ต้องบอกว่าลุ้นกันตัวโก่งมาหลายสัปดาห์ติดต่อกัน ในส่วนตำแหน่งปลัดกระทรวงเกษตรฯ หลังจากที่รมว.เกษตรฯ  “พลเอกฉัตรชัย  สาริกัลยะ” มีการเขี่ยฝนร่วงจากกระทรวงเกษตรฯ ปลดปลัด “ธีรภัทร ประยูรสิทธิ”ออกจากตำแหน่ง หลังจากมีข่าวว่ากระทรวงเกษตรฯเป็นกระทรวงที่โลกลืมทำงานไม่เข้าตา เมื่อโพลล์หลายโพลล์ออกมาบอกว่ากระทรวงเกษตรฯ เป็นอันดับต้นๆ ที่ไร้ผลงาน

ซึ่งเมื่อถูกโหวตออกจากตำแหน่งท่านปลัดกระทรวงเกษตรฯ ก็ออกมาร่ายเอกสาร แจงในโซเชียลให้กับกลุ่มข้าราชการว่า ตลอดเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา ท่านทำอะไรไว้บ้าง  ซึ่งก็ตามคาดมีทั้งภาพและเอกสาร ที่บรรจงพิมพ์สรุปใจความว่า ข้าทำงานมาตลอด ไม่เคยหยุด เสาร์-อาทิตย์  ก็ยังทำงาน แบบว่า “ป๊าดติโธ่ อะไรจะขยันปานนั้น” แต่ผลงานมันดันไม่เข้าตาสังคม งานนี้ต้องบอกว่า  โถๆๆๆๆๆๆ ก็ท่านไปไหนมาไหน ปิดข่าวกันให้แซด…..ข่าวก็ไม่มีให้เห็น วันเสาร์อาทิตย์ แอบท่อมๆ เดินดงลงทุ่งแบบไร้จุดมุ่งหมาย ใครเล่าเขาจะรู้ว่าท่านทำงาน และที่สำคัญ ใครจะบอกจะเตือนอะไร ท่านก็รับบทพระเอกในนิยายไปเสียหมด โลกสวยว่า ตนเองเก่งและคุมคนอยู่ แต่หารู้ไม่ คนเกษตรส่วนใหญ่เขาเดินก้มหน้าแทบไม่ได้ เพราะเขี้ยวลากดิน ว่ากันว่า วันใดในที่ประชุม ถ้าปลัดฝนเป็นประธาน แทนรมว.วันนี้เลือดซิบ ยังจะมาบอกว่า เอาอยู่ แต่เอาหละวันคืนย้อนคืนไม่ได้ อย่างไงก็คงเป็นบทเรียนกับใครหลายคน นะขอรับ ชีวิตต้องเดินหน้า

สัปดาห์นี้ก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่า ใครจะเข้ามานั่งเป็นปลัดกระทรวงเกษตรฯที่ได้มาอย่างยากเข็ญเพราะที่ผ่านมา มีการลุ้นกันยกใหญ่ว่า ปลัดคนใหม่ จะ“ลิง”หรือ“เสือ” เพราะส่ง“เสือ”เข้าไปในสัปดาห์แรก ก็กินแห้วกลับมา เพราะมีคนบอกว่า มีรอยเลือดติดไปด้วย เพราะคดีของ“เสือ”ยังมีเยอะที่รอให้เคลียร์ งานนี้จึงถูกโหวตออกและตามมาด้วยการส่ง “ลิง” เข้าไปแทนว่างั้น และก็แว่วอีกว่า ที่ผ่านมามีฝูงลิงไปฉลองกันยกใหญ่ สุดท้ายก็แห้ว ส่วนจะแห้วจริงหรือไม่ ลุ้นกันต่อในสัปดาห์นี้ เพราะใต้โลกสีเขียวอะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะว่า ถึงวันนี้เริ่มมีชื่อแพลมๆ ออกมาว่า “พี่หมู” จะหวนคืนสังเวียนยุทธจักรเกษตรอีกครั้ง จะเข้มแข็งแค่ไหน ต้องมารอลุ้นกัน เพราะเฮียหมูคนนี้ เคยทำงานเข้าขากับทางทีมสีเขียวมาก่อน และที่สำคัญ รู้ว่าคนในกระทรวงเกษตรฯใครเป็นใครแบบรู้ไส้รู้พุง งานนี้หากเป็นจริงดังว่า งานที่เงอะๆ งะๆ งึกๆๆงักๆๆ มันน่าจะเข้าตาเสียที

และที่สำคัญไปกว่านั้นมันน่าจะหมดยุคที่จะหาแพะ อ้างคนกระทรวงเกษตรฯทำงานไม่เข้าตาต้องใจ รัฐมนตรีเสียที เพราะแว่วกันว่า ท่านๆอธิบดีที่กำลังจะถูกปรับออกจากตำแหน่งที่ไม่รวมเกษียณอายุราชการส่วนใหญ่ ล้วนเป็นกรมที่รมช.ดูแล และส่วนใหญ่ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับท่านรมช. สมัยนั่งแถว พาณิชย์มาก่อน จึงทำอะไรไม่ถูกตาต้องใจ ไม่มีข่าวไม่มีผลงานหากมองให้ลึกถึงแก่นแท้ ต้องบอกว่าวันนี้ สังคมแทบไม่รู้ว่าใครคือ รมช.เกษตรฯ เพราะอะไร ไปคิดดูกันเองนะขอรับว่า ทำไมไม่มีข่าวของรมช. ว่างๆ ลองทำโพลล์ถามสังคมดู เผื่ออะไรกระจ่างมากขึ้น จะได้ไม่ต้องหาแพะ ย้ายคนโน้นคนนี้

ราชดำเนิน

ตามติดการทำงานของกระทรวงเกษตรฯ มาอย่างต่อเนื่อง ต้องบอกว่า ณ วันนี้มีการเคลื่อนไหว ค่อนข้างมาก เมื่อกระแสการติดตามงานของนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยากเห็นข้าราชการแก้ปัญหาภาคการเกษตรเป็นรูปธรรม ซึ่งนั่นหมายถึง ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯต้องเร่งการสังคายนางานในส่วนของภาคการเกษตรให้เห็นการขับเคลื่อนที่ชัดเจนให้เห็นผลที่สามารถจับต้องได้

ณ วันนี้ได้เห็นการขับเคลื่อนการทำงานของอธิบดีหลายกรมกอง ที่มีการขยับขยาย ซึ่งบางกรมก็ เดินสายเอาใจนาย แบบจัดงานลงพื้นที่ อีเว้นท์ต่อเนื่องหวังสร้างภาพลักษณ์ให้เห็นแจ่มแจ้ง ชัดเจน โดยงานนี้ ท่านรัฐมนตรี พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ ถึงกับเรียก ข้าราชการระดับ 9 ในพื้นที่ทั่วประเทศ มาสั่งการยกใหญ่ โดยในพื้นที่ สโมสร กองทัพบก ย่านวิภาวดี เป็นที่แจกแจงนโยบายให้แจ่มแจ้ง กว่าเกือบ 1,000 คนที่ทุ่มเงินกว่าล้านบาท โดยให้เน้นการแก้ปัญหาภาคการเกษตรให้เข้าถึงรากหญ้า เน้นนโยบายกระดาษA4 ขับเคลื่อนภาคการเกษตรแบบถึงแก่น  ซึ่งงานนี้ ว่าเรื่องที่ท่านพูดไป ก็น้ำตาจะไหล ไม่ทราบว่า ไหวหวั่นกับนโยบายตัวเอง ที่สั่งไปแล้วไม่คืบหน้า หรือแค้นข้าราชการ เพราะเรื่องสั่งไปแล้วไร้ผล จนท่านน้อยอกน้อยใจตามประสาคนแก่

