แจงสี่เบี้ย : โครงการ‘9101ตามรอยเท้าพ่อฯ’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/287117

227832

แจงสี่เบี้ย : โครงการ‘9101ตามรอยเท้าพ่อฯ’

วันจันทร์ ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

กรมพัฒนาที่ดิน ได้ร่วมดำเนินโครงการ “9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน”ในส่วนของกิจกรรมด้านการผลิตปุ๋ยอินทรีย์และกิจกรรมด้านการปรับปรุงบำรุงดิน โดยสั่งการให้สถานีพัฒนาที่ดินจัดส่งเจ้าหน้าที่ให้ความรู้คำแนะนำ รวมถึงการสนับสนุนผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพ (สารเร่ง พด.) ในพื้นที่ศูนย์กลางที่กลุ่มชุมชนเข้ารับการเรียนรู้กิจกรรมด้านการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งเป็นการนำวัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นที่ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกันร่วมกับการใช้สารเร่งเร่งซุปเปอร์ พด.1 ทำการผลิตปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยหมักสูตรพระราชทาน สารเร่งซุปเปอร์ พด.2สำหรับการผลิตน้ำหมักชีวภาพ การผลิตปุ๋ยนอกจากจะช่วยปรับปรุงบำรุงดินให้มีคุณภาพดีเหมาะสมกับการเพาะปลูกพืช สามารถลดต้นทุนผลิต และส่งเสริมให้ผลิตสารขับไล่แมลงศัตรูพืชโดยใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด. เพื่อลดการใช้สารเคมีในพื้นที่การเกษตร

ในส่วนของกิจกรรมด้านการปรับปรุงบำรุงดิน ได้แนะแนวทางปรับปรุงบำรุงดินด้วยวิธีการต่างๆ อาทิ การปรับสภาพความเป็นกรดของดินโดยใช้วัสดุปูนทำการปรับปรุงบำรุงดิน การเพิ่มฮอร์โมนการเจริญเติบโตของพืช การเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน การดูแลรักษาความชื้นในดิน การจัดการดินหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต

สำหรับเกษตรกรที่สนใจเกี่ยวกับกิจกรรมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และกิจกรรมการปรับปรุงบำรุงดิน แต่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ สามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่…สถานีพัฒนาที่ดินใกล้บ้านทุกจังหวัดและหมอดินอาสาประจำหมู่บ้านหรือกลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมพัฒนาที่ดิน โทร.0-2579-8515

แจงสี่เบี้ย : หมอดินอาสานนทบุรี ปราชญ์เกษตรกรของแผ่นดินปี’60

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/282839

227832

แจงสี่เบี้ย : หมอดินอาสานนทบุรี ปราชญ์เกษตรกรของแผ่นดินปี’60

วันพฤหัสบดี ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

“นายยวง เขียวนิล” หมอดินอาสาประจำจังหวัดนนทบุรี ปราชญ์เกษตรกรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2560 เป็นอีกผู้หนึ่งซึ่งได้รับการยกย่องและเชิดชูเกียรติแก่ผู้ทรงภูมิปัญญาด้านการเกษตรในสาขาเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงเป็นผู้มีคุณความดี มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ในการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และความสามารสู่สังคม

นายยวง เขียวนิล เปิดเผยว่า เดิมเมื่อปี 2531 ทำการเกษตรแล้วพบปัญหาเรื่องสภาพดิน ทำให้ปลูกพืชไม่ประสบ
ความสำเร็จ จึงขอรับคำปรึกษาและคำแนะนำจากกรมพัฒนาที่ดินจนได้รับความรู้เรื่องการปรับปรุงดิน รวมทั้งการทำปุ๋ยหมักด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพกรมพัฒนาที่ดินซึ่งหลังจากนำมาใช้จริงพบว่า สามารถฟื้นสภาพดินให้ดีขึ้น ปลูกพืชผักได้ ทำให้เกษตรกรพื้นที่ข้างเคียงเข้ามาสอบถามจึงได้แนะแนวทางและวิธีการปรับปรุงบำรุงดิน จากนั้นจึงเริ่มศึกษาการเกษตรตามแนวทางทฤษฎีใหม่ของในหลวง รัชกาลที่ 9 รวมถึงการทำเกษตรผสมผสาน

จากความพยายามและการทุ่มเทในการปรับปรุงบำรุงดินในพื้นที่ให้มีคุณภาพที่ดิน สามารถปลูกพืชได้หลากหลาย ส่งผลให้ลุงยวงได้รับการคัดเลือกให้เป็นหมอดินอาสาดีเด่นของเขต อีกทั้งได้พัฒนาพื้นที่ของตนเองให้กลายเป็นแหล่งการเรียนรู้เรื่องการทำการเกษตรให้มีคุณภาพ และถ่ายทอดความรู้ให้แก่ชุมชน เกษตรกรที่สนใจได้เข้ามาศึกษาหาความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อนำมาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

“ดินเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะปลูกต้นไม้สักต้น จะต้องพึ่งพาดิน หากดินไม่ดีต้นก็ไม่สามารถเติบโตได้ และจากประสบการณ์ การดูลักษณะสีของดิน จะทำให้ได้รู้ว่า ดินลักษณะไหนคือดินที่ดี และทราบถึงคุณสมบัติดินว่าดินแบบไหนคือดินที่จะต้องปรับปรุง โดยการพัฒนาที่ดินนั้น จะมองว่ายากก็ไม่ยาก จะมองว่าง่ายก็ไม่ง่าย แต่ถ้าหากได้มีการศึกษา จะทำให้เราสามารถต่อยอดความรู้ได้อย่างไม่มีวันหยุด” นายยวง กล่าว

แจงสี่เบี้ย : ‘เกษตรวิชญา’ ศูนย์เรียนรู้เกษตรและธรรมชาติยั่งยืน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/279823

227832

แจงสี่เบี้ย : ‘เกษตรวิชญา’ ศูนย์เรียนรู้เกษตรและธรรมชาติยั่งยืน

วันจันทร์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

“เกษตรวิชญา” เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตรที่ตั้งอยู่ภาคเหนือของไทย ตามพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งพระราชทานที่ดินส่วนพระองค์ บริเวณ บ้านกองแหะ หมู่ที่ 4 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จำนวน 1,350 ไร่ ให้กระทรวงเกษตรฯ นำไปดำเนินการในลักษณะเป็นคลินิกเกษตร เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงบนพื้นที่สูง

กรมพัฒนาที่ดิน เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโครงการร่วมกับหน่วยงานอื่น โดยมีภารกิจหลักในการสำรวจและวางแผนการใช้ที่ดิน การใช้ประโยชน์ที่ดินและการพัฒนาที่ดิน การปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ มีความเหมาะสมกับการเพาะปลูกพืช การสำรวจข้อมูลต่างๆ

สำหรับการดำเนินงานในพื้นที่โครงการเกษตรวิชญา เป็นการบูรณาการร่วมของหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันพัฒนาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ นำไปสู่การใช้ที่ดินอย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของทรัพยากร ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 5 ส่วน ดังนี้ ได้แก่ ส่วนที่หนึ่ง เป็นพื้นที่ทรงงาน 32 ไร่ ส่วนที่สอง  เป็นพื้นที่ส่วนราชการ 138 ไร่ เป็นที่ตั้งของอาคารศูนย์เรียนรู้ อาคารฝึกอบรม แปลงสาธิตจุดเรียนรู้การพัฒนาการเกษตรแบบครบวงจร รวมถึงระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ส่วนที่สาม เป็นพื้นที่พัฒนาการเกษตร 139 ไร่ ส่วนที่สี่ เป็นพื้นที่วนเกษตรและธนาคารอาหารชุมชน 132 ไร่ มีการพัฒนาพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม อนุรักษ์แหล่งต้นน้ำลำธาร โดยปัจจุบันชุมชนของเกษตรกรรอบโครงการ 10 หมู่บ้าน 2,335 ครัวเรือน ประชากร 9,837 ราย ได้รับการถ่ายทอดความรู้ให้สามารถนำไปปฏิบัติในพื้นที่ของตนเองได้ อันจะยังให้เกิดประโยชน์สมดังพระราชประสงค์ต่อไป

แจงสี่เบี้ย : ‘หญ้าแฝก’พืชมหัศจรรย์ในพื้นที่การเกษตร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/277909

227832

แจงสี่เบี้ย : ‘หญ้าแฝก’พืชมหัศจรรย์ในพื้นที่การเกษตร

วันพฤหัสบดี ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560, 06.00 น.

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระวิสัยทัศน์อันยาวไกลในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ทรงศึกษาวิเคราะห์การแก้ไขปัญหาการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่สูงและลาดชัน โดยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2534 พระราชทานพระราชดำริ “หญ้าแฝก” ครั้งแรก ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กับ นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการกปร.ขณะนั้นว่า ให้ศึกษาทดลองปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดินและอนุรักษ์ความชุ่มชื้นในดิน ด้วยวิธีการแบบง่ายๆ ประหยัด เกษตรกรสามารถดำเนินการเองได้ โดยไม่ต้องดูแลหลังการปลูกมากนัก

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กรมพัฒนาที่ดินจึงได้จัดทำ “โครงการแปดล้านเก้ากล้าหญ้าแฝกน้อมเกล้าพ่อแห่งแผ่นดิน ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร”โดยปลูกหญ้าแฝก 8,900,000 กล้า เพื่อถวายความอาลัยและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ตลอดจนเป็นการสืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์ดินและน้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์ โดยให้สำนักงานพัฒนาที่ดินทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ ดำเนินการคัดเลือกพื้นที่ในการปลูกหญ้าแฝก พร้อมกับเชิญชวนเกษตรกรและประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน – 9 กรกฎาคม 2560

“หญ้าแฝก” (Vetiver Grass) เป็นพืชที่ขึ้นเป็นกอ ใบเป็นรูปขอบขนานแคบปลายสอบแหลมยาว 35-80 ซม. กว้าง 5-9 มม. มีคุณลักษณะพิเศษที่มีระบบรากหยั่งลึกแผ่กระจายลงไปในดินตรงๆ รากจะสานต่อกันแน่นเหมือนตาข่าย เป็นกำแพงใต้ดินเสมือนกำแพงธรรมชาติที่มีชีวิต ป้องกันการพังทลายของดิน ป้องกันดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน สามารถนำไปปลูกบนพื้นที่สองข้างรอบขอบคลองชลประทาน อาทิ อ่างเก็บน้ำ บ่อน้ำ ของตลิ่งคอสะพาน ไหล่ถนนเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน

แจงสี่เบี้ย : วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ทุ่งทองยั่งยืน ธนาคารปุ๋ยอินทรีย์‘สุพรรณบุรี’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/277339

227832

แจงสี่เบี้ย : วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ทุ่งทองยั่งยืน ธนาคารปุ๋ยอินทรีย์‘สุพรรณบุรี’

วันจันทร์ ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ศูนย์เรียนรู้และบริการด้านการพัฒนาที่ดิน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ทุ่งทองยั่งยืน ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เป็นอีกหนึ่งโครงการนำร่อง“ธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ (ปุ๋ยหมักสูตรพระราชทาน และน้ำหมักชีวภาพ)” โดยสถานีพัฒนาที่ดินสุพรรณบุรีให้การสนับสนุนวัสดุในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ รวมถึงการน้อมนำสูตรปุ๋ยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาเป็นจุดตั้งต้นในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ในพื้นที่ ทำให้เกษตรกรสามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์และสารอินทรีย์ที่ได้มาตรฐานในราคายุติธรรม เกิดเครือข่ายการผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในชุมชนใช้ปุ๋ยอินทรีย์และสารชีวภาพอย่างต่อเนื่องช่วยให้ดินลดการสูญเสียธาตุอาหาร ทำให้สามารถยืดอายุการใช้ประโยชน์ให้นานขึ้น ลดต้นทุนการผลิตด้านการปลูกพืช และเพิ่มรายได้ ทำให้เกษตรกรมีชีวิตที่ดีขึ้น

กรมพัฒนาที่ดิน ได้ดำเนินการจัดตั้งธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ขึ้นในพื้นที่การดูแลของสถานีพัฒนาที่ดินในแต่ละจังหวัดรวมถึงหน่วยงานภายในกรมพัฒนาที่ดินที่มีศักยภาพในการผลิต เพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์ โดยมุ่งเน้นให้เกษตรกรนำเอาเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นา ในครัวเรือน และจากโรงงานอุตสาหกรรม มาฝากไว้ที่ธนาคารธนาคารจะทำการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ให้เกษตรกรมาเบิกถอนเอาไปใช้ประโยชน์เมื่อวัสดุนั้นย่อยสลายเป็นปุ๋ยแล้ว หรือให้เกษตรกรกู้ยืมปุ๋ยจากธนาคารไปใช้แล้วใช้หนี้ด้วยวัสดุเหลือใช้จากไร่นา และโรงงานอุตสาหกรรมหรือปุ๋ยคอก เพื่อให้เกิดการผลิตและมีการนำไปใช้ประโยชน์ได้ถูกต้อง มีราคาถูกพร้อมทั้งช่วยลดปัญหาการเผาและปัญหาจากกำจัดหรือทิ้งขยะในอนาคต นอกจากนี้กรมพัฒนาที่ดินได้น้อมนำปุ๋ยหมักสูตรพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาเผยแพร่ให้เกษตรกรนำไปดำเนินการและใช้ในพื้นที่ของตนเองด้วย

ธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ จัดเป็นอีกหนึ่งโครงการการตามนโยบายธนาคารสินค้าเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีเป้าหมายสุดท้าย คือ คุณภาพชีวิตของเกษตรกรดีขึ้น มีความภูมิใจ ในอาชีพเกษตรกร มีรายได้เพิ่มขึ้น และหนี้สินลดลง ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ มีตลาดรองรับ มีต้นทุนต่ำและมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ธนาคารสินค้าเกษตรสามารถเชื่อมโยงกับนโยบายหลักได้ เมื่อรู้ปริมาณ ระยะเวลาผลผลิตสินค้าเกษตรออกสู่ตลาด และคุณภาพของสินค้าเกษตร เพื่อวางแผนชะลอการออกสู่ตลาดพร้อมกันของสินค้าเกษตรโดยการฝากและถอนในเวลาที่เหมาะสมและจัดเตรียมปัจจัย การผลิตของแต่ละสินค้าเกษตร ที่ธนาคารสามารถให้บริการได้ โดยการยืมและนำมาคืน ในราคาที่ถูกกว่าเกษตรกรดำเนินการด้วยตนเอง

แจงสี่เบี้ย : พด.จัดประชุมวิชาการดินและปุ๋ยแห่งชาติ ครั้งที่ 5 ‘ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านดินและปุ๋ยสู่…เกษตร 4.0’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/272669

วันอังคาร ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

227832

กรมพัฒนาที่ดินเป็นเจ้าภาพจัดร่วมกับสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย และสมาคมอนุรักษ์ดินและน้ำแห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ จัดการประชุมวิชาการดินและปุ๋ยแห่งชาติ ครั้งที่ 5 เพื่อเปิดโอกาสให้นักวิชาการจากสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรอื่นๆ ทั่วประเทศ ใช้เป็นเวทีเผยแพร่ผลงานวิจัย แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และประสบการณ์ในสาขาวิชาด้านดินและปุ๋ยส่งเสริมการพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ รวมทั้งเป็นเวทีอภิปรายเสวนา สร้างความรู้และความเข้าใจถึงแนวทางการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านดินและปุ๋ยสู่เกษตร 4.0 ที่มีเป้าหมายการพัฒนาการเกษตรของประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกร เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ส่งเสริมการปรับตัวและสร้างภูมิคุ้มกันภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก และมีการบริหารจัดการทรัพยากรดินที่มีความสมดุลและยั่งยืน

การประชุมวิชาการดินและปุ๋ยแห่งชาติ ครั้งที่ 5 หัวข้อ “ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านดินและปุ๋ย ก้าวสู่เกษตร 4.0” ระหว่างวันที่ 1-2 สิงหาคม 2560 ณ โรงแรมเซ็นทราบาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถส่งบทความเข้ามาได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 มิถุนายน 2560 จากนั้นผู้ทรงคุณวุฒิจะพิจารณาบทความและแจ้งผู้ส่งผลงานแก้ไข ภายใน 15 กรกฎาคม-30 มิถนายนพร้อมกับแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิ์นำเสนอผลงานภาคบรรยายและนิทรรศการ ในวันที่ 30 มิถุนายน 2560 และประกาศรายชื่อผู้นำเสนอผลงาน 15 กรกฎาคม 2560 โดยผลงานที่จะนำเสนอภาคบรรยาย จะต้องส่งทั้งบทคัดย่อและเรื่องเต็มสำหรับผลงานที่จะเสนอภาคนิทรรศการ จะต้องส่งบทคัดย่อ หรือส่งบทคัดย่อและเรื่องเต็ม ในกรณีที่มีความประสงค์ให้ลงพิมพ์ผลงานในเอกสารประกอบการประชุม(proceeding) สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ldd.go.th/WEB_NSFC/index.htm

แจงสี่เบี้ย : ‘Field day’ ศพก.ตาพระยา ชูจุดเด่นพัฒนาพืชพลังงานอย่างยั่งยืน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/272518

วันจันทร์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

227832

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายให้ทุกจังหวัดดำเนินการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ฤดูกาลผลิตใหม่ปี 2560/2561 โดยให้ทุกหน่วยงานร่วมบูรณาการสนับสนุนเกษตรกรให้มีองค์ความรู้เพื่อวางแผนการผลิต เข้าถึงปัจจัยการผลิต บริหารจัดการความเสี่ยงและสร้างความเข้มแข็ง

สำหรับวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field day) เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว สถานีพัฒนาที่ดินสระแก้ว ได้ร่วมจัดนิทรรศการการถ่ายทอดเทคโนโลยี ฐานเรียนรู้ การผลิตปุ๋ยน้ำชีวภาพ การให้ความรู้ด้านการปรับปรุงบำรุงดิน และแจกผลิตภัณฑ์ พด. รวมทั้งให้บริการตรวจวิเคราะห์ดินให้กับเกษตรกร โดย นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เป็นตัวแทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดงาน ซึ่งมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาเพื่อเพิ่มผลผลิตพืชพลังงาน(มันสำปะหลัง) และบริการการเกษตรเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2560 พร้อมกับมอบพันธุ์ปลาและปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกร ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลาเพื่อเป็นแหล่งอาหารให้ชุมชน ปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ ปลูกต้นมันสำปะหลังเพื่อเริ่มต้นฤดูการผลิตใหม่ โดยมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ เกษตรกร และประชาชนเข้าร่วมประมาณ 500 คน ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา จ้งหวัดสระแก้ว

ทั้งนี้ การจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field day) เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ เป็นการจัดงานเพื่อถ่ายทอดความรู้แบบเห็นของจริง เกษตรกรสามารถเริ่มต้นการผลิตในปีการเพาะปลูกใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ผ่านกลไก ศพก. โดยกรมพัฒนาที่ดินร่วมกันแบบบูรณาการทั้งในการสนับสนุนเกษตรกรให้มีองค์ความรู้ เพื่อวางแผนการผลิต เข้าถึงปัจจัยการผลิต บริหารจัดการความเสี่ยงและสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร

แจงสี่เบี้ย : การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ช่วยลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิตพืชอย่างยั่งยืน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/271478

วันอังคาร ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

227832

ปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้อง ทำให้ใส่ปุ๋ยในอัตราสูงความต้องการพืชและดิน โดยเฉพาะช่วงที่ปุ๋ยเคมีราคาแพง ต้นทุนการผลิตมากขึ้นไปด้วย กระทรวงเกษตรฯจึงมีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรให้ใช้ปุ๋ยในพืชหลักต่างๆอย่างพอเพียงเพื่อช่วยลดรายจ่าย โดยมอบให้กรมพัฒนาที่ดิน เผยแพร่องค์ความรู้การวิเคราะห์ดินในพื้นที่ การใช้ปุ๋ยที่ถูกวิธี และร่วมวางแผนการใช้ปุ๋ยกับกลุ่มเกษตรกร พร้อมให้ความสำคัญกับแปลงใหญ่เป็นลำดับแรก เพื่อให้ใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสมกับความต้องการของพืช

ทั้งนี้การวิเคราะห์ดินให้ทราบความอุดมสมบูรณ์และปัญหาของดินในแปลงปลูก พร้อมคำแนะนำในการปรับปรุงแก้ไข เช่น การใช้ปุ๋ย การใช้วัสดุปูนปรับปรุงดินกรดหรือดินเปรี้ยวจัด รวมทั้งการใช้การวัสดุหรือสารปรับปรุงดินอย่างอื่นตามความจำเป็น เพื่อให้สามารถปลูกพืชแล้วได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นและมีคุณภาพดีขึ้น เมื่อได้รับผลวิเคราะห์ดินแล้วพบว่า ดินมีความเป็นกรด หรือมีอินทรียวัตถุธาตุ อาหารพืช ฟอสฟอรัส หรือโพแทสเซียมต่ำ ดินนั้นย่อมต้องการการแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้สามารถใช้ในการเพาะปลูกพืชให้ได้ผลผลิตคุ้มค่าต่อการลงทุน การจัดการดินตามผลวิเคราะห์ ดินนี้ให้ได้ตัวอย่าง เพื่อให้สามารถอ่านรายงานผลวิเคราะห์ตัวอย่างดินได้ถูกต้อง และสามารถนำไปปฏิบัติหรือให้คำแนะนำแก่เกษตรกรรายอื่นได้

ส่วนการลดต้นทุนการผลิต โดยการใส่ปุ๋ยเท่าที่จำเป็นจะช่วยให้ได้ผลผลิตพืชที่ทำให้ผลกำไรสูงสุด การใส่ปุ๋ยเท่าที่จำเป็นนั้น จะต้องประกอบไปด้วยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีในอัตราและสัดส่วนที่พอเหมาะ ซึ่งจะทราบถึงอัตราและสัดส่วนจากการวิเคราะห์ตัวอย่างดิน ซึ่งจะทำให้รู้ถึงสมบัติทางกายภาพและเคมีของดิน จากนั้นก็กำหนดสูตร (สัดส่วน) และอัตรา (ปริมาณ) ปุ๋ยที่ต้องใส่ให้กับพืช ตามชนิด สายพันธุ์ ช่วงอายุ และตามสภาพภูมิอากาศในแต่ละท้องถิ่นด้วย เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนทางการเกษตรและการพัฒนาภาคการเกษตรของไทยในปัจจุบันและอนาคต

แจงสี่เบี้ย : ‘54 ปี กรมพัฒนาที่ดิน’ ขับเคลื่อนชีวิตเกษตรกรสู่ความยั่งยืน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/271283

วันจันทร์ ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

227832

เนื่องในโอกาสครบรอบ 54 ปี ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ กรมพัฒนาที่ดิน กำหนดจัดงานวันสถาปนากรมพัฒนาที่ดิน ภายใต้หัวข้อ “54 ปี พัฒนาที่ดิน ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตเกษตรกรสู่ความยั่งยืน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ประกาศให้ปี 2560 เป็น “ปีแห่งการยกระดับมาตรฐานการเกษตรสู่ความยั่งยืน”

โดยไฮไลท์สำคัญของการจัดงาน คือ การจัดแสดงนิทรรศการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ นิทรรศการแนวคิด “การยกกระดาษ A4” ของ รมว.กษ. นิทรรศการ Agri-Map Online นิทรรศการ Zoningby Agri-Map นิทรรศการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร นิทรรศการเกษตรแปลงใหญ่ นิทรรศการเกษตรทฤษฎีใหม่/เกษตรผสมผสาน นิทรรศการจัดหาที่ดินทำกิน (ยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก.) นิทรรศการระบบส่งน้ำ/กระจายน้ำ นิทรรศการแผนผลิตข้าวครบวงจร (การปลูกพืชปุ๋ยสด ปอเทือง) นิทรรศการธนาคารสินค้าเกษตร (ธนาคารปุ๋ยอินทรีย์) นิทรรศการ Smart Office/Smart farmer และนิทรรศการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร

นอกจากนี้ ยังมีการจัดประชุมคัดเลือกผลงานวิชาการกรมพัฒนาที่ดิน ปี 2560 การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การเพิ่มประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงาน Back Office” เพื่อสร้าง Smart Officer การฝึกอบรมประชาชนทั่วไป หลักสูตร “ผลิตภัณฑ์ จุลินทรีย์ พด. เพื่อปรับปรุงดิน เพิ่มธาตุอาหาร ฮอร์โมนพืช และรักษาสิ่งแวดล้อม” การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560 สมาคมอนุรักษ์ดินและน้ำแห่งประเทศไทย ห้องประชุม 801 ชั้น 8 รวมทั้งให้เกษตรกรได้ออกร้านจัดจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์ สินค้าเกษตรอินทรีย์คุณภาพดีเกรดพรีเมียม ราคาถูกกว่าท้องตลาด

แจงสี่เบี้ย : พด.เร่งขับเคลื่อนและพัฒนาเกษตรอินทรีย์ไทยอย่างยั่งยืน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/268089

วันอังคาร ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 02.00 น.

227832

การตอบโจทย์ว่า ทำอย่างไรให้การทำเกษตรอินทรีย์เกิดการพัฒนาที่เป็นองค์รวมตลอดห่วงโซ่การผลิตถึงการบริโภคก่อให้เกิดความยั่งยืน กรมพัฒนาที่ดินจึงเร่งเดินหน้าขยายผลลการทำเกษตรอินทรีย์ให้มากขึ้น โดยจำเป็นต้องมีแนวร่วมเครือข่ายพันธมิตรเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ผลิตตลอดห่วงโซ่จนถึงผู้บริโภค ซึ่งมีรูปแบบการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ที่มีความหลากหลายมากขึ้นด้วยพลังการขับเคลื่อน 3 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านผู้บริโภคและผู้ประกอบการ มีความตื่นตัวเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทำให้ตลาดมีความต้องการอาหารอินทรีย์ 2.ด้านผู้ผลิตโดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่มีจิตวิญญาณ เห็นคุณค่าของระบบเกษตรนิเวศน์ที่ไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ ทำให้ลดต้นทุนการผลิต ก่อเกิดรายได้ที่มั่นคง คุณภาพชีวิต สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมดีขึ้น เกิดระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงและอยู่รอด 3.จากการขับเคลื่อนของหน่วยงานภาครัฐ องค์กรต่างๆ ที่สนับสนุนการปรับเปลี่ยนสู่การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดความมั่นคงทางอาหารและพัฒนาคุณภาพชีวิตไปพร้อมกัน

กรมพัฒนาที่ดิน จึงเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ โดยชูแผนการดำเนินงานใช้ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม
(PGS) ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค หวังยกระดับสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน ซึ่งในปัจจุบันเกษตรอินทรีย์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ด้วยความตระหนักรู้ของผู้บริโภคและผู้ผลิตต่อวิกฤตโลกที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน การแสวงหาแนวทางความยั่งยืนที่แท้จริงต่อการผลิตและการบริโภคอาหารตอบสนองวิกฤติโลกต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ ความมั่นคงทางอาหาร ห่วงโซ่การผลิตและการบริโภคสั้น อาหารสุขภาพปราศจากสารเคมีสารพิษ สวัสดิภาพสัตว์ ความเสมอภาคทางสังคม และการพัฒนาคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อมโดยรวมของประชากร ในขณะที่อัตราการบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างรวมเร็ว แต่ด้านการผลิตยังเป็นไปอย่างช้าๆ

สำหรับการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ดังกล่าวได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์กรมพัฒนาที่ดิน” เพื่อชี้แจงนโยบายเกษตรอินทรีย์และแนวทางการดำเนินงานโครงการเกษตรอินทรีย์ ปี 2560 กรมพัฒนาที่ดินได้มุ่งเน้นที่การสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรผ่านระบบการตรวจรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (PGS) มีเป้าหมายเริ่มจากพี่น้องเกษตรกรรายย่อยเดิมที่ทำเกษตรอินทรีย์อยู่แล้วแต่ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้ เนื่องจากไม่สามารถตรวจรับรองจากหน่วยงานต่างๆ ได้ แต่กระบวนการรับรองแบบมีส่วนร่วมดังกล่าว เป็นกระบวนการรับรองโดยใช้รูปแบบการรับรองโดยเกษตรกรด้วยกันเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งยังเป็นรูปแบบและมาตรฐานเดียวกับที่ยอมรับกันในระดับสากล คาดว่าจะสามารถส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้รับการรับรองจากระบบดังกล่าว และสร้างความเชื่อถือในผลผลิตเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป