กาลาดินเนอร์ ‘ช้อน…รัก’ ตามรอยวัตถุดิบพระราชทาน จากน้ำพระราชหฤทัยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/219593

วันพุธ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

เป็นงานแรกของงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ วันที่ 12 สิงหาคม 2559 มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นำโดย ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และ ท่านผู้หญิงอรนุชอิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายจัดจำหน่าย จัดงานกาลาดินเนอร์ “ช้อน…รัก” (A Spoonful of Love) และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จากโครงการตามพระราชดำริฯโดยมี รศ.ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขึ้นกล่าว พร้อมกันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้ขึ้นกล่าวก่อนงานเลิก เล่าถึงความประดับใจขณะตามเสด็จฯ ณ ดิ เอเทรียม แอทสินธร เมื่อวันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน 2559 การจัดงานในครั้งนี้เป็นที่ประจักษ์ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยราษฎรในเรื่องโภชนาการมาโดยตลอด โปรดให้จัดตั้งโครงการตามพระราชดำริทั่วทุกภาคของประเทศเพื่อสร้างแหล่งอาหารในพื้นที่ อีกทั้งทำให้ราษฎรมีงาน มีรายได้ ได้เรียนรู้การปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ผลผลิตที่งอกงามคือความสำเร็จที่ทำให้ราษฎรมีกิน อิ่มท้องเลี้ยงครอบครัวได้อย่างพอเพียง มีความรู้ในการประกอบอาชีพที่ยั่งยืน แต่ละช้อน แต่ละคำ เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่า อิ่มรส อิ่มรักและอิ่มใจ ทั้งหมดนี้เกิดจากน้ำพระราชหฤทัย “รัก” ที่ทรงมีต่อราษฎรทุกคน เพื่อเติมเต็มชีวิตพวกเขาให้สมบูรณ์งดงาม

บรรยากาศในงานมีคณะรัฐมนตรี อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พล.อ.ดร.ธนะศักดิ์ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงานกาลาดินเนอร์ พร้อมเดินชมนิทรรศการการก่อตั้งโครงการตามพระราชดำริ

จากนั้นร่วมรับทานอาหารที่สร้างสรรค์เมนูทำจากวัตถุดิบชั้นเลิศจากผลิตผลโครงการตามพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มี ดร.สมชาย ธรณิศรผู้อำนวยการสำนักงานโครงการฟาร์มตัวอย่างเป็นผู้ดูแลผลผลิตและการเพาะเลี้ยงห่านหัวสิงห์ มี เชฟ แอร์เว่ เฟอร์ราด มาปรุงอาหารเมนูระดับโลกให้แขกได้ลิ้มรส อาทิ เมนูที่ทำจากเนื้อปลาสเตอร์เจียนและไข่คาเวียร์ ที่เสิร์ฟคู่กับช้อนเล็กๆ น่ารักๆ ทำจากเปลือกหอยโดยไข่ปลาคาเวียร์ของไทย โดย ดร.จรัลธาดา กรรณสูต ที่ปรึกษาสำนักราชเลขาธิการ เป็นแรงสำคัญในการเลี้ยงปลา สเตอร์เจียนและปลาเทราต์จนสำเร็จ และยังมีซุปจาก เห็ดนางฟ้า ภูฏานเห็ดฮังการีมาเป็นส่วนประกอบหลัก รวมทั้งของหวานที่ปรุงด้วยกาแฟจากโครงการหลวง นอกจากอาหารอันเลิศรสแล้ว ยังสร้างบรรยากาศแห่งความรักด้วยดนตรีอันไพเราะจาก วงดนตรีเฉลิมราชย์ มี อ.วิรัช อยู่ถาวร เป็นผู้ควบคุมวง ทั้งนี้ท่านผู้หญิงอรนุช อิศรางกูร ณ อยุธยา ยังขึ้นมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบทเพลงแต่ละเพลงให้แขกผู้มีเกียรติได้ฟังอีกด้วย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

‘สะพานบุญ พุทธคยา’ร่วมสร้างมหากุศล ฉลอง 60 ปี กนกศักดิ์ ปิ่นแสง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/219355

วันอังคาร ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระกรุณาให้ผู้แทนพระองค์อัญเชิญแจกันดอกไม้ประทานแสดงความยินดีแก่ กนกศักดิ์ ปิ่นแสง ในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปี

ถือฤกษ์ดีในวันคล้ายวันเกิดครบ60 ปี กนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย สร้างบุญใหญ่อีกครั้ง ด้วยการเป็นสะพานบุญ เชิญชวนเพื่อนพ้องน้องพี่และกัลยาณมิตรได้มีส่วนร่วมทำบุญด้วยกันในการสร้าง “พระมหาเจดีย์พุทธคยา” ขึ้นในประเทศไทย ณ วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี (ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ) จ.สมุทรปราการ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสกราบไหว้และระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งยังเป็นสถานที่จำลองสังเวชนียสถาน 4 แห่งอีกด้วย โดยช่วงเช้าจัดพิธีหล่อเสาเอกพระมหาเจดีย์พุทธคยา ที่วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตีส่วนช่วงเย็นเนรมิตห้องเจ้าพระยา อาคารชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หอประชุมกองทัพเรือ ถ.อรุณอมรินทร์ ค่ำวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2559 ให้กลายเป็นงานเลี้ยงย้อนยุค จำลองบรรยากาศแบบ “งานวัด” มาให้แขกเหรื่อได้ร่วมสนุกก่อนเข้างานไปกับซุ้มเกมส์ต่างๆ มากมาย ทั้งปาลูกโป่ง ปากระป๋องนมยิงปืน ซุ้มน้ำตาลปั้นเป็นรูปต่างๆ ไปจนถึงซุ้มอาหารกว่า 20 ซุ้ม ให้แขกเหรื่อได้อิ่มอร่อยกันอย่างเต็มที่ ท่ามกลางบุคคลสำคัญ เพื่อนสนิทมิตรสหาย อาทิ หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน (วพน.), สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.), วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปรอ.) และเพื่อนอำนวยศิลป์ วีไอพี รุ่น 47มาร่วมอวยพรอย่างอบอุ่น งานนี้เจ้าภาพงดรับกระเช้าดอกไม้และของขวัญ เปลี่ยนเป็นเงินบริจาคเพื่อนำเข้าร่วมกองบุญในการสร้าง “พระมหาเจดีย์พุทธคยา”

