รัฐเมินส่งออกไก่…ซ้ำเพิ่มภาระผู้ผลิต

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/812548

รัฐเมินส่งออกไก่...ซ้ำเพิ่มภาระผู้ผลิต

รัฐเมินส่งออกไก่…ซ้ำเพิ่มภาระผู้ผลิต

วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 14.50 น.

รัฐเมินส่งออกไก่…ซ้ำเพิ่มภาระผู้ผลิต  

ไม่ใช่ผู้บริโภค แต่เป็นแม่ค้าขายเนื้อไก่ ที่บ่นออกสื่อว่าไก่แพง กรมการค้าภายในก็รีบแอ๊คชั่นเอาใจแม่ค้า สั่งโรงงาน ห้างร้านต่างๆ ทำรายงานเกี่ยวกับปริมาณและราคาของชิ้นส่วนไก่ทุกวัน ทั้งๆที่สถานการณ์ไก่เนื้อในปัจจุบัน ไม่ใช่ช่วงวิกฤตหรือขาดแคลน ถึงขนาดต้องทำอะไรเช่นนั้น 

จากตารางแสดงราคาไก่เนื้อ ในช่วง พ.ค.-มิ.ย. ปีที่แล้ว ราคาหน้าฟาร์มสูงถึง 45 บาท/กก. จากนั้นเมื่อกลไกตลาดทำงาน ราคาก็ร่วงต่อเนื่องลงมา จนตกต่ำสุดๆที่ 34 บาท/กก. ในเดือนตุลาคม 2566 สวนทางต้นทุนที่พุ่งสูงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำธัญพืชอาหารสัตว์สูงขึ้นทุกตัว รวมถึงราคาพลังงาน และ สภาพอากาศแปรปรวน ที่มีผลต่อการเลี้ยงดูสิ่งมีชีวิต ทำให้คนเลี้ยงไก่ประสบภาวะขาดทุน 

เมื่อระดับราคาไก่ไม่ดี สถาบันการเงินเริ่มไม่มั่นใจ จึงไม่ปล่อยสินเชื่อ กระทบถึงเงินทุนหมุนเวียน ทำให้โรงงานหลายแห่งขาดสภาพคล่อง ต้องลดกำลังการผลิต และบางแห่งถึงกับต้องปิดเพื่อหนีหนี้ เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากของคนเลี้ยงไก่ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่เห็นกรมการค้าภายในออกมาช่วยเหลือผู้ผลิตแต่อย่างใด

ปัจจุบันไก่เนื้อหน้าฟาร์ม เพิ่งขยับราคามาอยู่ที่ 43 บาท/กก. ยังไม่ใช่จุดสูงสุดที่ 45 บาทเหมือนปีที่แล้ว และการนำราคาในช่วงขาดทุนที่ 34-35 บาท/กก. มาเป็นบรรทัดฐานเปรียบเทียบว่าแพงมาก ก็ไม่ใช่เรื่องถูกต้อง ซึ่งหากรัฐเข้าใจ ก็จะไม่นำไปสู่การรายงานปริมาณชิ้นส่วนรายวันแน่นอน

ปกติการรายงานปริมาณชิ้นส่วนเป็นรายวันนั้น เป็นหนึ่งในมาตรการกำกับดูแลสินค้าควบคุมในยามวิกฤตหรือสินค้าขาดแคลน แต่ปัจจุบันเนื้อไก่บ้านเราไม่ได้วิกฤต ไม่มีปัญหาขาดแคลน จึงนับเป็นการเพิ่มภาระให้โรงงานและห้างร้านต่างๆ โดยใช่เหตุ ขณะที่ตลาดในประเทศขณะนี้สามารถปล่อยให้กลไกตลาดทำงานไป แพงนักคนไม่กิน หันไปกินอย่างอื่น เดี๋ยวราคาก็ลงเอง เป็นธรรมชาติของซัพพลายดีมานด์ที่รัฐไม่จำเป็นต้องแทรกแซง

พูดถึงตลาดส่งออกบ้าง อุตสาหกรรมไก่ไทยเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานโลก และไทยจัดเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่อันดับต้นๆของโลก สามารถผลิตเนื้อไก่ได้ประมาณ 3.5 ล้านตันต่อปี ส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ราว 1.1 ล้านตัน/ปี สร้างรายได้เข้าประเทศร่วม 2 แสนล้านบาท ขณะที่ปริมาณเนื้อไก่ที่จำหน่ายและบริโภคกันภายในประเทศมีอยู่ราว 2.4 ล้านตัน/ปี คิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาท 

จะเห็นว่า เนื้อไก่ ซึ่งเป็นโปรตีนเนื้อสัตว์ที่ราคาถูกที่สุด สามารถสร้างรายได้จากการส่งออกมหาศาล จึงค่อนข้างแปลกใจที่กรมการค้าภายใน มีท่าทีกำกับการส่งออกไก่ไม่ให้มากขึ้น  สวนทางสิ่งที่ควรจะเป็นในขณะที่ประเทศกำลังต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจ 

ที่ถูกที่ควรคือ ต้องสนับสนุนให้ส่งออกไก่ได้มากขึ้น นำเงินตราเข้าประเทศมาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เยอะขึ้น อีกทั้งต้องช่วยบริหารจัดการลดต้นทุนการผลิตไก่ไทยให้สามารถแข่งขันด้านราคากับไก่ประเทศอื่นๆได้มากขึ้น ไม่ใช่พะวงว่าส่งออกไก่มากแล้วราคาในประเทศจะสูง หรือกรมไม่รู้จริงๆ ว่าการมีตลาดส่งออกนี่ล่ะ ที่ช่วยให้ราคาไก่เนื้อในประเทศมีเสถียรภาพมากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ

อาจหาญ วิจารณ์ทัศน์ นักวิชาการอิสระ

รองปลัดฯประชุม อนุกก.จัดทำแผน ระบบน้ำทำเกษตร รวมทั้งจัดรูปที่ดิน

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/812403

รองปลัดฯประชุม  อนุกก.จัดทำแผน  ระบบน้ำทำเกษตร  รวมทั้งจัดรูปที่ดิน

รองปลัดฯประชุม อนุกก.จัดทำแผน ระบบน้ำทำเกษตร รวมทั้งจัดรูปที่ดิน

วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.

นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมและการจัดรูปที่ดิน ครั้งที่1/2567 โดยมี นายกิตติพร ฉวีสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) สำนักงานจัดรูปที่ดินกลาง และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้ 1.ที่ประชุมรับทราบ ผลการดำเนินงานการจัดทำโครงการ ซึ่งประกอบด้วยการงานจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมและงานจัดรูปที่ดิน ทั้งนี้ได้มีการจัดทำโครงการแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ (1) ปี 2560 เป็นงานจัดรูปที่ดิน 22 โครงการ เนื้อที่ 121,085 ไร่ และงานจัดระบบน้ำ 162 โครงการ เนื้อที่ 587,606 ไร่ และ (2) ปี 2564 เป็นงานจัดรูปที่ดิน 2 โครงการ เนื้อที่ 14,208 ไร่และงานจัดระบบน้ำ 96 โครงการ เนื้อที่ 968,855 ไร่

2.ที่ประชุมพิจารณาและให้ความเห็นชอบการจัดทำโครงการจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมและการจัดรูปที่ดิน ตามมาตรา 18 และมาตรา 31จำนวน 24 โครงการ เป็นงานจัดรูปที่ดิน 3 โครงการ เนื้อที่ 43,019 ไร่และงานจัดระบบน้ำ 21 โครงการ เนื้อที่ 172,976 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งสิ้น215,995 ไร่ แล้วนำเสนอคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลางเพื่อทราบ

ฝนหลวงฯร่วมทำMOU ใช้งานวิจัยแก้ภัยพิบัติธรรมชาติ

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/812405

ฝนหลวงฯร่วมทำMOU  ใช้งานวิจัยแก้ภัยพิบัติธรรมชาติ

ฝนหลวงฯร่วมทำMOU ใช้งานวิจัยแก้ภัยพิบัติธรรมชาติ

วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิชาการ ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดย นายสุพิศ กล่าวว่า ได้ช่วยบรรเทาภัยพิบัติให้ประชาชนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ โดยพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีฝนหลวง ใช้ป้องกันและบรรเทาความรุนแรงของภัยพิบัติทางธรรมชาติด้านต่างๆ ซึ่งปัจจัยสำคัญคือการพัฒนาเทคนิคและวิธีปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพด้วยการเชื่อมโยงความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นการพัฒนาด้านวิชาการ และเพิ่มศักยภาพการทำงานผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล เครื่องมือ องค์ความรู้ ประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม นำไปสู่การบริหารจัดการน้ำ จัดการภัยธรรมชาติทันท่วงทีและยั่งยืน

นายสุพิศ กล่าวอีกว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์และขอบเขตความร่วมมือ ประกอบด้วย สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) จะร่วมกันดำเนินงานวิจัยพัฒนาและขยายผลองค์ความรู้ด้านดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์บรรยากาศ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์กับการทำฝนหลวงและการวิจัยวิทยาศาสตร์บรรยากาศและร่วมให้เกิดเป็นผลสัมฤทธิ์เชิงประจักษ์เพื่อสนับสนุนการผลักดันให้เกิดความมั่นคงทางคุณภาพอากาศ

ส่วนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะร่วมกันดำเนินงานวิจัยและพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติอันเนื่องมาจากความผันแปรของภูมิอากาศและสภาวะโลกร้อน และส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร เสริมสร้างทักษะ ความรู้ ความสามารถ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางวิชาการระหว่างบุคลากร ร่วมกันจัดทำโมเดลการบริหารจัดการภัยพิบัติ การพยากรณ์โอกาสการเกิดฝน การเกิดภัยพิบัติฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เพื่อวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ

ขณะที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ดำเนินงานวิจัยและพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ โดยมีการถ่ายทอดข้อมูลการปฏิบัติการฝนหลวงไปสู่บุคลากรทางการศึกษา เป็นการพัฒนาบุคลากรและนักศึกษาให้มีความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งเป็นการเผยแพร่ศาสตร์ตำราฝนหลวงพระราชทาน และต่อยอดความรู้ให้กับเยาวชนอาสาสมัครฝนหลวงหรือคนรุ่นใหม่ ให้เกิดการรับรู้ มีความรู้ ความเข้าใจในโครงการพระราชดำริฝนหลวง

รมว.เกษตรฯหารือFAO เตรียมงานฉลองวันดินโลก

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/812409

รมว.เกษตรฯหารือFAO  เตรียมงานฉลองวันดินโลก

รมว.เกษตรฯหารือFAO เตรียมงานฉลองวันดินโลก

วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ หารือร่วมกับ นายจอง จิน คิม ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) พร้อมด้วย
นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

สำหรับการหารือครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดเตรียมความพร้อมและมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่ฝ่าย FAO มาเยือนไทย เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และได้กราบทูลข้อริเริ่มการประชุมนานาชาติว่าด้วยทรัพยากรที่ดิน ดินและน้ำที่ยั่งยืน ที่ประเทศไทย โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 400 คนทั่วโลก เพื่อสร้างความมุ่งมั่นในเรื่องการจัดการที่ดิน ดิน และน้ำ อย่างบูรณาการที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นรากฐานของการพลิกโฉมระบบเกษตรและอาหาร ส่งเสริมความสำเร็จด้านเทคโนโลยี สถาบัน ธรรมาภิบาลและนวัตกรรมทางสังคมในการจัดการปัญหาการขาดแคลนน้ำ การเสื่อมโทรมของที่ดินและดิน และร่วมกันพิจารณาถึงความท้าทายและโอกาสในการพัฒนาการจัดการที่ดิน ดิน และน้ำแบบบูรณาการและยั่งยืนในภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง นับเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยในการแสดงศักยภาพด้านการบริหารจัดการที่ดิน ดินและน้ำอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ มีกำหนดการจัดงานเฉลิมฉลองวันดินโลก ประจำปี2567 และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ที่ศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ดินและน้ำ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ช่วงวันที่ 5-11 ธันวาคม2567 ในส่วนของการประชุม ILSWF ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2567 จะจัดขึ้นที่ กทม.โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายมีการดำเนินงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

‘ธรรมนัส’ร่วมงาน52ปีตั้งกลุ่มเกษตรกรฯ

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/812406

‘ธรรมนัส’ร่วมงาน52ปีตั้งกลุ่มเกษตรกรฯ

‘ธรรมนัส’ร่วมงาน52ปีตั้งกลุ่มเกษตรกรฯ

วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ เป็นประธานพิธีเปิดงาน“52 ปีวันก่อตั้งกลุ่มเกษตรกร”เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 72 พรรษา ที่สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน)ต.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับคณะกรรมการกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทย จัดงานดังกล่าว เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 72 พรรษา โดยกลุ่มเกษตรกรฯ ก่อตั้งขึ้นเพื่อการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สร้างอำนาจต่อรองแก่เกษตรกรรายย่อย และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตเกษตรกร ตลอดจนส่งเสริมให้เกษตรกรได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการดำรงชีวิตสำหรับกิจกรรมในงาน อาทิ การสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และกำหนดแนวทางในการพัฒนากลุ่มเกษตรกรฯ สู่ความเข้มแข็ง การจัดนิทรรศการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกร/จัดแสดงผลงานกลุ่มเกษตรกรดีเด่น ประจำปี 2567 เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงาน และผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกร

ปัจจุบันกลุ่มเกษตรกรมีกิจการก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นปี 2566 ประเทศไทยมีกลุ่มเกษตรกร 3,995 กลุ่ม มีสมาชิก 339,162 คน และมีมูลค่าปริมาณธุรกิจสูงถึง 7.7 พันล้านบาท มีธุรกิจหลักคือ ให้สินเชื่อเพื่อการผลิตส่งเสริมการออมในหมู่สมาชิก รวบรวมผลผลิตเพื่อจำหน่าย และจัดหาปัจจัยการผลิตมาจำหน่ายแก่สมาชิกกลุ่มเกษตรกรกว่าร้อยละ 30 มีความเข้มแข็งในระดับ 1 และ 2 ได้รับการพัฒนาด้านการบริการสมาชิกการบริหารจัดการองค์กรและธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความเข้มแข็งยิ่งๆ ขึ้นไปในโอกาสนี้นายอรรถกร รมช.เกษตรฯ ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “นโยบายด้านการผลิตด้านการแปรรูป” ด้วย

ประมงบ้านบ่ออิฐ ปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการ รับมือสภาพอากาศแปรปรวน ช่วงฤดูมรสุม

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/812407

ประมงบ้านบ่ออิฐ ปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการ  รับมือสภาพอากาศแปรปรวน ช่วงฤดูมรสุม

ประมงบ้านบ่ออิฐ ปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการ รับมือสภาพอากาศแปรปรวน ช่วงฤดูมรสุม

วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงพื้นบ้านชุมชนบ้านบ่ออิฐสงขลา ส่วนใหญ่ยังคงออกทำการประมงตามปกติ แม้สภาพอากาศในช่วงนี้มีความแปรปรวน เนื่องจากในช่วงบ่ายค่ำจะมีฝนตกลงมาทุกวัน จากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ชาวประมงพื้นบ้านชุมชนบ้านบ่ออิฐสงขลาปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการทำมาหากินให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่แปรปรวน โดยจะออกทำการประมงในช่วงเวลา 04.00-05.00 น. และกลับเข้าฝั่งประมาณ 10.00-11.00 น. เพื่อหลีกเลี่ยงการมาเจอฝนตกในช่วงบ่ายค่ำ เนื่องจากทะเลชายฝั่งบ้านบ่ออิฐหากมีฝนตก จะมีลมกระโชกแรงและเกิดคลื่นลมแรงตามมาด้วย ชาวประมงพื้นบ้านชุมชนบ้านบ่ออิฐ จึงต้องปรับเปลี่ยนช่วงเวลาทำมาหากินให้เหมาะสมและมีความปลอดภัยมากที่สุด ถึงแม้ว่าระยะเวลาในการวางอวนจับสัตว์น้ำจะไม่กี่ชั่วโมงและจับสัตว์น้ำได้ไม่มากนัก แต่ก็ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติ โดยจะคอยรับฟังรายงานสภาพอากาศทุกวันก่อนที่จะออกเรือไปทำการประมงจับปลาในทะเล

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก รายงานสภาพอากาศ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง

ส.ธุรกิจท่องเที่ยวประจวบฯ จับมือ ททท. เตรียมจัดงาน Consumer Fair ตุลาคม’67

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/812408

ส.ธุรกิจท่องเที่ยวประจวบฯ จับมือ ททท.  เตรียมจัดงาน Consumer Fair ตุลาคม’67

ส.ธุรกิจท่องเที่ยวประจวบฯ จับมือ ททท. เตรียมจัดงาน Consumer Fair ตุลาคม’67

วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ประชุมร่วมกับ นายทิวัตถ์ แจ่มสว่าง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ และคณะ นางสาวจิราวรรณ บุญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ ที่ร้านกาแฟอเมซอน ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี ในการจัดกิจกรรม Consumer Fair ส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ โดยกำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2567 ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายทิวัตถ์ กล่าวว่า สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ จะนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เป็นสมาชิกสมาคมทั้ง 8 อำเภอ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 20-30 หน่วยงานมาร่วมออกบูธงาน Consumer Fair ขายห้องพักและสินค้าการท่องเที่ยวในราคาพิเศษแก่นักท่องเที่ยวและประชาชน เพื่อส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ และให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ทำการซื้อขายสินค้ากับนักท่องเที่ยวและประชาชนโดยตรง รวมถึงมีกิจกรรมโชว์เคสและสินค้าชุมชนทั้ง 8 อำเภอ มาร่วมออกบูธด้วย ถือเป็นการสนับสนุนธุรกิจผู้ประกอบการและสินค้าชุมชน

นายอาชวันต์ กล่าวเสริมอีกว่า การจัดงานConsumer Fair ในครั้งนี้ ททท.สำนักงานประจวบฯ จะสนับสนุนด้านการดำเนินการด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ไปยังนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะไฮไลท์ของงานมีการนำเสนอขายราคาพิเศษจากผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอตอนล่างของจังหวัดประจวบฯ เพื่อส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวให้เกิดการเดินทางทั้งจังหวัด และสื่อสารสร้างการรับรู้ถึงทรัพยากรและสินค้าการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ ตามนโยบายของรัฐบาล

‘อธิบดีปศุสัตว์’หารือร่วมผู้แทน MPI นิวซีแลนด์ ส่งเสริมความร่วมมือการค้าสินค้าปศุสัตว์ระหว่างประเทศ

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/812362

'อธิบดีปศุสัตว์'หารือร่วมผู้แทน MPI นิวซีแลนด์ ส่งเสริมความร่วมมือการค้าสินค้าปศุสัตว์ระหว่างประเทศ

‘อธิบดีปศุสัตว์’หารือร่วมผู้แทน MPI นิวซีแลนด์ ส่งเสริมความร่วมมือการค้าสินค้าปศุสัตว์ระหว่างประเทศ

วันจันทร์ ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 16.55 น.

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2567 เวลา 10.30 น. นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้การต้อนรับ Mr. Jim Sim Manager  Market Access และ Ms. Charlotte Channer Market Access Counsellor จากหน่วยงาน Ministry of Primary Industries (MPI) ประเทศนิวซีแลนด์ พร้อมด้วย Mr. Natan Holls และ Ms. Jeerajit Ariyasakul ที่ปรึกษาด้าน Market Access นิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมและหารือในประเด็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าสินค้าปศุสัตว์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งไทยและนิวซีแลนด์ มีความร่วมมือที่ครอบคลุมหลายสาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการปศุสัตว์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องทางด้านการพัฒนาปศุสัตว์ของทั้งสองประเทศ โดยมีผู้อำนวยการกองความร่วมมือด้านการปศุสัตว์ระหว่างประเทศ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอาหารสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมฯ ณ ห้องพุทธอุดมสุข ตึกอำนวยการ ชั้น 2 กรมปศุสัตว์ พญาไท

– 006

‘กรมการข้าว’บันทึกเทปถวายพระพร’พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว’

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/812345

'กรมการข้าว'บันทึกเทปถวายพระพร'พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว'

‘กรมการข้าว’บันทึกเทปถวายพระพร’พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว’

วันจันทร์ ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 15.48 น.

“กรมการข้าว”บันทึกเทปถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2567 เวลา 14.00 น. นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว นำคณะผู้บริหารกรมการข้าว ร่วมบันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)

– 006

ภาวะไขมันพอกตับ ต้นตอสู่ ‘มะเร็งตับ’ พบมากเป็นอันดับ 1 ของคนไทย

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/812356

ภาวะไขมันพอกตับ ต้นตอสู่ ‘มะเร็งตับ’ พบมากเป็นอันดับ 1 ของคนไทย

ภาวะไขมันพอกตับ ต้นตอสู่ ‘มะเร็งตับ’ พบมากเป็นอันดับ 1 ของคนไทย

วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 07.11 น.

เพราะ “ตับ” เปรียบเสมือนหัวใจที่ 2 ของร่างกาย เป็นศูนย์กลางการทำงานของร่างกายและต้องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา หากสุขภาพตับไม่ดี สุขภาพของเราก็จะไม่ดีตามไปด้วย จากกรณีศึกษาขององค์กรด้านการแพทย์และสุขภาพในปัจจุบัน ค้นพบดัชนีด้านสุขภาพและสุขภาวะของคนไทยที่เปลี่ยนไปและอยู่ในเกณฑ์ที่น่ากังวล

ข้อมูลจาก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า “ประชากรไทยกว่า 71 ล้านคน มีผู้ที่ป่วยเป็นไขมันพอกตับโดยไม่รู้ตัว สูงถึง 25-30% หรือราวๆ 1 ใน 3ของประชากรทั่วประเทศ ส่งผลให้หลายคนต้องเผชิญกับภัยร้ายจากโรคตับ” สอดคล้องกับข้อมูลทางสถิติ โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. พบว่า “มะเร็งตับ กลายเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย และมีอัตราเสียชีวิตสูงถึง 16,000 คนต่อปี”ซึ่งพบว่าผู้ป่วยเหล่านี้มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่สนใจต่อ “สุขภาพตับ” ปล่อยให้ตับพังขาดการดูแล อันมาจากหลายปัจจัย เช่น การกินอาหารที่มีไขมันสูง การกินอาหารที่มีรสหวานและน้ำตาลสูง การกินอาหารที่มากเกินความต้องการของร่างกายจนเกิดภาวะอ้วน การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่และได้รับควันบุหรี่มือสองอย่างเป็นประจำ จากลักษณะดังกล่าว คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีข้อสรุปจากงานวิจัยพบว่า “ผู้ที่เป็นมะเร็งตับส่วนใหญ่พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงสูงถึง 2-5 เท่า ซึ่งมาจากการขาดวินัยในการดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง”

พญ.ณัฐธิดา ศรีบัวทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินอาหารและตับ ได้แชร์ความรู้เรื่องของสุขภาพตับและระดับอาการของโรคตับที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า “โรคตับ เป็นโรคที่พบมากขึ้นกับคนไข้ในปัจจุบัน อาการป่วยที่เกี่ยวกับโรคของตับมีอยู่หลายระดับ ซึ่งผู้ป่วยบางรายแทบไม่รู้ตัว หรือรู้ตัวช้าในตอนที่ร่างกายทรุดหนักแล้ว ซึ่งบางเคสก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วง โดยคนปกติที่มี “สุขภาพตับดี” ตับจะมีผิวเรียบ สีชมพู และไม่มีแผลเป็น ซึ่งเมื่อมีไขมันสะสมอยู่ในเซลล์ตับ จุดนี้จะถือว่าเข้าสู่ภาวะ “ไขมันพอกตับ” จากนั้น หากยังไม่ดูแลสุขภาพหรือได้รับการรักษา จนมีการอักเสบและก่อให้เกิดพังผืด ไปสู่เนื้อเยื่อตับสูญเสียหน้าที่ถาวร ถือว่าเข้ามาสู่ภาวะ “ตับอักเสบ”และหนักไปกว่านั้น เมื่อตับมีลักษณะขรุขระเต็มไปด้วยปุ่ม เซลล์ตับได้ถูกทำลาย นี่คืออาการของภาวะ “ตับแข็ง” และเคสที่หนักที่สุดคือ “มะเร็งตับ” เซลล์ตับมีการแบ่งตัวและเพิ่มจำนวนอย่างผิดปกติ ทำให้การรักษาผู้ป่วยนั้นเป็นไปได้ยาก ยิ่งสุขภาพตับพังมากเท่าไหร่ เมื่อได้รับการฟื้นฟูช้า ก็ทำให้การรักษาเป็นสิ่งที่หมอต้องทำการบ้านอย่างหนักมากขึ้น ทางที่ดีอยากให้ผู้ที่มีร่างกายปกติและผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับหันมาดูแลสุขภาพของตนเอง รวมถึงหมั่นตรวจสุขภาพร่างกายและตับอย่างเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อทราบแนวทางดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงยาวนาน”

“นิวทริไลท์” จาก แอมเวย์ ตระหนักและพร้อมผลักดันให้ผู้คนได้มีสุขภาพและสุขภาวะที่ดี ได้เล็งเห็นถึงปัญหาสุขภาพตับของประชากรไทยที่ต้องเผชิญ จึงขอแนะนำวิธีดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคตับภัยร้ายใกล้ตัว มีทั้งหมด 7 ข้อ ดังนี้ เลือกรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและอาหารปรุงแต่ง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการซื้อยากินเอง รวมถึงอาหารเสริมที่ไม่มีแหล่งที่น่าเชื่อถือมากพอหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง อาหารหวาน การกินอาหารที่มากเกินความต้องการของร่างกาย หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และซี โดยการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไม่ใช้เข็มฉีดยาหรือของมีคมร่วมกับผู้อื่น

เลือกกินอาหารหรือสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการดูแลตับ เช่น “สารสกัดจากบรอกโคลี” “สารสกัดจากชะเอมเทศ”และ “สารสกัดจากเมล็ดองุ่น” ที่มีส่วนช่วยกำจัดสารพิษ ช่วยลดการอักเสบและการเกิดพังผืด ช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลินของเซลล์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและปกป้องเซลล์ตับจากการถูกทำลาย รวมถึง “เลซิติน” ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในไข่แดง ถั่ว ถั่วเหลือง นม เมล็ดทานตะวัน ตับ เนื้อสัตว์บริวเวอร์ยีสต์ และอื่นๆ มีส่วนช่วยในการลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ลดความดันโลหิต และมีส่วนช่วยในการลดการอักเสบของตับจากไขมันพอกตับได้

ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพและสุขภาวะให้เกิดบาลานซ์ที่ดี เริ่มตั้งแต่การใช้ชีวิตประจำวัน การเคลื่อนไหวร่างกาย การออกกำลังกาย การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่การทานวิตามินหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพและจำเป็นต่อร่างกาย จะทำให้ทุกคนมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลจากโรคร้ายอย่างปัญหาไขมันพอกตับและปัญหาที่มาจากโรคของตับได้ไม่ยาก

ผู้ที่สนใจข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพและสุขภาวะที่ดี สามารถติดตามสาระดีมีประโยชน์รวมถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างนิวทริไลท์ จาก แอมเวย์ ผ่านทุกช่องทางของ แอมเวย์ประเทศไทย ได้ที่ Website : www.amway.co.th /Facebook : www.facebook.com/amwaythailand และ Amway Contact Center : 02-7258000