาหารแบบครบเครื่องอีกที ก็ตอนสาย ช่วงประมาณ 3 โมงเช้า เลิกขาย ประมาณ 4 โมงเย็น

คุณจ๋า ยังเล่าความประทับใจถึงเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งว่า “หลังจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ มาทรงเปิดพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านยี่สาร ก็จะต้องมีเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังเข้ามาตรวจเส้นทางก่อนจะเสด็จฯ แล้วคุณอาของตนเองเป็นประธานพิพิธภัณฑ์ ท่านจึงให้ดิฉันทำอาหารต้อนรับเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง ซึ่งตอนนั้นเราก็พอทำกับข้าวเป็นอยู่แล้ว โดยเมนูที่สั่งมี น้ำพริกชะคราม, กุ้งต้มเค็ม, ผัดชะคราม, แกงส้มชะคราม และก็ปลาแดดเดียวทอด เป็นเมนูที่เราทำรับประทานกันในหมู่บ้าน พอถึงวันที่เจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังแวะมารับประทานอาหารที่ร้าน แล้วก็ติดใจในรสชาติ จึงได้ถามว่า “อร่อยมาก ผักอะไร” สนใจผักชะครามมาก ซึ่งตอนนั้นเขาบอกว่าน่าจะทำขายได้นะ และทางเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังก็เห็นช่องทาง แล้วบอกว่า ถ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปที่ไหน ความเจริญก็จะไปถึงที่นั่น ให้ทำขาย แล้วเดี๋ยวเขาจะสั่งนายอำเภอ และผู้ว่าฯ ที่มาร่วมงานด้วย ให้โปรโมทร้านให้ และจะแนะนำคนให้มารับประทาน ซึ่งวันนั้นเองเขาก็บอกว่าให้พิมพ์นามบัตรเอาไว้เลย ไว้สำหรับแจกวันที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แล้ววันนั้นท่านก็เสด็จฯ มาบ้านคุณอา คุณอาก็เป็นฝ่ายต้อนรับ ท่านก็ไปเสวยข้าวที่บ้านคุณอา ซึ่งเราได้ทำน้ำพริกชะครามถวายด้วย แล้วสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก็ตรัสว่า “ผักอะไร อร่อยนะ น่าจะทำขายได้”

“แรกเริ่มเราเพียงคาดหวังว่า วันหนึ่งจะทำขายได้วันละโต๊ะสองโต๊ะก็น่าจะพอแล้ว แต่พอเอาเข้าจริง ปรากฏว่าพอเราทำขายจริง ก็ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะเราจะแนะนำลูกค้าที่มารับประทานก๋วยเตี๋ยวว่า เรามีเมนูเสริมแนะนำด้วย ซึ่งลูกค้าก็สนใจและสั่งมารับประทานอยู่เป็นประจำ เราจึงทำควบคู่ไปกับการขายก๋วยเตี๋ยวด้วย แต่ให้ลูกค้าเลือก อย่างวันนี้เรามีแกงส้มปลาแดดเดียวนะ มีน้ำพริกนะ ลูกค้าก็ลอง พอลองแล้วลูกค้าบอกว่าอร่อยให้ทำขายสิ เดี๋ยววันหลังจะแนะนำลูกค้ามาให้ ก็เริ่มจากปากต่อปากไปเรื่อยๆ จากวันละโต๊ะสองโต๊ะ ก็เป็น 5-6 โต๊ะ แล้วก็เพิ่มขึ้นๆ จนเราต้องเอาอาหารมาเพิ่มหลายๆ อย่าง ก็เริ่มจะมี กุ้งสามรส อะไรแบบนี้ เพิ่มเมนูจนต้องเลิกขายก๋วยเตี๋ยว แต่ร้านเราจะปิดเวลา 16.00 น. เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนทางวัดด้วย” คุณจ๋า กล่าว

“ครั้งหนึ่งเราได้มีโอกาสไปแข่งที่ อบจ. สมุทรสงคราม ที่ อุทยาน ร. 2 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมามอบรางวัลให้ ทางจังหวัดประกาศมาว่าให้ร่วมไปแข่งขัน ใครจะร่วมให้ไปสมัคร เราก็ไปสมัคร ทั้งหมด 12 ทีม เราก็ตื่นเต้นมากเลย เพราะไม่เคยออกสนาม แล้วเราก็ลองไปแข่งดู เพราะเราก็ทำอาหารได้ เมนูที่ไปแข่งคือ กุ้งฉู่ฉี่ ปลาทูต้มส้ม ยำหัวปลี ขนมเบื้องโบราณ แล้วก็มีน้ำพริกปลาทู ซึ่งเป็นอาหารที่เราทำทุกวันอยู่แล้ว น่าจะพอมีฝีมือสู้คู่ต่อสู้ได้ แต่ก็คิดว่าเราคงแพ้ เพราะไม่เคย ประหม่า พอประกาศผลออกมาแล้ว เราชนะ ได้ที่ 1 ได้รับรางวัลกับพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเราโชคดีมากๆ

ชูโรงความอร่อย

ด้วยอาหารพื้นบ้าน…

พูดเกริ่นถึงที่มาของร้านแล้ว เราก็มาดูเมนูอร่อยของร้านครัวคุณจ๋า…กันบ้างดีกว่า เริ่มกันที่เมนู น้ำพริกใบชะคราม-ปลาหมอเทศแดดเดียว จุดเด่นความอร่อยของเมนูนี้อยู่ที่ ใบชะคราม ซึ่งเป็นผักพื้นบ้าน ซึ่งลูกค้าของร้านเราจะนิยมรับประทานของพื้นบ้านที่หาได้ในท้องถิ่นของเรา ซึ่งเมนูนี้ตอบโจทย์ความอร่อยนั้นได้ นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์จากใบชะคราม ที่มีธาตุเหล็กและคลอโรฟิลล์ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตเขาได้วิจัยมาแล้ว ส่วนเมนูน้ำพริกนั้นได้สูตรคุณแม่สอนมา เมื่อก่อนจะทำให้คุณแม่ลองชิมทุกเช้า จนตอนนี้มั่นใจแล้วก็ชิมเอง น้ำพริกของร้านเราจะมีรสชาติเข้มข้น เพราะใช้กะปิแท้จากท้องถิ่น และมีเนื้อสัมผัสไม่เหลวเป็นน้ำ อีกหนึ่งเมนู อย่าง ต้มส้มปลากระบอก ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านที่ไม่ควรพลาดอีกเช่นกัน เป็นสูตรเด็ดจากคุณป้าที่ถ่ายทอดกันมารุ่นสู่รุ่น

อีกหนึ่งความอร่อยที่พลาดไม่ได้ ก็คือ ปลาทูทอดน้ำปลา จุดเด่นอยู่ที่เราจะทอดปลาด้วยน้ำมันใหม่ตลอด และทอดให้กรอบ โดยยังคงความสดของเนื้อปลาทูเอาไว้ และใช้น้ำปลาอย่างดีเคี่ยวให้หอม ซึ่งจะมีรสชาติที่ต่างจากน้ำปลาทั่วๆ ไป เพราะน้ำปลาทั่วๆ ไปจะมีกลิ่นฉุน เค็มจัด แต่น้ำปลาที่เราใช้จะรสชาติกลมกล่อม

ปิดท้ายกันด้วย 2 เมนู สุดอร่อย อย่าง ฉู่ฉี่กุ้ง ซึ่งเราจะไปเลือกซื้อกุ้งสดที่ตลาดทุกเช้า และใช้กะทิสดทุกวัน ซึ่งบางร้านเขาจะใช้นมสด แต่ของร้านเราใช้กะทิสดอย่างเดียว ทำให้รสชาติออกมากลมกล่อม ตามมาด้วยเมนู หลนปูม้า ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่วัตถุดิบที่ใช้ อย่าง ตะไคร้ซอย หอมแดงซอย ซึ่งเราจะใส่วัตถุดิบสดใหม่ทุกวัน ไม่ค้างคืน และใช้กะทิสด เป็นวัตุดิบหลักในการเสริมความอร่อยอีกด้วย

ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) จึงไม่พลาดที่เชิญร้านดัง อย่าง “ร้านครัวคุณจ๋า” มาเปิดสูตรเด็ด-เคล็ดลับ ในการทำอาหาร ในหลักสูตร สูตรเด็ด-ร้านดัง ครัวคุณจ๋าวัดเขายี่สาร นำเสนอเทคนิคการทำเมนูขายประจำร้าน อย่าง น้ำพริกชะครามปลาทอด ต้มส้มปลากระบอก หลนปูม้า และ ปลาหมึกผัดกะปิ สอนทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ ไปจนถึงการปรุงทุกขั้นตอน โดยเจ้าของร้านตัวจริง อย่าง คุณนิภาภัทร พยนต์ยิ้ม (คุณจ๋า) เจ้าของร้านผู้มีฝีมือการทำอาหารทะเลพื้นบ้านแท้ๆ ได้อร่อยไม่แพ้ใคร ในวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน 2558 นี้ จัดเต็มทุกขั้นตอน…ตั้งแต่ต้นจนจบชั่วโมงเรียนเลยทีเดียว!!

“ในคอร์สเรียนนี้ ผู้เรียนจะทำกับข้าวอร่อยขึ้น ถ้าเขาจะเอาไปค้าขาย แล้วตั้งใจจริงๆ ก็น่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก เมื่อก่อนพี่ก็ไม่ชอบทำอาหาร แต่พอมาทำแล้ว มันก็ทำให้เรารู้สึกว่า เรายืนได้ด้วยลำแข้งของเราเอง ต้องตั้งใจทำ ต้องจริงจังกับมัน ทุ่มกำลังกายกำลังใจให้เต็มที่ ทำให้ลูกค้ามารับประทานแล้วมารับประทานอีก ต้องให้เขาชมเราแล้วชมเราอีก มาเรียนได้เลย คุณจ๋าไม่หวงสูตร เชื่อว่าถ้าเขาเอาไปทำขายรายได้ดีเลยละ” คุณจ๋า กล่าว

คุณจ๋า ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า…

“ลูกค้า คือ แรงบันดาลใจในการทำอาหาร ลูกค้าน่ารักมาก เวลามารับประทานจะเรียกพี่จ๋าไปแนะนำ ถ้าอาหารรสชาติยังไม่โอเค ลูกค้าไม่ตำหนิ วันนี้เขาชมว่าอร่อย พรุ่งนี้ก็ต้องทำให้เขาติดใจ มารับประทานแล้วอยากให้มาอีก อยากเห็นหน้าเขาบ่อยๆ เวลาเห็นเขารับประทานแล้วมีความสุข”

สำหรับ ท่านที่สนใจอยากจับจองคอร์สเรียนอื่นๆ เช่น หลักสูตรครัวปฏิบัติการ-ครัวเบเกอรี่ หรือครัวสาธิต ก็ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมมาได้ที่ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) หรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. (02) 954-3977 – 85 ต่อ 2123, 2124 (จันทร์-ศุกร์), (082) 993-9097, (082) 993-9105 (เสาร์-อาทิตย์) http://www.matichonacademy.com และ https://www.facebook.com/Matichon.Academy.Thailand

10 หลักสูตร สร้างอาชีพ “ร่วมกันสู้ชีวิต ในยามเศรษฐกิจถดถอย” เรียนรู้ได้ภายใน 1 วัน!! ที่ มติชนอคาเดมี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05112150858&srcday=2015-08-15&search=no

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 27 ฉบับที่ 605

มติชนอคาเดมี

โดย : อนุภาค ชัยชนะดารา

10 หลักสูตร สร้างอาชีพ “ร่วมกันสู้ชีวิต ในยามเศรษฐกิจถดถอย” เรียนรู้ได้ภายใน 1 วัน!! ที่ มติชนอคาเดมี

ในภาวะเศรษฐกิจขาลง และค่อนข้างผันแปร ณ เวลานี้ การใช้จ่ายเงินของใครหลายคนอาจจะฝืดเคืองไปบ้างตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ทำให้บางคนอาจจะกำลังมองหา “รายได้เพิ่ม” เพื่อนำมาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวเพิ่มเติม หรือบางรายก็อาจกำลังคิดจะ “เปลี่ยนอาชีพ” ไปเป็น พ่อค้า-แม่ขาย เพื่อสร้างรายได้เป็นของตัวเองบ้าง

แต่…มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างคิดไว้ ครั้นจะออกไปลองผิดลองถูก ก็อาจกลายเป็นปัญหาที่หนักยิ่งกว่าเดิม กลายเป็นเพิ่มหนี้สิน หรือเสียเงินลงทุนฟรีไปโดยปริยาย แถมยังไม่ได้คำตอบที่ถูกต้อง มติชนอคาเดมี จึงขันอาสาขอหาทางออกมาบอกทุกท่าน ให้ผ่านพ้นเศรษฐกิจช่วงนี้ไปพร้อมๆ กันครับ

ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ผู้ริเริ่มคอร์สการฝึกอาชีพชั้นนำของเมืองไทย เตรียมเปิดหลักสูตรสร้างอาชีพ พร้อมนำไปต่อยอดสร้างรายได้ด้วยตัวคุณเอง เพียงคอร์สละ 999 บาท เท่านั้น!!! ท่านก็สามารถเรียนรู้หลักสูตรทำเงินที่น่าสนใจ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวหลอด วุ้นเป็ด ไก่ทอดหาดใหญ่ หมูทอดเจียงฮาย และหลักสูตรอื่นๆ รวมแล้ว ถึง 10 วิชา ที่สามารถช่วยให้คุณนำความรู้จากห้องเรียนไปลงทุนสร้างธุรกิจขายอาหารแบบย่อมเยาได้ไม่ยากเย็นเลยทีเดียว

คุณสุรพล พิทยาสกุล ผู้อำนวยการศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน กล่าวว่า

“ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจค่อนข้างผันผวนเช่นนี้ ต้องบอกว่า ภาคอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ล้วนประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจโดยทั้งสิ้น ในขณะเดียวกันก็จะมีคนที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับการจับจ่ายใช้สอยในช่วงนี้เช่นกัน ทำให้เรารู้สึกว่าจะทำอย่างไร? หรือ มีวิธีไหนบ้าง? ถึงจะสามารถช่วยสร้างอาชีพให้ทุกๆ คนได้ด้วยตัวเองในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ด้วยเงินลงทุนที่ไม่ต้องมาก แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของแต่ละคนให้มีรายได้เสริม สามารถเลี้ยงครอบครัว และแบ่งเบาการใช้จ่ายได้อีกทางเลือกหนึ่งในยามเศรษฐกิจถดถอย เราจึงเกิดแนวคิดที่จะเปิดคอร์สอบรมสำหรับผู้เรียนที่อยากจะนำความรู้ไปประกอบอาชีพจริงๆ โดยมีหัวใจสำคัญว่า หลักสูตรอาหารที่เราเลือกมาสอนนั้น จะต้องเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด สามารถนำไปทำขายได้ง่าย ลงทุนไม่ต้องเยอะมาก และคนทั่วๆ ไปก็สามารถตัดสินใจซื้อรับประทานได้ไม่ยาก”

“ดังนั้น คอร์สเรียนทั้ง 10 หลักสูตร ที่ทีมงานของเราคัดสรรมาให้ทุกท่านได้เลือกอบรมครั้งนี้ จึงเปรียบเสมือนการช่วยชี้ช่องทางในการทำมาหากินของทุกคน ด้วยเงินลงทุนเพียง คอร์สละ 999 บาท เท่านั้น ซึ่งเราถือว่าเป็นการช่วยเหลือทุกคนให้ร่วมกันสู้ชีวิตในยามเศรษฐกิจถดถอย พร้อมนำเสนอแนวทางสร้างรายได้ให้ทุกท่านในอนาคตได้”

สำหรับหลักสูตรอาหารทั้ง 10 วิชา ที่นำมาสอนในเดือนกันยายน 2558 นี้ ทีมงานมติชนอคาเดมี ได้เลือกสรรหาเมนูเด็ดขายดี ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเจ้าของอาชีพจนสามารถเลี้ยงครอบครัวมาได้จนถึงปัจจุบัน อย่าง ข้าวต้มมัดไส้กล้วย-ไส้ถั่วเหลือง สูตรโบราณจากจังหวัดนนทบุรี ที่อร่อยจนเป็นที่เลื่องลือมายาวนานกว่า 30 ปี ที่เจ้าของสูตรก็ใจดีพร้อมบอกเทคนิค-วิธีการทำ ให้นำไปขายเป็นอาชีพได้เลย ในวันที่ 8 กันยายน 2558

อีกหนึ่งความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นที่ฮิตจนหลายร้านเบเกอรี่นำไปทำขายจนรวยกันถ้วนหน้า อย่าง มิลกี้เค้กครีมสด (ฮอกไกโดเค้ก) สูตรเพื่อการค้า จากผู้มีประสบการณ์ด้านการทำเบเกอรี่ยาวนานกว่า 10 ปี จากสวนดุสิต ที่ได้คิดสูตรเด็ดของเบเกอรี่เมนูนี้ขึ้นมา และพร้อมถ่ายทอดวิชาให้กับทุกคนนำไปทำกิน ทำขาย ในวันที่ 4 กันยายน 2558 นี้

ตามมาด้วยจานเด็ดแนะนำอย่าง ขนมถ้วย เจ้าดังแห่งย่านนางเลิ้ง ที่ขายกันมายาวนานกว่า 40 ปีแล้ว มีทีเด็ดความอร่อยที่ตัวแป้งขนมนุ่ม นิ่ม เสริมด้วยหน้ากะทิเนียนตา ไม่แตกมัน เพราะท่านว่า ใช้ “กะทิคั้นสดๆ” มาทำเมนูนี้กันเลยทีเดียว ทำให้ขายดิบขายดีมาจนถึงปัจจุบัน บอกสูตรเด็ดพร้อมกัน วันที่ 11 กันยายน 2558 นี้แน่นอน

นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรที่น่าสนใจอย่าง ครองแครงพริกไทยดำ เจ้าดังนางเลิ้ง (11 กันยายน 2558) วุ้นเป็ด เมืองนนท์ (18 กันยายน 2558) ก๋วยเตี๋ยวหลอด เจ้าดังนางเลิ้ง (18 กันยายน 2558) หมูทอดเจียงฮาย ตลาดบางแค (18 กันยายน 2558) ขนมเบื้องญวน เจ้าดังนางเลิ้ง (25 กันยายน 2558) เปาะเปี๊ยะสด เจ้าดังนางเลิ้ง (25 กันยายน 2558) ไก่ทอดหาดใหญ่ จรัญสนิทวงศ์ (25 กันยายน 2558)

ซึ่งต้องบอกว่า คอร์สเรียนทั้ง 10 หลักสูตร ที่คัดเลือกมานั้น ล้วนเป็นอาหารที่สามารถทำเองได้ง่าย หรือจะนำไปต่อยอดเปิดร้านขายก็ดี ใช้เงินลงทุนไม่มาก แต่ก็สามารถขายได้ตลอด เพราะเป็นเมนูที่นิยมในท้องตลาด ถ้าคุณสามารถเรียนรู้ และเก็บความรู้ เทคนิค-เคล็ดลับต่างๆ จากผู้สอนไปได้ในชั่วโมงเรียน แล้วนำไปฝึกฝนให้ชำนาญอีกซักนิด รับรองว่า ใช้เวลาอบรมเพียงแค่ 1 วัน ท่านก็นำไปทำขาย สร้างรายได้ไม่ยากเย็น

นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่กำลังอยากเป็น พ่อค้า-แม่ขาย หรืออยากมีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งแต่ละคนล้วนมองหาโอกาสเหล่านั้น ซึ่งแน่นอนว่า ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน ยังคงเดินหน้าพัฒนาหลักสูตรการฝึกอาชีพต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อตอบโจทย์ให้กับคนที่เข้ามาฝึกอบรมได้มีความรู้ในด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ แล้วสามารถนำความรู้เหล่านั้นไปต่อยอด สร้างอาชีพและรายได้ต่อไปในอนาคต

“ความรู้จากคอร์สเรียนของมติชนอคาเดมี ผมว่าเปรียบเสมือนมรดกด้านวิชาชีพที่ติดตัวเราไปจนตาย สามารถนำไปถ่ายทอดต่อให้คนรุ่นถัดไปได้ไม่ยาก ซึ่งความรู้นั้นอาจกลายเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัวของพวกเขาต่อไปได้ในอนาคต” คุณสุรพล กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับท่านที่สนใจ อยากเรียนรู้เคล็ดลับของหลักสูตรสร้างอาชีพทั้ง 10 หลักสูตร ที่กล่าวมา หรืออยากทราบรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับคอร์สอบรมอาชีพ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมมาได้ที่ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้ที่ โทร. (02) 954-3977-85 ต่อ 2123, 2124 (จันทร์-ศุกร์), (082) 993-9097, (082) 993-9105 (เสาร์-อาทิตย์) หรือจะเข้าไปดูเพิ่มเติมที่ http://www.matichonacademy.com