AEC Go On 30/01/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/569883

โดย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 30 ม.ค. 2559 05:01

 

สหภาพเมียนมาเป็นประเทศอันดับหนึ่งในดวงใจของนักธุรกิจไทยหลายคนอย่างสม่ำเสมอ เมื่อถูกถามว่า “ประเทศใดใน AEC ที่ให้ความสนใจเข้าไปลงทุนหรือทำธุรกิจด้วย” แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนกังวลอยู่เสมอเช่นกันคือ คนในเมียนมาและ AEC มีบุคลิกท่าทางความคิดอ่านอย่างไรจะได้เข้าไปต่อสานสัมพันธ์ได้อย่าง “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ซึ่งจะสอดคล้องกับหลักการที่สำคัญ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ในการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและธุรกิจกับ AEC

การพบปะพูดคุยรับประทานร่วมกันเป็นเรื่องปกติจำเป็นในการสานความสัมพันธ์ในทางธุรกิจ เราได้ทราบถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในการรับประทานอาหารกับชาวเมียนมากันไปแล้ว เรามาพูดถึงการสนทนากับชาวเมียนมากันบ้างดีกว่าครับ ก็เป็นที่รู้ๆ กันนะครับว่าถ้าไม่สนิทกันจริงก็ไม่ควรสนทนาพูดคุยกับชาวเมียนมาเกี่ยวกับเรื่องประวัติศาสตร์ในเมียนมา โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่าไทยถูกเมียนมารุกราน เพราะในประวัติของเมียนมาไม่ได้เขียนอย่างที่ไทยเขียน รวมถึงการแสดงออกในที่สาธารณะว่าด้วยเรื่องการเมืองเพราะพูดคุยกันในเรื่องเหล่านี้จะชวนทะเลาะกันง่ายๆ มากกว่าที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันครับ

คนเมียนมาเคร่งครัดและให้ความสำคัญกับศาสนาพุทธอย่างมาก ทำให้เราควรเข้าใจในการปฏิบัติเมื่ออยู่ในวัดด้วย เพราะชาวเมียนมานิยมไปทำบุญที่วัดเป็นประจำ ทั้งนี้ ข้อปฏิบัติสำคัญของชาวเมียนมาก็คล้ายๆ กับของคนไทยครับแต่เคร่งครัดกว่ามากคือ ไม่ควรรบกวนผู้ที่กำลังสวดมนต์หรือผู้ที่กำลังนั่งสมาธิ และห้ามดมดอกไม้ที่ใช้ไหว้พระแล้ว เพราะถือว่าเป็นสิ่งไม่ดีและไม่เหมาะสม นอกจากนี้ไม่ควรแตะจีวรของพระสงฆ์ และ ควรแสดงความเคารพต่อพระสงฆ์ สามเณรในทุกโอกาสทุกสถานที่ และมีความสำรวมในทุกอิริยาบถวัดและศาสนสถานเพียงแค่นี้ก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวเมียนมาได้อย่างดีและยั่งยืนครับ.

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ

AEC Go On 23/01/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/566404

โดย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 23 ม.ค. 2559 05:01

 

Do and Don’t ในสหภาพเมียนมา ที่ควรให้ความสนใจเรื่องแรกๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องอาหารการกินของชาวเมียนมา เพราะการสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับคนชาติใดก็ตาม เวทีที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีๆ ได้ มีไม่กี่เวทีหรอกครับ ความสนิทสนมทางธุรกิจส่วนใหญ่จะเกิดจากการพบปะพูดคุยเจอกันบ่อยๆ ในการทำงาน การเล่นกีฬาโดยเฉพาะการเล่นกอล์ฟซึ่งมีเวลาพูดคุยในสนามได้เยอะ และการปาร์ตี้สังสรรค์รับประทานอาหารร่วมกัน

สุภาษิตไทยที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” ยังคงใช้ได้ดีในทุกยุคทุกสมัยและในทุกสถานที่ เพราะคนทุกชาติจะมีความสุขสดชื่นทุกครั้ง ที่เห็นแขกต่างบ้านต่างเมือง ทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีและจารีตของเจ้าบ้านได้สอดคล้องและถูกต้องตามแนวปฏิบัติของตน ทำให้ในกรอบของประชาคมอาเซียน (AC) จึงต้องมีความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรม (ASCC) เพื่อให้ประชาชนใน AEC เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้นและเร็วขึ้น

เราได้รู้จักมักจี่อาหารประจำชาติของชาวเมียนมาไม่ว่าจะเป็น “ขนมจีนนํ้ายาเมียน” “โมฮิงกา” “หล่าเพ็ด” และ “ชาเมียนมา” กันไปแล้วในสัปดาห์ที่แล้ว เราจะมาพูดถึงการรับประทานอาหารกับชาวเมียนมากันต่อครับ สำหรับการรับประทานอาหารในงานสังคมหรืองานเลี้ยงในโรงแรมเพื่อพบปะสังสรรค์ทางธุรกิจนั้น ชาวเมียนมาก็จะใช้ธรรมเนียมปฏิบัติตามแนวตะวันตกทั่วไปที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดีแล้ว คงไม่ต้องพูดเพิ่มเติมอะไรมากนัก

แต่ที่ต้องจำขึ้นใจคือการรับประทานอาหารในร้านอาหารของชาวเมียนมานั้น ควรสนทนาพูดคุยกันอย่างเงียบๆ และไม่ควรส่งอาหารผ่านหรือตะโกนข้ามศีรษะผู้อื่น เพราะถือว่าเป็นการเสียมารยาทอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ห้ามปฏิเสธอาหารหรือเครื่องดื่มที่ชาวเมียนมามอบให้โดดเด็ดขาด เพราะถือเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก ที่สำคัญ ชาวเมียนมาจะไม่นิยมดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ระหว่างรับประทานอาหาร แต่นิยมดื่มเพียงนํ้าเปล่า นํ้าผลไม้ และชาเท่านั้น

และอีกเรื่องหนึ่งที่ควรรู้ไว้ก็คือ เมื่อได้รับเชิญให้รับประทานอาหารที่บ้านของชาวเมียนมา เราควรนำของขวัญหรือของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ ที่ผลิตในไทยไปให้เจ้าบ้านด้วย เพราะจะสร้างความประทับใจแก่ เจ้าบ้านอย่างมากครับ.

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ

AEC Go On 16/01/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/563151

โดย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 16 ม.ค. 2559 05:01

 

ค้างคากันไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเกี่ยวกับหัวข้อ สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำหรือ Do and Don’t ในสหภาพเมียนมา ซึ่งเราได้พูดถึงสิ่งที่ควรทำกับชาวเมียนมา ไปหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการเรียกชื่อให้ถูกต้องเพื่อการเริ่มต้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในการคบหาและประสานงานธุรกิจ ดังนั้น เราควรมารู้เรื่องอาหารการกินและธรรมเนียมปฏิบัติบนโต๊ะอาหารกันดีกว่า

อาหารประจำชาติของชาวเมียนมามีหลากหลายพอสมควรครับ แต่จานเด็ดๆ ที่คนนิยมคือ ขนมจีนนํ้ายาเมียนมาที่เรียกว่า “โมฮิงกา” ซึ่งนิยมรับประทานกันทั้งในตอนเช้าและตอนกลางวัน ถ้าเป็นข้าวจานเด็ดต้องเป็นข้าวกับน้ำพริกปลาร้าของเมียนมาครับ หรือข้าวผัดกับถั่วต้มและชาเขียว ซึ่งเป็นอาหารเช้าดั้งเดิมที่นิยมรับประทานกันมาก

สำหรับชื่ออาหารของเมียนมาที่ต้องจำให้ขึ้นใจอีกชื่อหนึ่งคือ“หล่าเพ็ด” ซึ่งเป็นอาหารที่นิยมรับประทานเป็นอาหารว่าง โดยการนำใบชาหมักมาทานกับเครื่องเคียง เช่น กระเทียมเจียว ถั่วชนิดต่างๆ งาคั่วกุ้งแห้ง ขิง มะพร้าวคั่ว ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่ขาดไม่ได้ในโอกาสพิเศษหรือเทศกาล โดยชาวเมียนมามักจะพูดกันว่าหากงานเลี้ยงหรืองานเฉลิมฉลองใดไม่มีหล่าเพ็ดจะถือว่าเป็นงานที่ขาดความสมบูรณ์

ปัจจุบันชาวเมียนมาส่วนใหญ่ยังนิยมชมชอบการรับประทานอาหารที่ทำสดใหม่มากกว่าอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารบรรจุหีบห่อและอาหารที่ปรุงแล้ว เพราะเมียนมายังเป็นเมืองเกษตรที่ยังไม่มีความเร่งรีบเหมือนสังคมอุตสาหกรรม อาหารทุกอย่างต้องสดใหม่เสมอ นอกจากนี้ การจิบชาเมียนมาที่มีรสชาติกลมกล่อมก็เป็นที่นิยมที่หาทานได้ตลอดเช้าบ่ายและใช้เป็นเวทีพูดคุยสบายๆ ครับ ซึ่งคนไทยคงคุ้นเคยดีเพราะหาได้ง่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย ซองสีเขียวๆ ครับ

คนไทยควรเรียนรู้เรื่องการร่วมรับประทานอาหารกับชาวเมียนมา เพราะชาวเมียนมาจะให้การต้อนรับและดูแลแขกผู้มาเยือนและผู้อาวุโสเป็นพิเศษโดยไม่ให้ขาดตกบกพร่องต่อทุกเรื่อง ดังนั้น คนไทยควรให้ความใส่ใจกับอาหารการกินและให้มากครับ.

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย