เพิ่มลุคเจ้าสาวในจินตนาการผ่าน “ลูกไม้” ดีไซน์เก๋ ไม่ซ้ำใคร

ความงดงามตามแบบฉบับของ “เจ้าสาวยุคใหม่” ที่หลงใหลในความมินิมอล สวย หรู มีเสน่ห์ในทุกอิริยาบถ ห้องเสื้อชุดแต่งงาน ชุดราตรี น้องใหม่แบรนด์ “เวโรนิก้า บาย วีพี” (Veronika by VP) ภายใต้การบริหารของ วีรานันท์ พิพัฒวงศ์เกษม ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เวโรนิก้า บาย วีพี จำกัด ได้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซในคอลเลกชัน “อิลิแกนท์ คอลเลกชั่น” และ “แมกนิฟิเซ็นท์ คอลเลกชั่น” เพิ่มลุคเจ้าสาวในจินตนาการผ่าน “ลูกไม้” ดีไซน์เก๋ ไม่ซ้ำใคร !! ที่ขับเน้นความงดงามของเรือนร่างเจ้าสาวอย่างน่าค้นหา พร้อมเทคนิคการเลือกเนื้อผ้าด้วยดีไซเนอร์มืออาชีพ และการตัดเย็บสุดละเมียดด้วยทีมช่างมืออาชีพประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี แปลงโฉมเจ้าสาวให้ออกมาสวย หวาน ทันสมัย สะท้อนตัวตนในวันแต่งงานอย่างมั่นใจ

วีรานันท์ พิพัฒวงศ์เกษม

สำหรับแรงบันดาลในการออกแบบชุดและการตกแต่งร้าน มาจากการเดินทางท่องเที่ยวอันถี่ยิบของ “วีรานันท์ พิพัฒวงศ์เกษม” ที่ตีตั๋วทุก 3 เดือน เพื่อทัวร์เมืองแฟชั่นทั้งในแถบเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ในการเก็บเกี่ยวไอเดียใหม่ๆ มามิกซ์แอนด์แมตช์ลงบนชุดเจ้าสาว เพื่อเติมเต็มความฝันของเหล่าว่าที่เจ้าสาวในทุกโมเมนต์ และพร้อมก้าวสู่แบรนด์ชุดแต่งงานระดับสากล

 วีรานันท์ เผยว่า เจ้าสาวรุ่นใหม่จะชอบความเป็นมินิมอลมากขึ้น มีลูกไม้น้อยๆ แต่ไปเน้นลวดลายลูกไม้ที่ผ้าคลุมไหล่แทน ส่วนธีมสีของชุดเจ้าสาวที่นิยมในปีนี้จะออกไปในแนวสีงาช้าง หรือ ไอโวรี่ คัลเลอร์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ความชอบของแต่ละคน จากเรื่องราวที่ไม่ซ้ำกันของเจ้าสาวที่เข้ามาปรึกษาในร้าน ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นความใส่ใจในทุกรายละเอียด จึงเป็นแรงผลักดันให้เราตั้งใจพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์อยู่เสมอ ดังนั้นเรามั่นใจว่าชุดของ เวโรนิก้า จะสามารถทำให้วันสำคัญของพวกเธอเป็นความทรงจำที่แสนวิเศษอย่างแน่นอน

ด้วยดีไซน์ที่ดูโดดเด่นของ “ผ้าลูกไม้” ซึ่งเป็นดีเทลสำคัญของชุดแต่งงาน มีการสั่งทำพิเศษสำหรับแบรนด์เวโรนิก้าโดยเฉพาะ โดยทีมดีไซเนอร์และผู้ดูแลลูกค้าจะมีการสำรวจตลาดเพื่ออัพเดทเนื้อผ้าและอุปกรณ์ตกแต่งต่อเนื่องสม่ำเสมอ บางชิ้นเป็นลิมิเต็ดเอดิชั่น เนื่องจากวัตถุดิบสำหรับดีไซน์บางอย่างมีจำนวนจำกัด บวกกับการดีไซน์ออกแบบชุดด้วยการใช้ผ้าชีฟองผสมลวดลายลูกไม้ บรรจงตัดเย็บด้วยช่างดีไซเนอร์มืออาชีพประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ทำให้ชุดเจ้าสาวมีความแตกต่าง ทั้งรูปลักษณ์ ลวดลายการตัดเย็บ สร้างความมั่นใจให้กับตัวเจ้าสาว และที่ผ่านมาสร้างความประทับใจมามากกว่า 100 รายภายในระยะเวลาเพียงปีเดียว

ทั้งนี้เพื่อสร้างจุดขายที่เหนือกว่าการสร้างความประทับใจ “ด้านการบริการ” ให้แก่ลูกค้า ผ่านแนวคิดใหม่ที่ยืดหยุ่นกว่าเพราะเวโรนิก้า ได้ตัดเรื่องค่าใช้จ่ายในการลองชุดออกไป เพื่อสนองความพึงพอใจและความสบายใจแก่ว่าที่เจ้าสาว เปิดโอกาสให้ว่าที่เจ้าสาวลองชุดอย่างอิสระท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเอง โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลให้คำปรึกษาเป็น “เพื่อนคู่คิด” คอยเพิ่มความมั่นใจและสนับสนุนความคิดอันสับสนในหัวของพวกเธออย่างใกล้ชิด

ด้านจุดเด่นของร้านเวโรนิก้า คือ การดีไซน์ตกแต่งร้านให้มีบรรยากาศความเป็นกันเอง ทว่าโก้หรูด้วยสไตล์การตกแต่งแบบ โมเดิร์น ลักชัวรี่ รีเทล ภายในตกแต่งเป็นโทนสว่าง สะท้อนความคลาสสิกร่วมสมัย พร้อมให้ความรู้สึกโรแมนติกด้วยวัสดุสีทองเมทัลลิก โดยพิกัดของร้านตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านสาทร เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีช่องนนทรี
“แรงบันดาลใจการตกแต่งร้าน เกิดขึ้นจากประสบการณ์ได้ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ส่วนตัวชอบไลฟ์สไตล์ของผู้คนในนิวยอร์ก, ลอสแองเจลิส หรือซานฟรานซิสโก ที่ดูหรูหรา แต่กลับมีเสน่ห์ในเรื่องการบริการเป็นอย่างมาก ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง เข้าไปอยู่ในใจลูกค้าอย่างรวดเร็ว หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำให้เราพยายามนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาสินค้าและบริการ สร้างความตื่นเต้นทุกครั้งที่เข้ามาใช้บริการ จนรู้สึกอยากแต่งงานใหม่อีกครั้ง” วีรานันท์ กล่าวทิ้งท้าย
 เป็นอีกมิติหนึ่งของการบริการออกแบบตัดชุดเจ้าสาวยุคใหม่ ในการส่งเสริมภาพลักษณ์ เพิ่มความมั่นใจเพียงครั้งเดียวของชีวิต ใต้ความงดงามที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ “เจ้าสาวในฝัน”

เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่สื่อสารถึงภาพลักษณ์ของ “เดอะ นิว ซิติเซ็น” ที่มีความสปอร์ต มีพลัง เป็นพลังของคนรุ่นใหม่ที่กล้าจะออกไปใช้ชีวิต

ซิติเซ็น (CITIZEN) แบรนด์นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่น และ บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย จับมือ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จัดงาน “ซิติเซ็น และหมาก ปริญ” เปิดตัวพระเอกหนุ่มหล่อ  “หมาก” ปริญ สุภารัตน์ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ ด้วยภาพลักษณ์อันโดดเด่นสะท้อนตัวตนกล้าท้าทายทุกขีดจำกัด

พรทิพย์ ตัณฑ์จยะ-ณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์-ลุค ชาริเออร์-วิภาวรรณ มหาดำรงค์กุล-รวมพร อิทธิพงศ์

ภายในงานพรั่งพร้อมไปด้วยคณะผู้บริหาร นำโดย วิภาวรรณ-“ริน” ศรินญา มหาดำรงค์กุล, ลุค ชาริเออร์, รวมพร อิทธิพงศ์ ท่ามกลางเหล่าเซเลบริตี้ผู้หลงใหลในเรือนเวลา อาทิ “คุณโก้” ม.ล.รังษิธร ภาณุพันธุ์, “คุณสาธุ” ม.ล.ศริมงคล-“คุณแอ็กชั่น” ม.ล.อนุชา ยุคล, “มะปราง” ปัทมวดี เสนาณรงค์, นนท์ อัมระนันทน์, “เจ” เอกชัย สุขุมวิทยาล, “หน่อย” พรทิพย์ ตัณฑ์จยะ, ณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์, “อิน” กษิดิศ ดุลยจินดา เป็นต้น มาร่วมงานที่แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน เมื่อวันก่อน

กษิดิศ ดุลยจินดา-เอกชัย สุขุมวิทยา

 วิภาวรรณ มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า ภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราไม่เคยหยุดพัฒนา ในวันนี้ได้พัฒนาภาพลักษณ์ของแบรนด์ควบคู่ไปกับสินค้าที่มีคุณภาพ นับเป็นโอกาสอันดีที่การเปิดตัวแบรนด์พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ จะเป็นโอกาสสำคัญให้ได้สื่อสารถึงภาพลักษณ์ของ “เดอะ นิว ซิติเซ็น” ที่มีความสปอร์ต มีพลัง เป็นพลังของคนรุ่นใหม่ที่กล้าจะออกไปใช้ชีวิต

ม.ล.ศริมงคล ยุคล-ปัทมวดี เสนาณรงค์-ม.ล.อนุชา ยุคล

นนท์ อัมระนันทน์-ม.ล.รังษิธร ภาณุพันธุ์

นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวนาฬิการุ่น “โปรมาสเตอร์ สกาย บลู แองเจิ้ล” ให้ยลโฉมกันเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากฝูงบินสาธิตบลู แองเจิ้ล ฝูงบินผาดโผนอันเลื่องชื่อและเก่าแก่ที่สุดของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ถือเป็นนาฬิกาที่มีความแม่นยำขั้นสูง โดยมีความพิเศษที่มีการควบคุมด้วยเทคโนโลยีวิทยุควบคุม สามารถรับสัญญาณจากนาฬิกาอะตอม ซึ่งเป็นเวลาที่แม่นยำที่สุดในโลก คลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 วินาทีในช่วงเวลา 100,000 ปี หน้าปัดสีน้ำเงิน-เหลืองสดใส ขนาด 47 มม. ทำจากกระจกแซฟไฟร์ป้องกันรอยขีดข่วน และเคลือบแสงกันสะท้อน เข็มแสดงเวลาพรายน้ำส่องสว่างชัดเจน ฝาหลังสลักโลโก้ฝูงบินสาธิต และยังมาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีนาฬิกาแสงอีโค ไดรฟ์ อันเป็นกรรมสิทธิ์ของซิติเซ็นที่สามารถรับแสงไม่ว่าจะเป็นแสงชนิดใดก็ตาม

เปิดตัวแบรนด์เครื่องหนัง “เบลล์รอย” เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว

หวังตีตลาดหนุ่มสาวคนเมืองที่ชื่นชอบดีไซน์และหลงรักในเครื่องหนัง ล่าสุด ริชาร์ด โบลุส ผู้จัดการภูมิภาคเอเชีย ผลิตภัณฑ์เบลล์รอย (Bellroy) แบรนด์เครื่องหนังสไตล์มินิมอลลิสสัญชาติออสเตรเลีย พร้อมด้วย กิตติมา กรดสุข ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ เบลล์รอย บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) และ วรรณชื่น ทองเย็น ผู้จัดการอาวุโส แผนกลักชัวรีและไลฟ์สไตล์ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศ ไทย) จำกัด ร่วมจัดงาน “เบลล์รอย เพรส พรีวิว อิน ไทยแลนด์ 2019” เปิดตัวแบรนด์เครื่องหนัง “เบลล์รอย” เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวที่สุดแห่งนวัตกรรมของการดีไซน์ได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ร้าน คาซ่า ลาแปง เอกมัย เมื่อวันก่อน

ริชาร์ด โบลุส

      ริชาร์ด โบลุส กล่าวว่า เบลล์รอย ก่อกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ.2010 ณ เมืองเบลส์ บีช ตั้งอยู่ในรัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย โดยชื่อของเบลล์รอยเกิดจากการผสมผสานระหว่างชื่อของชายหาดเบลล์ บีช (Bells Beach) กับฟิทซ์รอย (Fitzroy) ย่านครีเอทีฟของเมือง Melbourne ที่เป็นแหล่งสร้างสรรค์ดังระดับโลก เบลล์รอยได้สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างการใช้ชีวิตแบบสังคมเมืองกับธรรมชาติ ออกมาผ่านตัวตนของคนทำงานสู่ผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การเลือกใช้หนังวัวแท้คุณภาพดี วัสดุผ้า ตลอดจนเทคนิคการตัดเย็บ ที่ตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานอย่างครอบคลุมครบทุกความต้องการของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบัน

กิตติมา กรดสุข

     กิตติมา กรดสุข จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่าหัวใจสำคัญของเบลล์รอยก็คือตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานของมินิมอลลิสแห่งยุค เบทเตอร์ เวย์ ทู แคร์รี่ ซึ่งถูกออกแบบในทุกรายละเอียด ความสะดวกแห่งการพกพา เบาบางลงอย่างลงตัว โดยผลิตภัณฑ์ของเบลล์รอยแบ่งออกเป็น 4 หมวดใหญ่ๆ เริ่มต้นที่หมวด Wallet กระเป๋าสตางค์ไซส์เล็กแต่ความจุเกินตัว พกพาสะดวก เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือจะเป็นหมวด “เวิร์ก” “แอ็กเซสซอรี่ส์” อุปกรณ์เสริมชิ้นโปรดสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศ ตัวช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับวันทำงาน และตามด้วย “แบ็กส์” หมวดกระเป๋าเป้หลากหลายรูปทรงที่มาช่วยตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน ปิดท้ายด้วยหมวด “เทค เคส” อุปกรณ์อัจฉริยะอย่างเคสโทรศัพท์มือถือที่เพียบพร้อมด้วยดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งาน ซึ่งการออกแบบของเบลล์รอยยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ในสไตล์เรียบคูล มาพร้อมกับการออกแบบที่ผสานเข้ากับลูกเล่นและฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง

วรรณชื่น ทองเย็น

สนุกสนานไปกับบรรยากาศและสีสันในช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น

ไม่ว่าจะมาในคอลเลกชั่นไหน ก็นำร่องความเป็นผู้นำด้านแฟชั่น ให้เหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้าอัพเดตเทรนด์ใหม่ก่อนใครอยู่เสมอ สำหรับ “แมตเทอร์ เมกเกอร์ส” แบรนด์แฟชั่นสตรีทแนวใหม่ ล่าสุด นำเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้าเก็บกระเป๋าพร้อมออกเดินทางไปยังดินแดนแห่งวัฒนธรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็ต้องหลงใหลสนุกสนานไปกับบรรยากาศและสีสันในช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่น พร้อมเก็บรายละเอียดต่างๆ จากการท่องเที่ยวในครั้งนี้มาถ่ายทอดผ่านมุมมองที่แฝงด้วยความขบถและเปรี้ยวซ่าในแบบฉบับแมตเทอร์ เมกเกอร์ส ที่จะทำให้ทุกคนต้องร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า สุโก้ย!

สำหรับคอลเลกชั่น “โตเกียว อีพิค” บอกเล่าเรื่องราวความเป็นโตเกียว โดยเริ่มต้นการเดินทางจากภูเขาไฟฟูจิซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นถูกออกแบบเป็นลวดลายพิมพ์เหมือนภาพวาดสีน้ำปรากฏเป็นชุดกระโปรงและเสื้อแต่งระบายเฉียงที่ให้บรรยากาศเหมือนเดินชมวิวรับแสงพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า โครงร่างเสื้อผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดยูกาตะสร้างสรรค์เป็นเสื้อแขนกว้างตกแต่งเพิ่มความน่าสนใจด้วยสายรัดโอบิที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์กับกางเกงลายจุดหรือกระโปรงลายทางก็เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร รายละเอียดการปักถูกออกแบบเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ทั้งปลาคาร์พและเสือ ให้ความรู้สึกเท่เหมือนหลุดออกมาจากแก๊งยากูซ่า

นอกจากนี้คอลเลกชั่นได้นำเสนอไอเท็มที่ไม่ควรพลาดอย่างเซตเสื้อมัดย้อมสไตล์ ชิโบริ ที่มาเป็นคู่ทั้งเสื้อและกางเกงพร้อมพิมพ์ลายการ์ตูนเรื่องโปรดอย่าง ก็อตซิลลา ที่ทุกคนเห็นแล้วต้องกรี๊ด หรือจะเป็นเสื้อยืด MM Tee ที่สกรีนคำว่า matter เป็นภาษาญี่ปุ่นใส่คู่กับแจ็กเก็ตยีน ก็สะดุดตาเหมือนเดินอยู่กลางเมืองโตเกียว

สำหรับหนุ่มสาวที่หลงรักเสน่ห์ความเป็นญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ไม่ควรพลาดกับคอลเลกชั่น “โตเกียว อีพิค” ที่จะมาสาดความสดใสด้วยลูกเล่นและสีสันของเสื้อผ้า เพิ่มความร้อนแรงสู้แสงพระอาทิตย์ รับรองใครได้ครอบครองคอลเลกชั่นนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน

เทคนิคการมิกซ์แอนด์แมตช์เครื่องประดับกับ 4 ลุคตอบโจทย์ผู้หญิงยุคใหม่

หลังจากสร้างชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในวงการเครื่องประดับอัญมณีระดับสากล ทั้งในประเทศญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และฮ่องกง มาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี ล่าสุด “โอ๊ต” ธัญญลักษณ์ ภูริปรัชญา ผู้บริหารฝ่ายการตลาดแบรนด์ ‘ธามาส’ (TAMAS) เอาใจเหล่าจิวเวลรี่เลิฟเวอร์ชาวไทยด้วยการจัดงานเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการ พร้อมอวดโฉมเครื่องประดับอัญมณีที่รังสรรค์ขึ้นจากพลอยสีน้ำงามทั้ง 4 คอลเลกชั่น ในดีไซน์ทันสมัย สามารถตอบโจทย์คาแร็กเตอร์อันหลากหลายของผู้หญิงยุคใหม่ได้อย่างลงตัว พร้อมเชิญกูรูแฟชั่น “ดวง” วรรณพร โปษยานนท์ มาร่วมแนะนำเทคนิคการมิกซ์แอนด์แมตช์เครื่องประดับกับ 4 ลุคเด่น โดยมีเหล่าเซเลบริตี้แฟนคลับแบรนด์ อาทิ “เฟ” อรชุมา ดุรงค์เดช, “คุณหญิงแม้น” ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล, “ปรางค์” อภินรา ศรีกาญจนา และ “นิดหน่อย” ขนิษฐา ดรุณเนตร มาร่วมเผยถึงเคล็ดลับการเลือกสวมใส่เครื่องประดับและจิวเวลรี่ชิ้นโปรด ที่โชว์รูม ‘ธามาส’ จิวเวลรี่เทรด เซ็นเตอร์ เมื่อบ่ายวันก่อน

อรชุมา ดุรงค์เดช-ขนิษฐา ดรุณเนตร-วรรณพร โปษยานนท์

ธัญญลักษณ์ ภูริปรัชญา-ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล 

ด้าน “ดวง” วรรณพร โปษยานนท์ ได้แนะนำเทคนิคการมิกซ์แอนด์แมทช์เครื่องประดับพลอยสีกับ 4 ลุคเด่น และการเก็บรักษาว่า การสวมใส่เครื่องประดับคือการเติมเต็มลุคให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งเครื่องประดับแต่ละชิ้นจะต้องสามารถนำเสนอถึงตัวตนและเผยเสน่ห์ให้กับผู้สวมใส่ได้ โดยการเลือกใส่เครื่องประดับพลอยสีตอนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังนิยมกันทั่วโลก เพราะคนเริ่มสนุกกับการแต่งตัวกันมากขึ้น นิยมหันมาแมทช์เครื่องประดับที่เป็นสีสันกับเสื้อผ้ากันมากขึ้น ซึ่งพลอยสีก็สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี และเคล็ดลับของการเลือกใส่เครื่องประดับพลอยสีให้ดูโดดเด่นนั้นควรเลือกจากดีไซน์เป็นอันดับแรก เพราะดีไซน์ที่มีความหลากหลาย โมเดิร์น จะช่วยขับลุคให้เราดูทันสมัยขึ้น

อภินรา ศรีกาญจนา

ออกงานในแบบฉบับของผู้หญิงยุคใหม่

จากนั้นก็เลือกจากโทนสีของพลอยแต่ละประเภทที่จะนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าในแต่ละลุค อย่างลุคแรก “ออกงานในแบบฉบับของผู้หญิงยุคใหม่” ที่ชุดจะออกแนวโมเดิร์นและเนื้อผ้าเป็นซีทรูลงมาถึงช่วงอก จึงควรแมทช์ด้วยสร้อยคอทับทิมสีแดงธรรมชาติเส้นใหญ่ที่จะช่วยเพิ่มความลงตัวกับชุดให้ดูไม่โล่งจนเกินไป รวมถึงกำไล, ต่างหู และแหวนที่เข้าเซตกันจะช่วยขับให้ลุคออกงานสำคัญดูหรูหราและโดดเด่น

ไปงานปาร์ตี้สังสรรค์

ส่วน “ลุคไปงานปาร์ตี้สังสรรค์” ชุดก็ควรจะเป็นเดรสสั้นสีดำประดับฟรินจ์พลิ้วๆ เพิ่มความสนุกด้วยเครื่องประดับพลอยที่ดีไซน์มีความเรียบโก้และอัญมณีมีการเล่นแสงดีเหมาะกับการใส่ไปปาร์ตี้ยามค่ำคืน อย่างสร้อยคอจี้วงรีประดับพลอยสีน้ำเงินแมทช์กับต่างหูและกำไลข้อมือสีเดียวกัน ส่วนแหวนอาจจะเลือกเป็นพลอยสีอื่นก็ได้จะได้ช่วยเสริมให้ลุคดูสนุกขึ้น

ไปทำงานหรือพบลูกค้า

ต่อมาที่ “ลุคทำงาน” สำหรับวันที่ต้องไปพบลูกค้า อาจจะใส่เดรสขาวปาดไหล่ที่เน้นดีไซน์ให้มีความโมเดิร์นด้วยระบายรัฟเฟิลที่ประดับช่วงไหล่ แล้วเสริมด้วยต่างหูทับทิมสีแดงเท่ๆ บนดีไซน์รูปทรงเรขาคณิตแมทช์กับกำไลข้อมือทับทิมเม็ดเหลี่ยมเรียบโก้ ก็จะช่วยให้ลุคทำงานดูสวยสง่าได้อย่างน่าประทับใจ

ในชีวิตประจำวัน

ปิดท้ายที่ “ลุคในชีวิตประจำวัน” เน้นการมิกซ์แอนด์แมทช์อย่างผู้หญิงยุคใหม่ด้วยชุดเสื้อกระโปรงลูกไม้สีขาวใส่กับสนีกเกอร์สีดำ พร้อมเสริมสไตล์ด้วยการใส่สร้อยคอจี้ดอกไม้สองเส้นเพื่อเพิ่มเลเยอร์ให้ดูสนุกขึ้น แมทช์กับจิวเวลรี่ชิ้นเล็กที่เข้าเซตกันอย่างต่างหูและแหวนหลายๆ วง ส่วนกำไลข้อมืออาจจะเลือกเป็นชิ้นที่ดีไซน์มีความโปร่งไม่เน้นจี้ที่เป็นรูปดอกไม้มาก เพื่อช่วยเบรกไม่ให้ลุคดูหวานจนเกินไป

ส่วนการดูแลรักษาเครื่องประดับที่ทำจากพลอยสีนั้น ถ้าไพลินกับทับทิมจะเป็นพลอยที่เนื้อยังมีความแข็งอยู่ เกิดรอยขูดขีดได้ยาก และไม่มีปฏิกิริยาต่อสารเคมีใดๆ จึงสามารถใช้น้ำเปล่าหรือน้ำยาล้างจิวเวลรี่เช็ดทำความสะอาดได้ตามปกติหลังการสวมใส่ แตกต่างจากมรกตที่เป็นพลอยเนื้ออ่อนสามารถเปราะร้าวได้ง่าย ฉะนั้นเวลาใส่จึงควรระมัดระวัง ส่วนการเก็บรักษาควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาน้ำมันเคลือบไว้บางๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเปราะภายในเนื้อของอัญมณี

“เอฟวรี่เดย์ ชายนิ่ง: โคเอ็กซิสทิ่ง” ครอบคลุมฟังก์ชันการใช้งานในชีวิตประจำวัน

          ** ฟังก์ชันครบ : จัสมิน แนะนำคอลเลกชั่น “เอฟวรี่เดย์ ชายนิ่ง: โคเอ็กซิสทิ่ง” ที่ครอบคลุมฟังก์ชันการใช้งานในชีวิตประจำวันทั้งหมดเอาไว้ภายใต้แนวคิด ‘การเข้าใจถึงการดำเนินชีวิตในแต่ละช่วงเวลาอย่างมีคุณค่าและเหมาะสมกับกาลเทศะ’ โดยมีคอนเซ็ปต์และดีไซน์อันมีเสน่ห์และเอกลักษณ์แตกต่างกันรวมเอาไว้

          ** เอาใจคอความเร็ว : ทิสโซต์ ชวนคอความเร็วร่วมสัมผัสนาฬิกาทรงสปอร์ต “ทิสโซต์ ทีเรซ โครโน ควอทซ์” นาฬิกาที่นำชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์มาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์โครงสร้างตัวเรือนโดยเปิดตัวมาในระบบควอทซ์ที่มีขนาดหน้าใหญ่เคลือบด้วยคริสตัลแซฟไฟร์ป้องกันการขีดข่วน และมีให้เลือกกันถึง 5 เฉดสี

          ** สีสันสนุกๆ : แคท คิดสตัน ต้แนะนำคอลเลกชั่น “ไวลด์ เบอร์รี่” ลายพิมพ์สตรอเบอร์รี่ที่เพิ่มสีสันให้ช่วงฤดูร้อน และลายพิมพ์ “เชอร์รี่ แฮปปี้” ลายพิมพ์ลูกเชอร์รี่ที่ทั้งน่ารักและคลาสสิก นับเป็น 2 ลายพิมพ์ที่ไม่เคยตกเทรนด์กับลวดลายสนุกๆ สำหรับฤดูร้อนปี 2019 นี้

          ** ดีไซน์โดดเด่น : เติมความสนุกให้ซัมเมอร์นี้ ด้วยชุดออกกำลังกายที่โดดเด่นได้ทั้งการทำกิจกรรมกลางแจ้งและทางน้ำ จาก “เวคกิ้งบี” ในคอลเลกชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2019 “เวคกิ้งบี บาย แต้ว สวิม แอนด์ สเวท” นอกจากจะเลือกใช้เนื้อผ้าฟังก์ชันพิเศษสามารถป้องกันรังสียูวี ป้องกันแบคทีเรีย ทนทานต่อการใช้งานในน้ำทะเล และมีความยืดหยุ่น แห้งไว ระบายอากาศ ยังโดดเด่นเรื่องดีไซน์เพื่อรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย

นำองค์ประกอบที่พบภายในร้านอาหารบิสโทรสร้างสรรค์เป็นเครื่องแต่งกายที่ชวนน่าหลงใหล

อากาศร้อนแบบนี้ ยิ่งสาวๆ ได้แต่งตัวสีสันสดใสท้าแสงแดด รับรองว่าศักราชนี้ไม่มีเอาท์ตกเทรนด์แน่นอน กับคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ “ดิษยา” (Disaya) ที่เริ่มต้นการเดินทางเพื่อค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ จึงทำให้ความเรียบง่าย เฟื่องฟูในยุคอาร์ตนูโว ศิลปะเหนือจินตนาการ ผสานความเป็นธรรมชาติ ถูกนำมาออกแบบสร้างสรรค์ผลงาน เป็นคอลเลกชั่นใหม่ “ดิษยา พรี ฟอลล์ 2019” ผสมผสานเสน่ห์ของวัฒนธรรมจากประเทศฝรั่งเศสถ่ายทอดผ่านผลงานการออกแบบของ “ออม” ดิษยา สรไกรกิติกูล ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ บริษัท เอ-ลิส คอร์ปอเรท จำกัด อย่างสมบูรณ์แบบ โดยการนำองค์ประกอบการออกแบบและสุนทรียภาพที่พบภายในร้านอาหารบิสโทรทั้งสถาปัตยกรรมและรายละเอียดต่างๆ สร้างสรรค์เป็นเครื่องแต่งกายที่ชวนน่าหลงใหลไว้ในคอลเลกชั่นนี้

เสื้อผ้าถูกออกแบบขึ้นอย่างเรียบง่ายและสวมใส่สบายกับเนื้อผ้าที่เหมาะสำหรับฤดูกาล รูปทรงชุดกระโปรงเฉียงข้าง ถูกออกแบบเพื่อเสริมให้ส่วนโค้งของเอวดูสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมลวดลายศิลปะจากยุคอาร์ตนูโวที่ได้มาจากรูปแบบธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ ใบไม้ และผลไม้ต่างๆ ผสมผสานรายละเอียดอันเป็นเอกลักษณ์ของดิษยา อย่าง การปะติดลูกไม้บริเวณชายเสื้อ และกระโปรง รายละเอียดที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามปรากฏเป็นลวดลายวัตถุดิบต่างๆ เช่นภาพวาดผลมะนาวที่ได้แรงบันดาลใจจากโปสเตอร์สิ่งพิมพ์สมัยก่อน นำมาวางลายพิมพ์ทับลงบนผ้าทอแจ็คการ์ดและตัดเย็บเป็นชุดกระโปรงแขนพอง และกระโปรงป้าย นอกจากนี้ลายเส้นที่อ่อนช้อยของดอกไม้ประจำชาติฝรั่งเศส อย่าง ดอกไอริส ถูกถ่ายทอดบนชุดกระโปรงเข้ารูป พร้อมประดับด้วยไข่มุกให้ความรู้สึกหรูหรา เชอร์รี่คราฟูตี เป็นขนมหวานแบบดั้งเดิมของฝรั่งเศสที่ทำจากเชอร์รี่ถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นลวดลายทอพิเศษปรากฏเป็นเสื้อเบลเซอร์ กระโปรงระบาย ชุดกระโปรง และชุดจั๊มสูทขายาวตกแต่งด้วยลูกเชอร์รี่แบบสามมิติ

          นอกจากนี้ยังมีลวดลายของอาหารทะเลที่ขาดไม่ได้ อย่าง กุ้งล็อบสเตอร์ ปักด้วยเลื่อมสีทองแวววาวบนชุดกระโปรง ผ้าตาข่ายที่สามารถสวมใส่ได้ตั้งแต่เช้าจรดกลางคืน

          ด้วยองค์ประกอบที่หลากหลายถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีตและลงตัวในคอลเลกชั่นนี้ ดิษยาได้นำเสนอความหอมหวานผ่านเฉดสีสดใสในโทนพาสเทล เช่น สีฟ้ามิ้นท์ สีเหลืองเลมอน และสีครีมคัสตาร์ด ผสมผสานกับสีที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างสีชมพูกุหลาบและสีเขียวเข้มเพื่อแต่งแต้มให้เครื่องแต่งกายในคอลเลกชั่นนี้สมบูรณ์แบบที่สุด

นาฬิกาสไตล์สปอร์ตสุดหรูเหมาะทั้งวันทำงานและวันพักผ่อนสบายๆ

          ** ผสานเป็นหนึ่ง : คาร์เทียร์ ส่งเครื่องประดับคอลเลกชั่นล่าสุด “แคลช เดอ คาร์เทียร์” ที่คลุกเคล้าทั้งหมุดสตั๊ด ลูกปัด และหมุดจัตุรัสทรงโดม สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน เปรียบได้ดั่งความสมดุลที่แสนงดงาม ผสมผสานรหัสความงามชั้นสูง และท้าทายขนบประเพณีในขณะเดียวกัน จนก่อเกิดเป็นการปะทะกันของเจตคติ

          ** สุดหรู : มอริส ลาครัวซ์ ส่งตรงเรือนเวลาข้อมือสุดหรูคอลเลกชั่นล่าสุด “ไอคอน ออโตเมติก โครโนกราฟ” นาฬิกาสไตล์สปอร์ตที่สามารถจับเวลาได้ ตัวเรือนทำจากสเตนเลสสตีล ภายในมีหน้าปัดเล็กๆ สายหนังวัวปั๊มลายจระเข้สีน้ำเงินและเดินเส้นตะเข็บ สีน้ำเงินสุดหรู โดยระบบฟังก์ชั่นต่างๆ ออกแบบมาเพื่อการใช้งานได้อย่างง่ายดาย เหมาะทั้งวันทำงานและวันพักผ่อนสบายๆ

          ** คลาสสิก : โคลเอ ซี กระเป๋ารุ่นล่าสุดของแบรนด์ โคลเอ เด่นด้วยการประดับด้วยฮาร์ดแวร์อักษร “C” ด้านบนของแผ่นหนังที่ตัดกันสองชั้นและตัวล็อกของกระเป๋า เข้ากับรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทำจากหนังแกะมันเงาและหนังลูกวัวแบบนิ่มดีไซน์เก๋สามารถใช้งานได้หลายรูปแบบ ทั้ง แบบถือ สะพาย และสะพายข้างตัว

          ** สวมใส่สบาย : บาลลี่ย์ เผยโฉมรองเท้าสนีกเกอร์รุ่น “บาลลี่ย์ แชมเปี้ยน” ไฮไลท์ชิ้นเด็ดรุ่นไอคอนิกของบาลลี่ย์เป็นที่โปรดปรานของ Jakob Hlasek และ Marc Rosset นักเทนนิสชาวสวิสชื่อดังที่ได้สวมใส่ไปคว้าแชมป์แกรนด์สแลมในการแข่งขันเฟรนช์ โอเพ่น ปี 1992 สำหรับทั้งรุ่นสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีดูร่วมสมัย สวมใส่สบาย

คอลเลกชั่น  “จากแดนไกล” หยิบยกเอาความงามและความละเมียดละไมของผืนผ้าไทยทอมือเป็นหัวใจสำคัญ

กระแสรณรงค์ใช้ผ้าไทยยังแรงต่อเนื่อง ล่าสุด กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จับมือ ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และแบรนด์ “WISHARAWISH” (วิชระวิชญ์) จัดโครงการพัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมผ้าไทยสู่สากล ประจำปี 2562 แถลงข่าวพร้อมเปิดตัวแฟชั่นโชว์เรียกน้ำย่อยคอลเลกชั่น “จากแดนไกล” ผลงานเครื่องแต่งกายผ้าไทยต้นแบบ ที่ชั้น 7 สยามสแควร์วัน โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ กรุงเทพฯ เมื่อวันก่อน

ชระวิชญ์ อัครสันติสุข-ทัศชล เทพกำปนาท

          ภายในงานได้รับเกียรติจาก ทัศชล เทพกำปนาท ที่ปรึกษากรมส่งเสริมวัฒนธรรม, วิชระวิชญ์ อัครสันติสุข ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ “WISHARAWISH”, เอกสิทธิ์ โกมลกิตติพงศ์ เจ้าของแบรนด์ผ้าขาวม้า “IMPANI” เป็นต้น ร่วมพูดคุยถึงที่มาและแรงบันดาลใจในการดำเนินโครงการ โดย วิชระวิชญ์ เปิดเผยว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแหล่งเรียนรู้และชุมชนทางวัฒนธรรมและเพิ่มศักยภาพ การท่องเที่ยวผ่านมิติผ้าไทย รวมไปถึงส่งเสริมศิลปินพื้นบ้านและเครือข่ายที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องของการทอผ้าไทย ได้เผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม บนรากฐานของวัฒนธรรมในชุมชน ให้อยู่คู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน อีกทั้งเป็นการนำทุนทางวัฒนธรรมเรื่องผ้าไทยมาสร้างคุณค่าทางจิตใจและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นที่จะสร้างสรรค์ผลักดันนักออกแบบและผลงานเครื่องแต่งกายที่ตัดเย็บด้วยผ้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในวงการแฟชั่นทั้งไทยและต่างประเทศ

เอกสิทธิ์ โกมลกิตติพงศ์

“เรามองว่าผ้าเป็นของเรียบง่าย แต่ในความเรียบง่ายมีความซับซ้อนแล้วก็เป็นอะไรที่ง่ายๆ เราอยากเอาของที่เป็นท้องถิ่นเข้ามาอยู่ในเมือง ไปสู่ความเป็นสากลจริงๆ เน้นไปที่เรื่องการทอและวัตถุดิบว่าทำยังไงจะให้เกิดมิติใหม่ๆ กับวงการผ้าไทย” ดีไซเนอร์มือฉมัง กล่าว

ผ้าบาติก เดอ นารา จังหวัดปัตตานี

ผ้าขาวม้า อิมปานิ จังหวัดราชบุรี

          สำหรับไฮไลท์ของงานอยู่ที่คอลเลกชั่นผ้าไทย “จากแดนไกล” ที่ผ่านการออกแบบเน้นความเรียบง่ายแต่พิถีพิถันในรายละเอียดของเทคนิค หยิบยกเอาความงามและความละเมียดละไมของผืนผ้าไทยทอมือทั้งหลายเป็นหัวใจสำคัญซึ่งวัสดุหลักก็คือบรรดาผืนผ้าที่วิชระวิชญ์ได้เลือกใช้ถึง 7 ชนิด จากผู้ประกอบการท้องถิ่น ได้แก่ ผ้าขาวม้า อิมปานิ จังหวัดราชบุรี, ผ้าฝ้ายทอมือ คอตตอน ฟาร์ม จังหวัดเชียงใหม่, ผ้าบาติก เดอ นารา จังหวัดปัตตานี, ผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ จุฑาทิพย์ จังหวัดขอนแก่น, ไหมแต้มหมี่ กลุ่มสตรีทอผ้ามัดหมี่บ้านหัวฝาย จังหวัดขอนแก่น, ผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ กลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุขโข จังหวัดขอนแก่น และผ้าไหมยีน เรือนไหมใบหม่อน จังหวัดสุรินทร์ นำมาออกแบบและตัดเย็บด้วยการใช้สี คู่สี การปรับเปลี่ยนลวดลาย และการออกแบบที่ร่วมสมัย จนได้แฟชั่นผ้าไทยในมุมที่ต่างออกไป ที่สำคัญใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

ผ้าไหมยีน เรือนไหมใบหม่อน จังหวัดสุรินทร์

          ร่วมชื่นชมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมผ้าไทยสู่สากล โดยวันที่ 21 พฤษภาคม เวลา 15.00 น. จะมีแฟชั่นโชว์ผ้าไทยต้นแบบจาก 7 ชุมชน ที่ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ส่วนวันที่ 23–24 พฤษภาคม เป็นการสัมมนาวิชาการฯ ที่โรงแรมโฟร์วิงส์ สุขุมวิท 26 และวันที่ 23–26 พฤษภาคม มีนิทรรศการเผยแพร่องค์ความรู้และการแสดงผลงานเครื่องแต่งกายจากผ้าไทยต้นแบบ ที่ลานบีคอน 3 และ 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

เสื้อผ้าสำหรับบุรุษ-ตอบโจทย์ผู้หญิงในยุคปัจจุบัน-เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

ด้วยเอกลักษณ์ความเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นระดับพรีเมียม หลากสไตล์ ในราคาเข้าถึงได้ HLA (เอชแอลเอ) บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นชั้นนำจาก “แดนมังกร” ได้ฤกษ์ดีแลนดิ้งสู่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมจัดแฟชั่นโชว์เฉลิมฉลองการเปิดตัว 3 แบรนด์ในเครือ คือ เอชแอลเอ, เอชแอลเอ ยีนส์ และ โอวีวี ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติร่วมอัพเดทแฟชั่นโชว์ล่าสุด สะท้อนสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ ผ่านคาแรกเตอร์ของซูเปอร์สตาร์ชั้นนำของไทยท่ามกลางเหล่าศิลปินดาราและแขกผู้มีชื่อเสียง

โจว ลี่เฉิน ประธานไห่หลัน กรุ๊ป และเอชแอลเอ กล่าวว่า เอชแอลเอ ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีนก่อนจะขยายธุรกิจเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศไทย ซึ่งเป็นเมืองหลวงด้านแฟชั่นของภูมิภาคนี้ เป็นประเทศที่ 3 ต่อจากมาเลเซียและสิงคโปร์ ด้วยการสนับสนุนที่ดีจากพันธมิตรที่ยอดเยี่ยม เซ็นทรัลเวิลด์ และคนไทย เอชแอลเอ ไม่ได้นำเสนอเพียงเสื้อผ้าคุณภาพสูงในราคาจับต้องได้เท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอไลฟ์สไตล์แฟชั่นที่ทันสมัยให้แก่คนไทยทุกคน

เริ่มต้นที่ “เอชแอลเอ” เสื้อผ้าสำหรับบุรุษ มากับคอนเซ็ปต์เท่ๆ คูลๆ “เสื้อผ้าสำหรับบุรุษที่รังสรรค์ความแตกต่าง” ดีไซน์ทันสมัยในสไตล์โก้เท่ คุณภาพดี และมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ยอดเยี่ยม ตามเทรนด์โลก ตอบสนองความต้องการหลากหลายรูปแบบในชีวิตประจำวันด้วยราคาที่เหมาะสม จึงเป็นแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายที่เป็นรู้จักอย่างมากในประเทศจีน

ส่วน “โอวีวี” เป็นแบรนด์แห่งความสง่างาม สะท้อนสไตล์ที่โดดเด่นและความงามเหนือกาลเวลา เพื่อนำเสนอเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์ที่ตอบโจทย์ผู้หญิงในยุคปัจจุบัน เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในโลกแฟชั่นให้แก่สุภาพสตรีวัยทำงาน สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่ว่าเสน่ห์ของการแต่งตัวสวย คือ การช่วยทำให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นใจ และเมื่อมั่นใจ ผู้หญิงก็ยิ่งดูสวยขึ้น คือ การทำให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นใจ และเมื่อเกิดความมั่นใจ ผู้หญิงก็ยิ่งดูสวยขึ้น”

ขณะที่ “เอชแอลเอ ยีนส์” นั้นมากับคอนเซ็ปต์ “ไม่มีคำว่าไม่ได้” เป็นแบรนด์แฟชั่นที่ถูกใจวัยรุ่น ตอบโจทย์ความต้องการคนเมือง ช่วงอายุ 18-35 ปี และเข้ากับไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจด้านแฟชั่นให้ชีวิตมีความสนุกสนานยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะซีรีส์รองเท้าและเสื้อผ้าล้ำสมัย เหมาะสำหรับลุคสปอร์ต สตรีท และปาร์ตี้ เอาใจคนรุ่นใหม่ทั่วโลกด้วยดีไซน์ที่เป็นสากล คุณภาพที่ดี และความคุ้มค่า นอกจากนี้ยังนำศิลปะและความร่วมมือกับศิลปิน มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์แฟชั่น โดยทางแบรนด์ได้ร่วมงานกับ LIGHBLACK Studio เพื่อออกแบบคอลเลกชั่น ออทั่ม/วินเทอร์ 2018

ร่วมสัมผัสประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ตอบโจทย์ทุกเพศ ทุกวัย พร้อมอัพเดทเทรนด์แฟชั่นจากแบรนด์ชั้นนำในเครือ เอชแอลเอ ใได้ที่ เอชแอลเอ ยีนส์ ชั้น 2 เซ็นทรัลเวิลด์ และชั้น 2 เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เอชแอลเอ สโตร์ ที่ชั้น 2 เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 และชั้น 1 ซีคอนบางแค รวมถึง โอวีวี สาขาแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์