โรม เมืองที่แดดไม่เคยโรย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี

http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07074010659&srcday=2016-06-01&search=no

วันที่ 01 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 22 ฉบับที่ 398

เดินเล่น ตลาดต่างแดน

อ้อมแอ้ม ณ แอลเอ

โรม เมืองที่แดดไม่เคยโรย

เราป้วนเปี้ยนแถวยุโรปมาพักใหญ่ รับอากาศเย็นสบายขณะที่หลายมุมของโลกกำลังร้อนระอุ ได้เวลาจะต้องขยับขยายไปแถวอื่นบ้าง ก่อนกลับฉันแวะฝรั่งเศส ที่อึงคะนึงไปด้วยนักท่องเที่ยว ฉันใช้เวลาในการตะกายดูพิพิธภัณฑ์ลูฟว์หลายวัน จนไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตาที่อื่นเลย ไว้คราวหน้าฉันจะพากลับไปเดินตลาดแถวปารีส

แต่คราวนี้ก่อนจากยุโรปไป ฉันจะพาไปเที่ยวโรมก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวคนเมาธ์ว่ามาไม่ถึงยุโรป

โรมเป็นเมืองหลวงของอิตาลี และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่สุดของอิตาลีและของยุโรป มีคนเที่ยวโรมปีละมากกว่า 20 ล้านคน คือมากประมาณมาเที่ยวเมืองไทยทั้งประเทศเลยทีเดียวเชียว

ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะโรมน่าอยู่มาก อากาศดีมาก

โรมเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ติดอันดับโลกมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง อันนี้ว่ากันมาหลายสิบปีแล้ว ตั้งแต่หลายสิบปีก่อนที่มีหนังเรื่อง Roman Holiday ที่หนุ่มสาวยุคก่อน ละเมอหาพระเอกนางเอกขวัญใจในเรื่อง และโรมก็กลายเป็นเมืองในฝันของคนทั้งโลกเสียยิ่งกว่าปารีสหลายเท่า

โรมมีอาคารบ้านเรือนสมัยก่อนเก่าที่ยังคงสภาพเดิมและถูกใช้ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงเมืองเก่าสมัยโรมันเป็นใหญ่ ที่มีอายุกว่า 3,000 ปี และมีร่องรอยอารยธรรมเก่าแก่ให้ศึกษา มีความยิ่งใหญ่อลังการให้เราตื่นตาตื่นใจ

คำพูดว่าโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว เปรียบเทียบถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองนี้ อะไรที่มันยิ่งใหญ่มันย่อมไม่ได้สร้างขึ้นภายในวันเดียว ประชาธิปไตยของเมืองไทยก็เช่นกัน

ในโรมมีพื้นที่ไม่มากนัก อัดแน่นไปด้วยอารยธรรม เอาเฉพาะสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไปเกินปีละ 10 ล้านคนก็อย่าง โคลอสเซียม (ภาษาอิตาเลียนเขียน Colosseum) ร่องรอยความรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมันเมื่ออดีต เมืองวาติกัน ศูนย์กลางของคริสตจักร มีโบสถ์เซนต์ปีเตอร์บาซิลิกา (มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์) แล้วก็พิพิธภัณฑ์วาติกัน ซึ่งมีงานศิลปะระดับเอกอุไม่แพ้แห่งใดในโลก และยังมีโบสถ์ซิสติน ที่มีภาพเขียนผนังแบบเฟรสโก (Frescoes) ของ ไมเคิล แองเจโล ศิลปินอิตาเลียนที่คนทั้งโลกรู้จัก คนเดียวกับที่สลักหินเป็นรูปปั้น เดวิด ที่เมืองฟลอเรนซ์ที่ฉันเคยพาไปแล้วไง

ด้วยเป็นเมืองท่องเที่ยว เดินในโรมทุกวันนี้จึงจะพบปะผู้คนจากทั่วโลก ไม่เฉพาะคนโรมเท่านั้น

เขาว่าคนโรมจริงๆ ก็เหลือน้อยแสนน้อย เพราะมีคนหลั่งไหลจากทั่วโลกเข้ามาตั้งหลักแหล่ง การเข้ามาตั้งหลักแหล่งในอิตาลีไม่ยากเหมือนในยุโรปประเทศอื่น และคนก็เข้ามาอิตาลีกันมาก เพราะอิตาลีเป็นเกาะห้อยท้ายทวีปยุโรป ยิ่งทางตอนใต้ของอิตาลียิ่งมีคนต่างบ้านต่างเมืองเข้ามาหากินกันมาก เขาว่าบางเมืองของอิตาลีมีคนจีนเข้าไปอยู่จนแทบจะเป็นเมืองจีนไปแล้ว แต่ฉันยังไม่เคยไปนะ

เดินตลาดหรือเดินเที่ยวในโรมก็เหมือนเดินตลาดในหลายเมืองของอิตาลี คือเดินแบบสนุก เพราะอากาศเขาดี แดดใสแต่ไม่ร้อน คนเขายิ้มแย้มแจ่มใสดี คนอิตาเลียนอารมณ์ดี ชอบแสดงออก ไม่เงียบขรึมเหมือนคนเยอรมัน หรือขี้อายเหมือนคนยุโรปตะวันออก

ความมั่นใจและเปิดเผยของคนอิตาเลียนนั้นประทับใจฉันเหลือคณา เพราะแม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่เขาไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปมอะไร เราพูดภาษาอังกฤษไป เขาตอบเป็นภาษาอิตาเลียนมาปาวๆ พร้อมภาษาท่าทางประกอบ ทำท่าไปหัวเราะไป ในที่สุดก็เข้าใจกันเอง เขาไม่มีแม้แต่คำว่า “ขอโทษนะ ภาษาอังกฤษฉันมันไม่ค่อยดีอ่ะ” ซึ่งฉันมักเจอในหลายประเทศที่รู้สึกว่าการพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นปมด้อย ฉันว่ามันไม่ใช่ และไม่จำเป็น

เวลาซื้อของกับป้าๆ ในตลาด เราใช้ภาษาท่าทางกับเสียงหัวเราะเป็นหลัก และฉันไม่เคยผิดหวัง ได้ของแถมมามากมายก็เพราะภาษาใบ้และเสียงหัวเราะนี่แหละ

สำหรับอิตาลี เป็น Land of Smile และ Land of Sunshine เดินตลาดแล้วเพลิน ตลาดของอิตาลีมีในทุกที่ เขาขายอะไรตรงไหนได้เขาขายทันที คนอิตาเลียนไม่เขี้ยว (แต่พวกล้วงกระเป๋าเยอะมาก ซึ่งฉันสงสัยว่าอาจไม่ใช่อิตาเลียนทั้งหมด แต่เพราะคนมันมาจากมากมายหลายแหล่งเหลือเกินอย่างที่บอกไปแล้ว)

เป็นเมืองที่ไปเท่าไหร่ไม่เบื่อ แม้พักหลังคนจะมากมายขึ้นทุกทีก็ตาม

ตลาดฟิลิปปินส์ เหมือนไทยอย่างกับแกะ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี

http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07076010159&srcday=2016-01-01&search=no

วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 21 ฉบับที่ 388

เดินเล่น ตลาดต่างแดน

อ้อมแอ้ม ณ แอลเอ

ตลาดฟิลิปปินส์ เหมือนไทยอย่างกับแกะ

คนฟิลิปปินส์กับคนไทยนี่ถ้านั่งใกล้กันแล้วไม่ต้องพูด ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นใคร ฉันยืนยัน หน้าตาผิวพรรณคล้ายกัน ถ้าจะว่าคนไทยมีคนเชื้อสายจีนที่ผิวพรรณขาวจัด คนฟิลิปปินส์เขาก็มีคนเชื้อสายจีนผิวขาวจัดเหมือนกัน หรือคนไทยทางตอนเหนือผิวออกเหลือง ฟิลิปปินส์ก็มีคนพื้นเมืองผิวออกเหลืองเหมือนกัน คือไปทางไหนก็เหมือนกันไปหมด

แต่คนไทยรู้อะไรเกี่ยวกับฟิลิปปินส์บ้าง นอกจากที่เรียกเขาว่าตากาล็อก ฉันว่าไม่รู้หรอก หรือไม่ก็รู้น้อยมาก ฟิลิปปินส์ใช่จะมีแต่ตากาล็อกนะคุณ เขามีภาษาท้องถิ่นอีกนับร้อยภาษา และที่ว่าตากาล็อกมีคนใช้มากที่สุดก็ไม่ใช่อีก เพียงแต่มันเป็นภาษาที่มีคนในกรุงมะนิลาใช้ และมันเป็นภาษาที่ผสมกันแล้วระหว่างภาษาท้องถิ่นกับภาษาสเปน รัฐบาลฟิลิปปินส์ยุคหลังอาณานิคมจึงพยายามให้ภาษานี้เป็นภาษาทางการ ปัจจุบันก็มีคนใช้เยอะอยู่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด คนฟิลิปปินส์พูดภาษาตากาล็อกไม่ได้มีเยอะแยะนะคุณ

อันว่าสเปนนั่นก็อย่างที่เคยคุยไปแล้ว เขาปกครองฟิลิปปินส์อยู่หลายร้อยปี วัฒนธรรม ศาสนา อาคารบ้านเรือน ตลอดจนนิสัยใจคอ ยังอบอวลอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ และคนฟิลิปปินส์

คนฟิลิปปินส์ส่วนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นส่วนใหญ่แต่บัดนี้จำเนียรกาลผ่านไปก็กลายเป็นส่วนน้อยและเป็นคนมีอายุไปตามระเบียบ จะพูดภาษาสเปนได้ ส่วนกลางคนมาหน่อยราว 50 กว่าๆ จะพูดภาษาอังกฤษได้ เพราะอเมริกันก็เคยมาเป็นเจ้าอาณานิคมอยู่พักหนึ่ง

ถามว่าทำไมฟิลิปปินส์ถึงตกเป็นเมืองขึ้นยาวนานโดยหลายประเทศ ถ้าถามฉัน ฉันว่าภูมิประเทศเขาล่อเป้ามาก คือเป็นเกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ใครแล่นเรือมาจากทางตะวันตกก็มาเจอเกาะสวยนี่ เป็นท่าเรือ เป็นฐานรบ ฐานการค้า ได้ดีที่สุด

ฟิลิปปินส์จึงเป็นประเทศแรกๆ ในเอเชียที่ตกเป็นเมืองขึ้น แล้วก็เป็นยาวนานหลายร้อยปี เพิ่งได้อิสรภาพแจ่มแจ้งแดงแจ๋เมื่อปี พ.ศ. 2489 นี่เอง

ในบรรดาประเทศในเอเชียด้วยกันนี่ ประเทศฟิลิปปินส์เป็นอีกประเทศที่ฉันว่าอุดมไปด้วยคนดีมีฝีมือ มีการศึกษา มีภาษาดี แต่ดันตกอยู่ในวงวังของคอร์รัปชั่น สงครามระหว่างชนกลุ่มน้อย กระทั่งสงครามสู้กับคอมมิวนิสต์ก็ยังมีอยู่ คนจึงยังยากจนเสียมากต่อมาก

การที่ประเทศเป็นหมู่เกาะมากมายกว่า 7,000 เกาะ ยังทำให้ต้นทุนในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันสูงกว่าปกติมาก จนถึงทุกวันนี้ฟิลิปปินส์ยังมีหมู่บ้านไกลปืนเที่ยงที่ไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ และยังต้องเดินทางข้ามเกาะด้วยเรือโกโรโกโส

ข่าวเรื่องเรือล่มคนเสียชีวิตมากมาย ก็เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

นั่นยังไม่เท่ากับที่ฟิลิปปินส์อยู่ในเขตที่พายุไต้ฝุ่นอาละวาดถี่ยิบ มาแต่ละทีเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ฉันว่าตรงนี้ก็ส่วนหนึ่งแหละที่ทำให้เขาเงยหน้าอ้าปากได้ยากเหลือเกิน

เพื่อนฉันเป็นนักข่าว เคยเห็นหล่อนรายงานเหตุการณ์พายุถล่ม หล่อนยืนหน้ากล้องด้านหลังเป็นต้นไม้ไหวระเอน ลมอื้ออึง ฉันเห็นแล้วตื่นตาตื่นใจ เพราะหล่อนดูมั่นคงมาก

จากนั้นก็เห็นหล่อนรายงานแบบนี้อีก พายุแล้วพายุเล่า หล่อนบอกมันเกิดขึ้นบ่อยจนฉันชินชาแล้ว แล้วรูปแบบการรายงานข่าวก็แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกัน เริ่มด้วยรายงานความรุนแรงของพายุ เอาแบบตื่นตาตื่นใจเห็นกันจะจะ เปียกกันมะลอกมะแลก เสร็จแล้วต่อด้วยรายงานความเสียหาย สภาพบ้านเรือนพังราบ ผู้คนล้มหาย เสียงร้องไห้ระงม อะไรประมาณนั้น

แล้วหล่อนก็บอกฉันว่าความช่วยเหลือไม่สามารถไปถึงมือทุกคนได้ เพราะรัฐบาลเองก็รับมือไม่ไหว ไหนจะเดินทางลำบากอีก กว่ารัฐบาลจะเข้าไปถึงทุกหมู่บ้าน มันนานแสนนาน

คนฟิลิปปินส์จึงเป็นคนที่ออกไปหาเงินนอกประเทศมาเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เพราะความยากจน และเพราะพอรู้ภาษาอังกฤษกับภาษาสเปน ฉันเจอคนฟิลิปปินส์มาแล้วทุกมุมโลก เป็นนักดนตรีก็ฝีมือดีมาก ฉันเคยเจอที่คลับในกาตาร์ ได้ยินเสียงร้องเจื้อยแจ้วสำเนียงฝรั่งชัดเปรี๊ยะ ทายได้เลยว่าฟิลิปปินส์ ที่แอฟริกาก็เจอทำนองเดียวกัน ส่วนที่อเมริกาฉันเจอพยาบาลกับหมอฟิลิปปินส์เยอะมาก

ถ้าเป็นเมืองไทยเจอมาสอนภาษา เรียกเงินเดือนหมื่นกว่าบาทเอง พวกนี้ไม่ใช่ชั้นครู สำเนียงภาษาอะไรก็ไม่ดีนัก เข้าใจว่าถ้าดีกว่านี้คงไปไกลกว่าจะมาเตาะแตะแค่เอเชีย

คนฟิลิปปินส์ใช้ชีวิตสนุกสนานมาก เต้นระบำรำฟ้อน อย่างที่ฉันบอกว่าอาจมาจากอิทธิพลของสเปนที่ปกครองประเทศนี้อยู่เนิ่นนาน คนสเปนก็ชอบเต้นระบำรำฟ้อนเหมือนกัน

เมื่อชีวิตออกจะสนุกสนาน ตลาดของคนฟิลิปปินส์ก็สนุกสนานไปด้วยสีสัน อาหารฟิลิปปินส์เหมือนเมืองไทยมาก คนก็ดันเหมือนกัน เวลาเดินตลาดฟิลิปปินส์จึงให้รู้สึกว่าเป็นเมืองไทยเอามากๆ ไอ้พวกของทอดข้างถนน ใส่ถุงกระดาษกินกันนี่ใช่เลย ลูกชิ้นปลาทอดก็มี ที่จริงของพวกนี้กินกันหลายประเทศทั่วโลกนะ ไม่ใช่มีแต่เมืองไทย หรือฟิลิปปินส์

แล้วอารมณ์ยืนกินข้างถนน หรือเดินไปกินไปนี่ก็เหมือนเมืองไทยเลย ซึ่งก็ย้ำอีกทีว่าไม่ใช่เฉพาะแค่ไทยกับฟิลิปปินส์ เรื่องเดินกินมีค่อนโลก คนอังกฤษก็เดินกินนะ ใครที่กลัวชาวบ้านจะว่าไร้มารยาท จึงควรจะเลิกกลัว ใช้ชีวิตอย่างที่มันเหมาะกับตัวเองให้มากที่สุดแหละ เมื่อชีวิตมันเร่งรัด มันไม่มีเวลาให้อ้อยสร้อย ก็เดินไปกินไปเถอะคุณ อย่าได้แคร์

เดินตลาดฟิลิปปินส์แล้วดูเอาเถิด จะรู้ว่าเขากินไรเรากินนั้นเหมือนกันเดียะ

ตลาดโคลอมเบีย ห้ามเรียกชื่อผิด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี

http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07074011258&srcday=2015-12-01&search=no

วันที่ 01 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 386

เดินเล่น ตลาดต่างแดน

อ้อมแอ้ม ณ แอลเอ

ตลาดโคลอมเบีย ห้ามเรียกชื่อผิด

เริ่มแรกเลยฉันต้องเจ้ากี้เจ้าการบอกแต่ต้นก่อนว่า โคลอมเบีย (Colombia) ไม่ใช่โคลัมเบีย (Columbia) นะจ๊ะ เรียกผิดฉันไม่ว่าหรอก แต่เจ้าของประเทศเขาโกรธตาย

โคลัมเบียน่ะ เป็นชื่อมหาวิทยาลัยในอเมริกา ชื่อยี่ห้อเสื้อกันหนาว แต่โคลอมเบีย นี่เป็นประเทศ อย่าสับสนจ้ะ อย่าสับสน

ประเทศโคลอมเบียอยู่ด้านบนสุดของทวีปอเมริกาใต้ ดังนั้น จึงไม่ร้อน อากาศเย็นสบาย แดดดี และเป็นแดดที่เป็นมิตรมากคือ ไม่ร้อน เหมาะแก่การเดินเล่นเย็นใจ

เมืองหลวงของโคลอมเบียชื่อเมืองโบโกตา ชอบเป็นข่าวเรื่องตีรันฟันแทง เรียกค่าไถ่ กับยาเสพติด แต่เพื่อนฉันบอกมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นทุกวันหรอก ปกติชาวบ้านก็อยู่กันมีความสุขดี

โคลอมเบียมีคนรู้จักน้อยกว่า เมื่อเทียบกับพี่ใหญ่ในอเมริกาใต้อย่างบราซิล หรือ เปรู และเท่าที่รู้จักกันเราก็จะได้ยินแต่ข่าวไม่ค่อยดี เรื่องการค้ายาเสพติด เจ้าพ่อ มาเฟีย และคอร์รัปชั่น

ซึ่งมันก็จริง แต่มันจริงแบบมีที่มาที่ไป ไม่ใช่จู่ๆ เขาจะลุกขึ้นทำอะไรบ้าบอกันหน้าตาเฉย

สำหรับฉัน โคลอมเบียเป็นประเทศน่าสงสาร เขาถูกปกครองโดยระบบเผด็จการยาวนาน คอร์รัปชั่นในวงราชการซ้ำเติมเข้าไปอีก มันเกาะกินจนประเทศยากจน ประชาชนหน้าไหม้

ถ้าจะด่าคนโคลอมเบีย จงด่าเผด็จการ และด่าข้าราชการคอร์รัปชั่นของเขา อย่าเหมาหมด

เพื่อนฉันเป็นนักเขียนและเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยในโคลอมเบีย เราเคยได้ทุนของรัฐบาลอเมริกาไปดูงานด้วยกัน ประวัติเขาน่าชื่นชมมาก เป็นปัญญาชนตัวกลั่น ท่าทางเขาสุขุมน่าเคารพ แต่เขาก็โดนกักตัวค้นตัวเสียเละที่สนามบินทันทีที่ถึงอเมริกา หนังสือรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาไม่ได้ช่วยอะไร เพราะมันคนละหน่วยงาน พวกที่ค้นตัวคือ อิมมิเกรชั่น (Immigration)

จำได้ว่าเขาบ่นกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศที่มาดูแลพวกเรา ประมาณว่าน่าจะให้เกียรติกันบ้าง เจ้าหน้าที่บอกว่า “ก็นั่นละ มันไม่มีใครไว้หน้าใครทั้งนั้น พวกผมขึ้นเครื่องบินก็โดนค้นตัวแทบจะต้องแก้ผ้ากันอยู่แล้ว ถึงเป็นเจ้าหน้าที่ก็เถอะ”

นอกจากคอร์รัปชั่นแล้วโคลอมเบียก็มีสงครามระหว่างกลุ่มนั้นกลุ่มนี้กับรัฐบาลตลอดมา สู้กันจนเหนื่อยก็พยายามหาทางสงบศึก แต่จนบัดนี้ยังเจรจากันไม่เสร็จ ยิ่งสู้ประเทศยิ่งบอบช้ำ

คนไทยอยากเป็นอย่างเขาก็ทะเลาะกันเข้าไปนะ

โคลอมเบียเป็นประเทศผลิตน้ำมันได้นะ ได้มากขนาดวันละเป็นล้านบาร์เรลทีเดียว แต่เพราะมีปัญหาภายในมากมาย คนจึงยังยากจน

เมื่อเดินในประเทศยากจน คุณก็ต้องรู้นะว่าจะต้องระวังตัวอย่างไร แต่โดยรวมแล้วคนเขาดี ซื่อๆ จนๆ น่าเห็นใจ ที่มีอาชญากรรมมาก ก็เพราะมาจากความยากจนนั่นแหละคุณ ระวังตัวเราไว้ แต่อย่าไปเกลียดชังเขาเลย

โคลอมเบียเคยเป็นเมืองขึ้นของสเปน ทุกวันนี้ก็ยังพูดภาษาสเปน และมีวัฒนธรรมสเปนปกคลุมไปหมด

เมื่อเป็นสเปน ก็ไม่พลาดเรื่องมะกอก สเปนเป็นประเทศที่บ้าคลั่งมะกอกมาก เขาต้องกินมะกอกดอง ใส่ในอาหารสารพันอย่าง และต้องกินสลัดกับน้ำมันมะกอก ฉันเคยเล่าให้ฟังแล้วใช่ไหม เพื่อนชาวสเปนของฉัน มาอยู่เมืองไทย ต้องหอบหิ้วน้ำมันมะกอกเป็นถังๆ มาจากประเทศเขา เพราะขาดไม่ได้ จะซื้อกินเมืองไทยก็แพงเวอร์

ฉันซื้อกินไม่ยักรู้สึกว่าแพง แต่เพื่อนฉันว่าแถวบ้านเขาที่สเปน เขาแทบจะแจกฟรีกันอยู่แล้ว เขาไม่ขายกันแพงเป็นเพชรเป็นพลอยเหมือนเมืองไทย อันนี้เขาว่านะ

ที่มีขายมากดาษดื่นอีกอย่างคือ เครื่องเทศ เขาใช้กันมาก และอาหารเขาใส่เครื่องเทศกันให้รึ่ม อร่อยดี กินแล้วไม่มีเลี่ยน

อีกอย่างที่ฉันแปลกใจมากคือ ผ้าปักของเขา ลวดลายเหมือนทางเอเชียมาก เอามาวางกับผ้าปักชาวเขาเมืองไทยแทบจะแยกไม่ออก ฉันพยายามทำความเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงเหมือนกัน แต่ยังหาคำตอบไม่ได้ ผ้าปักของเขาสวยมาก ลวดลายละเอียด บางผืนเขาปักจนไม่เห็นเนื้อผ้าเดิมข้างในเลยทีเดียว ราคาไม่แพงด้วย

โคลอมเบียฉลองวันชาติทุกวันที่ 11 พฤศจิกายน นี่ก็เพิ่งผ่านไปหมาดๆ

เขาแห่แหนระบำรำฟ้อนกันครึกครื้น นิสัยชอบร้องรำทำเพลง ชอบเฮฮานี่ก็มาจากสเปน ดูฟิลิปปินส์สิ เคยเป็นเมืองขึ้นของสเปนหลายร้อยปี มีดนตรีในสายเลือดกันทีเดียว ไปอยู่มุมไหนของโลกก็จะเจอนักดนตรีฟิลิปปินส์ วงดนตรีตากาล็อก

คนโคลอมเบีย ผิวสีน้ำตาล ตาสีน้ำตาล หนุ่มหล่อสาวสวย ตานี้คมกริบ ฉันชอบมาก ผู้หญิงเขาเวลาสวยนี่สวยขาดบาดใจ แต่แก่มามักจะอ้วนกัน ไม่รู้เป็นไง ทั้งที่อาหารการกินเขาก็ไม่ชวนอ้วนเท่าไหร่นะ

เหมือนกับอีกหลายประเทศในอเมริกาใต้ โคลอมเบียชอบประกวดนางงามมิใช่น้อย และบ้าบอลมิใช่น้อยอีกเหมือนกัน บอลเขามีชื่อนะ ปีนี้กำลังลุ้นเข้ารอบบอลโลกอยู่ ไม่กี่วันก่อนเพิ่งเตะกับชิลี

แทบจะปิดประเทศเชียร์กันเลยทีเดียว