100 ปีชาตกาล ดร.เทียม โชควัฒนา สร้างคุณธรรมให้สังคม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/228520

วันพุธ ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

มูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา โดย ดร.ศิรินา โชควัฒนา ปวโรฬารวิทยา ประธานจัดงาน 100 ปีชาตกาล ดร.เทียม โชควัฒนาเพื่อรำลึกถึงปรัชญาคุณธรรม จริยธรรม การทำงานและการดำเนินชีวิตของ ดร.เทียม โชควัฒนา โดยมี บุญปกรณ์ โชควัฒนา ประธานมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา มอบโล่เกียรติยศและรางวัลแก่บุคคล 4 คณะ พร้อมกันนี้ ท่านผู้หญิง ดร.ทัศนีย์ บุณยคุปต์ กล่าวให้โอวาทพร้อมแสดงความชื่นชมแก่ผู้ที่ได้รับโล่และรางวัล รวมถึงรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดร.ชาญเวช บุญประเดิม ให้โอวาทแก่นักเรียน

พุทธศักราช 2559 เป็นปีที่ ดร.เทียม โชควัฒนามีอายุชาตกาลครบ 100 ปี ทางมูลนิธิ ดร.เทียมโชควัฒนา โดย ดร.ศิรินา โชควัฒนา ปวโรฬารวิทยา จึงจัดงาน 100 ปีชาตกาล ดร.เทียม โชควัฒนา เพื่อรำลึกถึงปรัชญาคุณธรรม จริยธรรม การทำงานและการดำเนินชีวิตของ ดร.เทียม โชควัฒนา เพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตสำหรับนักธุรกิจและเยาวชนรุ่นใหม่ ภายในงานได้รับเกียรติจาก บุญปกรณ์ โชควัฒนา ประธานมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนามอบโล่เกียรติยศและรางวัลแก่บุคคล 4 คณะ พร้อมกันนี้ ท่านผู้หญิง ดร.ทัศนีย์ บุณยคุปต์กล่าวให้โอวาทพร้อมกล่าวแสดงความชื่นชมแก่ผู้ที่ได้รับโล่และรางวัล รวมถึง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดร.ชาญเวช บุญประเดิม ให้โอวาทนักเรียนและขอบคุณมูลนิธิฯ ภายในงานได้รับเกียรติจาก ยิ่งลักษณ์วัชรพล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วัชรพลจำกัด รองประธานและเหรัญญิกมูลนิธิไทยรัฐและ มานิจ สุขสมจิตร บรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและกรรมการมูลนิธิไทยรัฐ มารับมอบหนังสือ “100 ปี ดร.เทียม โชควัฒนา 100 ปรัชญาคุณธรรม” จำนวน 101 ชุด เพื่อมอบให้โรงเรียนไทยรัฐทั่วประเทศไทย ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2559

โดยงานนี้ มูลนิธิฯ มีนโยบายสร้างคุณธรรม จึงได้ร่วมกับสมาคม องค์กร หรือหน่วยงาน คัดสรรเยาวชน บุคลากร สถาบันการศึกษา รวมถึงชุมชนที่มีคุณธรรมในด้านต่างๆ จัดพิธีประกาศเกียรติคุณ ดังนี้ 100 เยาวชนคุณธรรม ดร.เทียม โชควัฒนา ระดับจังหวัด จังหวัดละ1 คน และนักศึกษาจากคณะกรรมการดำเนินงานองค์การวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย ระดับชาติ จำนวน22 คน และนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา จำนวน 1 คน รวมทั้งหมด 100 คน, ประกาศเกียรติคุณครูคุณธรรม สตรีไทย โดยมี เบญจมาศ รุจิรวงศ์, มณีรัตน์วัฒนสมบัติ, จรรยา เฮงตระกูล จากสมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทยฯ เป็นกรรมการคัดสรร ได้แก่ ท่านผู้หญิง ดร.ทัศนีย์ บุณยคุปต์ ประธานมูลนิธิพระไตรปิฎกสากล อดีตอาจารย์ใหญ่ โรงเรียนจิตรลดา อาจารย์คนแรกที่เข้าถวายการสอน แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, สายใจ ผลานุสนธิ หัวหน้าสายปฐมวัย และครูประจำชั้นปฐมวัยปีที่ 1 โรงเรียนสมาคมสตรีไทย, พรรณี เพ็งเนตร อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, ชุติมา มีมานัส ประธานผู้ก่อตั้งโรงเรียนอนุบาลวัฒนานิเวศน์,วัชราพร จรูญวิตต์ ครูประจำชั้นโรงเรียนอนุบาลสุดารักษ์ บางเขน, ภญ.ดร.สุภาภรณ์ปิติพร รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร, สายสมรลานเหลือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนรุจิเสรีวิทยา,สุวรรณา กลั่นประสม ผู้ช่วยฝ่ายวิชาการโรงเรียนอนุบาลเบญจมาศ, จุรีรัตน์ ภู่งาม หัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียนโรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์, วราศิณี บุญเพ็ง ครูวิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 75 เฉลิมพระเกียรติ, โรงเรียนคุณธรรม ดร.เทียม โชควัฒนา ระดับอนุบาล โรงเรียนซางตาครู้สศึกษา,โรงเรียนวัดเปรมประชากร, โรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ (พิบูลบำรุง) ระดับประถมศึกษา โรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา,โรงเรียนเซนต์เทเรซา, โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์, โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนมัธยมปุรณาวาส, โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า, โรงเรียนปทุมวิไล,รางวัลชุมชนคุณธรรม ดร.เทียม โชควัฒนามีประธานคัดสรร คือ ดร.วณี ปิ่นประทีปผู้อำนวยการสำนักงานประสานการพัฒนาสังคมสุขภาวะ (สปพส.) ได้แก่ ชุมชนราชทรัพย์เขตบางซื่อ กทม., ชุมชนหมู่ 4 คลองสามประเวศเขตลาดกระบัง กทม., ชุมชนหมู่บ้านโคกพุทราอ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี, ชุมชนบ้านดอยดินอ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี, ชุมชนหนองหมากฝ้ายอ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว, ชุมชนหมู่บ้านหัวนา อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ, ชุมชนบ้านม้าร้อง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์,ชุมชนเทศบาลนครภูเก็ต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต,ชุมชนควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช,ชุมชนเสนาราษฎร์ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในงาน ‘สุนทรีย์รมย์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ’จัดโดย สหสมาคมศิษย์เซนต์ปอลเดอชาร์ตร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/228402

วันอังคาร ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานงานกาลาดินเนอร์ “สุนทรีย์รมย์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ” โดย รศ.ดร.วีณา เชิดบุญญชาติ นายกสหสมาคมศิษย์เซนต์ปอลเดอชาร์ตร จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา โอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น วิลเล่อร์ มาร่วมงานพร้อมขับร้องเพลงในงานนี้ด้วย ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2559

ภายในงานมีทั้งนิทรรศการภาพถ่าย ตั้งแต่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นพระคู่หมั้นและได้เสด็จไปเยี่ยมโรงเรียนและพระสหายภาพถ่ายงานที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และคุณพลอยไพลิน เจนเซ่น วิลเล่อร์ ร่วมแสดงในงาน “ราตรีแห่งความฝัน” ครั้งที่ 1 ถึงครั้งที่ 4 เมื่อปี พ.ศ.2535-พ.ศ.2539 และภาพส่วนหนึ่งที่พระราชวงศ์ได้เสด็จโรงเรียนในเครือเซนต์ปอลฯ

นอกจากนี้ยังมีการแสดงในงาน อาทิ คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น วิลเล่อร์ ขับร้องเพลง “If we hold on together” และ “You song”, การขับร้องเพลงโดยศิลปินกิตติมศักดิ์ อ.ดุษฎี พนมยงค์ บุญทัศนกุล ศิลปินแห่งชาติ กับบทเพลง “Hymne a I’amour”, คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ขับร้องเพลง “คิดถึง (จันทร์กระจ่างฟ้า)”, แก้วเก้า เผอิญโชค ขับร้องเพลง “บัวงาม” การแสดง Line Dancing ผสมผสานการเต้น Jazz Dance ประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ “ใกล้รุ่ง” โดยนักเรียนโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์, การแสดงรำถวายพระพร เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยศิษย์ปัจจุบันโรงเรียนซางต้าครู้ดคอนแวนท์ และการแสดงแบบเสื้อจากร้านฟินาเล่ เวดดิ้ง สตูดิโอ เครื่องประดับจากบิวตี้เจมส์ และการแสดงอื่นๆ อีกมากมาย

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นศิษย์เกียรติยศของเซนต์ปอลเดอชาร์ตรและทรงเสด็จฯ งานที่โรงเรียนต่างๆ ตลอดมา ได้ทรงมีพระราชปรารภกับ แมร์มีเรียม นิภา กิจเจริญว่า “ศิษย์ในเครือเซนต์ปอลฯ น่าจะรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อจะได้มีพลังของความร่วมมือที่จะทำงานให้แก่ประเทศชาติได้มากยิ่งขึ้น” จากพระราชปรารภในครั้งนั้น แมร์มีเรียม มหาอธิการิณีคณะภคินีเซนต์ปอลเดอชาร์ตร (พ.ศ.2544 ถึง พ.ศ.2556) ได้จัดประชุมโดยมีนายกสมาคมและคณะกรรมการจาก 4 สมาคม

คือ สมาคมศิษย์อัสสัมชัญคอนแวนต์ สมาคมศิษย์ซางตาครู้สคอนแวนท์ สมาคมศิษย์เซนต์โยเซฟ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และสมาคมศิษย์เซนต์ฟรังซีสซาเวียร์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์

คณะกรรมการของทั้ง 4 สมาคม ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ร่วมกันจัดตั้ง “สหสมาคมศิษย์เซนต์ปอลเดอชาร์ตร” ขึ้นเพื่อสร้างสัมพันธ์และ “รวมพลัง” ให้เป็น “หนึ่ง” เดียวกัน ปัจจุบันสมาชิกมี 7 สมาคม, สมาคมศิษย์อัสสัมชัญคอนแวนต์,สมาคมศิษย์ซางตาครู้สคอนแวนท์, สมาคมศิษย์เซนต์โยเซฟ ในพระบรมราชินูปถัมภ์, สมาคมศิษย์เซนต์ฟรังซีสซาเวียร์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์, สมาคมศิษย์วจนคาม-เซนต์ปอลคอนแวนต์, สมาคมศิษย์เก่าเซนต์โยเซฟ บางนา และสมาคมศิษย์เก่าเซนต์โยเซฟ ระยอง

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ปาร์ตี้-ลีลาศ ฉลองวันเกิด 85 ปี ท่านผู้หญิงเพ็ญศรี วัชโรทัย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/228189

วันจันทร์ ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ฉลอง “85 ปี” ท่านผู้หญิงเพ็ญศรี วัชโรทัยอย่างอบอุ่นและสนุกสนาน แม้จะจัดงานไม่ใหญ่โต แต่ก็อบอวลไปด้วยความรักความอบอุ่น เพราะงานนี้ พญ.เจรียง จันทรกมล,ประไพ ใหม่วิจิตร, ปรางแก้ว ไสวแสนยากร,สุชาวดี แดงจำรูญ ร่วมกันจัดงานวันคล้ายวันเกิดมอบให้อย่างเป็นกันเอง พร้อมชวนเพื่อนๆ อาทิ คุณหญิงสมรศรี วีรวรรณ,คุณหญิงเยาวรัตน์ เตชะเวช, คุณหญิงเปรมจิตจามรจันทร์, รัชนิบูล ปรานีประชาชน,บุรินทร์ วงศ์สงวน, สุมณี คุณะเกษม,รศ.สุภัทรา อักษรานุเคราะห์ มาร่วมสังสรรค์อวยพรมอบให้กับเจ้าของวันเกิด ณ โรงแรมดุสิตธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม 2559 ถึงแม้จะอายุเข้าสู่ปีที่ 85 แล้ว ท่านผู้หญิงเพ็ญศรี วัชโรทัย สุขภาพยังแข็งแรง ร่าเริงแจ่มใส ออกงานช่วยเหลือสังคมอยู่เป็นประจำ แถมงานนี้ยังเปิดฟลอร์เต้นรำโชว์ลีลาลีลาศได้อย่างอ้อนช้อยสวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและคำอวยพรจากน้องๆ ที่เคารพรักกันมานาน ก่อนปิดท้ายด้วยภาพแห่งความสุข ทุกคนในงานร่วมกันร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์มอบให้กับเจ้าของวันเกิดอย่างชื่นมื่น

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

‘การ์ดฟอร์ซ’ กลุ่มบริษัทให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยระดับสากล นำเสนอนวัตกรรมการให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยแห่งอนาคต

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/227472

วันพุธ ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

บริษัท การ์ดฟอร์ซ เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ในเครือ การ์ดฟอร์ซ กรุ๊ปกลุ่มบริษัทผู้เชี่ยวชาญทางด้านให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยระดับสากลจากฮ่องกง จัดงานเลี้ยงรับรองลูกค้า และบุคคลสำคัญ “The New Era of Guard force Cocktail Reception” พร้อมแนะนำวิทยากรอันล้ำสมัยเพื่อความปลอดภัยสูงสุดมาสู่ประเทศไทย เทคโนโลยีการ์ดฟอร์ซ ฮ่องกง มีการให้บริการถึง 8 รูปแบบ โดยตอบสนองการบริการภายในองค์กร อุตสาหกรรมการค้าปลีกและการเงินการธนาคาร รวมไปถึงนวัตกรรมหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย ดังจุดมุ่งหมายของการ์ดฟอร์ซฯ เพื่อเติมคำมั่นสัญญา “Securing the Present,Innovating the Future” ซึ่งงานนี้มี มร.เทเรนซ์ แยพ วิง ไค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร การ์ดฟอร์ซ กรุ๊ป เป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยแขกคนสำคัญ กร ทัพพะรังสี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ ศ.ดร.เกรียงศักดิ์เจริญวงศ์ศักดิ์ ตัวแทนสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ขึ้นกล่าวแสดงความยินดีณ ห้องวิมานสุริยา โรงแรมดุสิตธานีกรุงเทพมหานคร เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ 21กรกฎาคม 2559

นอกจากนี้ ในงานยังมีการจัดแสดงนวัตกรรมการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับและประสบความสำเร็จมากในฮ่องกงได้แก่ เครื่องฝากเงินอัจฉริยะ ที่สามารถตอบโจทย์อุตสาหกรรมประเภทค้าปลีกได้ด้วยระบบการวิเคราะห์และเก็บข้อมูลเชิงลึกทางการตลาด รวมไปถึงข้อมูลกระบวนการตัดสินใจในการเลือกใช้บริการของลูกค้า การรักษาความปลอดภัยในการขนส่งและพื้นที่จัดเก็บด้วยตู้กดเงินสดเคลื่อนที่ เหมาะสำหรับผู้ใช้บริการในชนบท ระบบรักษาความปลอดภัยทางด้านอิเล็กทรอนิกส์นี้ ประกอบด้วยกล้อง CCTV ระบบเตือนภัยและเทคโนโลยีควบคุมการเข้าถึงระบบด้วยการจดจำใบหน้า

บริษัท การ์ดฟอร์ซ กรุ๊ป เป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยแบบครบวงจรก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2520 ที่ฮ่องกงให้บริการระบบรักษาความปลอดภัย ตามความต้องการของลูกค้าเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน การ์ดฟอร์ซ กรุ๊ป มีสำนักงานอยู่ที่ประเทศไทย ฮ่องกง มาเก๊า ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ปัจจุบันตั้งสำนักงานในประเทศจีนและสิงคโปร์ บริษัท การ์ดฟอร์ซกรุ๊ป เชี่ยวชาญในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยระดับสากลและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจ บริษัทขนาดใหญ่ ธุรกิจค้าปลีก ธนาคาร สถาบันการเงินและองค์กรภาครัฐ

สำหรับ บริษัท การ์ดฟอร์ซในประเทศไทย มีบริษัทในเครือที่ดำเนินงานแตกต่างกัน 4 บริษัท มีสำนักงาน 5 แห่งและพนักงานกว่า 5,600 คน, บริษัทการ์ดฟอร์ซ ซิเคียวริตี้ (ประเทศไทย)จำกัด ก่อตั้งมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี,บริษัท การ์ดฟอร์ซ อวิเอชั่น ซิเคียวริตี้จำกัด ได้รับรางวัลมากมายในด้านการให้บริการรักษาความปลอดภัยทางการบิน และดำเนินงานมากว่า 3 ทศวรรษ, บริษัท การ์ดฟอร์ซ เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด จัดตั้งขึ้นเป็นเวลากว่า 20 ปี ให้บริการเสริมอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับท่าอากาศยาน, บริษัท การ์ดฟอร์ซแคช โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับความไว้วางใจจากหุ้นส่วนทางธุรกิจทั้งกลุ่มธนาคาร ภาคธุรกิจและภาครัฐมาเป็นระยะเวลากว่า 35 ปี ให้ดูแลความปลอดภัยด้านการเงิน ด้วยความแข็งแกร่งขององค์กร ซึ่งประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ 2,000 คน รถขนเงินจำนวน 450 คันและสาขาย่อยอีกกว่า 20 สาขา ทำให้บริษัทสามารถขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทยถึง 30% และดูแลจุดส่งมอบเงินสดกว่า 50,000-70,000 แห่งในแต่ละเดือน

การบริการดังกล่าวจะขยายขอบข่ายการให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับประทศไทย ดังที่ การ์ดฟอร์ซกรุ๊ป ได้ตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

SCB ชวนชม นิทรรศการเทิดพระเกียรติ ‘คู่พระบารมี ปกเกล้าชาวไทย’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/226700

วันศุกร์ ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

นิทรรศการเทิดพระเกียรติ “คู่พระบารมี ปกเกล้าชาวไทย” พระราชกรณียกิจเคียงคู่เพื่อประชาราษฎร์

เนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559 และในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ “คู่พระบารมีปกเกล้าชาวไทย” โดยมี ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นประธานเปิดงาน และอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ และคณะผู้บริหารธนาคาร ต้อนรับ ณ พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (รัชโยธิน) เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม 2559

นิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ได้พระราชทานความเมตตา บำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ พระราชกรณียกิจเคียงคู่เพื่อประชาราษฎร์ที่ทรงปฏิบัติล้วนสอดคล้องและเชื่อมประสานกัน เพื่อความผาสุกร่มเย็นของอาณาประชาราษฎร์ตลอดมาโดยนิทรรศการนำเสนอเนื้อหาแบ่งออกเป็น 4 ด้าน คือ คู่พระบารมี, พระราชทานโอกาสทางการศึกษา, พระราชดำริ ดิน น้ำ ป่า และคน

สู่การดำรงอยู่อย่างเกื้อกูลกัน และศิลปวัฒนธรรมของชาติพระราชหฤทัยรักที่ทั้งสองพระองค์มีต่อกันในเบื้องแรกได้ขยายเพิ่มพูนเป็นความรัก ความเมตตา และความห่วงใยที่ทรงมีให้ประชาชนชาวไทย ทรงตรากตรำพระวรกาย เพื่อทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่ราษฎร จากจุดเริ่มต้นในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในระยะแรก ณ หมู่บ้านเขาเต่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์กลายเป็นที่มาของโครงการพระราชดำริเพื่อพัฒนาชนบท โครงการแรกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นพระราชกรณียกิจแรกด้านการส่งเสริมอาชีพหัตถกรรมแก่ราษฎรในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในเวลาต่อมาโครงการพระราชดำริได้ขยายเป็นโครงการอีกนับพันกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

นิทรรศการเทิดพระเกียรติ “คู่พระบารมี ปกเกล้าชาวไทย” จัดแสดงถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2559 (เว้นวันหยุดธนาคาร) ตั้งแต่เวลา 09.30-17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทยธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (รัชโยธิน) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร.0-2544-3858

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

เปิดศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ศูนย์การเรียน เอส แอนด์ พี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/226699

วันศุกร์ ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ลงมือปรุงอาหารด้วยตัวเอง

บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) จัดพิธีเปิดศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ศูนย์การเรียน บริษัท
เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้กับนักเรียนนักศึกษา พนักงานเอส แอนด์ พี และบุคคลทั่วไปโดยเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท เอส แอนด์ พีซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กระทรวงแรงงาน และมหาวิทยาลัยสวนดุสิตโดยมี ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน, ดร.พรชณิตว์ แก้วเนตรรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, ภัทราศิลาอ่อน ประธานกรรมการบริษัท เอส แอนด์ พีซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ณ ศูนย์การเรียนบริษัทเอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ถนนพระราม 9

ศูนย์การเรียน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2550 ภายใต้พระราชบัญญัติการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มาตรา 12 การจัดโรงเรียนในสถานประกอบการ โดยได้รับการอนุมัติหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขางานธุรกิจค้าปลีกและสาขางานอาหารและโภชนาการเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ด้อยโอกาสทั่วประเทศปัจจุบันมีนักเรียนศูนย์การเรียนสำเร็จการศึกษาไปแล้ว 6 รุ่น จำนวน 115 คน ซึ่งในปีการศึกษา 2559 มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 400 คน และมีนักเรียนทวิภาคีจากวิทยาลัยอาชีวะอื่นๆ และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศที่ผ่านการฝึกอาชีพจากเอส แอนด์ พี ปีละไม่ต่ำกว่า 800 คน เมื่อจบแล้วสามารถเริ่มทำงานกับบริษัทได้ทันที

เกษสุดา ไรวา กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทั้งในด้านการศึกษาและการพัฒนาฝีมือซึ่งต้องใช้เวลาในการฝึกฝนทักษะเพื่อให้เกิดความชำนาญโดยมีครูฝึกเป็นผู้สนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษามีโอกาสได้พัฒนาฝีมือและฝึกทักษะได้เต็มความสามารถภายใต้แนวคิดการพัฒนาบุคลากรอย่างยั่งยืนเพื่อให้มีคุณภาพและมีสมรรถนะในการเข้าสู่ตลาดงานสากล ดังนั้นบริษัท จึงก่อตั้ง “ศูนย์ทดสอบมาตรฐาฝีมือแรงงานศูนย์การเรียน บริษัทเอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)” โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในเรื่องมาตรฐานครัวไทยระดับชาติให้คำแนะนำปรึกษาและดำเนินการสร้างครัวที่ได้มาตรฐาน”

ภัทรา ศิลาอ่อน ประธานกรรมการ บริษัทเอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากบริษัทจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนแล้ว ยังคำนึงถึงการดูแลพนักงานให้ทำงานอย่างมีความสุข เสมือนคนในครอบครัว ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความเป็นปึกแผ่นมั่นคงแข็งแรง และมีความก้าวหน้าต่อไปในอนาคต เพื่อบรรลุเป้าหมายเดียวกัน”

นอกจากนี้ บริษัทยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ในการผลิตบุคลากรหลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาเทคโนโลยีการประกอบอาหารและการบริการ ภายใต้ชื่อโครงการ “ผลิตเชฟ และผู้บริหารร้าน เอส แอนด์ พี” ซึ่งเป็นโครงการผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ อีกทั้ง บริษัทยังได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษา และนักศึกษาทุกคนจะได้ฝึกอาชีพที่ร้านอาหาร เอส แอนด์ พี ทุกหน่วย ได้แก่ หน่วยครัว เบเกอรี่ เครื่องดื่ม บริการแคชเชียร์ และบริหารร้าน ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ถึงชั้นปีที่ 4 รวมจำนวนนักศึกษาทุนปริญญาตรีมหาวิทยาลัยสวนดุสิตทั้งสิ้น 97 คน ปัจจุบันมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาแล้ว 1 รุ่น จำนวน 19 คน ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำร้านอาหารเอส แอนด์ พี ทั้งหมดโดยแบ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการสาขาจำนวน 14 คน และเชฟจำนวน 5 คน โดย 3 ใน 5 คนนี้ จะมีโอกาสได้ไปทำงานที่ร้านอาหารในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพร่วมกันระหว่างบริษัทเอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การเรียน บริษัท เอส แอนด์ พีซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ขอเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพเข้าสู่ตลาดแรงงานในประเทศและต่างประเทศต่อไป

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

‘เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก’ ครั้งที่ 19

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/226530

วันพฤหัสบดี ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

กลินท์ สารสิน รองประธาน กก.หอการค้าไทย และประธาน กก.ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประธานในพิธี กล่าวเปิดงาน

ผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับงานใหญ่อย่าง “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก”ครั้งที่ 19 ที่ทางสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) ไทย-อะมาดิอุส และประกันไทยวิวัฒน์ ผนึกกำลังกับเคทีซี ร่วมจัดงานมหกรรมท่องเที่ยวแห่งปี เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพ โดยมี ศุภฤกษ์ ศูรางกูรนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ประธานจัดงานในครั้งนี้ขึ้นกล่าววัตถุประสงค์ พร้อมด้วย กลินท์ สารสิน รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประธานในพิธีกล่าวเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมด้วย สมเกียรติ รุ่งทวีผล รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด, เจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการ-การตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ “เคทีซี”, เจนจิรา อัศวะธนกุล ผู้จัดการฝ่ายประกันการเดินทาง บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) และแขกผู้มีเกียรติ คณะอุปทูตจากประเทศต่างๆ รวมถึงอดีตนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว วาริน-ผาณิต พูนศิริวงศ์ ให้เกียรติเข้าร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

ศุภฤกษ์ ศูรางกูร นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว เผยถึงวัตถุประสงค์การจัดงานว่า “เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยทั้งในและต่างประเทศ การจัดงานครั้งที่ 19 ในระยะเวลา 13 ปี ที่ผ่านมา ทุกงานประสบความสำเร็จอย่างดีมีผู้เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นทุกปี ภายในงานผู้เข้าร่วมงานนอกจากจะสามารถหาข้อมูลด้านการท่องเที่ยว และเลือกซื้อสินค้าท่องเที่ยวได้อย่างครบถ้วนแล้ว ผู้เข้าชมยังได้ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ที่นำมาแสดงในงานอีกด้วย เป็นงานที่มีบริษัทนำเที่ยวทั้งในและต่างประเทศรวมตัวกันมากที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน”

บรรยากาศคึกคักไปด้วยผู้ที่มาร่วมงาน โดยในงานมีผู้ประกอบการทัวร์ชั้นนำโรงแรม รีสอร์ท สายการบิน รถเช่า เรือสำราญ ประกันภัยการเดินทาง นิตยาสารท่องเที่ยวและสำนักงานการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยและประเทศต่างๆ มาร่วมประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว และจำหน่ายสินค้าท่องเที่ยวด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษจำนวนกว่า 700 บูธ ให้สามารถเลือกซื้อ เลือกจองสินค้าท่องเที่ยวได้อย่างจุใจครบวงจร และมีการจับรางวัลใหญ่ อาทิ รถยนต์ คูปองเงินสด และของรางวัลอีกมากมาย รวมทั้งรางวัลที่ KTC พันธมิตรได้เตรียมไว้สมนาคุณให้กับลูกค้าอีกมากมายด้วย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

‘สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 20’ โชว์นวัตกรรม มิติใหม่ในการช็อปปิ้ง ผ่านร้านค้าเสมือนจริง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/226529

วันพฤหัสบดี ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์, บุญเกียรติ โชควัฒนา ประธาน กก.และประธาน กก.บริหารบมจ.ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมด้วยผู้บริหารร่วมเปิดงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 20

สหกรุ๊ปแฟร์ งานช็อปปิ้งยิ่งใหญ่ประจำปีของเครือสหพัฒน์ ครั้งที่ 20 เมื่อเร็วๆ นี้จัดผ่านไปอย่างยิ่งใหญ่ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฉลอง 2 ทศวรรษด้วยการจัดภายใต้แนวคิด An Honest Digital World ที่สื่อถึงการยึดมั่นในคุณภาพที่มีต่อโลกและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความซื่อสัตย์และคุณธรรมที่มีต่อลูกค้าและสังคม และนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในงานเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและนิยมซื้อสินค้าทางอินเตอร์เนต

ทัพสินค้าของกินของใช้ราคาพิเศษในปีนี้มีมาให้ช็อปปิ้งมากมายเป็นประวัติการณ์ รวมกว่า 1,000 คูหา ทั้งเสื้อผ้า อาหาร รองเท้าเครื่องสำอาง เครื่องหนัง ของใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องกีฬา ซึ่งนอกจากจะเลือกซื้อสินค้าภายในงานได้ตามปกติแล้วยังสามารถซื้อสินค้าผ่าน ร้านค้าเสมือนจริง และ ห้องลองเสื้อผ้าเสมือนจริง นับว่าเป็นมิติใหม่ของงานสหกรุ๊ปแฟร์ และนับเป็นครั้งแรกของงานแสดงสินค้าในเมืองไทย ซึ่งไม่ว่าจะซื้อสินค้าภายในงานหรือซื้อผ่านร้านค้าเสมือนจริงและห้องลองเสื้อผ้าเสมือนจริง ก็มีบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน ฟรี โดยไม่กำหนดอัตราการซื้อขั้นต่ำและระยะทาง

ไฮไลต์ของงาน คือ การนำเสนอนวัตกรรมและสินค้าใหม่เพื่อโชว์ศักยภาพของเครือสหพัฒน์ในฐานะผู้ผลิตสินค้าที่มีการพัฒนาอยู่เสมอ ซึ่งปีนี้มีทั้ง กี ลาโรช DurableWhite นวัตกรรมเสื้อเชิ้ตที่มีคุณสมบัติความขาวที่คงทนยาวนานกว่าผ้าคอตตอนสีขาวทั่วไปกว่าเท่าตัว I-Flex นวัตกรรมผ้ายืดที่สามารถยืดหยุ่นได้ 360 องศา ทำให้ผู้สวมใส่เคลื่อนไหวได้คล่องตัว อีกทั้งยังดูแลรักษาง่ายและไม่ยับ ENFANT Green Products เสื้อผ้าและของใช้สำหรับเด็กที่ปลอดภัย 100% ในทุกกระบวนการผลิตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ Bewitch Baby witch เซรั่มและครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ Syn-Ake ซึ่งเป็นสารสกัดที่ทำหน้าที่เสมือนโบท็อกซ์ที่ช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบนใบหน้า และยังมีนวัตกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจ มีทั้ง แฟชั่นโชว์ชุดชั้นในจากวาโก้, Forgotten Show ที่รวมสินค้าจากไอ.ซี.ซี. ถึง 22 แบรนด์, การประกวด Saha Group Bangkok Young Designer Awards 2016, การประกวดสาวอารมณ์ดี EasyCute girls โดย EASY  Wear by St. Andrews, การประกวด ร้อยรักแม่ด้วยเสียงเพลงจากดวงใจ รอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, การแข่งขัน แซนด์วิช จานเด็ด คนเก่ง ครั้งที่ 15,การประกวด การออกกำลังกายตามจังหวะเพลงStrong & Healthy ภายใต้โครงการสร้างความสุขสู่เยาวชนไทย, กิจกรรมมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา ร่วมกับมูลนิธิพระไตรปิฎกสากล จัดพิธีถวายเสียงสัชฌายะเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 70 ปี และยังมีการบรรยายและเสวนาที่น่าสนใจ อาทิ มองโลกดิจิทัลเจาะขุมทรัพย์ธุรกิจ SMEs, ธรรมะยุคพลังงานใหม่2016, สมัครงานอย่างไรให้ได้งาน, คิดบวกชีวิตบวกและ How to ดวงดี ซึ่งทุกกิจกรรมเปิดให้เข้าชมและเข้าฟังโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมทั้งยังมีพิธีลงนามร่วมทุน ระหว่างเครือสหพัฒน์และผู้ร่วมทุนจากต่างประเทศ เพื่อทำธุรกิจร้านราเมง ธุรกิจทัวร์ครบวงจร ธุรกิจออกแบบและตกแต่ง

ด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ทำให้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานในปีนี้ทะลุ 1.11ล้านคน และยังมีคู่ค้าและผู้ซื้อจากทั้งในประเทศและต่างประเทศมาร่วมงานเพื่อชมศักยภาพของเครือสหพัฒน์กว่า 400 รายนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ส่วนใหญ่มาจากจีน เมียนมา อินโดนีเซีย ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินเดีย ซึ่งเครือสหพัฒน์ได้เพิ่มโอกาสทางด้านการค้าการลงทุนด้วยการจัด Business matching โดยแนะนำและจัดหาคู่ค้าที่เหมาะสมเพื่อพบปะพูดคุย ปรึกษา หรือวางแผนขยายช่องทางการตลาด ตลอดจนหาผู้ร่วมลงทุนทางธุรกิจในอนาคต

ผู้ที่พลาดงานในปีนี้ พบกับ “งานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 21” ในปี 2560 พบกับสินค้านวัตกรรม และกิจกรรมมากมายและยิ่งใหญ่เช่นเคย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

เปิดบ้านศิลปินแห่งชาติ อาจารย์ช่วง มูลพินิจ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/226078

วันจันทร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ทำพิธีเปิดป้ายบ้านศิลปินแห่งชาติ พร้อมถ่ายภาพร่วมกัน

ถือเป็นโอกาสดีของประชาชนคนกรุงเทพฯที่สนใจศึกษาศิลปะสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) เพราะเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2559 คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดบ้านศิลปินแห่งชาติ อ.ช่วง มูลพินิจ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) พ.ศ. 2556 โดยมี พิมพ์รวี วัฒนวรางกูร อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม, อ.กฤษฎา โรจนกร, ดร.ชำเรือง วิเชียรเขตต์, ลิขิต จินดาวัฒน์ ประธานสภาเขตสะพานสูง, ทัศชลเทพกัมปนาท รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมในพิธี ณ บ้านนายช่วงมูลพินิจ หมู่บ้านธารารมณ์ ซอย 8/1 ถนนรามคำแหง 150 กรุงเทพฯ

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม ประธานในพิธีเปิดบ้านศิลปินแห่งชาติ อ.ช่วง ดุลพินิจ กล่าวว่า “สำหรับกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานภายใต้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมศิลปินแห่งชาติ เผยแพร่องค์ความรู้และผลงานของผู้ทรงคุณวุฒิทางวัฒนธรรม และผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม เราเล็งเห็นคุณค่าของศิลปินแห่งชาติผู้สร้างสรรค์ผลงาน อันเป็นภูมิปัญญาของแผ่นดิน เราเห็นคุณค่าและความสำคัญของการเปิดบ้านของศิลปินแห่งชาติอาจารย์ช่วงซึ่งบ้านหลังนี้เป็นแหล่งสั่งสมองค์ความรู้ ภูมิปัญญา เป็นสถานที่ที่สร้างผลงานอันล้ำค่า สมควรที่จะเผยแพร่ให้เป็นแหล่งศึกษา สร้างเสริมทักษะ และถ่ายทอดประสบการณ์จาก อ.ช่วง”

สำหรับ อ.ช่วง มูลพินิจ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) พ.ศ. 2556 เป็นศิลปินไทยร่วมสมัย ได้สร้างสรรค์ผลงานมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ.2505 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 50 ปี ด้วยเทคนิควิธีการหลากหลายรูปแบบ ทั้งงานวาดเส้นงานจิตรกรรม ประติมากรรม พุทธปฏิมาและวรรณกรรม ผลงานสร้างสรรค์ของอ.ช่วง มูลพินิจ เป็นศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจความศรัทธาและแนวความคิดจากวิถีชีวิตและธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ผสมกลมกลืนกับคติความเชื่อ และปรัชญาในพระพุทธศาสนาเป็นหลัก โดยผลงานสร้างสรรค์ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบศิลปะที่สื่อออกมาในรูปแบบเชิงสัญลักษณ์ เป็นเรื่องราวของดอกไม้ ธรรมชาติ แมลง สัตว์ มนุษย์ โดยรูปทรงลวดลายโดยรวมที่สร้างสรรค์ จะประกอบรูปเป็นสัญลักษณ์รวม ระหว่างลวดลายกับรูปทรงสัจนิยมอย่างมีเอกภาพและมีบูรณาการนำรูปแบบและความเชื่อแบบไทยมาผสมผสานกับแนวความคิดรูปแบบตะวันตก ทั้งมีการพัฒนาสร้างสรรค์ต่อยอดแนวความคิดรูปแบบ และเทคนิควิธีการอยู่ตลอดเวลา

แม้ผลงานสร้างสรรค์ของ อ.ช่วง มูลพินิจ เป็นศิลปะหลากหลายรูปแบบ แต่ผลงานที่แสดงออก สามารถเป็นผลงานที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของภูมิปัญญาศิลปินแบบไทย อ.ช่วง รักการถ่ายทอด สืบสาน องค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม ให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไปตลอดมา ได้จัดสร้างหอศิลป์ ช่วง มูลพินิจ โดยเปิดให้เข้าชมทุกวันอาทิตย์ที่ 2 และวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.

บ้านศิลปินแห่งชาติ อ.ช่วง มูลพินิจ หลังนี้จะช่วยจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นใหม่ มีใจเห็นคุณค่า และร่วมกันสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย ให้คงอยู่ต่อไป

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

‘บลูสกาย แชนแนล’เปิดตัวผังรายการใหม่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/226077

วันจันทร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกก.นโยบาย ขึ้นเสวนา

สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ฟ้าวันใหม่ จัดงาน “คืนความสุขให้ชาวบลูสกาย” ซึ่งเป็นการเปิดตัวผังรายการใหม่ของสถานี เพื่อเพิ่มสาระเนื้อหารายการให้มีความเข้มข้นและสร้างความสุขให้ผู้รับชมมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงตอบสนองประเทศ โดยมีผู้บริหารของสถานีประกอบด้วย เถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานี, วิทเยนทร์ มุตตามาระ กรรมการผู้จัดการบริษัท, ภูษิต ถ้ำจันทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค, สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการนโยบาย, สรรเสริญ สมะลาภา กรรมการนโยบาย และ สำราญ รอดเพชร กรรมการนโยบาย ร่วมชี้แจงรายละเอียด ณ ห้องเอดิทอเรียม อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม 2559

โดยบรรยากาศภายในงานคึกคักไปด้วยแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงาน งานนี้ยังมี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พิธีกรรายการและผู้ประกาศของฟ้าวันใหม่ รวมถึงประชาชนที่สนใจเข้าร่วมงาน นอกจากการชี้แจงรายละเอียดการปรับผังใหม่ของผู้บริหารสถานีแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ

อาทิ จ่าพงศ์พิธีกรรายการลูกอีสานขึ้นโชว์คืนความสุขให้ชาวบลูสกาย, โชว์ร้องเพลงจากรายการอีสานชุ่มเย็น การปาฐกถาในหัวข้อประชามติเปลี่ยนไทยเปลี่ยนโลก จาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, การเสวนาในหัวข้อ “เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง” โดย กรณ์ จาติกวณิช, บุญชัย โชควัฒนาประธานกรรมการบริษัท บริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) และ ดร.ธนวรรธน์พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจด้านธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

สำหรับรายการใหม่ที่ปรับเพิ่มเข้ามาใหม่ประกอบด้วย รายการบิ๊กพิคเจอร์ ซึ่งจะวิเคราะห์เจาะลึกเหตุการณ์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันจากผู้เชี่ยวชาญ ออกอากาศทุกวัน ในช่วงเวลา 20.00 น. ถึงเวลา 21.00 น.,รายการอีสานชุ่มเย็น ออกอากาศวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 09.05 น. ถึงเวลา10.00 น. โดยจะเป็นการนำเสนอข้อมูลด้านที่ดีต่างๆของภาคอีสาน นอกจากนี้ยังมีการกลับมาอีกครั้งของรายการสายล่อฟ้าที่จะออกอากาศวันจันทร์ถึงวันวันศุกร์เวลา 19.00 น. ถึงเวลา 20.00 น.

จะเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปส่วนรายการข่าวได้ปรับรูปแบบเพิ่มเวลา เพิ่มเนื้อหาสาระและเกาะติดสถานการณ์สำคัญ ข่าวเช้าเริ่มตั้งเวลา 06.00 น. ถึงเวลา 09.30 น. เช่นเดียวกับข่าวภาคเที่ยงฟ้าวันใหม่นิวส์ ที่จะขยายเวลาออกอากาศเป็นเวลา 12.00-13.30 น. นอกจากนี้ในช่วงบ่ายยังมีรายการวอร์รูมเศรษฐกิจที่จะเพิ่มเข้ามาอีกด้วย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง