แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/686270

วันที่ 23 มิ.ย. 2565 เวลา 19:41 น.

แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค

MCM แบรนด์เครื่องหนังสุดหรูจากประเทศเยอรมนี จัดงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN – WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค

แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค

ยิ่งใหญ่สมเป็นแบรนด์ระดับโลก MCM (Modern Creation München) แบรนด์เครื่องหนังสุดหรูจากประเทศเยอรมนี จัดงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN – WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค ถ่ายทอดแรงบันดาลใจของการเคลื่อนไหว “The Movement ” นำพาเราสู่การเดินทางในรูปแบบต่างๆ รวมถึงความมีชีวิตชีวาที่ยังคงรักษาความยั่งยืนและเพิ่มความหรูหราที่แปลกใหม่ขึ้น ผ่านกราฟฟิกโดดเด่นสีสันสดใสเพิ่มความสนุกสนานที่ถูกถ่ายทอดลงบนเสื้อผ้า เรดี้ทูแวร์ของทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีรวมไปถึงกระเป๋า ผ่าน 3 แคปซูลคอลเลกชั่นที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ณ ร้าน MCM ชั้น M ศูนย์การค้าไอคอนสยาม

แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค
แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค
แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค

คุณสลิล สุญาณเศรษฐกร กรรมการบริหาร บริษัท พีพี แกลม จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ MCM (เอ็ม ซี เอ็ม) กล่าวว่า ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ MCM ได้เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่แรกในการเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN-WINTER 2022 คอลเลกชั่นใหม่ผลงานการออกแบบของ Global Brand Officer หรือครีเอทีฟของแบรนด์ เดิร์ก ชอนเบอร์เกอร์ (Dirk Schönberger) ที่ต้องการนำเสนอการเคลื่อนไหว “The Movement ” เพื่อนำพาเราไปสู่การเดินทางในรูปแบบต่างๆ ผ่านกราฟฟิกโดดเด่นสีสันสดใสเพิ่มความสนุกสนานที่ถูกถ่ายทอดลงบนเสื้อผ้าและกระเป๋าที่ได้รวบรวมคีย์ลุคไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า (Ready To Wear) หรือ กระเป๋า (Leather Goods) ซึ่งส่งตรงมาเปิดตัวในงานนี้เป็นครั้งแรกของโลก ถ่ายทอดผ่าน Live Mannequins ซึ่งเป็นแขกผู้มีเกียรติของทางแบรนด์ นอกเหนือจากความพิเศษนี้ ภายในงานยังมี DJ Booth และ Cocktail bar ที่ถูกตกแต่งด้วยไฟ LED ในดีไซน์พิเศษสุดอลังการ พร้อมเครื่องดื่มสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ

แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค
แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค
แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค

ภายในงานได้รับเกียรติจากมิวส์ของแบรนด์ MCM นำโดย แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ และ ปราง-กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล พร้อมด้วยศิลปินนักแสดงแถวหน้าของเมืองไทย อย่าง  มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง, ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร, บลู-พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ, ซี-พฤกษ์ พานิช, นุนิว-ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์ และ โบกี้ ไลอ้อน-พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ ที่มาใน MCM โททัลลุคสุดไอคอนิก

แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค
แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค
แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค
แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค
แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค
แต้ว–ปราง มิวส์แบรนด์ MCM นำทีมร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น AUTUMN–WINTER 2022 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค

พบกับคอลเลกชั่น AUTUMN – WINTER 2022 จากแบรนด์ MCM ได้แล้ววันนี้ที่ช็อปทุกสาขา หรือช้อปออนไลน์ผ่านทาง LINE: @MCMTHAILAND FB: MCMTHAILANDOFFICIAL และ IG: @MCMTHAILAND

Refresh Your Summer with Nespresso Barista Creations for Ice

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/686170

วันที่ 22 มิ.ย. 2565 เวลา 17:50 น.

Refresh Your Summer with Nespresso Barista Creations for Ice

NESPRESSO สร้างสรรค์ประสบการณ์การจิบกาแฟฤดูร้อนแบบฉบับเฮลท์ตี้ พร้อมบูสต์พลังบวกตลอดซัมเมอร์ 2022

Refresh Your Summer with Nespresso Barista Creations for Ice

เมื่อลมร้อนมาพร้อมเกลียวคลื่นแห่งความสดชื่นซัดสาดเข้าสู่ฝั่ง สัญญาณแห่งฤดูกาลใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวาก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ซัมเมอร์นี้ เนสเพรสโซ (NESPRESSO) จัดเอ็กซ์คลูซีฟอีเว้นท์ “Refresh Your Summer with Nespresso Barista Creations for Ice” ที่ The Glass House ปาร์คนายเลิศ รังสรรค์ประสบการณ์การดื่มด่ำรสชาติของกาแฟแห่งฤดูร้อนที่มาพร้อมกับ Brazilian Vibes ถ่ายทอดความสนุกสนานและสีสันสดใสสะท้อนบรรยากาศซัมเมอร์ของชายหาดบราซิล ที่เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก พร้อมส่งต่อพลังบวกให้เหล่าคอกาแฟได้ดื่มด่ำกับรสชาติใหม่จาก Barista Creations Liminha over Ice จากคอลเลกชั่น Summer 2022 ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ไกปีรีญา (Caipirinha) เครื่องดื่มค็อกเทลอันเลื่องชื่อประจำชาติบราซิล นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมความพิเศษไปอีกระดับกับการกลับมาอีกครั้งของกาแฟ 3 รสชาติขายดีจากปีที่แล้วในกลุ่ม Barista Creations for Ice อย่าง “Freddo Intenso” “Freddo Delicato” และ “Coconut Flavour over Ice” ซึ่งเป็นที่โปรดปรานจากเหล่าคอกาแฟ พร้อมเติมความสดชื่นให้สุดกว่าที่เคย

Refresh Your Summer with Nespresso Barista Creations for Ice

สำหรับความพิเศษของแคมเปญ Summer 2022 เนสเพรสโซได้จับมือนางแบบระดับโลกควบดีกรีนักแสดงสาวสวยอย่าง ‘อเลสซานดร้า แอมโบรซิโอ’ (Alessandra Ambrosio) มาเป็นมิวส์ ร่วมนำเสนอประสบการณ์หน้าร้อนอันแสนประทับใจ พร้อมถ่ายทอดแรงบันดาลใจในสู่ไลฟ์สไตล์สุดการใช้ชีวิตแบบเฮลท์ตี้ เพื่อปรนนิบัติสุขภาพกายและใจ สร้างประสบการณ์การพักผ่อนควบคู่การดูแลสุขภาพ โดยงานนี้ที่จัดขึ้นในประเทศไทย เนรมิตชายหาดบราซิลมาไว้ที่กรุงเทพ ด้วยสีเหลืองสดใสและลวดลายใบไม้เขตร้อนสะท้อนคอนเซ็ปต์คอลเล็กชั่นใหม่ พร้อมคอนเซ็ปต์สังสรรค์ริมทะเล ภายในงาน เนสเพรสโซได้เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการเปิดตัว 4 มิวส์ผ่านไลฟ์ช่องทางเฟสบุ๊ก ร่วมนำเสนอประสบการณ์การดื่มกาแฟสุดพิเศษ พร้อมจุดประกายแรงบันดาลใจให้คอฟฟี่เลิฟเวอร์ดื่มด่ำพลังบวกสร้างช่วงเวลาดีๆ จากกาแฟถ้วยโปรดของ เนสเพรสโซ (เข้าชมย้อนหลังได้ที่ Facebook.com/Nespresso.thailand)

Refresh Your Summer with Nespresso Barista Creations for Ice

ชาร์จพลังให้กับวันใหม่ด้วย ‘Sip & Shine’

เริ่มต้นช่วงเวลาที่ดีของวัน สาวอิทเกิร์ลอย่าง เก้า – สุภัสสรา ธนชาต ได้ปลุกพลังรีเฟรชร่างกายในตอนเช้ากับคอนเซ็ปต์ ‘Sip & Shine’ ด้วยการเลือกกาแฟแคปซูล “Barista Creations Freddo Intenso” กาแฟคั่วเข้มผสมผสานนม Plant-based เพื่อสุขภาพ จิบพร้อมเอ็นจอยไปกับอาหารเช้าสุดเฮลท์ตี้มาเติมความสดใสพร้อมได้สุขภาพดีแบบฟีลกู๊ด

Refresh Your Summer with Nespresso Barista Creations for Ice

‘Sip & Breath’ รีเซ็ตร่างกาย – จิตใจเข้าสู่โหมดสมดุล

เมื่อชีวิตเข้าสู่โหมดไร้บาลานซ์ การกดปุ่มรีเซ็ตปรับจูนร่างกายและจิตใจให้กลับสู่สมดุลจึงสำคัญ สาวสวยรักสุขภาพอย่าง แพทริเชีย – ธัญชนก กู๊ด ชวนคอกาแฟมาปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกพร้อมดึงสปิริตกลับคืนมาด้วยการ ‘Sip & Breath’ ดื่มด่ำเมนูกาแฟจากแคปซูล “Barista Creations Freddo Delicato” กาแฟคั่วอ่อนรสชาตินุ่มละมุน ควบคู่การฝึกโยคะรับอากาศบริสุทธิ์และวิตามินดีจากแสงแดดในช่วงเช้า ช่วยให้ร่างกายและจิตใจคืนสู่สมดุล พร้อมเติมพลังบวกให้กับตนเอง

Refresh Your Summer with Nespresso Barista Creations for Ice

‘Sip & Escape’ หลีกหนีความวุ่นวายแล้วมาดื่มด่ำกับความสโลวไลฟ์

ในวันที่ชีวิตต้องการความยืดหยุ่น จะดีไม่น้อยหากรู้จักการลดจังหวะชีวิตให้ช้าลง ปอร์เช่ – ศิวกร อดุลสุทธิกุล นักแสดงหนุ่มมากเอเนอร์จี้ ชวนหนุ่มสาวสายแอคทีฟหลีกหนีความวุ่นวาย ปล่อยใจไปกับความรื่นรมย์ของธรรมชาติอันเงียบสงบ พร้อมดื่มด่ำอรรถรสกับกาแฟแก้วโปรดจาก แคปซูล “Barista Creations Coconut Flavour Over Ice” กลิ่นมะพร้าวหอมหวานละมุน ที่มาช่วยรีเฟรช ความสดชื่นเสมือนได้นั่งจิบกาแฟเย็นอยู่ริมชายหาด

Refresh Your Summer with Nespresso Barista Creations for Ice

สร้างสรรค์ความสุขแบบไม่มีแฮงค์ด้วยการ Sip & Bloom

ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อหาโอกาสผ่อนคลาย แฮงค์เอาท์กับเพื่อน พีพี – กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ไอดอลหนุ่มสุดฮ็อต ร่วมจุดประกายให้คอฟฟี่เลิฟเวอร์ลองลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ๆ ด้วยการรับบทเป็นบาริสต้าสร้างสรรค์รสชาติความสุขจากกาแฟแคปซูล “Barista Creations Liminha Over Ice” รสชาติใหม่ล่าสุด มาพร้อมกลิ่นหอมของฟรุตตี้ โดดเด่นด้วยรสเปรี้ยวของเลมอนตัดรสมินต์ที่หอมสดชื่น สะท้อนคอนเซ็ปต์ Brazilian Vibes เติมเต็มโมเม้นต์ความสดชื่นได้ ฟีลการสังสรรค์ไปกับเดอะแกงค์คนสนิท

Refresh Your Summer with Nespresso Barista Creations for Ice

ยกระดับการดื่มกาแฟเพื่อช่วงเวลาแสนวิเศษท่ามกลางบรรยากาศร้อนระอุตลอดซัมเมอร์ หน้าร้อนปีนี้ เนสเพรสโซนำเสนอ 2 แก้วมัคลิมิเต็ด อิดิชั่นดีไซน์สดใส โดยความพิเศษอยู่ที่แต่ละแก้วจะประดับประดาไปด้วยลายเซ็นของมิวส์ในแคมเปญอย่าง อเลสซานดร้า แอมโบรซิโอ เคียงคู่กับวลีที่ถือเป็นมันตราแห่งซัมเมอร์นี้ ที่เนสเพรสโซคัดสรรมาให้แฟน ๆ สำหรับบรรจุเครื่องดื่มร้อนและเย็นได้ตามสไตล์ที่ชื่นชอบ

เพื่อยกระดับประสบการณ์การเป็นบาริสต้าแบบขั้นสุด เนสเพรสโซเปิดตัวเชคเกอร์สแตนเลสสตีล (micro-brushed stainless- steel Barista Shaker) ที่เพิ่มกิมมิกพิเศษด้วยปากขวดขนาดใหญ่ สามารถทำฟองเครมม่าอย่างง่าย ๆ เพื่อการรังสรรค์กาแฟในแบบฉบับบาริสต้าอย่างแท้จริง

ความสนุกช่วงซัมเมอร์ยังไม่จบแค่นี้! สำหรับคอกาแฟนักเดินทาง สามารถสนุกไปกับแก้วมัคพกพา (Nomad Travel Mug) สีใหม่อย่างสีฟ้าน้ำทะเล พร้อมสร้างสรรค์ช่วงเวลากาแฟดี ๆ ไปกับผลิตภัณฑ์ที่เนสเพรสโซดีไซน์มาเพื่อการเที่ยวชายหาดโดยเฉพาะอย่าง ผ้าขนหนู Upcycled Beach Towel สำหรับรองนั่งริมชายหาดที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลและขวดน้ำ ไม่เพียงเท่านั้นแฟนๆ ของเนสเพรสโซ สามารถติดตามรายละเอียดของกิจกรรมต่างๆ เพื่อลุ้นรับสิทธิพิเศษและของสมนาคุณตลอดแคมเปญได้ที่เฟซบุ๊ก: Facebook.com/Nespresso.thailand

สามารถติดตามรายละเอียดของกิจกรรมต่างๆรวมถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ของคอลเล็กชั่นได้ที่เฟซบุ๊ก: Facebook.com/Nespresso.thailand, อินสตาแกรม: @Nespresso.th #NespressoTH, และไลน์ออฟฟิเชียล แอ็กเคานต์: @NespressoTH

#NespressoTH #Summer2022 #BrazillianVibes

ปรับสมดุลกาย-ใจ เข้าใจต้นตอ พร้อมรับมือความเครียดอย่างยั่งยืน

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/686184

วันที่ 22 มิ.ย. 2565 เวลา 19:25 น.

ปรับสมดุลกาย-ใจ เข้าใจต้นตอ พร้อมรับมือความเครียดอย่างยั่งยืน

อย่าปล่อยความเครียดทิ้งไว้จนนำไปสู่โรคร้ายต่อร่างกายเรา “รักษ” ชวนปรับสมดุลกาย-ใจ เข้าใจต้นตอพร้อมรับมือความเครียดอย่างยั่งยืน

ปรับสมดุลกาย-ใจ เข้าใจต้นตอ พร้อมรับมือความเครียดอย่างยั่งยืน

เมื่อความเครียดคือภัยเงียบ ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจเราโดยไม่รู้ตัว

ความเครียดดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากในยุคสมัยนี้ เพราะมีสิ่งกระตุ้นอันเป็นสาเหตุของความเครียดไม่รู้ตัวมากมาย ทั้งปัจจัยภายนอกจากชีวิตประจำวันอันแสนเร่งรีบ หน้าที่การงานที่กดดัน หรือแม้กระทั่งความขัดแย้งในครอบครัว อีกทั้ง ปัจจัยภายในอย่างการหลั่งสารเคมีในสมอง การย่อยอาหารที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และการอักเสบในร่างกาย ตลอดจนฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะช่วงวัยใกล้หมดประจำเดือน หรือ อาการ Menopause ที่ล้วนสั่งสมทีละเล็กละน้อย และค่อย ๆ ก่อตัวเป็นภัยร้ายต่อกายและใจ บ่อยครั้ง ความเครียดถูกมองข้ามและพัฒนาเป็นโรคยอดฮิตของคนยุคใหม่อย่างโรควิตกกังวล, โรคแพนิก, โรคกลัวสังคม และโรคย้ำคิดย้ำทำ ในที่สุด หากแต่โรคเหล่านี้เป็นโรคที่สามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงได้ โดยมีกุญแจสำคัญคือการทำความเข้าใจและเข้ารับการรักษาต้นตอของปัญหาอย่างตรงจุด

ก่อนเดินหน้าค้นหาสาเหตุรากลึก เรามาทำความเข้าใจกับความเครียดสักเล็กน้อยว่าความเครียดนั้น แท้จริงแล้ว แบ่งออกเป็น 3 ประเภท เริ่มต้นจาก Acute Stress ที่มักเกิดขึ้นแบบฉับพลันและร่างกายเกิดการตอบสนองโดยทันที ซึ่งหากเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จะพัฒนาสู่ระดับถัดไปที่เรียกว่า Episodic Acute Stress มักเป็นผลกระทบมากจากปัญหาสุขภาพเรื้อรัง และเกิดขึ้นกับบุคคลในตำแหน่งงานที่ต้องใช้ความชำนาญการสูงอย่าง นักบิน หรือ ศัลยแพทย์ ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขจะพัฒนาไปสู่ Chronic Stress ที่โดยส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาขัดแย้งภายในครอบครัว หรือปัญหาการเงินและธุรกิจ

ปรับสมดุลกาย-ใจ เข้าใจต้นตอ พร้อมรับมือความเครียดอย่างยั่งยืน

ความเข้าใจอย่างถ่องแท้และการรับมืออย่างถูกต้องถือเป็นกุญแจสำคัญ สู่การปรับสมดุลแก้ปัญหาเรื้อรังอย่างยั่งยืน

หลายครั้งเราไม่อาจควบคุมและเปลี่ยนแปลงปัจจัยภายนอกที่นำมาซึ่งความเครียดได้ แต่เราสามารถดูแลปัจจัยภายในและปรับรูปแบบการใช้ชีวิตเพื่อฝึกฝนและเรียนรู้การรับมือกับความเครียดได้อย่างยั่งยืน รักษ เวลเนส บางกะเจ้า ศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวมแห่งแรกในไทยและในภูมิภาคเอเชีย ชวนทุกท่านที่กำลังเผชิญกับ ‘ภาวะเครียด’ นำความสมดุลคืนสู่ร่างกาย พร้อมทำความเข้าใจร่างกายและจิตใจถึงต้นตอปัญหาสุขภาพ โดยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเวลเนสจาก ศูนย์สุขภาพ ไวทัลไลฟ์ ในเครือโรงพยาบาล บำรุงราษฎร์ นักกายภาพบำบัดจากหลากหลายศาสตร์ และนักโภชนาการ ที่จะร่วมทำการวิเคราะห์เชิงลึกถึงต้นตอสาเหตุของปัญหาที่แท้จริง เพื่อออกแบบคัดสรรทรีตเมนต์บำบัดที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล พร้อมดูแลคุณแบบลงลึกและปรับสมดุลสุขภาพรอบด้าน

ปรับสมดุลกาย-ใจ เข้าใจต้นตอ พร้อมรับมือความเครียดอย่างยั่งยืน

“รักษ” ชวนปรับสมดุลกาย-ใจ กับแพ็กเกจที่ให้คุณบรรเทาความเครียดอย่างยั่งยืน

เมื่อภาวะเครียดและสาเหตุความเครียดมีความแตกต่างระหว่างบุคคล การสร้างความเข้าใจพร้อมปรับสมดุลเฉพาะบุคคลคือทางออก แพ็กเกจ Stress release ชวนคุณบอกลาความเครียดท่ามกลางธรรมชาติในห้องพักการ์เด้นวิลล่าให้คุณ กินดี – ย่อยดี – ฮอร์โมนดี – อารมณ์ดี เพลิดเพลินกับอาหารเพื่อสุขภาพทั้ง 6 มื้อ ดื่มด่ำชุดน้ำชาและของว่างสุดพิเศษตามสูตรเฉพาะของรักษ ร่วมสัมผัสประสบการณ์บริการระดับ 6 ดาว ตลอด 3 วัน 2 คืน พร้อมสำรวจต้นตอบรรเทาภาวะเครียดกับทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเวลเนส รวมถึงตรวจประเมินการเคลื่อนไหว โดยนักกายภาพบำบัด อีกทั้งยังมีบริการฟิตเนสและพื้นที่สำหรับธาราบำบัด และการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มเพื่อเสริมสุขภาพตลอดช่วงเวลาเข้าพัก เพื่อปรนนิบัติร่างกายและจิตใจของคุณ ฟื้นคืนสมดุลให้มากกว่าที่เคย

ปรับสมดุลกาย-ใจ เข้าใจต้นตอ พร้อมรับมือความเครียดอย่างยั่งยืน

เพื่อรับมือและบรรเทาความเครียดอย่างยั่งยืน แพ็กเกจ Stress release มอบทรีตเมนต์ครอบคลุมทุกศาสตร์ทั้ง 3 ประเภท ทั้ง Whole body light therapy ช่วยปรับการฟื้นฟูของเซลล์ด้วยคลื่นความถี่ของแสงเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่น หรือ Hyperbaric Chamber ช่วยบำบัดร่างกายด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์เพื่อการนอนหลับที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี Crystal Healing ปรับสมดุลพลังงานภายในด้วยพลังบริสุทธิ์ของหินคริสตัล และ Chi Nei Tsang ศาสตร์แผนจีนเน้นการคลายความตึงเครียดผ่านการนวดท้อง ซึ่งเป็นสมองที่สองของร่างกายให้ผ่อนคลาย นอกจากการผสานหลากหลายศาสตร์เพื่อคืนความสมดุลให้ร่างกายแล้ว รักษ เวลเนส บางกะเจ้า ยังมี Destress Supplements วิตามินเสริมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียด และต่อต้านการอักเสบของร่างกายซึ่งอาจเป็นหนึ่งในต้นตอของภาวะตึงเครียด โดยทรีตเมนต์สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ ตามเป้าหมายสุขภาพของคุณ ท่านสามารถคลิกเพื่อดูรายการทรีตเมนต์ได้ที่ https://bit.ly/3ITRVHK และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.rakxawellness.com Instagram: @rakxawellness หรือเบอร์โทรศัพท์ 0-2055-3100 และ LINE Official: @rakxawellness

ปรับสมดุลกาย-ใจ เข้าใจต้นตอ พร้อมรับมือความเครียดอย่างยั่งยืน

เพราะเราเชื่อว่าผลลัพธ์ที่ยั่งยืน คือความสำเร็จของเป้าหมายสุขภาพอย่างแท้จริง

เมื่อปัจจัยและข้อจำกัดต่าง ๆ มีส่วนในการกำหนดทิศทางการดำเนินชีวิตของแต่ละคน เราต่างต้องเผชิญภาวะเครียดด้วยกันทั้งนั้นไม่มากก็น้อย หัวใจสำคัญของการป้องกันภัยร้ายจากความเครียดคือการรู้เท่าทันสาเหตุ รับมือ และรักษา อย่างถูกวิธี รักษ เวลเนส บางกะเจ้า ศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวมแห่งแรกในไทยและในภูมิภาคเอเชีย คือผู้นำศาสตร์การบูรณาการทางการแพทย์แบบองค์รวม ที่พร้อมสรรพด้วยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญในการร่วมวิเคราะห์ลงลึกถึงปัญหาความเครียด เพื่อออกแบบโปรแกรมดูแลสุขภาพแก้ไขต้นตอปัญหาเฉพาะรายบุคคล ให้ผู้เข้ารับบริการเรียกคืนความสมดุลกลับสู่กายและใจ บรรเทาความเครียด เผยที่สุดแห่งผลลัพธ์สุขภาพปราศจากความเครียดอย่างยั่งยืน

ปรับสมดุลกาย-ใจ เข้าใจต้นตอ พร้อมรับมือความเครียดอย่างยั่งยืน
ปรับสมดุลกาย-ใจ เข้าใจต้นตอ พร้อมรับมือความเครียดอย่างยั่งยืน
ปรับสมดุลกาย-ใจ เข้าใจต้นตอ พร้อมรับมือความเครียดอย่างยั่งยืน

CALVIN KLEIN อวดโฉมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Spring-Summer 2022

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/686178

วันที่ 22 มิ.ย. 2565 เวลา 18:57 น.

CALVIN KLEIN อวดโฉมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Spring-Summer 2022

CALVIN KLEIN แบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก อวดโฉมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Spring-Summer 2022 นำเสนอความทันสมัยที่เรียบง่ายเหนือกาลเวลา เปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์จากแบรนด์

CALVIN KLEIN อวดโฉมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Spring-Summer 2022

CALVIN KLEIN (คาลวิน ไคลน์) แบรนด์แฟชั่นชั้นนำอันเป็นที่ยอมรับระดับโลกยาวนานกว่า 50 ปี ภูมิใจนำเสนอคอลเลคชั่น Spring-Summer 2022 ที่มาพร้อมการถ่ายทอดไอเดียสดใหม่ในดีไซน์โมเดิร์นสุดเรียบหรู ภายใต้การออกแบบที่เรียบง่าย เหนือกาลเวลา อันเป็น DNA หลักของแบรนด์ ด้วยหลักการออกแบบที่ดึงเอาเอกลักษณ์ของงานสถาปัตยกรรม และปะติมากรรม รังสรรค์ออกมาเป็นคอลเลคชั่นนี้ เผยโฉมออกมาเป็นนาฬิกาทั้งหมด 5 รุ่น ที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส และยังคงมาตรฐานการเลือกใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยม เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการนาฬิกาที่สามารถเผยความเป็นตัวเอง สวมใส่ได้ทุกโอกาส แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพอย่างคุ้มค่าในทุกเรือน 

CALVIN KLEIN อวดโฉมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Spring-Summer 2022

สำหรับเรือนเวลาจาก CALVIN KLEIN ดีไซน์ล่าสุดนั้น มี 5 รุ่นด้วยกัน เริ่มจาก Timeless อันเป็นรุ่นที่บ่งบอกความเป็น คาลวิน ไคลน์ ไว้ได้อย่างดีที่สุดด้วยความแคชชวล สบายๆในสไตล์มินิมอล ให้ลุคที่เรียบหรู ดูดีมีระดับ ตัวเรือนมีความโค้งมนและบาง โดดเด่นด้วยหน้าปัด Sunray ที่เปล่งประกาย มีให้เลือกทั้งสาย Mesh สายหนัง และสายเซรามิกให้เลือก

ถัดมาที่รุ่น Sculptural ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ การออกแบบสื่อถึงผู้หญิงที่มีความมั่นใจและแอบแฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร โดดเด่นด้วยขอบหน้าปัดแบบเกลียวเกิดจากการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความทันสมัยเข้าด้วยกันมาพร้อมหน้าปัดเรียบง่ายสบายตา มีให้เลือกทั้งสายนาฬิกาแบบ Mesh และสายหนัง

CALVIN KLEIN อวดโฉมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Spring-Summer 2022

นาฬิกาที่ใส่ได้ทุกวัน Iconic ดีไซน์คลาสสิคเหมาะสำหรับหนุ่มสาวที่ชื่นชอบในความร่วมสมัย โดดเด่นด้วยหน้าปัดดีไซน์เก๋ที่มีโลโก้ CK อยู่ด้านบน ให้คุณคอมพลีทลุคไม่เหมือนใครในทุกวัน

CALVIN KLEIN อวดโฉมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Spring-Summer 2022

Architectural นาฬิกาสำหรับสุภาพบุรุษผู้ชื่นชอบงานสไตล์โมเดิร์นส่งผ่านดีไซน์อันเรียบง่ายเพิ่มความโดดเด่นด้วยหน้าปัดหลากหลายแบบที่มีความเป็นแฟชั่น เหมาะสำหรับชายหนุ่มที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

ปิดท้ายที่รุ่น Sport ดีไซน์ยอดนิยมที่สุภาพบุรุษเลือกใช้ หน้าปัดมีความโดดเด่น  ผนวกเข้ากับการใช้โทนสีที่ตัดกันสร้างความเท่ให้คุณมากกว่าที่เคย

CALVIN KLEIN อวดโฉมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Spring-Summer 2022

คอมพลีทลุคด้วยคอลเลคชั่น Spring-Summer 2022 จาก CALVIN KLEIN ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน TIMEDECO, WATCH ELSE SHOP และแผนกนาฬิกาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือติดตามข่าวสารเพิ่มเติมผ่านทาง LINE Official Account @timedecowatchclub

#Calvinklein

#Calvinkleinwatch

New Deloitte report: LGBT+ inclusion efforts yield positive impacts in workplace, yet challenges persist

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ The Nation.

https://www.nationthailand.com/life/40016889


Majority of respondents believe their organizations are prioritizing LGBT+ inclusion and that this is having a positive impact. Over four in ten have experienced non-inclusive behaviors at work. Despite steps taken by employers to further LGBT+ inclusion at work, many respondents choose not to share their sexual orientation and/or gender identity at work beyond their closest colleagues.

New Deloitte report: LGBT+ inclusion efforts yield positive impacts in workplace, yet challenges persist

Bangkok, June 21, 2022 – Many organizations are prioritizing LGBT+ inclusion, creating an overall positive impact in the workplace, according to nearly 80% of respondents in the latest Deloitte report, “LGBT+ Inclusion @ Work: A Global Outlook”, released recently. The research reveals that more than 70% of LGBT+ employees are more inclined to stay with their current employer because of its approach to LGBT+ inclusion and many cited visible allyship and the availability of Employee Resource Groups (ERGs) as key enablers of an inclusive culture. Yet despite these efforts, 42% of all respondents reported experiencing non-inclusive behaviors at work.

Surveying 600 respondents from organizations across 12 geographies and a range of sectors, the research provides a snapshot of the lived experiences of LGBT+ employees (defined as those who identify as Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender and more) to understand their daily realities, what organizations are getting right, and what can be improved.

“It is clear that employers are taking steps to incorporate LGBT+ inclusion into their DE&I strategies, and that this is regarded positively by their LGBT+ employees,” says Emma Codd, Deloitte Global Inclusion Leader. 

“However, it is also clear that there is much more for these organizations to do to fully embed LGBT+ inclusion into their everyday culture. Organizations need to go beyond programs to embed a truly respectful culture where non-inclusive behaviors are not tolerated and everyone feels able to be out at work.” 

New Deloitte report: LGBT+ inclusion efforts yield positive impacts in workplace, yet challenges persist

Organizations have introduced a range of actions that employees view as having led to meaningful support

Many organizations are focusing on LGBT+ inclusion within their Diversity, Equity & Inclusion (DE&I) strategies, with around 80% of respondents reporting that their employers have introduced LGBT+ inclusion actions and initiatives and 95% of those believing that this has led to meaningful support for LGBT+ employees across their respective organizations.

According to respondents, actions taken by organizations vary – nearly 40% say their company leaders speak openly about LGBT+ inclusion within the organization, a third say their organizations have LGBT+ allyship programs, and nearly a third (31%) say their employers discuss LGBT+ inclusion at external forums such as business events. 

Almost all (93%) of respondents who work for global organizations also believe that organization-level communications and actions around LGBT+ inclusion are translating into meaningful support in their home countries.
 

Despite supportive actions from employers, non-inclusive behaviors persist at work 

Despite the positive steps organizations are taking to support their LGBT+ employees, 42% of survey respondents reported experiencing non-inclusive behaviors at work. These non-inclusive behaviors included unwanted comments of a sexual nature (33%), unwanted comments on gender identity (25%), and broader unacceptable behavior.

Furthermore, these behaviors are experienced in both office and remote working environments. Nearly half (47%) of those who reported experiencing non-inclusive behaviors said they experienced these in a physical office, while 20% have experienced them in a virtual setting. One-third (33%) experienced such behaviors in both physical and remote environments. Of those who encountered these behaviors, nearly three-quarters reported their experience to their employer, and six in 10 were satisfied with the response. 

The rationale as to why respondents didn’t report non-inclusive behaviors was generally similar across all gender identities (for example, when it came to concerns as to the perception of colleagues). Women, however, were more concerned than men that their complaints would not be taken seriously (40% vs. 22%) and that the behavior wasn’t serious enough to report (33% vs. 16%), while men were more concerned than women that the behavior would get worse (38% vs. 17%) if it was reported.  

Many still choose not to share their sexual orientation and/or gender identity with the majority of their colleagues

Around one in five respondents are not out to anyone at work about their sexual orientation, while 34% are out only to their closest colleagues. Of the latter respondents, 36% reported that while their immediate team/colleagues made them feel comfortable disclosing their sexual orientation at work, the organization at large did not. From a gender identity perspective, nearly one-quarter (23%) who are out to some of their colleagues are worried that being out to the majority of their colleagues will adversely impact their career. 

Of those respondents who are out to the majority of their colleagues, nine in 10 agreed that this is because their workplace culture helps them feel comfortable being out. 

“It has been encouraging to see a focus on LGBT+ inclusion in the workplace,” says Michele Parmelee, Deloitte Global Deputy CEO and Chief People and Purpose Officer. 

New Deloitte report: LGBT+ inclusion efforts yield positive impacts in workplace, yet challenges persist

“However, the survey has also shown us that more needs to be done. Looking ahead as companies build future-ready organizations, it will be incumbent upon leaders and colleagues to focus on three critical elements to promote LGBT+ inclusion: enabling employees to feel comfortable being out at work, creating an environment where non-inclusive behavior is not tolerated, and leveraging visible and vocal allyship.” 

For more information and to view the full results of Deloitte’s LGBT+ Inclusion @ Work, visit: 
https://www2.deloitte.com/mt/en/pages/about-deloitte/articles/lgbt-at-work.html
 

Published : June 22, 2022

By : THE NATION

มากกว่าดีไซน์ คือตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/686107

วันที่ 21 มิ.ย. 2565 เวลา 17:15 น.

มากกว่าดีไซน์ คือตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่

ซูม 3 คีย์เวิร์ดหัวใจสำคัญของการออกแบบโชว์รูมรถที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ พร้อมชู Concept Design ของแฟลกชิปโชว์รูม บีเอ็มดับเบิลยู มิลเลนเนียม ออโต้ บนถนนพัฒนาการ-ศรีนครินทร์

มากกว่าดีไซน์ คือตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่

ในยุคที่แนวคิดด้านการออกแบบ แทรกซึมเข้าไปอยู่แทบจะทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต บ่อยครั้งที่การนำเสนอมุมมองหรือไอเดียสร้างสรรค์ กลายเป็นโจทย์ใหญ่ ให้นักออกแบบขบคิด ด้วยหวังตอบสนองความต้องการของผู้คน ที่นับวันจะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น การออกแบบโชว์รูมรถยนต์ก็เช่นกัน เหล่านักสร้างสรรค์พยายามตีโจทย์รอบด้าน นำเสนอองค์ประกอบทั้งภายนอกและภายในอย่างมีชั้นเชิง พร้อมปลุกเร้าความรู้สึก (Emotional) เสมือนว่าเพียงก้าวเท้าเข้ามาในโชว์รูมรถยนต์ คือจุดเริ่มต้นของการเปิดประสบการณ์ที่มากกว่าดีไซน์ เป็นสถานที่ตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

มากกว่าดีไซน์ คือตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่

ภายใต้แนวคิดดังกล่าวนี้ อาจพูดได้ว่าเป็นการดึงสิ่งที่ผู้คนกำลังมองหา มารวมไว้ ณ จุดเดียวเป็นความแตกต่างที่ถ่ายทอดออกมาให้สามารถจับต้องได้ เกี่ยวกับมุมมองใหม่ด้านการออกแบบโชว์รูมรถให้จับตาต้องใจนี้ คุณวิสูตร สุขพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีทู ดีไซน์ สตูดิโอ จำกัด (V2 Design Studio) ในฐานะผู้จุดประกายไอเดีย อธิบายถึงหลักการได้อย่างน่าสนใจว่า เป็นการสะท้อนแนวคิดที่แตกต่างจากอดีต ที่เน้นตัวผลิตภัณฑ์หรือรถยนต์เป็นที่ตั้ง เปลี่ยนมา ให้ความสำคัญกับการรังสรรค์ ‘ประสบการณ์ของผู้บริโภค’ (Customer Experience) โดยลงรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ นำเสนอผ่านหลากหลายมิติ ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส เพื่อถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์

ที่น่าสนใจคือ แม้จะออกแบบแนวคิดเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับยานยนต์ หากการใส่ใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนที่แวะเวียนเข้ามาในโชว์รูม ก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญที่ต้องทำควบคู่กัน เป็นการมองในลักษณะของความเชื่อมโยง ตั้งแต่ออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์ ซึมลึกไปถึงข้อมูล แล้วท้ายที่สุดต้องประเมินให้ได้ว่า ประสบการณ์แบบไหนกัน ที่ต้องการให้ลูกค้าหรือผู้คนทั่วไปได้สัมผัส

มากกว่าดีไซน์ คือตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่

“เราให้ความสำคัญกับ 3 กิจกรรมหลัก ซึ่งเป็นเสมือนจุดเชื่อมต่อของออฟไลน์ คือ 1. การสัมผัสและทดลองขับ (Touch & Test) 2. การส่งมอบ (Handover Moment) 3. บริการหลังการขาย Aftersales Service ผ่านการออกแบบประสบการณ์ทุกมิติ ที่เกี่ยวกับการนำเสนอรถยนต์ (Product Experience) ในบรรยากาศที่เหมาะสม (Retail Experience) และเอื้อต่อการบริการของพนักงาน (People Experience)” คุณวิสูตร เผย 3 คีย์เวิร์ดที่เป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบโชว์รูมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคใหม่ พร้อมชู Concept Design ของแฟลกชิปโชว์รูม บีเอ็มดับเบิลยู มิลเลนเนียม ออโต้ บนถนนพัฒนาการ-ศรีนครินทร์ ที่เป็นเสมือนภาพสะท้อนที่ชัดเจนของไอเดียสร้างสรรค์สุดบรรเจิด

เพียงแรกสัมผัส ต้องสะดุดตากับดีไซน์ส่วนหน้าของอาคาร (Architectural Façade) ที่ออกแบบเป็นกล่องกระจกใส และระนาบแนวนอนขนาดใหญ่ เหมือนกำลังลอยเคลื่อนออกจากกัน (Floating Box) ช่วยขยายการมองเห็นของอาคารได้เต็มหน้ากว้างถนน และแบ่ง Façade ออกเป็น 3 หน้าต่างย่อย ตามกลุ่มรถที่ต่างกัน โถงจัดแสดงหลักชั้นล่างให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง เชื่อมต่อเป็นมุมกว้างคล้ายแกลเลอรี่ กับองศาในการจัดวางรถยนต์ที่หลากหลาย แทรกด้วยพื้นที่รับรองลูกค้า เรียกว่า ‘customer stage’ แสดงถึงการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันแรก ต่างจากอดีตที่ผลิตภัณฑ์ต้องมาก่อน

มากกว่าดีไซน์ คือตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่

แน่นอนว่า การมองในมุมที่ต่างออกไป ช่วยปลุกเร้าความรู้สึกของผู้คน ราวกับกำลังเปิดประสบการณ์ใหม่ อยู่ในไลฟ์สไตล์มอลล์ขนาดย่อมๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นคนช่วงวัยไหน ก็สามารถเพลิดเพลินได้กับมุมต่างๆ ในโชว์รูม ระหว่างที่พ่อแม่ให้ความสนใจกับรายละเอียดของรถยนต์คันโปรด จากพนักงานที่บริการด้วยมิตรไมตรี เด็กๆ ก็สนุกสนานกับพื้นที่รับรองที่มีขนมขบเคี้ยว ตลอดจนอาหารว่าง และเครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้อย่างพิถีพิถัน ขับกล่อมด้วยเสียงเพลงที่คัดสรรค์ มาโดยเฉพาะ รวมถึงการออกแบบกลิ่นที่สื่อสารความเป็นแบรนด์ เคล้าบรรยากาศอบอุ่น จนเกือบลืมไปว่าที่นี่ คือ โชว์รูมรถยนต์

อีกหนึ่งไอเดียสร้างสรรค์ที่คุณวิสูตรอยากสะท้อนให้เห็น ผ่านงานดีไซน์ที่มีผลต่อ การเปลี่ยนแปลงอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างแยบยล ซึ่งไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยนัก สำหรับโชว์รูมรถยนต์ นั่นคือ พื้นที่ชั้นลอย (mezzanine) ที่ออกแบบและจัดวางอย่างลงตัว ช่วยสร้างมิติการมองเห็นในมุมกว้างได้รอบทิศ โดยระดับที่ต่างกันของชั้นลอยช่วยแบ่งโซน จัดแสดงตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ พร้อมเปิดให้แสงสว่างจากธรรมชาติสาดส่องผ่านช่องหลังคา สอดรับกับลิฟท์กระจกใสรอบด้าน เชื่อมการมองเห็นแบบ 360 องศา หรือเรียกว่า พาโนรามิกวิว (panoramic view) อันน่าตื่นตาตื่นใจ

มากกว่าดีไซน์ คือตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่

ทว่า ทั้งหมดอาจไร้ความหมาย หากฤกษ์สำคัญอย่างวันรับรถ ดูธรรมดาจนไม่น่าจดจำ โชว์รูม แห่งอนาคตนี้ จึงตั้งใจออกแบบห้องส่งมอบรถยนต์ให้มีความพิเศษ ด้วยขนาดของพื้นที่โอ่โถง ผสานรับแขกสุดหรูพร้อมจอแอลอีดีขนาดใหญ่ สำหรับไว้บันทึกช่วงเวลาแสนประทับใจ โดยพื้นที่ดังกล่าวยังสามารถปรับใช้ในกิจกรรมอื่นๆ เช่น อีเว้นท์เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ภายในโชว์รูม

มากกว่าดีไซน์ คือตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่

ตราบใดที่ไอเดียสร้างสรรค์ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญ ให้นักออกแบบหยิบมาใช้ได้อย่างไม่มีวันจบ อาคารดีไซน์สุดล้ำ ฟังก์ชั่นภายในสุดเจ๋ง หลุดจากกรอบความคิดเดิมๆ จะยังคงผุดขึ้นมาให้เห็น เป็นกระจกบานใหญ่ ที่สะท้อนถึงการตีโจทย์รอบด้านอย่างมีชั้นเชิง พร้อมกับสร้างการปลี่ยนแปลง ให้เกิดขึ้น ไม่เฉพาะในเชิงธุรกิจ หากยังมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้คนที่ได้สัมผัส และนำไปสู่การตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อย เป็นบทสรุปที่ว่า มากกว่าดีไซน์ แต่ครบ จบ ในที่เดียว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่ได้อย่างลงตัว…เตรียมพบกับ บีเอ็มดับเบิลยู มิลเลนเนียม ออโต้ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ แฟลกชิปโชว์รูมแห่งใหม่ ที่พร้อมนำประสบการณ์พิเศษมาให้ได้สัมผัสช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/686048

วันที่ 21 มิ.ย. 2565 เวลา 11:45 น.

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

LAMBORGHINI HURACAN TECNICA เผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย กับผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ผสานโลกแห่งงานดีไซน์และระบบวิศวกรรมเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย นำโดย อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ, ศักดิ์ นานา และ ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์ กรรมการ จัดงานฉลองเปิดตัวไอคอนนิคแห่งความแรงใหม่ล่าสุดจากแบรนด์กระทิงดุ ‘LAMBORGHINI HURACÁN TECNICA’ สุดยอด ยนตรกรรมเครื่องยนต์ V10 แบบขับเคลื่อนล้อหลัง ที่พัฒนาเพื่อนักขับแนวหน้าผู้แสวงหาความสมบูรณ์แบบแห่งไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับและประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจทั้งในสนามแข่งและบนท้องถนน การเผยโฉมครั้งสำคัญนี้นับเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะได้รับเกียรติจาก มร.สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี บินตรงแบบเอ็กซ์คลูซีฟมายังประเทศไทยเป็นครั้งแรกแล้ว ยังมีเหล่าเซเลบริตี้ และแฟนพันธุ์แท้กระทิงดุร่วมงานอย่างคับคั่ง เพื่อมาร่วมยลโฉมผลงานระดับมาสเตอร์พีซจากตระกูล HURACÁN ด้วยเช่นกัน อาทิ วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์, เอกภัทร พรประภา, เมลนีย์ อยู่วิทยา, ภัคคณวัฒน์ เหมะธนานันท์, จิรชัย ไทยชาติ, ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี และ ปานหทัย สมรรถศรบุศย์ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด เมื่อค่ำวันพุธที่ 15 มิถุนายน 2565 ณ โชว์รูม ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ถ.วิภาวดีรังสิต

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การมาเยือนครั้งนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับผมที่ได้นำเสนอผลงานชิ้นเอกล่าสุดอย่าง Huracán Tecnica ให้แฟนพันธุ์แท้กระทิงดุชาวไทยได้ชมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ Huracán Tecnica คือการผสานความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและระบบวิศวกรรมของลัมโบร์กินี เพื่อสร้างสรรค์ยานยนต์ตระกูล Huracán ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานได้อย่างสมบูรณ์แบบเสมือนกำลังขับเคี่ยวในสนามแข่งขันอันแสนเร้าใจ และเมื่ออยู่กับ Tecnica คุณจะมั่นใจได้ถึงสัมผัสที่เป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์และพื้นถนน ด้วยประสิทธิภาพการควบคุมทุกระบบยานยนต์ที่ง่ายดายเพียงปลายนิ้วในทุกโหมดการขับขี่และทุกสภาพแวดล้อม ที่สำคัญ Tecnica ยังเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์ตระกูล Huracán ของเราให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเป็นโมเดลที่อยู่ระหว่างรุ่น RWD กับรุ่น STO ซึ่งเน้นการแข่งขันในสนามแข่งอย่างจริงจัง โดย Tecnica จะให้ความสำคัญกับการนำเสนอวิวัฒนาการใหม่แห่งดีไซน์อากาศพลศาสตร์และระบบวิศวกรรมชั้นเลิศ ประสิทธิภาพการขับขี่ และเครื่องยนต์ V10 ของ Huracán ที่มาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบที่สวยงามอย่างน่าหลงใหล”

ฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี เสริมว่า “เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำ Huracán Tecnica มาให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้ยลโฉมอย่างใกล้ชิดถึงโชว์รูมลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ โดยนับเป็นการเผยโฉมครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง Huracán Tecnica ถือเป็นซูเปอร์สปอร์ตอเนกประสงค์ที่มาพร้อมคาแรคเตอร์อันตอบโจทย์การขับขี่ทั้งบนท้องถนนและในสนามแข่งขัน อีกทั้งยังนำมาซึ่งจิตวิญญาณแห่งนักขับขี่และประสิทธิภาพเหนือใคร ที่ทุกคนต่างให้การยอมรับว่านี่คือหนึ่งในสมาชิกตระกูล Huracán ที่สร้างความประทับใจได้ไม่รู้เลือน”

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่ ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี เพิ่งจัดงาน เปิดตัวพร้อมกันทั่วโลกในรูปแบบดิจิทัลไปเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา วันนี้นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับแฟนๆ กระทิงดุชาวไทยที่ได้มีโอกาสยลโฉม Huracán Tecnica อย่างใกล้ชิด ณ โชว์รูมลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ โดย Huracán Tecnica จัดเป็นยนตรกรรมเครื่องยนต์ V10 รุ่นล่าสุด ที่เติมเต็มกลุ่มโมเดลตระกูล Huracán ของเราให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ถูกออกแบบมาเพื่อนักขับแนวหน้าผู้แสวงหาอิสรภาพในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจทั้งในสนามแข่งและบนท้องถนน ซึ่งทางบริษัทฯ มั่นใจว่า โมเดลรุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะตอบโจทย์ทุกความต้องการในการขับขี่และได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ลัมโบร์กินีทั่วประเทศอย่างแน่นอน”

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

ซูมเหตุผล ว่าทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ Huracán Tecnica ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก Lamborghini

ความสำเร็จของ Huracán นั้นยืนยงมา 8 ปีแล้ว เรียกว่าเปิดตัวที่ไรก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับสาวกกระทิงดุทั่วโลกได้ทุกครั้ง เพื่อทำความรู้จัก Huracán Tecnica คันนี้มากขึ้น เราได้รวบตึงดีเทลของไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจากแบรนด์กระทิงดุมาฝากกัน

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

Huracán Tecnica ถือเป็นโมเดลที่อยู่ระหว่างรุ่น RWD กับรุ่น STO มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V10 5.2L มอบสัมผัสแห่งการขับขี่ที่ตื่นเต้นเร้าใจด้วยกำลังเครื่องยนต์ถึง 640 แรงม้าเช่นเดียวกับ STO โดยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์อีก 30 แรงม้า จากรุ่น Huracán EVO RWD พร้อมระบบส่งกำลังที่ให้แรงบิดถึง 565 นิวตันเมตร สูงสุด 6,500 รอบต่อนาที และยังเพิ่มอัตราเร่ง 0-100 กม./ชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 3.2 วินาทีเท่านั้น งานออกแบบยานยนต์น้ำหนักเบาของ Tecnica ยังมาพร้อมระบบ LDVI ที่ผ่านการคาลิเบรตใหม่และโหมดการขับขี่ที่ตั้งค่าระบบกันสะเทือนให้สอดรับการใช้งานเฉพาะแบบ รวมถึงการบังคับเลี้ยวล้อหลังและการปรับปรุงระบบลดความร้อนเบรกรุ่นล่าสุด ช่วยให้นักขับสัมผัสถึงประสบการณ์การขับขี่ยานยนต์ Huracán ที่สมบูรณ์แบบในทุกสถานการณ์ เพราะ Huracán Tecnica คือการระเบิดพลังสร้างสรรค์สุดยอดยานยนต์ที่ผสานความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและระบบวิศวกรรมเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อส่งมอบซูเปอร์สปอร์ตอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ทั้งบนท้องถนนและในสนามแข่งขัน

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI
ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษจากซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดได้ที่ “ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ” โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ถนนวิภาวดีรังสิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-512-5111

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ได้ที่: Lamborghini’s Official Website : https://www.lamborghini.com/ Lamborghini Bangkok’s Instagram : www.instagram.com/lamborghinirenazzomotor/

More opportunities for hill-tribe children mean more chances for success

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ The Nation.

https://www.nationthailand.com/life/40016346


Success is not always defined as achieving greatness. For hill-tribe children, making dreams come true offers unmeasurable success, and the Community Children Foundation (CCF) can give them this opportunity.

More opportunities for hill-tribe children mean more chances for success

CCF under the Royal patronage of Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn has been helping underprivileged children in Thailand for more than 64 years. It has educated over 42,000 children in remote areas to ensure they have better lives and career opportunities.

The route to proper education for many hill-tribe children is long and full of obstacles, but their strength shaped by a challenging environment has fuelled them to overcome hardship. The concept of “giving up” just does not exist for them.


CCF’s staffers and volunteers travel down the Kok River to provide assistance to children in remote areas of Chiang Rai province.CCF’s staffers and volunteers travel down the Kok River to provide assistance to children in remote areas of Chiang Rai province.

CCF has been providing scholarships as well as training on vocational and life skills to children who do not let geographic disadvantages prevent them from following their dreams.

This is the story of young civil servants who were helped by CCF to achieve their goals.
 

Committed to making her dream come true

Once upon a time, Maneenuch “Nuch” Yepiew could not communicate fluently due to severe shyness. So, CCF worked with her parents and teachers to address this problem and provide her with much-needed skills. Nuch says CCF helped bring out her true potential and solved family problems, which allowed her to focus on herself.

“The CCF scholarship gave me the ticket to a new world of career opportunities that people in my community rarely have,” she said. “I used part of my scholarship to study Mandarin and furthered my knowledge in Maths, which is my strong subject as I wanted to become an accountant.”

After graduation, Nuch stayed on in her village and got a job at the Mae Salong subdistrict administration office, which brought her closer to achieving her dream of helping develop her hometown. “Without CCF’s help, I would have ended up working at a factory for minimum wages in a city far away from my beloved village and parents,” she said.

Maneenuch ‘Nuch’ Yepiew, who now works as a civil servant thanks to opportunities offered by the Community Children FoundationManeenuch ‘Nuch’ Yepiew, who now works as a civil servant thanks to opportunities offered by the Community Children Foundation

“I have come a long way from a shy hill-tribe kid. I am proud to wear this uniform and work for the betterment of the community. The CCF has allowed me to stand on my own two feet and obtain my dream career,” she said. “I want to give back by helping other underprivileged children so they have better career opportunities like CCF has made possible for me.”
 

Success belongs to those who do not give up

Orawan “Ant” Saemeu teaches at Baan Mae Chan School in Chiang Rai’s Mae Chan district. Her first and only dream was to become a teacher at this border-patrol police school from where she graduated. Ant’s aim now is to provide proper education to children in her community and inspire them to follow their dreams.

Orawan ‘Ant’ Saemeu, another CCF beneficiary, is now a teacher at Baan Mae Chan SchoolOrawan ‘Ant’ Saemeu, another CCF beneficiary, is now a teacher at Baan Mae Chan School

She says the best thing that happened to her as a child was to be taken under CCF’s wing.

“CCF has given me scholarships, learning materials, skill training and close guidance from staffers who made me feel like I am part of their family,” she said. “I am also grateful to my family for supporting me and working diligently with CCF. The CCF programme has helped other hill-tribe children, who like me have overcome obstacles to get a proper education.”

Teachers at Pha Khwang Witthaya School and CCF staffers work together to make children’s dreams come true.Teachers at Pha Khwang Witthaya School and CCF staffers work together to make children’s dreams come true.

The success achieved by these young children cannot be passed on to the next generation without continued support. You can help provide proper education and better career opportunities to children in remote areas with a contribution of just 600 baht a month.

To donate, call (+662) 747 2600, visit https://bit.ly/3wJw40C or scan the QR code below.

More opportunities for hill-tribe children mean more chances for success

Published : June 17, 2022

By : THE NATION

‘พอทเทอรี เคลย์’ จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/685771

วันที่ 16 มิ.ย. 2565 เวลา 18:38 น.

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

รู้จัก “พอทเทอรี เคลย์” (Pottery Clay) ครบทุกเรื่องเซรามิคแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย เพื่อผู้ประกอบการและคนรักงานปั้น

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

“พอทเทอรี เคลย์” (Pottery Clay) ศูนย์รวมสินค้าและบริการงานเซรามิคที่แรก ที่เดียว ที่ครบมากที่สุดในประเทศไทย สำหรับผู้ประกอบการเซรามิคทั้งรายย่อยและรายใหญ่ในระดับอุตสาหกรรม รวมไปถึงกลุ่มคนรักงานปั้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “One Stop Shopping”  จำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์งานปั้น พร้อมบริการด้านงานเซรามิคที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เหมาะสมกับการใช้งาน ทั้งยังมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณค่างานปั้นด้วยการเปิด ‘SOC : School of Ceramics โรงเรียนสอนปั้นเซรามิค by Pottery Clay’  พื้นที่ที่ให้เรียนรู้งานปั้นรอบด้าน ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เหมาะสำหรับทุกเพศวัย  พร้อมต่อยอดเสริมสร้างทักษะจนสามารถนำไปประกอบสร้างอาชีพได้จริง

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

นางสาวสราญรัตน์ พานิชสุขไพศาล กรรมการบริษัท พอทเทอรี เคลย์ จำกัด เผยว่า “จุดเริ่มต้นของพอทเทอรี เคลย์ เกิดขึ้นด้วยดินเพียง 1 กิโลกรัม ที่นำไปเสนอให้ลูกค้ากลุ่มศิลปินเซรามิคได้ทดลองใช้ ซึ่งดินที่ว่านี้เป็นสูตรเฉพาะที่คิดค้นขึ้นมาใหม่จากประสบการณ์ในแวดวงอุตสาหกรรมวัตถุดิบสำหรับผลิตเซรามิคที่ได้เรียนรู้มาจากธุรกิจของครอบครัว ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่า เราเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงในเรื่องดิน เมื่อดินสูตรใหม่นี้ได้รับการยอมรับในคุณภาพ เราก็เริ่มมองไปยังองค์ประกอบอื่นๆ ในการผลิตชิ้นงานเซรามิคจนได้ข้อสรุปมาว่า การจะสร้างชิ้นงานขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชิ้นเล็กหรือใหญ่ ยังมีเครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็นอีกมากมายที่ควรจะได้มาตรฐานเพื่อให้ชิ้นงานที่ออกมามีคุณภาพที่ดีที่สุด จึงเริ่มสร้าง “พอทเทอรี เคลย์” (Pottery Clay) ขึ้นมา เพื่อให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์รวมสินค้าและบริการงานเซรามิคที่แรก ที่เดียว ที่มีของคุณภาพ ครบวงจรมากที่สุดในประเทศไทย

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

สินค้าของเราจึงไม่ได้มีแค่ดินสูตรของเราเองเท่านั้น แต่ลูกค้ายังสามารถออเดอร์ให้จัดหาดินสำเร็จรูป รวมถึงพัฒนาสูตรดินขึ้นมาตามความต้องการในลักษณะ Made to order ได้ด้วย ทั้งยังนำเข้าดิน Keane จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถือว่าเป็นดินที่มีสูตรเฉพาะเข้ามาให้นักปั้นได้ใช้งาน โดยไม่ต้องสั่งออนไลน์ถึงต่างประเทศ ไม่ต้องรอนาน แค่มาที่เราก็ได้สัมผัสเนื้อดินจริงๆ และซื้อกลับไปใช้งานได้ทันที”

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกอย่างที่ต้องใช้ในการผลิตชิ้นงานเซรามิคจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นแป้นหมุน เตาเผาเซรามิคไฟฟ้า สีเคลือบต่างๆ เครื่องมือปั้นและอุปกรณ์ตกแต่งชิ้นงาน รวมไปถึงเครื่องจักรที่ผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมเซรามิคต้องใช้  โดยเราคัดสรรคุณภาพของสินค้าที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมไว้ที่นี่ เช่น แบรนด์ SKUTT เตาเผาเซรามิคไฟฟ้าที่ศิลปินทั่วโลกยอมรับในคุณภาพมายาวนานกว่า 70 ปี หรือจะเป็น Amaco สีเคลือบสีเซรามิคจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือศิลปินมือโปรก็ต้องมีติดไว้ใช้งาน โดยพอทเทอรี เคลย์เป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในไทย

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

“เมื่อซื้อสินค้าจาก พอทเทอรี เคลย์ ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ ลูกค้ายังสามารถติดต่อเข้ามาปรึกษา การใช้งานต่างๆ กับเราได้ตลอดเวลา เพราะงานบริการหลังการขายคืออีกสิ่งหนึ่งที่เรามุ่งเน้น พนักงานของเรา ได้รับการปลูกฝังให้บริการอย่างเป็นกันเอง เป็นเพื่อนที่รักในงานเซรามิคเหมือนกัน แต่ทุกการบริการจะยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานระดับมืออาชีพ เช่นในเรื่องเตาเผาเซรามิคไฟฟ้าหรือเครื่องจักรเซรามิคที่ไม่เพียงมีประกันคู่ไปกับทุกเครื่อง แต่เรายังนำส่งให้ถึงจุดหมาย พร้อมบริการติดตั้ง สอนการใช้งานไม่คิดค่าใช้จ่าย และในกรณีที่ลูกค้าบางคนยังมีกำลังไม่พอที่จะซื้อเตาเผาไปเป็นของตัวเอง เราก็ยังมีบริการเปิดเตาเผาสำหรับงานเผาชิ้นงานเซรามิค ซึ่งไม่ว่าจะนำชิ้นมามาเผาเพียงชิ้นเดียวหรือหลายร้อยชิ้น พอทเทอรี เคลย์ก็บริการให้หมด

“ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เราได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากลูกค้าทั้งรายเล็กและรายใหญ่ในระดับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่เคยสัมผัสงานเซรามิคมาก่อนเริ่มให้ความสนใจในงานด้านนี้กันมากขึ้น เราจึงเห็นโอกาสในการช่วยยกระดับและสร้างคุณค่าให้กับอาชีพนักปั้นเซรามิค จึงสร้างพื้นที่สำหรับกลุ่มคนกลุ่มนี้ที่ต้องการเรียนรู้งานปั้นเซรามิคและนำไปพัฒนาต่อยอดกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ได้จริง จึงถือโอกาสในการก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 ด้วยการเปิด ‘SOC : School of Ceramics โรงเรียนสอนปั้นเซรามิค by Pottery Clay’  พื้นที่ๆ เปิดสอนงานปั้น ให้ได้ปั้นจริง เผาจริง ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงระดับมืออาชีพ ซึ่งคอร์สสอนปั้นต่างๆ สอนโดยผู้เชี่ยวชาญที่จบเฉพาะทางเซรามิค อาทิ อ.ขวัญ – อนันตวัฒน์ วิวัฎฏ์กุลธร อาจารย์พิเศษ ภาควิชาออกแบบเซรามิค จากมหาวิทยาลัยบูรพา มาเป็นผู้สอนด้วยตัวเองทุกขั้นตอน”

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

สำหรับ SOC มีคอร์สต่างๆ ให้เลือกมากมาย ทั้งคอร์สระยะสั้น (One Day Workshop) ที่ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงก็ปั้นได้ เช่น การสอนปั้นมือบนแป้นหมุน, ปั้นกระถาง, ปั้นชิ้นงานประติมากรรม เป็นต้น แต่สำหรับบางคนที่หลงใหลในการเพ้นท์หรืออยากสร้างลวดลายบนชิ้นงานเซรามิคอย่างเดียว ก็สามารถเลือกคอร์ส Paint Your Own Pot (PYOP) เพื่อเรียนรู้การออกแบบลวดลายและลงสีบนเซรามิคสำเร็จรูปในสไตล์ที่ต้องการได้ สำหรับคนที่อยากลงลึกจริงๆ ก็มีคอร์สระยะยาว (Long Term Workshop) ซึ่งใช้เวลาเรียน 2 เดือน (สัปดาห์ละ 1 วัน) ซึ่งคอร์สนี้จะสอนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ สอนเคล็ดลับทำเซรามิคด้วยเทคนิคขั้นสูง การทำลวดลาย การใช้เครื่องมือเฉพาะทาง เป็นคอร์สที่สามารถสร้างอาชีพได้หลังเรียนจบ

ด้านเสียงตอบรับ ในช่วงที่ผ่านมาทุกคนต้องเจอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในอาชีพ ประกอบกับเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ต้อง Work From Home หลายคนจึงเริ่มมองหาอาชีพเสริมกันมากขึ้น บางคนมองหากิจกรรมใหม่ๆ ในทำช่วงที่มีเวลาว่างมากขึ้น ส่งผลให้คอร์สเวิร์คช้อปต่างๆ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากเดิมที่เราเริ่มต้นด้วยคลาสสอนเพียงแค่ 2 คลาส ปัจจุบันพัฒนาเพิ่มขึ้นกลายเป็นเกือบ 50 คลาส โดยมีนักเรียนจบคอร์สกับเราไปแล้วเกือบพันคน ซึ่งนักเรียนที่อายุน้อยสุดที่มาเรียนคือ อายุ 6 ปี ที่ผู้ปกครองจะพามาเรียนรู้งานศิลปะอีกแขนงในช่วงเวลาว่าง ซึ่งเด็กๆ จะได้สนุกกับปั้นดิน งานศิลปะแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กอีกด้วย ขณะที่นักเรียนที่อายุมากสุดคือ 76 ปี ซึ่งก็คือกลุ่มคนวัยเกษียณที่ต้องการหางานอดิเรกทำ เมื่อเข้าคอร์สปั้นก็ทำให้ได้เพื่อนใหม่ และยังได้การเคลื่อนไหวและกระตุ้นมองให้ได้ใช้ความคิดแบบเพลินๆ อีกด้วย

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

“ในปีที่ 6 ของ พอทเทอรี เคลย์ นี้ได้ตั้งเป้าหมายว่า จะต้องก้าวขึ้นไปเป็นจุดศูนย์รวมของสินค้าและบริการเซรามิคที่คนที่ชื่นชอบในงานเซรามิค ทั้งนักท่องเที่ยว หรือศิลปินชาวต่างชาติ เมื่อมาถึงเมืองไทย ถ้านึกถึงสินค้าและงานเซรามิค จะต้องนึกถึงพอทเทอรี เคลย์ เพราะที่นี่มีทุกอย่างครบ จบในที่เดียว และเร็วๆ นี้จะมีการเปิดพื้นที่สำหรับ Residency ที่จะเป็นโปรแกรมที่จัดสำหรับศิลปินด้านงานเซรามิคที่ๆ ต้องการทั้งที่พำนักอาศัยและทำงานไปด้วยให้อยู่ในที่เดียวกัน รวมถึงอีกหนึ่งเป้าหมายที่อยู่ในแผนที่จะทำคือ การเปิดพื้นที่ Gallery Ceramic แห่งแรกในประเทศไทย ที่จะเป็นพื้นที่ๆ รองรับการจัดแสดงโชว์นิทรรศการ หรือผลงานเซรามิค งานประติมากรรมต่างๆ โดยเฉพาะ

ทั้งนี้ เป้าหมายสูงสุดของพอทเทอรี เคลย์ คือการที่จะยกระดับงานปั้น งานฝีมือให้ผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ ผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นเรียนรู้ ได้มาลองฝึก ลองลงมือทำ สร้างสรรค์ผลงานด้วยสองมือตัวเอง รวมไปถึงการสร้างคุณค่า พร้อมส่งเสริมอาชีพนักเซรามิคไทย ผ่านพื้นที่ของ School of Ceramics (SOC) เพราะเชื่อว่าฝีมือคนไทยในด้านงานสร้างสรรค์นั้นสามารถก้าวสู่ตลาดสากลได้อย่างทัดเทียม เพียงแค่มีวัตถุดิบ อุปกรณ์ รวมไปถึงการบริการในด้านงานเซรามิคที่จะเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมให้พวกเขาได้สร้างผลงานกันออกมาได้อย่างเต็มที่แน่นอน” คุณสราญรัตน์ กล่าวเสริม

DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/685627

วันที่ 14 มิ.ย. 2565 เวลา 19:14 น.

DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต

คอลเลคชั่นใหม่ : DC Shoes X Andy Warhol สายสเก็ต สายแฟชั่นไม่ควรพลาด

DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต

เปิดคอลเลคชั่นสุดอาร์ท DC Shoes X Andy Warhol จากศิลปินผู้ที่สร้างสรรค์ผลงาน POP ART ที่โด่งดังที่สุดในศตวรรษที่20 การันตรีจากภาพประมูลราคาสูงถึง 195 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6.7 พันล้านบาท เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดย Warhol ไม่ได้มีแค่ภาพวาด แต่ยังมีภาพถ่าย การทำ Silk screen ที่โดดเด่นทั้งมุมมอง และการใช้สีที่ตื่นเต้นอีกด้วย

DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต
DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต

โดยในครั้งนี้เป็นการที่เอาศิลปะของ Andy Warhol มาจับคู่ชนกันบนชุด และรองเท้า จากมุมมองของ DC Shoes ที่เรียกว่า Collisions

โดยจะแบ่งออกเป็น 4 มุมมองย่อย

1. Strength and Weakness โดย การนำเอารองเท้าที่มีทนทานที่สุด เทคโนโลยีสำหรับนักสเก็ตสายโหดอย่างแท้จริง มาติด Fragile ไว้

2. WAR and Peace ที่ใช้สีสันอันโดดเด่น โดยใช้ รูปวัว และ มีด มาเป็นการเล่าเรื่อง

3. Saints and Sinners มีการนำภาพโด่งดังระดับโลกมาทำสีใหม่ ทั้งเบาสบายตา และ โทนร้อนแรง

4. Life and Death เป็นอีกสองสิ่งที่ Warhol ใช้ในงานของเค้าบ่อยครั้ง นั่นคือ กะโหลก และ ดอกไม้ที่สีสด

DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต
DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต
DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต

สำหรับสินค้าที่มีใน Collection นี้เรียกได้ว่าหลากหลาย น่าตื่นเต้น และมีศิลปะที่ยืนยาวอยู่คู่กันแบบลงตัว เพราะฉะนั้น ทั้งสายสเก็ต และสายแฟชั่นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง