“กล้วยกระบุง” ปลูกอนุรักษ์แปรรูปคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 20 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/607642

 

กล้วยชนิดนี้ นิยมปลูกเฉพาะถิ่นในแถบจังหวัดภาคกลางของประเทศไทยมาแต่โบราณแล้วเวลาติดผลเป็นเครือขนาดใหญ่จะมีหวีหนาแน่นมาก แต่ละหวีจะมีผลเบียดกันเยอะอีกด้วย ทำให้ปลูกในยุคสมัยก่อนตัดเครือลงมาแยกหวีใส่กระบุงและล้นกระบุงไม่พอใส่ เพราะมีจำนวนหวีและผลจำนวนมากนั่นเอง ชาวบ้านในยุคสมัยนั้นจึงพากันเรียกกล้วยชนิดนี้ว่า “กล้วยกระบุง” ดังกล่าวและเรียกกันเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน

รูปทรง ของผลจะกระเดียดไปทางรูปทรงของกล้วยหอม แต่เนื้อในกลับมีรสชาติเหมือนกล้วยน้ำว้าทุกอย่าง เพียงแต่จะมีรสเปรี้ยวเจือปนไม่หวานแบบเพียวๆเหมือนกล้วยน้ำว้าทั่วไปเท่านั้น จึงทำให้ “กล้วยกระบุง” ในยุคสมัยนั้นไม่ได้รับความนิยมรับประทานกันนัก ส่วนใหญ่จะปลูกไว้เก็บผลเอาไปแปรรูปและปลูกเพื่ออนุรักษ์ไม่ให้สูญพันธุ์เท่านั้น ปัจจุบันพบว่ามีหน่อหรือต้น “กล้วยกระบุง” วางขายพร้อมมีเครือติดหวีของจริงโชว์ให้ชมด้วย จึงแนะนำให้รู้จักอีกตามระเบียบ

กล้วยกระบุง เป็นไม้ล้มลุก ทุกส่วนมียาง มีเหง้า และเหง้าจะมีตาแตกหน่อได้ ส่วนที่อยู่เหนือดินที่คล้ายลำต้นเรียกว่าลำต้นเทียม หรือ “หยวก” เกิดจากกาบใบที่ยาวเรียงซ้อนกันอยู่และอัดกันแน่น ซึ่ง “กล้วยกระบุง” อยู่ในกลุ่มที่เป็นพันธุ์ผสมที่มีลักษณะค่อนไปทางกล้วยตานี ลำต้นเทียมสูงไม่เกิน 3.5 เมตร ก้านช่อดอกไม่มีขน ใบประดับปลีเป็นรูปไข่ค่อนข้างป้อม ด้านบนสีแดงอมม่วง มีนวล ด้านล่างสีแดงเข้ม หนึ่งเครือจะมี 10-12 หวี และในหนึ่งหวีจะมีผล 10-16 ผล ผลรูปรียาว มีเหลี่ยม ก้านผลสั้น เปลือกค่อนข้างหนา ซึ่งทรงผลโดยรวมจะคล้ายผลกล้วยหอม ผลดิบสีเขียว เมื่อสุกเป็นสีเหลือง เนื้อในสีขาวหรืออมส้มเล็กน้อย รสชาติเปรี้ยวปนหวานเล็กน้อยเหมือนรสชาติกล้วยน้ำว้าทุกอย่างตามที่กล่าวข้างต้น

เคยมีต้นหรือหน่อขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับสวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ แผง “คุณปราณี” ตรงกันข้ามธนาคารออมสิน ปัจจุบันจะมีขายหรือไม่ต้องสำรวจดู ราคาสอบถามกันเองครับ.

นายเกษตร

 

บลอนด์ ดะคิแตน โคเนื้อยุโรปสู้ร้อน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 20 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/607777

 

พ่อพันธุ์ชาร์โรเลส์

โลกร้อน น้ำน้อยหาได้ยาก ภาวะเช่นนี้อาชีพเลี้ยง สัตว์ใช้น้ำน้อย ได้รับความสนใจจากเกษตรกรมากขึ้น…โคเนื้อเป็นหนึ่งในอาชีพที่ถูกจับตา

ด้วยราคาเนื้อที่ถีบตัวขึ้นไปสูง จากปริมาณการผลิตมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะ ตลาดท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องการเนื้อคุณภาพเกรดพรีเมียมระดับเดียวกับเนื้อยุโรปมากขึ้น อีกทั้งตลาดประเทศเพื่อนบ้านก็ยังต้องเพิ่มอีกเช่นเดียวกัน…แต่บ้านเราอากาศร้อน การนำโคพันธุ์ดีจากประเทศในเขตอากาศหนาวมาเลี้ยง เป็นไปได้ยากที่จะรอด ต้องใช้วิธีเลี้ยงลูกผสมที่มีสายเลือดโคเนื้อยุโรปไม่เกิน 75% ถึงจะเป็นไปได้


การรีดน้ำเชื้อพ่อพันธุ์โค บลอนด์ ดะคิแตน

วันนี้เกษตรกรไทยมีทางเลือกใหม่ในการเลี้ยงวัวเนื้อเกรดพรีเมียมได้อีกสายพันธุ์ เมื่อการศึกษาทดลองของกรมปศุสัตว์ ที่ใช้เวลามายาวนาน ถึง 18 ปี พบว่า โคเนื้อพันธุ์ “บลอนด์ ดะคิแตน” ที่ได้รับความนิยมเลี้ยงมากเป็นอันดับ 3 ของฝรั่งเศสและมีสายเลือดพันธุกรรมเชื่อมโยงใกล้ชิดกับพันธุ์ชาโรเลส์ ที่ได้รับความนิยมเลี้ยงในบ้านเรามากเป็นอันดับ 2 สามารถนำมาเลี้ยงในประเทศไทยได้แบบเลือด 100%

เพราะในบรรดาโคเนื้อพันธุ์ดี ให้คุณภาพเนื้อระดับพรีเมียม ที่เคยนำเข้ามาทดลองเลี้ยงทั้งหมด “บลอนด์ ดะคิแตน” ถือเป็นโคพันธุ์ที่ทนอากาศร้อนแล้งของบ้านเราได้ดีที่สุด


สีน้ำตาลแดงเป็นวัวลูกผสมบลอนด์ ดะคิแตน+ตาก อายุ 3 เดือนครึ่ง ส่วนด้านหลังสีขาว ลูกผสมชาร์โรเลส์+บราห์มัน อายุปีครึ่ง

“กรมปศุสัตว์ได้นำเข้าน้ำเชื้อ พ่อพันธุ์บลอนด์ ดะคิแตน มาผสมเทียมกับแม่โคพันธุ์บราห์มัน เมื่อปี 2541 ปรากฏว่า โคลูกผสมที่ออกมาสามารถทนทานต่ออากาศร้อนชื้นของบ้านเราได้ดีกว่าชาร์โรเลส์ และมีอัตราการเติบโตไม่แตกต่างจากโคลูกผสมบราห์มันชาร์โรเลส์ คุณภาพเนื้อที่ได้มีความละเอียด นุ่ม ไขมันน้อย เป็นที่นิยมของกลุ่มผู้บริโภครักสุขภาพ เมื่อมั่นใจว่าวัวพันธุ์นี้เหมาะกับเมืองไทย เราจึงได้นำเข้าพ่อพันธุ์บลอนด์ ดะคิแตนมาเลี้ยงเพื่อผลิตน้ำเชื้อแช่แข็ง ให้บริการผสม เทียมแก่เกษตรกรที่สนใจจะเลี้ยงวัวพันธุ์ดี”

นายสัตวแพทย์อยุทธ์ หรินทรานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ บอกว่า นี่ถือเป็นอีกทางเลือกของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ นอกจากจะทนร้อนได้ดีกว่าวัวพันธุ์อื่นแล้ว การเลี้ยงในช่วง 1 ปีแรก ลูกวัวพันธุ์นี้ยังมีอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว เมื่อเทียบกับโคนำเข้าพันธุ์อื่น ไม่ว่าจะเป็นชาร์โรเลส์ แองกัส หรือซิมเมนทอล


พ่อพันธุ์บลอนด์ ดะคิแตน

ที่สำคัญบลอนด์ ดะคิแตน เลือด 100% สามารถเลี้ยงในบ้านเราได้ ต่างกับโคเนื้อยุโรปพันธุ์อื่น ไม่สามารถนำโคเลือด 100% มาเลี้ยง ได้…ขณะนี้กรมปศุสัตว์มีความพร้อมที่จะให้บริการผสมเทียมน้ำเชื้อแช่แข็งให้กับเกษตรกรเป็นที่เรียบร้อย ติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ 08–5743–2660

แต่การผสมเทียมครั้งแรก เกษตรกรยังไม่มีแม่พันธุ์บลอนด์ ดะคิแตน เลือด 100% จะมีก็แต่พันธุ์พื้นเมือง บราห์มัน หรือลูกผสมชาร์โรเลส์ ฉะนั้นลูกที่ได้มาในรุ่นแรก ยังคงเป็นลูกผสม เลือดบลอนด์ ดะคิแตน 50%

จะต้องเลี้ยงผสมเทียมไปเรื่อยๆ ประมาณ 6–7 รุ่น ถึงจะได้โคบลอนด์ ดะคิแตน เลือดแท้ 98–99%

ชาติชาย ศิริพัฒน์

 

ระบบกรอง…อีกหัวใจน้ำหยด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย สะ-เล-เต 20 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/607638

 

คราวที่แล้ว ปรเมศวร์ สมพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายพาณิชย์ เนต้าฟิม (ประเทศไทย) บริษัทสัญชาติอิสราเอล เจ้าตำรับระบบน้ำหยด…ได้บอกถึงการชดเชยแรงดัน หัวใจสำคัญของระบบน้ำหยดกันไปแล้ว

คราวนี้มาว่ากันต่อ หัวใจสำคัญอีกจุด…ระบบกรองน้ำ

น้ำหยดจะไหลรินไปถึงรากพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพสม่ำเสมอ และทำให้ท่อน้ำหยดมีอายุใช้งานยืนยาว ระบบกรองสำคัญมาก…เพราะอย่าลืมว่า ระบบนี้ ท่อจะมีรูให้น้ำหยดเล็กๆอยู่เต็มไปหมด ถ้าน้ำที่นำมาใช้ ไม่ว่าจะแม่น้ำลำคลอง จากบ่อน้ำตื้น สระขุด หรือบ่อบาดาล เกิดมีผงขุ่นตะกอน เศษตะไคร่น้ำ เศษใบไม้ที่เน่าเปื่อย รวมทั้งหินปูน ฯลฯ ติดเข้ามาในระบบ แน่นอนใช้ไปไม่กี่วัน รูน้ำหยดเล็กๆมีโอกาสอุดตันได้ง่าย

ครั้นจะมานั่งซ่อมบำรุงเอง เอาเข็ม เอาไม้ไปทะลวงแหย่รูน้ำหยดรูมีมากขนาดนั้น ทำไหวไหม และถ้าไปจ้างคนงาน แหย่ไปแหย่มา รูน้ำหยดเยินเสียหาย อะไรจะเกิดตามมา…เสียเงินซื้อท่อใหม่

ฉะนั้น ห้ามมองข้ามระบบกรองเป็นอันขาด

อีกอย่างที่ควรรู้ไว้ จะให้ปุ๋ยยาผ่านระบบน้ำหยด ปรเมศวร์ แนะ ควรใช้ปุ๋ยยาที่เป็นน้ำ ไม่ควรให้เป็นผงผสมน้ำ เพราะจะมีโอกาสเกิดการอุดตันได้ง่าย

และเมื่อติดตั้งระบบกรอง ระบบท่อทางเดินน้ำ และระบบท่อน้ำหยด…การติดตั้งวาล์วเปิด-ปิดน้ำ ควรมีแค่ตัวเดียว

ไม่มีความจำเป็นต้องมีวาล์วตามท่อแยกทุกตัว เพราะเรามีตัวชดเชยแรงดันอยู่แล้ว…ฉะนั้น เราจะเสียเงินซื้อวาล์วหลายตัว และเสียเวลาเดินไปเปิด-ปิดวาล์วทุกตัวไปเพื่ออะไร

ส่วนการให้น้ำแต่ละครั้งเป็นอย่างไร มากน้อยแค่ไหน ปรเมศวร์ ให้มองดินเป็นสำคัญ เพราะดินแต่ละชนิด การไหลซึมของน้ำไม่เท่ากัน…ดินปนทรายน้ำซึมผ่านง่าย ควรเปิดวาล์วให้น้ำแรง…ดินเหนียวน้ำซึมยาก มักขัง ควรเปิดวาล์วให้น้ำแต่น้อย

ดินทั้งสองชนิด ก่อนปลูกพืชควรรองก้นหลุมหรือเคล้าดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ เศษซากใบไม้ก่อนจะดี ส่วนดินร่วนให้น้ำได้ตามปกติ ตามความเหมาะสม…อย่างไรก็ดี ควรเปิดระบบน้ำหยดให้เหมาะสมกับชนิดของพืช หากเป็นพืชน้ำน้อยเปิดแค่วันละครั้ง แต่การปลูกพืชปกติควรเปิดน้ำเช้าเย็นวันละ 20-30 นาที หรือแค่พอชุ่มน้ำ.

