มีอะไรซ่อนอยู่? ส่อง 6.0.1 มาร์ชเมลโล ใหม่สุดเพื่อแฟนแอนดรอยด์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/596312

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 26 มี.ค. 2559 13:00

 

ทำความรู้จักซอฟต์แวร์ 6.0.1 Marshmallow สำหรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เครื่องโปรด จะมีลูกเล่นอะไรใหม่ๆ รอให้คุณได้ใช้งานบ้าง…

ปล่อยให้อัพเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำอยู่แล้ว สำหรับระบบปฏิบัติการฝั่งแอนดรอยด์ ล่าสุด หลายค่ายผู้ผลิตมือถือต่างทยอยให้ผู้ใช้ได้อัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด กับ…แอนดรอยด์ 6.0.1 มาร์ชเมลโล (Android 6.0.1 Marshmallow) แล้วเช่นกัน!

สำหรับลูกเล่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นดังกล่าวก็จะแตกต่างกันไปเล็กๆ น้อยๆ ตามที่แต่ละแบรนด์จะสรรหาลูกเล่นมาเสริมเติมแต่งให้ เราจึงขอยกตัวอย่างจากอุปกรณ์ของซัมซุง ที่เพิ่งปล่อยให้ผู้ใช้ “กาแลคซี่ โน้ต 5”(Galaxy Note 5) ได้อัพเดตอุปกรณ์เป็นเวอร์ชั่นดังกล่าว ลองมาดูกันซิว่า 6.0.1 มาร์ชเมลโล จะทำให้สมาร์ทโฟนฉลาดขึ้นอย่างไรบ้าง ภายใต้หน้าตาเมนูการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไป…!

สแกนลายนิ้วมือ รวดเร็ว-แม่นยำขึ้น!
เมื่อมีการอัพเดตซอฟต์แวร์ แน่นอนว่าเรื่องของความปลอดภัยก็เป็นสิ่งหนึ่งที่มักจะได้รับการพัฒนาอยู่เสมอ ดังนั้นในการอัพเดตซอฟต์แวร์ครั้งนี้จึงมีการปรับปรุงให้ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Finger Print) สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้นด้วย

เพิ่ม…กูเกิล ออน แท็บ
อาจเพราะรู้ใจว่าหลายคนใช้งานกูเกิลเพื่อค้นหาข้อมูลต่างๆ วันละหลายรอบ เมื่ออัพเดตซอฟต์แวร์ 6.0.1 จึงมีการพัฒนาให้ผู้ช่วยส่วนตัวอย่าง กูเกิล นาว (Google Now) สามารถตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็วขึ้นด้วยรูปแบบที่เรียกว่า นาว ออน แท็บ (Now on Tap) เพียงกดปุ่มโฮมค้างไว้ ก็สามารถเรียกใช้งานได้ทันที แถมโปรแกรมดังกล่าวยังมีความฉลาดมากขึ้นเพราะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่แสดงอยู่บนหน้าจอในขณะนั้นเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้งานว่าต้องการความช่วยเหลืออะไร เช่น หาข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ รอบฉาย สถานที่ เป็นต้น

แอนดรอยด์ 6.0.1 พัฒนาเพื่อสาวกแอนดรอยด์

ย้ายแอพฯ สะดวกขึ้น
จากเดิมที่ต้องกดค้างและลากแอพพลิเคชั่นที่ต้องการย้ายไปยังตำแหน่งต่างๆ แบบทำได้แค่ทีละแอพฯ คงต้องบอกว่าเมื่ออัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่ 6.0.1 มาร์ชเมลโล คุณจะสามารถทำได้สะดวกขึ้น! สามารถลากแอพฯ เพื่อย้ายตำแหน่งได้ครั้งละหลายๆ แอพฯ อีกด้วย เพียงเลือกแอพฯ ที่ต้องการย้ายไปวางไว้ที่ด้านบนของหน้าจอและเคลื่อนย้ายแบบพร้อมกันหลายๆ แอพฯ

เลือกตั้งค่าได้ทันใจ
เพราะแต่ละการใช้งานต่างมีเมนูตั้งค่าที่แตกต่างกันไป ดังนั้นซอฟต์แวร์ใหม่จึงช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าการใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น คือไม่ต้องเสียเวลาเข้าออกในแต่ละโปรแกรม เพราะคุณสามารถเลือกเมนูตั้งค่าที่ใช้งานบ่อยมาไว้ด้วยกันที่ฟังก์ชั่นอีดิท ควิก เซตติ้ง (Edit Quick Setting) ตั้งค่าอะไรๆ ได้ง่ายขึ้นเยอะ

นอกจากนี้ แอนดรอยด์ 6.0.1 ยังมีลูกเล่นอีกหลายอย่าง เช่น เลือกและดาวน์โหลดธีมจากธีม สโตร์ (Theme Store) หรือคุณสมบัติอื่นๆ ในสมาร์ทโฟนแอลจี เน็กซัส (Nexus) ซึ่งซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่นี้ก็ได้เข้าไปเพิ่มลูกเล่นให้ด้วย อาทิ อีโมติคอนใหม่อีกกว่า 200 แบบในกูเกิล คีย์บอร์ด หรือการเข้าสู่กล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วจากการกดปุ่มพาวเวอร์ 2 ครั้ง เป็นต้น

งานนี้…สาวกแอนดรอยด์คงต้องติดตามความเคลื่อนไหวกันหน่อย ว่าสมาร์ทโฟนค่ายที่ใช้อยู่จะเปิดให้อัพเดตซอฟต์แวร์เป็น 6.0.1 มาร์ชเมลโล ได้เมื่อไหร่ จะได้ไม่ตกเทรนด์…!!!

ที่มา : samsungparty, lgmobilelover

จอเล็ก จอใหญ่โดน จับ ไอโฟน SE เทียบสเปกรุ่นพี่ ไซส์นี้ผ่านไหม?

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/595812

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 25 มี.ค. 2559 06:05

 

เช็กสเปกน้องใหม่ตระกูลไอโฟน อย่าง “iPhone SE” เมื่อเผยโฉมด้วยจอ 4 นิ้ว และราคาที่ถูกที่สุดของไอโฟน แต่สเปกอื่นๆ จะโดนใจแฟนแอปเปิลหรือไม่…

จากที่ “แอปเปิล” ประกาศเปิดตัวไอโฟนรุ่นล่าสุดในชื่อ “ไอโฟน เอสอี”(iPhone SE) ด้วยการพลิกโฉมกลับมาสู่…สมาร์ทโฟนจอ 4 นิ้วอีกครั้ง! โดยแม้จะปรับขนาดหน้าจอลง แต่งานนี้แอปเปิลจัดเต็มให้กับสเปกของไอโฟน เอสอี เพื่อเรียกคะแนนความสนใจจากคนไม่ปรารถนามือถือรุ่นท็อป หรือราคาระดับไฮเอนด์

อย่างที่บอกไปแล้ว…แอปเปิลได้ขยับขนาดหน้าจอไอโฟนเป็น 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว ตั้งแต่ครั้งเปิดตัวไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส เพื่อตอบสนองเทรนด์การใช้สมาร์ทโฟนที่ระบุว่าหน้าจอใหญ่กลายเป็นแนวโน้มขวัญใจมหาชน ถือว่าแอปเปิลเองก็พยายามจะพัฒนาเรื่องดังกล่าวอยู่เหมือนกัน และยิ่งชัดเจนเมื่อได้เปิดตัวไอโฟน เอสอี หน้าจอเล็กอีกครั้ง เรียกว่างานนี้แอปเปิลตั้งใจจะโกยตลาดสมาร์ทโฟนราคากลาง-สูง กลับมาจากคู่แข่งรายสำคัญที่มีหน้าจอทุกขนาดทั้งเล็ก กลาง และใหญ่เบิ้มนั่นเอง

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา “ไทยรัฐออนไลน์” จะพาคุณไปเช็กอย่างละเอียด ว่าหากเปิดตำรา กางสเปก เทียบกันรุ่นต่อรุ่นในซีรี่ย์ไอโฟน ไอโฟนน้องใหม่รุ่นนี้จะมีทีเด็ดสู้รุ่นพี่ที่เปิดตัวออกมาก่อนได้หรือไม่ อย่างไร…?

ไอโฟน SE ที่หลายๆ คน กำลังสนใจ

มาพร้อม 4 สี สไตล์ไอโฟน

1. หากไม่นับถอยหลังไปไกล ไอโฟน เอสอี ซึ่งมีขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว ก็ถือว่ายังไม่ทิ้งห่างไอโฟน 6 เอส ซึ่งมีหน้าจอ 4.7 นิ้ว มากนัก แต่หากเทียบกับไอโฟน 6 เอสพลัส ที่หน้าจอ 5.5 นิ้ว อาจจะทำให้เห็นความแตกต่างมากซักหน่อย

2. ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเหนือความคาดหมาย เมื่อไอโฟน เอสอี มากับชิพแบบ A9 แบบ 64bit โปรเซสเซอร์ร่วม M9 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหวในตัว เรียกว่าเคาะมาเหมือนไอโฟน 6 เอส แบบเหมือนเปี๊ยบบบบบ

3. แต่ถ้าเทียบกันด้วยเรื่องความจุ รุ่นพี่อย่างไอโฟน 6 เอส มีความจุให้เลือก 3 ขนาด คือ 16GB, 64GB, 128GB แต่ไอโฟน เอสอี มีให้เลือกเพียง 2 ความจุ คือ 16GB และ 64GB เรียกว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่รุ่นใหม่นี้ถอยกลับไปคล้ายกับไอโฟน 6

เทียบขนาดกันให้เห็นจะจะ กับอีก 4 รุ่นพี่ตระกูลไอโฟน

4. สำหรับใครที่บ่นว่าไอโฟนรุ่นหลังๆ นั้นมีน้ำหนักมากขึ้น ทำให้ใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้แบบไม่มั่นใจนักในช่วงแรกๆ คงต้องบอกเลยว่าไอโฟน เอสอี อาจทำให้คุณชื่นชอบได้อีกครั้งด้วยน้ำหนัก 113 กรัม ขณะที่ไอโฟน 6 เอส มีน้ำหนัก 143 กรัม และไอโฟน 6 เอสพลัสนั้นหนักถึง 192 กรัม แต่ถ้าเทียบกันที่ความหนาของตัวเครื่อง คงต้องมอบตำแหน่งสาวอวบให้กับไอโฟน เอสอี แบบไม่ต้องลังเล กับความหนา 7.6 มม. ขณะที่ไอโฟน 6 เอส หนา 7.1 มม. และไอโฟน 6 เอสพลัส ก็ยังหนาแค่ 7.3 มม.

5. หลายคนอาจคิดว่ารุ่นเล็กอย่างไอโฟน เอสอี จะต้องมาพร้อมกล้องที่ถูกลดประสิทธิภาพ รวมถึงลูกเล่น Live Photo ก็คงไม่มี แต่บอกเลยว่าผิดคาด! เพราะกล้องถ่ายภาพยังเป็นแบบ iSight ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดสูงสุดที่แอปเปิลใส่ไว้ให้กับไอโฟน รวมถึงความละเอียดโหมดพาโนรามาสูงสุดที่ 63 ล้านพิกเซล และลูกเล่นอื่นๆ ก็ยกมาใส่ไว้แบบจัดเต็ม แต่กล้องของไอโฟน เอสอี กลับขาดคุณสมบัติป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล แตกต่างจากไอโฟน 6 เอสพลัส และ 6 พลัส แต่ยังคงรักษาจุดเด่นในการบันทึกวิดีโอระดับ 4K เอาไว้

6. ใครชอบกล้องหน้าแบบละเอียดๆ ไว้เซลฟี่…อาจต้องผิดหวังนิดหน่อย เพราะไอโฟน เอสอี มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล เรียกว่าลดความละเอียดลงไปเท่ากับไอโฟน 6 แตกต่างจากไอโฟน 6 เอส ที่มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

สีโรสโกลด์ หวานๆ

ดีไซน์มาตรฐานแบบแอปเปิล

7. แบตเตอรี่ของไอโฟน เอสอี สามารถรองรับระยะสนทนาได้เทียบเท่าไอโฟน 6 และไอโฟน 6 เอส คือ 14 ชั่วโมงเมื่อมีการเชื่อมต่อ 3จี และระยะเวลาสแตนด์บายอยู่ที่ 10 วัน ขณะที่ระยะเวลาสูงสุดในปัจจุบันของไอโฟนนั้นอยู่ที่ 24 ชั่วโมง และ 16 วัน ในรุ่นไอโฟน 6 พลัส และไอโฟน 6 เอสพลัส

8. แต่ก็ยังเอาใจคนติดเน็ต ติดแชตเช่นเคย! เพราะไอโฟน เอสอี สามารถใช้งานได้สูงสุด 12 ชั่วโมงกับการเชื่อมต่อ 3จี และนาน 13 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อแบบ 4จี หรือ 13 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อแบบไว-ไฟ เรียกว่าสามารถยืดเวลาการใช้งานได้นานกว่าที่มีในไอโฟนรุ่นอื่นๆ สำหรับการเชื่อมต่อผ่าน 4จี และไว-ไฟ

9. และสำหรับคนที่ชื่นชอบความบันเทิง ไอโฟน เอสอี คงไม่ทำให้คุณผิดหวัง กับระยะเวลาเล่นวิดีโอได้สูงสุด 13 ชั่วโมง และเล่นเพลงสูงสุด 50 ชั่วโมง ใกล้เคียงกับไอโฟนรุ่นอื่นทีเดียว

จอเล็ก 4 นิ้ว ชอบไหม?

10. ไอโฟน เอสอี ยังคงยึดสีเอาไว้ที่ 4 สีด้วยกัน คือ เงิน, ทอง, โรสโกลด์, เทา สเปซเกรย์ เช่นเดียวกับไอโฟน 6 เอส ส่วนเรื่องราคานั้น…ไอโฟน 6 เอส เริ่มต้นที่ 26,500 บาท ไอโฟน 6เอสพลัส เริ่มต้นที่ 30,500 บาท แต่ไอโฟน เอสอี มีรายละเอียดว่าจะเปิดจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 13,900 บาท

จอเล็ก หรือจอใหญ่ คุณว่าแบบไหนถูกใจกว่ากัน…?

4.5จี รายแรกของโลก! เอไอเอสโชว์เทคโนโลยีใหม่ พร้อมใช้เชิงพาณิชย์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/595149

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 23 มี.ค. 2559 17:25

 

เอไอเอสเปิดบริการ 4.5 จี เชิงพาณิชย์ เป็นรายแรกของโลก โชว์ความเร็วสูงสุด 1Gbps พร้อมให้บริการย่านใจกลางเมือง ก่อนขยายไปหัวเมืองใหญ่ในเดือน เม.ย.นี้…

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า ปัจจุบันถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านในการให้บริการของเอไอเอสจากยุคสัมปทานสู่ยุคใบอนุญาต โดยขณะนี้เอไอเอสยังมีลูกค้าบนระบบ 2จี ประมาณ 4 แสนเลขหมาย และลูกค้าที่ใช้บริการ 3จี บนซิม 2จี คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ อีกกว่า 7.6 ล้านเลขหมาย บริษัทจึงเตรียมงบประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนด้านเครือข่ายให้ครอบคลุมการให้บริการ 3จี บนคลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิรตซ์

ทั้งนี้ เอไอเอสสามารถสร้างโครงข่าย 4จี ได้เร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ราว 60 วัน โดยสามารถเปิดให้บริการได้ 26 จังหวัด ภายใน 60 วัน หลังได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้บริการได้ 59 จังหวัด ภายใน 90 วัน และให้บริการได้ครบ 77 จังหวัด ภายใน 120 วัน ด้วยจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ 4จี รวมกว่า 5.6 ล้านเลขหมาย ภายใต้สถานีฐานกว่า 15,000 สถานี นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมงบประมาณเพื่อลงทุนด้านเครือข่าย 3จี และ 4จี ในปีนี้ราว 40,000 ล้านบาท

ล่าสุด บริษัทได้ประกาศให้บริการ 4.5จี เชิงพาณิชย์เป็นรายแรกในไทยและในโลก ภายใต้ความร่วมมือทางเทคโนโลยีกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด ด้วยเทคโนโลยี MIMO 4×4 Carrier Aggregation บนคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ และ 2100 เมกะเฮิรตซ์ รวมถึงเทคโนโลยี LTE-U/LAA ซึ่งเป็นการรวมช่องสัญญาณบนคลื่นความถี่ที่มีอยู่เข้ากับคลื่นความถี่สาธารณะที่ไม่ต้องมีใบอนุญาต ทำให้ลูกค้าสามารถรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วมากกว่า 4จี ถึง 2 เท่า และรองรับข้อมูลได้เพิ่มขึ้น 30%

“บริการ 4.5จี ถือเป็นเน็ตเวิร์กที่รวดเร็วที่สุดที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในโลก ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1Gbps เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นและบริการได้เต็มศักยภาพมากขึ้น เช่น วิดีโอแบบเอชดี หรือการเข้าถึงข้อมูลด้านการศึกษา เป็นต้น”

สำหรับพื้นที่ให้บริการ 4.5จี เอไอเอสจะเริ่มให้บริการในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะพื้นที่สยามและราชประสงค์ และจะมีการขยายพื้นที่ให้บริการอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายในเดือนเมษายน 2559 จะพร้อมให้บริการในจังหวัดหัวเมือง ส่วนอุปกรณ์ที่รองรับนั้นปัจจุบันผู้ผลิตทั่วโลกต่างเริ่มบรรจุเทคโนโลยีดังกล่าวเข้าสู่อุปกรณ์แล้ว และคาดว่าจะทยอยจำหน่ายออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ ส่วนอุปกรณ์ที่พร้อมรองรับเทคโนโลยี 4.5จี ได้แก่ หัวเว่ย ไวร์เลส เราท์เตอร์ นอกจากนี้ เอไอเอสจะเริ่มจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยีดังกล่าวภายในเดือนเมษายนนี้

ทั้งนี้ ภายในงานแถลงข่าวเทคโนโลยี 4.5จี เอไอเอสยังได้ทดสอบความเร็วของเทคโนโลยีดังกล่าว โดยได้ผลความเร็วอยู่ที่ 530 Mbps.

พร้อมสู้ทุกศึก! เอไอเอสเชียร์ กสทช.ประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ใหม่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/595109

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 23 มี.ค. 2559 17:00

 

เอไอเอส หนุน กสทช. ประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ใหม่ หลังแจส โมบาย เบี้ยวจ่ายเงินงวดแรก ชี้ประเทศไทยได้บทเรียนจากการประมูลครั้งนี้แล้ว…

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า หากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะจัดสรรคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ชุดที่ 1 (คลื่น 895-905 เมกะเฮิรตซ์ คู่กับ 940-950 เมกะเฮิรตซ์) โดยจัดการประมูลใหม่ หลังจากบริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ไม่ได้เข้าชำระค่าธรรมเนียมประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ดังกล่าว บริษัทก็มีความสนใจเข้าร่วมการประมูลในทุกคลื่นความถี่ แต่จำเป็นต้องพิจารณาเงื่อนไขของ กสทช. ด้วย ซึ่งหากมีรายละเอียดเพิ่มเติมก็จะได้ดำเนินการปรึกษาร่วมกับคณะกรรมการบริษัทต่อไป

“ขณะนี้เรารอให้ กสทช. ประกาศรายละเอียดออกมาอย่างเป็นทางการ ถามว่าสนใจไหม แน่นอนว่าเอไอเอสมีความสนใจอยู่แล้ว แต่ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและความคุ้มค่าทางธุรกิจด้วย ส่วนการกำหนดราคาเริ่มต้นประมูลเท่ากับราคาที่แจส โมบาย ได้ประมูลไว้นั้น ยังไม่ขอออกความเห็นในขณะนี้ เนื่องจากอยากให้คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาก่อน และส่วนตัวยังเห็นด้วยกับข้อเสนอของดีแทค ที่มองว่า กสทช. ควรกำหนดเงื่อนไขการประมูลครั้งต่อไปโดยจำกัดไว้เฉพาะผู้ที่เหลืออยู่จากการเข้าร่วมประมูลครั้งดังกล่าวเท่านั้น”

ส่วนเงื่อนไขที่ กสทช. ให้สิทธิ์ผู้แพ้ที่เสนอราคาเป็นอันดับ 2 ในการประมูลดังกล่าว ได้รับใบอนุญาตในคลื่นดังกล่าวนั้น บริษัทก็มีความยินดีในเงื่อนไขดังกล่าว ขณะที่ความร่วมมือกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการใช้คลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อให้บริการ 3จี ก็ยังคงมีความร่วมมือร่วมกัน แต่อยู่ระหว่างการดำเนินการและรอให้ทีโอทีประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าประเทศไทยได้บทเรียนจากการประมูลในครั้งนี้ เนื่องจากการประมูลใบอนุญาตด้วยราคาสูงอาจไม่ใช่เรื่องที่ดี เนื่องจากราคาไม่สมเหตุสมผล แม้จะมีข้อดีที่ทำให้ประเทศได้เม็ดเงินจำนวนมากก็ตาม ส่วนการที่ผู้ชนะประมูลไม่มาชำระเงินค่าธรรมเนียมตามกำหนดเวลานั้น ถือเป็นการสะท้อนถึงการตั้งราคาประมูลและเงื่อนไขที่เหมาะสมในครั้งต่อไปอีกด้วย.

ธุรกิจใช้ไอทีสร้างโอกาส! เมโทรฯ หวังดันซอฟต์แวร์-บริการ ตอบโจทย์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/594484

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 มี.ค. 2559 14:50

 

เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น เตรียมหนุนกลุ่มซอฟต์แวร์และบริการเป็นรายได้หลักองค์กร ชี้ภาคธุรกิจลงทุนด้านไอทีต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 7,500 ล้านบาท มั่นใจนโยบายดิจิตอลภาครัฐช่วยหนุนการลงทุนระบบ…

นายกิตติ เตชะทวีกิจกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการไอที 6,977 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทแบ่งออกเป็นฮาร์ดแวร์ 37% ซอฟต์แวร์โซลูชั่น 23% วัสดุสิ้นเปลือง 30% และบริการ 10% จากลูกค้ามากกว่า 9,000 รายในปัจจุบัน ซึ่งแบ่งเป็นลูกค้าเดิม 81% ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าใหม่ 19%

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ไว้ที่ 7,500 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นราว 8% ซึ่งเชื่อว่ารายได้หลักยังมาจากกลุ่มลูกค้าเก่า ที่ต้องการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้รองรับกับความต้องการใช้งานทั้งทางธุรกิจและเพื่อบริการลูกค้า รวมถึงการผลักดันธุรกิจกลุ่มซอฟต์แวร์และบริการไอที ภายใต้เป้าหมายให้สินค้ากลุ่มดังกล่าวสามารถเป็นรายได้หลักให้บริษัทในปีนี้ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าปัจจัยจากนโยบายด้านดิจิตอลของหน่วยงานภาครัฐที่เชื่อว่าจะได้รับการผลักดันอย่างต่อเนื่องและสามารถเกิดขึ้นจริงได้ภายในปีนี้ โดยบริษัทเตรียมงบประมาณสำหรับลงทุนในปีนี้ราว 50 ล้านบาท เพื่อลงทุนด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติม

“ธุรกิจไอทีเหมือนกับธุรกิจมือถือ เพราะมีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้องค์กรต้องการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ทุกช่วง 3-4 ปี ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทคือลูกค้าเดิมที่ต้องการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี อาทิ กลุ่มธุรกิจบริการ การเงิน เทคโนโลยี อุตสาหกรรม และอื่นๆ ขณะที่กลุ่มลูกค้าใหม่จะเป็นผู้ประกอบธุรกิจรายเล็กหรือกลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งแนวโน้มการลงทุนด้านไอทีขององค์กรต่างๆ นั้น เชื่อว่ายิ่งธุรกิจอยู่ในภาวะชะลอตัวจะยิ่งทำให้องค์กรต้องการลงทุนด้านไอทีเพิ่มเติมเพื่อสร้างการแข่งขันทางธุรกิจ หรือแม้แต่องค์กรที่สามารถเติบโตได้เป็นอย่างดีก็ยังต้องการลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพต่อไป”

สำหรับโซลูชั่นรูปแบบใหม่ที่บริษัทจะนำเสนอในปีนี้ ได้แก่ IT Cloud Services บริการให้เช่าใช้งานทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ผ่านเทคโนโลยีคลาวด์,​ ซอฟต์แวร์ระบบ Workflow อาทิ QlikView ซอฟต์แวร์สำหรับผู้บริหารระดับสูงสำหรับวิเคราะห์ติดตามการทำธุรกิจ, บริการประเภทสัญญา อาทิ Managed Services เป็นต้น.

มาตามนัด! ‘แอปเปิล’ เปิดตัว ‘iPhone SE’ จอเล็ก 4 นิ้ว-‘iPad Pro’ 9.7 นิ้ว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/594220

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 มี.ค. 2559 04:01

 

แอปเปิลจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สำนักงานในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเปิดตัว ไอโฟน และไอแพด ที่จอเล็กลงตามความคาดหมายของหลายฝ่าย…

บริษัท แอปเปิล อิงค์ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในชื่องานว่า ‘Let’s Loop You In’ ที่ ซิตี้ ฮอลล์ ในเมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันจันทร์ที่ 21 มี.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) แอปเปิลเปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง ไอโฟน เอสอี (iPhone SE) ซึ่งมีขนาดจอเล็กลงเหลือ 4 นิ้ว แต่ประสิทธิภาพเกินตัว และไอแพด โปร (iPad Pro) รุ่นใหม่ ที่มีขนาดจอเล็กลงเหลือ 9.7 นิ้ว ตามความคาดหมาย

เกร็ก จอสเวียค รองประธานบริษัทแอปเปิล ฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ไอโฟน เปิดตัว ไอโฟน เอสอี (ภาพ: AFP)

ภายในงาน นายเกร็ก จอสเวียค รองประธานบริษัทแอปเปิล ฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ไอโฟน เปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ในชื่อ ไอโฟน เอสอี มีจอภาพ Retina Multi-Touch ไวด์สกรีน แบ็คไลท์แบบ LED ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 1136×640 พิกเซลที่ 326 ppi มีเทคโนโลยี IPS ทำให้ภาพคมชัดขึ้น ใช้ชิพประมวลผล A9 แบบ 64บิท พร้อมชิพตรวจจับความเคลื่อนไหว M9 ในตัว

ความสามารถของกล้อง iSigth ของไอโฟน เอสอี (ภาพ: AP)

ในส่วนกล้องของ ไอโฟน เอสอี ส่วนใหญ่คล้ายกับ ไอโฟน 6เอส โดยกล้องหลังใช้กล้อง iSight ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ด้วยพิกเซลขนาด 1.22µ รูรับแสงขนาด ƒ/2.2 และรองรับการถ่ายภาพ Live Photos รองรับการถ่ายวิดีโอขนาด 4K ที่ 30 fps (ภาพต่อวินาที) ถ่ายภาพสโลว์โมชั่นที่ความละเอียด 1080p ที่ 120 fps และ 240 fps ได้ ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 มีเรตินาแฟลช (Retina Flash)

แอปเปิลให้แขกในงานทดลองใช้ ไอโฟน เอสอี (ภาพ: AFP)

ด้านขีดความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายต่างๆ ไอโฟน เอสอี เชื่อมต่อ LTE ความเร็วสูงกว่า ไอโฟน 5เอส ถึง 50% และรองรับความถี่ LTE มากกว่า รองรับไวไฟมาตรฐาน 802.11ac และไวไฟความเร็วสูง นอกจากนี้ ไอโฟน เอสอี ยังมีระบบ TouchID มีกระเป๋าเงินออนไลน์ แอปเปิล เพย์ (Apple Pay) ในตัว พร้อมเทคโนโลยีส่งผ่านข้อมูลระยะใกล้ เอ็นเอฟซี (NFC) และระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่เคยมีอยู่ในไอโฟน 5ซี

ราคาเริ่มต้นของ ไอโฟน เอสอี (ภาพ: AFP)

ไอโฟน เอสอี จะเปิดให้สั่งจองในวันที่ 24 มี.ค. นี้ และจะวางจำหน่ายในวันที่ 31 มี.ค. ใน 12 ประเทศรวมจีนและฮ่องกง ก่อนจะวางจำหน่ายใน 110 ประเทศในช่วงสิ้นเดือน พ.ค. ในราคาเครื่องเปล่า $399 (ราว 13,900 บาท) สำหรับเครื่องความจุ 16GB และ $499 (ราว 17,400 บาท) สำหรับเครื่องความจุ 64GB มีให้เลือก 4 สีคือ สีเงิน, สีเทาสเปซเกรย์, สีทอง และ สีแดงกุหลาบ (Rose Gold)

ฟิล ชิลเลอร์ เปิดตัวไอแพด โปร จอเล็ก (ภาพ: AFP)

ขณะที่ นายฟิล ชิลเลอร์ รองประธานบริษัทแอปเปิล ฝ่ายการตลาดทั่วโลก ขึ้นเวทีเปิดตัว ไอแพด โปร รุ่นใหม่ ที่มีขนาดจอเล็กลง โดยใช้จอ Retina ขนาด 9.7 นิ้ว แบ็คไลท์แบบ LED พร้อม Multi-Touch ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซลที่ 264 ppi โดยสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาจากไอแพด โปร จอ 12.9 นิ้วที่เปิดตัวไปเมื่อปีก่อนคือ ไอแพด โปร จอเล็กมีระบบการแสดงผลแบบ True Tone โดยจะมีเซนเซอร์วัดสีของอุณหภูมิโดยรอบแล้วปรับสีหน้าจอให้ตรงกัน

องค์ประกอบและความสามารถของ ไอแพด โปร จอ 9.7 นิ้ว (ภาพ: REUTERS)

ไอแพด โปร จอเล็ก ใช้ชิพประมวลผล A9X 64bit พร้อมชิพตรวจจับความเคลื่อนไหว M9 ในตัว กล้อง iSight ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/2.2 รองรับ การถ่ายภาพ Live Photos และแฟลช True Tone มีรับโฟกัสอัตโนมัติและโฟกัสด้วยการแตะด้วย Focus Pixels ถ่ายภาพพาโนรามาที่ความละเอียดสูงสุด 63 เมกะพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอขนาด 4K ถ่ายภาพสโลว์โมชั่นที่ความละเอียด 1080p ที่ 120 fps และ 240 fps ได้ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มาพร้อม Retina Flash

เปรียบเทียบขนาดของไอแพด โปร จอ 12.9 นิ้ว และ จอ 9.7 นิ้ว (ภาพ: AFP)

ไอแพด โปร จอเล็ก มีระบบ Pro Audio ระบบเสียง 4 ลำโพง ซึ่งความถี่ของคลื่นระหว่างลำโพงด้านบนและด้านล่างจะปรับตามการใช้งาน แอปเปิลยังเผย Apple Keyboard เฉพาะสำหรับ ไอแพด โปร จอ 9.7 นิ้ว โดยคีย์บอร์ดสามารถทำงานได้ทันทีที่ติดตั้งกับไอแพด โปร นอกจากนี้ยังมี Lightning Adapter ทั้ง SD card reader และ USB Camera Adapter ด้วย

Lightning Adapter ทั้ง SD card reader และ USB Camera Adapter ของไอแพด โปร (ภาพ: AFP)

ไอแพด โปร จอ 9.7 นิ้ว จะเปิดให้สั่งจองในวันที่ 24 มี.ค. นี้ และจะวางจำหน่ายในวันที่ 31 มี.ค. โดยเครื่องรุ่นรองรับไวไฟเพียงอย่างเดียวมีความจุให้เลือกระหว่าง 32GB, 128GB และ 256GB มีราคาตามเว็บไซต์ แอปเปิล ภาษาไทย อยู่ที่ 22,900 บาท, 28,900 บาท และ 34,900 บาท ตามลำดับ ส่วนเครื่องรุ่นรองรับทั้ง ไวไฟ และเซลลูลาร์ มีให้เลือก 2 ความจุ คือ 128GB และ 256GB สนนราคาอยู่ที่ 41,900 บาท และ 47,900 บาท

ราคาเริ่มต้นของไอแพดรุ่นต่างๆ (ภาพ: REUTERS)

แอปเปิลยังเปิดเผยความคืบหน้าในด้านอื่นๆ โดยพัฒนา tvOS ของ Apple TV เพิ่มฟีเจอร์สร้างโฟลเดอร์ สำหรับจัดเรียงแอพพลิเคชั่นตามต้องการ สามารถใช้เสียงสั่งการเพื่อพิมพ์ข้อความบนหน้าจอได้ และสามารถเข้าถึงคลังภาพใน iCloud ได้ทั้งหมด โดยสามารถอัพเดตได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.เป็นต้นไป

ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล พูดถึงสายรัดข้อมือใหม่ของ Apple Watch (ภาพ: AP)

ในส่วนของ iOS แอปเปิล เปิดตัว iOS 9.3 เพิ่มฟีเจอร์ล็อกและล็อกด้วยลายนิ้วมือให้แก่แอพพลิเคชั่น Note, เพิ่มฟีเจอร์ Night Shift ลดแสงสีฟ้าในจอภาพซึ่งจะทำให้หลับยากในเวลากลางคืน โดยระบบจะใช้นาฬิกาและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของอุปกรณ์ iOS เพื่อหาเวลาพระอาทิตย์ตกในตำแหน่งที่คุณอยู่ จากนั้นจึงค่อยปรับแสงจอภาพให้เป็นโทนที่อุ่นขึ้นโดยอัตโนมัติ เพิ่ม Apple Music เข้าไปในแอพฯ CarPlay และเพิ่มแอพฯ สุขภาพใหม่ๆ

ขณะที่ Apple Watch ลดราคาลงเหลือ $299 (ราว 10,400 บาท) พร้อมเปิดตัวสายรัดข้อมือยี่ห้อใหม่และสีใหม่ซึ่งสร้างจากวัสดุใหม่เช่น ผ้าไนลอนทอ 4 สี และสายรัดข้อมือหนังและสปอร์ตสีใหม่ร่วมมือกับแบรนด์เสื้อผ้าดัง ‘แอร์เมส’ เป็นต้น

รวมของใหม่ที่คาดว่า งานแถลงแอปเปิล ‘Let Us Loop You In’ ปี 2016

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/593758

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 มี.ค. 2559 05:30

 

แอปเปิล เตรียมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ในวันที่ 21 มี.ค.2559 โดยใช้ข้อความว่า ‘Let Us Loop You In’ โดยคาดว่าจะมีของใหม่ออกมาให้เห็นในงาน อาทิ iPhone SE ไอแพดรุ่นใหม่ สายแอปเปิลวอตช์ และซอฟต์แวร์อัพเดตล่าสุดมากมาย…

แอปเปิล เตรียมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ในวันที่ 21 มี.ค.2559 โดยใช้ชื่องานว่า ‘Let Us Loop You In’ โดยสำนักข่าวในต่างประเทศหลายแห่งตามคาดกันว่า งานนี้จะเป็นการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ที่มีหน้าจอขนาด 4 นิ้ว หรือ ไอโฟน เอสอี (iPhone SE) อันเป็นสมาร์ทโฟนจอ 4 นิ้ว ตัวแรกที่กลับมาผลิตอีกตั้งนับตั้งแต่ปี 2013 โดยมีรูปทรงเหมือนกับไอโฟน 5เอส (iPhone 5S) แต่มากับความบางและโค้งมนมากขึ้น มีเซนเซอร์ทัชไอดี กล้องขนาด 12 หรือ 8 ล้านพิกเซล ชิปประมวลผล A9 รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย NFC บลูทูธ 4.2 ไวไฟ 802.11ac แบตเตอรี่ขนาด 1,642 mAh คาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ราวๆ 400-500 เหรียญสหรัฐฯ

บัตรเชิญสื่อของแอปเปิล พร้อมข้อความ ‘Let Us Loop You In’

เช่นเดียวกับ ข่าวลือของการเปิดตัวไอแพดรุ่นใหม่ (9.7-Inch iPad) ที่คาดว่าจะมีหน้าจอ 9.7 นิ้ว โดยอาจจะเป็นไอแพดแอร์ ตัวใหม่ ที่มีการออกแบบให้มีลำโพงรวมทั้งหมด 4 ตัว รองรับลการทำงานของแอปเปิลเพนซิล ใช้โปรเซสเซอร์ชิป A9X กล้องหลังที่ปรับปรุงให้ละเอียดกว่าเดิมที่ 12 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช แบบ LED โดยคาดว่าจะมาในรุ่นความจุ 32GB WiFi ราคาราว 599เหรียญสหรัฐฯ และ 128GB LTE-WiFi ราคาจะสูงมากกว่าขึ้นไปอีก

รวมทั้งการเปิดตัวสายนาฬิกา แอปเปิลวอตช์ ใหม่ ๆ และการอัพเดตซอฟต์แวร์ทั้ง iOS 9.3 WatchOS 2 tvOS และ OSX เอล กัปปิตัน เป็นต้น

ทั้งนี้ งานแถลงข่าวของแอปเปิล จะจัดขึ้นที่ห้องออดิทอเรียม ในทาวน์ฮอลล์แอปเปิล แคมปัส 1 Infinite Loop campus ในคูเปอร์ติโน เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เวลา 10.00 น.(เวลาแปซิฟิก).

ที่มา  : macrumors

มาหรือไม่? จับตา ‘แจส โมบาย’ ก่อนถึงเส้นตาย กำหนดจ่ายค่าใบอนุญาตงวดแรก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/592955

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 มี.ค. 2559 06:05

 

ยังไร้ความคืบหน้า! เลขาธิการ กสทช. เผย แจส โมบาย ยังไม่มีสัญญาณชำระค่าใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ชี้ควรส่งหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ…

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการชำระเงินค่าประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ของบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ในเครือบริษัท จัสมิน อินเตอร์แนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลนั้น หากแจสจะชำระเงินค่าใบอนุญาตก็จะต้องติดต่อมายัง กสทช. เพื่อนัดชำระเงินก่อนครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 21 มี.ค.นี้

“กสทช. ยังคงรอการตอบยืนยันจากแจสว่าจะเข้ามาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตหรือไม่ เมื่อใด หากแจสพร้อมชำระเงินแล้วต้องทำหนังสือแจ้งเข้ามาที่สำนักงาน กสทช. หรือจะไม่ชำระก็ต้องทำหนังสือแจ้งเช่นเดียวกัน เนื่องจาก กสทช.จะต้องเตรียมการ เพื่อนำวาระแจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ในการอนุมัติใบอนุญาต อย่างไรก็ตาม จากการติดต่อไปยังตัวแทนของแจสในช่วงเย็นของวันที่ 18 มี.ค. กลับพบว่าไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ต้องรอดูความเคลื่อนไหวในวันที่ 21 มี.ค. อีกครั้งหนึ่ง”

สำหรับค่าใบอนุญาตที่แจสต้องชำระในงวดแรกนี้ มีมูลค่า 8,040 ล้านบาท ทั้งยังต้องแสดงหนังสือค้ำประกัน (แบงก์การันตี) ในงวดที่เหลืออีกด้วย

“หากแจสมาชำระเงินภายในวันที่ 21 มี.ค. ก็จะรับเรื่องไว้ และนำเข้าที่ประชุม กทค. เพื่อรับทราบและออกใบอนุญาตให้ในขั้นตอนต่อไป แต่หากไม่มาชำระเงินก็ควรมีการติดต่อเข้ามา โดยไม่ปล่อยให้ กสทช. ต้องรอลุ้นจนถึงกำหนดดังกล่าว ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้ง 2 กรณีว่าแจสจะมาชำระเงินภายในกำหนดโดยไม่ส่งหนังสือแจ้งก่อน หรือไม่ส่งหนังสือแจ้งและไม่มาชำระเงินงวดแรก ซึ่งในกรณีที่แจสเข้ามาชำระเงินค่าประมูลใบอนุญาตได้ทันกำหนด การพิจารณาให้ใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ก็จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.เป็นต้นไป เนื่องจากต้องรอให้สิ้นสุดมาตรการเยียวยาลูกค้า 2จี ในคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองถึงวันที่ 14 เม.ย.”

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้มีกระแสข่าวว่า แจสได้รับการสนับสนุนจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และมีนายธนาคารใหญ่บางรายได้ระบุว่าแจสมีความพร้อมในการชำระค่าใบอนุญาต ภายในวันที่ 21 มีนาคมนี้อย่างแน่นอน.

พลาดแล้วอาจเสียใจ เช็กไฮไลต์ ‘คอมมาร์ต’ 10 ทีเด็ดที่มาแล้วถึงจะรู้!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/592349

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 มี.ค. 2559 17:05

 

เปิดม่านคอมมาร์ต คอนเนค 2016 วันแรก แบรนด์ไอทียกสินค้ามาเปิดบูธจำหน่ายและจัดแสดงแบบจัดเต็ม เชื่อโน้ตบุ๊กยังครองใจผู้บริโภค โดยเฉพาะรุ่นราคาแพง…

นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการสื่อไอทีและดิจิทัล บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 17-20 มีนาคม 2559 บริษัทได้จัดงานคอมมาร์ต คอนเนค 2016 เพื่อจำหน่ายและจัดแสดงสินค้าไอที โดยคาดว่าจะมีผู้ให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมงานไม่ต่ำกว่า 8 แสนคน และสามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 2,900 ล้านบาท จากการจัดงานครั้งที่ผ่าน 2,700 ล้านบาท

“การจัดงานในครั้งนี้มีการปรับรูปแบบเพื่อเป็นการตอบสนองผู้บริโภคในกลุ่มเจนซี (คอนเนคเต็ด เจนเนอเรชั่น) มากขึ้น ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีความชื่นชอบและต้องการใช้เทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสินค้าที่จะได้รับความนิยม ได้แก่ โน้ตบุ๊ก ทั้งกลุ่มออลอินวันและเกมมิ่ง รองลงมา คือ สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เสริมต่างๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์เสริมในกลุ่มเกมมิ่ง ส่วนระดับราคาโน้ตบุ๊กที่คาดว่าจะได้รับความนิยมนั้น เชื่อว่าจะเป็นรุ่นที่มีราคา 30,000 บาท เนื่องจากคนไทยนิยมเลือกซื้อเทคโนโลยีใหม่ ทั้งยังชื่นชอบสเปกแรงและดีไซน์สวยงาม ประกอบการซื้อสินค้าในปัจจุบันนั้นสามารถเลือกผ่อนชำระได้ จึงทำให้ผู้บริโภครู้สึกให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อและคุ้มค่าในการใช้จ่าย แตกต่างจากการซื้อสมาร์ทโฟนที่มีตัวเลือกหลากหลายทั้งราคาและการใช้งาน ทำให้รู้สึกว่าสามารถเลือกใช้สินค้าราคาไม่แพงได้”

กิจกรรมนาทีทอง สินค้าราคาพิเศษ

สำหรับสินค้าที่นำเสนอในการจัดงานครั้งนี้ ผู้จำหน่ายพยายามนำเสนอสินค้าหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและเทคโนโลยี ซึ่งหลายแบรนด์ได้นำสินค้าที่น่าสนใจมาจำหน่าย อาทิ โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีที่น่าสนใจและรูปลักษณ์สวยงาม เพื่อตอบสนองการทำงานและความบันเทิง เช่น โน้ตบุ๊กที่สามารถใช้งานเป็นโปรเจคเตอร์ได้ หรือโน้ตบุ๊กสเปกแรงสำหรับเล่นเกม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะมีกำลังซื้อที่ดีจากปัจจัยการซื้อ ซึ่งเลือกสายอาชีพเป็นสตาร์ตอัพและรับงานอิสระมากขึ้น ทำให้ต้องเลือกซื้อเทคโนโลยีใหม่และรุ่นไฮเอนด์ ซึ่งเชื่อว่าการจัดงานคอมมาร์ตจะทำให้ผู้บริโภคสนใจมาเยี่ยมชมและทดลองใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อได้ภายในงาน นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปให้ความรู้ อาทิ รู้ก่อนโดนล้วงภัยร้ายในยุคคอนเนคเต็ด, คอนเนคเต็ดไลฟ์ ชีวิตแบบนี้ดีจริงหรือ, ฝึกบินโดรน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 18-20 มีนาคม เท่านั้น
นอกจากนี้…คอมมาร์ต คอนเนค 2016 ยังมีไฮไลต์ที่น่าสนใจ จากค่ายไอทีชั้นนำที่พากันยกขบวนมาออกบูธและจัดกิจกรรมภายในงาน ทั้งเอซุส เดลล์ เลอโนโว MSI เอเซอร์ SVOA อาทิ…

1. การกลับมาของ “เอชพี”
ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย กับการกลับมาของอดีตยักษ์ใหญ่แบรนด์ไอทีอย่างเอชพี หลังห่างหายจากตลาดไอทีประเทศไทยถึง 5 ปีเต็ม แต่กลับมาออกบูธแบบจัดเต็มภายในงานครั้งนี้เพื่อหวังเรียกเรตติ้งจากสาวกไอที

2. พื้นที่จัดงานคอมมาร์ต คอนเนค ในครั้งนี้ ใช้พื้นที่ในเพลนนารี่ฮอลล์ , โซนซี บน, พลาซ่า, เอเทรี่ยม, เมนโฟร์เย่ เรียกว่าเต็มพื้นที่การจัดงานเพื่อเปิดโอกาสให้หลากบริษัทและร้านไอทีได้มาเปิดบูธจำหน่ายและจัดแสดงสินค้า

J.I.B. มีเก้าอี้ให้คนรักเกมได้ทดลองนั่ง

แอดไวซ์ คนมุงแน่น

3. ใครชอบความคุ้มค่า อย่าพลาดลงทะเบียนเข้าร่วมงานผ่านเว็บไซต์คอมมาร์ต เพราะสามารถลุ้นรับรางวัลได้แม้จะไม่ได้เสียเงินซื้อสินค้าภายในงานเลยสักบาท! ส่วนผู้ที่มาจับจ่ายภายในงานตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป ก็จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัล อาทิ บัตรกำนัล 500 บาท, สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่, ทองคำ เป็นต้น

4. ไม่ใช่ว่ามีจำหน่ายแค่สินค้าใหม่ ราคาไฮเอนด์เท่านั้น แต่โน้ตบุ๊กราคาไม่ถึง 10,000 บาท ก็มีให้เลือกซื้อภายในงาน จากหลายๆ บูธ อาทิ แอดไวซ์, เอชพี, เดลล์, เลอโนโว เป็นต้น ส่วนพวกอุปกรณ์เสริมและแก็ดเจ็ต จะมีให้เลือกที่โซนซีและเอเทรี่ยม

5. แม้ว่าการจัดงานครั้งนี้จะไม่ได้แข่งขันกันลดราคามากนัก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดโปรโมชั่นนาทีทอง เพื่อมอบส่วนลดหรือสิทธิพิเศษต่างๆ อาทิ บูธเจไอบี, ไอที ซิตี้, แอดไวซ์, สปีด ส่วนการลดราคาแบบจัดหนักประเภทเคลียแรนซ์เซลส์นั้น จะเป็นส่วนของอุปกรณ์เสริมมากกว่า

แอดไวซ์ คนมุงแน่น

6. ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมางานครั้งนี้ อยู่ที่ทางเข้าหลักด้านหน้าห้องบอลรูม ซึ่งเป็นการจัดแสดงไอคาร์ หรือที่เรียกว่า คอนเนคเต็ดคาร์ เทคโนโลยีรถยนต์อัจฉริยะซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะรถอัจฉริยะตระกูลแอนดรอยด์ถือเป็นครั้งแรกในการจัดแสดงในไทย

7. จอโค้งเจ๋งๆ จากเอชพี แซท ดิสเพลย์ กับความคมชัดระดับ Ultra Wide Curved ซึ่งมีจำหน่ายเป็นครั้งแรกในไทย แต่ภายในงานเป็นการจัดแสดงและเปิดให้จองเป็นครั้งแรกในงานนี้

8. โน้ตบุ๊กใหม่ๆ ก็มีมาให้เลือกซื้อ เช่น MSI ที่เปิดกลุ่มโน้ตบุ๊กใหม่สำหรับใช้เพื่องานตัดต่อ, เอชพี เปิดตัวโน้ตบุ๊กสำหรับเอสเอ็มอี เน้นสเปกและดีไซน์รองรับการใช้งาน หรือโน้ตบุ๊กใส่ซิมการ์ดเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตได้

ของดี ของถูก…ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

9. ใครรอซื้อซัมซุงรุ่นใหม่อย่างกาแลคซี่ เอส 7 และกาแลคซี่ เอส 7 เอดจ์ บอกเลยว่าพร้อมจำหน่ายภายในงานครั้งนี้เช่นกัน ที่บูธแอดไวซ์ และซีเอสซี ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. ซึ่งเปิดจำหน่ายพร้อมกับกำหนดการที่ซัมซุงแจ้งไว้

10. ไม่ใช่แค่สินค้าไอที เพราะในเพลนนารี่ฮอลล์นั้นมีบูธสินค้าไฮเทคอื่นๆ อีกเพียบ เช่น อิกกู (IGGOO) แบรนด์จำหน่ายหุ่นยนต์ดูดฝุ่น หรือ แฟนทอม (Phantom) จำหน่ายโดรน

อยากไปอัพเดตเทคโนโลยีหรือเลือกซื้อสินค้าไฮเทค ก็เชิญได้ 17-20 มีนาคมนี้ เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์.

สื่อจีนลือภาพหลุด คาดเป็น ‘iPhone7’ จะใช้กล้องหลังแบบเลนส์คู่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/592079

 

สื่อจีนเผยภาพที่คาดว่าจะเป็นไอโฟน 7 พลัส (iPhone 7Plus) โดยเผยถึงรูปร่างล่าสุดที่ถูกออกแบบมากับกล้องหลังแบบ 2 เลนส์ หรือ Dual Lens Camera โดยกล้องหลังจะยื่นนูนออกมาแล้วจะเรียบไปกับตัวเครื่อง…

เว็บไซต์ macrumors รายงานการรายงานของ bastillepost.com ในฮ่องกง เผยภาพที่คาดว่าจะเป็นไอโฟน 7 พลัส (iPhone 7Plus) โดยเผยถึงรูปร่างล่าสุดที่ถูกออกแบบมา ถึงความเปลี่ยนแปลงตามข่าวลือก่อนหน้านี้ว่า จะมีการนำเอากล้่องหลังแบบ 2 เลนส์ หรือ Dual Lens Camera มาใช้งาน โดยกล้องหลังจะยื่นนูนออกมาแล้วจะเรียบไปกับตัวเครื่อง ตรงกับข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าไอโฟนรุ่นใหม่มากับกล้องดูอัลเลนส์

เท่าที่เห็นจากภาพก่อนหน้านี้ กล้องแบบเลนส์คู่ มาพร้อมไมโครโฟน และแฟลชแบบ LED ขณะที่เสาอากาศถูกเปลี่ยนตำแหน่งย้ายไปอยู่ด้านบนและด้านล่างของเครื่อง นอกจากนี้ยังมีจุด 3 จุดด้านหลังเครื่อง บริเวณส่วนล่าง ที่น่าจะใช้กับสมาร์ทคอนเนคเตอร์แบบใหม่ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าจะใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ในรูปแบบไหน แต่น่าจะใช้ในการเชื่อมต่อข้อมูล และชาร์จไฟ รวมทั้งการต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อย่างไรก็ตามมีการเผยถึงรายละเอียดของปุ่มปรับเสียง และสวิตช์ปิดเสียง ด้านข้างซ้าย ปุ่มเปิด-ปิดเครื่องด้านขวา บนตัวเครื่องแบบยูนิบอดี้ วัสดุอะลูมินั่ม เหมือนตระกูลไอโฟน 6

นอกจากนี้ตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้า ไอโฟน 7 จะเป็นรุ่นแรกที่เอาช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.ออกจากเครื่อง โดยเลือกใช้ช่อเชื่อมต่อไลท์นิ่งแบบออล-อิน-วัน รวมทั้งมากับลำโพงสเตอริโอ 2 ข้าง ที่น่าจะให้กำลังเสียงที่กระหึ่มมากกว่าเดิม.

ที่มา : macrumors.com