จับตาน้องใหม่ บลจ.ทาลิส!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/599834

โดย อินเด็กซ์ 51 2 เม.ย. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 เม.ย.59 ปิดที่ 1,400.72 จุด ลดลง 6.98 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 42,206.45 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 4,018.83 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด KBANK ปิดที่ 169 บาท ลบ 4 บาท, ADVANC ปิด 78.50 บาท ลบ 3.50 บาท, PTT ปิดที่ 278 บาท ลบ 2 บาท, SCC ปิด 468 บาท บวก 2 บาท, TPBI ปิด 15.90 บาท บวก 1.80 บาท

“ฉัตรพี ตันติเฉลิม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ทาลิส บลจ.นิ้งใหม่ไฉไลสุดๆ เผยในงานเปิดตัวบริษัท ถึงทิศทางตลาดหุ้นไทย ปี 59 ว่ายังผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวทั้งสหรัฐฯ ยุโรป จีน ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นจังหวะดีของนักลงทุน เนื่องจากตลาดมีความผันผวน ทำให้นักลงทุนหาช่องทางลงทุนได้ดีกว่าตลาดที่ไปในทิศทางเดียว โดยนักลงทุนควรหาจังหวะลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงควบคู่กันไป

โดยปกติหากตลาดขาขึ้นฝั่งเดียวคนจะแห่ซื้อ และถ้าตลาดหุ้นผันผวนส่วนต่างของการลงทุนจะเพิ่มมากขึ้น เพราะมีทั้งเก็งกำไรฝั่งขึ้นและลง ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ศึกษาข้อมูลการลงทุนมาอย่างดี

สำหรับ บลจ.ทาลิส นั้นตั้งเป้ามีทรัพย์สินภายใต้การบริหาร (AUM) ปี 60 แตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท โดยปีนี้จะคลอดกองทุนรวม 4 กอง มูลค่า AUM รวม 3 พันล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น, กองทุนผสมระหว่างหุ้นและตราสารหนี้, ตราสารเงิน และ RMF

ขณะที่ตั้งเป้ากองทุนส่วนบุคคลมูลค่า AUM 2 พันล้านบาท โดยในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลนี้ บริษัทหวังมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 1% จากมูลค่ารวมทั้งตลาด 6 แสนล้านบาท โดยมองว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโต ขณะที่บริษัทมีเครื่องมือในการสร้างผลตอบแทนให้ลูกค้าหรือผู้ถือหน่วย ภายใต้ตลาดทั้งขาขึ้นและขาลง

นอกจากนี้ บริษัทจะใช้บทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ 10-15 แห่งในการนำข้อมูลมาใช้ประกอบพอร์ตกองทุน โดยดึงจุดแข็งของบทวิเคราะห์แต่ละแห่งเข้ามาช่วยสนับสนุน

มีข่าว “ศุภชัย เจียรวนนท์” บิ๊ก TRUE ให้ความเห็นประเด็นที่ กสทช.จะเปิดประมูลคลื่น 900 MHz รอบใหม่ว่าสนใจแต่ขอเวลา 2 เดือนก่อนตัดสินใจ แต่บริษัทต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า เนื่องจากเพิ่งจ่ายเงินก้อนใหญ่จากการประมูลคลื่น 900 MHz ไปรอบแรกและปัจจุบันคลื่นที่มีอยู่ในมือก็เพียงพอต่อการทำธุรกิจใน 3 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ยังมั่นใจว่า การเพิ่มทุนรอบนี้รายย่อยจะใช้สิทธิแปลงสภาพ TSR เต็มจำนวน แต่หากใช้สิทธิไม่หมด ผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มซีพีไชน่าโมบาย พร้อมใช้สิทธิแทน!!

อินเด็กซ์ 51

หุ้นเดือนเมษา!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/599311

โดย อินเด็กซ์ 51 1 เม.ย. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 31 มี.ค.59 ปิดที่ 1,407.70 จุด ลดลง 2.59 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 41,055.18 ล้านบาท

หุ้นไทยปรับฐานโดนแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมาหลังขึ้นไปค่อนข้างแรงวันก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นแรงขายหุ้นบิ๊กแคป แต่มีแรงซื้อต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ-วัสดุก่อสร้างช่วยพยุงดัชนี

บล.เอเซีย พลัส เปิดสถิติหุ้นไทยเดือน เม.ย. หุ้นไทยมักให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ยราว 3.5% ด้วยความน่าจะเป็นถึง 90% โดยกลุ่มที่สามารถ outperform ได้มากกว่าตลาด ที่โดดเด่นคือ กลุ่มโรงพยาบาลให้ผลตอบแทนเฉลี่ยกว่า 6% ด้วยความน่าจะเป็นถึง 90% กลุ่มปิโตรเคมีให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเกินกว่า 6% ด้วยความน่าจะเป็นถึง 80% กลุ่มพลังงานให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ด้วยความน่าจะเป็นถึง 80% เช่นกัน และกลุ่มชิ้นส่วนฯ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเกือบ 5% ด้วยความน่าจะเป็น 60%

ขณะเดียวกัน กลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่ให้ผลตอบแทนเดือน เม.ย.น่าพอใจเช่นกัน

โดยกลุ่มอสังหาฯ มักปรับขึ้นในเดือน เม.ย. ด้วยโอกาสสูงถึง 8 ใน 10 ปีหลังสุด ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยราว 3.7% โดยในส่วนของผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยนั้นพบว่า PF ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 7.7% ด้วยความน่าจะเป็นกว่า 80% ตามด้วย PS ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.2% แต่ความน่าจะเป็นน้อยราว 60%

ส่วนกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ปรับขึ้นในเดือน เม.ย. ด้วยโอกาสสูงถึง 8 ใน 10 ปีเช่นกัน ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยราว 3.5% หุ้นที่มักให้ผลตอบแทนดีในเดือน เม.ย. ได้แก่ TASCO ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 9.3% ด้วยความน่าจะเป็นราว 60%

ส่วน VNG ก็ให้ผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน คือ 5.7% ด้วยความน่าจะเป็น 70% ตามด้วย DCC ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 4.3% ด้วยความน่าจะเป็นกว่า 60%, TPIPL ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 4% ด้วยความน่าจะเป็น 70%, DRT ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 3.9% ด้วยความน่าจะเป็น 80% ส่วน SCC ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 3.4% แต่ด้วยความน่าจะเป็นน้อยกว่า คือ 60%

สำหรับแนวโน้มของกลุ่มวัสดุก่อสร้างในช่วง 1H59 น่าจะฟื้นตัวเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะมีแรงขับเคลื่อนเดียวจากการลงทุนภาครัฐที่เติบโต ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในโครงการขนาดเล็ก แต่เชื่อว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐที่จะทยอยออกมาตั้งแต่ช่วง 2Q59 เป็นต้นไป น่าจะทำให้แนวโน้มผลประกอบการใน 2H59 มีทิศทางที่ดีขึ้น!!

อินเด็กซ์ 51

ทะลุ 1,400 จุด!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/598758

โดย อินเด็กซ์ 51 31 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 มี.ค.59 ปิดที่ 1,410.29 จุด บวก 17.44 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 57,621.65 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ8,551.68 ล้านบาท กองทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,207.41 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ขายสุทธิ 2,409.14 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 8,349.95 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด ADVANC ปิด 189 บาท บวก 3 บาท, KBANK ปิด 173 บาท บวก 4 บาท, PTTEP ปิด 70.7 บาท บวก 2.75 บาท, AOT ปิด 399 บาท บวก 6 บาท และ PTT ปิด 287 บาท บวก 3 บาท

หุ้นไทยหุ้นโลกปรับขึ้นหมด ตอบรับท่าทีประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยดันหุ้นไทยทะลุเหนือ 1,400 จุด ได้ อีกรอบ STRONG!!

โดยมีแรงซื้อหุ้นใหญ่พื้นฐานดี โดยเฉพาะหุ้นพิมพ์นิยมต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน ขณะที่รายย่อยและพอร์ตโบรกเกอร์ฉวยโอกาสขายทำกำไร!!

อย่างไรก็ตาม นับจากนี้ให้จับตาอุณหภูมิทางการเมือง ที่คาดว่าจะร้อนแรงขึ้นเป็นลำดับก่อนเข้าสู่การทำประชามติ คาดว่าวันที่ 7 ส.ค.นี้ ประเด็นการเมืองจะมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทยมากขึ้น และกดให้ตลาดไปไม่ไกล

บล.ทิสโก้ ระบุว่า ถ้อยแถลงของ “เจเน็ต เยเลน” ประธานเฟดที่ออกมาแสดงท่าทีระมัดระวังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นผลดีต่อจิตวิทยาการลงทุน มองกระแสเงินทุนต่างชาติยังมีอยู่ แต่จะอยู่ในตลาดตราสารหนี้มากกว่า และหากดัชนีหุ้นไทยขึ้นมาระดับ 1,430 จุด จะทำให้ค่า Forward P/E สูงถึง 15.2 เท่า ทำให้มองว่าหุ้นไทยแพงเกินไปที่ระดับดังกล่าว!!

มองตลาดระยะสั้นทรงตัว หลังตอบรับข่าวดีเฟดไปแล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่ดัชนีจะเดินหน้าบวกต่อ ทั้งที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่แกร่งพอ โดยมองว่าดัชนีหุ้นไทยจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดของครึ่งปีแรกช่วงเดือน เม.ย. ที่ 1,430 จุดก่อนย่อตัวปรับฐานลงในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. ราว 100 จุด หรือลงมาที่ 1,330 จุด

แนะกลยุทธ์ลงทุนทยอยขายทำกำไร ถือเงินสดเพิ่ม เพื่อรอกลับมาซื้อในจังหวะที่ดัชนีย่อตัวมาที่ 1,390 จุด หรือเก็งกำไรด้วยความระมัดระวังในหุ้น BTS-BEM-CK-UNIQ-TASCO-SCC-SCCC

บล.เอเซีย พลัส มองว่า ดัชนีขึ้นมาเร็วและมากไป เพราะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในอนาคตก็ยังจะได้เห็นในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาในช่วงนี้มองว่าเป็นแค่เข้ามาพักไว้ในระยะสั้น ดังนั้นเชื่อว่าตลาดคงปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430 จุด!!

อินเด็กซ์ 51

หุ้นโรงแรมท่องเที่ยวดี๊ด๊า!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/598183

โดย อินเด็กซ์ 51 30 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 29 มี.ค.59 ปิดที่ 1,392.85 จุด เพิ่มขึ้น 3.84 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 35,656.38 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 718.11 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 169 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, ADVANC ปิด 186 บาท บวก 2 บาท, SCB ปิดที่ 137.50 บาท ลบ 0.50 บาท, CPALL ปิด 44 บาท ลบ 0.75 บาท และ AOT ปิด 393 บาท ลบ 4 บาท

หุ้นกลุ่มค้าปลีก และโรงแรม ปรับตัวขึ้นแรงทั้ง MINT-CENTEL-HMPRO-ROBINS หลัง ครม.อนุมัติมาตรการกิน-เที่ยวสงกรานต์ ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 15,000 บาท พร้อมต่ออายุมาตรการท่องเที่ยวลดหย่อนภาษีไม่เกิน 15,000 บาทอีก 1 ปี
โดย บล.ธนชาต แนะนำ “ซื้อ” CENTEL และ MINT โดยคาดว่าการพิจารณาลดหย่อนภาษี 15,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว และรับประทานอาหารจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงแรม

เช่นเดียวกับ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ที่คาดว่า ปัจจัยบวกเรื่องมาตรการ กระตุ้นท่องเที่ยว–กินอาหารเพื่อให้ทันเทศกาลสงกรานต์ จะเป็นผลดีกับกลุ่มค้าปลีก–โรงแรม เช่น HMPRO, ROBINS, MINT, CENTEL, ERW

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจไทยเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว และล่าสุด ครม.อนุมัติรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง ในแง่หลักการเรียบร้อยแล้ว คาดจะหนุนการลงทุนภาคเอกชนค่อยๆฟื้นตัว

ผสมกับ ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะหนุนความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยและทิศทางการลงทุนดีขึ้น โดยโนมูระ พัฒนสิน ประเมินดัชนีหุ้นไทย เดือน เม.ย.จะฟื้นตัวต่อเนื่องสู่แนวต้านที่ระดับ 1,453-1,475 จุด

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นเด่น BBL, SCB, SCC, CK, PYLON, COM7, PLANB, BRR และ LH

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุให้ติดตามการแถลงมุมมองเศรษฐกิจของประธานเฟด โดยหากยังคงกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และจะยังไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลให้ค่าเงิน US Dollar อ่อนค่าลง และเป็นบวกต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน รวมทั้งตลาดหุ้น

โดยหากออกมาใน Scenario นี้ จะส่งผลให้หุ้นกลุ่มหลักฟื้นตัวได้ โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่นที่คาดว่างบ 1Q59 จะออกมาเด่นเติบโตสูง หุ้นเด่นในกลุ่ม ได้แก่ PTTGC, IRPC, IVL!!

อินเด็กซ์ 51

เทคนิคไม่ดี!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/597604

โดย อินเด็กซ์ 51 29 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 28 มี.ค.59 ปิดที่ 1,389.01 จุด ลบ 5.77 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 27,671.76 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 338.52 ล้านบาท

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ประเมินตลาดระยะสั้น คาดหุ้นไทยแกว่งลงต่อ หลังสัญญาณทางเทคนิคเกิดภาวะ Bearish Divergent ช่วงที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมีแรงเทขายสวนออกมาตลอด จนสัญญาณทางเทคนิคสวนทางกับดัชนี

ขณะที่ยังต้องติดตามถ้อยแถลงของ “เจเน็ต เยเลน” ประธานเฟดเป็นสำคัญ หากส่งสัญญาณชัดเจนว่าพร้อมจะปรับขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้กระแสเงินทุนไหลกลับแน่นอน และดัชนีมีโอกาสปรับฐานลงไปที่ 1,355 จุด

ส่วนการทำ Window Dressing ปิดบัญชีงวดไตรมาส 1 มองว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะดัชนีขึ้นจากต้นปีราว 7-8% เว้นแต่หุ้นใหญ่บางตัวที่ราคาไม่ได้ปรับขึ้น

แนะกลยุทธ์ลงทุน แนะเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง–เล็กที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว เช่น กลุ่มค้าปลีกและกลุ่มโรงพยาบาล ด้านเทคนิคระยะสั้นให้แนวรับ 1,385 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,395 จุด

“วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล” กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ ให้มุมมองทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ โดยระบุว่า การปรับตัวขึ้นของหุ้นไทยยังต้องระมัดระวังอย่างสูง จากการที่ EPS เฉลี่ยของตลาดหุ้นไทยยังคงถูกปรับประมาณการลง ส่งผลให้ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้น อย่างไม่มีเสถียรภาพ แต่ด้วยสภาพคล่องภายในประเทศยังคงมีมาก ทำให้ตลาดหุ้นยังคงทรงตัวยืนอยู่ได้โดยไม่ปรับตัวลง

ทั้งนี้ มองว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงในช่วงเดือน พ.ค.นี้และมีโอกาสลงไปถึงที่ระดับ 1,300 จุดต้นๆ ซึ่งจะเป็นจุดที่น่าสนใจเข้าซื้อหุ้นคืน แนะนำลงทุนในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และกลุ่มที่มีรายได้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

โดยประเมิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.ซึ่งถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือน มิ.ย.หมายความว่าตลาดหุ้นมีโอกาสสะท้อนด้วยการถูกขายทำกำไรในเดือน พ.ค.

นอกจากนี้ยังคาดว่า มีโอกาสสูงที่ MSCI จะปรับตะกร้าของหุ้นจีนใน MSCI Emerging Market ในเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบัน China A Shares มีสัดส่วนหรือน้ำหนักในดัชนี ประมาณ 24.6 เปอร์เซ็นต์ ของ MSCI Emerging Index ซึ่งจะทำให้น้ำหนักของหุ้นจีนขึ้นเป็น 26.5 เปอร์เซ็นต์ ในเดือน พ.ค.นี้

ซึ่งจะทำให้มี Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นจีนราว 1 ล้านล้านบาท ขณะที่จะมี Fund Flow ไหลออกจากหุ้นไทยราว 2 หมื่นล้านบาท (ไหลออกจากหุ้นบิ๊กแคป) ซึ่งคาดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.นี้!!

อินเด็กซ์ 51

โฟกัสหุ้น WORK!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/596378

โดย อินเด็กซ์ 51 26 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 มี.ค.59 ปิดที่ 1,394.78 จุด ลดลง 10.63 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 35,035.67 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,768.64 ล้านบาท

ราคาหุ้นบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK ดีดตัวขึ้นโดดเด่น มาทำนิวไฮในรอบ 2 เดือน ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น

บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำซื้อ ระบุว่ายังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไร ปี 59-60 ของ WORK โดยคาดกำไรปกติโต 60% Y-Y และ 32% Y-Y ตามลำดับ สำหรับกำไรปกติไตรมาส 1 ปี 59 มีแนวโน้มดีขึ้นมากจาก งวดปีก่อน โดยกำไรที่ดีขึ้นมาจากการขึ้นค่าโฆษณา 57% Y-Y เป็น 47,000 บาท/นาที ตาม Rating ที่ดีขึ้น ทั้งจากการปรับปรุงรายการข่าวเป็นเปลี่ยนมาทำเองและปรับช่วงเวลารายการกีฬา

การร่วมทุน 30% ทำ Theme Park “ไดโนซอร์แพลนเน็ต” ซึ่งจะได้รายได้เป็นค่าเข้าชม ขายสินค้า และสปอนเซอร์จะเป็น upside ต่อกำไรปีนี้ 7% ซึ่งยังไม่ได้รวมในประมาณการ ทั้งนี้ ยังคงให้ราคาพื้นฐาน WORK ที่ 42 บาท ขณะที่ บล.เอเซียพลัส แนะ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสมที่ 45 บาท ส่วน บล.บัวหลวง ให้ราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐานสูงสุดที่ 54.25 บาท
ล่าสุด WORK ปิดที่ 38.75 บาท บวก 1.25 บาท หลังขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 40.25 บาท

ขณะที่ภาพรวมตลาด บล.ธนชาต มองหุ้นไทยหลุดระดับ 1,400 จุด ลงปิดต่ำสุดของวันท่ามกลางวอลุ่มเทรดที่ลดลง เพราะตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday ขณะที่หุ้นกลุ่มรับเหมาโดดเด่นมีแรงซื้อเข้าเก็งกำไร เป็นการเล่นเก็งกำไรดักข่าวความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทางที่จะเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม การ “พักฐาน” ของ SET ระยะสั้น เป็นโอกาสในการ “ซื้อ” หุ้นกลุ่มที่ Laggard Plays พื้นฐานดี ได้แก่ กลุ่ม Micro Finance ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำ ราคา Laggard โดยหุ้น SAWAD เด่นกลุ่มรับเหมาฯ ครม.พิจารณารถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า มองหุ้น CK-UNIQ สวย

กลุ่มโรงแรมกำไรไตรมาส 1 ดี ได้อานิสงส์มาตรการลดหย่อนภาษีการท่องเที่ยวหุ้น CENTEL-MINT น่าสน

ส่วนหุ้นที่น่าลงทุนช่วง 1–3 เดือนข้างหน้า AOT–CK–HANA– INTUCH–IRPC–KCE–KTB–KTC–MINT และ SGP!!

อินเด็กซ์ 51

ยังมีปัจจัยบวก!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/595831

โดย อินเด็กซ์ 51 25 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 24 มี.ค.59 ปิดที่ 1,405.41 จุด ลดลง 6.75 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 50,121.79 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 573.16 ล้านบาท

บล.โกลเบล็ก มองแนวโน้มหุ้นไทยมีแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ปลายเดือน มี.ค.ที่จะปิดงบงวดไตรมาส 1 และมีปัจจัยบวก จาก ครม.อนุมัติโครงการบ้านประชารัฐวงเงิน 70,000 ล้านบาท ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท รวมถึงกระทรวงการคลังเตรียมชงช็อปช่วยชาติหักภาษีกิน-เที่ยวช่วงสงกรานต์สูงสุด 15,000 บาท

แต่ปัจจัยที่กดดันหุ้นไทยก็ยังคงมีอยู่ ทั้งกรณี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ระบุว่า เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วที่สุดในการประชุมวันที่ 26-27 เม.ย.นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้น รวมถึงเหตุระเบิดสนามบินในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มลดลง

ประเมินสัปดาห์หน้า คาดตลาดจะผันผวนขาขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,410-1,420 จุด แนะเลือกซื้อหุ้น ICT เชียร์ ADVANC -INTUCH กลุ่มอสังหาฯ แนะ PS-LPN-SENA-HMPRO-GLOBAL ได้ประโยชน์จากโครงการบ้านประชารัฐ รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม ค้าปลีก เก็งข่าวกระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการช็อปช่วยชาติ หักภาษีกิน-เที่ยวช่วงสงกรานต์สูงสุด 15,000 บาท ให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาและหุ้น KSL –BRR ได้อานิสงส์จากราคาน้ำตาลโลกที่ปรับขึ้น!!

ปิดท้าย “เกศรา มัญชุศรี” กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เผยหลังการประชุมผู้นำตลาดหลักทรัพย์อาเซียน (ASEAN Exchanges CEOs meeting) 7 ตลาดจาก 6 ประเทศ ว่า ตลาดหลักทรัพย์อาเซียนเตรียมจับมือนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่างประเทศนอกอาเซียน เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐฯ หวังดึงเม็ดเงินต่างประเทศเข้าลงทุน

คาดว่าจะเริ่มออกไปโรดโชว์ได้ปลายไตรมาส 3 ซึ่งจะนำบริษัทในแต่ละประเทศไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุนเพื่อสร้างความน่าสนใจให้นักลงทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอาเซียน ที่ปัจจุบันมูลค่ามาร์เก็ตแคปรวม 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ มีบริษัทจดทะเบียนรวม 3,000 บริษัท

การประชุมครั้งนี้ยังมีมติให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันเพิ่ม คือ คณะทำงานด้านไอทีเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านไอทีระหว่างกัน รวมถึงระบบความปลอดภัยด้านไอที ที่ผ่านมาตลาดหุ้นอาเซียนได้มีความร่วมมือระหว่างกัน ที่เป็นรูปธรรมคือการจัดตั้งกระดานซื้อขายหุ้นอาเซียน (อาเซียนลิงค์เกจ) แต่เราต้องการที่จะมีความร่วมมือมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำมาร์เก็ตติ้งร่วมกันโดยการจัดโรดโชว์!!

อินเด็กซ์ 51

หุ้นใหญ่พุ่ง!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/595281

โดย อินเด็กซ์ 51 24 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 23 มี.ค.59 ปิดที่ 1,412.16 บวก 14.96 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 52,684.59 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 435.75 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด ADVANC ปิด 188.50 บาท ลบ 1.50 บาท, JAS ปิด 3.56 บาท ลบ 0.12 บาท, AOT ปิด 397 บาท บวก 3 บาท, DTAC ปิด 47.75 บาท บวก 0.25 บาท และ TRUE ปิด 8.30 บาท บวก 0.30 บาท

ตลาดหุ้นไทยพลิกกลับมาทะยานบวก หลังทั้งสถาบันในประเทศและต่างชาติกลับเข้ามาเลือกซื้อหุ้นรายตัว ช่วยดันดัชนี ท่ามกลางราคาน้ำมันโลกส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนหุ้นพลังงาน

ส่วนหุ้นสื่อสารหลัง JAS ทิ้งใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ทำให้คลายความกังวลเรื่องการแข่งขันรุนแรง ส่วนหุ้น JAS ทำท่าวิ่งขึ้นแดนบวกหลังได้ปลด SP แต่โดนแรงขายทำกำไรปิดตลาดร่วงติดลบ แม้จะยืนยันซื้อหุ้นคืนในราคาหุ้นละ 5 บาท

สูงกว่ากระดานลิบลับ แต่ด้วยความเสี่ยงความไม่แน่นอนว่าจะถูกฟ้องเรียกความเสียหายจากกรณีเบี้ยวจ่ายค่าประมูล 4 จี อีกเท่าไร แม้บริษัทจะมั่นใจว่า มีโอกาสถูกริบแค่เงินประกัน 644 ล้านบาทเท่านั้น ไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายอื่นอีก!!

แต่นักลงทุนเริ่มเสื่อมศรัทธา ไม่เชื่อใจ “พิชญ์ โพธารามิก” เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น อาจเป็นความเสี่ยงในการร่วมทำธุรกิจกับภาครัฐในอนาคตได้ ที่สำคัญ จับตาความเสี่ยงที่จะถูกตรวจสอบการสร้างราคาหุ้น!!

กลับมาภาพรวมตลาด บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และหุ้นพลังงาน รวมทั้งหุ้นในกลุ่มซีพี ประเมินแนวโน้มระยะสั้น คาดแกว่งตัวบวกได้ต่อ โดยทางเทคนิค ดัชนีบริเวณ 1,400 จุด อยู่กึ่งกลาง ระหว่างจุดต่ำสุดและสูงสุดของปีที่ผ่านมา (1,220-1,620 จุด)

แนะกลยุทธ์ลงทุน คนที่ไม่มีหุ้นให้เน้นเก็งกำไรหุ้นใหญ่กลุ่มแบงก์ สื่อสาร พลังงาน เลือก BBL-ADVANC-INTUCH-PTT-PTTGC ส่วนผู้ที่ชอบเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็ก แนะ BRR-BCH-CK-PYLON

ปิดท้าย หุ้นน้องใหม่ บมจ. ทีพีบีไอ (TPBI) ผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ครบวงจรระดับโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม ประกาศพร้อมเข้าเทรด 24 มี.ค. มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับที่ดี หลังเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินงานที่มีความแข็งแกร่ง เห็นจากความต้องการจองซื้อหุ้น IPO ในราคา 10.80 บาททะลัก

ขณะที่ “สมศักดิ์ บริสุทธนะกุล” ซีอีโอ TPBI เผย พร้อมชูนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการผลิตรุกขยายตลาดบรรจุภัณฑ์ครบวงวร รวมถึงขยายตลาดผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์มูลค่าสูง ตอกย้ำผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ระดับโลก!!

อินเด็กซ์ 51

ต้าน 1,400 จุด!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/594738

โดย อินเด็กซ์ 51 23 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 22 มี.ค.59 ปิดที่ 1,397.20 จุด บวก 3.57 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 62,756.51 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 551.82 ล้านบาท

บล.เอเซีย พลัส ชี้หุ้นไทยผันผวนปรับตัวขึ้นแรง จากแรงซื้อหุ้นสื่อสารหลัง JAS ทิ้งใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ทำให้คลายความกังวลว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นแต่โดนแรงขายทำกำไรออกมา หลังดัชนีขึ้นแตะระดับ 1,400 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ

ตลอดจนมี Sentiment เชิงลบจากสถานการณ์ต่างประเทศ จากกรณีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

ทั้งนี้ กรณี JAS ทิ้งใบอนุญาต 4G แม้จะคลายความกังวลเรื่องการแข่งขันรุนแรง แต่ต้องติดตามความคืบหน้าถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ทั้งการฟ้องร้องจาก กสทช. และความชัดเจนการจัดประมูลรอบใหม่

แนะเลือกลงทุน Selective หุ้นที่ปันผลเด่น โดยยังเชียร์ ADVANC มองแนวโน้มตลาดระยะสั้น คาดหุ้นไทยแกว่งผันผวน เหตุรุนแรงที่บรัสเซลส์ คาดส่งผลกระทบเชิงลบต่อการลงทุน โดยให้ติดตามอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินในยุโรป ที่อาจจะอ่อนค่า รวมทั้งให้ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่

แนะกลยุทธ์ลงทุนให้ทยอยขายทำกำไรเป็นหลัก ในช่วงที่ดัชนีเข้าใกล้ระดับ 1,400 จุด หรือเลือกเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มโรงแรมและค้าปลีก

บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะกลยุทธ์ลงทุน แบ่งสัดส่วนลงทุนใน หุ้น 70% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5% ชี้ JAS ผิดนัดชำระ 4G เป็นบวกต่อกลุ่ม ICT ที่พลิกมามีผู้เล่น 3 ราย น่าจะถูก Allocate เงินเข้ามาอีกระลอก บวกต่อ ADVANC, DTAC และ JAS (treasury stock กรณีมีโครงการซื้อหุ้นคืนในราคา 5 บาท) แนะสะสม และทยอยสะสมหุ้นพลังงาน เชียร์ PTT, PTTEP, PTTGC รับราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

รวมถึงหุ้นกลุ่มแบงก์ ชอบ BBL, SCB ที่ Valuation เด่น บวกคลายกังวลต่อการปล่อยกู้ 4G และคาด กนง. คงดอกเบี้ยในการประชุม หนุนตลาดแกว่งขึ้นเหนือระดับ 1,400 จุด ส่วนหุ้น Mid & Small Caps ที่ยังคงมีสตอรี่เด่นที่น่าสนใจ เช่น กลุ่มน้ำตาล (BRR) แนวโน้มราคาน้ำตาลโลกฟื้นต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุดในรอบ 16 เดือน

และหุ้นที่เก็งอานิสงส์นโยบายภาครัฐ มาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยว&อาหาร หุ้นเด่น ERW, MINT, ROBINS บ้านประชารัฐ PS, LPN โครงการโครงสร้างพื้นฐาน CK, SCC, PYLON รวมทั้งหุ้นที่คาดกำไรปี 59 เติบโตเด่น ERW, CI, BCH, PLANB, SPA!!

อินเด็กซ์ 51

JAS เบี้ยวทำหุ้น 4 จีดี๊ด๊า!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/594203

โดย อินเด็กซ์ 51 22 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 มี.ค.59 ปิดที่ 1,393.63 จุด เพิ่มขึ้น 10.67 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 52,980.77 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 99.01 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด ADVANC ปิด 177 บาท บวก 6 บาท, JAS ปิด 3.68 บาท บวก 0.10 บาท, DTAC ปิด 42.25 บาท บวก 2.25 บาท, PTTEP ปิด 68.75 บาท ลบ 0.75 บาท และ TASCO ปิด 25 บาท บวก 1.50 บาท

บล.ซีไอเอ็มบี ประเมินกรณี JAS ที่เบี้ยวจ่ายเงินค่าสัมปทาน 4 จี ให้ กสทช. ทำให้ยังสามารถเล่นเก็งกำไรหุ้นสื่อสารทั้ง ADVANC-DTAC-TRUE ขณะที่แนะเลี่ยงหุ้น JAS เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆตามมา

แนะกลยุทธ์การลงทุน เลือกหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ในกลุ่มค้าปลีก เนื่องจากได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช็อปปิ้งเพื่อชาติ

ปิดท้ายมีข่าว มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ได้ประกาศรางวัล “มอร์นิ่งสตาร์ ไทยแลนด์ ฟันด์ อวอร์ด 2016” ให้กับกองทุนรวมที่มีความยอดเยี่ยมด้านต่างๆ โดยใช้หลักเกณฑ์ เน้นการพิจารณาผลตอบแทน (Return) ควบคู่ไปกับการพิจารณาความเสี่ยง (Risk) และการลงทุนในระยะยาว

โดยผู้ชนะรางวัลทั้งหมดมีผลตอบแทนที่ปรับด้วยความเสี่ยงแล้วอยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยมตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมาและรวมถึงปี

ล่าสุด โดยปรากฏว่า ผู้ได้รับรางวัล Morningstar Category Awards ประเภทกองทุนขนาดใหญ่ยอดเยี่ยมคือกองทุนเปิดบัวหลวงทศพลรางวัลกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางและยาวยอดเยี่ยม ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ และกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นยอดเยี่ยม ผู้ได้รับรางวัลคือ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ

ส่วนรางวัล Long Term Equity and Retirement Mutual Fund Awards กองทุนเปิดภัทร หุ้นระยะยาวปันผล ได้รับรางวัลประเภทกองทุนหุ้นระยะยาวยอดเยี่ยม ส่วนกองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพได้รางวัลกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ประเภทตราสารแห่งทุนยอดเยี่ยม

และสุดท้ายคือ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพได้รางวัลกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ประเภทตราสารแห่งหนี้ยอดเยี่ยม!!

ข้อมูลเหล่านี้น่าจะนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาเลือกลงทุนในกองทุนรวม สำหรับผู้มีเงินออมและไม่สามารถทิ้งเงินออมไว้นอนกินดอกเบี้ยเงินฝากแบงก์ที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินได้!!

อินเด็กซ์ 51