สะ-เล-เต

 

เครื่องปลูกสับปะรดมาแว้ว! กรมวิชาการฯ จัดให้ 7 ปีคืนทุน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 19 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/607237

 

นายวุฒิพล จันทร์สระคู วิศวกรการเกษตรชำนาญการพิเศษ กรมวิชาการเกษตร เผยว่า ด้วยสับปะรดพืชเศรษฐกิจของบ้านเราปลูกได้ตลอดปี ปัจจุบันประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน และการปลูกด้วยมือไม่มีความสม่ำเสมอ ทำให้เกิดโรคเน่าเสียได้ง่าย กรมวิชาการเกษตรได้ทำ

วิจัยและพัฒนาต้นแบบเครื่องปลูกสับปะรดแบบพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์ขนาดกลาง 39-50 แรงม้าขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้แล้ว


เป็นเครื่องปลูกสับปะรดแบบพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์ ขั้นตอน การทำงานต้องใช้หน่อสับปะรดที่ตัดยอดแล้วยาว 30-50 ซม. ปลูกได้ 2 แถวคู่ ห่างกัน 50 ซม. ระยะระหว่างต้น 30-40 ซม. มีกระบะบรรจุหน่อได้ข้างละ 200 หน่อ อุปกรณ์ป้อนลำเลียงทำจากท่อพีวีซีขนาดเส้นผ่า ศูนย์กลาง 4 นิ้ว ใช้ล้อขับเคลื่อนส่งกำลังผ่านชุดเฟืองขับอุปกรณ์ป้อนลำเลียงหน่อ โดยมีตัวเปิดร่องปลูกเป็นแบบขาไถ ป้อนส่งหน่อสับปะรดผ่านท่อปล่อยหลังตัวเปิดฝนร่อง แล้วกลบดินโคนหน่อด้วยใบปาดกลบดิน โดยมีคนขับแทรกเตอร์ 1 คน ใช้คนป้อนหน่อ 2 คน


นายวุฒิพล เผยถึงผลการทดลองปลูกในพื้นที่ จ.เพชรบุรี, หนองคาย และขอนแก่น ความสามารถทำงานอยู่ระหว่าง 0.41-0.63 ไร่ต่อชั่วโมง สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 2.08-2.15 ลิตรต่อไร่ ประสิทธิภาพการปลูกแล้วรอด 95.50-96.05% ในความลึก 14.92-16.20 ซม. และสามารถปลูกหน่อให้มีความเอียงได้ตั้งแต่ 49.01-72.02 องศา จากแนวระนาบ เพราะการปลูกในฤดูฝน น้ำมักจะท่วมขังคอยอดใบทำให้เกิดโรคเน่า เลยต้องออกแบบให้เครื่องสามารถปลูกหน่อสับปะรดเอียงได้ เพื่อน้ำจะไหลออกไม่ขัง


เกษตรกรที่ต้องการจะซื้อเครื่องนี้ไปใช้ ควรมีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 58 ไร่ขึ้นในระยะเวลา 7 ปี จะคุ้มทุนกว่าจ้างแรงงานปลูก เพราะต้นทุนการปลูกเฉลี่ยจะอยู่ที่ 731 บาทต่อไร่ในขณะที่จ้างแรงงานปลูกมีค่าใช้จ่าย 880 บาทต่อไร่ ทำให้ต้นทุนลดลงไปประมาณ 149 บาทต่อไร่

ล่าสุดเครื่องปลูกสับปะรดแบบพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์ต้นแบบในระดับเกษตรกร มีพิมพ์เขียวสำหรับถ่ายทอดให้แก่โรงงานผลิตเครื่องจักรกลเกษตรไปพัฒนาและผลิตจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ สอบถามข้อมูล ได้ที่ 0-4325-5038, 08-9072-2155.

 

หัวใจน้ำหยด…ชดเชยแรงดัน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย สะ-เล-เต 19 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/607187

 

เมื่อวาน…นำความรู้เบื้องต้นพื้นฐานของระบบน้ำหยดจาก ปรเมศวร์ สมพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายพาณิชย์ บริษัท เนต้าฟิม (ประเทศไทย) จำกัด สัญชาติอิสราเอล ที่เรามองข้ามมาเล่าสู่กันฟัง

วันนี้มาว่ากันต่อถึงหัวใจสำคัญอีกจุดของระบบน้ำหยด…การชดเชยแรงดันน้ำเราต่อท่อสายยางฉีดน้ำไปรดพืชผัก ถ้าท่อเกิดรั่วเป็นรูเล็กๆ น้ำจะไหลจากต้นทางไปถึงปลายทางไหม…อาจจะถึง ถ้ารั่วไม่มาก แต่กว่าจะถึงปลายทาง น้ำจะมาแบบกะปริดกะปรอย หรือมาไม่ถึงเลย

ระบบน้ำหยดก็เช่นกัน ท่อมีรูรั่วเล็กๆ ให้น้ำหยดเต็มไปหมด ฉะนั้นเพื่อจะให้น้ำต้นทางกับปลายทางมีแรงดันส่งน้ำเท่ากัน…เลยต้องมีอุปกรณ์ชดเชยแรงดันของน้ำ เพื่อให้น้ำหยดออกจากรูน้ำหยด ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางได้เท่ากันหรือใกล้เคียงกัน

หากไม่มีการชดเชยแรงดัน พืชจะได้รับน้ำไม่สม่ำเสมอ พืชที่อยู่ใกล้ต้นทางน้ำจะได้น้ำมาก พืชที่อยู่ไกลออกไปจะได้น้ำน้อย ถือเป็นการสิ้นเปลืองเข้าไปอีก

ระบบชดเชยแรงดันมี 2 แบบ…แบบที่ติดมากับท่อน้ำหยดเลย มีขายทั่วไปตามท้องตลาดราคาประมาณ 1,900 บาท ต่อ 1 ม้วน ความยาว 1,000 ม. ขึ้นกับแต่ละบริษัท

และแบบติดตั้งรูน้ำหยดทีหลัง ราคาอุปกรณ์ตัวนี้อยู่ที่จุดละ 10 บาท

ส่วนเรื่องท่อส่งน้ำหยดชนิดใดถึงเหมาะกับบ้านเรา ปรเมศวร์ แนะให้ใช้ท่อ PE เพราะทนทานต่อสภาพอากาศร้อน แต่หากเป็นท่อทำจากวัสดุชนิดอื่น ควรมีสารเคลือบกันรังสี UV จากแดด

และควรมีแกนไว้สำหรับม้วนเก็บเมื่อเลิกใช้งาน ไม่ควรเก็บพับท่อ เพราะทำให้ท่องอ แตกหักเสียหายได้…หากใช้งานถูกวิธีจะใช้อุปกรณ์ระบบได้นานเกือบ 10 ปี

แต่ไม่แนะนำให้ใช้ท่อ PVC เพราะขั้นตอนยุ่งยาก ต้องลงทุนเพิ่ม เสียเวลากับการทากาว เชื่อมข้อต่อ ข้องอต่างๆ แถมยังบำรุงรักษายาก ใช้ได้ครั้งเดียว ถอดเก็บไม่ได้ ที่สำคัญไม่คงทนเท่าท่อ PE

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยระบบน้ำหยดที่ควรรู้ยังไม่หมด…พรุ่งนี้ยังมีให้ติดตามกันต่อ.

สะ-เล-เต

 

“ขนุนเพชรเนื้อทอง” หวานหอมดกราคาดี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 19 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/607189

 

การปลูกต้นไม้หนึ่งต้น จะช่วยสร้างระบบนิเวศให้ดีขึ้นได้ เนื่องจากต้นไม้จะคลายออกซิเจนออกมาในตอนกลางวันทำให้อากาศดีขึ้น 1-2 ตารางเมตรขึ้นไป อยู่ที่ขนาดของต้นไม้ที่ปลูก ถ้าต้นใหญ่จะให้ออกซิเจนเยอะเป็นเงาตามตัว ซึ่งในช่วงนี้ใกล้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ผู้ปลูกจึงเสาะหาไม้ผลไปปลูกอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะ “ขนุนเพชรเนื้อทอง” เนื่องจากปลูกแล้วสามารถเก็บผลกินในครัวเรือนหรือเก็บผลผ่าแกะเนื้อขายได้ราคาดีอีกด้วยนั่นเอง

ขนุนเพชรเนื้อทอง เกิดจากการเอาเมล็ดของขนุนพันธุ์ดีที่สุด แต่จำไม่ได้ว่าเป็นพันธุ์อะไรจำนวนเกือบร้อยเมล็ดไปเพาะเป็นต้นกล้าแล้วแยกปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผล ปรากฏว่า เมื่อนำเอาผลสุกผ่าแกะเนื้อแทบไม่มียางติดมือเลย ยวงหุ้มเมล็ดเป็นสีเหลืองเข้มหรือเหลืองทอง เนื้อหนา 0.5-1.2 ซม.เมล็ดและไส้กลางเล็ก เนื้อกรอบหวานหอมไม่เละรับประทานอร่อยมาก วัดความหวานของเนื้อได้ประมาณ 24-28 องศาบริกซ์ น้ำหนักผลโตเต็มที่ระหว่าง 13-20 กิโลกรัม ให้เนื้อสุก 53 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักผล เชื่อว่าเป็นขนุนกลายพันธุ์เลยปลูกทดสอบความนิ่งของพันธุ์อยู่หลายวิธี ทุกอย่างยังคงที่ จึงตั้งชื่อว่า “ขนุนเพชรเนื้อทอง” ดังกล่าว และเคยได้รับรางวัลชนะเลิศในงานเกษตรที่ จ.ปราจีนบุรี ถึง 2 ปีซ้อน

ลักษณะของ “ขนุนเพชรเนื้อทอง” เหมือนกับขนุนทั่วไปทุกอย่าง เป็นขนุนพันธุ์เบาปลูกแล้วโตเร็วติดผลง่ายและติดผลดกไม่ขาดต้นอย่างต่อเนื่องหรือเกือบทั้งปี จึงเหมาะที่จะปลูกเพื่อเก็บผลรับประทานในครัวเรือนหรือเก็บผลแกะเนื้อขายได้ราคาดีตลาดผลไม้ใหญ่ๆ ต้องการเยอะ

ใคร ต้องการต้นพันธุ์ของแท้ที่ขยายพันธุ์ด้วยระบบเสียบยอด ปลูกแล้วโตเร็วติดผลง่ายและติดผลดกตามที่กล่าวข้างต้น ติดต่อ “สวนสมศักดิ์การเกษตร” 93 หมู่ 6 ต.ไม้เด็ด อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โทร.08-1942-4916, 08-4561-5277 มีวิธีปลูกแจกให้ด้วย ต่างจังหวัดส่งทางไปรษณีย์ได้ ราคาสอบถามกันเองครับ.

นายเกษตร

 

หมึกแสดงอภินิหาร เร้นกายหนีลงทะเล

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 18 เม.ย. 2559 10:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/606879

 

หมึกตัวใหญ่ดาราเอกของสวนสัตว์น้ำนิวซีแลนด์ ได้แสดงอภินิหารปลีกเร้นตัวหลุดรอดออกสู่อิสรภาพในน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ไพศาล

เจ้าหน้าที่เผยว่า มันอาศัยเร้นตัวลอดรูโหว่เล็กๆ ปล่อยตัวลื่นไหลไปตามพื้น จนไปเจอะท่อน้ำโต 15 ซม. ซึ่งต่อท่อลงสู่ทะเลเข้าพอดี ลอดลงน้ำหายจ้อยโดยไม่ทันได้ร่ำได้ลา ความจริงเรื่องเกิดมาตั้งแต่ต้นปี แต่หนังสือพิมพ์เพิ่งไปขุดคุ้ยเจอเป็นข่าวเอามาลง

หมึกผู้เก่งกาจตัวนี้ ถูกชาวประมงจับได้และส่งมาให้สวนสัตว์รักษา เพราะมันดูท่าอ่อนระโหยเต็มที่ โดนถูกปลากัดตอดหลายแผล แถมหนวดของมัน 2 เส้นยังด้วนอีกด้วย มันแสนรู้เข้ากับคนเลี้ยงได้ดี ขึ้นมากินอาหารจากมือ ทั้งยังเปิดฝาขวดเกลียวได้เองด้วย

ตัวของมันก็ไม่ใช่เล็ก โตขนาดลูกรักบี้ได้ แต่อาศัยพรสวรรค์ในการชำแรกแทรกกาย เร้นลอดรูที่ดูไม่น่าจะลอดออกไปได้ อย่างไรผู้จัดการสวนสัตว์กล่าวว่า หมึกยักษ์สามารถทำตัวให้เล็กลง โดยขนาดปากของมัน ที่เป็นจะงอย เป็นอวัยวะส่วนที่แข็งที่สุดของตัวมันได้ เขายังอวยชัยให้พร ให้มันรอดปลอดภัย กลับไปมีความสุขกลางมหาสมุทร.

 

รู้จักระบบน้ำหยดจริงแค่ไหน?

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย สะ-เล-เต 18 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/606812

 

โลกร้อนแล้ง น้ำหายาก….ระบบน้ำหยดได้รับความสนใจจากเกษตรกรบ้านเรามากขึ้น…แต่การนำระบบน้ำหยดมาใช้ในบ้านเราขณะนี้ เกษตรกรรู้ลึกรู้จริงถึงระบบน้ำหยดดีแล้วหรือยัง?

เพื่อเกษตรกรไทยจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ มนุษย์หลอกขายอุปกรณ์ที่ใช้ไม่กี่ครั้งก็พัง สูญเงินลงทุนไม่คุ้มค่า วันนี้จะขอนำความรู้อย่างหมดเปลือกในเรื่องระบบน้ำหยดจาก เนต้าฟิม (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทสัญชาติอิสราเอล ต้นแบบคิดค้นระบบน้ำหยดเจ้าแรกของโลก ที่พลิกผืนทะเลทรายให้กลายเป็นแปลงเกษตรได้

หัวใจสำคัญจริงๆของระดับน้ำหยดอยู่ตรงไหน???

“ระบบน้ำหยดเกิดจากเมื่อ 51 ปีที่แล้ว ด้วยอิสราเอลต้องใช้น้ำอุปโภคบริโภคปีละ 2,000 ล้านคิว แต่ผลิตได้ครึ่งเดียว ฉะนั้นจึงต้องใช้น้ำทุกหยดให้เกิดคุณค่าสูงสุด จึงมีแนวคิดทำระบบน้ำหยดขึ้นมา สามารถประหยัดน้ำทำการเกษตรได้กว่าครึ่ง แต่ผลผลิตกลับเพิ่มขึ้น ทำให้มีการพัฒนาระบบเรื่อยมา จนปัจจุบันกลายเป็นระบบที่ใช้ทุนน้อย ประหยัดเวลา แต่เพิ่มผลผลิตได้ถึง 3 เท่า”

ปรเมศวร์ สมพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายพาณิชย์ เนต้าฟิม ประจำประเทศ ไทย บอกถึงที่มาของระบบน้ำหยด…ส่วน วิธีการใช้ระบบน้ำหยดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่จะหยดน้ำตรงไหนก็ได้

เราคิดจะใช้ระบบน้ำหยด แต่ไม่เคยรู้กันเลยว่าควรวางระบบท่ออย่างไร วางรูตำแหน่งน้ำหยดแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด

นี่คือหัวใจสำคัญ ที่เกษตรกรต้องรู้…ตำแหน่งจุดน้ำหยด ต้องดูว่าเราจะปลูกพืชอะไร?

หากเป็นพืชชนิดรากไม่ลึก เช่น พืชผักสวนครัว หรือไม้ล้มลุก ควรวางรูน้ำหยดติดกับโคนต้น เพราะพืชจะดูดซึมน้ำได้ง่ายและเต็มที่

แต่ถ้าเป็นไม้ยืนต้น ไม้ใหญ่ รากลึก เช่น ผลไม้ อ้อย มันสำปะหลัง ควรวางรูน้ำหยดตรงกลางระหว่างต้น และควรวางระบบตั้งแต่ยังเป็นต้นอ่อน พืชจะโน้มรากเข้าหาจุดที่มีน้ำตามธรรมชาติเอง

และยังทำให้ลดความถี่ของจำนวนรูน้ำหยด ส่งผลให้เราประหยัดและใช้น้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ…แต่หัวใจสำคัญของระบบน้ำหยดไม่ได้มีเพียงแค่นี้ พรุ่งนี้มีให้ติดตามตอนต่อไป.

