การเล่นของแสงที่ส่องกระทบคริสตัลก่อให้เกิดเป็นประกายแสงระยิบระยับชวนหลงใหล

           ** เจิดจรัส : ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี 2019 สวารอฟสกี้ เผยโฉมมนต์เสน่ห์แห่งประกายแสงอันเจิดจรัสในทุกๆ แง่มุมผ่านเครื่องประดับ นาฬิกาและแอ็กเซสเซอรี่คอลเลกชั่นใหม่ที่จะทำให้ทุกวันกลายเป็นวันที่สุดแสนจะพิเศษ โดยมนต์เสน่ห์คอลเลกชั่นล่าสุดนี้อยู่ที่การเล่นของแสง ที่ส่องกระทบคริสตัลก่อให้เกิดเป็นประกายแสงระยิบระยับชวนหลงใหล ที่ครองใจผู้คนมาแล้วทั่วโลก

          ** ลงตัว : เดอะ ลองจินส์ มาสเตอร์ คอลเลกชั่น กับโมเดลที่แสดงฟังก์ชันข้างขึ้นข้างแรม ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา โดยมีตัวเลขอารบิกแสดงวันที่ล้อมรอบเป็นวงกลม ซึ่งเข็มนาฬิกาจะชี้ไปยังวันที่ปัจจุบัน ภายในบรรจุกลไกใหม่ คาลิเบอร์ L899 ที่สร้างสรรค์เป็นพิเศษ มาพร้อมหน้าปัดสีเงินบาร์ลีย์คอร์นตกแต่งตัวเลขอารบิก ส่วนสายรัดข้อมือเป็นสายหนังสีน้ำตาล เข้ากับหน้าปัดอย่างลงตัว

          ** คลาสสิก : สำหรับ คอลเลกชั่นประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2019-20 สปอร์ตแม็กซ์ นำเสนอมุมมองของความคลาสสิกที่บอกเล่าเรื่องราวในอนาคตผ่านซิลลูเอทใหม่ โดยนำเอาสไตล์เฟมินีน และความล้ำสมัยมาตีความใหม่ โดยพัฒนาจนเกิดเป็นชุดสูทที่ผสมผสานสองสไตล์ที่ว่านี้เข้าไว้ด้วยกันและยังสามารถสวมใส่ได้หลายแบบ

          ** ทรงดั้งเดิม : ซีซั่นนี้ โปร-เคดส์ ยังนำรองเท้ารุ่นไฮไลท์อย่าง รอยัล ที่ถือเป็นรองเท้าผ้าใบทรงดั้งเดิมของแบรนด์มาปรับใหม่ทั้งสีและวัสดุ พร้อมเพิ่มโลโก้กราฟฟิก โปร-เคดส์ ประทับอยู่บนรองเท้าเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้รองเท้าและนำเอาความคลาสสิกมาผสมผสานกับความทันสมัย

ยังคงตอบโจทย์ความเป็นจริงของชีวิตให้ผู้ที่สวมใส่

ท่ามกลางกระแสสังคมในยุคปัจจุบัน โลกล้วนเต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสาร ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นและผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนี้เอง ผู้คนสามารถมองหาแรงบันดาลใจและเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย หากแต่สิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปในวิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบันคือแก่นแท้ และตัวตนของแต่ละบุคคล ที่ได้ถูกกลืนและบดบังด้วยอิทธิพลต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา

เรื่องราวในการแต่งตัวหรือเรื่องเล่าที่หวือหวาไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์ผู้คนอีกต่อไป หากแต่สิ่งที่คนมองหาคือสิ่งที่สะท้อนตัวตนและที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต มุมมองรวมไปถึงวิธีการทำงานในรูปแบบเดิมที่จำกัดกรอบการใช้ชีวิต และบดบังตัวตนที่แท้จริงของผู้คนด้วยมาตรวัดต่างๆ หรือแม้กระทั่งเทรนด์ของแฟชั่นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป มนุษย์ไม่ได้ถูกแบ่งด้วยเกณฑ์ของเรื่องเพศ ไม่ได้ถูกแบ่งด้วยอายุหรือนิยามใดๆ จากภายนอก หากแต่สิ่งที่เป็นตัวกำหนดคือมุมมองในการใช้ชีวิตอันเป็นแก่นแท้ที่สะท้อนตัวตนอันบริสุทธิ์และความสง่างามจากภายใน

สำหรับ “อาซาว่า” สิ่งที่จะตอบโจทย์ของวิถีชีวิตผู้หญิงในอุดมคติตามแบบฉบับของแบรนด์คือกระบวนการทำงานในแนวดิ่ง ด้วยการมองลึกลงไปภายในตัวตนและจิตวิญญาณ ดังเช่นปรัชญาการทำงานที่เรายึดถือมาโดยตลอดในการสร้างสรรค์คอลเลกชั่นเสื้อผ้าที่ไม่เพียงแค่นำเสนอความงามอันถ่องแท้ หากแต่ยังเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความเป็นจริงของชีวิต ให้ผู้ที่สวมใส่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวและความเป็นปัจเจกบุคคลและจิตวิญญาณที่สง่างามเหล่านั้นผ่านเสื้อผ้า

คอลเลกชั่นนี้ยังคงโดดเด่นที่การผสมผสานความร่วมสมัยและความคลาสสิกเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวผ่านการหลอมรวมซิกเนเจอร์ของแบรนด์อย่างโครงเสื้อไหล่เดียว, เคปเบลาซ์ และเคปเดรส เข้ากับโครงเสื้อที่ทางแบรนด์ไม่เคยใช้มาก่อนมาดัดแปลงให้มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น อย่างเสื้อคลุมสั้น, เดรสแขนกุดทรงเข้ารูป, เชิ้ตเดรส รวมไปถึงในเรื่องของวอลุ่มที่มีการขยายให้มีความใหญ่และเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดทั้งมวลประกอบเข้าด้วยกันและสะท้อนถึงอัตลักษณ์ ความสง่างามที่แฝงไว้ซึ่งความเรียบง่ายได้อย่างลงตัว

เทคนิคการตัดเย็บและรายละเอียดที่ประณีตยังคงเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเป็นอาซาว่าได้อย่างชัดเจน เฉกเช่นในครั้งนี้ที่ได้มีการนำเสนอเทคนิคที่ช่วยขับเน้นความสง่างามของผู้สวมใส่อย่าง เทคนิคการจับเดรปลงบนส่วนต่างๆ ของชุด และการตกแต่งด้วยโบ หรือเทคนิคการตัดเย็บแบบเทเลอร์ อย่างพิถีพิถัน ผนวกเข้ากับการนำเอารายละเอียดจากเสื้อผ้าในสไตล์มาสคิวลีนอย่างเสื้อเชิ้ตมาประยุกต์ดัดแปลงเป็นชุดเดรส และตัดต่อแขนด้วยรายละเอียดจากเสื้อคลุมในสไตล์โมร็อกโก อันเป็นการเพิ่มลูกเล่นและความน่าสนใจให้แก่เสื้อผ้า อีกทั้งในคอลเลกชั่นนี้ยังได้มีการใช้เทคนิคการตัดต่อผ้า และตัดต่อลายก่อให้เกิดเป็นผลลัพธ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและทำให้เสื้อผ้ามีมิติมากยิ่งขึ้น

คอลเลกชั่นประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวในครั้งนี้นำเสนอความหลากหลายในแง่ของเนื้อผ้าและวัสดุที่มีคุณภาพสูงในการตัดเย็บ อย่างการเลือกใช้เนื้อผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่าง ผ้าลายทาง, ผ้าลายริ้ว และผ้าคอตตอนที่คงความคลาสสิกและสวมใส่ได้ง่ายในทุกฤดูกาลและการใช้ผ้าวูลในหลากหลาย เท็กซ์เจอร์ทั้งเนื้อหนาและเนื้อบาง ที่ให้กลิ่นอายชุดแบบเสื้อผ้าผู้ชายมาดัดแปลง พร้อมทั้งยังมีเนื้อผ้าที่ให้กลิ่นอายและนำเสนอผิวสัมผัสที่บอบบาง และอ่อนหวานอย่าง ผ้าลูกไม้, ผ้าชีฟอง, ผ้าซิลค์ ออแกนซ่า และผ้าดัสเชสซาติน ที่มีผิวสัมผัสเงางามช่วยเสริมความพลิ้วไหวในทุกจังหวะ

รวมไปถึงการเลือกใช้เนื้อผ้าชนิดพิเศษอย่าง ผ้าไหมไทย และผ้าทวีด ที่ให้สัมผัสที่สง่างามเรียบหรูเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความมั่นใจและใช้ชีวิตในแบบฉบับของตนเองโทนสีที่เลือกใช้ในคอลเลกชั่นนี้ประกอบไปด้วยโทนสีคลาสสิก เช่น สีขาว, สีดำ, สีเทา, สีเบจและสีน้ำเงินผสมผสานเข้ากับสีเฉดสีที่สะท้อนถึงกลิ่นอายของฤดูใบไม้ผลิอย่าง สีน้ำตาลและสีเขียวโอลีฟ รวมไปถึงการสอดแทรกโทนสีพิเศษที่เพิ่มความสดใสและความโดดเด่นให้กับฤดูกาลนี้ อย่าง สีชมพูฟูเชีย สีเขียวมิ้นท์ สีน้ำเงินสด และสีเมทัลลิก

นาฬิกาข้อมือดีไซน์เรียบหรูบางเฉียบ ผลงานรุ่นคลาสสิกที่สุดของแบรนด์

          ** บางเฉียบ : บลองแปง วิลเลอเรต์ เอ็กซ์ตร้า-เพลท นาฬิกาข้อมือดีไซน์เรียบหรูบางเฉียบ ผลงานรุ่นคลาสสิกที่สุดของแบรนด์ โดดเด่นด้วยขอบตัวเรือนเล่นระดับสองชั้น หน้าปัดเล่นแสง เข็มนาฬิกาทรงใบต้นเสจที่ทำขึ้นอย่างประณีต และหลักชั่วโมงตัวเลขโรมันทองคำ ทั้งยังมาพร้อมความเที่ยงตรงแม่นยำยิ่งขึ้น

          ** พริ้วไหว : มิกิโมโต้ คอลเลกชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2019 ได้คัดสรรเครื่องประดับไข่มุกชิ้นงามจากคอลเลกชั่นต่างๆ ที่ได้รังสรรค์ไว้อย่างอ่อนช้อยงดงามมานำเสนออีกครั้ง อย่างเช่นสร้อยคอ และสร้อยข้อมือไข่มุกจาก Les Pétales Place de Ginza Collection ที่ได้แรงบันดาลใจจากกลีบดอกไม้สีชมพูที่บอบบาง และพลิ้วไหวราวกับเริงระบำอยู่ในกินซ่า โดยนำไข่มุกอะโกย่าและเซาท์ซีส์มาดีไซน์แล้วประดับเพชรน้ำงามเม็ดเล็กๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าให้แก่เครื่องประดับชิ้นนี้

          ** มีชีวิตชีวา : คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ในปีนี้ เวโรนิก้า เอทโทร ได้ดึงเอาแรงบันดาลใจจากมรดกชั้นสูงและความหรูหราของแบรนด์ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว รวมถึงวัฒนธรรมของแบรนด์ ตีความออกมาเป็นสไตล์ชั้นสูงที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและชัดเจน ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นรากฐานของงานดีไซน์ตามแบบฉบับของเอทโทรมาโดยตลอด

          ** ล้ำสมัย : คอลเลกชั่นล่าสุดนี้ บาลลี่ย์ ขอแนะนำรองเท้าสนีกเกอร์หุ้มข้อสไตล์ซ็อคส์ ชูส์ ดีไซน์ใหม่กาบรีโอ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นกาแล็กซี มาพร้อมกับเทรนด์ล้ำนำสมัยด้วยวัสดุที่ทำจากผ้านิตที่มอบความสะดวกสบายในการสวมใส่ ประดับด้วยโลโก้บาลลี่ย์ วิง นอกจากนี้รองเท้าสนีกเกอร์รุ่นยอดฮิตอย่างกาแล็กซี ก็กลับมาพร้อมกับสีสันใหม่ๆ และวัสดุใหม่ให้เลือกสรรกันอย่างจุใจ

จากเครื่องแต่งกายสตรีชั้นสูงในช่วงกลางศตวรรษและเทคนิคการตัดเย็บพิเศษผสานลงบนเสื้อผ้าอันแสนโมเดิร์นเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

พีพี กรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายกระเป๋า เครื่องหนัง และเสื้อผ้าแบรนด์ “โลเอเว่” เปิดตัว คอลเลกชั่นประจำฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2019 ทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ โดยมี “โอ” โอฬาร ปุ้ยพันธวงศ์ และ “ปิ่น” สุวดี พึ่งบุญพระ ผู้บริหารพีพี กรุ๊ป ต้อนรับเหล่าเซเลบริตี้ ที่ร้านโลเอเว่ ชั้นเอ็ม ศูนย์การค้าสยามพารากอน

สุวดี พึ่งบุญพระ-โอฬาร ปุ้ยพันธวงศ์

          สำหรับคอลเลกชั่นสุภาพสตรีในซีซั่นนี้ โลเอเว่หยิบนำเอาแรงบันดาลใจจากเครื่องแต่งกายสตรีชั้นสูงในช่วงกลางศตวรรษและเทคนิคการตัดเย็บพิเศษต่างๆ นำมาผสานลงบนเสื้อผ้าอันแสนโมเดิร์นเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เปิดโชว์ด้วยลุคชุดโค้ทสีดำตัดเย็บด้วยผ้าวูลชนิดหนาพิเศษ ตกแต่งตะเข็บคอเสื้อและขอบกระเป๋าด้วยหนังสีดำ โดดเด่นด้วยหมวกดีไซน์แปลกแรงบันดาลใจจากหมวกกะลาสี

          ชุดผู้คลุมไหล่ใช้วัสดุแคชเมียร์จับจีบทำให้เกิดฟอร์มใหม่ของชุดคลุม สวมทับเสื้อเบลาส์ลูกไม้ซีทรูสีขาวแขนบอลลูนและกางเกงผ้าวูลตกแต่งแทบด้านข้าง หนังลูกวัว ผ้าซาติน และผ้าเทเลอร์ลายเชคเกอร์บอร์ดถูกตัดเย็บเข้าด้วยกันแบบลายตารางหมากรุกเป็นเสื้อโค้ทกิโมโนตัวใหญ่ ชุดเดรสออแกนซ่า-ออแกนดี้ Pin Tucked ที่โชว์เทคนิคงานปักไหมพรมเชื่อมตกแต่งระหว่างกลางตัวและเชื่อมต่อกับสเวตเตอร์ คอเต่าไหมพรมถักในครึ่งตัวบน เดรสซาตินสีทองพลิ้วไหวสวมคู่กับสเวตเตอร์ไหมพรมถักคอวี ตกแต่งริบบิ้นยาวเพิ่มกลิ่นอายแห่งสตรีชั้นสูงในยุคกลางศตวรรษ

          อีกหนึ่งลุคไฮไลท์คือเสื้อสเวตเตอร์ไหมพรมถักประดับไข่มุกน้อยใหญ่ทั่วทั้งตัว เพิ่มความเฟมินีนด้วยการผ่าหลังจากด้านบน สวมใส่กับกางเกงเดนิมตัวโคร่ง และปิดท้ายโชว์ประจำฤดูกาลด้วย เชิ้ตเดรสและกระโปรงลูกไม้สีขาวอันน่าทึ่งที่บริเวณปกเสื้อและชายกระโปรงมีการประดับประดาไปด้วยผ้าฉลุสามเหลี่ยมตกแต่งไข่มุกรูปหยดน้ำ สวมทับด้วยเสื้อคลุมเปิดแขนผ้าลินินสีดำอีกชั้น

          นอกจากนั้นยังมีไอเทมต่างๆ ที่มาประกอบลุคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น อาทิ หมวกสวมครึ่งศีรษะที่มีชื่อว่า เบิร์ด แรงบันดาลใจจากหมวกกะลาสีรูปทรงกลมแต่เพิ่มความสนุกมากยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์ปีกหมวกทั้งสามด้าน ผ้าพันคอขนนกกระจอกเทศ แว่นตากันแดดทรงวินเทจ ต่างหูรูปเข็มขัดประดับเพชร รวมไปถึงรองเท้าหนังบู๊ทส้นสูง สลิปเปอร์หัวแหลมหนังลูกวัว และรองเท้าผ้าใบสนีกเกอร์ประดับโลโก้ตัว L

          สำหรับกระเป๋าหนังสตรีคอลเลกชั่นนี้เปิดตัวกระเป๋าที่มีชื่อรุ่นว่า แลนเทิร์น โอเปร่า กระเป๋ารูปทรงแบบยุค 50 อีกหนึ่งใบที่หยิบนำเอากระเป๋ารุ่นตำนานกลับมาเสมอใหม่อีกครั้ง พร้อมฟังก์ชันไฟฉายในตัวและกระจกสะท้อนด้านใน เพิ่มระดับความหรูหราด้วยวัสดุหนังจระเข้และหนังลูกวัวทั้งใบ สำหรับกระเป๋าลาโซ่ในฤดูกาลนี้กลับมาในขนาดที่เล็กลง โดยให้ชื่อรุ่นว่า ลาโซ่ มินิแบ็ค เสริมฟังก์ชันการใช้งานให้สะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยสายสะพายยาวที่สามารถถอดออกได้เมื่อไม่ต้องการ ส่วนไอคอนนิกอย่างพัซเซิล และเกทแบ็คก็กลับมาทำในการตกแต่งแถบหนังสีสลับกันบนตัวกระเป๋า

          ในขณะที่คอลเลกชั่นผู้ชาย เสื้อผ้าทั้งหมดถูกนำเสนอแบบแอ็บสแตรคผ่านการสไตลิ่งที่น่าสนใจด้วยซิลลูเอทอันแปลกตา จุดประกายความคิดใหม่ในเรื่องวัสดุและซิลลูเอทของเสื้อผ้าผู้ชาย สร้างสรรค์โททัลลุคอันแปลกใหม่ได้อย่างน่าสนใจแบบที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน โดยนำเสนอทักษะเทคนิคงานฝีมือเพื่อยกระดับวัสดุในอีกแง่มุมหนึ่งอย่างคาดไม่ถึง ที่ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่าง แนวความคิดที่แสดงออกถึงความเป็นบุรุษเพศ ภายใต้การตัดเย็บแบบดั้งเดิมที่ผสานกับความสปอร์ตเทคนิคเชียริ่งและวัสดุแคชเมียร์ปรากฏบนเสื้อคลุมชั้นนอกเพื่อเสริมวันธรรมดาในช่วงหน้าหนาวของชายหนุ่มให้พิเศษยิ่งขึ้น

          เสื้อเชิ้ตแขนยาว และฮู้ดดี้แจ็กเก็ตที่ตกแต่งแนวตะเข็บด้วยเทคนิคเชียริ่งทำให้เกิดเป็นผลงานแบบ Trompe L’oeil เสมือนแจ็กเก็ตหน้าหนาวแบบวินเทจ และเสื้อคลุมคาร์ดิแกนตัวใหญ่ที่มีการตกแต่งพู่แคชเมียร์ตลอดทั้งตัวให้ความอบอุ่นตลอดช่วงหน้าหนาวนี้ และที่ขาดไม่ได้คือแจ็กเก็ตหนังบุนวมสีพาสเทลที่ถูกตกแต่งขนสัตว์อย่างหรูหรา รองเท้าบู๊ทหนังครึ่งตัวที่ได้แรงบันดาลใจจากแพทเทิร์นกางเกงอันเป็นผลงานศิลปะของฟรันซ์ เออร์ฮาร์ด วอลเธอร์

เครื่องประดับที่จะบันทึกความรู้สึกในทุกช่วงของความสัมพันธ์

ฟลิกแฟล็ก ไวบส์ คอลเลกชั่น

          ** สำหรับคุณหนู : ฟลิกแฟล็ก เผยโฉม ฟลิกแฟล็ก ไวบส์ คอลเลกชั่น สำหรับคุณหนูๆ ที่มีใจรักและชื่นชอบในเสียงดนตรี ไม่ว่าจะร้อง เต้น เล่นดนตรี ด้วย 4 ดีไซน์สุดชิค ได้แก่ โพพิ้งค์ เล็ทส์ ร็อค ปลั๊ก อิท และดิสโก้บอล ซึ่งนอกจากที่จะทำให้การดูเวลาเป็นเรื่องง่ายและสนุกยิ่งขึ้น ทั้งยังปลอดภัยด้วยวัสดุที่เป็นบีพีเอฟ

จัสมิน อิน รีเลชั่นชิฟ

          ** สัญลักษณ์ความรัก : จัสมิน เชิญชวนมาเติมความหวานเพื่อกระชับและพัฒนาความสัมพันธ์ไปกับเครื่องประดับที่จะบันทึกความรู้สึกในห้วงเวลาแห่งความรักให้อยู่กับคุณและคนพิเศษในทุกช่วงของความสัมพันธ์ ตั้งแต่เริ่มตกหลุมรัก พัฒนาความสัมพันธ์ ไปจนถึงช่วงที่ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน กับแคมเปญ “จัสมิน อิน รีเลชั่นชิฟ” ผ่านสัญลักษณ์ของความรัก ความห่วงใย ความปรารถนาดี และคำมั่นสัญญา

การ์แลน เดอ คาร์เทียร์

          ** เอกลักษณ์เฉพาะตัว : กระเป๋าถือคอลเลกชั่น การ์แลน เดอ คาร์เทียร์ มีให้เลือกสรร 3 ขนาด 3 สี อันเป็นสีเดียวกันกับที่เคยได้พบเห็นจากกล่องอัญมณีของคาร์เทียร์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ประดับขอบด้วยลวดลายสีทอง “ลายพวงดอกไม้” หรือ “ผีเสื้อ” ปลุกห้วงคำนึงถึงลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวบนกล่องของคาร์เทียร์ในช่วงศตวรรษที่ 18

แคมเปอร์ คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2019

          ** ผสานลงตัว : แคมเปอร์ คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2019 ได้แรงบันดาลใจจาก “ไฮท์ ออกเทน” ซึ่งเปรียบเสมือน “เชื้อเพลิง” ที่ช่วยเติมความเร็วและความแรงถึงขีดสุดให้กับสไตล์ที่ใช่ โดยสไตล์ไฮบริด ของรองเท้าในซีซั่นนี้ได้ถูกยกระดับให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัวรองเท้ารูปทรงใหม่ที่หลอมรวมระหว่างงานดีไซน์และนวัตกรรมสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกัน

แรงบันดาลใจจากอดีตและอนาคต ที่มีความสดใหม่ทันสมัย

สวอท์ช คอลเลกชั่นฟอลล์-วินเทอร์ 2019

          ** เสน่ห์งานศิลป์ : สวอท์ช เผยคอลเลกชั่นพิเศษ ฟอลล์-วินเทอร์ 2019 พร้อมด้วยการเฉลิมฉลอง 100 ปีแห่ง บาวเฮาส์ ผู้ริเริ่มศิลปะแนวโมเดิร์นอาร์ตที่เคยสร้างความเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่แก่วงการศิลปะโลก ด้วยเทคนิคเหนือชั้นของสวอท์ช รวมเข้ากับดีไซน์อย่างศิลปินชั้นยอดออกมาเป็น บาว สวอทช์ นาฬิกาที่ถูกดีไซน์ให้เหมือนกับการเล่นสนุกไปกับแม่สี ลายเส้น และรูปทรงเรขาคณิตที่ดูเรียบง่าย แต่มีเสน่ห์อย่างงานศิลป์ร่วมสมัย

ชาร์ลส แอนด์ คีธ คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2019

          ** เอิร์ธโทน : คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2019 ชาร์ลส แอนด์ คีธ ได้นำแรงบันดาลใจมาจากอดีตและอนาคต ที่มีความสดใหม่ทันสมัย ขณะเดียวกันก็ยังมีกลิ่นอายและเสน่ห์จากอดีต ภาพจากแคมเปญ ในสไตล์มินิมัลลิสต์ ด้วยเส้นสายเรียบง่ายและสีอ่อนๆ แนวเอิร์ธโทน ความเรียบหรูของภาพสะท้อนให้เห็นจากคัทติ้งเรียบโก้ของเสื้อผ้านางแบบ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่บรรดารองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับสุดล้ำ

คอลเลกชั่น “ไทย ซิลค์ กรูม สูท คอลเลกชั่น 2019”

          ** งานแฮนเมด : ห้องเสื้อ วาริช สูท เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ “ไทย ซิลค์ กรูม สูท คอลเลกชั่น 2019” แต่ละชุดถูกออกแบบให้มีความหลากหลาย แต่ยังคงเน้นการนุ่งโจงแบบไทยดั้งเดิม โดยเน้นเลือกใช้ผ้าไหมเกรดพรีเมียมและขึ้นชื่อประกอบกับช่างฝีมือที่มีความประณีตสูง ทำให้ชุดเจ้าบ่าวทุกชุดมีความประณีตขั้นสุดเพราะเป็นงานแฮนด์เมดทั้งหมด

บาลลี่ย์ คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2019 “พีค เอาท์ลุค” 

          ** ทัศนียภาพสวยงาม : บาลลี่ย์ คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2019 “พีค เอาท์ลุค” คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2019 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากมรดกทางวัฒนธรรมของสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านมุมมองที่ทันสมัยอันเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตท่ามกลางขุนเขาที่เต็มไปด้วยทัศนียภาพของเทือกเขาที่สวยงาม

รังสรรค์เสื้อผ้าดั่งชิ้นงานศิลปะในคอลเลกชั่น 2019 “เดอะ ไบรท์ เวิลด์”

เมื่อแฟชั่นเสื้อผ้ามาผนวกเข้ากับงานศิลปะได้อย่างลงตัว “โชน ปุยเปีย” (SHONE PUIPIA) แบรนด์แฟชั่นที่ผ่านการตกผลึกทางความคิดจากคลื่นลูกใหม่ในวงการแฟชั่นดีไซน์ โชน ปุยเปีย ที่รังสรรค์เสื้อผ้าดั่งชิ้นงานศิลปะที่มีความพิเศษไม่เหมือนใครจัดงานแฟชั่นโชว์เผยโฉมคอลเลกชั่น 2019 ภายใต้ชื่อ “เดอะ ไบรท์ เวิลด์” ที่สตูดิโอศิลปะ soi sa:m ซอยสวนพลู 3 ถ.สาทรใต้ เมื่อวันก่อน

   โชน ปุยเปีย แฟชั่นดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ เล่าถึงคอนเซ็ปต์ของคอลเลกชั่นใหม่ประจำปี 2019 ซึ่งเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกันกับนิทรรศการศิลปะครั้งล่าสุด โดยถ่ายทอดผ่านธีม “เดอะ ไบรท์ เวิลด์” ซึ่งเป็นดั่งบทสรรเสริญแนวคิดในเรื่องความสุขของการแต่งกาย ชี้ชวนให้ตื่นตาด้วยความหวัง และเปิดทางให้ก้าวไปสู่โลกที่สว่างสดใสกว่า
ครั้งนี้ โชน ปุยเปีย จะพาเราไปสู่ห้องนั่งเล่นจินตนาการสถานที่รวมตัวกันของตัวละครที่มีบุคลิกหลากหลายเฉพาะตัว แต่เชื่อมโยงถึงกันด้วยเสื้อผ้าที่น่าตื่นเต้นเร้าใจและให้ความรู้สึกโดดเด่นเป็นพิเศษ คอลเลกชั่นนี้จึงให้ความสำคัญกับสีสันและรูปทรงพองโต พลิ้วไหวเกิดความรู้สึกที่เป็นอิสระเหนือสิ่งอื่นใดคือได้นำความงามสง่าและความรู้สึกแยบยลมาสู่เสื้อผ้าของสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีโดยไม่มีเส้นแบ่งกั้น

จุดเด่นของผลงานในแต่ละคอลเลกชั่นของเขาคือ การคอลลาจผสมผสานกันของแนวคิดและเทคนิคที่หลากหลายของศิลปวัฒนธรรม ซึ่งในคอลเลกชั่นนี้ได้เพิ่มเติมความสนุกสนานในการเล่นกับวัสดุ พื้นผิว รวมถึงเทคนิคของงานทำมือ อาทิ การสร้างงานคอลลาจกระดาษสี ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพรมท้องถิ่นโมร็อกโกที่ถักทอจากเศษผ้าและขนสัตว์เหลือใช้ แล้วนำไปพิมพ์บนผ้าไหม ขอบกระดาษหลากสีที่เกิดจากการฉีกยังคงไว้ในลายพิมพ์เพื่อสร้างมิติสั่นไหวให้แก่ชิ้นงาน

อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ติดตามผลงานของเขามักจะได้เห็นในทุกคอลเลกชั่น คือ การสร้างลายผ้าใหม่ๆ ในคราวนี้ก็เช่นกันไม่ว่าจะเป็นลวดลายดอกไม้ที่เกิดจากการใช้พู่กันวาด และกัดสีของผ้าออกงานพิมพ์ซิลค์สกรีนลายดอกดาวดึงส์แบบกราฟฟิกบนเสื้อแจ็กเก็ต ที่สามารถพลิกเอาฝั่งไหมซาตินออกมาอวดโฉมได้ ในคอลเลกชั่นยังประกอบไปด้วยเสื้อคลุมและกระโปรงที่ทำมาจากหนังปลาแซลมอนที่ตัดเย็บต่อกันทั้งตัวด้วยมือเป็นลวดลายธนูของญี่ปุ่น โดยมีเยื่อไหม “มาวาตะ” เป็นอีกหนึ่งวัสดุหลักที่ถูกนำมาใช้ในชุดเดรสและกางเกง เพื่อแสดงถึงคุณสมบัติในการให้รูปทรงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การรวมตัวกันของสีสัน พื้นผิวสัมผัส ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตบรรจงดุจผลงานศิลปะชิ้นมาสเตอร์พีซผ่านเสื้อผ้าในคอลเลกชั่น 2019 ชี้ชวนให้ผู้สวมใส่ตื่นตาด้วยความหวังสร้างบุคลิกอันเจิดจ้า และเปิดทางให้ก้าวไปสู่โลกที่สว่างสดใสกว่า
  ผู้สนใจสามารถมาเยี่ยมชมนิทรรศการ “เดอะ ไบรท์ เวิลด์” ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่วันนี้-20 ตุลาคม ที่สตูดิโอศิลปะ soi sa:m ซอยสวนพลู 3 โดยเปิดบริการในวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 13.00-19.00 น. ส่วนวันจันทร์-พฤหัสบดี สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ทาง 09-7172-3873

ตัวกระเป๋าทำจากหนังแพะจับคู่กับฝาปิดกระเป๋าหนังกลับหลากหลายเฉดสี

          ** สวยสะดุดตา : คอลเลกชั่นแมกนิจูด คาร์เทียร์ นำวัสดุที่โดดเด่นสะดุดตามาประกอบเข้าด้วยกันอย่างสร้างสรรค์ แม้จะเป็นวัสดุที่เมื่อมองอย่างฉาบฉวยจะไม่เข้ากันเลยก็ตาม เพชรที่ยอมให้ควอทซ์เฉิดฉาย หรือแซฟไฟร์ที่ฉายความงามเคียงคู่โอปอล รวมถึงหยกที่อวดความเรืองรองอยู่ข้างร็อกคริสตัล และเพชรสีชมพูที่จับคู่กับมอร์แกไนต์และคอรัล ที่สลับไปมาระหว่างหินและอัญมณีมีค่า ระหว่างสีสันและความระยิบระยับ และระหว่างผืนดินและแสงสว่าง

          ** ของขวัญพิเศษ : ไททัน ชวนมอบของขวัญพิเศษให้แม่เนื่องในเดือนของแม่ ด้วยนาฬิกาคอลเลกชั่นพิเศษ ไททัน เพอร์เพิล ที-9798BM02 นาฬิกาอะนาล็อกแนวเครื่องประดับสำหรับสุภาพสตรี สวยสง่าทั้งหน้าปัดและสรีระของตัวเรือน ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ทรงกลม หรูหราด้วยสีทองทูโทน ตัวเรือนและสายทำจากสเตนเลสสตีลอย่างดี

          ** เฉดสีใหม่ : คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2019 กระเป๋ารุ่น “ฟูร์ล่า ดีว่า” ได้ออกเฉดสีใหม่ที่เข้มขึ้นและเน้นวัสดุที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มความหรูหราและทันสมัย โดยตัวกระเป๋าทำจากหนังแพะจับคู่กับฝาปิดกระเป๋าหนังกลับหลากหลายเฉดสีอย่างสีน้ำเงิน สีแดงเข้ม และสีเขียวอมฟ้า หรือการจับคู่สีโทนเดียวกันอย่างสีดำล้วน รวมถึงไซส์เล็กที่มีจุดเด่นตรงฝาปิดกระเป๋าทำจากหนังลูกวัวขนม้าพิมพ์เสือดาว

          ** บ่งบอกตัวตน : คนรักแฟชั่นสตรีทสไตล์ เตรียมควักกระเป๋ากับ บีเจ ยีนส์ คอลเลกชั่นพิเศษ “โค้ด แบล็ก” มีให้ช็อปทั้งกางเกงยีนสุดชิค กางเกงผ้ายืด กางเกงขาสั้น กางเกงขาจั๊มพ์ดีไซน์เท่ๆ โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดคูลกับลวดลายขาดที่หน้าขา ตีเกล็ดบริเวณเข่า ติดซิปที่ปลายขากางเกง นอกจากนี้ยังมีเสื้อทีเชิ้ต เสื้อแขนยาว เสื้อโอเวอร์ไซส์มาพร้อมลวดลายที่บ่งบอกตัวตนของผู้สวมใส่

ไฟนอลโชว์ แอล ปารีส อะเทริเย่ร์ กลางกรุงเทพฯ

ตระเวนเปิดตัวให้สาวกและแฟนคลับได้ชื่นชมกันทั่วประเทศมาแล้ว ล่าสุด “แอล” และ “แอลฮอม” แบรนด์แฟชั่นดังจากฝรั่งเศส ถือฤกษ์งามยามดีจัดงาน “แอล ปารีส อะเทริเย่ร์” ใจกลางกรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด์ “ไฟนอล โชว์” ที่ลานโปรโมชั่น ชั้นเอ็ม เทอร์มินอล 21 อโศก กรุงเทพฯ  เมื่อค่ำวันก่อน

รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร

โดย “เป๊กกี้” รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายบูติคสตรี บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความตั้งใจของการจัดงานครั้งนี้ว่า ไอ.ซี.ซี.มีแนวคิดที่จะส่งเสริมและพัฒนาผลงานการออกแบบเสื้อผ้าภายใต้สองแบรนด์ดังจากปารีส ประเทศฝรั่งเศส ให้มีศักยภาพ คุณภาพ เพิ่มความโดดเด่น และมีนวัตกรรมต่างๆ มากขึ้น จึงได้จัดงานนี้ขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์เสื้อผ้าแอล และแอลฮอม ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

ปวีณสุดา ดรูอิ้น ร่วมเดินแบบ 

บรรยากาศของงานคลาคล่ำไปด้วยแขกผู้มีเกียรติที่ต่างพากันมาอัพเดทเทรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าของแบรนด์ดังอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง อาทิ เนตรทราย ศุภวิรัชบัญชา, วิสุทธิ์ กิ่งน้อย, ปรียรัติ สุทธาพัฒน์ธานนท์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีคนสวยระดับจักรวาล “ฟ้าใส” ปวีณสุดา ดรูอิ้น มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2019 มาร่วมเดินบนแคทวอล์ก โดยแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ถือเป็นการปิดหรือทิ้งทวนคอลเลกชั่น พรีวิว เสื้อผ้าฤดูกาลใบไม้ร่วง และฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ

 เนตรทราย ศุภวิรัชบัญชา-วิสุทธิ์ กิ่งน้อย

สำหรับคอลเลกชั่น พรีวิว ของฤดูกาลฟอล-วินเทอร์ 2019 มีตั้งแต่เสื้อผ้าสตรี บุรุษ เสื้อผ้าเด็ก ชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ และเครื่องหนัง โดยเฉพาะเสื้อผ้าจะมีการออกแบบที่ยังคงรักษากลิ่นอายของความเป็นเสื้อผ้าที่มีความหรูหรา เนี้ยบเฉียบ และสวยงาม ทั้งการออกแบบและการตัดเย็บ มีการนำเอาผ้าที่มีความมันวาว บางเบา และผ้าลูกไม้ชั้นดีมาสร้างจุดเด่นและลูกเล่น เพื่อให้เข้ากับเทศกาลฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ ทำให้ผู้ที่สวมใส่สามารถหยิบใส่ไปทำงาน แล้วต่อด้วยงานปาร์ตี้แบบสาวเปรี้ยวได้ภายในวันเดียวกันโดยไม่ต้องไปสรรหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้เสียเวลา ใครกำลังมองหาสไตล์เสื้อผ้าในแบบที่ใช่ก็ไปค้นหากันได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 14 สิงหาคมนี้

อัพเดทคอลเลกชั่นล่าสุดสะท้อนความเป็นสาวรุ่นใหม่

เป็นอีกหนึ่งปาร์ตี้ที่เหล่าเซเลบริตี้สาวผู้รักแฟชั่นและรักอิสระต้องล็อกคิวไม่ให้พลาดกับปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่ง “เอ” ดนัย สรไกรกิติกูล แห่งเอลิสต์จัดขึ้นเพื่อต้อนรับเหล่าสาว ‘โคลเอ เกิร์ล’ ที่มาร่วมอัพเดทคอลเลกชั่นล่าสุด “โคลเอ ฟอลล์ 2019 คอลเลกชั่น” และ กระเป๋า โคลเอ ซี แบ็ก สะท้อนความเป็นสาวรุ่นใหม่ ที่ฟลาเมงโก แบงคอก ชั้น 9 ตึกเฮลิกส์ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์

สำหรับ โคลเอ ฟอลล์ 2019 คอลเลกชั่น และกระเป๋า โคลเอ ซี แบ็ก ยังคงสะท้อนความเป็นสาวในแบบฉบับสาว โคลเอ ไว้ทั้ง รักอิสระ หรูหรา และอ่อนโยน แบบสาวปารีเซียง ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของแบรนด์โคลเอ โดย นาตาชา เรมเซย์-เลวี่ ได้ผสมผสานความสง่างามที่ไร้กรอบ ความซุกซน และความหรูหราของสังคมชั้นสูงไว้ด้วยกัน และได้แสดงตัวตนถึงทัศนคติอันเป็นอิสระซึ่งแฝงความแตกต่างระหว่างความอ่อนโยนและความทันสมัย จนกลายเป็นแบรนด์แฟชั่นในใจของหญิงสาวรุ่นใหม่ในขณะนี้

          คอลเลกชั่นนี้ได้ปรับเปลี่ยนอิทธิพลความเป็นผู้หญิงด้วยแนวคิดที่มากกว่าความสวยงาม นำเสนอผ่านโครงร่างเสื้อผ้าที่ออกนอกกรอบ อาทิ ชุดเดรสสวมใส่ทับกางเกงขายาวและกระโปรง ผ้าที่ถักทออย่างพิถีพิถันผสมผสานกับการตัดเย็บแนวเฉียงเพิ่มความพลิ้วของผ้าไหมเสื้อผ้าแบบเทเลอร์สไตล์ผู้ชายถูกจับให้เข้ากันกับความอ่อนนุ่ม พาเลทสีที่ได้จากสีแดงสนิม สีเหลืองลูกพลับ สีม่วงฟิสเชีย สีม่วงลาเวนเดอร์ และสีแดงคาร์เนเลียน โดดเด่นขึ้นในเฉดสีคลาสสิกของสีชมพูบลัช สีเขียวมะกอก สีน้ำตาลอูฐและสีน้ำเงินเดนิมที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์กางเกงเอวสูงปรากฏในรูปทรง เอ-ไลน์ และตอกย้ำชุดสไตล์แจ็กเก็ตโดยเสื้อโค้ทดัฟเฟิล เทรนช์โค้ท และผ้าคลุม จนกระทั่งเสื้อคลุมเบลเซอร์แบบผู้ชาย หรือแจ็กเก็ตล่าสัตว์ตัวเล็ก ส่วนชุดเดรสปรากฏในรูปทรงบางเบา บางส่วนใช้เทคนิคการจับพับรวมไว้บริเวณคอและแขนเสื้อแบบผ้าเช็ดหน้า นอกจากนี้ยังได้นำเสื้อเชิ้ตผ้าไหม ที่ใช้ลายดอกไม้โทนสีต่างๆ ประกอบกับรูปทรงของผ้ากันเปื้อน เอกลักษณ์ที่สำคัญของเสื้อเชิ้ตที่ได้ถูกนำเสนอซ้ำๆ อย่างนับไม่ถ้วน ตัดกับคอเสื้อที่เป็นเหมือนผ้าพันคอ ประดับด้วยระบายลูกไม้และพลีท

          คอลเลกชั่นนี้ยังโดดเด่นด้วยการใช้ผ้าเนื้อสัมผัสสร้างถึงความหรูหรา มีเสน่ห์และลงตัวอย่างไม่คาดคิด เช่น เนื้อผ้ากำมะหยี่มันเงาหรือแบบยับ เนื้อผ้าทอลายในตัวไปจนถึงผ้าไหมทอลาย หนังที่ทนทาน และผ้าวูลขนสัตว์ ลายพิมพ์ลายกราฟฟิกที่หรูหราทั้งลายดอกไม้ ลายตารางแฉกสี่เหลี่ยมแบบเหนือจริง และสัญลักษณ์ของโคลเอ ‘ความเป็นผู้หญิง’ ที่แสดงเป็นรูปแกะสลักสไตล์บาโรก ในขณะที่อักษร ‘C’ ถูกนำเสนอใหม่ด้วยการพิมพ์ลายโมโนแกรมลงบนผ้าทอลาย

          ส่วนกระเป๋าไอเท็มประจำกายของสาวๆ ต้องโดนใจกับ กระเป๋าโคลเอรุ่น ‘โคลเอ ซี’ และรุ่น ‘เทสส์’ กลับมาในรูปแบบของลายพรางปั๊มหนังลายสัตว์เลื้อยคลานประดับมุกและหนังลูกวัวไล่สีเนื้อเนียนนุ่ม และกระเป๋าโคลเอรุ่นใหม่ อย่าง “อะบาย” สร้างขึ้นด้วยงานฝีมืออันประณีตจากหนังกวางที่อ่อนนุ่ม ซึ่งมาพร้อมกับสายสะพายไหล่และสายจับด้านบนที่ทำจากสายเข็มขัดในโทนสีเดียวกันคล้ายกับตัวล็อกรุ่นเอกลักษณ์ของโคลเอ และ “แอนนี่” เป็นกระเป๋าถือทรงเหลี่ยมที่เชื่อมด้วยสายโซ่กับตาไก่และสายโซ่โลหะในโทนสีทอง ซึ่งทั้งสองรุ่นถูกพัฒนาขึ้นจากรายละเอียดที่โดดเด่น เช่น ตัวล็อกหนังและสายโซ่สู่ดีไซน์ที่โล่งสบายเหมาะสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน

          นอกจากนี้ยังมีรองเท้า ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างหลากหลาย ได้แก่ รองเท้าส้นสูงที่พลิ้วไหวเหมือนลายคลื่นกลับมาพร้อมกับรองเท้าบู๊ทปลายแหลม และรองเท้าโลฟเฟอร์หัวเหลี่ยม ซึ่งทั้งสองมาพร้อมกับการหุ้มข้อและน่องสูง ตัดเย็บด้วยลายหนังจระเข้ หนังงู และหนังลูกวัว ปิดท้ายด้วยแอ็กเซสเซอรีดีไซน์ใหม่ แต่ยังคงความสวยงามในแบบฉบับความเป็นผู้หญิงโคลเอ ด้วยมุกสไตล์บาโรกและตกแต่งด้วยเปลือกหอยธรรมชาติ ตัดกับความเรียบง่ายของอลูมิเนียม โดยใช้เทคนิคการทุบโลหะให้เกิดเป็นกำไล ต่างหูแบบห่วง และสร้อยคอ