มุมมองกิมเอ็งหุ้นสื่อสาร!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/593016

โดย อินเด็กซ์ 51 19 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 มี.ค.59 ปิดที่ 1,382.96 บวก 2.76 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 49,250.25 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,644.96 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นๆเป็นผู้ขายสุทธิออกมาทั้งหมด

หุ้นที่ซื้อชายสูงสุด PTTEP ปิดที่ 69.50 บาท ลบ 2.25 บาท, PTT ปิด 282 บาท บวก 4 บาท, IRPC ปิด 5.05 บาท ลบ 0.05 บาท, ADVANC ปิด 171 บาท บวก 2.50 บาท และ KBANK ปิด 173.50 บาท บวก 2 บาท

มีรายการ BIG LOT หุ้น CPALL ต่ออีก โดยมีมูลค่า 1,398.60 ล้านบาทในราคาเฉลี่ย หุ้นละ 40.54 บาท คาดว่าจะเป็นการซื้อขายสถาบันต่างชาติ!!

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองหุ้นไทยผันผวนทั้งในแดนบวกและแดนลบ สะท้อนภาพว่าราคาหุ้นไทยไม่ได้ถูกมากนัก ขณะที่มองแนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติ จะเป็นลักษณะของการซื้อสลับขายเป็นรอบๆ

ประเมินตลาดสัปดาห์หน้า ดัชนีแกว่งออกด้านข้างที่ PE 15 เท่า หลัง ต่างชาติทยอยขายทำกำไร แต่ยังได้เทศกาลปันผล และการกระตุ้นของภาครัฐที่เข้มข้นมากขึ้นใน Q2/59 โดยใน 1-2 สัปดาห์นี้ น่าจะมีข้อสรุปการประมูลรถไฟฟ้าสายสีเหลืองกับสีชมพูออกมา

แนะกลยุทธ์ เก็งกำไรด้วยความระมัดระวังมากขึ้น เน้นขายทำกำไรในจังหวะที่ดัชนีขึ้นแตะ 1,400 จุด และรอซื้อเมื่อดัชนีย่อตัวมาที่ 1,365 จุด เน้นเก็งกำไรหุ้นกลุ่มรับเหมา/วัสดุก่อสร้าง โรงพยาบาล และท่องเที่ยว

ปิดท้ายมีบทวิเคราะห์หุ้นสื่อสาร บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง โดยตั้งสมมติฐานเป็น 2 กรณี 1.หาก JAS จ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตคลื่น 900 MHz จะเป็นลบต่อกลุ่มสื่อสาร เนื่องจากจะมี new player เข้ามาในอุตสาหกรรม และอาจส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่ยังคาดเดาไม่ได้ คาดว่า DTAC จะลงแรง, ADVANC ลงแต่ยังมีช่วงลงที่จำกัด เนื่องจากยังไม่ XD เงินปันผล ส่วน TRUE ลงแต่อาจไม่มากนัก เนื่องจากมีความแข่งขันสูงและคลื่นในมือครบทั้ง 4 คลื่น

2.หาก JAS ไม่จ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาต เป็น Sentiment บวกกับกลุ่มสื่อสาร คาดว่า DTAC, JAS จะปรับตัวขึ้นเด่นสุด คือ เก็งกำไรโอกาสประมูลใหม่ของ DTAC และ JAS ไม่ต้องแบกผลขาดทุนจากธุรกิจมือถือ

อย่างไรก็ตาม หาก กสทช.ฟ้องร้อง JAS เพิ่มเติม จะเป็น Overhang ต่อราคาหุ้น และเป็นปัจจัยที่ประเมินได้ยากว่าจะจบตรงไหน!!

