หนังชนโรง : เตรียมพบกับความมันส์ ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่จากฝั่ง DC ‘Supergirl ซูเปอร์เกิร์ล’

หนังชนโรง : เตรียมพบกับความมันส์ ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่จากฝั่ง DC ‘Supergirl  ซูเปอร์เกิร์ล’

หนังชนโรง : เตรียมพบกับความมันส์ ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่จากฝั่ง DC ‘Supergirl ซูเปอร์เกิร์ล’

วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

DC Studios ภูมิใจเสนอภาพยนตร์  “Supergirl  ซูเปอร์เกิร์ล”  ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่ที่เตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงหน้าร้อนปีหน้า ผลงานการกำกับของ เครก กิสเลสปี้”

นำแสดงโดย มิลลี่ อัลค็อก”  ในบทบาทคู่ของ ซูเปอร์เกิร์ล หรือ คารา ซอร์เอล ผู้กำกับ  “เคร้ก กิสเลสพี” จากบทภาพยนตร์ของ อนา โนเกียรา”  เมื่อศัตรูที่ไม่คาดคิดและโหดเหี้ยมเข้าโจมตีใกล้ตัวเกินไป คาร่า ซอร์เอล หรือที่รู้จักในชื่อ ซูเปอร์เกิร์ล จึงจำใจต้องร่วมมือกับสหายที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ในการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ข้ามดวงดาวเพื่อการแก้แค้นและผดุงความยุติธรรม

อัลค็อก”ร่วมแสดงกับ มาทิอัส โชนาร์ท,อีฟ ริดลีย์, เดวิด ครัมฮอลต์ซ, เอมิลี่ บีชาม และ เจสัน โมโมอา อำนวยการสร้างโดย ปีเตอร์ ซาฟราน และ เจมส์ กันน์ สองผู้นำ DC Studios ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากตัวละครใน DC โดย Supergirl มีพื้นฐานมาจากตัวละครที่สร้างสรรค์โดย เจอร์รี ซีเกล และ โจ ชูสเตอร์

ภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการสร้างบริหารโดย ไนเจล กอสเทโลว์ชานทัล นอง โว และลาร์ พี. วินเธอร์  ทีมงานเบื้องหลังประกอบไปด้วย กิสเลสปี้ผู้กำกับภาพ ร็อบ ฮาร์ดี, ผู้ออกแบบงานสร้าง นีล ลามอนท์ทาเทียน่า เอส. รีเกล ผู้ลำดับภาพ, ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย แอนนา บี. เชพพาร์ด,  ผู้ควบคุมวิชวลเอฟเฟกต์ เจฟฟรีย์ บาวแมนน์, และ ผู้ประพันธ์เพลง รามิน จาวาดี

โดย Troll Court Entertainment Production ร่วมกับ The Safran  Company Production จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. Pictures

“Supergirl  ซูเปอร์เกิร์ล”

25 มิถุนายน ในโรงภาพยนตร์

หนังชนโรง : ด้วยรักและคิดถึง ‘เจมส์’ จึงได้หวนสู่ ‘เมืองไซเลนต์ฮิลล์’ อีกครั้ง

หนังชนโรง : ด้วยรักและคิดถึง ‘เจมส์’ จึงได้หวนสู่ ‘เมืองไซเลนต์ฮิลล์’ อีกครั้ง

หนังชนโรง : ด้วยรักและคิดถึง ‘เจมส์’ จึงได้หวนสู่ ‘เมืองไซเลนต์ฮิลล์’ อีกครั้ง

วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

หวนคืนสู่เมืองห่าผีกับ “Return To Silent Hill” โดยผู้กำกับ คริสตอฟ แกนส์” ผู้สร้างปรากฏการณ์หลอนสุดขั้วในเมืองหมอกที่สั่นสะเทือนไปทั่วโลกจาก “Silent Hill” (2006) ภาพยนตร์สยองขวัญขึ้นหิ้งที่แฟนเกมและคอหนังต่างยกให้เป็นผลงานดัดแปลงที่ดีที่สุดตลอดกาล

กลับมาครั้งนี้ แกนส์เลือกหยิบเอาเนื้อเรื่องจากวิดีโอเกม “Silent Hill 2” เกมที่ถูกโหวตให้เป็นภาคที่ดีที่สุดของแฟรนไชส์ ด้วยเนื้อหาที่ลึกซึ้งสะเทือนอารมณ์ และบรรยากาศชวนสยองเล่นกับจิตใจ พร้อมสานต่อความสยองให้สมคำร่ำลือ

พบกับเหล่าตัวละครสุดลึกลับอย่าง เจมส์” (เจเรมี เออร์วีน) ชายที่หวนคืนสู่ เมืองหมอกเพื่อตามหาภรรยาที่รัก, มาเรีย” (ฮันนาห์ เอมิลี แอนเดอร์สัน) หญิงสาวลึกลับที่ปรากฏตัวขึ้นในเมืองหมอกและมีใบหน้าคล้ายคลึงกับภรรยาของเจมส์, ลอรา” (อีวี เทมเพิลตัน) เด็กหญิงผู้ไร้ซึ่งความหวาดกลัว และ เอ็ดดี้” (เพียร์ส อีแกน) ชายร่างใหญ่ที่ติดอยู่ในเมืองหมอกแห่งนี้ รวมถึง “เหล่ามอนสเตอร์” ที่จะยกโขยงมาร่วมสร้างระทึกครั้งใหม่แบบจัดเต็ม

จดหมายลึกลับเพียงไม่กี่บรรทัดที่ระบุข้อความว่า “เธอกำลังรอเขาอยู่” ของภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว ด้วยความรัก ความคิดถึง และความสงสัยได้นำทางเจมส์หวนสู่ “เมืองไซเลนต์ฮิลล์” ที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นความทรงจำอันแสนงดงาม แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นดินแดนเสื่อมทราม บิดเบี้ยว และเป็นฝันร้าย

“Return to Silent Hill”

22 มกราคม 2026 ในโรงภาพยนตร์

หนังชนโรง : ‘Now You See Me: Now You Don’t’ ทุ่มทุนถ่ายทำ 5 ประเทศ 4 ทวีป

หนังชนโรง : ‘Now You See Me: Now You Don’t’ ทุ่มทุนถ่ายทำ 5 ประเทศ 4 ทวีป

หนังชนโรง : ‘Now You See Me: Now You Don’t’ ทุ่มทุนถ่ายทำ 5 ประเทศ 4 ทวีป

วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.43 น.

จากความสำเร็จระดับโลกของแฟรนไชส์ Now You See Me” สองภาคแรกที่สามารถกวาดรายได้ถล่มทลายกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณกว่าสองหมื่นล้านบาท) สู่การจารกลครั้งใหม่ใน “Now You See Me: Now You Don’t อาชญากลปล้นโลก 3”

งานนี้ รูเบน เฟลเชอร์” (Venom, Zombieland) ผู้กำกับมากฝีมือมาพร้อมฉากแอ็กชันสุดมันส์กับโลเคชัน 5 ประเทศ 4 ทวีป ได้แก่ “บูดาเปสต์ ฮังการี”“แอนต์เวิร์ป เบลเยียม”“นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา”“แอฟริกาใต้” และ “อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์”

โกดังในบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ถูกใช้จำลองเป็น “บรูกลิน” ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแสดงมายากลที่มีผู้ตีตั๋วเข้าชมแน่นขนัด เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเมื่อ 3 นักมายากลหน้าใหม่” ปลุกชีพ “จตุรอาชา”

คฤหาสน์นาดาสดี บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

คฤหาสน์ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ทิวดอร์ผสมนีโอกอทิกอายุเก่าแก่ 150 ปี ถูกใช้เป็นฉากภายนอกของอดีตศูนย์บัญชาการของสมาคมลับที่รู้จักกันในชื่อ “ดิอาย” สถานที่ซึ่งนักมายากลทั้งสองเจนได้เดินทางมาเพื่อตามหาความจริงตามคำใบ้ที่ได้รับ

จัตุรัส Grote Markt เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม

จัตุรัสกลางและสถานีรถไฟกลางอันโด่งดัง จุดเริ่มต้นการพบกันของ “แอตลาส” และ นักมายากลเจนซี” ที่มาร่วมภารกิจปล้นโคตรเพชรรูปหัวใจ ในเมื่อหนังว่าด้วยการโจรกรรมเพชร ก็ไม่มีอะไรเหมาะเจาะเท่าการเลือกถ่ายทำที่ “เมืองแอนต์เวิร์ป” เมืองหลวงแห่งเพชรของโลก

ปราสาท Chateau de Roussillon

ใช้เป็นอดีตศูนย์บัญชาการลับของ “ดิอาย” ที่ผู้ชมจะได้พบกับ “มอร์แกน ฟรีแมน” ซึ่งภายในทุกห้องจะประดับด้วยวัตถุโบราณ ไม่ว่าจะเป็น “เสื้อรัดแขนของฮูดินี”อุปกรณ์ของนักมายากล” และ “หนังสือมายากล” ฉากภายในนี้สร้างขึ้นที่ Stern Studios โดยกินพื้นที่กว่าสองอาคาร ซึ่งจะทำให้ทุกคนนึกถึง “เมจิกคาสเซิล” ใน “ลอสแอนเจลิส” ที่มีทั้งประตูกล, ห้องลับ, บันไดอินฟินิตี้, ช่องลับต่างๆ

กลางทะเลทราย อาบูดาบี

ถ่ายทอดวัฒนธรรมท้องถิ่นให้โลกเห็นความหรูหราและความล้ำสมัย ใช้ภูมิทัศน์ทะเลทรายที่น่าทึ่งเป็นฉากหลังของจุดไคลแม็กซ์สุดระทึก สานต่อธรรมเนียมของแฟรนไชส์ที่เคยใช้ “นิวยอร์ก” และ “นิวออร์ลีนส์” ในภาคแรก กับ “มาเก๊า” และ “ลอนดอน” ในภาคที่สอง

โรงแรม W Abu Dhabi

โรงแรมห้าดาวที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ตั้งอยู่ทั้งบนและในน้ำพร้อมกับสนามแข่งกรังด์ปรีซ์ที่วิ่งผ่านรอบๆ โรงแรม คือโรงแรมแห่งเดียวในโลกที่คร่อมบนสนามแข่ง Formula 1 หัวใจของซีเควนซ์นี้คือตัวตนของควีนโคตรเพชร “เวโรนิกา แวนเดอร์เบิร์ก” นอกจากจะเป็นทายาทธุรกิจเพชรแล้ว เธอยังมีทีม F1 ของตัวเอง

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบี

พิธภัณฑ์สากลแห่งแรกในโลกอาหรับและสิ่งมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ลอยอยู่บนน้ำใต้โดมโลหะอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นเวทีที่สมบูรณ์แบบให้กับเหล่า “จตุรอาชา” และ “อาชญากลรุ่นใหม่” ในฉากไคลแมกซ์ของภาพยนตร์

โดยผู้กำกับ เฟลเชอร์ ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงผลงานอัจฉริยะมายากลปล้นโลกภาคล่าสุดนี้ว่า  นี่คือหนังที่คุณต้องดูในโรงภาพยนตร์เท่านั้น เพราะความมหากาพย์ของมัน นี่ไม่ใช่หนังสำหรับจอทีวี เรามีนักแสดงชั้นนำ, สถานที่ถ่ายทำสุดอลังการ, ฉากสุดยิ่งใหญ่ และมายากลที่สมจริง”

หนังชนโรง : พระเอก ‘ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ’ แท็กทีม เหล่าตัวตึงของฮอลลีวูด ใน ‘One Battle After Another’

หนังชนโรง : พระเอก ‘ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ’ แท็กทีม เหล่าตัวตึงของฮอลลีวูด ใน ‘One Battle After Another’

หนังชนโรง : พระเอก ‘ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ’ แท็กทีม เหล่าตัวตึงของฮอลลีวูด ใน ‘One Battle After Another’

วันพุธ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 07.15 น.

One Battle After Another – หนึ่งศึกครั้งแล้วครั้งเล่า  ผลงานจาก วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส และผู้สร้างภาพยนตร์ผู้ชิงรางวัล Academy Award ได้รับรางวัล BAFT  พอล โธมัส แอนเดอร์สัน”  สู่ผลงานเรื่อง  “One Battle After Another”

นำแสดงโดยเจ้าของรางวัล  Academy Award และ BAFTA  ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, เบนิซิโอ เดล โตโร เจ้าของรางวัล BAFTA และ ฌอน เพ็นน์ นำแสดงคู่กับ เรจิน่า ฮอลล์เทยานา เทย์เลอร์ และ เชส อินฟินิติ รวมถึงวู้ด แฮร์ริส ละ อลานา เฮม

แอนเดอร์สัน กำกับฯ จากบทภาพยนตร์ของเขา และผลิตคู่กับผู้ชิงรางวัล Oscar และ BAFTA ซาร่า เมอร์ฟี่ และ แอนเดอร์สัน อำนวยการสร้างบริหารฯ โดยวิล ไวซ์เคอ

ทีมงานฝ่ายสร้างสรรค์เบื้องหลัง ได้แก่ ผู้ร่วมงานประจำตั้งแต่ผู้กำกับภาพ ไมเคิล บาวแมน และ แอนเดอ์สัน ผู้ออกแบบฉากที่ชิงรางวัล Oscar และได้รับรางวัล BAFTA ฟลอเรนเซีย มาร์ติน ผู้ลำดับภาพที่ชิงรางวัล BAFTA แอนดี้ เจอร์เกนเซน ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายเจ้าของรางวัล Oscar และ BAFTA คอลลีน แอตวูด ผู้กำกับการคัดเลือกนักแสดง แคสแซนดรา คูลูคุนดิส และดนตรีโดยผู้ประพันธ์ดนตรีชิงรางวัล Oscar และ BAFTA จอนนี่ กรีนวูด

หนังชนโรง : ‘เปโดร ปาสคาล’ หล่อ เนี้ยบ เฉียบ เกินห้าใจ ในหนังโรแมนติก–คอเมดี้ ‘Materialists’

หนังชนโรง : ‘เปโดร ปาสคาล’ หล่อ เนี้ยบ เฉียบ เกินห้าใจ ในหนังโรแมนติก–คอเมดี้ ‘Materialists’

หนังชนโรง : ‘เปโดร ปาสคาล’ หล่อ เนี้ยบ เฉียบ เกินห้าใจ ในหนังโรแมนติก–คอเมดี้ ‘Materialists’

วันพุธ ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.40 น.

เปโดร ปาสคาล” นักแสดงชาวชิลี-อเมริกัน ที่มีชื่อเสียงจากซีรีส์ “Game of Thrones” และ “The Last of Us” จากนักแสดงโนเนมซึ่งน่าจะเกมในเส้นทางการแสดง แต่วันนี้ ฮอลลีวูดต้องการตัวเขาเป็นอย่างยิ่ง เปโดร ปาสคาล” หนุ่มหล่อมาดเซอร์ ที่มาพร้อมหนวดเคราและรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่ไม่มีใครเหมือน กับผลงานล่าสุดใน “Materialists” ภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้ จากผู้กำกับ เซลีน ซง ที่เขาได้ร่วมงานกับ ดาโกต้า จอห์นสัน” และ คริส อีแวนส์”

“ผมรับบท แฮร์รี่ครับ เรื่องราวมันเกิดขึ้นในงานแต่งงานของคู่ที่ ลูซี่ (ดาโกต้า จอห์นสัน) เคยจับคู่ได้สำเร็จ พอเจอกันระหว่าง ลูซี่กับแฮร์รี่ เธอก็รู้ทันทีว่าเขาเป็น “ยูนิคอร์น” ของเธอทันที คาแร็คเตอร์ของแฮร์รี่ เขาสูง  สุภาพ  ยิ้ม   เป็นมิตร  และที่สำคัญ เขารวยมาก แฮร์รี่คือนิยามของ ของดี”

 “สำหรับลูกค้าของลูซี่ แต่แฮร์รี่เองกลับสนใจตัวลูซี่มากกว่าครับ  ผมคุยกันกับ เซลีน ซง (ผู้กำกับ) ผมได้รับโจทย์มาว่า เขาคือคนที่มีมูลค่าสูงมากๆ คือยูนิคอร์นตัวจริง เขาคือคนที่ติ๊กถูกทุกข้อ ใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบในระดับสูงสุด แฮร์รี่ต้องการเป็นเวอร์ชันที่มีค่ามากที่สุดของตัวเอง และเขากับลูซี่ก็มีอะไรที่คล้ายกันครับ  ทั้งคู่รู้ถึงคุณค่าของตัวเอง และยังเชื่อในการพัฒนาคุณค่านั้นด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทั้งคู่ไปต่อกันได้ ที่สำคัญ เขาคือสิ่งที่ลูซี่เคยประกาศว่าต้องการ: แต่งงานกับคนรวย ผมได้แรงบันดาลใจในการสร้างคาแรกเตอร์แฮร์รี่ จากเหล่าพระเอกในตำนานที่แฮร์รี่อาจเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ ผมนึกถึงแฮร์ริสัน ฟอร์ด ใน Working Girl หรือ จอร์จ คลูนีย์ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งแครี แกรนท์ยุคก่อนๆ ครับ” – เปโดร   เล่าทิ้งท้าย

หนังชนโรง : เมื่อเหล่าตัวแม่จากยุค 2000 กลับมาพร้อมสมาชิกใหม่วัยรุ่นสุดจี๊ด

หนังชนโรง : เมื่อเหล่าตัวแม่จากยุค 2000 กลับมาพร้อมสมาชิกใหม่วัยรุ่นสุดจี๊ด

หนังชนโรง : เมื่อเหล่าตัวแม่จากยุค 2000 กลับมาพร้อมสมาชิกใหม่วัยรุ่นสุดจี๊ด

วันพุธ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

เรียกว่าดูได้สนุกทุก Gen จริง ๆ สำหรับภาพยนตร์ภาคต่อที่รอคอยกันมานานอย่าง “Disney’s Freakier Friday ศุกร์สยองสี่ร่างสลับรุ่น” เพราะนอกจากจะเอาใจ Gen X และ Gen Y พาทีมนักแสดงชุดเดิมกลับมาแบบยกแพ็ก ยังเข้าถึง Gen Z ด้วยการเสริมทัพความป่วนด้วยสมาชิกใหม่วัยรุ่นจ๋าที่แสบซ่าไม่น้อยกว่ากัน เรื่องราวจึงชุลมุน วุ่น และฮา การันตีความสนุกด้วยคะแนนใน Rottentomatoes ที่สูงทั้งฝั่งนักวิจารณ์ซึ่งให้ Tomatometer มะเขือเทศสดด้วยคะแนน 72% และ Popcornmeter ฝั่งคนดูสูงถึง 93% (คะแนน ณ วันที่ 12 สิงหาคม 2568)

หลังจากผ่านไปกว่า 20 ปี “Disney’s Freakier Friday ศุกร์สยองสี่ร่างสลับรุ่น” จะพาทุกคนไปสำรวจการขยายตัวของครอบครัว Coleman ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เมื่อ Anna คุณแม่ยังสาว กำลังจะแต่งงานกับหนุ่มหล่อคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ท่าวท่ามกลางความท้าทายมากมายในการรวมสองครอบครัวเข้าด้วยกัน เหตุการณ์สลับร่างสุดอลเวงก็เกิดขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่ใช่แค่ 2 แต่เป็นการสลับร่างพร้อมกันถึง 4 คน มาดูกันดีกว่าเรื่องราวความวุ่นวายครั้งนี้จะมีใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง

“Jamie Lee Curtis” รับบท “Tess Coleman”  ในเรื่องนี้ Tess ไม่เพียงอยู่ในฐานะภรรยาของ Ryan แม่ของ Anna และยายของ Harper เธอยังเป็นนักจิตวิทยาที่ประสบความสำเร็จ และกำลังเตรียมตัวออกทัวร์เปิดตัวหนังสือเล่มแรกด้วย ส่วนตัวแล้วเธอเป็นคนที่ทุ่มเทและอยู่เคียงข้างทุกคนในครอบครัวเสมอ แต่บางครั้งก็อาจจะเผลอก้าวก่ายชีวิตของคนอื่นไปบ้าง

“Lindsay Lohan” รับบท “Anna Coleman”  จากสาวน้อยวัยมัธยมที่รักในเสียงดนตรี Anna ในวัยทำงานยังคงวนเวียนอยู่ในแวดวงเพลงโดยรับหน้าที่เป็นผู้จัดการของป๊อปสตาร์ และอีกด้านยังเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวของ Harper ลูกสาววัยรุ่น ที่พยายามจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวของเธอเอง

“Julia Butters” รับบท “Harper Coleman” และ“Sophia Hammons” รับบท “Lily Davies” Harper คือลูกสาวของ Anna ตัวแทนของวัยรุ่นที่มีความเป็นตัวของตัวเอง และความสัมพันธ์ของเธอกับแม่ก็สะท้อนมุมมองของครอบครัวที่อาจมีความเข้าใจผิดกันบ้าง แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็คือครอบครัว ส่วน Lily เป็นลูกสาวของ Eric Davies คนรักใหม่ของ Anna เธอใฝ่ฝันจะไปเรียนต่อด้านแฟชั่นที่ลอนดอน และในฐานะลูกสาวของพ่อเลี้ยงเดี่ยว Lily ต่อต้านความสัมพันธ์ที่กำลังพัฒนาระหว่างพ่อของเธอกับ Anna อย่างโจ่งแจ้ง 

“Manny Jacinto”  รับบท “Eric Davies”  เชฟชื่อดังเจ้าของร้านอาหาร คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวของลูกสาววัยรุ่น ที่บังเอิญเจอกับ Anna และถูกตาต้องใจกันทันที ซึ่งด้วยความที่ต่างคนต่างก็เป็นคุณพ่อและคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกัน ทั้งคู่จึงพยายามดูว่าความสัมพันธ์นี้จะสามารถพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหน

นอกจากนี้ยังได้ Chad Michael Murray กลับมาขี่มอเตอร์ไซค์ในบท Jake หนุ่มในฝันสมัยมัธยมของ Anna อีกครั้ง, Rosalind Chao กลับมารับบท Mama P และ Mark Harmon ในบท Ryan คู่ชีวิตของ Tess รวมถึง Stephen Tobolowsky ซึ่งกลับมารับบท Mr. Elton Bates ครูสอนวิชาภาษาอังกฤษที่แฟน ๆ ยังคงจดจำได้เสมอ อีกทั้งยังได้ Maitreyi Ramakrishnan มารับบท Ella ป๊อปสตาร์ผู้ผิดหวังในรักซึ่งมี Anna เป็นผู้จัดการ และที่ขาดไม่ได้คือ Vanessa Bayer ในบท Madame Jen หมอดูที่เป็นต้นเหตุของเรื่องวุ่นวายทั้งหมด 

หนังชนโรง : เบื้องหลังงานภาพโลกยุค 60 สุดล้ำ สตูดิโอ 8 แห่ง ลุยสถานที่จริง อังกฤษและสเปน

หนังชนโรง : เบื้องหลังงานภาพโลกยุค 60 สุดล้ำ สตูดิโอ 8 แห่ง ลุยสถานที่จริง อังกฤษและสเปน

หนังชนโรง : เบื้องหลังงานภาพโลกยุค 60 สุดล้ำ สตูดิโอ 8 แห่ง ลุยสถานที่จริง อังกฤษและสเปน

วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

หนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้หลายคนประทับใจภาพยนตร์แอ็กชันซูเปอร์พาวเวอร์ฟอร์มยักษ์ “Marvel Studios’ The Fantastic Four: First Steps” คือฉากหลังที่ดูคุ้นตาทว่าเต็มไปด้วยรายละเอียดอันล้ำสมัย จนอาจทำให้สงสัยว่าทำไมทีมผู้สร้างถึงเลือกให้ครอบครัว Fantastic Four เป็นฮีโร่ในในโลกคู่ขนานยุค 1960

“The Fantastic Four” ถือกำเนิดขึ้นในปี 1961 โดยสองตำนานแห่ง Marvel อย่าง Stan Lee และ Jack Kirby ที่ฉีกกรอบการเล่าเรื่องซูเปอร์ฮีโร่แบบเดิม ๆ ด้วยการสร้างทีมฮีโร่ที่เป็นมนุษย์ธรรมดาก่อนจะกลายมาเป็นฮีโร่ซูเปอร์พาวเวอร์ จนสร้างกระแสเป็นหนึ่งในคอมิกส์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของ Marvel ได้รับการตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องในทุกทศวรรษนับตั้งแต่เปิดตัว รวมแล้วมากกว่า 700 ฉบับจนถึงปัจจุบัน และเป็นรากฐานของ Marvel Universe ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้

เพื่อแสดงความเคารพต่อประวัติศาสตร์กว่า 60 ปีของ Fantastic Four ฉบับคอมิกส์ ทีมผู้สร้างภาพยนตร์ “Marvel Studios’ The Fantastic Four: First Steps” จึงพยายามรักษาสมดุลระหว่าง “ต้นฉบับ” กับ “การตีความใหม่” ดังที่ผู้กำกับ Matt Shakman บอกว่า “The Fantastic Four ถือกำเนิดขึ้นในยุค 60 และเราก็รู้สึกว่าพวกเขาควรจะอยู่ในยุคนั้น ซึ่งมีความโดดเด่นที่การมองโลกในแง่ดีของ JFK การแข่งขันด้านอวกาศ การมองไปยังดาวดวงอื่น และความเชื่อที่ว่าเทคโนโลยีจะแก้ไขทุกอย่าง นำมาซึ่งอนาคตที่สดใส ซึ่งทั้งหมดนี้คือ DNA ของ The Fantastic Four”

เพื่อถ่ายทอดความเป็น The Fantastic Four ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ทีมผู้สร้างได้นำองค์ประกอบสำคัญจากต้นฉบับ โดยเฉพาะงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์และสวยงามของ Jack Kirby มาผสมผสานกับแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ สะท้อนให้เห็นโลกอนาคตแบบ Retro-Futuristic ที่ถูกหล่อหลอมขึ้นจากนวัตกรรมล้ำยุคของ Reed Richards ทำให้เทคโนโลยีและการออกแบบพัฒนาไปในทิศทางที่โดดเด่นเฉพาะตัว จักรวาลของ The Fantastic Four จึงเต็มไปด้วยหุ่นยนต์ โมโนเรล และรถยนต์บินได้

 เรานำสิ่งที่ดีที่สุดจากยุค 1960 มาใช้ แล้วเติมแนวทางของเราเองเข้าไป ให้เป็นโลกที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน โดยได้แรงบันดาลใจจากจินตนาการของผู้คนในยุค 60 ที่วาดฝันว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ฉากที่เห็นจึงยังคงเป็นมหานครนิวยอร์กที่คุ้นตา เป็นโลกที่คุ้นเคย แต่เติมเต็มด้วยเส้นสายของอนาคตที่แทรกอยู่ทั้งเรื่อง ด้วยอิทธิพลจากความฉลาดของ Reed Richards ทำให้หุ่นยนต์มีอยู่ทั่วไป ปัญญาประดิษฐ์มีอยู่ทุกที่ในรูปแบบต่าง ๆ โลกพัฒนาและทันสมัยขึ้นอย่างมากในด้านเทคโนโลยีพลังงาน บอกได้เลยว่านี่คือเวอร์ชันที่ล้ำหน้าของยุค 60” ผู้กำกับ Matt Shakman กล่าว

ซึ่งการสร้างสภาพแวดล้อมในภาพยนตร์ให้ออกมาเป็นนิวยอร์กในยุค 1960 ทีมผู้สร้างได้เลือกใช้แนวทางการออกแบบที่เน้นการสร้างฉากจริงต่อหน้ากล้อง เพื่อให้โลกในเรื่องดูจับต้องได้และเชื่อมโยงกับความเป็นจริงมากที่สุด โดยทีมออกแบบได้สร้างฉากที่ดูเหมือนจริงขึ้นอย่างอลังการมากกว่า 30 ฉาก ในสตูดิโอ 8 แห่ง และลานถ่ายทำกลางแจ้งขนาดใหญ่อีก 2 แห่ง นอกจากนี้ทีมงานยังเดินทางไปถ่ายทำในสถานที่จริง ทั้งในอังกฤษและสเปน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แอ็กชันซูเปอร์พาวเวอร์ฟอร์มยักษ์ที่ให้ความสำคัญกับฉากและงานภาพ เพื่อมอบความตระการตาให้ผู้ชมได้อินไปกับงานภาพสวย ๆ อย่างเต็มอิ่ม

หนังชนโรง : การกลับมาทวงบัลลังก์ของนักแสดงบู๊ตัวพ่อ ‘ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ’

หนังชนโรง : การกลับมาทวงบัลลังก์ของนักแสดงบู๊ตัวพ่อ ‘ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ’

หนังชนโรง : การกลับมาทวงบัลลังก์ของนักแสดงบู๊ตัวพ่อ ‘ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ’

วันพุธ ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

“One Battle After Another – หนึ่งศึกครั้งแล้วครั้งเล่า  จาก Warner Bros. Pictures  ผู้สร้างภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Academy Award และได้รับรางวัล BAFTA อย่าง พอล โธมัส แอนเดอร์สัน

นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” ผู้ชนะรางวัล Academy Award และ BAFTA พร้อมทั้งนักแสดงผู้ชนะรางวัล Oscar และ BAFTA อย่าง เบนิซิโอ เดล โทโร” และ  “ฌอน เพนน์ รวมไปถึง “เรจิน่า ฮอลล์,เทยานา เทย์เลอร์” และ เชส อินฟินิตี้ รวมถึง “วูด แฮร์ริส” และ อลานา ไฮม์ ด้วย

“แอนเดอร์สัน กำกับจากบทภาพยนตร์ของเขาเอง และอำนวยการสร้างร่วมกับผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ และ BAFTA อย่าง อดัม ซอมเนอร์ และ ซารา เมอร์ฟี โดยมี วิลล์ ไวส์เก้ เป็นผู้อำนวยการสร้าง

ทีมงานสร้างสรรค์ที่อยู่เบื้องหลังกล้องประกอบด้วยผู้ร่วมงานกันประจำอย่าง เช่น ผู้กำกับภาพ ไมเคิล บาวแมน และ แอนเดอร์สัน นักออกแบบงานสร้างที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์และได้รับรางวัล BAFTA ฟลอเรนเซีย มาร์ติน ผู้ตัดต่อที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA คอลลีน แอตวูด ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายที่ได้รับรางวัลออสการ์และ BAFTA ผู้กำกับการคัดเลือกนักแสดง คาสแซนดร้า คูลูคุนดิส และดนตรีประกอบโดย จอนนี กรีนวูด ผู้ประพันธ์เพลงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์และ BAFTA 

“One Battle After Another”

25 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

หนังชนโรง : ‘Mortal Kombat II’ ภาพยนตร์ภาคต่อของแฟรนไชส์วิดีโอเกมยอดนิยม

หนังชนโรง : ‘Mortal Kombat II’ ภาพยนตร์ภาคต่อของแฟรนไชส์วิดีโอเกมยอดนิยม

หนังชนโรง : ‘Mortal Kombat II’ ภาพยนตร์ภาคต่อของแฟรนไชส์วิดีโอเกมยอดนิยม

วันพุธ ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

“Mortal Kombat II – มอร์ทัล คอมแบท 2” ภาพยนตร์ภาคต่อของแฟรนไชส์วิดีโอเกมยอดนิยมที่กลับมาพร้อมความโหดเหี้ยมเต็มพิกัด ที่ครั้งนี้เหล่าแชมเปี้ยนขวัญใจแฟน ๆ ซึ่งรวมถึง จอห์นนี่ เคจ เองก็ต้องมาประจันหน้าในการต่อสู้ที่ไร้กฎเกณฑ์และเต็มไปด้วยเลือดเนื้อ เพื่อโค่นล้มการปกครองอันมืดมิดของ เชา คาห์น ที่กำลังคุกคามการดำรงอยู่ของเอิร์ทเรล์มและผู้พิทักษ์ทั้งหลาย

คาร์ล เออร์บัน รับบทเป็น จอห์นนี่ เคจ พร้อมด้วย อเดลีน รูดอล์ฟเจสสิก้า แมคนามี, จอช ลอว์สัน ลูดี้ หลิน, เมห์แคด บรุกส์, ลูอิส แทน, เดมอน เฮอร์ริแมน และ ชิน ฮานทาดาโนบุ อาซาโนะ รับบทเป็น ลอร์ด ไรเดน, โจ ทาสลิม  รับบทเป็น บี-ฮาน และ ซับ – ซี่โร่ ฮิโรยูกิ ซานาดะ รับบทเป็น ฮันโซ ฮาซาชิ  และ สกอร์เปี้ยน

ไซมอน แมคควอยด์ กลับมารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์ต่อจากผลงานการผจญภัยสุดระห่ำในปี 2021 ของเขา โดยได้ เจเรมี สเลเตอร์ มารับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์ ซึ่งอ้างอิงจากวิดีโอเกมที่สร้างสรรค์โดย เอ็ด บูน และ จอห์น โทเบียส

ภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย ท็อดด์ การ์เนอร์เจมส์ วาน, โทบี้ เอ็มเมอริช, อี. เบนเน็ตต์ วอลช์ และ ไซมอน แมคควอยด์ และตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างบริหารได้แก่ ไมเคิล เคลียร์จัดสัน สก็อตต์, เจเรมี สเลเตอร์ และ ลอว์เรนซ์ คาซานอฟฟ์

ทีมงานเบื้องหลังที่ร่วมงานกับผู้กำกับ ไซมอน แมคควอยด์  ได้แก่ สตีเฟน เอฟ. วินดอน ผู้กำกับภาพ, โยเฮ ทาเนดะ ผู้ออกแบบงานสร้าง, สจวร์ต เลวี่ ผู้ลำดับภาพ และ แคปปี้ ไอร์แลนด์ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย โดยมี ริช เดเลีย รับหน้าที่กำกับการคัดเลือกนักแสดง และ เบนจามิน วอลล์ฟิช รับหน้าที่ประพันธ์ดนตรีประกอบ

“Mortal Kombat II”

23 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

หนังชนโรง : เมื่อ ‘ศรัทธาแบบตะวันตก’ ต้องมาเผชิญหน้ากับ ‘ความเชื่อพื้นบ้าน’

หนังชนโรง : เมื่อ ‘ศรัทธาแบบตะวันตก’ ต้องมาเผชิญหน้ากับ ‘ความเชื่อพื้นบ้าน’

หนังชนโรง : เมื่อ ‘ศรัทธาแบบตะวันตก’ ต้องมาเผชิญหน้ากับ ‘ความเชื่อพื้นบ้าน’

วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

เรียกเสียงฮือฮาในงานแถลงข่าวภาพยนตร์ที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่จะสาดความสะพรึงสู่ผู้ชมทั่วประเทศกับ “ตัวอย่างเต็ม” (Official Trailer) ของ “ท่าแร่” (Tha Rae: The Exorcist) ภาพยนตร์สยองขวัญแอ็กชันจาก “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ผลงานความสยองท่าใหม่ของผู้กำกับหนังผีแห่งชาติ “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา” ที่คอหนังตั้งตารอมากที่สุดเรื่องหนึ่งของปีนี้

ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นที่นี่… ณ ดินแดน “ท่าแร่” ชุมชนคาทอลิกเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเคยมี “ปีศาจร้าย” ออกอาละวาดและถูกปราบไปเมื่อ 40 ปีก่อน แต่แล้ววันนี้มันกลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง เมื่อ “ตามิ่ง” (เอก ธเนศ) อดีตบาทหลวงเกิดพฤติกรรมผิดปกติชวนสยดสยองจนได้สร้างความหวาดกลัวไปทั่วพื้นที่ ชาวบ้านจึงเรียกตัว “แม่เมืองโสภา” (มีน พีรวิชญ์) หมอเหยาผู้สื่อสารกับภูตผีเพื่อรักษาทางจิตวิญญาณตามความเชื่อพื้นถิ่นทางอีสานมาทำพิธีขับไล่

ในเวลาเดียวกัน ทางคริสตจักรก็ได้ส่ง “บาทหลวงเปาโล” (เจมส์ จิรายุ) ผู้เชี่ยวชาญการปราบปีศาจร้ายเข้ามาช่วยคลี่คลายวิกฤตสยองนี้อย่างเร่งด่วน แต่ทุกอย่างกลับเลวร้ายกว่าเดิมเมื่อ “มาลี” (แพรวา ณิชาภัทร) เดินทางกลับมายังท่าแร่เพื่อดูอาการพ่อ และกำลังถูกเล่นงานจากความสยองที่ซ่อนตัวอยู่ 

เมื่อ “ศรัทธาแบบตะวันตก” ต้องมาเผชิญหน้ากับ “ความเชื่อพื้นถิ่น” ความจริงอันดำมืดเกี่ยวกับชุมชนท่าแร่แห่งนี้จึงค่อยๆ ถูกเปิดเผย พร้อมเดิมพันด้วยชีวิตและศรัทธาที่จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป

แท็กทีมนักแสดงมากฝีมือที่จะลือลั่นด้วยการพลิกบทบาทใหม่หมดจด ไม่ว่าจะเป็น “เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข”, “มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร”, “เอก-ธเนศ วรากุลนุเคราะห์”, “แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์”, “เอี้ยง-สวนีย์ นาวินธนันท์ชัย” และ “แฉะ-องอาจ เจียมเจริญพรกุล”

ท่าแร่”

7 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์