มาวันนี้เท่าที่ติดตามกันให้ถึงแก่นในโครงการประชารัฐของภาครัฐ และเอกชนร่วมกันรวมถึงโครงการแปลงใหญ่ที่เกิดขึ้น
ต้องบอกว่า ทุกเรื่องหากเจาะลงลึกจริงๆแทบไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะเอกชนที่เขาทำและเสนอมา มันเป็นเรื่องเดิมๆ ที่ทำกันอยู่แล้ว เพียงแต่วันนี้ท่านเดินไปขอผลงานจากภาคเอกชน ที่เคยทำมาเป็นผลงานตัวเอง ก็เท่านั้นเอง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมกระจอกข่าว ได้มีโอกาสเลาะไปศูนย์ฝึกอบรมของกระทรวงเกษตรหลายที่ ก็พบข้อมูลตรงกันว่า ทุกอย่างไม่มีอะไรสดใหม่ แต่มันเป็นของเก่าที่หยิบมาสร้างภาพใหม่เพื่อให้เบิกจ่ายเงินงบประมาณได้เท่านั้นเอง ไม่เชื่อ ลองถอดเสื้อ ถอดหัวโขน ลงไปดู แบบไม่มีใครจูงไปลงพื้นที่ แล้วจะได้เห็นแจ่มแจ้ง ว่าเกิดอะไรขึ้นกับภาคเกษตรไทย

หากเปิดใจกว้างจริงๆ ยอมรับณ วันนี้ บอกได้เลยว่า ภาคการเกษตรไทยน่าจะเป็นช่วงหนึ่งที่เข้าสู่จุดที่กำลังจะเกิดปัญหาบานปลาย เพราะสินค้าเกษตรหลายตัว ราคาดิ่งเหว เริ่มตั้งแต่ ราคายางพาราไทย แม่กระเตื้องขึ้นลง แต่ยังคงเป็นสินค้าที่ราคายังผันผวน นั้นยังรวมถึงอ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และที่กำลังอาจเป็นปัญหาใหญ่นั้นคือ ข้าว ซึ่งกำลังจะออกสู่ตลาดอีกไม่นาน และที่ยิบย่อยรายทาง อย่างมังคุด และอีกมากมาย แล้วจะมาบอกว่า GDP ภาคเกษตรไทยสูงขึ้นบอกตรงว่าเชื่อยากจากนี้ไป แม้จะสวมบทชายเจ้าน้ำตาอย่างไร ก็น่าจะเกิดความเห็นอกเห็นใจจากสังคมยาก เพราะผลงานไม่ปรากฏ อย่ามาอ้างเหตุอ้างผลอย่างอื่นอย่าลืมว่าทุกตำแหน่งของรัฐมนตรี ทุกท่านขันอาสามาทำงาน ไม่มีใครบังคับ หากจริงใจต้องรู้จักประเมินศักยภาพตัวเองเพื่อชาติ

ราชดำเนิน

สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกว่า มีการลุ้นระทึกในส่วนการเสนอการแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีกระแสข่าวต่อต้านจากคนบางกลุ่มที่ในกระทรวงมหาดไทยว่า มันอาจไม่เหมาะสม เพราะเป็นการข้ามหัว กลุ่มรองปลัดที่ต่างทาแป้งแต่งตัวรอขึ้นตำแหน่งปลัดกระทรวงอยู่หลายคน แต่อยู่ๆก็มีข่าวว่า ท่าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา  รมว. มหาดไทย นายฉัตรชัยพรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่แทน นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการ ซึ่งตามหลักการว่ากันว่าการไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งปลัด มันน่าจะมาจากรองปลัด

แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เสมอไป เพราะยุคนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะมีหลายกระทรวง แม้แต่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรียังแว่วว่า อาจจะมีการบินมาจากหน่วยงานอื่น ที่มานั่งในตำแหน่งปลัด เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของหน่วยงานบางหน่วยงาน และจากนี้ไปต้องติดตามว่าจะมีกระทรวงใดบ้าง จะได้ปลัดใหม่ถอดด้าม เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านนายกรัฐมนตรี มีการสั่งการในการประชุม ครม. ว่า ให้ทุกกระทรวงดูในเรื่องของการเสนอ แต่งตั้ง ในระดับปลัดกระทรวง  โดยหากจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ต้องนำเสนอให้เรียบร้อยภายใน 2 สัปดาห์เพื่อให้ปลัดไปดำเนินกระบวนแต่งตั้งโยกย้ายในระดับอธิบดีต่อไป โดยการแต่งตั้งโยกย้ายทุกกระทรวง ให้ยึดอาวุโส ส่วนพวกทำงานดีมีไอเดีย ประสบความสำเร็จ ได้รับการชื่นชม มีสิทธิ์เลื่อนขั้นเท่าเทียมอาวุโสด้วย

มาถึงเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ว่าจะมีการขยับขยายในตำแหน่งใดบ้างและยังคงแว่วว่า ยังอาจต้องลุ้นกันไปอีกยาวๆเพราะเท่าที่ติดตามบอกเลยว่า ในส่วนของตำแหน่งปลัดกระทรวงเกษตรฯต้องบอกว่า เวลานี้ปิดประตูตายได้เลย เพราะท่านปลัดเกษตรฯ คนปัจจุบัน คนนี้ที่ชื่อ “ธีรภัทร ประยูรสิทธิ”ค่อนข้างเหนียวหนึบ เพราะแม้แต่คนข้างกายท่านรัฐมนตรี ที่ชื่อ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ยังออกปากลั่นว่า ปลัดท่านนี้เหนียวจริงๆและไม่ใช่ว่า ใครจะมา งัดแงะออกจากกระทรวงง่ายๆ ก็แหงสิท่านเพราะการมาของท่านก็ไม่ใช่ธรรมดา เพราะบินข้ามหัวใครหลายคนมาจากกระทรวงอื่น และที่สำคัญคนที่มาจากกระทรวงอื่นแล้วผ่านเขี้ยวเล็บของคนกระทรวงเกษตรฯ ได้ 2  ปี ก็คงไม่ธรรมดา งานนี้ต้องบอกว่ามีแม่..ยก ดูแลดี แถมมีกุนซือ มือประสาน อย่างเสี่ยเจ มานั่งประกบ เป็นปลัดเงา  จึงเชื่อว่า น่าจะยังเหนียวอีกนาน

มาว่ากันในส่วนของตำแหน่งอธิบดีกรมต่างๆ ปีนี้ว่ากันว่ากระทรวงเกษตรฯ มีการเกษียณอายุราชการ ในระดับ 10 อย่างน้อย 8-9 ตำแหน่ง โดย มีตำแหน่งอธิบดี 3 ตำแหน่ง คือ กรมชลประทาน กรมตรวจบัญชี และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม นอกจากนั้นยังมีตำแหน่งผู้ตรวจราชการ และ ตำแหน่งรองปลัด หลายตำแหน่ง ต้องรอลุ้นยาวๆ เพราะท่านรัฐมนตรี บอกว่า ณ เวลานี้ยังไม่มีการขยับ ต้องรอลุ้นใกล้ฤดูกาล ตอนนี้ยังถึงฤดูลุ้นกันต่อไป เพราะยุคนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ง่าย จากนี้ไปต้องติดตามว่าใครจะได้ไปต่อต้องรอลุ้น นะเจ้านาย

ราชดำเนิน

เกษตรบูรณาการสัปดาห์นี้มาติดตามเรื่องของการทำงานของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งต้องบอกสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเคลื่อนไหวค่อนข้างรุนแรงในเรื่องของปัญหา สินค้าเกษตร มีกลุ่มเกษตรกรบางกลุ่มมีการเคลื่อนไหว ในเรื่องของปัญหาราคายางพาราตกต่ำ อย่างต่อเนื่องต้องบอกว่าเล่นเอาฝ่ายความมั่นคงไม่ค่อยสบายใจเอามาก ต้องส่งทีมเจ้าหน้าที่ทางทหารบุกไปที่ม.เกษตรฯ เพราะงานนี้ พี่แกนนำม็อบเล่นใช้พื้นที่สมาคมสื่อฯเกษตรที่ตั้งในม.เกษตรฯ เป็นที่เคลื่อนไหว และประชุมหารือ งานนี้ต้องบอกว่า ไม่สง่างามเอามากเพราะสื่อมวลชน ต้องทำหน้าที่ ให้เป็นกลาง และที่สำคัญ พื้นที่ของสมาคม ยังเป็นพื้นที่ของม.เกษตรฯ ที่อนุญาตให้ใช้ชั่วคราว ซึ่งส่งผลให้คนที่อนุญาตอย่างผู้บริหาร ม.เกษตร อึดอัดไปด้วย

งานนี้ แม้คนอนุญาตจะมาจ้อว่า เพื่อนพ้องน้องพี่สื่อเกษตรฯ ตื่นเต้นเกินเหตุบอกได้เลยว่า เป็นการคิดผิดเพราะทุกคนผ่านร้อนผ่านหนาว มามากกับการทำหน้าที่สื่อซึ่งการทำหน้าที่ต้องคิดหน้าคิดหลังถึงผลกระทบ ที่สำคัญมันเป็นเรื่องมารยาทของคนที่ทำงานร่วมกัน ในสมาคม ประชาธิปไตยต้องฟังเสียงคนอื่น ไม่ใช่คิดเองเออเองเห็นแต่ประโยชน์บังตา ไร้ความรับผิดชอบต้องฟังกรรมการ ผู้ร่วมชะตากรรม ในการบริหารต้องมารับผิดชอบ และเป็นโจทย์ กับทางฝ่ายความมั่นคงไปด้วย งานนี้ต้องบอกว่า น่าจะถึงคราวทบทวนตัวเองทั้งระบบเช่นกัน ยังไงคงต้องไปคิดกันเอง ไม่ใช่ไร้ความรับผิดชอบ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องตลก เพราะสื่อเกษตรส่วนใหญ่บอกตรงเขาไม่สบายใจ เข้าใจตรงกันแล้วควรแก้ไขก่อนเรื่องบานปลาย

มาอีกเรื่องที่เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรฯไม่สบายใจนั้น ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องม็อบยาง ที่พาพวกเดินสาย ร้องทุกเวทีเพื่อให้แก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ แม้ท่านนายกรัฐมนตรี“บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะออกมาขอร้องว่าให้มาใช้วิธีพูดคุย และทำความเข้าใจร่วมกัน แต่ท่านพี่ม็อบ ที่นำโดย “อุทัยสอนหลักทรัพย์” ก็ยังเดินสายไม่ยั้ง ทุกเวทีที่พอจะแสดงให้โลกได้เห็นว่าข้าหละผู้นำยาง แม้ว่าการยางแห่งประเทศไทย จะเดินสายทำความเข้าใจ ถึงแก่นที่ทำให้ราคายางพาราตกต่ำว่าเกิดจากการสร้างกระแสของคนบางกลุ่ม ปล่อยข่าว ในเชิงจิตวิทยาว่า ยางล้นตลาด จนทำให้พ่อค้าไม่กล้าซื้อยาง และจะแหกปากชี้แจงอย่างไร นั้นก็ไม่เป็นผล

งานนี้ ท่านรัฐมนตรี ต้องออกโรงเองเมื่อม็อบยางบุกยื่นหนังสือ ที่กระทรวงเกษตรฯ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า อย่าใช้วิธีของการเมืองมาใช้กับทางทหาร เพราะไร้ผล มีอะไรต้องเข้ามาพูดคุยไม่ใช่เดินสายเลียบค่ายด่าไม่สนใจผิดถูกเพราะยิ่งปล่อยข่าว ปัญหาราคายางยิ่งบานปลาย ซึ่งทำให้สยบม็อบได้พอสมควร ก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว เพราะปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อผู้ว่า กยท. “ธีธัช สุขสะอาด” ลงพื้นที่ เดินสายทำความเข้าใจ พี่น้องชาวสวนยางทราบ ถึงมาตรการแก้ปัญหาราคายางที่จังหวัดระยอง แต่ก็ไม่วาย เจอแกนนำม็อบยางอย่าง “อุทัย” ไปจ้อแทน ชาวสวนยางจน เล่นเอาผู้ว่า กยท. นอตหลุด อย่างนี้ต้องบอกว่า เป็นปัญหาที่เรื่องของความเข้าใจ จริงๆส่วนจะเอาอย่างไง ต้องหาวิธีให้ชัดเจน นะเจ้าคะ ท่าน ส่วนจะอย่างไง ต้องคิดเอง

ราชดำเนิน