อินเด็กซ์ 51

ไปต่อ!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/592528

โดย อินเด็กซ์ 51 18 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 17 มี.ค.59 ปิดที่ 1,380.20 จุด บวก 2.40 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 47,662.61 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,085.04 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด นำโดย PTTEP ปิด 71.75 บาท ลบ 0.50 บาท, PTT ปิด 278 บาท บวก 7 บาท, KBANK ปิด 171.50 บาท ลบ 1.50 บาท, JAS ปิด 3.44 บาท ลบ 0.16 บาท และ IRPC ปิด 5.10 บาท บวก 0.10 บาท

ขณะที่มีรายการ BIG LOT หุ้น CPALL มีมูลค่าสูงสุด 788.11 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 45

หุ้นทั้งภูมิภาคปรับขึ้นตอบรับสัญญาณการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่พลังงานกลุ่ม ปตท.ปรับตัวขึ้นแรง ตามการเหวี่ยงขึ้นของราคาน้ำมันโลก

ส่วนหุ้นกลุ่มมือถือ ขยับรอดูความชัดเจนของ JAS ว่าจะมีเงินมาจ่ายค่าใบอนุญาต 4 จี งวดแรกพร้อมแบงก์การันตีทัน 21 มี.ค.นี้หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงสบประมาทว่า JAS คงทิ้งใบอนุญาต

ซึ่งจะทำให้ความกลัวเรื่องผู้เล่นรายใหม่จะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดหมดไป เป็นผลดีต่อทั้ง ADVANC-INTUCH-DTAC-TRUE

ขณะที่จะเป็นผลดีต่อ JAS เองด้วย ที่ไม่ต้องแบกภาระหนี้และภาระการขาดทุนของการเข้ามาทำธุรกิจในช่วงต้น แม้จะถูกยึดหลักประกัน 644 ล้าน รวมถึงอาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดการประมูล แต่จะปลดภาระการลงทุนแสนล้าน ความเสี่ยงจะลดฮวบ แถมมีโครงการซื้อหุ้นคืนหนุนอีก!!

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ประเมินภาพรวมหุ้นไทยระยะสั้นมีโอกาสบวกต่อ หลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะช่วยทำให้กระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย

แนะกลยุทธ์ เก็งกำไรหุ้นที่มีปันผลสูง อาทิ DRT–THCOM– PS–CPF–SCC โดยรอซื้อช่วงที่ดัชนีอ่อนตัวต่ำกว่า 1,380 จุด!!

อินเด็กซ์ 51

ADVANC ดี๊ด๊า!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/591998

โดย อินเด็กซ์ 51 17 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 16 มี.ค.59 ปิดที่ 1,377.80 จุด ลดลง 5.13 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 55,782.94 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,337.08 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 173 บาท ลบ 9 บาท, ADVANC ปิด 168 บาท บวก 0.50 บาท, PTTEP ปิด 72.25 บาท บวก 2.50 บาท, AOT ปิด 402 บาท ลบ 10 บาท และ PTT ปิด 271 บาท บวก 1 บาท

กระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว เห็นได้จากหุ้นกลุ่มแบงก์และพลังงานถูกเทขายทำกำไร บล.ทิสโก้ประเมินว่า นับจากนี้ไปอีก 1 เดือน ดัชนีมี upside จำกัด อาจขึ้นไปทำจุดสูงสุดได้เพียง 1,410-1,430 จุด ขณะที่นักลงทุนเริ่มเล่นรอบและเปลี่ยนกลุ่มหุ้นเก็งกำไร (Stock rotation) ขณะที่ด้านเทคนิคมองทิศทางขาลงตลาดมีโอกาสแกว่งลงไปที่ 1,330 จุด ในเดือน พ.ค.-มิ.ย.ได้

ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจทำให้กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัว โดยมีแรงเทขายทำกำไรหุ้นใหญ่หลายตัวในกลุ่มแบงก์ พลังงาน และสื่อสาร ขณะที่มองว่าหุ้นสื่อสารน่าจะผันผวนไปจนกว่าจะถึงวันที่ 21 มี.ค.นี้ที่เป็นวันดีเดย์การจ่ายเงินค่าใบอนุญาต 4 จี คลื่น 900 งวดแรกของ JAS!!

ส่วนหุ้นพลังงานโดนแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่กลับมาปรับตัวลงอีกครั้ง หลังกลุ่มโอเปก (OPEC) และรัสเซียเลื่อนการหารือร่วมกันไปเป็นเดือนหน้า และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน จนมองว่าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทำให้หุ้นกลุ่ม PTT จบรอบการเก็งกำไรและการปรับตัวขึ้นไปด้วย

แนะกลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรแบบขึ้นขาย-ลงซื้อ มองทิศทางตลาดหุ้นระยะสั้นผันผวน ด้านเทคนิคให้แนวรับไว้ที่ 1,370 จุด เป็นจุดสำคัญต่อการพิจารณาลงทุน โดยเป็นทั้งจุดซื้อและจุดขายตัดขาดทุน!!

บล.ทรีนีตี้ วิเคราะห์หุ้น ADVANC มองประเด็นศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวผู้ใช้บริการ 2 จี บนคลื่น 900 ของ AIS ไปถึง 14 เม.ย. ว่าช่วยสร้าง sentiment บวกให้กับ ADVANC ทำให้บริษัทมีเวลาโอนย้ายลูกค้าที่ยังอยู่ในระบบ 2 จี มาสู่ระบบ 3 จีได้ จึงยังแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 191 บาท แต่ระยะสั้นอาจมีปัจจัยกดดันจากการเข้ามาของ JAS ดังนั้นให้รอจังหวะทยอยซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว

ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองเป็น Positive Surprise สำหรับ ADVANC ขณะที่ บล.โกลเบล็ก มองกลุ่มลูกคาราว 4 แสนราย เป็นลูกค้าที่ ARPU ต่ำและสร้างรายได้เพียงส่วนน้อย แต่คาดว่าจะส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้นในระยะสั้น!!

อินเด็กซ์ 51

บี้ผู้บริหารใช้ข้อมูลภายใน!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/591465

โดย อินเด็กซ์ 51 16 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 มี.ค.59 ปิดที่ 1,382.93 จุด ลดลง 11.34 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 44,431.34 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,617.02 ล้านบาทกองทุนในประเทศขายสุทธิ 1,293.35 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยและพอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ

หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด ADVANC ปิด 167.50 บาท ลบ 5 บาท, PTTEP ปิด 69.75 บาท ลบ 3.50 บาท, PTT ปิด 270 บาท ลบ 6 บาท, AOT ปิด 412 บาท ลบ 4 บาท และ JAS ปิด 3.44 บาท ลบ 0.16 บาท

หุ้นไทยโดยแรงขายทำกำไรหลังตลาดปรับขึ้นมาใกล้ระดับ 1,400 จุด โดยส่วนหนึ่งเป็นการเทขายเพื่อลดความเสี่ยง ในระหว่างรอการประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชีย ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานยังราคาปรับตัวลงหลังราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง จากความกังวลว่าอิหร่านจะผลิตน้ำมันเพิ่ม

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “มาร์ค โมเบียส” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเท็มเพลตั้นมาร์เก็ตส์กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดหุ้นเกิดใหม่มาถึงจุดกลับตัวสู่การฟื้นตัวอีกครั้ง หลังให้ผลตอบแทนต่ำสุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา

“มาร์ค โมเบียส” ระบุว่า ศักยภาพในการฟื้นตัวของเอเชียมีสูงท่ามกลางการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยนักลงทุนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อภาวะการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย โดยเฉพาะต่อจีน แต่ จีนยังคงมีศักยภาพที่จะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดียเป็นไปในอัตราที่สูงมาก

โฟกัสหุ้น บมจ.เจตาแบค GTB หุ้นตัวแรกของปี 2559 ที่จะเข้าซื้อขายในตลาด ผลงานของแอสเซท โปร แมเนจท์เม้นท์ หรือ APM ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่พร้อมแล้วจะเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอ 240 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.15 บาท ในวันที่ 16-18 มีนาคม

โดยแกนนำจัดจำหน่าย บล.ฟินันเซีย ไซรัส พร้อม 6 หลักทรัพย์ร่วมจัดจำหน่าย ได้แก่ บล.ฟิลลิป, บล.อาร์เอชบี, บล.โกลเบล็ก, บล.โนมูระ พัฒนสิน, บล.แอพเพิล เวลธ์ และบล.เอเซีย พลัส

GTB กำหนดเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ วันที่ 23 มี.ค.นี้

ปิดท้าย “รพี สุจริตกุล” เลขาธิการ ก.ล.ต. คาดว่า จะเสนอหลักเกณฑ์ การลงทุนผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ที่ใช้ข้อมูลภายใน (Inside Information) ให้กับคณะกรรมการพิจารณาภายในเดือน เม.ย.นี้ หากพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว จะประกาศออกมาเป็นมติ เพื่อให้สามารถบังคับใช้และลงโทษได้ทันที

ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ ก.ล.ต.กำลังดำเนินการ!!

อินเด็กซ์ 51

หุ้นทั่วโลกดี๊ด๊า!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/589581

โดย อินเด็กซ์ 51 12 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 มี.ค.59 ปิด 1,393.41 จุด บวก 14.35จุด มีมูลค่าซื้อขาย 49,374.41 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 143.38 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด TRUE ปิด 8 บาท ลบ 0.15 บาท, JAS ปิด 3.70 บาท บวก 0.04 บาท, ADVANC ปิด 177 บาท ลบ 0.50 บาท BANPU ปิด 16.60 บาท ลบ 2.30 บาท และ PTT ปิด 281 บาท บวก 6 บาท

หุ้นทั่วโลกทะยานบวกหน้าตั้ง รับข่าวธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 0% จากเดิม 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปฝากไว้กับนาคารกลางอีก 0.1% จากเดิมติดลบ 0.3% เป็นติดลบมากขึ้น 0.4% และเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็น 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากเดิม 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน

ตลาดจึงหวังว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามมา จากปัจจุบันที่ติดลบ 0.1% โดยจะทยอยปรับลดไปจนสู่เป้าหมายที่ติดลบ 0.3% ซึ่งจะเป็นตัวกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่น่าขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

ทั้งหมดนี้จะเป็นตัวกระตุ้นกระแสเงินทุนให้ไหลเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นเกิดใหม่มากยิ่งขึ้น

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาต่างชาติซื้อสุทธิทั้งตลาดหุ้นและตลาดซื้อขายล่วงหน้า (futures) รวมทั้งตลาดพันธบัตร อย่างต่อเนื่อง ยิ่งมาตรการล่าสุดของยุโรปจะยิ่งผลักดันให้เงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้น

ประเมินทิศทางตลาดสัปดาห์หน้า คาดหุ้นไทยทะลุ 1,400 จุด โดนน่าจะจบรอบของการปรับฐานไปแล้ว แนะกลยุทธ์ลงทุน เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ที่เป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของต่างชาติ และหุ้นที่ผลประกอบการโดดเด่น ด้านเทคนิคให้แนวรับที่ 1,380 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,400-1,430 จุด

บล.ธนชาต แนะเก็งกำไรหุ้นใหญ่กลุ่มพลังงาน สื่อสาร ธนาคาร รวมทั้งหุ้นขนาดกลาง-เล็ก กลุ่มรับเหมาฯ CK-UNIQ หุ้นต่ำกว่า NAV อย่าง QH และหุ้น Turnaround Plays อย่าง HANA-SGP-IRPC และ ROBINS

ปิดท้ายหุ้น BANPU ทำเซอร์ไพรส์ประกาศเพิ่มทุนครั้งแรกรอบ 16 ปี ขาย RO สัดส่วน 2 ต่อ 1 ราคาแค่ 5 บาท พ่วงวอร์แรนต์ฟรี 1 ต่อ 1 กดราคาหุ้นร่วงแรง โดยจะนำเงินมาชำระคืนหนี้ 1.29 หมื่นล้านบาท หวังลด D/E เหลือ 1.23 เท่า!!

อินเด็กซ์ 51

ลุ้นธนาคารกลางยุโรป!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/589102

โดย อินเด็กซ์ 51 11 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 10 มี.ค.59 ปิดที่ 1,379.06 จุด ลบ 11.60 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 49,489.90 ล้านบาท ฝรั่งซื้อต่ออีกจิ๊บๆ 210.26 ล้านบาท ขณะที่รายย่อยพลิกกลับมาซื้อหลังขายสวนชาวบ้านมาหลายวัน โดยซื้อสุทธิ 1,207.85 ล้านบาท

หุ้นซื้อขายสูงสุด JAS ปิด 3.66 บาท บวก 0.10 บาท, PTTEP ปิด 75 บาท ลบ 2.75 บาท, TRUE ปิด 8.15 บาท ลบ 0.05 บาท, DTAC ปิด 40.50 บาท ลบ 1.25 บาท และ PTT ปิด 275 บาท ลบ 6 บาท

นักลงทุนขายทำกำไรในหุ้นที่ราคาพุ่งแรงติดต่อมาหลายวัน ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติยังเป็นแรงซื้อหลักที่ทำให้ดัชนีปรับขึ้น ปัจจัยที่ต้องตามคือ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ก่อนหน้านี้คาดหวังกันว่าน่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมทั้งขยายระยะเวลาและวงเงินมาตรการ QE

บล.ยูโฮบี เคย์เฮียน แนวโน้มหุ้นไทยระยะสั้นจะขึ้นหรือลง ขึ้นอยู่กับผลประชุม ECB หากออกมาผิดคาดจะทำให้หุ้นโลกรวมทั้งหุ้นไทยลงแรง มีโอกาสหลุด 1,350 จุด แต่หากผ่อนคลายมากกว่าที่คาด ดัชนีก็อาจไม่วิ่งขึ้นแรง เพราะวิ่งแรงแซงหน้ามาก่อนนี้แล้ว แนะกลยุทธ์ขายทำกำไร เพื่อเข้าถือเงินสดมากขึ้น เพื่อรอเวลากลับเข้าเก็งกำไรอีกครั้ง เมื่อดัชนีต่ำกว่าระดับ 1,350 จุด ขณะที่ให้แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1,390 จุด

ขณะที่ บล.โกลเบล็ก คาดหุ้นไทยรอบนี้ลุ้นทดสอบ 1,410 จุด มีแรงหนุนจากความหวังว่า ECB จะใช้มาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (QE) เพิ่มเติมและธนาคารกลางสหรัฐฯจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25%-0.50% ในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ และการทำ Window Dressing ปิดงวดบัญชีไตรมาส 1 แนะลงทุนหุ้นใหญ่ ที่เป็นเป้าทำ Window Dressing เชียร์ AOT, SCC, ADVANC, KBANK และ SCB!!

ปิดท้ายแนะนำหุ้น IPO บมจ. ทีพีบีไอ (TPBI) ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกครบวงจรรายใหญ่ในประเทศไทย เคาะราคาขายหุ้น IPO ที่ 10.80 บาท เปิดจองซื้อ 16-18 มี.ค.นี้ คาดเทรดได้ 24 มี.ค. แต่งตั้ง บล.ทิสโก้ เป็นผู้รับประกันการจำหน่าย “ธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ” แจงราคาไอพีโอที่ 10.80 บาท อิง P/E 10.4 เท่า ให้ส่วนลด 22% จากราคาเฉลี่ยที่โบรกเกอร์ 6 สำนักให้ไว้ที่ 13.90 บาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันแสดงความต้องการซื้อล้นทะลักถึง 32 เท่าของจำนวนหุ้นที่จัดสรร สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและศักยภาพของบริษัท!!

ด้าน “สมศักดิ์ บริสุทธนะกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TPBI คาดรายได้–กำไร ปีนี้มากกว่าปีก่อน ตั้งเป้ารายได้ 5 ปีโตเท่าตัวจากปี 58 ที่ 4.8 พันล้านบาท ส่วนอัตรากำไรสุทธิแตะ 2 หลัก!!

อินเด็กซ์ 51

บวกต่อ!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/588543

โดย อินเด็กซ์ 51 10 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 มี.ค. ปิดที่ 1,390.66 จุด บวก 16.40 จุด ระหว่างวันเทรดในกรอบ 1,366.81–1,391.13 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 56,222.21 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิต่ออีก 494.32 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTT 281 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, TRUE ปิด 8.20 บาท บวก 0.70 บาท, PTTEP ปิด 77.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, ADVANC ปิด 179.50 บาท บวก 4 บาท และ JAS ปิด 3.56 บาท บวก 0.06 บาท

หุ้น TRUE พุ่งแรงหลังวันก่อน มีโชว์บิ๊กลอตราคา 7.50 บาท 200 ล้านหุ้น

บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ประเมินว่า TRUE มีแนวโน้มรายได้โตแข็งแกร่งและมีส่วนแบ่งการตลาดโต 7 ไตรมาสต่อเนื่อง และปัญหาการเงินที่คลี่คลาย และแคมเปญทางการตลาดเชิงรุก จึงประเมินรายได้บริการโตปีละ 15% แนะ “ถือ” ให้ราคาเป้าหมายเพียง 7.40 บาท

ด้านบล.คันทรี่ กรุ๊ป แนะนำ “ขาย” ประเมินราคาหลังเพิ่มทุนไว้ที่ 6 บาท

ขณะที่ภาวะตลาดภาพรวม บล.เคทีซีมิโก้ มองกระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง ดันตลาดพลิกกลับมาบวก แม้กองทุนในประเทศจะขาดทำกำไรออกมา โดยกระแสเงินทุนที่กลับมารอบนี้ เพราะอัตราดอกเบี้ยโลกต่ำจนถึงขั้นติดลบทั้งยุโรปและญี่ปุ่น ทำให้เงินทุนต้องไหลมาหาผลตอบแทนที่สูงกว่า

มองทิศทางตลาดระยะสั้น คาดหุ้นไทยบวกต่อ มีโอกาสทะลุ 1,400 จุด จากกระแสเงินทุนต่างชาติล้วนๆ โดยหุ้นใหญ่พิมพ์นิยมต่างชาติขึ้นยกแผง

แนะกลยุทธ์การลงทุนเลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว ที่ราคายังปรับขึ้นไม่มากนัก โดยหุ้นใหญ่เป้าหมายต่างชาติแต่ราคาขึ้นมาพอสมควรแล้ว ให้พิจารณาหุ้นกลาง-เล็กที่ปัจจัยพื้นฐานดี ด้านเทคนิคให้แนวรับ 1,373 จุด ส่วนแนวต้าน 1,406 จุด

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ชี้หุ้นรับเหมาขึ้นนำตลาดหลัง ครม.อนุมัติปรับแหล่งเงินลงทุนโครงการมอเตอร์เวย์ จากเดิมใช้แหล่งเงินกู้มาเป็นใช้งบประมาณ และ คสช.ใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ขจัดอุปสรรคการประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อให้งานเดินหน้าได้เร็วขึ้น

มองแนวโน้มการลงทุนระยะสั้นตลาดแกว่ง Sideway เตือนการเข้าเก็ง กำไรหุ้นใหญ่ ที่เริ่มมี upside จำกัด แต่ก็ยังเลือกลงทุนหุ้นรับเหมาฯได้!!

อินเด็กซ์ 51

ขายทำกำไร!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/588046

โดย อินเด็กซ์ 51 9 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 8 มี.ค. ปิดที่ 1,374.62 จุด ลดลง 21.13 จุด

ระหว่างวันแกว่งในกรอบ 1,373.86–1,397.75 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 69,255.75 ล้านบาท

ต่างชาติซื้อสุทธิ 640.85 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 16.38 ล้านบาท และรายย่อยซื้อสุทธิ 4,846.52 ล้านบาท ขณะที่กองทุนในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ 5,503.76 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด ปิด JAS 3.50 บาท ลดลง 0.20 บาท, PTTEP ปิด 77.75 บาท ลดลง 0.25 บาท, DTAC ปิดที่ 39 บาท ลดลง 3.25 บาท, ADVANC ปิด 175.50 บาท ลบ 9.50 บาท และ PTT ปิด 281 บาท ลด 5 บาท TRUE มีบิ๊กลอตมูลค่าสูงสุด 1,500 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 7.50 บาท

หุ้นไทยปรับตัวลงหลังดีดขึ้นติดต่อกัน 6 วันทำการ ตามแรงขายทำกำไรออกมาในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มสื่อสาร พลังงาน และแบงก์ หลังราคาปรับตัวขึ้นแรงก่อนหน้านี้ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคและยุโรปต่างปรับตัวลง รวมทั้งดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สล้วนติดลบถ้วนหน้า หลังตัวเลข GDP ของญี่ปุ่น และตัวเลขส่งออกของจีนออกมาไม่ดี กดดันให้ตลาดพักฐานในระยะสั้น

แต่ปัจจัยหลักที่จะหนุนตลาดในระยะต่อไปยังมาจากประชุม ECB-BOJ ที่เล็งกันว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน ทำให้น่าจะได้เห็น Flow ไหลเข้ามา พรุ่งนี้ตลาดฯมีลุ้นเกิดเทคนิเคิลรีบาวด์ พร้อมให้แนวรับ 1,374-1,370 แนวต้าน 1,398-1,401 จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน มองหุ้นไทยปรับฐานตาม Sentiment ตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยหลักที่จะช่วยหนุนตลาด มาจากการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 10 มี.ค.นี้ และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) สัปดาห์หน้าที่มีความคาดหวังเรื่องการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน น่าจะได้เห็นกระแสเงินทุนไหลเข้า มองแนวโน้มตลาดระยะสั้น มีลุ้นเกิดการรีบาวด์ทางเทคนิค ให้แนวต้าน 1,398-1,401 จุด ส่วนแนวรับ 1,374-1,370 จุด

ปิดท้ายมีบทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ที่แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสมปี 59 ที่ 4.60 บาท โดยอิง P/E 20 เท่า มองทิศทางการดำเนินงานระยะยาวสดใส

โดยปีนี้จะเห็นว่าลำดับการขายสินทรัพย์จะเกิดขึ้นจำนวนมากราว 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งกำไรจากการขายเหล่านี้จะช่วยกดให้ P/E ลดลงต่ำเพียง 9 เท่า จากค่าเฉลี่ยในอดีต 20-30 เท่าของบริษัท จึงมองว่าระดับราคาปัจจุบันเป็นจุดน่าสนใจเข้าสะสมซื้อลงทุนระยะยาว!!

อินเด็กซ์ 51

JAS ดันหุ้นสื่อสาร!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/587467

โดย อินเด็กซ์ 51 8 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 7 มี.ค. ปิดที่ 1,395.75 จุด เพิ่มขึ้น 16.22 จุด เกือบจุดสูงสุดของวัน ขณะที่มีมูลค่าการซื้อขาย 62,111.84 ล้านบาท

บล.กสิกรไทย ระบุว่าหลัง JAS ประกาศซื้อหุ้นคืน ทำให้มีการมองว่า JAS อาจไม่สามารถเพิ่มทุนและมีโอกาสจ่ายค่าใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ไม่ทัน ดังนั้น การแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์มือถือจะมี 3 เจ้าเดิม คือ ADVANC, DTAC และ TRUE ทำให้เข้ามาเก็งกำไรหุ้นสื่อสารคึกคัก

ประเมินแนวโน้มตลาดระยะสั้น มีโอกาสซึมตัวลงหลังดัชนีปรับตัวขึ้นมามากแล้ว ด้านเทคนิคให้แนวรับ 1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,405 จุด

“เกศรา มัญชุศรี” ผู้จัดการตลาดหุ้นเผยว่า ที่ตลาดตัดสินใจแขวนป้าย H ห้ามซื้อขายชั่วคราวหุ้น JAS กลางอากาศระหว่างเทรดภาคบ่าย ที่โดนวิพากษ์วิจารณ์หนัก เนื่องจากได้มีการขอข้อมูลเพิ่มเติมกับทาง JAS เกี่ยวกับการอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน แต่การชี้แจงกลับมายังไม่ชัดเจน เพราะใช้คำว่าประมาณเกือบทั้งหมด จึงตัดสินใจขึ้นเครื่องหมาย H

แต่ตลาดก็ได้ปลด H ในเวลา 16.15 น. หลังให้เวลากับนักลงทุนตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวด้วยข้อมูลที่เพิ่มขึ้น

ผู้จัดการตลาดหุ้นยังได้ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยและกระแสเงินต่างชาติปีนี้ว่า เชื่อว่าต่างชาติจะเข้ามาซื้อสุทธิ จากปีก่อนที่ขายสุทธิออกไป 1.5 แสนล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติซื้อสุทธิแล้ว 5,800 ล้านบาท แม้กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนปี 58 จะลดลง 1.3% แต่หากไม่นับรวมบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มน้ำมัน ปิโตรเคมีแล้ว บริษัทจดทะเบียนที่เหลือมีกำไรสุทธิโต 5.95% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ดีที่สุดในอาเซียน

ทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างชาติ ที่ต้องการลงทุนในกลุ่มบริษัทที่ให้ผลตอบแทนดี และตั้งแต่ 1-4 มี.ค.ที่ผ่านมามีต่างชาติซื้อสุทธิ 13,000 ล้านบาท!!

ปิดท้ายมีข่าว ซีอีโอ “PACE” สรพจน์ เตชะไกรศรี ที่เพิ่งไปร่วมงานโรดโชว์ของ CLSA ที่ฮ่องกงในฐานะบริษัทที่มีศักยภาพสูงในการเติบโตที่ได้รับเชิญ ล่าสุดโครงการมหาสมุทรที่หัวหิน ที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม!!

“สรพจน์” ยังตอบรับให้นักลงทุนมั่นใจว่า ปีนี้จะได้เห็นความคืบหน้าทุกโครงการ โดยเฉพาะโครงการมหานคร ที่จะสามารถโอนห้องและเริ่มรับรู้รายได้ในปลายไตรมาสที่สองปีนี้ รวมถึงความชัดเจนของแผนการขยายธุรกิจ ดีน แอนด์ เดลูก้า (DEAN & DELUCA) และโครงการใหม่ที่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์

ตอกย้ำวิสัยทัศน์เติบโตอย่างยั่งยืนนั้นได้ดีที่สุดจริงๆ!!

อินเด็กซ์ 51

ฝรั่งซื้อ–รายย่อยขาย!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/586309

โดย อินเด็กซ์ 51 5 มี.ค. 2559 05:01

 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 มี.ค. ปิด 1,379.53 จุด บวก 0.20 จุด

มีมูลค่าการซื้อขาย 56,772.54 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิต่ออีก 4,632.11 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 1,227.13 ล้านบาท

ขณะที่รายย่อยขายสุทธิ 4,664.73 ล้านบาท และกองทุนในประเทศขายสุทธิ 1,194.51 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด นำโดย DTAC 39.50 บวก 3.50 บาท, KBANK 181 บาท บวก 3 บาท, PTTEP ปิด 72.50 บาท ลบ 1.75 บาท, SCC ปิด 460 บาท ลบ 4 บาท และ AOT ปิด 422 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

บล.โนมูระ พัฒนสิน มองหุ้นไทยยังบวกต่อเนื่อง โดยนักลงทุนสลับกลุ่มเข้าเก็งกำไร และขายทำกำไรในหุ้นรายกลุ่ม ที่ราคาหุ้นขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นถึงความผันผวนเริ่มมากขึ้น

ประเมินตลาดสัปดาห์หน้า ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่คาดว่าจะดำเนินมาตรการ QE ต่อเนื่อง และมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากเงินกับธนาคารกลาง เพื่อกระตุ้นให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น รวมทั้งติดตามการรายงานสต๊อกน้ำมันของสหรัฐฯ (EIA) ที่จะส่งผลโดยตรงต่อราคาน้ำมันโลก

ขณะที่หุ้นไทยคาดจะแกว่งตัวผันผวนมากขึ้น หลังตลาดบวกติดต่อกัน 3 สัปดาห์ จึงมีโอกาสอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไร แต่กระแสเงินทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อหุ้นไทยอย่างชัดเจนอีกครั้ง เป็นปัจจัยช่วยหนุนดัชนีให้มีโอกาสเดินหน้าบวกได้ แม้จะเป็นการเข้ามาเลือกซื้อหุ้นรายกลุ่มรายตัวของต่างชาติ ทั้งนี้ จากสถิติ 5 ปี ย้อนหลัง พบว่านักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยในเดือน มี.ค.

สำหรับปัจจัยในประเทศ ให้ติดตามการประกาศจ่ายเงินปันผลของหุ้นกลุ่มหลักๆ ว่ามีความน่าสนใจแค่ไหนรวมทั้งกระแสเงินทุนต่างชาติว่ายังคงเข้ามาซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องหรือไม่

แนะกลยุทธ์การลงทุน แนะเก็งกำไรหุ้นรายตัวในกลุ่มแบงก์และพลังงานที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ โดยให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว หลังหุ้นทั้ง 2 กลุ่มนี้ปรับตัวขึ้นมาพอสมควร

โดยหุ้นปันผลเด่น ตั้งแต่ 4% ขึ้นไป อาทิ ASIA–SC–RP–BJCHI–QTC และหุ้นที่ราคาลงมามากเกินไป (Laggard) อาทิ ADVANC–INTUCH แต่ก็ต้องติดตามประเด็น 4G ประกอบด้วย!!

อินเด็กซ์ 51