ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/583264
โดย หมอดื้อ 28 ก.พ. 2559 05:01

บทนี้น่าจะเป็นข้ออ้างของพวกเราหลายๆคนนะครับว่า ที่ร้องเพี้ยน หลง โหยหวน เกิดจากสายใยสมองเรายังไม่สามัคคีกันนัก ไม่ใช่อ่อนซ้อมหรือดำน้ำ หมอและคุณหมอจิตสุภา ตรีทิพย์สถิต สรุปและเรียบเรียงจากเว็บของ New York Academy of Science
ภาวะความบกพร่องของการสำเหนียกระดับเสียง (tone deafness) หรือแนวโน้มที่จะร้องเพลงเสียงหลง (tendency to sing out-of-tune)
สาเหตุที่ทำให้คนทั่วไปร้อง เพลงเสียงหลง อาจสรุปได้ว่าไม่ได้มาจากความผิดปกติเพียงด้านใดด้านหนึ่ง (monolithic defect) เท่านั้น
แต่น่าจะเกิดจากความหลากหลายในรูปแบบของการร้องเพลงในมนุษย์ ซึ่งคนบางกลุ่มในลักษณะที่หลากหลายเหล่านี้อาจมีปัญหาความบกพร่องทางการรับรู้ (impaired perceptual abilities) ความบกพร่องในการแยกแยะและออกเสียงตามระดับเสียงต่างๆตั้งแต่กำเนิด (congenital amusia) พบได้ประมาณ 2-4% ของประชากร ในขณะที่บางส่วนที่เหลือไม่พบความผิดปกติเหล่านี้
การทดสอบร้องเพลงโดยไม่มีดนตรีประกอบ ถือเป็นวิธีการทดสอบความสามารถในการร้องเพลงในคนทั่วไปที่น่าเชื่อถือและปราศจากอคติส่วนบุคคล ซึ่งวิธีการดังกล่าวสามารถบอกความแม่นยำในด้านระดับเสียง (pitch accuracy) และการเว้นช่วงของจังหวะ (temporal accuracy) ได้เป็นอย่างดี
กลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนทั่วไปและกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักดนตรีร้องเพลงที่เป็นที่รู้จักกันดี เช่น เพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ พบว่าโดยรวมไม่มีความแตกต่าง แต่อาจมีบางคนร้องแย่ ซึ่งอาจมีหรือไม่มีความผิดปกติทางด้านการรับรู้ร่วมด้วยก็ได้
การร้องเพลงแย่ (out-of tune singing) นั้นเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้จากความบกพร่องทางการรับรู้ (perceptual deficits) หรือความบกพร่องทางการประสานการควบคุมการเคลื่อนไหวในการออก เสียงร้อง (motor deficits) อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว
โดยพบว่า ในกลุ่มคนทั่วไปที่ร้องเพลงแย่นั้นไม่สามารถเลียนเสียง (imitative vocalization) ได้ แม้ว่าจะไม่มีความผิดปกติทางด้านการรับรู้และแยกแยะระดับเสียง (pitch discrimination) ก็ตาม
จากข้อมูลดังกล่าว นำไปสู่สมมติฐานที่ว่า การที่คนทั่วไปร้องเพลงแย่นั้นมีสาเหตุมาจากความบกพร่องของการทำงานที่ประสานกันระหว่างกระบวนการรับรู้และกระบวนการที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหว (sensorimotor deficit) กล่าวคือ ในกลุ่มคนที่ร้องเพลงแย่นั้นอาจมีกระบวนการแปลงสัญญาณ (mistranslation) ที่ผิดพลาดระหว่างกระบวนการแยกแยะระดับเสียงและการส่งต่อสัญญาณดังกล่าวไปยังสมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการออกเสียง
การศึกษาด้วยเครื่องมือ fMRI ในการศึกษาการทำงานของสมองในกลุ่มที่ร้องเพลงไม่เพี้ยน (accurate singers) และในกลุ่มที่ร้องเพี้ยน (poor pitch (tone–deaf) singers) ในขณะที่กำลังทำการเลียนเสียงที่กำหนด (vocal imitation)
เมื่อทำการวิเคราะห์ผลการศึกษาที่ได้พบว่า กลุ่มเพี้ยน ยังคงมีการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการได้ยิน (auditory areas) ในระดับปกติ ในขณะที่สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว (motor areas) กลับมีลักษณะการทำงานที่ลดลงหรือผิดปกติไป ซึ่งในที่นี้รวมถึงสมองส่วนที่ควบคุมการทำงานของกล่องเสียง (larynx motor cortex, posterior cerebellum และ supplementary motor area)
ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่า การร้องเพลงแย่นั้นมีสาเหตุมาจากความผิดปกติบางประการในกระบวนการเชื่อมโยงประสานงานระหว่างสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินซึ่งเป็นปกติและสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวเพื่อการออกเสียงของกล้ามเนื้อกล่องเสียง
จากการวิจัยร้องเพี้ยนนำไปขยายผลต่อยอดเพื่อการศึกษากระบวนการรับรู้ (cognition) ที่เกิดภายในสมองของมนุษย์อย่างแพร่หลาย เนื่องจาก ดนตรีนั้นสัมพันธ์กับการทำงานของสมองในหลายๆ ส่วนที่มีหน้าที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นการรับรู้ (perception และ cognition), การเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมต่างๆ (action), อารมณ์ (emotion), การเรียนรู้ (learning) และการเกิดความจำ (memory)
ในปัจจุบันพบว่า มีข้อมูลการศึกษาและค้นพบใหม่ๆในสาขาวิชาซึ่งเกี่ยวข้องกับการนำดนตรีมาใช้เพื่อบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพของสมองที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก.
หมอดื้อ


























