ผุดประชุมใหญ่ปี 59 ‘ไอทีพีซี’ ล้อมวงถกทิศทางไอซีที

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/573416

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ก.พ. 2559 20:30

 

ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมสัมมนาและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2559 ณ จังหวัดจันทบุรี…

เมื่อวันที่ 30-31 ม.ค.2559 ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (ไอทีพีซี) ได้จัดกิจกรรมสัมมนาและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2559 ณ เจ้าหลาว คาบาน่า รีสอร์ท จังหวัดจันทบุรี โดยได้รับเกียรติจากนายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “6 เดือน อะไรใช่ ไม่ใช่ กับ ICT ที่ควรเป็นไป” เพื่อให้สมาชิกได้รับรู้ถึงการทำงานของกระทรวงไอซีทีในช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งยุทธศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการเลือกตั้งกรรมการวาระพิเศษแทนกรรมการที่ลาออกจำนวน 2 ท่าน ซึ่งจะดำรงตำแหน่งเป็นระยะเวลา 1 ปี ได้แก่ นางสาวกัญณัฏฐ์ บุตรดี จากเดลินิวส์ และนายอรรถพล เลิศล้ำ จากสำนักข่าวไทย.

ยังรั้งเบอร์ 1 ตลาดพีซี ‘เอเซอร์’ รุกหนักทุกกลุ่ม เจาะคนไอที-องค์กร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/573309

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ก.พ. 2559 16:25

 

เอเซอร์ หวังเติบโตต่อเนื่องในปี 59 เผยส่วนแบ่งตลาดพีซียังเป็นอันดับ 1 ที่ 22% แย้มปรับแผนทำสมาร์ทโฟนราคากลาง-สูง ตอบโจทย์คนไทย พร้อมเดินหน้าธุรกิจเกมเอาใจคนเหล่าเกมเมอร์…

นายอลัน เจียง กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทยังคงให้ความสำคัญในการนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในส่วนของคอนซูเมอร์และคอมเมอร์เชียล โดยในปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์ตั้งแต่หน้าจอ 1-100 นิ้ว รวมถึงการตอบสนองตลาดเกม ซึ่งถือเป็นอีกสายธุรกิจที่บริษัทให้ความสำคัญ โดยจะทำตลาดผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเดเตอร์

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้บริโภคบางส่วนยังมีความไม่มั่นใจในการใช้จ่าย แต่เชื่อว่าจากพฤติกรรมการเลือกซื้อจะกลับมาเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น ส่วนตลาดสมาร์ทโฟน ปีนี้บริษัทมีการปรับมาทำตลาดในราคาระดับกลางและบนมากขึ้น จากเดิมที่เน้นทำราคาระดับล่าง เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานเฉพาะกลุ่ม แต่ยังคงมีความร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่าย (โอเปอเรเตอร์) ทำตลาดร่วมกันในบางรุ่น

“ภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์ในปีนี้แบรนด์เล็กๆ ก็จะหายไปจากตลาดอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับสินค้าประเภท D.I.Y. ที่ถูกแบรนด์หลักเข้ามาทำตลาดแทนที่ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าตลาดโน้ตบุ๊กของเอเซอร์จะเติบโตได้ราว 10% ในปีนี้ และตลาดเดสก์ทอปออลอินวันจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%”

จากในปีที่ผ่านมา เอเซอร์มีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดพีซีเป็นอันดับ 1 ของไทย ด้วยสัดส่วน 22% โดยบริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดโน้ตบุ๊กในปีนี้เป็น 35% จากเดิม 31% และเดสก์ทอปอาจเติบโตได้ต่อเนื่องจากเดิม 11% ขณะที่ตลาดรวมพีซีไทยในปีที่ผ่านมาสามารถเติบโตได้ราว 5% คิดเป็นจำนวนราว 2.5 ล้านเครื่อง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเติบโตได้อีกเล็กน้อยในปีนี้ ส่วนการทำธุรกิจในภูมิภาคอินโดจีนนั้น บริษัทมีสัดส่วนรายได้ราว 15% ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มเป็น 20% ในปีนี้

ส่วนธุรกิจกลุ่มคอมเมอร์เชียลนั้น บริษัทยังคงนำเสนอบริการในรูปแบบโซลูชั่น เพื่อรองรับความต้องการใช้งาน อาทิ คลาวด์ บิสสิเนส, โซลูชั่นธุรกิจที่มีการประมวลผลสูง, ระบบขนส่งอัจฉริยะ, การประยุกต์ใช้งานคลาวด์ตามรูปแบบการใช้งาน

นอกจากนี้ เอเซอร์ยังได้แต่งตั้ง นายบุญชัย เงาวิศิษฐ์กุล เป็นผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจคอนซูมเมอร์ ประจำเอเซอร์ เวียดนาม เพื่อบริหารและดำเนินงานเอเซอร์ในกลุ่มอินโดจีนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีเอเซอร์ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและต้นแบบ.

ติ่งยิ้มแก้มปริ! ส่องเทคนิคติดตามเฟซคนดัง แบบส่วนตัวไม่ต้องกลัวใครแซว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/573084

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ก.พ. 2559 09:05

 

(ที่มาภาพ : AFP)

แนะนำ 4 ขั้นตอน ช่วยให้คุณติดตามคนดังบนเฟซบุ๊กได้แบบไม่ต้องกลัวใครเห็น จะเป็นหนุ่มล่ำ สาวเซ็กซี่ ก็รับรองว่าเพื่อนบนโลกออนไลน์ไม่มีวันเห็น…

เชื่อได้เลยว่าคงไม่มีใคร ที่ไม่เคยเห็นเพจคนดังออนไลน์ปรากฏบนเฟซบุ๊ก เพราะปัจจุบันมีบรรดาคนดังแห่งโลกโซเชียลที่เรียกว่า “เน็ตไอดอล” เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งสาวสวย สาวเซ็กซี่ หนุ่มหล่อ หนุ่มล่ำ ยังไม่นับรวมกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ทั้งแต่งหน้า แฟชั่น ทรงผม

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ข้อจำกัดในการกดติดตามคนเหล่านั้น แต่…อยู่ที่คุณไม่อยากให้เพื่อนบนเฟซบุ๊กได้ล่วงรู้ว่าคุณไปกดติดตามใครไว้บ้าง เพราะหลายๆ คนที่ดึงดูดความให้ไปกดติดตามไว้นั้น เป็นสาวเซ็กซี่ พริตตี้หน้ามน หรือบรรดาหนุ่มล่ำชอบโชว์ซิกซ์แพ็ก ใช่หรือเปล่า?

ถ้าคุณกังวลใจเรื่องนี้ เรามีทางออกมาฝากกับไม่กี่ขั้นตอนเพื่อซ่อนการติดตาม มาเริ่มกันเลย!

1. เข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของคุณ และกดที่หมวด “เพื่อน” มองหารูปดินสอซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหมวด “จัดการ” คลิกลงไปก็จะพบกับคำว่า “แก้ไขความเป็นส่วนตัว”

2. เมื่อกด “แก้ไขความเป็นส่วนตัว” จะพบกับ 3 หัวข้อ คือ รายการเพื่อน, ​กำลังติดตาม, ผู้ติดตาม

3. หากคุณไม่ต้องการให้ผู้อื่นบนเฟซบุ๊กเห็นว่าคุณกำลังติดตามคนดังหรือคนที่คุณสนใจแล้วไปกดติดตามเอาไว้ ก็แค่เข้าไปที่หัวข้อกำลังติดตาม และเลือกที่คำว่า “เฉพาะฉัน” แทนที่คำว่าสาธารณะ จากนั้นก็กดปุ่ม “เรียบร้อย” ที่ด้านล่าง เป็นอันเสร็จสิ้น

4. แต่ถ้าอยากจะจำกัดความเป็นส่วนตัวให้เพิ่มขึ้น ก็สามารถแก้ไขการเข้าถึงในหมวดอื่นๆ ทั้งรายการเพื่อนและผู้ติดตาม เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวก็ได้

เพียงเท่านี้ก็ติดตามเน็ตไอดอลขวัญใจได้แบบไม่ต้องเกรงใจเพื่อน (บนเฟซบุ๊ก) อีกแล้ว…!

ลุยตลาดต่างประเทศ! ซินเน็คเดินเครื่องพม่า-กัมพูชา หวังหนุนรายได้ตามเป้า

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/572864

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ก.พ. 2559 17:30

 

ซินเน็คตั้งเป้ารายได้ 23,000 ล้านบาท เน้นขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชูสินค้าคอนซูเมอร์เป็นรายได้หลัก คาดปีนี้ตลาดไอทีไทยโตไม่เกิน 5%…

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของซินเน็คยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 23,000 ล้านบาท จากการจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศอินโดไชน่า อาทิ พม่า กัมพูชา ลาว ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้จะสามารถสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยมีประเทศพม่าเป็นตลาดหลักหลังจากเปิดตลาดได้ราว 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทสามารถเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีกว่า 10 แบรนด์ และมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยจากนี้จะเร่งขยายตลาดกัมพูชาในรูปแบบความร่วมมือกับพาทเนอร์ท้องถิ่นเพิ่มเติม นอกจากนี้ก็มีแผนการลงทุนราว 70-80 ล้านบาท เพื่อขยายสำนักงาน

สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากสินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียล 30% คอนซูเมอร์ 70% ซึ่งมีสมาร์ทดีไวซ์เป็นสินค้ากลุ่มหลักโดยสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 17% โดยบริษัทเชื่อว่ายังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องทั้งกลุ่มคอมเมอร์เชียลและคอนซูเมอร์ ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมขยายธุรกิจไปยังกลุ่มสินค้าเกมมิ่ง พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้ลูกค้าด้วยบริการเสริมต่างๆ ส่วนแนวโน้มตลาดไอทีในประเทศไทยนั้นเชื่อว่าในปีนี้จะเติบโตได้ไม่เกิน 5% จากความนิยมสมาร์ทโฟนในตลาดคอนซูเมอร์ การเปลี่ยนเทคโนโลยีในกลุ่มองค์กรเพื่อรองรับการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ 4จี บิ๊กดาต้า และนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) จากภาครัฐ รวมถึงโปรโมชั่นที่ผู้ประกอบการใช้เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค

ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น ปัจจุบันบริษัทให้ความสำคัญกับการจัดจำหน่ายออนไลน์มากขึ้นแต่ยังเป็นรูปแบบการจำหน่ายแก่คู่ค้า โดยปัจจุบันซินเน็คมีช่องทางจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนกว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศ และมีศูนย์บริการซินเน็ครวม 11 สาขา รวมถึงเซอร์วิส พาทเนอร์ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากซินเน็คราว 63 แห่งทั่วประเทศ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 65 แห่งภายในสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ตาม ซินเน็คได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านโครงการซินเน็ค คาร์นิวัล ทั่วประเทศ เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำดิสทริบิวเตอร์อันดับ 1 ของไทย ทั้งยังได้เปิดตัวมาสคอร์ตมิสเตอร์ซินเน็ค แอนด์ เดอะแก็งค์ เพื่อเป็นตัวแทนในการสร้างภาพลักษณ์ด้านต้างๆ ทั้งบริการและช่องทางจัดจำหน่ายของซินเน็ค ภายใต้เป้าหมายในการสร้างแบรนด์ Trusted by Synnex.

เงินสดก็ใช้ได้! ‘อูเบอร์’ เพิ่มรูปแบบใหม่การจ่าย หวังลบภาพหรูหราราคาแพง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/572261

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ก.พ. 2559 14:05

 

อูเบอร์ เพิ่มรูปแบบการชำระเงินค่าโดยสารจากเครดิตการ์ดอย่างเดียวเป็นใช้เงินสดได้ด้วย เริ่มทยอยใช้งานได้ตั้งแต่ 3 ก.พ. เผยคนไทยใช้งานแล้วกว่า 1.5 ล้านครั้ง…

นายชาน พาร์ค ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อูเบอร์ เปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้บริการในประเทศไทยราว 2 ปี ผ่านรูปแบบการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ล่าสุด อูเบอร์ได้ประกาศรูปแบบการชำระค่าโดยสารด้วยเงินสด โดยไทยเป็นประเทศที่ 8 หลังจากเปิดตัวในประเทศอินเดีย เคนยา ซาอุดิอาราเบีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเปรู รวมแล้ว 27 เมืองทั่วโลก

ปัจจุบัน อูเบอร์มีจำนวนการใช้บริการในไทยกว่า 1.5 ล้านครั้ง และมีจำนวนผู้ขับราว 35,000 คน ซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้น 1,000 คนต่อสัปดาห์ คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 6 เท่าตัว ภายใน 1 ปี

“นอกจากความสะดวกในการใช้บริการอูเบอร์ ยังมีจุดเด่นด้านความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ ซึ่งสามารถตรวจสอบเส้นทางได้จากพิกัดจีพีเอส หรือบันทึกการโดยสารที่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ทั้งยังระบบช่วยเหลือผู้โดยสารตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ส่วนความร่วมมือระหว่างอูเบอร์และภาครัฐก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เราไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องของกฎหมายต่างๆ แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการขยายตลาดอย่างแน่นอน ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นการรีเฟรซแบรนด์ของอูเบอร์เพื่อให้มีความใกล้ชิดกับผู้บริโภคได้มากขึ้น จากที่มีมุมมองว่าอูเบอร์เป็นบริการที่หรูหราและราคาแพง”

อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดตัวรูปแบบการชำระเงินสด เชื่อว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งานในการเลือกชำระค่าโดยสารได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายตลาดผู้ใช้งานให้กว้างขึ้น ซึ่งหลังจากเปิดตัวรูปแบบชำระค่าโดยสารด้วยเงินสดพบว่ามีสัดส่วนการใช้งานเติบโตราว 1 เท่าตัวในทุกประเทศที่เปิดให้บริการดังกล่าวแล้ว โดยผู้ใช้งานในประเทศไทยจะทยอยใช้บริการชำระด้วยเงินสดได้ตั้งแต่วานนี้ (3 ก.พ.2559) และคาดว่าจะสามารถใช้งานได้ทั้งหมดภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้.

เพื่อนใจนักวิ่ง? การ์มินส่ง ‘ฟอร์รันเนอร์ 235’ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/572154

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 ก.พ. 2559 14:33

 

การ์มิน เปิดตัวนาฬิกาวิ่งรุ่นล่าสุดลงตลาด ชี้นักวิ่งทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าเลือกใช้นาฬิกาเฉพาะทางมากกว่าแบรนด์แฟชั่น ผุดแคมเปญทดลองใช้งานหวังสร้างความรู้จักกับลูกค้า…

นายชาญณรงค์ ธีระโรจนารัตน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ แบรนด์การ์มิน เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มทำตลาดนาฬิกาสำหรับการออกกำลังกายในประเทศไทยประมาณ 3 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดดังกล่าวเริ่มได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งขณะนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนาฬิกาสำหรับผู้นิยมการวิ่ง ซึ่งในปีที่ผ่านมาการ์มินมียอดจำหน่ายเติบโตกว่า 200% และคาดว่าภายในปีนี้ก็จะเติบโตในระดับเดียวกัน

“แม้จะมีนาฬิกาสำหรับออกกำลังกายหลายแบรนด์ แต่พบว่านักวิ่งส่วนใหญ่จะเลือกใช้นาฬิกาวิ่งมากกว่านาฬิกากลุ่มแฟชั่น เนื่องจากไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ถือว่าตลาดดังกล่าวก็ช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความเข้าใจและรู้จักตลาดนาฬิกาวิ่งมากขึ้น ส่วนพฤติกรรมการเลือกซื้อนาฬิกาวิ่งของคนไทยนั้น พบว่านาฬิกาวิ่งของการ์มินในระดับราคาเฉลี่ย 12,000 บาท เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด”

ชาญณรงค์ ธีระโรจนารัตน์

นายชาญณรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับส่วนแบ่งทางการตลาดนั้น เชื่อว่าการ์มินมีสัดส่วนมากเป็นอันดับที่ 1 ในตลาดนาฬิกาวิ่ง และมีคู่แข่งขันราว 3-4 แบรนด์ในตลาดเดียวกัน ส่วนอุปกรณ์สนับสนุนการออกกำลังกายอื่นๆ อาทิ กลุ่มแทร็กเกอร์แบรนด์การ์มินก็ได้รับความนิยมติดอันดับ 1 ใน 3 อันดับของผู้นำตลาด ขณะที่สัดส่วนสินค้าที่ได้รับความนิยมของแบรนด์การ์มิน ได้แก่ นาฬิกาสำหรับนักวิ่ง นาฬิกาสำหรับผู้ขี่จักรยาน และอุปกรณ์วัดความเคลื่อนไหว โดยนาฬิกาของการ์มินมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 6,000 บาท และราคาสูงสุดมากกว่า 20,000 บาท

อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีนี้ตลาดนาฬิกาวิ่งจะยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จากความนิยมในกิจกรรมวิ่งประเภทต่างๆ ที่จัดขึ้นต่อเนื่องตลอดปี รวมถึงปัจจัยจากการหมุนเวียนของนักวิ่ง เช่น ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นวิ่ง นักวิ่ง และผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เป็นระดับไฮเอนด์

ล่าสุด การ์มินได้เปิดตัวนาฬิกาวิ่งรุ่นใหม่สำหรับผู้ใช้งานชาวไทย รุ่นฟอร์รันเนอร์ 235 (Forerunner 235) ซึ่งมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงคงจุดเด่นของการ์มินที่เป็นนาฬิกาประหยัดแบตเตอรี่และกันน้ำได้เอาไว้ โดยฟอร์รันเนอร์ 235 เปิดจำหน่าย 3 สี คือ สีเทา สีแดง และสีเหลือง ซึ่งสามารถเปลี่ยนสายเป็นสีอื่นๆ เพื่อการใช้งานในหลากหลายโอกาสได้ นอกจากนี้ฟอร์รันเนอร์ 235 ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ คือ เทคโนโลยีออพติคอล ฮาร์ทเรท วัดการเต้นหัวใจ 24 ชั่วโมง ระบบ RHR วัดอัตราการเต้นของหัวใจในช่วงปกติทุก 4 ชั่วโมง รองรับเมนูการใช้งานภาษาไทยและอังกฤษ การแจ้งเตือนเป็นภาษาไทย กันน้ำลึก 50 เมตร และรองรับการใช้งานในโหมดนาฬิกาได้นานถึง 4 สัปดาห์ หรือ 8-9 วัน สำหรับการใช้งานในโหมดแจ้งเตือน

นอกจากนี้ การ์มินยังได้จัดแคมเปญการ์มิน มูฟ (Garmin Move) เพื่อแนะนำนาฬิกาออกกำลังกายแก่ผู้ที่สนใจ รวมถึงผู้ที่ไม่เคยใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อสนับสนุนการออกกำลังกาย โดยมีการนำนาฬิกาวิ่งหลายรุ่นไปร่วมแคมเปญดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันแคมเปญการ์มิน มูฟ มีให้บริการที่ร้าน BANANA 2U แต่อนาคตจะขยายไปยังสถานที่ต่างๆ เพิ่มเติม เช่น สวนสาธารณะ หรือสถานที่จัดกิจกรรมวิ่ง เป็นต้น.

สมาร์ทโฟนเป็นหลัก! ‘เอซุส’ หันทำตลาดล่าง ตอบโจทย์ผู้ใช้มือถือ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/571750

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.พ. 2559 16:30

 

เอซุสเผยเตรียมเบนเข็มสู่ตลาดสมาร์ทโฟนระดับล่าง เอาใจความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย พร้อมตั้งเป้ายอดขายสมาร์ทโฟนและพีซี 2 ล้านเครื่องในปีนี้…

นายเจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาเอซุสเป็นผู้นำอันดับ 6 ของตลาดพีซีระดับโลก ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะสามารถขยับขึ้นเป็นผู้นำอันดับที่ 3 ได้ ขณะที่ภาพรวมตลาดพีซีในไทยยังคงมีอัตราการเติบโตแบบทรงตัว แตกต่างจากตลาดสมาร์ทโฟนที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

“ในปีที่ผ่านมาเอซุสมีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในไทยราว 3-4% แต่คาดว่าในปีนี้จะเพิ่มเป็น 8-10% ซึ่งทั้งตลาดสมาร์ทโฟนและพีซีของเอซุสอาจมียอดขายราว 2 ล้านเครื่องภายในปีนี้ แบ่งเป็นสมาร์ทโฟน 1.4 ล้านเครื่อง จากปีก่อน 7 แสนเครื่อง ส่วนพีซีอาจมียอดขายอยู่ที่ 6 แสนเครื่อง”

เอซุส แถลงกลยุทธ์บุกตลาดไอทีปี 2559

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดของเอซุสในปีนี้จะเน้นการทำตลาดในกลุ่มราคาระดับล่างมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มดังกล่าว โดยภายในเดือนหน้าจะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 3จี ราคาต่ำกว่า 3,000 บาท ขณะที่สมาร์ทโฟน 4จี คาดว่าจะสามารถทำราคาได้ราว 5,000 บาท นอกจากนี้ บริษัทจะทำตลาดร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย (โอเปอเรเตอร์) เพื่อขยายตลาดสมาร์ทโฟนด้วยการทำแพ็กเกจสำหรับสมาร์ทโฟนราคาระดับล่าง จากเดิมที่บริษัทเน้นทำตลาดเฉพาะราคากลาง-บน เชื่อว่าจะทำให้สมาร์ทโฟนของเอซุสมีความหลากหลายด้านราคามากขึ้น

คอนซูมเมอร์โน้ตบุ๊ก พีซี และ อุปกรณ์เครือข่ายสำหรับผู้ใช้่งานโฮมยูส

“บริษัทมีรายได้ในปีที่ผ่านมาเฉลี่ย 280-300 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เชื่อว่าในปีนี้จะมีรายได้ราว 500-515 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปัจจุบันสมาร์ทโฟนสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทมากกว่าตลาดพีซี เนื่องจากตลาดสมาร์ทโฟนในไทยเติบโตจากการเปลี่ยนมือถือ 2จี เป็น 3จี แต่ในปีนี้ สภาพเศรษฐกิจยังไม่ดีนักจึงอาจทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตไม่มาก เนื่องจากผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย แต่อย่างไรก็ตาม 4จี ก็ถึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยผลักดันการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนได้”

ผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กสำหรับเกมเมอร์

นอกจากนี้ บริษัทยังเน้นกลยุทธ์ 3 ประการ คือ สินค้าที่ดี บริการหลังการขายที่ดี และประสบการณ์การใช้งานที่ดีแก่ผู้บริโภคอีกด้วย ส่วนการเปิดตัวสินค้าไฮไลต์ในช่วงแรกของปีนี้ เอซุสได้นำเสนอสมาร์ทโฟน 2 รุ่น คือ เซนโฟน ซูม กับจุดเด่นในการซูมแบบออพติคอลสูงสุด 3 เท่า และเซนโฟน แม็กซ์ ซึ่งมีจุดเด่นที่แบตเตอรี่ 5,000 mAh.

ผลิตภัณฑ์กลุ่มเดสก์ท็อปพีซี สำหรับเกมเมอร์

มาแล้ว ThinkPad X1 ตระกูลพีซีตัวเจ็บรุ่นใหม่ของเลอโนโว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/571436

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.พ. 2559 06:30

 

เลอโนโวเผยโฉมกลุ่มผลิตภัณฑ์ล่าสุด X1 Family ด้วย ThinkPad X1 Tablet แท็บเล็ตสายพันธุ์ใหม่ที่ใช้งานร่วมกับโมดูลเสริมต่างๆ รวมทั้ง คอนเวอร์ติเบิล ThinkPad X1 Yoga อัลตร้าบุ๊ก ThinkPad X1 Carbon และเดสก์ท็อป ThinkCentre X1 AIO…

เลอโนโว เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ล่าสุด เอาใจผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ระดับองค์กร ภายใต้ชื่อ X1 Family ที่นำทัพนวัตกรรมล่าสุดด้วย ThinkPad X1 Tablet แท็บเล็ตสายพันธุ์ใหม่ที่นำเสนอการใช้งานร่วมกับโมดูลเสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Productivity Module หรือโมดูลแบตเตอรี่เสริม จะช่วยเพิ่มให้แท็บเล็ตทำงานได้ยาวนานถึง 15 ชั่วโมง Presenter Module หรือโมดูลฉายภาพนั้น มาพร้อม pico projector และพอร์ต HDMI อีกทั้ง 3D Imaging Module หรือโมดูลสำหรับภาพ 3 มิติ ที่มีกล้อง Intel RealSense อยู่ด้านหลัง ก็สามารถสร้างภาพ 3 มิติได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมากับคีย์บอร์ด ThinkPad ขนาดเต็มที่มาพร้อมปุ่ม TrackPoint สามารถปรับระดับการใช้งานได้ถึง 3 ระดับ จึงทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งาน ThinkPad อย่างเต็มรูปแบบ

ThinkPad X1 Yoga บางเบา เพียง 0.66 นิ้ว และนำ้หนักเพียง 2.8 ปอนด์ (ประมาณ 1.27 กิโลกรัม) อีกทั้งยังเป็นแล็ปท็อปคอนเวอร์ติเบิลรุ่นแรกในโลกที่นำเสนอทางเลือกหน้าจอ OLED จากซัมซุง ซึ่งแสดงภาพคมชัดและสมจริง

ThinkPad X1 Yoga

ThinkPad X1 Carbon ยังคงครองตำแหน่งอัลตร้าบุ๊กขนาด 14 นิ้ว ที่เบาที่สุดในโลก และนับว่าเป็นหนึ่งในแล็ปท็อปที่หรูหราที่สุดในปัจจุบัน กลับมาครั้งนี้ X1 Carbon นั้น บางขึ้น เบาขึ้น และสเปกแรงขึ้นกว่าเดิมด้วย

ThinkCentre X1 AIO นำเสนอดีไซน์ที่ปราดเปรียวและมีระดับ ด้วยความหนาเพียง 11 มม. ทำให้ ThinkCentre X1 AIO เป็นหนึ่งในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปออลอินวันที่บางที่สุดในโลก โดยหน้าจอ Anti-Glare ขนาด 23.8 นิ้ว จะแสดงภาพที่คมชัดจากทุกมุมมอง แม้ ThinkCentre X1 AIO จะมีลักษณะบาง แต่ความทนทานของอุปกรณ์ไม่บางตามอย่างแน่นอน

นายจอห์นสัน เจีย รองประธานอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เลอโนโว กล่าวว่า เลอโนโว ให้ความสำคัญกับลูกค้า จึงทำให้สร้างผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยผลิตภัณฑ์กลุ่ม X1 Family แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมที่เหนือระดับของเลอโนโว ที่ได้เสริมประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ด้วยฟีเจอร์พิเศษ และนำเสนอการทำงานที่ราบรื่น การใช้งานระบบคลาวด์ที่ไม่ยุ่งยาก ระบบรักษาความปลอดภัยและความทนทานที่ดีเยี่ยม เทคโนโลยีเหล่านี้จะเปรียบเสมือนอาวุธลับของผู้ใช้งาน.

อยากให้มีทุกสาย! ผุดโครงการรถเมล์ไฮเทค ติด GPS บอกพิกัดผู้โดยสาร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/568524

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 ม.ค. 2559 14:05

 

รู้หรือยัง? รถเมล์เมืองไทยมีเทคโนโลยีให้ตรวจสอบการเดินทางได้แล้ว อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ตรวจสอบพิกัดการเดินทางเพื่อคำนวณเวลารอรถถึงป้าย…

เมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน… ล่าสุด เราจึงได้เห็นการพัฒนารถโดยสารประจำทาง หรือ รถเมล์ ให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอลแก่ประชาชนได้ทันสมัยขึ้นด้วยการให้บริการฟรีไวไฟบนรถเมล์ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีการประกาศให้บริการแล้วมากกว่า 30 สาย ทำให้มีรถเมล์ที่สามารถให้บริการฟรีไวไฟในประเทศแล้ว มากกว่า 550 คัน (ข้อมูลอ้างอิงจาก ขสมก.) แม้ว่าจะสามารถใช้บริการได้ในระยะสั้นๆ ก็ตาม (แต่ผู้ใช้บางรายระบุว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง) แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานรถเมล์ในยุค 4จี ได้เพียงพอ!

ล่าสุด เราจึงได้เห็นการพัฒนาบริการรถโดยสารประจำทางอีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถเมล์หลายคนรอคอย กับ…การติดตั้ง GPS เพื่อทำให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบตำแหน่งของรถเมล์ที่กำลังรออยู่นั่นเอง

สำหรับบริการรูปแบบดังกล่าว ยังเป็นเพียงโครงการทดลองระหว่างศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ซึ่งขณะนี้มีให้บริการข้อมูลเฉพาะรถเมล์สาย 73ก เท่านั้น!!!

เช็กตำแหน่งรถเมล์ได้จากเว็บไซต์นี้…

ทั้งนี้ ผู้ที่ใช้บริการโดยสารรถเมล์สาย 73ก สามารถเข้าชมจำนวนรถและข้อมูลการเดินทาง ผ่านเว็บไซต์ bus.traffy ได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เพื่อตรวจสอบว่ามีรถเมล์สายดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ใด จากข้อมูลที่แสดงเส้นทางป้ายรถเมล์สาย 73ก ซึ่งสามารถเลือกชมข้อมูลได้ทั้งขาเข้าและขาออก โดยข้อมูลจะถูกอัพเดตทุก 10 วินาที

นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบแผนที่แสดงตำแหน่งรถเมล์ พร้อมทั้งหมายเลขข้างรถ ได้จากเว็บ cloud.traffy อีกด้วย

ตรวจสอบแผนที่แสดงตำแหน่งรถเมล์ได้

สะดวกสบายแบบนี้สิ ถึงจะเรียกว่ายุคดิจิตอลไลฟ์สไตล์…!

ที่มา : Bangkokbusclub.com

มาแล้ว Huawei Mate 8 สมาร์ทโฟนดีไซน์เฉี่ยว เน้นตลาดพรีเมียมในอาเซียน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/569858

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 ม.ค. 2559 10:45

 

หัวเว่ยเปิดตัวสมาร์ทโฟนแฟล็กชิป 2 รุ่น Huawei Mate 8 และ Huawei GR5 เสนอประสบการณ์ใช้งานที่ดี สนองไลฟ์สไตล์และเสริมคล่องตัวเพื่อนักธุรกิจและคนรุ่นใหม่ หรูหรา แต่สเปกแรง แบตอึด ดึงอนันดา-อาเล็ก ธีรเดช เป็นพรีเซ็นเตอร์…

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป เปิดตัวสมาร์ทโฟนแฟล็กชิป 2 รุ่นล่าสุด Huawei Mate 8 และ Huawei GR5 อย่างเป็นทางการ โดยเลือกประเทศไทย เป็นสถานที่จัดงานเปิดตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ โดยมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานมากกว่า 500 คนจาก 11 ประเทศ และบรรดาสื่อมวลชนอีกคับคั่ง โดยมีแบรนด์แอมบาสเดอร์ของหัวเว่ย ได้แก่ อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ นักแสดงชายดาวรุ่งของเมืองไทย และ วุต หม่อน ชเว ยี่ ดาราสาวชื่อดังของเมียนมา ร่วมด้วย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม มาร่วมงานด้วย

นายโทมัส หลิว ประธานบริษัท หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ในปี 2015 ที่ผ่านมา หัวเว่ยทุบสถิติด้วยอัตราการเติบโตทางธุรกิจที่สูงถึง 70% และ พร้อมรุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มตัว โดยเฉพาะในปี 2015 เรามีรายรับถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ และจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 108 ล้านเครื่องทั่วโลก ทำให้หัวเว่ยก้าวสู่สถานะแบรนด์ชั้นนำอันดับ 3 ในตลาดสมาร์ทโฟนระดับโลกอย่างภาคภูมิ

2 ผู้บริหารของ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป

จากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้หัวเว่ยสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับคุณภาพที่มีความโดดเด่นและถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของตลาดสมาร์ทโฟนทุกกลุ่ม และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคระดับพรีเมียมได้อย่างตรงจุด โดย Huawei Mate 8 ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟน ที่มีการทำงานดีเยี่ยมพร้อมแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ตอบสนองการทำงานแบบ “ธุรกิจแนวใหม่ (The New Style of Business)” ของนักธุรกิจมืออาชีพในปัจจุบันได้อย่างดี

หรูหรา สเปกแรง สมาร์ทโฟนสำหรับนักธุรกิจและคนรุ่นใหม่

Huawei Mate 8 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปรุ่น Kirin 950 เป็นชิปประมวลผล เสริมศักยภาพการทำงานของสมาร์ทโฟนได้เร็วที่สุดในโลก โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลให้ทำงานได้เต็ม 100% และหน่วยประมวลผลกราฟิกได้ถึง 125% รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้มากถึง 70% เมื่อเปรียบเทียบกับชิปรุ่น Kirin 925 โดย Huawei Mate 8 ใช้แกนประมวลผลแบบ 8 แกน (Octacore) แบ่งเป็น A72 2.3 GHz 4 แกนประมวลผล และ A53 1.8 GHz อีก 4 แกนประมวลผล โดยแยกการทำงานแต่ละชุดอย่างสมดุลและสอดคล้องกับการใช้งาน

Huawei Mate 8

จอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว ด้วยอัตราส่วนขนาดจอแสดงผลต่อขนาดตัวเครื่องที่ 83% ตัวเครื่อง Huawei Mate 8 ประกอบด้วย วัสดุกระจกตัดขอบแบบ Diamond Cut 2.5D และอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับยานอวกาศ อีกทั้งเทคโนโลยี สแกนลายนิ้วมือรุ่นใหม่และระบบปกป้องข้อมูลสำคัญ ด้วยเซ็นเซอร์รุ่นใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการระบุลักษณะบนพื้นที่สแกนมากกว่าเดิม 10% แบตเตอรี่ความจุถึง 4,000 mAh ใช้งานตามปกติได้นานถึง 2 วัน พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีการชาร์จไฟความเร็วสูง ทำให้ชาร์จไฟเพียง 30 นาที ก็ใช้งานสมาร์ทโฟนได้นานถึง 1 วัน และโดยปกติผู้ใช้งาน Huawei Mate 8 สามารถใช้งานได้นานถึง 2.36 วัน และได้นาน 1.65 วัน ใช้งานนานๆ แล้วไม่ร้อน เพราะกระจายความร้อนระหว่างการใช้งานได้ดีกว่า

นอกจากนี้ การแมตช์แรงเสียดทานจากลายนิ้วมือ ยังทำงานบนระบบรักษาความปลอดภัยถึง 3 ชั้น ผู้ใช้จึงมั่นใจในการรักษาข้อมูลได้มากกว่า อีกทั้งเซ็นเซอร์ยังสามารถปลดล็อกสำหรับผู้ใช้งานได้เร็วขึ้นถึง 100% ในด้านการใช้งาน Huawei Mate 8 ทำงานบนอินเตอร์เฟซของหัวเว่ยรุ่น EMUI 4.0 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์  6.0 Marshmallow รองรับการเชื่อมต่อในช่องความถี่ที่มากกว่าสมาร์ทโฟนแบบสองซิมรุ่นอื่นๆ โดยรองรับคลื่นความถี่แบบ 2G 4 ช่วง คลื่นความถี่แบบ 3G 9 ช่วง และคลื่นความถี่แบบ 4G 18 ช่วง ใน 217 ประเทศทั่วโลก โดยตั้งค่าผู้ให้บริการเครือข่ายได้ถึง 1,334 แบบ

Huawei GR5

ส่วน Huawei GR5 เป็นโมเดลแฟล็กชิปรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล G series สำหรับวัยรุ่นผู้หลงใหลในเทคโนโลยี ออกแบบมาให้ขนาดเข้ากับฝ่ามือ 151.3×76.3×8.15 มม. ใช้ชิปประมวลผล 8 คอร์ ของ ควอลคอมม์ แบบ Snapdragon 616 1.5Ghz 4 แกน และ 1.2Ghz อีก 4 แกน จอภาพขนาด 5.5 นิ้ว ฟูลเอชดี ความละเอียด 1080x 1920 กล้องถ่ายภาพหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล หน่วยความจำขนาด 2GB พื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องขนาด 16 GB แบตเตอรี่ 3,000 mAh มาพร้อมกับ เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือรุ่นที่ 2 โดยสแกนนิ้วทั้งในขณะที่มือแห้งและเปียก และใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 5.1 รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย 4G LTE.