โซไซตี้ : พิธีเปิดงาน “French Fair 2025”

โซไซตี้ : พิธีเปิดงาน “French Fair 2025”

โซไซตี้ : พิธีเปิดงาน “French Fair 2025”

วันอาทิตย์ ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

อัศวิน – ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ปธ.เจ้าหน้าที่บริหารและ กก.ผจญ. และรองประธาน กก.บริหาร บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี พร้อมด้วย ฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ  ออท.ฝรั่งเศส และพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมพิธีเปิดงาน “French Fair 2025” นำเสนอสินค้าคุณภาพพรีเมียมจากประเทศฝรั่งเศส  ณ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาพระราม 4 

โซไซตี้ : สธ. ไกล่เกลี่ยสาธารณสุขเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน

โซไซตี้ : สธ. ไกล่เกลี่ยสาธารณสุขเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน

โซไซตี้ : สธ. ไกล่เกลี่ยสาธารณสุขเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน

วันอาทิตย์ ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

กระทรวงสาธารณสุข เปิดตัวโครงการใหม่ “โครงการขับเคลื่อนภารกิจการจัดการความขัดแย้งในระบบสาธารณสุข ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562” ด้วยช่องทางการบริการการไกล่เกลี่ยที่เข้าถึงได้ง่าย สะดวก กระบวนการขั้นตอนที่มีมาตรฐาน ใช้เวลาไม่มาก มีกฎหมายรองรับผลการไกล่เกลี่ย โดยกระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายสำคัญเพื่อยุติข้อพิพาทในระบบสาธารณสุขด้วยความพึงพอใจของทุกฝ่าย ช่วยลดปริมาณคดีทางการแพทย์ที่จะขึ้นสู่ศาล ซึ่งการฟ้องคดีบุคลากรทางการแพทย์ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และศรัทธาของประชาชนที่มีต่อบริการทางการแพทย์ ในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความมุ่งมั่นในการตั้งใจให้บริการประชาชนอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐและค่าใช้จ่ายของประชาชนในการดำเนินคดีอีกด้วย

พิธีเปิดงาน ได้รับเกียรติจาก นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ร่วมถึง ผู้แทนสำนักงานศาลยุติธรรม, ผู้แทนแพทย์สภา, ผู้แทนสภาการพยาบาล, ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการไกล่เกลี่ย สคบ., ผู้บริหารกระรวงสาธารณสุข และตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์ เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 300 ท่าน

ตลอดระยะเวลาที่กว่า 20 ปี กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการหลายรูปแบบเพื่อแก้ไขปัญหาการฟ้องคดีต่อบุคลากรทางการแพทย์ แต่ยังไม่สามารถลดจำนวนการฟ้องคดีได้เท่าที่ควร ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักมาตรฐานวินัยและระบบคุณธรรม จึงได้ริเริ่มโครงการขับเคลื่อนภารกิจด้านการจัดการความขัดแย้งในระบบสาธารณสุข ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 โดยนำกลไกการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามกฎหมาย มาช่วยในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยสันติวิธี มีกฎหมายรองรับผลการเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อลดปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและถูกฟ้องคดี ลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ลดงบประมาณแผ่นดิน โดยคำนึงถึงความสมัครใจ และความพึงพอใจของคู่กรณีเป็นสำคัญ โครงการนี้ฯ ไม่เพียงแต่จะสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในระบบสาธารณสุขไปสู่ประชาชนในวงกว้าง แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมให้หน่วยบริการทางการแพทย์ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสังคมสันติสุข รวมถึงเพิ่มศักยภาพให้หน่วยบริการด้านการไกล่เกลี่ยสามารถให้บริการได้อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน และเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์ให้เพิ่มขึ้นด้วย

กระทรวงสาธารณสุข มั่นใจว่าโครงการนี้ฯ จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมแห่งความสมานฉันท์ และช่วยลดปัญหาความขัดแย้งในระบบสาธารณสุขได้อย่างยั่งยืนในอนาคต พร้อมกับเปิดโอกาสให้ประชาชนและทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ระบบสุขภาพที่ดีขึ้น ภายใต้ความสมานฉันท์สำหรับทุกคน

โซไซตี้ : “ให้โลหิต ให้ชีวิต” ครั้งที่ 2

โซไซตี้ : “ให้โลหิต ให้ชีวิต” ครั้งที่ 2

โซไซตี้ : “ให้โลหิต ให้ชีวิต” ครั้งที่ 2

วันอาทิตย์ ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

เอมอร ศรีวัฒนประภา ประธาน กก. กลุ่ม บ.คิง เพาเวอร์ และประธาน กก.มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา สานต่อปณิธานแห่ง “การให้” จัดกิจกรรม “ให้โลหิต ให้ชีวิต” ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 โดยมี อภิเชษฐ์  ศรีวัฒนประภา ,รวิ  อิทธิระวิวงศ์ พร้อมด้วยพนักงานร่วมแสดงพลังบริจาคโลหิตเพื่อส่งมอบให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อใช้ในการรักษา พยาบาลและช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

โซไซตี้ : DMT สุดปลื้ม คว้าเกียรติบัตรสำนักงานสีเขียวระดับดีเยี่ยม

โซไซตี้ : DMT สุดปลื้ม คว้าเกียรติบัตรสำนักงานสีเขียวระดับดีเยี่ยม

โซไซตี้ : DMT สุดปลื้ม คว้าเกียรติบัตรสำนักงานสีเขียวระดับดีเยี่ยม

วันอาทิตย์ ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

อโนมา อุฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานปฏิบัติการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยภายหลังเข้ารับเกียรติบัตรสำนักงานสีเขียว (Green Office) จาก จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า DMT ได้รับการรับรองสำนักงานสีเขียวระดับ ดีเยี่ยม (G ทอง) จาก 3 สำนักงาน ได้แก่ ด่านอนุสรณ์สถาน ด่านหลักสี่ และด่านแจ้งวัฒนะ และได้รับการรับรองระดับ ดีมาก (G เงิน) จาก 5 สำนักงาน ได้แก่ ด่านบางเขน ด่านรัชดาภิเษก ด่านลาดพร้าว ด่านสุทธิสาร และด่านดินแดง

“โดยสำนักงานใหญ่และสำนักงานด่านดอนเมืองได้รับ ระดับดีเยี่ยม (G ทอง) ประจำปี 2566 รับมอบไปวันที่ 29 สิงหาคม 2567 และอีก 8 สำนักงานด่าน รับเกียรติบัตรประจำปี 2567 รับมอบวันที่ 26 มี.ค. นี้ เท่ากับ DMT ได้ครบทุกสำนักงานในแต่ละด่าน นับเป็นรางวัลที่ยืนยันความตั้งใจ ของทุกคนในองค์กรมาตลอดหลายปีนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราภูมิใจมาก” อโนมาเผย

อโนมา กล่าวต่อว่า การได้รับการรับรอง Green Office นี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ DMT ในการดำเนินงานแบบ ESG in-Process ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานด่านต่างๆ มีการบริหารจัดการทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีแนวทางจัดการของเสียที่เป็นระบบ และสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ ผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการสำนักงานสีเขียวของ DMT ยังช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระ จกได้ 30% ในปัจจุบัน  ซึ่งสนับสนุนแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กร สอดคล้องกับนโยบายของประเทศในการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเพื่อให้องค์กรมีร่วมขับเคลื่อนนโยบายของประเทศไทย บริษัทฯ จึงตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน Carbon Neutrality ปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์  Net Zero ปี 2065 ตามเจตนารมณ์ ของประชาคมโลกที่ปรากฏในเป้าหมายของความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“DMT ตระหนักดีว่าการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เป็นภาระหน้าที่ของทุกคนและทุกองค์กร จึงได้ดำเนินการโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ ในกระบวนการดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังและเข้มแข็ง เพราะเราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรับผิดชอบต่อสังคมทั้งในปัจจุบันและอนาคต” อโนมา กล่าวทิ้งท้าย

โซไซตี้ : โอกาสทองของธุรกิจไทย! เปิดรับสมัครสถานประกอบการ เข้าชิงรางวัลอุตสาหกรรม ปี’68 ก้าวสู่ความเป็นเลิศระดับประเทศ

โซไซตี้ : โอกาสทองของธุรกิจไทย! เปิดรับสมัครสถานประกอบการ เข้าชิงรางวัลอุตสาหกรรม ปี’68 ก้าวสู่ความเป็นเลิศระดับประเทศ

โซไซตี้ : โอกาสทองของธุรกิจไทย! เปิดรับสมัครสถานประกอบการ เข้าชิงรางวัลอุตสาหกรรม ปี’68 ก้าวสู่ความเป็นเลิศระดับประเทศ

วันอาทิตย์ ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

กระทรวงอุตสาหกรรม เชิญชวนสถานประกอบการทั่วประเทศร่วมสมัครเข้ารับคัดเลือก “รางวัลอุตสาหกรรม” ประจำปี 2568 (The Prime Minister’s Industry Award 2025) ซึ่งผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติและผ่านการคัดเลือกจะได้รับประกาศเกียรติคุณและโล่รางวัลเกียรติยศจาก “นายกรัฐมนตรี” เพื่อยกย่องและเชิดชูองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการดำเนินธุรกิจ พร้อมสร้างภาพลักษณ์ในเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นโอกาสสำคัญในการตอกย้ำศักยภาพขององค์กร และก้าวสู่ความเป็นผู้นำในภาคอุตสาหกรรมไทย เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ ถึง 16 พฤษภาคม 2568

ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การแถลงข่าวในวันนี้ถือเป็นการเปิดตัวการประกวดรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2568 (The Prime Minister’s Industry Award 2025) อย่างเป็นทางการ โดยจุดเริ่มต้นของ “รางวัลอุตสาหกรรม” นี้ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2536 และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้หลักแนวคิด “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ ที่เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” ครอบคลุมนโยบาย MIND 4 มิติหลัก ได้แก่ ความสำเร็จทางธุรกิจ การดูแลสังคมและชุมชน การรักษาสิ่งแวดล้อม และการกระจายรายได้สู่ชุมชน เพื่อเฟ้นหาสถานประกอบการที่มีความวิริยอุตสาหะในการสร้างสรรค์งานที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นแบบอย่างที่ดีแก่อุตสาหกรรมอื่น อันจะนำมาซึ่งการพัฒนามาตรฐาน และการประกอบการในด้านต่าง ๆ อย่างมีศักยภาพ

สำหรับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2568 ที่เปิดรับสมัคร จำนวน 14 ประเภทรางวัล ประกอบด้วย 1.รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม (The Prime Minister’s Best Industry Award) จำนวน 1 รางวัล ซึ่งคัดเลือกจากสถานประกอบการที่เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ประเภท เป็นเกียรติยศสูงสุดของภาคอุตสาหกรรมไทย 2.รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น (The Prime Minister’s Industry Award) 9 ประเภท ได้แก่ การเพิ่มผลผลิต,การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ,การบริหารความปลอดภัย ,การบริหารงานคุณภาพ ,การจัดการพลังงาน ,การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ,อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ,ความรับผิดชอบต่อสังคม และ เศรษฐกิจหมุนเวียน และ 3. รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น 4 ประเภท ได้แก่ การบริหารจัดการที่ดี ,การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ ,การจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม และการบริหารธุรกิจสู่สากล

และในปีนี้กระทรวงอุตสาหกรรมยังคงมีรางวัลพิเศษ คือ ทูตอุตสาหกรรมภาคเอกชน (MIND Ambassador) มอบให้แก่สถานประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี 2568 ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (โรงงานเกตเวย์) รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม พร้อมตำแหน่งทูตอุตสาหกรรมภาคเอกชน (MIND Ambassador)โดยได้ร่วมดำเนินงานในการยกระดับภาคอุตสาหกรรมผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงร่วมเป็นคณะกรรมการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2568 ด้วย

“รางวัลอุตสาหกรรม ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ เนื่องจากมีกระบวนการคัดเลือกที่เข้มข้น ตั้งแต่การยื่นใบสมัครการตรวจสอบเอกสาร การนำเสนอผลงาน ไปจนถึงการตรวจประเมินสถานประกอบการ ทุกขั้นตอนถูกออกแบบให้มีความละเอียด ยุติธรรม และโปร่งใส เพื่อคัดเลือกองค์กรที่เหมาะสมกับรางวัลอันทรงคุณค่านี้ ซึ่งผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติและผ่านการคัดเลือกจะได้รับประกาศเกียรติคุณและโล่รางวัลเกียรติยศจากนายกรัฐมนตรี จึงขอเชิญชวนสถานประกอบการสมัครเข้ารับการคัดเลือก ‘รางวัลอุตสาหกรรม’ ประจำปี 2568 เพื่อร่วมเป็นต้นแบบความสำเร็จของอุตสาหกรรมไทย และเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรในระดับประเทศและสากลต่อไป เพราะรางวัลนี้ไม่ใช่แค่เครื่องหมายแห่งความสำเร็จ แต่เป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” ดร.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ สถานประกอบการที่สนใจสามารถสมัครคัดเลือกได้มากกว่า 1 ประเภท ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ดูรายละเอียดการรับสมัครได้ที่ https://industryaward.industry.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ โทรศัพท์ 0-2430-6840 ต่อ 4050 หรือสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ และศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1-11

โซไซตี้ : ทีทีบี ชวนเที่ยว ‘พิพิธภัณฑ์ครุฑ’ สรงน้ำ ‘สมเด็จมหาราชทรงครุฑ’ เสริมพลังบุญรับปีใหม่ไทย เรียนรู้ เรียนตำนานพญาครุฑแห่งเดียวในอาเซียน

โซไซตี้ : ทีทีบี ชวนเที่ยว ‘พิพิธภัณฑ์ครุฑ’  สรงน้ำ ‘สมเด็จมหาราชทรงครุฑ’ เสริมพลังบุญรับปีใหม่ไทย  เรียนรู้ เรียนตำนานพญาครุฑแห่งเดียวในอาเซียน

โซไซตี้ : ทีทีบี ชวนเที่ยว ‘พิพิธภัณฑ์ครุฑ’ สรงน้ำ ‘สมเด็จมหาราชทรงครุฑ’ เสริมพลังบุญรับปีใหม่ไทย เรียนรู้ เรียนตำนานพญาครุฑแห่งเดียวในอาเซียน

วันเสาร์ ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง นอกจากกิจกรรมรื่นเริงและการกลับไปเยี่ยมเยียนครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เวลาวันหยุดเพื่อเติมเต็มความสุขไปกับช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย ทีทีบี ขอเชิญร่วมกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป “สมเด็จมหาราชทรงครุฑ ภ.ป.ร และ ส.ก.” หน้าตัก 9 นิ้ว พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ครุฑ เพื่อความเป็นสิริมงคล ความรู้และวัฒนธรรมไทยอันล้ำค่าผ่านองค์พญาครุฑซึ่งเป็นต้นแบบแห่งความกตัญญู ความซื่อสัตย์และความดีงาม ทุกวันศุกร์และวันเสาร์ ตลอดเดือนเมษายน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

พิพิธภัณฑ์ครุฑ โดยทีเอ็มบีธนชาต อัญเชิญ “สมเด็จมหาราชทรงครุฑ ภ.ป.ร และ ส.ก.” ขนาดหน้าตัก 9 นิ้วมาประดิษฐานในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะสำคัญโดยได้รับพระราชทานพระนามาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. และประดับพระครุฑพ่าห์ เป็นลักษณะสำคัญขององค์พระ ซึ่งถูกจัดสร้างขึ้นครั้งแรกในปี พุทธศักราช 2518 ขนาดหน้าตัก 69 นิ้ว สูง 119 นิ้ว ขึ้นเพื่อเป็นที่สักการะแก่พุทธศาสนิกชน ต่อมาในปี พุทธศักราช 2525 ครั้งสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ครบ 200 ปี ได้มีการจัดสร้างพระบูชา “สมเด็จมหาราชทรงครุฑ ภ.ป.ร และ ส.ก.” ขึ้นอีกครั้ง ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ที่นำมาประดิษฐานในครั้งนี้ และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมสรงน้ำและเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ครุฑ ซึ่งถือเป็นโอกาสพิเศษให้ทุกครอบครัวได้มาสัมผัสกับพระพุทธรูปสำคัญองค์เดียวของประเทศไทย และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งแรกและแห่งเดียวในอาเซียน ที่รวบรวมครุฑมากกว่า 150 องค์ อันมีเอกลักษณ์เฉพาะองค์จากทุกภาคของไทยเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งครุฑแต่ละองค์ถูกแกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม สะท้อนถึงความประณีตของศิลปิน โดยพื้นที่จัดแสดงถูกออกแบบอย่างทันสมัยผ่านสื่อแอนิเม ชัน และมัลติมีเดียต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย 6 โซนได้แก่

โถงต้อนรับ เริ่มต้นผจญภัยกับวิจิตรหิมพานต์ที่สะท้อนคติความเชื่อของคนไทยตามหลักไตรภูมิพระร่วงเป็นภาพจิตรกรรมอันทรงคุณค่า  บอกเล่าถึงที่สถานที่อยู่ของครุฑ

ครุฑพิมาน เรียนรู้กำเนิดโลกและจักรวาล ท่องไปในดินแดนหิมพานต์ และที่อยู่ของครุฑ

นครนาคราช ถิ่นที่อยู่ของพญานาค พร้อมชมเรื่องราวของพี่น้องต่างมารดา

อมตะเจ้าเวหา เรื่องราวความเพียรพยายามของพญาครุฑผ่านแอนิเมชัน แสงสีตระการตา

สุบรรณแห่งองค์ราชัน ตามรอย “ตราพระครุฑพ่าห์” ซึ่งเป็นตัวแทนของพระมหากษัตริย์ที่ยังคงปรากฎเคียงข้างพระองค์เสมอ

ห้องจัดแสดงครุฑ ห้องที่รวบรวมองค์พญาครุฑจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย ผ่านตราตั้งห้างพระราชทาน และสัมผัสมนต์เสน่ห์คุณค่าเหนือกาลเวลา

ผู้ที่สนใจร่วมสรงน้ำพระพุทธรูป “สมเด็จมหาราชทรงครุฑ ภ.ป.ร และ ส.ก.” และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ครุฑ เพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ เข้าชมได้ทุกวันศุกร์และวันเสาร์ ตลอดเดือนเมษายน พิเศษวันละ 3 รอบ ในเวลา 10.00 น. ,13.00 น. และ 15.00 น. มีบริการผู้นำชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีรถตู้รับ-ส่งจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเคหะสมุทร ปราการถึงพิพิธภัณฑ์ครุฑ ฟรีเช่นกัน เพียงแจ้งความประสงค์ผ่านระบบการจองล่วงหน้าที่ที https://www.ttbfoundation.org/th/garudamuseum/ สำหรับท่านที่ไม่สะดวกเดินทางสามารถรับชมพิพิธภัณฑ์ครุฑในรูปแบบ Virtual Museum ได้ที่ลิงก์ https://www.ttbfoundation.org/th/garudamuseum/

โซไซตี้ : ต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้เศษเหล็ก ต่อชีวิตให้ช้างและระบบนิเวศ

โซไซตี้ : ต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้เศษเหล็ก ต่อชีวิตให้ช้างและระบบนิเวศ

โซไซตี้ : ต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้เศษเหล็ก ต่อชีวิตให้ช้างและระบบนิเวศ

วันเสาร์ ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

“STYLE Bangkok 2025” จัดงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และดีไซน์ระดับนานาชาติ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 2-6 เมษายน ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นศูนย์รวมทัพสินค้ากว่า 400 บริษัท 700 คูหา รวมถึงเป็นเวทีแห่งแรงบันดาลใจและโอกาสให้กับดีไซเนอร์ในการครีเอทและต่อยอดงานออกแบบรวมถึงผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และแฟชั่นไปสู่เวทีระดับนานาชาติ

ภายในงานมีการเปิดตัวโครงการสำคัญ “Thai Koon for Thai Elephant with PiN” การจับมือครั้งสำคัญระหว่างผู้ผลิตเหล็ก ‘Thai Koon Group’ และแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ‘PiN Metal Art’ ในการเปลี่ยนเศษเหล็ก จากโรงงานให้เป็นศิลปะโคมไฟชื่อ “Elephant Hope” จำนวน 133 ชิ้น เพื่อนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการจำหน่ายชิ้นงาน ไปช่วยเหลือช้างไทยในมูลนิธิดูแลรักษาช้างไทยหรือศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ในต่างประเทศ

สงวน สกุลวรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Thai Koon Group กล่าวว่า “เมื่อก่อนเราเคยบริจาคเป็นเงินเปลเป็นค่าอาหารและรักษาพยาบาลให้กับช้างอยู่ทุกปี ภายหลังที่เราตั้งเป้าในการออกสู่น่านน้ำใหม่ๆ ขยับขยายจากการจำหน่ายเหล็กแบบ Raw Material โดยเริ่มรีแบรนด์ และได้ Identity ที่ชัดเจนว่าไทยคูณ คือ ‘Beyond Good Steel’ เราจึงมีแนวคิดในการขยับสู่การผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์ จนได้มาทำโครงการนี้ ที่ทุกฝ่ายมีเป้าหมายและหัวใจ เดียวกันคือ การช่วยเหลือ ช้างให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเป็นการตอบโจทย์ Circular Economy ได้อย่างครบวงจร”

ด้าน ปิ่น ศรุตา เกียรติภาคภูมิ ศิลปินและนักออกแบบเจ้าของแบรนด์ ‘PiN Metal Art’ เล่าว่า เราคนไทยคุ้นเคยกับช้างมาตลอดชีวิต ดังจะเห็นได้จากที่ทุกคนรู้จักเพลงช้างกันมาตั้งแต่เด็ก โครงการนี้จึงมีคุณค่าและเป็นดั่งการฟื้นฟู หรือ Regenerate ในหลายด้าน ให้ธรรมชาติกลับคืนมาดังเดิม และตอบโจทย์แนวคิดความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง ขอชื่นชมไทยคูณ กรุ๊ป ที่มองเห็นถึงสิ่งอื่นมากกว่าผลกำไร”

ปิ่น ศรุตา ยังกล่าวอีกว่า ในแง่ของการออกแบบและการสร้างชิ้นงานศิลปะนั้น การได้ร่วมงานกับ Thai Koon เป็นการได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่มีค่ามากระหว่างศิลปินนักออกแบบกับช่างเหล็กของอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งอาจจะไม่คุ้นเคย กับแง่มุมของการทำงานคราฟต์มาก่อน จึงถือเป็นการพัฒนาทักษะของช่างไปพร้อมกัน

ด้าน ดร.ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้งโครงการพอแล้วดี The Creator ผู้เชี่ยวชาญด้าน Branding กล่าวว่า “เพื่อให้เกิดความยั่งยืนที่แท้จริง การทำ CSR ที่ดีควรเป็นสิ่งที่ไม่ไกลตัวจากผู้ผลิตหรือของบริษัทไม่ใช่การทำเพื่อแค่ ให้มีโครงการ CSR แต่จะต้องใส่เสน่ห์และความคิดสร้างสรรค์ลงไปด้วย”

ช้างไทยกำลังเผชิญหน้ากับปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย การลดลงของพื้นที่ป่า การใช้งานในอุตสาหกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้ช้างไทยต้องเผชิญกับความขาดแคลนด้านอาหารและน้ำ จนนำไปสู่ความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นระหว่างคนกับช้าง โครงการสร้างสรรค์และจำหน่ายโคมไฟ ที่ผลิตจากเศษเหล็กเหลือใช้จากกระบวนการผลิต ด้วยแนวคิด Circular Economy ลดของเสีย สร้างคุณค่าใหม่ ผ่านผลงาน“Elephant Hope” ศิลปะโคมไฟ เหล็กรูปทรงช้างที่โดดเด่น สวยงาม เป็นเอกลักษณ์นี้ นับเป็นการช่วยเหลือช้างไทยอย่างเป็นรูปธรรม จากความร่วมมือระหว่างศิลปินและภาคเอกชนที่จะสามารถช่วยเหลือช้างไทยได้อย่างอย่างยั่งยืน

โซไซตี้ : “สิงห์ ซัมเมอร์แคมป์” ปีที่ 14

โซไซตี้ :

โซไซตี้ : “สิงห์ ซัมเมอร์แคมป์” ปีที่ 14

วันเสาร์ ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

อรรถสิทธิ์ พรหมสุข  ผจก.ฝ่ายงานกิจกรรมเพื่อสังคม บจ.บุญรอดบริวเวอรี่ ร่วมเปิดโครงการ “สิงห์ ซัมเมอร์แคมป์” ปีที่ 14 ค่ายฤดูร้อน เพื่อเสริมสร้างทักษะความรู้รอบตัวผ่าน 7 กิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ คลาสนักวิทย์, คลาสฮัลโหล-หนีฮ่าว,คลาสจูเนียร์เชฟ, คลาสหน่วยกู้ชีพ, คลาสจิตรกรเชียงราย, คลาสพลังทีมเวิร์ค โดยในปีนี้มีเด็กๆ เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่งกว่า 1,000 คนจากทั่วประเทศ โดยมี ดร.สมใจ สิริตระการกิจ รองคณบดีวิทยาลัยนานาชาติ ม.กรุงเทพ และ นพ.จิรพงษ์ ศุภเสาว ภาคย์ ทีมกู้ชีพนเรนทร รพ.ราชวิถี ร่วมเปิดงาน ที่ บจ.วังน้อย เบเวอเรช

โซไซตี้ : ‘MRT Music Journey’ ขนทัพศิลปินเขย่า MRT ตลอดปี 2568

โซไซตี้ :  ‘MRT Music Journey’ ขนทัพศิลปินเขย่า MRT ตลอดปี 2568

โซไซตี้ : ‘MRT Music Journey’ ขนทัพศิลปินเขย่า MRT ตลอดปี 2568

วันศุกร์ ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2568, 17.06 น.

ปักธงส่งความสุขอย่างต่อเนื่อง กับโปรเจกต์สุดมันส์แห่งปี! ปลุกกระแสกลางเมือง  โดย บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ตเวิร์คส์ จำกัด (BMN) ผู้ให้บริการสื่อโฆษณา พื้นที่ค้าปลีก และพื้นที่จัดกิจกรรมในระบบรถไฟฟ้า MRT และทางด่วน ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผู้ให้บริการทางพิเศษและระบบรถไฟฟ้า  MRT สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง จับมือกับ GMM MUSIC ผู้นำด้านธุรกิจดนตรีในไทย ผนึกกำลังระเบิดความมันส์สานต่อโปรเจกต์  “MRT Music Journey” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สร้างคอมมูนิตี้แห่งเสียงเพลงที่เติบโตไปพร้อมกับระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพฯ ด้วยแนวคิด “The Happy Commercial Hub of MRT” เปลี่ยนพื้นที่ในระบบของ MRT ให้เป็นศูนย์กลางความบันเทิงสุดล้ำ ขนทัพศิลปินมาเสิร์ฟให้ทุกการเดินทางเติมเต็มด้วยสีสัน สนุก และคึกคักตลอดทั้งปี  พร้อมยกระดับความบันเทิงให้ MRT เป็นมากกว่าการเดินทาง ณ Metro Mall  สถานีรถไฟฟ้า MRT สวนจตุจักร และ สถานีรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน

ดร.อารยา ปานุราช กรรมการผู้จัดการ BMN และ หทัย ศราวุฒิไพบูลย์ Executive Vice President – Idol Label GMM Music

ต่อยอดความสำเร็จจาก 2 ปีที่ผ่านมา ที่ได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด จากผู้เข้าชมงานทั้งในระบบรถไฟฟ้า MRT, ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน รวมไปถึงผู้ร่วมรับชมผ่าน Live Streaming   ครั้งนี้ BEM, BMN และ GMM MUSIC เดินหน้าสานต่อโปรเจกต์ความมันส์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3  เรียกได้ว่ายกระดับความสนุกไปอีกขั้น ประเดิมครั้งแรกของปีด้วยมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษจาก 5 หนุ่มหล่อ PERSES บอยกรุ๊ปแถวหน้าของเมืองไทยที่ Performance ดุเดือด แท็กทีม 5 สาวสวยสุดฮอต จากวง VIIS เกิร์ลกรุ๊ปที่มาพร้อมสเต็ปการเต้นที่ไม่ธรรมดา มาเสิร์ฟความสุขให้แฟนๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมสร้างปรากฎการณ์ทางดนตรีที่เข้าถึงได้มากขึ้นผ่าน สื่อโฆษณา OOH ที่ครอบคลุมทั่ว MRT   Live Session สุดเอ็กซ์คลูซีฟผ่าน Digital Screens เชื่อมต่อแฟนเพลงกับศิลปินตลอดทั้งปี เรียกว่าเป็นการสร้าง “Music Experience” ที่ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยพลังของเสียงเพลงและความสนุกที่ต่อเนื่อง

ดร.อารยา ปานุราช กรรมการผู้จัดการ บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (BMN) ในฐานะผู้แทน BEM กล่าวว่า     “จากความสำเร็จของโปรเจกต์ MRT Music Journey ตลอด2 ปีที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า MRT ไม่ใช่แค่ระบบขนส่ง แต่เป็น “Destination แห่งใหม่ของความบันเทิง” ที่คนเมืองรอคอย ปีนี้ BMN เลยขอเดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ความบันเทิงให้กับผู้โดยสาร MRT อย่างต่อเนื่อง เราเชื่อว่าดนตรีสามารถทำให้การเดินทางเป็นมากกว่าความสะดวกสบาย แต่เป็นประสบการณ์ที่สร้างความสุขได้จริง”

ด้าน หทัย ศราวุฒิไพบูลย์ Executive Vice President – Idol Label บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าGMM Music มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ MRT Music Journey ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ดนตรีเป็นสื่อกลาง ที่สามารถเชื่อมโยงทุกคนเข้าด้วยกัน และโปรเจกต์นี้ช่วยให้ศิลปินของเราสามารถเข้าถึงแฟนเพลงได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ทั้งในรูปแบบการแสดงสดภายในสถานีMRT หรือผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล  ที่ผ่านมาเราได้รับฟีดแบคที่ดีมากๆ ทั้งจากศิลปินที่มีโอกาสได้ไปแสดง และแฟนเพลงของน้องๆก็ได้รับประสบการณ์ที่ดีมากๆ ปีนี้ GMM Music จะส่งศิลปินหลากหลายสไตล์และแนวเพลง ทั้ง rock, pop และ idol ไปสร้างความบันเทิงให้กับชาว MRT อย่างต่อเนื่องตลอดปีอีกเช่นเคย”

ความพิเศษของปีนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ PERSES และ VIIS  แต่จะมีโชว์มินิคอนเสิร์ตพิเศษจากศิลปินชั้นนำเซอร์ไพรส์อีกมากมายที่จะผลัดเปลี่ยนกันมาสร้างความตื่นเต้นให้กับทุกการเดินทาง ไม่เพียงเท่านั้น BMN ยังมีแผนขยายสเกลของกิจกรรมไปอีกระดับ ด้วยการบริหารพื้นที่ของ Metro Mall และร้านค้าภายนอกให้กลายเป็นศูนย์กลางของ Music Festival ซึ่งจะมีทั้งโซนดนตรีสดจากศิลปินชั้นนำ รวมไปถึงร้านค้าชั้นนำที่เข้าร่วมสร้างสีสันให้เทศกาลดนตรีครั้งนี้ เพื่อให้ผู้มาใช้บริการในระบบรถไฟฟ้า MRT ไม่เพียงแค่ได้เดินทางอย่างสะดวกสบาย แต่ยังได้รับประสบการณ์ความสุขจากเสียงเพลงแบบจัดเต็ม และยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับการเชื่อมต่อระหว่างศิลปินและแฟนเพลงด้วย Live Session สุดพิเศษ ที่จะสา มารถรับชมได้จากทุกที่ผ่าน Digital Screens ภายในสถานี MRT และแพลตฟอร์มออนไลน์ของ GMM Grammy เพื่อให้ทุกคนจะได้รับประสบการณ์ดนตรีที่ไม่เหมือนใคร

ติดตามตารางมินิคอนเสิร์ต และอัปเดตข่าวสารของ MRT Music Journey Season 3 ได้ที่ Facebook Page: BMN  เตรียมพบกับ Music Festival in Transit ที่จะเปลี่ยนทุกการเดินทางให้เต็มไปด้วยจังหวะของเสียงเพลงเร็วๆ นี้!

โซไซตี้ : DMT จับมือ PTG แจกกระเป๋ากันง่วงช่วงสงกรานต์

โซไซตี้ : DMT จับมือ PTG แจกกระเป๋ากันง่วงช่วงสงกรานต์

โซไซตี้ : DMT จับมือ PTG แจกกระเป๋ากันง่วงช่วงสงกรานต์

วันศุกร์ ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2568, 17.02 น.

ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT พร้อมด้วย สุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด ,ชัยทัศน์ วันชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามออโต้แบคส์ จำกัด ร่วมกันลงพื้นที่มอบกระเป๋ากันง่วง ซึ่งภายในบรรจุน้ำดื่ม,ผ้าเย็นและสบู่น้ำผึ้งทองคำฝีมือผู้สูงวัยจากชุมชนเทพประทาน เขตดอนเมือง ที่ DMT ให้การสนับสนุนสร้างอาชีพ พร้อมทั้งกาแฟพันธุ์ไทย, ซองกันน้ำ, ของที่ระลึกจาก Autobacs และผลิตภัณฑ์อื่นฯ จากผู้สนับสนุนให้แก่ผู้ใช้ทาง เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้บรรเทาอาการง่วง เหนื่อยล้า รวมทั้งตั้งจุดตรวจเช็กสภาพรถเบื้องต้นฟรีโดยทีมช่างจาก Autobacs ในกิจกรรม “สงกรานต์ปลอดภัย ใส่ใจเพื่อนร่วมทาง ปีที่ 15″  เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยในช่วงปีใหม่ไทย ณ ด่านดินแดง 1