ในโอกาสนี้ได้รับพระกรุณาจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ให้ผู้แทนพระองค์อัญเชิญแจกันดอกไม้ประทานแก่ กนกศักดิ์ ปิ่นแสง ในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปีสร้างความปลื้มปีติและสำนึกในพระกรุณาแก่เจ้าของวันเกิดอย่างหาที่สุดมิได้

ไฮไลต์งานนี้มีเซอร์ไพรส์จากภริยา จันทมาศ ปิ่นแสง มาร้องเพลงฉ่อยอวยพรวันเกิด และ “พลอย” บุตรสาวคนเดียว อัดคลิปอวยพรมอบให้คุณพ่ออย่างหวานซึ้ง ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเป่าเทียนตัดเค้กวันเกิดรูปโดราเอม่อน ท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัวและเพื่อนรักรุมล้อมล้นหลาม

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

รักที่ลงตัวของสองคุณหมอ พญ.ทิพย์นภา พัฒนธำรงเกษม นพ.เทพ เศรษฐบุตร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/218810

วันศุกร์ ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

“คู่กันแล้ว ไม่แคล้วกัน” แม้จะอยู่กันคนละฟากฟ้า สองคุณหมอก็ดลใจมาพบกันและแต่งงานกันในที่สุด พญ.ทิพย์นภา พัฒนธำรงเกษม กับ นพ.เทพ เศรษฐบุตร จึงเกี่ยวก้อยเข้าสู่ประตูวิวาห์ไปอย่างหวานชื่น ณ ห้องเลิศวนาลัย บอลรูม โรงแรม สวิทโฮเต็ลปาร์คนายเลิศ เมื่อค่ำคืนอันแสนหวานวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2559 งานนี้ คุณพ่อ-คุณแม่ฝ่ายชาย นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศ.(พิเศษ) นรนิติ-พญ.ชนินทร เศรษฐบุตร และ คุณพ่อ-คุณแม่ฝ่ายหญิง ประธานบริษัทวรภัณฑ์ โฮมเซ็นเตอร์ จำกัด สุรินทร์-อรัญญา พัฒนธำรงเกษม เป็นปลื้มท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมแสดงความยินดีเป็นกลุ่มๆ ทั้งจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,สถาบันพระปกเกล้า,สภาร่างรัฐธรรมนูญ และญาติๆ มาอวยพรกันอย่างอบอุ่น โดยมี นุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นประธานกล่าวอวยพรมอบให้คู่บ่าว-สาว

ความรักของทั้งคู่เหมือนพรหมลิขิตให้ได้มาพบกัน เจ้าบ่าวกลับมาจาก Texas เพื่อมาทำงานที่เมืองไทย ในเดือนตุลาคม ปี 2557 ส่วนเจ้าสาวหลังจากเรียนจบจากที่ New York ก็กลับมาเมืองไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 หลังจากนั้นเพื่อนของทั้งคู่ “เดียร์” ซึ่งเป็นหมออยู่ที่ California ก็แนะนำให้รู้จักกัน เมื่อได้พบกันและรู้จักกัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความรักก็งอกเงย เบ่งบานในหัวใจจนครบ 1 ปี พร้อมความประทับใจที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กันและกัน เจ้าบ่าวเป็นคนดี รักครอบครัว เอาใจใส่คนรอบข้าง ตลอดจนสิ่งที่เจ้าบ่าวปฏิบัติ ทำให้รู้สึกภูมิใจและนับถือในตัวเจ้าบ่าว ส่วนเจ้าสาว ก็เป็นคนน่ารัก รักครอบครัว มีความเข้าใจ ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน พร้อมกับการวางแผนใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเรียบง่าย มีทายาทด้วยกัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป ส่วนเรื่องฮันนีมูน วางแผนจะไปมัลดีฟส์ในช่วงปลายปีนี้

ปัจจุบัน เจ้าสาว ดำรงตำแหน่งอาจารย์ภาควิชาจักษุวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าบ่าว เป็นแพทย์ด้าน หู คอ จมูก สำหรับเด็ก ที่โรงพยาบาล North Shore L I J (นอร์ทชอร์-แอล-ไอ-เจ) นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งหลังจากนี้ ราวต้นเดือน
มิถุนายน เจ้าสาวจะบินไปเรียนต่อด้านจักษุ ที่ Cornell University พร้อมกับการสร้างครอบครัวให้สมบูรณ์แบบต่อไป และจะจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสในวันที่ 11 มิถุนายน 2559 ที่ Austin, Texas สหรัฐอเมริกา ให้ญาติๆ ฝ่ายชายตลอดจนเพื่อนๆ ได้ร่วมแสดงความยินดีกับคู่คุณหมอทั้งสองกันอีกครั้งด้วย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

120 ปี ชาตกาลพระบำราศนราดูร (บำราศ เวชชาชีวะ)

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/218447

วันพุธ ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

เนื่องในโอกาส 120 ปี ชาตกาลพระบำราศนราดูร (บำราศ เวชชาชีวะ) โดย ทายาทตระกูล “เวชชาชีวะ” ได้จัดงานรำลึก พระบำราศนราดูร อดีตปลัดกระทรวงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในคณะรัฐบาลของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และจอมพลถนอม กิตติขจร ผู้ก่อตั้ง โรงพยาบาลบำราศนราดูร สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และองค์การเภสัชกรรม โดยมี ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี ให้เกียรติมาปาฐกถาพิเศษ “บนเส้นทางสุขภาพ เพื่อคนไทยทั้งมวล” และ ฯพณฯ ชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติร่วมงานด้วย ณ สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม 2559

เริ่มต้นงาน พญ.จริยา แสงสัจจา ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร ขึ้นกล่าวเปิดงาน จากนั้น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติ พร้อมด้วย ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีระ เวชชาชีวะ ประธานคณะทายาทตระกูลเวชชาชีวะ มอบของที่ระลึกแด่สถาบันบำราศนราดูร มี ศ.เกียรติคุณ นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้มอบทุนสนับสนุนการศึกษาต่อเนื่องสำหรับบุคลากรสถาบันบำราศนราดูร และ วิทยา เวชชาชีวะ มอบหนังสือ “บำราศนราดูร นามนี้มาแต่ใด” แด่สถาบันฯ นอกจากนี้ภายในงานจัดนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาให้แขกเหรื่อได้ชมอีกด้วย

พระบำราศนราดูร (บำราศ นามเดิม หลง เวชชาชีวะ) เกิดที่ จังหวัดจันทบุรี เมื่อ 28 พฤษภาคม 2439 เป็นบุตรของนายแสงและนางชุมพร เวชชาชีวะ มีพี่น้อง รวม 4 สมรสกับ คุณหญิงบำราศนราดูร ท.จ. (สุภาพ สกุลเดิม สัจวานิช เวชชาชีวะ) มีบุตรชาย 2 คน คือ เสรี คนเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนวัดจันทนาราม และบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดนั้นจนอายุได้14 ปี เข้าศึกษาวิชาแพทยศาสตร์ที่โรงเรียนราชแพทยาลัยจนจบหลักสูตรเป็นแพทย์ประกาศนียบัตรในปี 2457 เป็นแพทย์รุ่นที่ 2 ของประเทศไทย ผลงานที่โดดเด่นเมื่อได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ มีส่วนร่วมโดยตรงในการก่อตั้งโรงพยาบาลโรคติดต่อขึ้นใหม่ ซึ่งคณะรัฐมนตรี มีมติให้ตั้งชื่อว่าโรงพยาบาล “บำราศนราดูร” ตามราชทินนามของบุคคลผู้นั้น ทั้งๆ ที่ท่านเจ้าของนามนั้นได้ท้วงติงขอไม่รับเกียรติยศเช่นนั้นตั้งแต่แรก จนได้รับเป็นผู้รับพระราชทานนามสกุล “เวชชาชีวะ” เมื่อปี 2462 และรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้า ในวันฉัตรมงคล 5 พฤษภาคม 2509 นับเป็นเกียรติยศอันสูงสุดสำหรับพระบำราศนราดูรและวงศ์ตระกูล

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

50 ปี โรงเรียนดนตรียามาฮ่า เวที Yamaha Thailand Music Festival ตอบโจทย์เยาวชนดนตรีก้าวสู่ Trends in Music Education in Thailand

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/218037

วันจันทร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ความสำเร็จของแชมป์กีตาร์

เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ศาลาดนตรีสุริยเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต ในโอกาส 50 ปี โรงเรียนดนตรียามาฮ่า Yamaha Thailand Music Festival เวทีแห่งความสำเร็จของนักเรียนโรงเรียนดนตรี ยามาฮ่า เปิดโลกแห่งเสียงดนตรีที่สมบูรณ์แบบที่สุดภายใต้หลักสูตร Yamaha Music Worldwide Education System เอกลักษณ์หนึ่งเดียวจาก Yamaha Music Foundation ประเทศญี่ปุ่น แสดงความสัมฤทธิผลยอดเยี่ยมของหลักสูตร Yamaha

ปิดฉากลงอย่างงดงามกับความสุขทุกอณูดนตรีกับเวที Yamaha Thailand Music Festival 2016 กิจกรรมของนักเรียนโรงเรียนดนตรียามาฮ่าในเครือข่ายทั่วประเทศ โชว์ทักษะดนตรีไม่แพ้เยาวชนชาติใดในโลกโดยผู้ชนะเลิศรับถ้วยประทานพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ได้แก่ ประเภท Yamaha Band Challenge, Junior Piano Solo, Piano Duet ฯลฯ

พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ได้แก่ ประเภท Junior Electone Solo, Electone Ensemble Idol, Electone Team Talent ฯลฯ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ได้แก่ ประเภท Classical Guitar, Guitar Ensemble, Acoustic Guitar Band, Violin Ensemble, Singing for Kids เป็นต้น

Yamaha Thailand Music Festival จัดโดยสถาบันดนตรียามาฮ่า (สยามกลการ) สานฝันนักดนตรีรุ่นเยาว์ จัดมานานกว่า 48 ปี ทางเลือกของคนรุ่นใหม่ ได้มีเวทีโชว์อิสระทางดนตรีของนักเรียนโรงเรียนดนตรียามาฮ่า ในเครือข่ายทั่วประเทศ ซึ่งปีนี้ ได้รับความสนใจจากเยาวชนกว่า 2,500 คน ที่เรียนดนตรีศึกษาหลักสูตร Yamaha ร่วมสร้างความสุข พัฒนาระบบความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานดนตรีชั้นเยี่ยม ควบคู่กับการพัฒนาเยาวชนไทยก้าวสู่การเป็น Trends in Music Education in Thailand ผลิตนักศึกษาที่มีศักยภาพและคุณภาพทัดเทียมกับชาติอื่นๆ

บทพิสูจน์ ความสำเร็จของหลักสูตร “ยามาฮ่า” คือ การมีส่วนพัฒนาดนตรีศึกษามีส่วนจุดประกายความคิดในการสร้างผลงานดนตรี สร้างอาชีพ สร้างรายได้แก่ศิลปิน นักดนตรีระดับมืออาชีพจำนวนมาก และร่วมพัฒนาสังคมด้วยการเสริมสร้างเยาวชนมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับดนตรีอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

อวดโฉมใหม่ สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิ เอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม ไลฟ์สไตล์ สเปเชี่ยลตี้ สโตร์ ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/218035

วันจันทร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ผู้บริหารสยามพิวรรธน์ ร่วมฉลองงานแกรนด์โอเพ่นนิ่งสยามดิสคัฟเวอรี่ ดิ เอ็กซ์พลอราทอเรี่ยมสุดอลังการ

ยิ่งใหญ่สมการรอคอย กับการอวดโฉมใหม่ของ “สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิ เอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม” ไลฟ์สไตล์ สเปเชี่ยลตี้ สโตร์ ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ซึ่งพลิกโฉมให้เป็นมากกว่าศูนย์การค้า แต่เปรียบเสมือน The Biggest Arena of Lifestyle Experiments สนามทดลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งชฎาทิพ จูตระกูล บอสใหญ่ สยามพิวรรธน์จับมือกับ เนนโดะ ทีมออกแบบชื่อดังจากญี่ปุ่น เนรมิตงานแกรนด์โอเพ่นนิ่งสุดอลังการ แบบไม่ซ้ำใคร อัดแน่นด้วยไอเดียสร้างสรรค์ ผ่านเทคโนโลยีอินเตอร์แอ๊กทีฟ และนวัตกรรมสุดล้ำ ให้คนรุ่นใหม่หัวใจแรงได้ดื่มด่ำกับผลงานศิลปะ และงานอินสตอลเลชั่นฝีมือศิลปินนักออกแบบระดับโลก ณ ดิสคัฟเวอรี่ พลาซ่า สยามดิสคัฟเวอรี่ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

แค่เริ่มงานเหล่าบรรดาเซเลบริตี้คนดังที่ตบเท้ามาร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างคับคั่งพร้อมได้ตื่นตาตื่นใจไปกับพิธีเปิดสุดตระการตา ด้วยเทคโนโลยีแสง สี เสียงระดับอินเตอร์ เพื่อเปิดตัว “ดิสคัฟเวอรี่แมน” หุ่นคาแร็กเตอร์ดีไซน์ไซส์ยักษ์ สูงกว่า 5 เมตรสัญลักษณ์ของสยามดิสคัฟเวอรี่โฉมใหม่ ซึ่ง มร.โอกิ ซาโตะ หัวหน้าทีมเนนโดะ ในฐานะหัวหน้าที่ปรึกษางานออกแบบอาคารและงานออกแบบตกแต่งภายในสยามดิสคัฟเวอรี่ ออกแบบให้มีหัวเป็นรูปกล่องสี่เหลี่ยม สื่อถึงความพร้อมในการเปิดรับสิ่งใหม่ ก่อนที่จะเปิดประตูให้เข้าไปเยี่ยมชมภายในอย่างเป็นทางการ

ซึ่งนอกจากจะได้เพลิดเพลินกับสินค้าหลากหลายหมวดหมู่ที่มีอยู่กว่า 5,000 แบรนด์ อาทิ ของใช้ประจำวัน, สินค้านำเทรนด์, สินค้าและบริการนวัตกรรมล่าสุด, สินค้าที่สร้างสรรค์จากแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อม และสินค้ารูปแบบคอลลาโบเรชั่นและแอ๊บโซลูทสยาม เอาใจเหล่านักช็อปด้วยปรากฏการณ์ “ครั้งแรก” กับการนำแบรนด์ดังมาเปิดตัวครั้งแรกในโลก ครั้งแรกในภูมิภาค และครั้งแรกในเมืองไทย

ภายในงานพบกับนิทรรศการจากศิลปินระดับโลก ได้แก่ นิทรรศการ “Social Discovery Interactive” ที่ได้จับมือกับ
Black Egg ทีมนักออกแบบชื่อดังจากนิวยอร์ก นำแรงบันดาลใจจากความคลั่งไคล้ตัวตนของคนรุ่นใหม่บนโลกโซเชียลมาสร้างสรรค์เป็นนิทรรศการแบบอินเตอร์แอ๊กทีฟสุดล้ำ ด้วยอุโมงค์ไทม์ไลน์ชีวิต ที่จะนำรูปถ่ายทั้งในอดีตและปัจจุบันของผู้ใช้อินสตาแกรม มาเรียงร้องบนจอภาพนับร้อยจอ พร้อมทั้งวิเคราะห์ตัวตนของแต่ละคน ก่อนที่นำมาทำเป็นโฟโต้โมเสก เป็นพิกเซลเล็กๆ ฉายบนจอแอลอีดีขนาดยักษ์ “Nendo’s Exhibition” แสดงผลงานการออกแบบชั้นยอดของเนนโดะ

โดย มร.โอกิ ซาโตะ จะพาทุกคนท่องไปในโลก “designed by nendo” ผ่านการคัดสรรบรรจงจัดวางในกล่องแห่งไอเดีย เป็นนิทรรศการที่ทำหน้าที่เป็นอินทีเรียดีไซน์ ลักษณะแกลเลอรี่แนวตั้ง จัดวางให้ลอยอยู่กลางอากาศอย่างโดดเด่นในพื้นที่โล่งใจกลางสยามดิสคัฟเวอรี่ ผู้ชมสามารถชื่นชมผลงานได้จากหลากหลายมุมมอง จนทุกคนต้องตกตะลึง “Discovery Man Exhibition” ซึ่ง มร.โอกิ ซาโตะ ได้จับมือกับ 25 ศิลปินดังทั่วเอเชีย ร่วมคอลลาโบเรชั่น ออกแบบตกแต่งดิสคัฟเวอรี่แมนในดีไซน์เฉพาะตัว

ความพิเศษของสยามดิสคัฟเวอรี่ดิ เอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม ยังเน้นให้ความสำคัญต่อการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยทุกกระบวนการคิดในทุกมิติ จะคำนึงถึง Sustainability นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมหลากหลายสำหรับบุคคลที่ใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ แคมเปญการมอบเงินสมทบทุนให้แก่มูลนิธิโลกสีเขียว โดยทุกบิลการจับจ่ายของลูกค้าที่ช็อปปิ้งตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไปสยามดิสคัฟเวอรี่จะสมทบทุนจำนวน 10 บาท ให้แก่มูลนิธิโลกสีเขียว, โครงการ “Design Select : Run for Another Life” ชวนนักวิ่งทุกคนร่วมกันเปลี่ยนพลังแห่งการวิ่ง

เป็นพลังแห่งการพัฒนาพื้นที่สีเขียว โดยชวนทุกคนมาร่วมวิ่งสะสมระยะทางทุกๆ 500 เมตร สยามดิสคัฟเวอรี่จะมอบเงิน 10 บาท ให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ในการทะนุบำรุงสวนลุมพินี ปอดใจกลางเมืองของคนกรุง และแคมเปญการรณรงค์ลดการใช้ถุงที่มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ร่วมโครงการ นับเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่พร้อมจะเป็นเพื่อนสำหรับทุกคน รวมถึงเป็นเพื่อนกับสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

วันคล้ายวันสถาปนา สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ครบรอบ 53 ปี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/217665

วันศุกร์ ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ครบรอบ 53 ปี งานนี้ พล.ท.ถเกิงกานต์ ศรีอำไพ ประธานกรรมการบริหารสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณประโยชน์แก่ วว. และพนักงานผู้ทำคุณประโยชน์แก่ วว. และพนักงานที่ปฏิบัติงานครบ 20 ปี และ 30 ปี พร้อมมอบทุนการศึกษาแก่บุตร พนักงาน, ลูกจ้าง วว. โดยมี ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ขึ้นกล่าวต้อนรับ ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคารถ่ายทอดเทคโนโลยี วว. เทคโนธานี จ.ปทุมธานี เมื่อวันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2559

งานนี้มีผู้ที่ได้รับโล่เกียรติคุณ (สีทอง) และพนักงานที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณ ประจำปี 2558 ได้แก่ ผาณิต พูนศิริวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท หนังสือพิมพ์แนวหน้า จำกัด ที่ให้ความอนุเคราะห์ในการจัดทำคอลัมน์ “วิทยาศาสตร์สำหรับเยาวชน” และประชาสัมพันธ์ผลงานของ วว. เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5.2 ล้านบาท, พญ.พาสิริ สิทธินามสุวรรณ อาจารย์แพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ให้ความอนุเคราะห์ในการศึกษาขั้นคลินิกของสมุนไพร สกุลเบญจมาศ และสกุลเสาวรส ให้กับฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ คิดเป็นมูลค่า 1.47 ล้านบาท พร้อมผู้มีอุปการคุณที่ได้รับประกาศนียบัตรเกียรติคุณ แก่ Mr.Justin Pau ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด, เกรียงศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด, นายกสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย และ มอบโล่เกียรติคุณ (สีเงิน) แก่ ดร.ทักษิณ อาชวาคม ผู้อำนวยการสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช และมอบประกาศนียบัตรเกียรติคุณและเข็มกลัดทองคำฝังเพชรให้แก่ พนักงานที่ปฏิบัติงานครบ 20 ปี และ 30 ปี

นอกจากนี้ในงานยังมีนิทรรศการ “สัปดาห์ค่านิยมวัฒนธรรมและความผูกพัน และการประชาสัมพันธ์งาน TISTR In-novative Organization Week 2016” เพื่อแสดงให้เห็นว่า วว. ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนค่านิยม และวัฒนธรรมองค์กรในด้านของการสร้างนวัตกรรม ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกภาคส่วน เป็นบุคลากรที่มีองค์ความรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความทุ่มเทในการปฏิบัติงานทำให้เกิดความสัมฤทธิผลในการสร้างนวัตกรรม อันจะนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าของ วว.

