ประวัติศาสตร์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05125151059&srcday=2016-10-15&search=no

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 29 ฉบับที่ 633

วิถีชาวบ้าน

อาจินต์ ศิริวรรณ

ประวัติศาสตร์

มีคนกล่าวว่า “รู้ประวัติศาสตร์ เพื่อรู้อดีต เพื่อเข้าใจอนาคต” เป็นประโยคที่ติดหูมานาน แต่ไม่รู้ว่าประโยคนี้มาจากปากของใคร และใครเป็นคนบอกต่อ

เมื่อได้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ หลายๆ เล่ม ก็เห็นคล้อยไปกับประโยคนี้

หลายเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต มันหมุนย้อนกลับมาซ้ำๆ อยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ต่างกัน ที่เวลา และผู้คน

จึงมีประโยคว่า “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”

นักประวัติศาสตร์ทุกท่าน ต่างสืบค้นอดีต เพื่อหาคำตอบที่สะท้อนข้อเท็จจริงจากอดีตให้ได้ถูกต้องมากที่สุด จากหลักฐานที่ปรากฏ

แต่ในความเป็นจริง ไม่มีนักประวัติศาสตร์ท่านไหน สามารถบอกได้ว่าข้อเท็จจริงที่ถูกต้องที่สุดคืออะไร

นักประวัติศาสตร์แต่ละท่าน ต่างท่านต่างมีกระบวนการการศึกษา และการใช้เหตุผลในการสืบค้นความจริง ความถูกต้องของหลักฐาน

ประวัติศาสตร์ ไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่ตำนาน หรือเรื่องบอกเล่าต่อๆ กันมา ที่เลื่อนลอยแต่ประวัติศาสตร์ต้องมีหลักฐานอ้างอิง

ยังมีอยู่อีกประโยคหนึ่งว่า “ผู้ชนะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์” ตามที่ได้อ่าน และเรียนรู้

คนเขียนประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ผู้ชนะเสมอไป

“ผู้ชนะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์” ประโยคนี้ คนที่พูดน่าจะมีอคติกับประวัติศาสตร์ เพราะประวัติศาสตร์ ไม่ได้บันทึกจากคนๆ เดียว ต้องอ่าน ต้องเรียนรู้ จากนักประวัติศาสตร์จากหลายๆ ท่าน หลายๆ สำนัก

ครั้งอยู่ชั้นประถมศึกษา ตอนสมัยเรียนวิชาประวัติศาสตร์ เล่มแรกๆ ในตำราเรียน ของกระทรวงศึกษาธิการ

ด้วยเทคนิคการสอนของคุณครู ที่ท่านสอนด้วยลีลาเหมือนการเล่านิทาน มีอารมณ์ร่วมไปกับเนื้อหาในวิชาที่ท่านสอน ทำให้กลายเป็นคนชอบอ่าน ชอบจะเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ทั้งในตำราเรียนและนอกตำราเรียน มาจนถึงปัจจุบัน

ได้มาอ่าน…

กบฎบวรเดช : เบื้องแรกปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม 2475 เขียนโดย ณัพล ใจจริง พิมพ์โดย สำนักพิมพ์มติชน

จากการที่เคยได้เรียนรู้เพียงเล็กน้อย แคบๆ ในบางช่วง บางตอน บางเหตุการณ์ ในเหตุการณ์ กบฎบวรเดช พอมาอ่านหนังสือเล่มนี้ ทำให้ความรู้กว้างขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

ประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น จากหนังสือเล่มนี้ มีหลักฐาน ที่ใช้อ้างอิงใหม่ๆ น่าสนใจ

แม้เหตุการณ์ กบฎบวรเดช จะเกิดขึ้นมานานกว่า 80 ปี แล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีอะไรที่นักประวัติศาสตร์ต้องศึกษา และค้นหาความจริง กันต่อไปในอนาคต

กบฎบวรเดช : เบื้องแรกปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม 2475

หนังสือเล่มนี้ ยังมีความท้าทายการเขียนประวัติศาสตร์นิพนธ์การเมืองไทยที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์ ตีความเหตุการณ์กบฎบวรเดชใหม่ เพื่อคนอ่านและสังคมได้ความรู้ใหม่ๆ และเรียนรู้ประสบการณ์จากอดีตสู่อนาคต

เพื่อการอยู่ร่วมกันด้วยสันติภาพ

กบฎบวรเดช : เบื้องแรกปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม 2475 จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์มติชน ขายในราคา 230 บาท

จำหน่ายโดย บริษัท งานดี จำกัด (ในเครือมติชน) โทรศัพท์ (02) 580-0021 ต่อ 3350, 3351

หรือจะสอบถามโดยตรง ได้ที่ สำนักพิมพ์มติชน เบอร์โทรศัพท์ (02) 580-0021 ต่อ 1232, 1242, 1246

เรื่อง – ดอกเห็ด

คอลัมน์ – กวีชาวบ้าน

โดย – จวน ชูส่งแสง

สูดดม ลมดี บริสุทธิ์

จากจุด ชมวิว หวิวหวิวไหว

เหนือลิบ พริบพราย สบายใจ

ต่ำไป แปลกตา ปู่ย่าเรา

ตาฉาย ยายฉิม เคยเก็บเห็ด

เพลิดเพลิน เดินเด็ด เห็ดตับเต่า

ต้มเกลือ เจือกัน มันไม่เบา

ชายเขา ดอกหนา ราคาดี

แต่ออก ดอกใหญ่ ใครปลูกผ่าน

ดอกบาน คล้ายเห็ด เด็ดรุกที่

ชายเขา โปร่งตา กว่าทุกปี

สวนสี แสงเสียง ร้านเรียงราย

วันวาร ผ่านป่วน สวนอาหาร

สวนยา โบราณ พานห่างหาย

พิษดอก เห็ดเมือง เฟื่องกำจาย

กลิ่นอาย ผัดฉ่า น่าห่วงใย

เสียดาย ยามฉิม เคยเก็บเห็ด

เคยเพลิน เดินเด็ด ดอกใหญ่ใหญ่

เรื่องเห็ด ตับเต่า เล่ากันไป

ภาพจำ ติดใจ ในนิทาน

อดีตร่วงโรย ที่โหยหา

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05125010359&srcday=2016-03-01&search=no

วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 618

วิถีชาวบ้าน

อาจินต์ ศิริวรรณ

อดีตร่วงโรย ที่โหยหา

คนเราเมื่อมีอายุมากขึ้น แทบจะทุกคนมักหวนย้อนนึกถึงเรื่องราวเก่าๆ โหยหาหาอดีตที่อยู่ในความทรงจำ เมื่อครั้งวันวานของวัยเยาว์

ข้าพเจ้าก็เช่นกัน

เมื่อมาถึงวัยนี้ ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเข้ามาในชีวิตมากมายทั้งสังคมและส่วนตัว

จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ความรู้สึกที่มีต่อเรื่องที่ผ่าน ยังดีกว่าความรู้สึก ณ ปัจจุบันกาลมากมายนัก

ความทรงจำในอดีต จะผุดพรายขึ้นมาทุกครั้งที่เจอกับความสับสนวุ่นวายทางความคิด

ภาพของวัยเยาว์ที่กำลังมีความสุข ความอบอุ่นกับครอบครัว เครือญาติ และกับชุมชนเล็กๆ ที่บ้านเกิด ที่มีความเอื้ออาทร การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปัน การช่วยเหลือซึ่งกัน ในสังคมชนบทเล็กๆ นั้น จะมีให้กันตลอดเวลา

คนในสังคมชนบทหรือแม้แต่ในเมือง เมื่ออดีตนั้น เป็นสังคมที่น่าอยู่น่าอาศัย ไม่แล้งน้ำใจเหมือนคนสมัยนี้ ที่วันๆ มองแต่เรื่องส่วนตัว

การอยู่ร่วมกันในชุมชนแต่เดิมนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นญาติๆ มีกันไม่กี่ตระกูล อาจมีบ้างที่อพยพ ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ หรือสืบทอดบรรพบุรุษกันมา จนนับญาติกันได้ทั้งชุมชน

มีวัดเป็นที่พึ่งพิงพบพาของผู้คนในชุมชน มีคนเฒ่าคนแก่ที่ชาวบ้านเคารพนับถือเป็นผู้นำคอยให้คำแนะนำปรึกษา และมีความเคร่งครัดแม่นยำ ในวัฒนธรรมประเพณี ช่วยตัดสินไกล่เกลี่ย แก้ไขปัญหาต่างๆ ในชุมชน

ยามเจ็บไข้ได้ป่วย ยามเกิดอุบัติเหตุเภทภัย ยามที่โจรขโมยวัว ควาย ข้าวของ ชาวบ้านจะร่วมมือร่วมใจ ช่วยเหลือสืบหา ติดตาม จนได้วัวหรือควายที่ถูกขโมยกลับคืน

สมัยนี้อยู่อย่างตัวใครตัวมัน หรือพึ่งพาความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเท่านั้น

ประเพณีลงแขกคนใต้จะเรียกว่าการออกปาก คือ ไม่ว่าใครเดือดร้อน จะสร้างบ้านหรือลงนา เพียงบอกเพื่อนบ้านว่าจะสร้างวันนั้นจะทำวันนี้ ก็จะมีผู้คนมาร่วมแรงร่วมใจกันจนสำเร็จลุล่วง แล้วก็ร่วมกันกินข้าวพูดคุยกันอย่างอบอุ่น

ปัจจุบัน การลงแขกหรือการออกปาก ไม่มีให้เห็น ใครจะทำอะไร เดือดร้อนอย่างไร เงินเท่านั้นที่ช่วยได้ คือจ้างอย่างเดียว

ความอบอุ่นความสามัคคีในชุมชนจึงมีน้อยลง น้อยลงทุกวัน

ชุมชนในอดีต จะมีคนมีความรู้ความสามารถหลากหลาย บางคนเก่งทางการรักษาโรค บางคนเก่งทางการเพาะปลูก บางคนเก่งทางการเลี้ยงสัตว์ บางคนเก่งทางด้านดนตรีการละเล่นพื้นบ้าน บางคนเก่งทางด้านพิธีกรรมศาสนา

คนเหล่านี้ต่างก็ใช้ความสามารถเพื่อประโยชน์ของชุมชน สร้างความสุขให้ชุมชน โดยไม่ถือเป็นอาชีพที่มีค่าตอบแทน อย่างมากก็มี “ค่าครู” แต่เพียงเล็กน้อย ซึ่งเงินจำนวนนั้น ก็จะนำไปใช้สำหรับเครื่องมือในการประกอบพิธีกรรมเท่านั้น

ศูนย์กลางของคนในชุมชนอยู่ที่วัด พระสงฆ์เป็นผู้นำทางจิตใจ กิจกรรมของส่วนรวมจะทำกันที่วัด งานบุญประเพณี ตลอดจนการละเล่น มหรสพต่างๆ

ยังจำได้ถึงความสุข ความอบอุ่น ที่ได้รับจากชุมชนเล็กๆ นั้น แม้ไม่อาจจะเรียกหาให้กลับคืนมา

ปัจจุบันกาล ความยุ่งยากสับสนในการใช้ชีวิต การแก่งแย่งเพื่อความอยู่รอดของคนในสังคม ความฟุ้งเฟ้อทางด้านวัตถุ ทำให้ต้องละทิ้งชุมชนแห่งอุดมคติแบบดั้งเดิม ละทิ้งธรรมชาติ เพียงหวังความสะดวก ความสุขสบาย ที่ยิ่งไล่มันก็ยิ่งหนี

รักสุขภาพ ต้องอ่าน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05125151258&srcday=2015-12-15&search=no

วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 28 ฉบับที่ 613

วิถีชาวบ้าน

อาจินต์ ศิริวรรณ

รักสุขภาพ ต้องอ่าน

ปรกติไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้สูงวัยเลยสักนิด ด้วยอายุอานามกำลังอยู่ในช่วงวัยทำงาน แต่จากการสังเกตสภาพของร่างกาย ถึงแม้จะออกกำลังกายบ้างด้วยการวิ่งเหยาะๆ หรือทำกายบริหารท่าต่างๆ ตามที่จะทำได้ แต่ก็รู้สึกว่าหลายสิ่งหลายอย่างในร่างกายมันเปลี่ยนไป…

เปลี่ยนไปตามวันและเวลา

หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพจึงไม่เคยหยิบมาอ่าน

แต่พอได้เห็นหนังสือ “พรุ่งนี้ก็ 60 แล้ว” มีหน้าปกเป็นรูปการ์ตูนป้าแก่ๆ น่ารักๆ กำลังออกกำลังกาย จึงหยิบมาดู

ทั้งๆ ที่ยังอีกมีเวลาอีกตั้งเกือบ 10 ปี ถึงจะครบ 60

แต่พอเปิดเข้าไปข้างในเล่ม อ้ะ! นี่มันหนังสือ เพื่อสุขภาพที่ให้ความรู้ในเรื่องอาหารการกินและการออกกำลังกายนี่…ไม่จำเป็นต้องอายุ 60 หรือเกือบๆ 60 ก็อ่านได้

เพราะเพื่อรักตัวเอง จึงอ่าน “พรุ่งนี้ก็ 60 แล้ว” จนจบ

หนังสือเล่มนี้ แม้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่มีอายุหลัก 5 ปลายๆ ไปจนถึง 60 หรือมากกว่านั้น

แต่ขอบอกตรงๆ ว่า คนวัยไหนก็อ่านหนังสือเล่มนี้ได้

อ่านสนุก ได้ทั้งสุขภาพและความรู้ หากนำไปปฏิบัติ

พรุ่งนี้ก็ 60 แล้ว โดย ฐนิต วินิจจะกูล และ รุ่งฉัตร อำนวย เป็นผู้เขียน สำนักพิมพ์มติชน จัดพิมพ์เสนอ ในราคา 195 บาท

ไม่แพงเลย เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า

เป็นคนรักสุขภาพ ต้องซื้อ “พรุ่งนี้ก็ 60 แล้ว” มาอ่าน จะรู้ถึงวิธีการกินอย่างไร ออกกำลังกายอย่างไร ถึงจะดีต่อสุขภาพจริงๆ

ขอนำเสนออีกสักเล่ม “รู้งี้ผอมไปนานแล้ว!” โดย สาธิก ธนะทักษ์ (โค้ชเป้ง)

บอกลาความอ้วนด้วยการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี

รู้งี้ผอมไปนานแล้ว! อธิบายถึงการกิน การออกกำลังกายอย่างไร ถึงจะเหมาะสม เช่น การออกกำลังกายแล้วนั่ง จะทำให้ก้นใหญ่จริงหรือ? กินแต่ผลไม้ ลดน้ำหนักได้จริงหรือ?

อยากผอมหาซื้อมาอ่านกัน ในราคา 200 บาท

หนังสือทั้ง 2 เล่ม จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์มติชน ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ โทรศัพท์ (02) 580-0021 ต่อ 1232, 1242, 1246

จัดจำหน่ายโดย บริษัท งานดี จำกัด โทร. (02) 589-0020 ต่อ 3350-3360

ส่งท้ายด้วย ทางอีศาน ฉบับเดือนธันวาคม ที่เนื้อหายังคงแน่นไปด้วยกรุ่นไออีสาน เล่มนี้ วัฒนธรรมข้าว : ประเพณีสิบสองเดือน หนังขายยา เรื่องเล่าในวัยเยาว์

เข้าไปดูเพิ่มเติมที่ http://e-shann.com/

เรื่อง – นกชีวิต

คอลัมน์ – กวีชาวบ้าน

โดย – ปณิธาน นวการพาณิชย์

เปิดประตูความรู้สึก…

ให้หัวใจผนึกความเข้มแข็ง

เพื่อความรักปรับเปลี่ยนเป็นเรี่ยวแรง

และใจเราได้แสดงแล้วร่วมกัน

หลับอยู่ในทิพย์วิมาน

ทิพย์แห่งอนันตกาล ผ่านผัน

ตื่นทักทายวิญญาณแห่งคืนวัน

นอกหน้าต่างสีสันของดวงตา

ครื้นเครงบทเพลงของใบไม้

อวลแดดไล้เย้าหยอกยิ้มดอกหญ้า

เห่ผสมลมพัดทัศนา

นาฬิกาลมหายใจ ยังไหววับ

ต่อบางคราวสาธกถึงนกชีวิต

เนรมิตนาฏการณ์ให้ขานขับ

ราวเส้นทางคุ้นเคยเอื้อนเอ่ยรับ

ระยิบระยับแสงแห่งหวังทุกครั้งไป

ความรู้สึกเปิดประตู

นกชีวิตยังอยู่ไม่ไปไหน?

ร่ายทำนองของตัวเองบทเพลงไพร

พร้อมจะไกวปีกสู่ ประตูชีวิต!