ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/686048

วันที่ 21 มิ.ย. 2565 เวลา 11:45 น.

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

LAMBORGHINI HURACAN TECNICA เผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย กับผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ผสานโลกแห่งงานดีไซน์และระบบวิศวกรรมเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย นำโดย อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ, ศักดิ์ นานา และ ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์ กรรมการ จัดงานฉลองเปิดตัวไอคอนนิคแห่งความแรงใหม่ล่าสุดจากแบรนด์กระทิงดุ ‘LAMBORGHINI HURACÁN TECNICA’ สุดยอด ยนตรกรรมเครื่องยนต์ V10 แบบขับเคลื่อนล้อหลัง ที่พัฒนาเพื่อนักขับแนวหน้าผู้แสวงหาความสมบูรณ์แบบแห่งไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับและประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจทั้งในสนามแข่งและบนท้องถนน การเผยโฉมครั้งสำคัญนี้นับเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะได้รับเกียรติจาก มร.สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี บินตรงแบบเอ็กซ์คลูซีฟมายังประเทศไทยเป็นครั้งแรกแล้ว ยังมีเหล่าเซเลบริตี้ และแฟนพันธุ์แท้กระทิงดุร่วมงานอย่างคับคั่ง เพื่อมาร่วมยลโฉมผลงานระดับมาสเตอร์พีซจากตระกูล HURACÁN ด้วยเช่นกัน อาทิ วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์, เอกภัทร พรประภา, เมลนีย์ อยู่วิทยา, ภัคคณวัฒน์ เหมะธนานันท์, จิรชัย ไทยชาติ, ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี และ ปานหทัย สมรรถศรบุศย์ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด เมื่อค่ำวันพุธที่ 15 มิถุนายน 2565 ณ โชว์รูม ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ถ.วิภาวดีรังสิต

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การมาเยือนครั้งนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับผมที่ได้นำเสนอผลงานชิ้นเอกล่าสุดอย่าง Huracán Tecnica ให้แฟนพันธุ์แท้กระทิงดุชาวไทยได้ชมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ Huracán Tecnica คือการผสานความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและระบบวิศวกรรมของลัมโบร์กินี เพื่อสร้างสรรค์ยานยนต์ตระกูล Huracán ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานได้อย่างสมบูรณ์แบบเสมือนกำลังขับเคี่ยวในสนามแข่งขันอันแสนเร้าใจ และเมื่ออยู่กับ Tecnica คุณจะมั่นใจได้ถึงสัมผัสที่เป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์และพื้นถนน ด้วยประสิทธิภาพการควบคุมทุกระบบยานยนต์ที่ง่ายดายเพียงปลายนิ้วในทุกโหมดการขับขี่และทุกสภาพแวดล้อม ที่สำคัญ Tecnica ยังเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์ตระกูล Huracán ของเราให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเป็นโมเดลที่อยู่ระหว่างรุ่น RWD กับรุ่น STO ซึ่งเน้นการแข่งขันในสนามแข่งอย่างจริงจัง โดย Tecnica จะให้ความสำคัญกับการนำเสนอวิวัฒนาการใหม่แห่งดีไซน์อากาศพลศาสตร์และระบบวิศวกรรมชั้นเลิศ ประสิทธิภาพการขับขี่ และเครื่องยนต์ V10 ของ Huracán ที่มาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบที่สวยงามอย่างน่าหลงใหล”

ฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี เสริมว่า “เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำ Huracán Tecnica มาให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้ยลโฉมอย่างใกล้ชิดถึงโชว์รูมลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ โดยนับเป็นการเผยโฉมครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง Huracán Tecnica ถือเป็นซูเปอร์สปอร์ตอเนกประสงค์ที่มาพร้อมคาแรคเตอร์อันตอบโจทย์การขับขี่ทั้งบนท้องถนนและในสนามแข่งขัน อีกทั้งยังนำมาซึ่งจิตวิญญาณแห่งนักขับขี่และประสิทธิภาพเหนือใคร ที่ทุกคนต่างให้การยอมรับว่านี่คือหนึ่งในสมาชิกตระกูล Huracán ที่สร้างความประทับใจได้ไม่รู้เลือน”

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่ ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี เพิ่งจัดงาน เปิดตัวพร้อมกันทั่วโลกในรูปแบบดิจิทัลไปเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา วันนี้นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับแฟนๆ กระทิงดุชาวไทยที่ได้มีโอกาสยลโฉม Huracán Tecnica อย่างใกล้ชิด ณ โชว์รูมลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ โดย Huracán Tecnica จัดเป็นยนตรกรรมเครื่องยนต์ V10 รุ่นล่าสุด ที่เติมเต็มกลุ่มโมเดลตระกูล Huracán ของเราให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ถูกออกแบบมาเพื่อนักขับแนวหน้าผู้แสวงหาอิสรภาพในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจทั้งในสนามแข่งและบนท้องถนน ซึ่งทางบริษัทฯ มั่นใจว่า โมเดลรุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะตอบโจทย์ทุกความต้องการในการขับขี่และได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ลัมโบร์กินีทั่วประเทศอย่างแน่นอน”

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

ซูมเหตุผล ว่าทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ Huracán Tecnica ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก Lamborghini

ความสำเร็จของ Huracán นั้นยืนยงมา 8 ปีแล้ว เรียกว่าเปิดตัวที่ไรก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับสาวกกระทิงดุทั่วโลกได้ทุกครั้ง เพื่อทำความรู้จัก Huracán Tecnica คันนี้มากขึ้น เราได้รวบตึงดีเทลของไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจากแบรนด์กระทิงดุมาฝากกัน

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

Huracán Tecnica ถือเป็นโมเดลที่อยู่ระหว่างรุ่น RWD กับรุ่น STO มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V10 5.2L มอบสัมผัสแห่งการขับขี่ที่ตื่นเต้นเร้าใจด้วยกำลังเครื่องยนต์ถึง 640 แรงม้าเช่นเดียวกับ STO โดยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์อีก 30 แรงม้า จากรุ่น Huracán EVO RWD พร้อมระบบส่งกำลังที่ให้แรงบิดถึง 565 นิวตันเมตร สูงสุด 6,500 รอบต่อนาที และยังเพิ่มอัตราเร่ง 0-100 กม./ชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 3.2 วินาทีเท่านั้น งานออกแบบยานยนต์น้ำหนักเบาของ Tecnica ยังมาพร้อมระบบ LDVI ที่ผ่านการคาลิเบรตใหม่และโหมดการขับขี่ที่ตั้งค่าระบบกันสะเทือนให้สอดรับการใช้งานเฉพาะแบบ รวมถึงการบังคับเลี้ยวล้อหลังและการปรับปรุงระบบลดความร้อนเบรกรุ่นล่าสุด ช่วยให้นักขับสัมผัสถึงประสบการณ์การขับขี่ยานยนต์ Huracán ที่สมบูรณ์แบบในทุกสถานการณ์ เพราะ Huracán Tecnica คือการระเบิดพลังสร้างสรรค์สุดยอดยานยนต์ที่ผสานความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและระบบวิศวกรรมเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อส่งมอบซูเปอร์สปอร์ตอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ทั้งบนท้องถนนและในสนามแข่งขัน

ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI
ทำไมถึงควรค่ากับการเป็นเจ้าของ HURACAN TECNICA ไอคอนนิคความแรงใหม่ล่าสุดจาก LAMBORGHINI

ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษจากซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดได้ที่ “ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ” โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ถนนวิภาวดีรังสิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-512-5111

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ได้ที่: Lamborghini’s Official Website : https://www.lamborghini.com/ Lamborghini Bangkok’s Instagram : www.instagram.com/lamborghinirenazzomotor/

Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/travel/686062

วันที่ 21 มิ.ย. 2565 เวลา 13:55 น.

Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ

เดินทางผ่านห้วงเวลาในศตวรรษที่ 20-21 ไปกับ Propaganda Bar บาร์ลับแห่งใหม่ใจกลางสุขุมวิท พร้อมจิบเครื่องดื่มสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่คิดค้นขึ้นมาสอดรับกับธีมร้านได้อย่างลงตัว

Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ
Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ

ปักหมุดชิลเอาท์โลเคชั่นกลางกรุงที่สุขุมวิท 33 แนะนำ Propaganda Bar บาร์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองเรื่องราวในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการสื่อสาร ที่ซึ่งจะพาทุกคนไปในยุคที่วงการสื่อสารได้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านรอยต่อแห่งยุคสมัยที่สิ่งเหล่านั้นได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของเรา จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ Propaganda Bar แห่งนี้เป็นสถานที่ที่พร้อมต้อนรับผู้คนที่จะมาแลกเปลี่ยนบทสนทนาและสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ พร้อมละเลียดบรรยากาศและเครื่องดื่มรสเลิศ 

Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ
Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ

Propaganda Bar ก่อตั้งโดย ทอม แอทธิ ผู้ก่อตั้ง สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ชั้นนำที่สำนักงานตั้งอยู่บนใจกลางกรุงเทพมหานคร ย่านสุขุมวิท ซึ่งบาร์แห่งนี้ได้นำเสนอกลิ่นอายความรุ่งเรืองของสื่อสารมวลชนในแต่ละยุคไว้ ไม่ว่าจะเป็นสื่อทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ และการโฆษณา แวดล้อมด้วยการตกแต่งด้วยภาพและไอคอนแห่งยุคที่โด่งดังอย่างภาพวาดของ Winston Churchill ปกนิตยสาร Donald Trump ที่วางอยู่เคียงกับโปสเตอร์ของ Che Guevara รวมถึงประกาศโฆษณาในยุคสหภาพโซเวียต ที่บอกได้เลยว่าเมื่อคุณก้าวเข้าไปใน Propaganda Bar แห่งนี้ก็เหมือนคุณได้เดินทางข้ามเวลาไปในยุคสมัยนั้นเลยทีเดียว 

Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ

“สำหรับผม ศิลปะในการสื่อสารนั้นแทบจะเป็นจิตวิญญาณของผมไปแล้ว ซึ่งผมก็อยากจะถ่ายทอดความรู้สึกนี้ให้ทุกคนได้สัมผัสกันที่ Propaganda Bar จริงอยู่ที่บาร์อื่น ๆ รอบกรุงเทพฯ ล้วนมีเรื่องเล่าและคอนเซปต์ของตัวเอง หากแต่ผมยังไม่เคยเห็นว่าจะมีที่ไหนที่จะเป็นสถานที่สำหรับคนในวงการสื่อสารได้มาพบปะสังสรรค์กันจริง ๆ ผมจึงสร้างที่นี่ขึ้นเพื่อหวังให้เป็นสถานที่ให้คนที่ทำงานและบริษัทในวงการสื่อสารได้ใช้เป็นที่นัดพบ จัดงาน หรือจะแค่แวะมาเพลิดเพลินยามค่ำคืนกับเพื่อนฝูงอย่างสนุกสนานก็ได้” ทอม แอทธิ กล่าว

“ในช่วงเวลาที่ยากลำบากจากสถานกาณ์โควิดที่ผู้คนต้องเว้นระยะห่างกันมากขึ้น เราเองก็หวังว่าจะสามารถเป็นอีกเงาสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารที่มีต่อการใช้ชีวิตในสังคม และจะดีเพียงใดหากเราได้ช่วยให้คนเหล่านั้นได้กระชับความสัมพันธ์ได้ดียิ่งขึ้น” ทอม กล่าวเสริม

Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ
Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ
Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ
Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ

เมื่อมาถึงบาร์ หากไม่กล่าวถึงเครื่องดื่มเลยเรื่องเล่าก็คงไม่สมบูรณ์นัก ซึ่งที่ Propaganda Bar แห่งนี้ก็มี ไม่ว่าจะเป็น The Churchill, Red Revolution และ The Reporters’ Revenge ที่คิดค้นและบรรจงเสิร์ฟโดย Garry Escabel Mejia บาร์เทนเดอร์ฝีมือฉมังที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอน แม้แต่การเลือกสรรวัตถุดิบในการมาปรุงเครื่องดื่มสุดพิเศษแต่ละแก้วที่ผสมผสานด้วยผลไม้ออแกนิก สด สะอาด ปลอดภัยจากฟาร์มที่นครนายกของเจ้าของบาร์แห่งนี้อีกด้วย

Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ
Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ
Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ

ไม่เพียงเท่านั้น  Propaganda Bar ยังมีแผนต่อยอดเพื่อรองรับการจัดงานอีเวนต์และงานแสดงภาพถ่ายสุดเอ็กซ์คลูซีฟอีกด้วย และเพื่อเป็นการตอกย้ำว่า Propaganda Bar คือแหล่งพักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนในวงการสื่ออย่างแท้จริง ทางบาร์ยังได้เตรียมมอบส่วนลดพิเศษให้กับสื่อมวลชน นักเขียน ผู้จัดพิมพ์ บริษัทโฆษณา สถานีวิทยุ โปรดักชั่นรายการทีวี รวมถึงบริษัทตัวแทนซื้อสื่อ ในทุกครั้งที่มาเยือนบาร์แห่งนี้อีกด้วย 

Propaganda Bar บาร์ลับย่านใจกลางสุขุมวิท สุนทรีย์และความรื่นรมย์ที่ต้องบอกต่อแบบไม่ต้องชวนเชื่อ

ตามมาพบกับ Propaganda Bar ได้ที่สุขุมวิท 33 ซอย 1 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16:00 – 23:00 น. สอบถามโทร. 081 838 6809 และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Propaganda Bar

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/travel/685711

วันที่ 21 มิ.ย. 2565 เวลา 12:50 น.

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

เช็กอินร้านอาหารอิตาเลียนแห่งใหม่บรรยากาศเทรนดี้อาร์ททิส กับ “Terra Nova” โดดเด่นด้วยอาหารอิตาเลียนสไตล์โมเดิร์น ชูรสต้นตำรับ เสิร์ฟความอร่อยอย่างลงตัว พร้อมการเดินทางสะดวก ตั้งอยู่ที่ The Crystal เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา รับรองว่ามาแล้วต้องร้อง Wow!

เรื่องและภาพ : วารุณี มณีคำ

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

โพสต์ทูเดย์ เช็กอินกินเที่ยวร้านอาหารอิตาเลียนเปิดใหม่ย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ใน The Crystal  กับร้าน Terra Nova ร้านอาหารที่ชูจุดเด่นในเรื่องของ Modern Italian Cuisine  หวังเปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารอิตาเลียน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Bring an imagination to the authentic cuisine ให้จินตนาการผสานกับอาหารต้นตำรับ 

สำหรับความหมายของชื่อร้าน มาจากคำว่า Terra ที่หมายถึง ดิน โลก กับคำว่า Nova ที่หมายถึง ดวงดาวที่สุขสว่าง สื่อรวมความหมาย Terra Nova หมายถึงการปั้นดินสู่ดาว เปรียบได้กับอาหารสูตรดั้งเดิมที่ผสานสูตรโมเดิร์นที่ให้เกิดความลงตัวและถูกปากคนไทย

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

คุณสุจิตรา เกษสุวรรณ์ General Manager เผยว่า “การที่ครอบครัว คู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือคนทำงาน มองหาร้านอาหารเพื่อเลือกมาใช้เวลาดีๆ ร่วมกัน หรือจะเป็นการนัดพูดคุยเรื่องงานและธุรกิจ เชื่อว่าอาหาร อิตาเลียนเป็นหนึ่งในลิสต์ที่คนนิยม ซึ่งร้านเราตอบโจทย์แน่นอนด้วยรสชาติและบรรยากาศสนุกๆ แต่ยิ่งกว่าการมอบประสบการณ์ด้านอาหาร เรายังใส่ใจทุกรายละเอียด ทั้งการคัดสรรวัตถุดิบ เมนูที่ครีเอทจากเชฟมืออาชีพ เพิ่มอรรถรสในการทานด้วยการจัดจานอย่างพิถีพิถัน การตกแต่งร้าน รวมถึงการเลือกภาชนะ ตอกย้ำความเป็น Modern Italian Cuisine ที่แตกต่างอีกหนึ่งสิ่งและเป็นจุดเด่นของร้าน จะเน้นภาชนะสีดำเหมือนแทนผืนผ้าใบที่เชฟเป็นผู้แต่งแต้มสีสันเติมชีวิตชีวาให้กับมื้ออาหาร และเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเลือกไม่ผิด คือการบริการที่มีการอบรมพนักงานด้านนี้โดยเฉพาะ ให้สัมผัสได้ว่าเป็นมื้อพิเศษจริงๆ”

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova
เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

ไม่เพียงอาหารที่การันตีความอร่อยแบบต้นตำรับอิตาเลียน บรรยากาศและการตกแต่งร้านยังให้ความรู้สึกโมเดิร์นด้วยสีดำตัดความฉูดฉาดให้โดดเด่นอย่างมีสไตล์ด้วยสีส้มอิฐชวนสะดุดตาทันทีที่ได้เห็น ภายในร้านตกแต่งน่าค้นหาด้วย Nova Galleria เสพงานศิลป์จากศิลปินอิตาลีชื่อดัง ฟอร์นาสเซ็ตติ (Fornasetti) พร้อมสั่งทำโคมไฟพิเศษขึ้นมา เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของร้าน ในส่วนของฝ้าและผนังเลือกใช้สีเมทัลลิค ปูนเปลือยและสีซีเมนต์ ประดับด้วยเครื่องปั้นดินเผาคู่กับงานสแตนเลสสีทองและสีโรสโกลด์ ดีไซน์ให้เกิดความแตกต่างแต่ลงตัวสะท้อนถึงร้าน Terra Nova ได้อย่างชัดเจน ทั้งยังโล่ง โปร่ง สบาย ด้วยกระจกรอบด้าน สัมผัสได้ถึงแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามา มีทั้งโซนส่วนตัวและรับรองสำหรับกลุ่มใหญ่ นับเป็น WOW Ambience ที่มีครบทุกความรู้สึกในที่เดียว การันตีการบริการดีสร้างความประทับใจแบบ Wow Service ให้มื้อนี้เป็นมื้อพิเศษสำหรับคุณ 

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova
เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

ร้านนี้การันตีด้วย Nova Chef Squad 4 เชฟมากประสบการณ์มาร่วมรังสรรค์เมนู เชฟอ๊อตโต้-ประภาศน์ ปาณะวีระ ดีกรี Top Chef Thailand Season 2 และตัวแทนประเทศไทยแข่งขันที่สิงคโปร์ FHA Culinary Challenge 2018 Singapore, Hong Kong International Culinary Classic 2019 พร้อมด้วย เชฟอาดัม-อาดัม นิโคมเดส ลินเดอร์ ลูกครึ่งไทย-สวิต ผู้มีประสบการณ์จากร้านอาหารและโรงแรมชื่อดังทั้งในและต่างประเทศกว่า 25 ปี เชี่ยวชาญด้านอาหารอิตาเลียนเป็นอย่างดี รวมถึงเชฟพลอย-ฐาติกานต์ ตัณฑจินนะ และ เชฟโอ๊ค-กรณัฐ ธรรมอำนวยสุข ร่วมปรุงอาหารและครีเอทเมนูรสเลิศ ชื่อชั้นฝีมือเชฟขนาดนี้รับรองความ WOW Professional Chef อย่างแน่นอน

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

ทางด้านอาหารทุกคนจะได้เอ็นจอยกับอาหารอิตาเลียนขนานแท้ ไม่ว่าจะเป็น Bruschetta, Salumi & Formaggi, Fritti รวมไปถึงซุป, สลัด, สเต๊ก, พาสต้า, พิซซ่าที่มีให้เลือกมากกว่า 15 หน้า ผ่านการรังสรรค์โดยเชฟมากประสบการณ์ ยิ่งทำให้อาหารแต่ละเมนูนั้นมีความพิเศษ และด้วยครัวแบบ Semi-Open Kitchen เราจึงสามารถมองเห็นเชฟมืออาชีพปรุงอาหาร และมั่นใจได้ในเรื่องของความสะอาด

เมนูแนะนำ

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

 

1.Crab meat involtino -Sping rool filli with clab meat,cream cheese premium mozzarella cheese,and BBQ sauce เปอะเปี๊ยะใส้เนื้อปูกับชีสมอสซาเรลล่า

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

2.Shennong crispy mushroom -Shiitake mushrooms coated with bread crumbs and fried in rice bran oil served with pesto mayonnaise dip เห็ดทอด ซอสเพสโต้มาโย

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

3.Seared tuna saku kale avocado salad -Kale with seared tuna,avocado,red and yellow cherry tomatoes,boiled egg,quinoa and sesame dressing สลัดผักเคล,ปลาทูน่า,ไข่ต้ม และควินัว เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดงาคั่วญี่ปุ่น

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

4.Grilled prawns with tasty salami salad -Mixed salad with prawns,spicy salami,red radish and walnut สลัดผักรวมออแกนิค และกุ้งย่างกับซาลามี่รสเผ็ด

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

5.Morderno pizza with prosciutto -Classic pizza with tomato sauce,mozzarella cheese,arugula and soft burrata cheese on top พิซซ่าโพรชุตโต้แฮม และชีสบูราต้า

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

6.Lanna taste pinsa -Pizza oval shape with smoke bacon,capsicum,beef tomatoes and premium mozzarella cheese พิซซ่าวงรี มะเขือเทศเนื้อ,เบคอนรมควัน,พริกหยวก และชีสมอสซาเรลล่า

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

7.Spaghetti with dried chilli shrimp,squid tentacles bacon,uni and salmon roe สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้ง พร้อมวัตถุดิบอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น เบคอน, กุ้ง, หนวดปลาหมึก, ไข่แซลมอน และไข่หอยเม่น ปรุงรสให้มีความเผ็ด และเค็มบางๆ พร้อมกลิ่นหอมจากใบโหระพาอิตาเลียน จะทำให้รสชาติของอาหารจานนี้ล้ำลึกจนคุณคาดไม่ถึง

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

9.Japanese pumpkin tiramisu -Tiramisu from japanese pumpkin coconut milk,pavesini lady fingers,lavazza coffee,purple potatoes,vanilla ice cream and pumpkin chips ทิรามิสุฟักทองญี่ปุ่น,มันม่วง และไอศกรีมวนิลลา

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

10.Purple spiral tart -Lemon curd with a layer of purple potatoes and top with crispy pumpkin chips เลมอนเคิร์ด,มันม่วงทาร์ต และฟักทองกรอบ

เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova
เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova
เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารสไตล์ Modern Italian Cuisine @Terra Nova

Terra Nova พร้อมเสิร์ฟความอร่อยกับเมนูอาหารอิตาเลียนและเครื่องดื่มสุด Wow ท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ภายใต้มาตรการความปลอดภัยและปฏิบัติตาม SHA+ เพื่อการันตีได้ว่าร้านนี้มีความปลอดภัย พบกันได้ที่อาคาร Veranda ชั้น 2 The Crystal (Ekamai-Ramindra) เดินทางสะดวกย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เปิดให้คุณได้สัมผัสความสนุกอร่อยประทับใจทุกองศาแล้ววันนี้ โทร 02 102 2002 หรือ 063 220 9889

‘พอทเทอรี เคลย์’ จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/685771

วันที่ 16 มิ.ย. 2565 เวลา 18:38 น.

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

รู้จัก “พอทเทอรี เคลย์” (Pottery Clay) ครบทุกเรื่องเซรามิคแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย เพื่อผู้ประกอบการและคนรักงานปั้น

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

“พอทเทอรี เคลย์” (Pottery Clay) ศูนย์รวมสินค้าและบริการงานเซรามิคที่แรก ที่เดียว ที่ครบมากที่สุดในประเทศไทย สำหรับผู้ประกอบการเซรามิคทั้งรายย่อยและรายใหญ่ในระดับอุตสาหกรรม รวมไปถึงกลุ่มคนรักงานปั้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “One Stop Shopping”  จำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์งานปั้น พร้อมบริการด้านงานเซรามิคที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เหมาะสมกับการใช้งาน ทั้งยังมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณค่างานปั้นด้วยการเปิด ‘SOC : School of Ceramics โรงเรียนสอนปั้นเซรามิค by Pottery Clay’  พื้นที่ที่ให้เรียนรู้งานปั้นรอบด้าน ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เหมาะสำหรับทุกเพศวัย  พร้อมต่อยอดเสริมสร้างทักษะจนสามารถนำไปประกอบสร้างอาชีพได้จริง

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

นางสาวสราญรัตน์ พานิชสุขไพศาล กรรมการบริษัท พอทเทอรี เคลย์ จำกัด เผยว่า “จุดเริ่มต้นของพอทเทอรี เคลย์ เกิดขึ้นด้วยดินเพียง 1 กิโลกรัม ที่นำไปเสนอให้ลูกค้ากลุ่มศิลปินเซรามิคได้ทดลองใช้ ซึ่งดินที่ว่านี้เป็นสูตรเฉพาะที่คิดค้นขึ้นมาใหม่จากประสบการณ์ในแวดวงอุตสาหกรรมวัตถุดิบสำหรับผลิตเซรามิคที่ได้เรียนรู้มาจากธุรกิจของครอบครัว ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่า เราเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงในเรื่องดิน เมื่อดินสูตรใหม่นี้ได้รับการยอมรับในคุณภาพ เราก็เริ่มมองไปยังองค์ประกอบอื่นๆ ในการผลิตชิ้นงานเซรามิคจนได้ข้อสรุปมาว่า การจะสร้างชิ้นงานขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชิ้นเล็กหรือใหญ่ ยังมีเครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็นอีกมากมายที่ควรจะได้มาตรฐานเพื่อให้ชิ้นงานที่ออกมามีคุณภาพที่ดีที่สุด จึงเริ่มสร้าง “พอทเทอรี เคลย์” (Pottery Clay) ขึ้นมา เพื่อให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์รวมสินค้าและบริการงานเซรามิคที่แรก ที่เดียว ที่มีของคุณภาพ ครบวงจรมากที่สุดในประเทศไทย

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

สินค้าของเราจึงไม่ได้มีแค่ดินสูตรของเราเองเท่านั้น แต่ลูกค้ายังสามารถออเดอร์ให้จัดหาดินสำเร็จรูป รวมถึงพัฒนาสูตรดินขึ้นมาตามความต้องการในลักษณะ Made to order ได้ด้วย ทั้งยังนำเข้าดิน Keane จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถือว่าเป็นดินที่มีสูตรเฉพาะเข้ามาให้นักปั้นได้ใช้งาน โดยไม่ต้องสั่งออนไลน์ถึงต่างประเทศ ไม่ต้องรอนาน แค่มาที่เราก็ได้สัมผัสเนื้อดินจริงๆ และซื้อกลับไปใช้งานได้ทันที”

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกอย่างที่ต้องใช้ในการผลิตชิ้นงานเซรามิคจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นแป้นหมุน เตาเผาเซรามิคไฟฟ้า สีเคลือบต่างๆ เครื่องมือปั้นและอุปกรณ์ตกแต่งชิ้นงาน รวมไปถึงเครื่องจักรที่ผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมเซรามิคต้องใช้  โดยเราคัดสรรคุณภาพของสินค้าที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมไว้ที่นี่ เช่น แบรนด์ SKUTT เตาเผาเซรามิคไฟฟ้าที่ศิลปินทั่วโลกยอมรับในคุณภาพมายาวนานกว่า 70 ปี หรือจะเป็น Amaco สีเคลือบสีเซรามิคจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือศิลปินมือโปรก็ต้องมีติดไว้ใช้งาน โดยพอทเทอรี เคลย์เป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในไทย

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

“เมื่อซื้อสินค้าจาก พอทเทอรี เคลย์ ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ ลูกค้ายังสามารถติดต่อเข้ามาปรึกษา การใช้งานต่างๆ กับเราได้ตลอดเวลา เพราะงานบริการหลังการขายคืออีกสิ่งหนึ่งที่เรามุ่งเน้น พนักงานของเรา ได้รับการปลูกฝังให้บริการอย่างเป็นกันเอง เป็นเพื่อนที่รักในงานเซรามิคเหมือนกัน แต่ทุกการบริการจะยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานระดับมืออาชีพ เช่นในเรื่องเตาเผาเซรามิคไฟฟ้าหรือเครื่องจักรเซรามิคที่ไม่เพียงมีประกันคู่ไปกับทุกเครื่อง แต่เรายังนำส่งให้ถึงจุดหมาย พร้อมบริการติดตั้ง สอนการใช้งานไม่คิดค่าใช้จ่าย และในกรณีที่ลูกค้าบางคนยังมีกำลังไม่พอที่จะซื้อเตาเผาไปเป็นของตัวเอง เราก็ยังมีบริการเปิดเตาเผาสำหรับงานเผาชิ้นงานเซรามิค ซึ่งไม่ว่าจะนำชิ้นมามาเผาเพียงชิ้นเดียวหรือหลายร้อยชิ้น พอทเทอรี เคลย์ก็บริการให้หมด

“ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เราได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากลูกค้าทั้งรายเล็กและรายใหญ่ในระดับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่เคยสัมผัสงานเซรามิคมาก่อนเริ่มให้ความสนใจในงานด้านนี้กันมากขึ้น เราจึงเห็นโอกาสในการช่วยยกระดับและสร้างคุณค่าให้กับอาชีพนักปั้นเซรามิค จึงสร้างพื้นที่สำหรับกลุ่มคนกลุ่มนี้ที่ต้องการเรียนรู้งานปั้นเซรามิคและนำไปพัฒนาต่อยอดกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ได้จริง จึงถือโอกาสในการก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 ด้วยการเปิด ‘SOC : School of Ceramics โรงเรียนสอนปั้นเซรามิค by Pottery Clay’  พื้นที่ๆ เปิดสอนงานปั้น ให้ได้ปั้นจริง เผาจริง ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงระดับมืออาชีพ ซึ่งคอร์สสอนปั้นต่างๆ สอนโดยผู้เชี่ยวชาญที่จบเฉพาะทางเซรามิค อาทิ อ.ขวัญ – อนันตวัฒน์ วิวัฎฏ์กุลธร อาจารย์พิเศษ ภาควิชาออกแบบเซรามิค จากมหาวิทยาลัยบูรพา มาเป็นผู้สอนด้วยตัวเองทุกขั้นตอน”

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

สำหรับ SOC มีคอร์สต่างๆ ให้เลือกมากมาย ทั้งคอร์สระยะสั้น (One Day Workshop) ที่ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงก็ปั้นได้ เช่น การสอนปั้นมือบนแป้นหมุน, ปั้นกระถาง, ปั้นชิ้นงานประติมากรรม เป็นต้น แต่สำหรับบางคนที่หลงใหลในการเพ้นท์หรืออยากสร้างลวดลายบนชิ้นงานเซรามิคอย่างเดียว ก็สามารถเลือกคอร์ส Paint Your Own Pot (PYOP) เพื่อเรียนรู้การออกแบบลวดลายและลงสีบนเซรามิคสำเร็จรูปในสไตล์ที่ต้องการได้ สำหรับคนที่อยากลงลึกจริงๆ ก็มีคอร์สระยะยาว (Long Term Workshop) ซึ่งใช้เวลาเรียน 2 เดือน (สัปดาห์ละ 1 วัน) ซึ่งคอร์สนี้จะสอนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ สอนเคล็ดลับทำเซรามิคด้วยเทคนิคขั้นสูง การทำลวดลาย การใช้เครื่องมือเฉพาะทาง เป็นคอร์สที่สามารถสร้างอาชีพได้หลังเรียนจบ

ด้านเสียงตอบรับ ในช่วงที่ผ่านมาทุกคนต้องเจอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในอาชีพ ประกอบกับเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ต้อง Work From Home หลายคนจึงเริ่มมองหาอาชีพเสริมกันมากขึ้น บางคนมองหากิจกรรมใหม่ๆ ในทำช่วงที่มีเวลาว่างมากขึ้น ส่งผลให้คอร์สเวิร์คช้อปต่างๆ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากเดิมที่เราเริ่มต้นด้วยคลาสสอนเพียงแค่ 2 คลาส ปัจจุบันพัฒนาเพิ่มขึ้นกลายเป็นเกือบ 50 คลาส โดยมีนักเรียนจบคอร์สกับเราไปแล้วเกือบพันคน ซึ่งนักเรียนที่อายุน้อยสุดที่มาเรียนคือ อายุ 6 ปี ที่ผู้ปกครองจะพามาเรียนรู้งานศิลปะอีกแขนงในช่วงเวลาว่าง ซึ่งเด็กๆ จะได้สนุกกับปั้นดิน งานศิลปะแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กอีกด้วย ขณะที่นักเรียนที่อายุมากสุดคือ 76 ปี ซึ่งก็คือกลุ่มคนวัยเกษียณที่ต้องการหางานอดิเรกทำ เมื่อเข้าคอร์สปั้นก็ทำให้ได้เพื่อนใหม่ และยังได้การเคลื่อนไหวและกระตุ้นมองให้ได้ใช้ความคิดแบบเพลินๆ อีกด้วย

'พอทเทอรี เคลย์' จากดินหนึ่งก้อนสู่ศูนย์กลางงานเซรามิค

“ในปีที่ 6 ของ พอทเทอรี เคลย์ นี้ได้ตั้งเป้าหมายว่า จะต้องก้าวขึ้นไปเป็นจุดศูนย์รวมของสินค้าและบริการเซรามิคที่คนที่ชื่นชอบในงานเซรามิค ทั้งนักท่องเที่ยว หรือศิลปินชาวต่างชาติ เมื่อมาถึงเมืองไทย ถ้านึกถึงสินค้าและงานเซรามิค จะต้องนึกถึงพอทเทอรี เคลย์ เพราะที่นี่มีทุกอย่างครบ จบในที่เดียว และเร็วๆ นี้จะมีการเปิดพื้นที่สำหรับ Residency ที่จะเป็นโปรแกรมที่จัดสำหรับศิลปินด้านงานเซรามิคที่ๆ ต้องการทั้งที่พำนักอาศัยและทำงานไปด้วยให้อยู่ในที่เดียวกัน รวมถึงอีกหนึ่งเป้าหมายที่อยู่ในแผนที่จะทำคือ การเปิดพื้นที่ Gallery Ceramic แห่งแรกในประเทศไทย ที่จะเป็นพื้นที่ๆ รองรับการจัดแสดงโชว์นิทรรศการ หรือผลงานเซรามิค งานประติมากรรมต่างๆ โดยเฉพาะ

ทั้งนี้ เป้าหมายสูงสุดของพอทเทอรี เคลย์ คือการที่จะยกระดับงานปั้น งานฝีมือให้ผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ ผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นเรียนรู้ ได้มาลองฝึก ลองลงมือทำ สร้างสรรค์ผลงานด้วยสองมือตัวเอง รวมไปถึงการสร้างคุณค่า พร้อมส่งเสริมอาชีพนักเซรามิคไทย ผ่านพื้นที่ของ School of Ceramics (SOC) เพราะเชื่อว่าฝีมือคนไทยในด้านงานสร้างสรรค์นั้นสามารถก้าวสู่ตลาดสากลได้อย่างทัดเทียม เพียงแค่มีวัตถุดิบ อุปกรณ์ รวมไปถึงการบริการในด้านงานเซรามิคที่จะเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมให้พวกเขาได้สร้างผลงานกันออกมาได้อย่างเต็มที่แน่นอน” คุณสราญรัตน์ กล่าวเสริม

เติมสีสัน Pride Month ริมทะเลสุดเก๋ @The Standard, Hua Hin

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/travel/685773

วันที่ 16 มิ.ย. 2565 เวลา 19:13 น.

เติมสีสัน Pride Month ริมทะเลสุดเก๋ @The Standard, Hua Hin

The Standard, Hua Hin รีสอร์ทริมทะเลสุดเก๋ เปิดโฉมการเฉลิมฉลองสีสันและความสร้างสรรค์ในเดือน Pride ตลอดทั้งเดือน

เติมสีสัน Pride Month ริมทะเลสุดเก๋ @The Standard, Hua Hin

The Standard, Hua Hin รีสอร์ทสุดเก๋ที่บรรยากาศริมชายหาดชิคๆ ชวนทุกคนมาพบกับการออกแบบสไตล์ยุคกลางศตวรรษ โบกธงเชิดชูความหลากหลายและความเท่าเทียมในเดือนมิถุนายนนี้ ด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่ยอดเยี่ยมสำหรับเดือน Pride (ไพรด์) เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2565

สำหรับ Pride Month คือโอกาสที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์สำหรับชุมชน LGBTQ+ ซึ่งทั่วโลกมีการจัดขบวนพาเหรด ปาร์ตี้ คอนเสิร์ต และเวิร์กช็อป โดยงานอีเวนต์ประจำปีดังกล่าวจัดขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองให้กับการไม่แบ่งแยกในทุกรูปแบบ มุ่งเน้นการต่อสู้เพื่อสิทธิแห่งความเท่าเทียม และยกย่องเชิดชูความสำคัญของเกย์ เลสเบี้ยน ไบเซ็กชวล และบุคคลข้ามเพศที่มีมาตลอดในประวัติศาสตร์

เติมสีสัน Pride Month ริมทะเลสุดเก๋ @The Standard, Hua Hin

เพื่อร่วมฉลองเดือนไพรด์ในประเทศไทย The Standard, Hua Hin จะสว่างไสวไปด้วยสีสันของสายรุ้ง การตกแต่งภายใน และศิลปะการจัดวางที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ลึกล้ำของรีสอร์ต ที่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกอย่างมีอิสระ โดยแขกยังจะได้รับเชิญให้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับปาร์ตี้ดีเจ “Loud & Proud” ถึง 2 วัน พร้อมดารารับเชิญสุดพิเศษ ตั้งแต่เวลา 20.00-23.00 ของวันที่ 17 มิถุนายน อมิตา ทาทา ยัง นักร้องชื่อดังที่ผันตัวมาเป็นดีเจ จะเปิดเซสชั่นเพลงแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ Beach Bar

จากนั้นในวันที่ 18 มิถุนายน กิจกรรมสุดสนุกเต็มวันรออยู่ที่ Lido Bar ดีเจ Gramaphone Children จะเริ่มปาร์ตี้ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ตามด้วยดีเจ Rhunrun ประจำแท่นดีเจตั้งแต่ 16.30 น. จากนั้นเมื่อพระอาทิตย์ลับฟ้าจะมีการแสดงจาก Pat Chanudom ผู้ร่วมงานสามารถเต้นรำไปจนค่ำคืนดึกดื่น กับเสียงเพลงสนุกๆ จากดีเจ Tob จนถึงเวลา 23.00 น. โดย “จีน กษิดิศ” จะมาร่วมงานด้วยเพื่อทำให้ค่ำคืนเป็นที่น่าจดจำ

เติมสีสัน Pride Month ริมทะเลสุดเก๋ @The Standard, Hua Hin

เพื่อช่วยให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ความสนุกสนานของเดือนไพรด์ The Standard, Hua Hin ได้รังสรรค์แพ็กเกจ “Pride in Paradise” เพลิดเพลินกับการเข้าพักที่่น่าทึ่งกับคนที่คุณรัก รวมทั้งอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน การปูเตียงที่จะทำให้คุณประหลาดใจ ค็อกเทลไพรด์ 2 แก้ว เซสชั่นสปา Mud Lounge สำหรับ 2 คน และการลดราคา 15% ที่ร้านอาหารและสปาของรีสอร์ท ไม่เพียงเท่านั้นคู่รักที่จองห้องซูพีเรียร์สวีท หรือวิลล่า จะได้รับบับเบิ้ลบาธที่แสนสบาย แพ็กเกจ Pride in Paradise มีบริการตลอดทั้งเดือนไพรด์ ระหว่างวันที่ 1 และ 30 มิถุนายน 2565 สามารถจองได้ที่ https://www.standardhotels.com/hua-hin/specials/pride-in-paradise

“เดือนไพรด์เป็นโอกาสสำคัญ เมื่อชุมชนชาว LGBTQ+ ลุกขึ้นเพื่อแสดงยจุดยืนและเฉลิมฉลองในความหลากหลาย วัฒนธรรม และมรดกสืบทอด ที่ The Standard เรามุ่งมั่นในการสนับสนุนความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยกมาโดยตลอด ดังนั้นเราจึงยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมฉลองอีเวนต์สำคัญนี้ ด้วยกิจกรรมน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย โดย The Standard Hua Hin จะเต็มไปด้วยกิจกรรมที่แสนอลังการตลอดเดือนมิถุนายน ด้วยการสวมใส่สีสันต่างๆ จากธงสีรุ้งอย่างภาคภูมิใจ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับแขกของเรามาสู่ชายฝั่งสวยงามของประเทศไทยในระหว่างเดือนไพรด์” ใหม่ เวชชาชีวะ ทิมบลิก Chief Creative & Culture Officer ของ Standard Asia กล่าว

เติมสีสัน Pride Month ริมทะเลสุดเก๋ @The Standard, Hua Hin

The Standard, Hua Hin นำบรรยากาศคูลๆ แบบไมอามี่ มาสู่ชายหาดของประเทศไทย ด้วยห้องพัก 199 ห้อง ทั้งห้องสวีทและวิลล่า Lido พูลบาร์ ตกแต่งสไตล์ครึ่งศตวรรษ และร้านอาหารไทยสไตล์อิซากายาริมหาด และ The Juice Café ในบรรยากาศสวนร่มรื่น โรงแรมริมทะเลสุดฮิพแห่งนี้จะเป็นที่ดึงดูดใจในหมู่นักเดินทางจากทั่วโลกที่มองหาประสบการณ์ใหม่ และล่าสุดเพิ่งได้รับเลือกให้อยู่ใน Hot List ของปี 2022 ของนิตยสาร Conde Nast Traveler ซึ่งเป็นลิสต์ที่เอ็กซ์คลูซีฟอย่างยิ่งสำหรับโรงแรมใหม่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดของโลก

โรงแรมต่างๆ ของ The Standard ตั้งอยู่ในจุดหมายปลายทางที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดของโลก ตั้งแต่หาดไมอามี่ไปจนถึงมัลดีฟส์ ลอนดอนจนถึงนิวยอร์ก หัวหิน และเร็วๆ นี้ที่กรุงเทพฯ

ติดต่อกับโรงแรมได้ทาง Facebook: The Standard, Hua Hin

Line: @thestandardhuahin

Web: www.standardhotels.com/hua-hin

Pacamara Coffee Roasters พร้อมเสิร์ฟรสชาติใหม่ที่เหล่าคอกาแฟไม่ควรพลาด!

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/travel/685674

วันที่ 15 มิ.ย. 2565 เวลา 12:36 น.

Pacamara Coffee Roasters พร้อมเสิร์ฟรสชาติใหม่ที่เหล่าคอกาแฟไม่ควรพลาด!

“พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์” (Pacamara Coffee Roasters) แบรนด์สเปเชียลตี้คอฟฟี่ชื่อดัง พร้อมเสิร์ฟรสชาติใหม่ที่เหล่าคอกาแฟไม่ควรพลาด! กับสุดยอดเมนูกาแฟเดอร์ตี้สไตล์โตเกียว ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถันพิถันด้วยสูตรลับเฉพาะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Work Hard, Dirty Harder”

Pacamara Coffee Roasters พร้อมเสิร์ฟรสชาติใหม่ที่เหล่าคอกาแฟไม่ควรพลาด!

หากพูดถึงเมนูยอดนิยมของคาเฟ่ประเภทสเปเชียลตี้คอฟฟี่ ในอันดับต้นๆ จะต้องมีเมนูกาแฟเดอร์ตี้ (Dirty Coffee) อยู่อย่างแน่นอน เพราะหลายปีมานี้จะเห็นได้ว่ากาแฟเดอร์ตี้ (Dirty Coffee) นั้นได้รับความนิยมในกลุ่มคอกาแฟเป็นอย่างมาก จากเสน่ห์ในความชัดเจนของรสชาติและมีความหลากหลายในแก้วเดียว โดยล่าสุด “พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์” (Pacamara Coffee Roasters) แบรนด์ที่ขึ้นชื่อด้านสเปเชียลตี้คอฟฟี่และมีซิกเนเจอร์เป็นเมนูกาแฟเดอร์ตี้ (Dirty Coffee) ได้เปิดตัวสุดยอดเมนูใหม่ที่รังสรรค์ขึ้นจากเมล็ดกาแฟเบลนด์พิเศษเพื่อให้ได้รสชาติของกาแฟเดอร์ตี้ (Dirty Coffee) สไตล์โตเกียวต้นตำรับ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Work Hard, Dirty Harder” ทำทุกอย่างให้เต็มที่ แล้วให้รางวัลตัวเองด้วยสุดยอดกาแฟเดอร์ตี้ที่พาคามาร่า โดยพร้อมเสิร์ฟให้ได้ดื่มด่ำกันแล้ววันนี้ ไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565

Pacamara Coffee Roasters พร้อมเสิร์ฟรสชาติใหม่ที่เหล่าคอกาแฟไม่ควรพลาด!

“พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์” (Pacamara Coffee Roasters) แบรนด์สเปเชียลตี้คอฟฟี่ชื่อดัง ที่ใส่ใจควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน จากโรงงานแปรรูป โรงสีเมล็ดและโรงคั่วกาแฟ ภายใต้การดูแลของแบรนด์เอง พร้อมคัดสรรเมล็ดพันธุ์กาแฟชั้นดีจากแหล่งปลูกชั้นนำทั่วทุกมุมโลก ผ่านฝีมือการแปรรูปโดยผู้เชี่ยวชาญก่อนนำเมล็ดกาแฟไปคั่วอย่างพิถีพิถันเพื่อดึงเอาเอกลักษณ์และรสชาติที่โดดเด่นของเมล็ดกาแฟออกมาด้วยเครื่องคั่วไฮเอนด์คุณภาพระดับโลก

Pacamara Coffee Roasters พร้อมเสิร์ฟรสชาติใหม่ที่เหล่าคอกาแฟไม่ควรพลาด!

สำหรับกาแฟเดอร์ตี้ (Dirty Coffee) ได้ถือกำเนิดขึ้นโดยการสร้างสรรค์จากเจ้าของร้าน Bear Pond Espresso เอสเพรสโซ่บาร์ชื่อดังย่าน Shimokitazawa ในโตเกียว และได้นำเมนูนี้ไปเปิดตัวครั้งแรกให้คอกาแฟได้ลิ้มรสที่ร้าน Joe The Art of Coffee ในมหานครนิวยอร์กจนโด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยความพิเศษของกาแฟเดอร์ตี้ (Dirty Coffee) เป็นเมนูกาแฟนมที่เสิร์ฟแยกชั้นกันอย่างชัดเจนระหว่าง ‘นมเย็นจัด’ ที่อยู่ด้านล่างของแก้ว กับ ‘ช็อตเอสเพรสโซ่’ หรือ ‘ริสเทรตโต้’ ที่อยู่ด้านบน จึงต้องเสิร์ฟใน ‘แก้วใสแช่เย็น’ เท่านั้น เพื่อให้มองเห็นการแยกชั้นเป็นลวดลายต่างๆ ดังนั้นคำว่าเดอร์ตี้ (Dirty) จึงไม่ได้หมายถึงสกปรก แต่มาจากคราบของกาแฟที่เปรอะเปื้อนภายในแก้วนมสีขาวบริสุทธิ์นั่นเอง โดยวิธีการดื่มนั้นจะไม่ใช้ช้อนคนส่วนผสมก่อนดื่ม แต่ให้ยกขึ้นจิบตามที่บาริสต้าเสิร์ฟทันที เพื่อให้ได้รสชาติของส่วนผสมแต่ละชั้นอย่างชัดเจน โดยแต่ละจิบที่ดื่มไปเรื่อยๆ ก็จะได้รสสัมผัสและกลิ่นที่แตกต่างกันไปซึ่งเป็นเสน่ห์พิเศษของเมนูนี้

โดยที่ “พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์” (Pacamara Coffee Roasters) นั้น ก็มีเมนู เซนต์ เดอร์ตี้ (Saint Dirty) กาแฟเดอร์ตี้สุดคลาสสิก หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ยอดนิยมตลอดกาล จากช็อตดับเบิ้ล ริสเทรตโต้ (Double Ristretto) ท็อปอยู่บนนมเย็นจัดสูตรลับเฉพาะ ที่มอบรสสัมผัสหอมเข้มข้นกลมกล่อมหวานมันได้อย่างลงตัว

Pacamara Coffee Roasters พร้อมเสิร์ฟรสชาติใหม่ที่เหล่าคอกาแฟไม่ควรพลาด!

สำหรับความพิเศษของเมนูใหม่นั้น ทางแบรนด์ได้สร้างสรรค์ “โตเกียว เดอร์ตี้ เบลนด์” (Tokyo Dirty Blend) เมล็ดกาแฟเบลนด์พิเศษขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะจากส่วนผสมของเมล็ดกาแฟต่างประเทศที่คัดสรรจาก 3 ทวีป 3 ประเทศผ่านการคั่วที่ถูกควบคุมโดยทีมโรสเตอร์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้เทคนิคการสกัดช็อตกาแฟแบบพิเศษและควบคุมอัตราส่วนโดยบาริสต้าที่มีความชำนาญ เพื่อให้คอกาแฟได้ดื่มด่ำกับช็อตดับเบิ้ล ริสเทรตโต้ (Double Ristretto) ในสไตล์โตเกียวแท้ๆ ที่รสชาติออกหวานแบบเมเปิ้ลไซรัป (Maple Syrup) ผสมมอลต์บิสกิต (Malt Biscuits) และดาร์กช็อกโกแลต ( Dark Chocolate) และมีบอดี้ที่ดี (Full Body)

เมนูแรกคือ “โตเกียวสไตล์ เดอร์ตี้” (Tokyo Style Dirty) ความลงตัวของช็อตดับเบิ้ล ริสเทรตโต้ (Double Ristretto) ที่ท็อปด้านบนด้วยนมสดเย็นจัด ในอัตราส่วนที่เหมาะสม ซึ่งแม้ไม่ได้เติมความหวานเลย แต่เดอร์ตี้แก้วนี้ก็สามารถดึงความหอมหวานที่มาจากรสชาติกาแฟอย่างแท้จริงออกมาได้อย่างลงตัว ถัดมาที่เมนู “แซนด์แคสเซิล เดอร์ตี้” (Sandcastle Dirty) เปิดประสบการณ์ในการดื่มเดอร์ตี้ด้วยความหวานกลมกล่อมของนมเย็นจัดสูตรลับเฉพาะและช็อตดับเบิ้ล ริสเทรตโต้ (Double Ristretto) ทำให้เดอร์ตี้แก้วนี้ มีรสชาติที่คอมเพล็กซ์ เมื่อจิบไปเรื่อยๆ จะมีรสสัมผัสและกลิ่นที่แตกต่างกันไป โดยเสน่ห์พิเศษของเมนูนี้คือความหอมหวานของคาราเมลแคนดี้และมอลต์บิสกิต ที่จะมาสร้างความเพลิดเพลินให้อย่างไม่รู้จบ ปิดท้ายที่เมนู “กรีนมาร์เบิล เดอร์ตี้” (Green Marble Dirty) เดอร์ตี้คอนเซ็ปต์ใหม่ที่เอาใจคนรักมัทฉะโดยเฉพาะ ด้วยผงมัทฉะเกรดพรีเมียมจากเมืองอุจิ (Uji) จังหวัดเกียวโต นำมาผสมผสานกับนมเย็นจัดสูตรลับเฉพาะ ที่นอกจากสีสันสวยงามน่ารับประทานแล้ว รสชาติของมัทฉะเดอร์ตี้แก้วนี้ยังกลมกล่อม หอม และนุ่มนวลเป็นพิเศษอีกด้วยรับรองว่าต้องถูกใจสาวก มัทฉะอย่างแน่นอน

Pacamara Coffee Roasters พร้อมเสิร์ฟรสชาติใหม่ที่เหล่าคอกาแฟไม่ควรพลาด!

ร่วมดื่มด่ำไปกับรสชาติชั้นเยี่ยมของเครื่องดื่ม เดอร์ตี้ (Dirty Beverage) ได้แล้ววันนี้ ไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่ร้าน “พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์” (Pacamara Coffee Roasters) ทุกสาขา และอีก 3 สาขาใหม่เร็วๆ นี้ที่ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ สุขุมวิท 39, ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ และเซ็นทรัล ลาดพร้าว พิเศษสำหรับสมาชิกแอปพลิเคชัน พาคามาร่า ระดับแพลตตินั่ม สามารถรับสิทธิ์ซื้อเครื่องดื่ม 1 แถม 1 ในเมนู “Work Hard, Dirty Harder” ได้ทุกวันพุธ โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์” (Pacamara Coffee Roasters) ได้ทาง Facebook: PACAMARA

2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/travel/685634

วันที่ 15 มิ.ย. 2565 เวลา 08:05 น.

2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส

TWG Tea บรรจงคัดสรรชาชั้นเลิศที่เก็บเกี่ยวในฤดูกาลแรกจากเทือกเขาหิมาลัย กับ “2022 Darjeeling First Flush” พร้อมนำเสนอลิสต์ชาดาร์จีลิ่งชั้นเลิศที่คนรักชาห้ามพลาด

2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส

ทีดับเบิลยูจี ที (TWG TEA) แบรนด์ชาชั้นนำระดับโลก นำความหอมกรุ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของชาดาร์จีลิ่งชั้นเลิศจากบริเวณเชิงเขาที่ราบสูงหิมาลัยอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชาแห่งชาดำ” จากรสชาติอันมีเอกลักษณ์ และในปีนี้ TWG Tea ได้นำเสนอ “2022 Darjeeling First Flush” ชาดาร์จีลิ่งที่เก็บเกี่ยวในฤดูกาลแรกที่ดีที่สุด รวมถึงนำเสนอลิสต์เมนูชาดาร์จีลิ่งชั้นเลิศอีกหลากหลายรายการเพื่อให้คนรักชาได้เลือกสรรชาชั้นดีอย่างเต็มอรรถรส

2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส

ชาดาร์จีลิ่ง ‘ราชาแห่งชาดำ’

ที่ราบสูงหิมาลัย ดินแดนอันเป็นแหล่งเพาะปลูกชาดาร์จีลิ่ง เป็นดินแดนที่มีเอกลักษณ์ในการเพาะปลูกชาอย่างยิ่ง เนื่องด้วยมีสภาพภูมิอากาศเย็น อีกทั้งยังมีระดับความสูงที่สูงถึง 2,500 เมตร นอกจากนี้ดินและปริมาณน้ำฝนที่มีลักษณะเฉพาะของเทือกเขาทำให้ได้คุณภาพ กลิ่น และรสชาติที่โดดเด่นจากธรรมชาติ ส่งผลให้ได้ชาดำชั้นเลิศที่ไม่สามารถพบเจอได้จากบริเวณอื่นในโลก จนได้รับสมญานามว่าเป็นราชาแห่งชาดำ

ทีดับเบิลยูจี ที ขอนำเสนอ 2022 ดาร์จีลิ่ง เฟิร์ส ฟลัช (2022 Darjeeling First Flush) ชาดำคัดสรรพิเศษที่เก็บเกี่ยวในฤดูกาลแรกของปี ให้รสสัมผัสอันหอมหวานคล้ายองุ่นมัสคาเทลและพีช มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนชาใดๆด้วยกลิ่นหอมและรสชาติที่ซับซ้อน นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยสัมผัสที่โดดเด่นของผลไม้สุกและถั่ว ชา 2022 ดาร์จีลิ่ง เฟิร์ส ฟลัช (2022 Darjeeling First Flush) บรรจุในกระป๋องชาลิมิเต็ท เอดิชั่น (limited edition) พิมพ์ลวดลายสีทองสวยงาม เหมาะแก่การสะสมหรือมอบให้เป็นของขวัญได้อย่างสมบูรณ์แบบ

2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส
2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส
2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส
2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส
2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส
2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส

นอกจากนี้ ทีดับเบิลยูจี ที (TWG Tea) ยังมีลิสต์ชาดาร์จีลิ่งนานาชนิด นำเสนอให้เลือกสรร ได้แก่ชา Darjeeling Mist Tea ชาดาร์จีลิ่งที่เก็บเกี่ยวในฤดูแรก จากแหล่งปลูกบริเวณเทือกเขาหิมาลัยผสานกับชาแดงชั้นยอดจากแอฟริกาใต้ และชา Maharajah Darjeeling ชาดาร์จีลิ่งรสชาติเข้มข้น ให้รสสัมผัสหวานอันมีเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับโอกาสสำคัญ และชา Darjeeling Princess Tea ชาดาร์จีลิ่งที่เก็บเกี่ยวในฤดูแรก ผสานกับผลไม้นานาชนิด และชา Royal Darjeeling FTGFOP1 ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ราชาแห่งชาอินเดีย” มีกลิ่นและรสที่จะช่วยเติมชีวิตชีวาได้ในทุกโอกาส และสุดท้ายชา White Darjeeling ชาขาวชั้นยอด ที่ผลิตได้เพียง 2 กิโลกรัมต่อวันเท่านั้น และใช้มือในกระบวนการเก็บและผลิต ทำให้ได้รสสัมผัสละมุนและเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์คนรักชาที่มองหาชาชั้นเลิศเพื่อเติมเต็มอรรถรสในการดื่มชาอย่างยิ่ง

2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส

จาก ‘ใบชา’ สู่ ‘ถ้วยชา’

ความลับในการผลิตชาดาร์จีลิ่งชั้นดีสักถ้วยนั้นคือกระบวนการเบื้องหลังทั้งหมด ตั้งแต่สภาพอากาศและสภาพดิน เทคนิคการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวแบบออร์แกนิค ไปจนถึงการทำฟาร์มแบบยั่งยืนและวิธีการแปรรูปชา ชาดาร์จีลิ่งเหล่านี้ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถันด้วยมือ เพื่อให้แน่ใจว่าได้คุณภาพสูงและละเอียดประณีต

2022 Darjeeling First Flush ชาชั้นดีแห่งปีที่เปี่ยมล้นด้วยอรรถรส

ดื่มด่ำกับอรรถรสแห่งชาชั้นดี ดาร์จีลิ่ง เฟิร์ส ฟลัช ที ปี 2022 (2022 Darjeeling First Flush Tea) ได้ในราคาชิ้นละ 1,560 บาท มีจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 ณ ทีดับเบิลยูจี ที ซาลอน แอนด์ บูทีค ทุกสาขา และเมนูชาดาร์จีลิ่งได้แก่ Darjeeling Mist Tea, Maharajah Darjeeling, Darjeeling Princess Tea, และ Royal Darjeeling FTGFOP1 ราคาพิเศษ 250 บาท++ ต่อที่ และ White Darjeeling ราคาพิเศษ 490 บาท++ ต่อที่ ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2565 ณ ทีดับเบิลยูจี ที ซาลอน แอนด์ บูทีค สาขา ดิ เอ็มโพเรียม ชั้น G สาขาสยามพารากอน ชั้น G และสาขาไอคอนสยาม ชั้น G สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2259-9510

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง รักษาเร็วหยุดความเสี่ยงภูมิแพ้ชนิดอื่น

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/healthy/685680

วันที่ 15 มิ.ย. 2565 เวลา 13:50 น.

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง รักษาเร็วหยุดความเสี่ยงภูมิแพ้ชนิดอื่น

‘โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง’ แพทย์ย้ำไม่ใช่โรคติดต่อ จัดการได้หากรับการรักษาอย่างตรงจุด รักษาเร็วหยุดความเสี่ยงภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ

เนื่องด้วยสัปดาห์โรคภูมิแพ้โลก หรือ World Allery Week 2022 ที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนมิถุนายน เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบของโรคภูมิแพ้  ยิ่งไปกว่านั้น ‘โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง’ ( Atopic Dermatitis) ยังเสมือนด่านปราการแรกในการนำไปสู่โรคภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ จากข้อมูลกว่า 50% พบเกิดอาการร่วมกับโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ จาม น้ำมูก คัน คัดจมูก โรคหอบหืด รวมถึงการแพ้อาหาร ความเข้าใจและการรักษาอย่างตรงจุดจึงนับเป็นหัวใจสำคัญช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยอย่างยั่งยืน

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง รักษาเร็วหยุดความเสี่ยงภูมิแพ้ชนิดอื่น

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้มากว่า 30 ปี ศ.ดร.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และระบบหายใจ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และนายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยทุกวันนี้ มีผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่อยู่ในระดับที่รุนแรง ไม่น้อยกว่า 5% หรือประมาณ 500,000 ราย จากประชากรที่เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งมีอยู่กว่า 10 ล้านคน หรือ 15% ของประชากรไทย แต่กลับมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง มากมาย อาทิ เป็นโรคติดต่อกันได้ ทำให้ผู้ป่วยเกิดความอับอาย โดนรังเกียจจากสังคม ส่งผลกระทบต่อจิตใจ การอาบน้ำช่วยบรรเทาอาการคันหรือระคายเคือง หรือกระทั่งการงดเว้นอาหารบางประเภทจะทำให้อาการต่าง ๆ หายขาด นอกจากนี้ ยังมีความเข้าใจผิดว่าหากใช้สเตียรอยด์แล้วจะหาย ซึ่งสเตียรอยด์เป็นยาต้านการอักเสบ ช่วยเฉพาะผิวภายนอก ไม่ได้ช่วยการอักเสบข้างในหรือไม่ได้ช่วยรักษาจากสาเหตุของเซลล์หรือยีนที่ผิดปกติ หากใช้สเตียรอยด์ไปเรื่อย ๆ ก็จะเกิดการดื้อยา และได้รับผลข้างเคียง ทำให้ผิวหนังบางลงและดูดซึมเข้าร่างกาย ส่งผลต่อการเจริญเติบโตอีกด้วย

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง รักษาเร็วหยุดความเสี่ยงภูมิแพ้ชนิดอื่น

ในความเป็นจริงโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ไม่สามารถติดต่อกันได้ แต่เกิดจากปัจจัยหลักสำคัญ 2 ประการ คือ ปัจจัยภายใน คือ พันธุกรรม หรือมีประวัติครอบครัวเป็นภูมิแพ้หรือภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของยีน และ ปัจจัยภายนอก ได้แก่ สิ่งกระตุ้น เช่น มลพิษต่าง ๆ อาทิ แสงแดด สภาพแวดล้อม รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ปัจจัยภายนอกนั้นมีผลมากกว่าปัจจัยภายใน เพราะอาการต่าง ๆ อันเนื่องมาจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังนั้น เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ไปกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคือง หรือการอักเสบของผิวหนัง ยิ่งปัจจุบัน ประเทศไทยมีปัจจัยกระตุ้นทั้งจากมลภาวะเป็นพิษ ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งล้วนมีผลกระตุ้นทำให้ชั้นผิวหนังถูกทำลาย ส่งผลให้คนไทยเป็นโรคภูมิแพ้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีการคาดการณ์ว่าอีก 30 ปีข้างหน้า ประชากรไทย 50% จะเป็นโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง หรือโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ซึ่งกว่า 50% มักพบว่าเป็นร่วมกันทั้งสองโรค

ทั้งนี้วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่ควรมาพบแพทย์ คือ  “รบกวน” ในกรณีที่มีอาการคันจนรบกวนการนอน รบกวนการใช้ชีวิต และ “เรื้อรัง” มีอาการคันหรือเป็นผื่นที่เป็นเรื้อรัง เกิน 6 เดือน มีอาการหลายบริเวณ เกิน 2 ตำแหน่งขึ้นไป  มีการกลับมาเป็นอยู่เรื่อย ๆ อีกหนึ่งจุดสังเกตคือ มีอาการเห็นเด่นชัดบริเวณใบหน้า

ศ.ดร.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล กล่าวถึงวิธีการรักษาภูมิแพ้ ต้องเริ่มจากการรักษาที่เกราะป้องกันตัวเราก่อน คือผิวหนัง ผิวหนังมีพื้นที่ผิวมากที่สุดในร่างกาย เพราะฉะนั้นผิวหนังจึงเสมือนปราการด่านแรก หากถูกทำลายก็ทำให้อ่อนแอ ส่งผลให้เกิดการแพ้อื่น ๆ ได้ เราสามารถแพ้อาหารทางผิวหนังได้ เช่น แพ้ถั่ว โดยไม่จำเป็นต้องกินก็แพ้ได้ด้วยการสัมผัสบ่อย ๆ ปัจจุบัน ถ้าเด็กเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ก็จะแพ้อาหาร แพ้พวกไรฝุ่น หรือขนสัตว์ที่เกิดจากการสัมผัส ไม่ได้เข้าระบบทางเดินหายใจ บรรดาโรคภูมิแพ้ทั้งหมด ‘โรคภูมิแพ้ผิวหนัง’ ถือเป็นโรคที่มีผลกระทบในวงกว้าง เพราะมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ชนิดอื่นได้ และสิ่งที่น่าวิตก คือ คนไทยประมาณ 5% ที่ป่วยเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ในระดับที่รุนแรงกลับถูกมองข้าม เพราะคิดว่าโรคนี้ไม่ได้ทำให้เสียชีวิต แต่ทว่าโรคนี้ได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีอาการคันตลอด นอนไม่ได้ ติดเชื้อง่าย ไม่เพียงแค่ผลกระทบทางร่างกาย ความเข้าใจผิด ทำให้ผู้ป่วยไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม สูญเสียความมั่นใจ อาย เกิดความเครียดสะสมและก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้า มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่คิดฆ่าตัวตาย

ด้านคุณแม่ผู้ป่วย ซึ่งมีลูกชายวัย 17 ปี ป่วยเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังขั้นรุนแรง แบ่งปันประสบการณ์ให้ฟังว่า ลูกชายของตนมีอาการเป็นมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งก็รักษาตามอาการมาโดยตลอด ทั้งกินยา ทายา และห่อตัวด้วย Wet Wrap เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว แต่พอระยะหลังช่วงมัธยมต้น อาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ รักษาทุกวิธีทุกรูปแบบก็ไม่หาย ผิวหนังเป็นตุ่มเป็นผื่นแดงทั่วตัว ไม่มีที่ว่างเลย เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนก็ไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร เมื่อไปโรงเรียน ก็มีคนทำท่ารังเกียจ ทำให้ไม่อยากไปโรงเรียน กลายเป็นคนเก็บตัว ไม่อยากออกไปข้างนอก ไม่อยากถ่ายรูป ขาดสมาธิในการเรียน  การเรียนตกต่ำลง อีกทั้งงานอดิเรกคือกีฬากอล์ฟ ก็ต้องหยุดไปเพราะไม่สามารถออกแดดได้ คนเป็นแม่รู้สึกทุกข์ทรมานใจมาก เพราะโรคนี้ได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของทั้งผู้ป่วยและคนในครอบครัว ทั้งด้านร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก แต่โชคดีที่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา น้องได้รับการรักษาด้วยกลุ่มยาชีววัตถุ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ทำให้น้องมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายใน 2 สัปดาห์ และผื่นหายหมดหลังจากรักษาไป 1 เดือน ปัจจุบันครอบครัวกลับมามีความสุขอีกครั้ง น้องอยากไปโรงเรียน และมีกลุ่มเพื่อน ๆ รวมถึงผลการเรียนก็ดีขึ้น

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง รักษาเร็วหยุดความเสี่ยงภูมิแพ้ชนิดอื่น

ศ.ดร.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล กล่าวปิดท้ายถึงอุปสรรคในการเข้าถึงกลุ่มยาชีววัตถุว่า ในปัจจุบันยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการรักษาด้วยยากลุ่มนี้ได้ เนื่องจากยากลุ่มชีววัตถุยังไม่ถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และยังไม่มีระบบสำหรับการเบิกจ่ายค่ารักษาของยากลุ่มนี้ ซึ่งเป็นยาที่มีราคาค่อนข้างสูง และเป็นนวัตกรรมใหม่หรือที่เรียกว่าการรักษาแบบพุ่งเป้า (Targeted Therapy) ซึ่งเป็นการรักษาตรงจุดช่วยลดการอักเสบเฉพาะเซลล์ที่บกพร่อง และทำให้โรคสงบ ช่วยลดการเห่อ ทำให้ผู้ป่วยสามารถมีเวลาฟื้นฟูผิว อาบน้ำ ทาครีมดูแล แต่ถ้าโรคไม่สงบ ผิวหนังถูกกระตุ้นเรื่อย ๆ จากการเกา เกิดการอักเสบและเห่อขึ้นอีก ซึ่งจะวนไปแบบนี้เรื่อย ๆ โดยหลักการการรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง คือ ต้องให้โรคสงบก่อน และรีบฟื้นฟูผิว รวมถึงต้องเลี่ยงไม่ให้เจอปัจจัยกระตุ้น อีกทั้งต้องปรับการใช้ชีวิตให้สมดุลแบบองค์รวม หรือ 4E ประกอบด้วย 1. Environment – สภาพแวดล้อม หลีกเลี่ยงพวกไรฝุ่น หรือมลภาวะเป็นพิษหรือตัวกระตุ้นทั้งในบ้านและนอกบ้าน 2. Emotion – พยายามไม่เครียด เพราะมีผลทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และโรคภูมิแพ้กำเริบ 3. Exercise – การออกกำลังกายจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ก็ต้องมีลักษณะพิเศษคือควรอยู่ในห้องแอร์ ออกกำลังกายแต่พอดี ไม่ร้อน ไม่ให้เหงื่อออก หรือหากว่ายน้ำ ก็ต้องเป็นระบบน้ำเกลือ ควรหลีกเลี่ยงคลอรีน เป็นต้น และ 4. Eating – รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรกินผักผลไม้ในปริมาณที่สมดุลกับหมวดหมู่อื่นๆ และเสริมวิตามิน D เพื่อช่วยป้องกันเรื่องภูมิแพ้

สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ เพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่เพจศูนย์ภูมิแพ้ ธรรมศาสตร์ 

https://www.facebook.com/pageAsthmaTUcaap และเพจ Asthma? Talks by Dr. Ann 

https://www.facebook.com/TU.AsthmaClub2014/

DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/685627

วันที่ 14 มิ.ย. 2565 เวลา 19:14 น.

DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต

คอลเลคชั่นใหม่ : DC Shoes X Andy Warhol สายสเก็ต สายแฟชั่นไม่ควรพลาด

DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต

เปิดคอลเลคชั่นสุดอาร์ท DC Shoes X Andy Warhol จากศิลปินผู้ที่สร้างสรรค์ผลงาน POP ART ที่โด่งดังที่สุดในศตวรรษที่20 การันตรีจากภาพประมูลราคาสูงถึง 195 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6.7 พันล้านบาท เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดย Warhol ไม่ได้มีแค่ภาพวาด แต่ยังมีภาพถ่าย การทำ Silk screen ที่โดดเด่นทั้งมุมมอง และการใช้สีที่ตื่นเต้นอีกด้วย

DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต
DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต

โดยในครั้งนี้เป็นการที่เอาศิลปะของ Andy Warhol มาจับคู่ชนกันบนชุด และรองเท้า จากมุมมองของ DC Shoes ที่เรียกว่า Collisions

โดยจะแบ่งออกเป็น 4 มุมมองย่อย

1. Strength and Weakness โดย การนำเอารองเท้าที่มีทนทานที่สุด เทคโนโลยีสำหรับนักสเก็ตสายโหดอย่างแท้จริง มาติด Fragile ไว้

2. WAR and Peace ที่ใช้สีสันอันโดดเด่น โดยใช้ รูปวัว และ มีด มาเป็นการเล่าเรื่อง

3. Saints and Sinners มีการนำภาพโด่งดังระดับโลกมาทำสีใหม่ ทั้งเบาสบายตา และ โทนร้อนแรง

4. Life and Death เป็นอีกสองสิ่งที่ Warhol ใช้ในงานของเค้าบ่อยครั้ง นั่นคือ กะโหลก และ ดอกไม้ที่สีสด

DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต
DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต
DC Shoes x Andy Warhol ผสานศิลปะป๊อปอาร์ตกับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ต

สำหรับสินค้าที่มีใน Collection นี้เรียกได้ว่าหลากหลาย น่าตื่นเต้น และมีศิลปะที่ยืนยาวอยู่คู่กันแบบลงตัว เพราะฉะนั้น ทั้งสายสเก็ต และสายแฟชั่นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

3 เมนูใหม่ล่าสุดจาก Cold Stone ที่ Blueberry Lover ไม่ควรพลาด

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/life/travel/685645

วันที่ 15 มิ.ย. 2565 เวลา 10:25 น.

3 เมนูใหม่ล่าสุดจาก Cold Stone ที่ Blueberry  Lover ไม่ควรพลาด

หวานซ่อนเปรี้ยว ฉ่ำซอสเข้มข้น มัฟฟินเต็มคำ กับเมนูใหม่ Blueberry Lover ที่สายหวานไม่ควรพลาด จาก Cold Stone

3 เมนูใหม่ล่าสุดจาก Cold Stone ที่ Blueberry  Lover ไม่ควรพลาด

เมนูที่ได้ลองแล้วจะรัก ใหม่ Cold Stone Thailand พรีเซ้นต์ 3 เมนูใหม่ หอมหวานกลมกล่อมซ่อนเปรี้ยวนิดๆ พร้อมเคี้ยวเพลินกับมัฟฟินเต็มๆ คำ

3 เมนูใหม่ล่าสุดจาก Cold Stone ที่ Blueberry  Lover ไม่ควรพลาด

เริ่มที่ Blueberry Muffin Ice Cream Mix (99 บาท) เสิร์ฟมาพร้อมมัฟฟินสูตรเฉพาะ เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนเข้ากับไอศกรีม ท็อปด้วยวิปปิ้งครีม เต็มอิ่มอัดแน่นด้วยบลูเบอร์รี และราดซอสบลูเบอร์รีเข้มข้น ฉ่ำๆทั้งหมดนี้เสิร์ฟมาในพรีเมียมวาฟเฟิล โดยสามารถเลือกไอศกรีมได้ 3 รสชาติ ได้แก่ Blueberry , Sweet Cream และ Cheesecake ถูกใจรสไหนก็มิกซ์ได้ตามชอบเลย

ต่อด้วยเมนู Blueberry Soda (ขนาด 16 oz. ราคา 89 บาท) เครื่องดื่มไซรัปกลิ่นบลูเบอร์รีผสมกับไอศกรีมพรีเมียม รสเลม่อนของโคล สโตน เติมความสดชื่นด้วยโซดาเสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อบลูเบอร์รี อร่อยซ่า โดนใจแน่นอน

และปิดท้ายที่ Blueberry Cheesecake Smoothie (ขนาด 12 oz. ราคา 135 บาท) สัมผัสสุดละมุนกับไอศกรีมชีสเค้กสูตรของโคล สโตนปั่นจนละเอียด เสิร์ฟพร้อมกับวิปปิ้งครีม มัฟฟิน และท็อปปิ้งอย่างบลูเบอร์รีที่ดีกรีความฟินเต็มร้อย!!

3 เมนูใหม่ล่าสุดจาก Cold Stone ที่ Blueberry  Lover ไม่ควรพลาด
3 เมนูใหม่ล่าสุดจาก Cold Stone ที่ Blueberry  Lover ไม่ควรพลาด
3 เมนูใหม่ล่าสุดจาก Cold Stone ที่ Blueberry  Lover ไม่ควรพลาด
3 เมนูใหม่ล่าสุดจาก Cold Stone ที่ Blueberry  Lover ไม่ควรพลาด

ตามมาเพลิดเพลินกับรสหวานซ่อนเปรี้ยวได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2565 ที่ร้านโคล สโตน ครีมเมอรี่ ทุกสาขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/coldstonethailand หรือ CRG Call Center โทร.1312