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

แฟชั่นนิสต้าเอ-ลิสต์ เจิดจรัสชุดผ้าไทย ในงานประมูลการกุศล Vogue Gala

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/217459

วันพฤหัสบดี ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

สิรี อุดมฤทธิรุจ ผู้บริหารนิตยสาร โว้ก ประเทศไทย พร้อมด้วย กุลวิทย์ เลาสุขศรี บก.บห. ต้อนรับ ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์, ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ, พิพัฒพงศ์ อิศรเสนาณ อยุธยา, ณัฏฐวรรณ ตันหยงมาศ และ ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย

จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 สำหรับงานประมูลการกุศล Vogue Gala 2016 ที่ นิตยสารโว้ก ประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อหารายได้สมทบกองทุน The Vogue Fashion Fund ระดมเงินทุนสนับสนุนดีไซเนอร์ไทยผู้มีความสามารถให้มีโอกาสพัฒนาและต่อยอดในเชิงธุรกิจต่อไป ผ่านโครงการ Vogue Who’s on Next โดยปีนี้ยังคงชูเสน่ห์ผ้าไทยจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯมาออกแบบชิ้นงานมาสเตอร์พีซ จากฝีมือการสร้างสรรค์ของ 14 แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งปิดฉากไปอย่างงดงามท่ามกลางบรรยากาศสวนแห่งประวัติศาสตร์  บ้านปาร์คนายเลิศ

สิรี อุดมฤทธิรุจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซเรนดิพิตี้ มีเดีย จำกัด ผู้บริหารนิตยสาร โว้ก ประเทศไทย กล่าวว่า มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเผยแพร่ศิลปะผ้าไทยไปสู่สายตาชาวโลกและวงการแฟชั่นสากล เพราะในฐานะคนทำงานในวงการแฟชั่น เราเชื่อมั่นในความงดงามของผ้าไทยการประมูลครั้งนี้จึงเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้รับเกียรติจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในการนำผ้าไทยอันงดงามมาให้เหล่าดีไซเนอร์จากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลกออกแบบเป็นชิ้นงานมาสเตอร์พีซ ถือเป็นความพิเศษอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์แฟชั่นไทย โดย โว้ก ประเทศไทย นับเป็นตัวแทนนิตยสารแฟชั่นเพียงหนึ่งเดียวของไทย ที่เป็นสื่อกลางเชื่อมความงามผ้าไหมไทยไปสู่สากล”

ด้าน กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร โว้ก ประเทศไทยเผยว่า “จากการร่วมมือกันตั้งแต่ปีที่แล้วดีไซเนอร์ชาวต่างชาติล้วนชื่นชมและประทับใจที่ได้มีโอกาสสัมผัสผ้าไทยเป็นอย่างมาก เพราะสำหรับดีไซเนอร์ชาวต่างชาติการนำผ้าไทยมาสร้างสรรค์เป็นชิ้นงาน ถือเป็นความท้าทาย บางแบรนด์ให้เกียรติร่วมงานกับเรา ทั้งที่ไม่มีร้านในเมืองไทยด้วยซ้ำ แต่เมื่อเขาได้เห็นหนังสือพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ เกี่ยวกับมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ พวกเขาทึ่งในสิ่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงริเริ่มให้กับประชาชนในการส่งเสริมผ้าไทย ทำให้ดีไซเนอร์ตอบรับร่วมงานกับเราทันที

สำหรับ Vogue Gala สร้างความตื่นตาด้วยการเนรมิตเต็นท์สีขาวขนาดใหญ่ท่ามกลางสถานที่ประวัติศาสตร์อันเป็นมรดกวัฒนธรรมกลางสวนสวย ณ บ้านปาร์คนายเลิศ โดยได้รับเกียรติ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระร่วมงาน พร้อมเหล่าเอ-ลิสต์ ทั้งนักธุรกิจ คนในวงการแฟชั่น ดีไซเนอร์ นางแบบ ช่างภาพและนักแสดงแถวหน้าของวงการกว่า 200 คนต่างเฉิดฉายในอาภรณ์ผ้าไทยหลากสีสัน อาทิ อัจฉรา อัมพุช, พาสินี ลิ่มอติบูลย์, ปิยวรา ทีขะระ,ณัฏฐวรรณ ตันหยงมาศ, นวลพรรณ ล่ำซำ,อุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ, อินทิรา ธนวิสุทธิ์,นพปฎล พหลโยธิน, สินจัย เปล่งพานิช, สิรินยา-ไบรอน บิชอพ, พิชญ์สินี ตันวิบูลย์ และ ฯลฯ ร่วมด้วยนักแสดงท็อปฟอร์มแห่งยุค เขมนิจ จามิกรณ์ และ ดาวิกา โฮร์เน่

สำหรับชิ้นงาน 19 ไอเท็ม จาก 14 แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ทำยอดประมูลรวมทั้งหมดได้ถึง 2,643,000 ล้านบาท โดยชิ้นงานที่ได้รับการประมูลราคาสูงสุด เป็นไปตามคาดหมาย คือ นาฬิกาข้อมือรุ่น Cadenas® ของ Van Cleef & Arpels ตัวเรือนทองคำสายผ้าไหมมัดหมี่บุหนัง และสายหนังจระเข้ที่มาพร้อมกับชุดกระโปรงยาวจากแบรนด์ VATANIKA เริ่มต้นประมูล 600,000 บาทและสิ้นสุด ราคาที่ 770,000 บาท ซึ่งก่อนเริ่มต้นการประมูลเหล่าแขกผู้มีเกียรติจะได้ชมชิ้นงานอย่างใกล้ชิด

จากการจัดแสดงชิ้นงานในรูปแบบนิทรรศการภายในบ้านปาร์คนายเลิศ โดยหนึ่งในผู้ร่วมงานประมูลอย่าง ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่จัดงานในครั้งนี้ด้วย เผยว่าความที่ตัวบ้านไทยมีอายุมากกว่า 100 ปี จึงต้องการนำเสนอความเป็นไทยผ่านตัวบ้านปาร์คนายเลิศออกมาให้มากที่สุด ยิ่งเมื่อโครงการนี้ของโว้กมีความเกี่ยวข้องกับผ้าไทยด้วย จึงมีความยินดีที่มีส่วนสนับสนุนความเป็นไทยออกไปสู่สายตาชาวโลก

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ความสำเร็จ โครงการปลูกถ่ายไต ถวายเป็นพระราชกุศล 60 พรรษาสมเด็จพระเทพฯ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/217458

วันพฤหัสบดี ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ร่วมงานการกุศล ศ.กิตติคุณ นพ.วิศิษฏ์ สิตปรีชา รองประธาน กก.บริหารมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย, ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.สุพัฒน์ วาณิชย์การ เลขาธิการมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย, พญ.ประนอม คำเที่ยง รองปลัดกระทรวสาธารณสุข, รศ.นพ.เกรียงศักดิ์ วารีแสงทิพย์ นายกสมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย, คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี มูลนิธิสิริวัฒนภักดี, ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.พิศิษฐ์ จิรวงศ์ กก.รอง ผจก. ศิริราชมูลนิธิ, ปฏิญญา กนกนาค กรมบัญชีกลาง,ชลอลักษณ์ แก้วพวง ผอ.สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์สำนักงานประกันสังคม,สมาคมโรคไตฯ และ สนง.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย เผยผลสำเร็จ “โครงการปลูกถ่ายไตถวายเป็นพระราชกุศล 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” สามารถผ่าตัดปลูกถ่ายไตให้กับผู้ป่วยถึง 618 ราย ภายใน 1 ปี เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมเดินหน้าต่อยอดโครงการจัดหาผู้บริจาคไตเพิ่ม เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับผู้ป่วยที่รอเปลี่ยนไตจำนวนมาก โดยมี ศ.กิตติคุณ นพ.วิศิษฏ์ สิตปรีชา รองประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย,พญ.ประนอม คำเที่ยง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.สุพัฒน์ วาณิชย์การ เลขาธิการมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย และเคสผู้ป่วยแสดงความรู้สึกหลังปลูกถ่ายไต พร้อมด้วยศิลปินดารา นำทีมโดยเขมนิจ จามิกรณ์ (แพนเค้ก), อะคาเดมี่แฟนเทเชีย, ร.อ.นพ.สรวิชญ์ สุบุญ (หมอก้อง),ดารา/นักแสดง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เข้าร่วมงานการกุศลอย่างคับคั่งณ ห้องประชุมสลากกินแบ่งรัฐบาล ชั้น 9 ตึกกัลยาณิวัฒนา โรงพยาบาลสงฆ์ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ศ.กิตติคุณ นพ.วิศิษฏ์ สิตปรีชา รองประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับหน่วยงานผู้สนับสนุนโครงการจำนวน 12 แห่ง และโรงพยาบาลทั่วประเทศ จำนวน 58 แห่ง จัดทำ “โครงการปลูกถ่ายไตถวายเป็นพระราชกุศล 60 พรรษาสมเด็จพระเทพ” เพื่ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็พระเทพ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา เมื่อวันที่ 2 เมษายนพ.ศ.2558 ที่ผ่านมาโครงการได้ครบกำหนดระยะเวลา 1 ปีในปีนี้ โดยมีผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดปลูกถ่าไตแล้วทั้งสิ้น จำนวน 618 ราย เป็นไตจากญาติ จำนวน 226 ราย เป็นไตจากการบริจาค 392 ราย จากที่มูลนิธิได้ตั้งเป้าถวายเป็นพระราชกุศลไว้ จำนวน 600 ราย

ถือว่าโครงการประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงซึ่งเกิดจากความร่วมมือของหลายๆ ฝ่ายทำให้ยอดผ่าตัดปลูกถ่ายไตเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้รับการปลูกถ่ายไตมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมให้มีการบริจาคไต ตลอดจนอวัยวะอื่นๆเพิ่มมากขึ้น และยังสนับสนุนให้หน่วยงานและสถาบัการแพทย์จัดตั้งโครงการปลูกถ่ายไตเพิ่มมากขึ้น และดำเนินงานมีคุณภาพเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ภายในปี 2559 ทางมูลนิธิมีแผนงานที่จะดำเนินโครงการต่อไป

เพื่อผู้ป่วยโรคไตจำนวนมากที่ยังรอการปลูกถ่ายไตอยู่ซึ่งมูลนิธิโรคไตแห่งประทศไทยจะเดินหน้าสนับสนุนจัดทำโครงการปลูกถ่ายไตให้กับผู้ป่วยที่ยากไร้ต่อไป เนื่องจากการปลูกถ่ายไต(Kidney Transplantation) เป็นการบำบัดทดแทนไตที่ดีที่สุด โดยนำไตที่ยังทำงานได้ดีของผู้อื่น มาปลูกถ่ายใส่ร่างกายของผู้ป่วย เพื่อให้ไตใหม่ที่ทำงานได้ดี จะทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว สามารถประกอบกิจกรรมต่างๆ ได้เหมือนคนปกติ แต่ปัญหาที่พบคือ ระยะเวลาการรอรับอวัยวะยาวนานเนื่องจากจำนวนผู้บริจาคอวัยวะมีจำนวนน้อย

“การบริจาคอวัยวะในประเทศไทยนั้น ดำเนินการโดยศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ซึ่งทำหน้าทีประสานงานให้มีการบริจาคอวัยวะ นำอวัยวะของผู้บริจาคไปปลูกถ่ายยังผู้รอรับบริจาคที่ได้ขึ้นทะเบียนตามลำดับ โดยดูที่ความเร่งด่วน การเข้ากันของอวัยวะ ปัจจุบันยังมีผู้เสียชีวิตจากสมองตาย บริจาคอวัยวะน้อยมากเพียงปีละ80 รายเท่านั้น โดยสถิตตามจำนวนประชากรแล้วประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากสมองตายและบริจาคอวัยวะได้ จำนวนประมาณ 1,000 รายต่อปี ทั้งนี้ผู้บริจาค 1 ราย สามารถนำอวัยวะไปปลูกถ่าย ได้แก่ ไต 2 ข้าง ตับหัวใจ และปอด ให้แก่ผู้รอปลูกถ่ายอวัยวะได้ถึง 3-5 ราย นับเป็นการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ในวาระสุดท้ายของชีวิต และเป็นที่น่ายินดีว่าสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้กำหนดให้การปลูกถ่ายไตเป็นสิทธิที่ผู้ป่วยพึงได้รับ” ศ.กิตติคุณ นพ.วิศิษฏ์ กล่าว

ทั้งนี้โครงการดังกล่าว ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่าย ดังนี้ กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, มูลนิธิท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ, ศิริรามูลนิธิ, มูลนิธิสิริวัฒนภักดี, สำนักงานหลักประกันสุขภาพ, สำนักงานประกันสังคม, กรมบัญชีกลาง, ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย, โรงพยาบาลที่ทำการผ่าตัดลูกถ่ายไตและสนับสนุนอวัยวะ, สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย, สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย, สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์และผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัด ‘นิทรรศการฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗0 ปี พุทธศักราช ๒๕๕๙’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/217278

วันพุธ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ประธานเปิดงาน ฯพณฯ ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี และรองประธานมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กับ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี

“ข้าพเจ้าอยากเห็นชาวนาชาวไร่ มีงานศิลปาชีพพิเศษเป็นอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และเพื่ออนุรักษ์ศิลปะโบราณอันงามวิจิตรของไทย ไว้ให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยงานศิลปาชีพจะดีเด่นเพียงไร ก็อยู่ที่ความขยัน และความประณีต ศิลปะในการออกแบบและฝีมือในการประดิษฐ์ของช่างโดยเฉพาะ” จากพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งตามเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทรงเยี่ยมราษฎรในทุกแห่งหน ทุกภูมิภาคของประเทศไทย ติดต่อกันมานานเป็นเวลาหลายสิบปีสะท้อนถึงน้ำพระราชหฤทัยห่วงใย ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย และความสนพระราชหฤทัยในงานศิลปกรรมพื้นบ้าน งานฝีมือพื้นบ้าน นำมาสู่จุดเริ่มต้นของศูนย์ศิลปาชีพบางไทรในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สถานที่แห่งการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรทั่วทุกภูมิภาค และเป็นสถานที่แห่งการสร้างเอกลักษณ์ให้กับสกุลช่างศิลปาชีพบางไทรฯให้ดำรงไว้สืบไป

และเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี พร้อมเชิดชูและสืบสานงานศิลปาชีพของไทย ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯและศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมจัดงาน “นิทรรศการฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๕๙”โดย ฯพณฯ ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี รองประธานกรรมการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เป็นประธานเปิดงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยรายได้ส่วนหนึ่งทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ โดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อสมทบทุนโครงการศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ โดยงานจัดขึ้นถึงวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2ศูนย์การค้าสยามพารากอน

นิทรรศการครั้งนี้เหล่าคณาจารย์และนักเรียนตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานชิ้นพิเศษ รวมถึงคิดค้นและพัฒนาเทคนิคใหม่ๆซึ่งมีทั้งผลงานศิลปะที่สะท้อนความเป็นไทยแบบดั้งเดิมสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น และงานออกแบบประยุกต์ให้สอดคล้องกับยุคสมัยผสมผสานแบบเก่าและใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ชิ้นงานเด่นที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปีเริ่มจาก แผนกช่างตัดเย็บเสื้อผ้าและปักจักร กับผลงานชื่อภาพ “ล้นเกล้าฯ” ผลงานโดย ประภา เวชวงศ์วาน เป็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เกิดขึ้นจากการวางเรียงกันของเศษผ้าไหมเนื้อดี ที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ ได้รับบริจาคจาก จิม ทอมป์สัน โดยนำเศษผ้าไหมมาย้อมตามสีที่ต้องการ แล้วนำมาม้วนขดเป็นวงกลม และวางเรียงขึ้นเป็นภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขนาด 20×26 นิ้ว ตามต้นฉบับซึ่งเป็นภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี โดยใช้ระยะเวลาในการทำกว่า2 เดือน ซึ่งภาพนี้ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อจำหน่าย แต่จะนำไปจัดแสดงในโอกาสพิเศษต่างๆ เท่านั้น อีกชิ้นงานเด่นได้แก่ ผลงานประติมากรรมเครื่องเคลือบดินเผาชื่อผลงาน “พอเพียง เพียงพอ” ผลงานโดย พนม เสมาทอง หัวหน้าแผนกเครื่องเคลือบดินเผา ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯเป็นงานประติมากรรมเครื่องเคลือบดินเผาที่ได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานมาจากหลักปรัชญาในการครองราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในด้านต่างๆ มาใส่เป็นลายเส้นตัวอักษรบนชิ้นงานตัวรูปทรงเกิดขึ้นจากการนำรูปทรงของเครื่องใช้ในเกษตรกรรมอย่าง งอบ มาเป็นแบบในการขึ้นรูป เพื่อถ่ายทอดองค์ประกอบของธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไทย ที่หลอมรวมออกมาเป็นผลงานสุดวิจิตร จำหน่ายในราคา 20,000 บาท นอกจากนี้ยังมีสุดยอดชิ้นงานอันทรงคุณค่าจากแผนกต่างๆ อีกมากมาย การสาธิตงานหัตถกรรมจากแผนกต่างๆ อาทิ การเขียนลายไทย,การเขียนลายเครื่องเคลือบดินเผา, แผนกจิตรกรรมประยุกต์ และแผนกภาพเขียนสีน้ำมันให้ชมฟรีอีกด้วย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง