เก็บตกงานเกษตรแห่งชาติ ฮือฮา..ควายมูลค่า 5 ล้าน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160316/224148.html

เกษตร-วิทยาศาสตร์-ไอที : ข่าวทั่วไป
วันพุธที่ 16 มีนาคม 2559
เก็บตกงานเกษตรแห่งชาติ ฮือฮา..ควายมูลค่า 5 ล้าน

รู้มา เล่าไป : เก็บตกงานเกษตรแห่งชาติ ฮือฮา..ควายมูลค่า 5 ล้าน : โดย…ดลมนัส กาเจ

                    ผ่านไป 10 วันแล้วสำหรับ “งานวันเกษตรแห่งชาติ” ประจำปี 2559 ซึ่งจัดขึ้นมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์-วันที่ 6 มีนาคม ภายใต้แนวคิด “คนไทยใจเกษตร”
                    ปีนี้ถือเป็นการจัดงานที่สมบูรณ์มาก มีกิจกรรมด้านการเกษตรที่หลากหลายทั้งประชุมวิชาการ การจัดนิทรรศการ เสวนา การประกวด และอื่นๆ อีกมากมาย สร้างความรู้ ประสบการณ์การ ความเพลิดเพลินและสนุกสานให้ผู้ชมงาน โดยเฉพาะในวันที่ 2 มีนาคม ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดการประกวดควายล้านนา ครั้งที่ 1
                    การจัดประกวดควายในครั้ง รศ.ดร.ญาณิน โอภาสพัฒนกิจ คณบดีคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ บอกว่า เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ในเกษตรกรและผู้สนใจทั่วไปได้รู้จักการคัดเลือกควายที่มีลักษณะที่ไว้ขยายพันธุ์ อีกทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการจัดการเลี้ยง การปรับปรุงพันธุ์ การป้องกันและกำจัดโรคระบาดสัตว์ การพัฒนาด้านเทคโนโลยีอาหารสัตว์ และเทคโนโลยีการผลิตควายไทย เป็นต้น
                    ปรากฏว่ามีผู้เลี้ยงควาย เกษตรกร และชมรมอนุรักษ์ควาย จากทั่วประเทศ นำควายเข้าประกวดจำนวนมากกว่า 20 ตัว โดยการประกวดแยกเป็นควายเพศผู้ และควายเพศเมีย ปรากฏว่าควายที่ชนะเลิศเพศผู้คือ ควายชื่อใบหยก อายุ 7 ปี น้ำหนัก 1.2 ตัน เป็นควายของคุณสิริกร มะสิทธิ์ จาก จ.พิษณุโลก ส่วนรางวัลชนะเลิศเพศเมีย ได้แก่ ควายชื่อเจียวกู่หลาน อายุ 5 ปี เป็นควายของคุณสันติสุข ประสิทธิ์ศักดิ์ จาก จ.ลำพูน
                    สำหรับควาย “ใบหยก” เป็นควายที่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดควายไทยมาแล้วมากกว่า 30 สนาม ทำให้ทุกวันนี้ควาย “ใบหยก” มูลค่าถึง 5 ล้านบาททีเดียว ทำให้นึกถึงเพลง “ลุงขี้เมา” ของ “แอ๊ด คาราบาว” ที่เนื้อหาตอนหนึ่งว่า “เกิดเป็นควายดีกว่าคน” ถือเป็นการเปรียบที่มีมูลอยู่บ้าง
                    การจัดประกวดควายในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะจะได้กระตุ้นให้คนไทยเราเห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของควาย เพราะทุกวันนี้ควายในบ้านเราลดจำนวนอย่างน่าใจหาย เนื่องจากเกษตรกรหันมาใช้เครื่องจักรกลการเกษตรแทนแรงงานควายเกือบ 100% ควายก็เลยหมดความสำคัญ ควายที่เหลือโดยเฉพาะเพศเมีย แม้แต่ควายท้อง และควายอายุน้อยยังนำมาบริโภคมากขึ้น
                    ท่านรองสรวิศ “นสพ.สรวิศ ธานีโต” รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เคยเล่าให้ฟังว่า ในแต่ละปีควายถูกฆ่าเพื่อบริโภคปีละกว่า 2 แสนตัว ขณะที่มีลูกควายเกิดปีละประมาณ 1.5 แสนตัวเท่านั้น นอกจากนี้ไทยยังมีการส่งออกควายมีชีวิตทั้งเพศผู้และเพศเมียไปต่างประเทศ อาทิ จีน และกลุ่มอาเซียนปีที่แล้วถึง 1,624,919 ตัว
                    ทุกวันนี้มีเกษตรกรผู้เลี้ยงควายลดเหลือ 185,000 ราย จากเดิมปีที่แล้วยังมีอยู่ 393,352 ราย ถ้าปล่อยเป็นเช่นนี้ควายไทยอาจสูญพันธุ์ได้ครับ !
——————-
(รู้มา เล่าไป : เก็บตกงานเกษตรแห่งชาติ ฮือฮา..ควายมูลค่า 5 ล้าน : โดย…ดลมนัส กาเจ)

ชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160302/223365.html

เกษตร-วิทยาศาสตร์-ไอที : ข่าวทั่วไป
วันพุธที่ 2 มีนาคม 2559
ชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่ง

รู้มา เล่าไป : ชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่ง : โดย…ดลมนัส กาเจ

                      เปิดเรียบร้อยแล้วครับ งาน “เทศกาลชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่ง” ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม โดยมี รศ.ดร.วิโรจ อิ่มพิทักษ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นประธานเปิดงาน เมื่อ 4 วันก่อน โดยมี ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้บริหาร ร่วมอย่างคับคั่ง
                      การจัดงาน “เทศกาลชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่ง” ครั้งนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงคราม และสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม ได้ร่วมจัดขึ้นมา โดยปัจจุบันทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้บรรจุอุโมงค์ชมพูพันธุ์ทิพย์ ณ ถนนวัฒนา เสถียรสวัสดิ์แห่งนี้ ไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยวของประเทศไทยด้วย ถือเป็นการสอดคล้องตามนโยบาย Green University หรือมหาวิทยาลัยสีเขียว ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนกิจกรรมในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวนั้น หลากหลายมากครับ อาทิ การจัดบริการรถไบโอดีเซล นำเที่ยวถนนชมพูพันธุ์ทิพย์และชมศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ ภายในวิทยาเขตกำแพงแสน ตามโครงการเที่ยวไม่ไกลไปกำแพงแสน การจัดบริการรถจักรยานเพื่อให้ยืมปั่นชมความงามตลอดเส้นทาง การจำหน่ายของที่ระลึก และต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ เพื่อนำไปเป็นที่ระลึกและนำไปปลูก นอกจากนี้นิสิตและบุคลากรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนทุกคน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนอีกด้วย
                      ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือตาเบบูญ่าสีชมพู (Pink Trumpet) บนถนนชมพูพันธุ์ทิพย์ มาจากวิสัยทัศน์ของ ศ.ระพี สาคริก อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คนที่ 7 และ ศ.ดร.วัฒนา เสถียรสวัสดิ์ รองอธิการบดีวิทยาเขตกำแพงแสนคนแรก ได้มีนโยบายเรื่องการปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อบังลม และเพื่อความร่มรื่นสวยงาม โดยปลูกทั้งสองฟากถนนต่างๆ ในวิทยาเขตกำแพงแสน คือ ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ (Tabebuia rosea Dc.)
                      สำหรับต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่ว่านี้ ศ.ระพี นำมาจากประเทศสิงคโปร์ และมีการปลูกในปี พ.ศ.2520 ตั้งแต่ประตูทางเข้าถนนชลประทาน ผ่านหน้าโรงเรียนสาธิตฯ ไปสุดท้ายด้านหลังแปลงปลูกอ้อยของภาควิชาพืชไร่ คณะเกษตร กำแพงแสน ติดถนนจันทรุเบกษา
                      ที่ผ่านมามีการดูแล ปลูกซ่อมแซมทดแทนมาโดยตลอด ปัจจุบันมีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์บนถนนวัฒนา เสถียรสวัสดิ์ ทั้งสิ้น 407 ต้น ขึ้นเรียงรายตลอดแนวทางยาว 2.8 กิโลเมตร บนถนนวัฒนา เสถียรสวัสดิ์ (ชมพูพันธุ์ทิพย์) มาถึงปีนี้มีอายุ 38 ปี
                      หากใครไปสัมผัสจะพบว่าถนนเส้นนี้ถือเป็นถนนสายสีชมพูที่สวยที่สุดของประเทศไทย ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ขอเชิญประชาชนร่วมงานเทศกาลชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2559 ครับ
———————–
(รู้มา เล่าไป : ชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่ง : โดย…ดลมนัส กาเจ)

‘ถั่วแขกสีม่วงสิรินธร เบอร์ 1’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160224/222919.html

เกษตร-วิทยาศาสตร์-ไอที : ข่าวทั่วไป
วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559
'ถั่วแขกสีม่วงสิรินธร เบอร์ 1'

รู้มา เล่าไป : ‘ถั่วแขกสีม่วงสิรินธร เบอร์ 1’ : โดย…ดลมนัส กาเจ

                      นับเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกพืชผักสวนครัว ซึ่งเมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา ทางกรมวิชาการเกษตรได้ออกหนังสือรับรอง สำหรับพันธุ์พืช “ถั่วแขก” ตามมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ยื่นหนังสือขอรับรองพันธุ์พืชขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 กับกรมวิชาการเกษตร เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2558
                      ถั่วแขกที่ว่านี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ ไปยังศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
                      เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 และได้พระราชทานนามว่า “ถั่วแขกสีม่วงสิรินธร เบอร์ 1”
                      สำหรับ “ถั่วแขกสีม่วงสิรินธร เบอร์ 1” เป็นถั่วฝักยาวสำหรับบริโภค มีลักษณะการเจริญเติบโตแบบขึ้นค้าง ใบ เป็นแบบสามเหลี่ยม ใบมีสีเขียวแต้มม่วง ใบย่อยส่วนปลายมีความกว้าง 10.5 ซม.และยาว 13.25 ซม. ก้านใบมีสีม่วง ด้านหลังใบและท้องใบมีขนเล็กน้อย ดอก/ช่อดอก มีตำแหน่งข้อที่ดอกแรกบานพบข้อที่ 4-5 สีกลีบคู้ข้างและสีกลีบกลางมีสีม่วง
                      ฝักและเมล็ด มีลักษณะเป็นฝักสดสีม่วง รูปร่างปลายฝักแหลม มีความยาวประมาณ 14.50 ซม. มีความกว้างฝักประมาณ 0.89 ซม. น้ำหนักฝักประมาณ 8.17 กรัม ลักษณะฝักโค้งเล็กน้อย ผิวฝักเรียบ รูปร่างเมล็ดเป็นรูปไต เมล็ดมีสีครีมลายกระ สีขั้วเมล็ดสีครีม จำนวนเมล็ดต่อฝัก 8-10 เมล็ด น้ำหนัก 100 เมล็ดเท่ากับ 21.98 กรัม มีอายุการเก็บเกี่ยวเพียง 45 วันจัดอยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE
                      เป็นถั่วที่ได้มาจากการผสมข้ามระหว่างถั่วแขกสายพันธุ์แม่ CMB001 กับสายพันธุ์พ่อ CMB013 ซึ่งเป็นพันธุกรรมจากแหล่งรวบรวมพันธุ์ถั่วแขกของสาขาพืชผัก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ลักษณะสายพันธุ์แม่จะเป็นถั่วแขกเลื้อย ฝักกลม สีเขียว ให้ผลผลิตสูง ออกดอกเร็ว ส่วนสายพันธุ์พ่อ เป็นถั่วแขกพันธุ์พุ่ม ฝักกลม ปลายเรียวแหลม ฝักมีสีม่วงเข้ม ผลผลิตต่ำ ทำการผสมข้ามเมื่อปี 2551 ณ สำนักฟาร์ม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ปลูกคัดเลือกจำนวน 7 รอบ ได้ถั่วแขกที่มีลักษณะคงที่ทางพันธุกรรม
                      จากนั้นทำการปลูกทดสอบรวมกับสายพันธุ์อื่นๆ เพื่อเก็บข้อมูลลักษณะประจำพันธุ์ ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในปี 2557-2558 ได้นำไปปลูก ณ ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
                      สมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เคยเล่าว่า ถั่วชนิดนี้เป็นพันธุ์พืชที่คิดค้น ปรับปรุง และพัฒนาพันธุ์โดยนักวิจัยของหน่วยงานทั้งภาครัฐ-เอกชน และเกษตรกร เจ้าของหรือนักปรับปรุงพันธุ์พืชสามารถขอให้กรมวิชาการเกษตรให้การรับรองเป็นพันธุ์พืชขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 ได้
                      ทั้งนี้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของพันธุ์ที่คิดค้นได้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้มีการคิดค้น และปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่ๆ ให้เป็นเกียรติประวัติแก่ผู้ปรับปรุงพันธุ์พืช อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคเกษตรของประเทศไทยต่อไปครับ!
——————–
(รู้มา เล่าไป : ‘ถั่วแขกสีม่วงสิรินธร เบอร์ 1’ : โดย…ดลมนัส กาเจ)