สะ-เล-เต

 

“ก้ามปูหลุด” แก้ข้อปวดบวมแผลไฟไหม้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 18 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/606815

 

ไม้ต้นนี้ มีขายทั่วไปและ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเม็กซิโก ถูกนำเข้ามาปลูกเป็นไม้ประดับในบ้านเรานานแล้ว มีชื่อว่า TRADES CANTIA ZEBRINA HORT.EXBOSSE ชื่อพ้อง ZEBRINA PENDULA SCHNIZL.ชื่อสามัญ WANDERING JEW อยู่ในวงศ์ COMMELINACEAE เป็นพืชคลุมดินใบ 2 สี สวยงามน่าชมมาก

สรรพคุณทางสมุนไพร ใบสด จำนวนตามต้องการใช้แต่ละครั้ง ตำพอละเอียดพอกจุดที่ข้อบวมและปวดวันละครั้งตอนไหนก็ได้ 1-2 อาทิตย์จะดีขึ้นและหายได้ ทั้งต้นรวมรากสดตำพอละเอียดใส่เหล้าขาว 28 หรือ 40 ดีกรีก็ได้เล็กน้อยเอาทั้งน้ำและเนื้อพอกบริเวณแผลถูกไฟไหม้วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น จะทำให้ไม่ปวดแสบปวดร้อนแผลหายได้เร็วขึ้น

ครับ หนังสือ “สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก” เล่มที่ 5 ของ “นายเกษตร” ไม่วางขายที่ไหน หมดแล้วหมดเลย ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติซื้อสั่งจ่าย “คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์” ตู้ ปณ.48 ปณ.สามแยกลาดพร้าว กทม.10901 หรือสอบถามผลิตภัณฑ์สมุนไพร น้ำมัน 12 ประดง ใช้ภายนอกฆ่าเชื้อสมานแผล แก้เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน แก้คันและแพ้เหงื่อ, ยาแก้ริดสีดวงจมูกแคปซูล แก้น้ำมูกไหลมีกลิ่นเหม็น, กระเทียมโทนแคปซูล แก้หอบหืด แก้ถุงลมโป่งพอง, ยาลดเบาหวานแคปซูล มีโคกกระออมผสมด้วย, เพชรสังฆาตแคปซูล แก้ริดสีดวงทวาร, ดีบัวแคปซูล ขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองหัวใจ, ตรีผลาแคปซูลดไขมัน ในเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์, ว่านชักมดลูกแคปซูล ช่วยให้มดลูกกระชับ ดับกลิ่นเหม็นคาวปลาในสตรีและแก้ต่อมลูกหมากอักเสบ ไส้เลื่อนในบุรุษ, ยาต้มคลายเส้นไม้เท้าเฒ่าอาลี แก้ปวดเมื่อย แก้เกาต์ ลดเบาหวาน, คอลลาเจนบริสุทธิ์ เป็นผงทาหน้าช่วยให้ผิวหน้ากระชับ, ครีมโลดทนง รักษาสิวฝ้ารูขุมขนตีบลง, แชมพูสูตร 5 ชนิด บำรุงรากผม ขจัดรังแค แก้คันศีรษะ, สเปรย์ฉีดบำรุงรากผม หลังสระผมเสร็จใหม่ๆ, ข่อยขัดรักแร้ดับกลิ่นเต่า รักแร้หายดำคล้ำและอื่นๆ โทร.0-2275-2692 ครับ.

นายเกษตร

 

สับปะรดสี..งานสะสม สู่รายได้หลักหลังเกษียณ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 18 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/606842

 

ไม่มีความรู้เรื่องสับปะรดสี…เรียนจบคณะวิทยาศาสตร์ มาทำงานเป็นอาจารย์ แต่เพราะความชอบเป็นการส่วนตัว เริ่มสะสมมาตั้งแต่ปี 2545 มีอยู่ 50 ต้น


จากทำเล่นๆ แต่พอหลังเกษียณ สับปะรดสีเหล่านั้นกลับสร้างรายได้ให้ ผศ.ดร.สิทธิพันธ์ ศิริรัตนชัย หรือ “ดร.ตุ๋ย” อดีตผู้ช่วยอธิบดี มหาวิทยาลัยบูรพา ได้อย่างมีความสุข เป็นรายได้หลักในบั้นปลายชีวิต

เพราะสับปะรดสี 50 ต้น สายพันธุ์ นิโอเรจีเลีย, แอคเมีย บรานเชส, วีร์เซีย, หัวไม้ขีด, กุซมาเนีย ฯลฯ เมื่อวันวานได้กลับกลายมากมายนับหมื่นต้น เรียงรายใน “สวนสับปะรดสี ดร.ตุ๋ย” บ้านคุบอนล่าง ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี


“สับปะรดสี มีทั้งนำเข้ามาจากต่างประเทศ และในประเทศ แต่จะเลือกสะสมเฉพาะพันธุ์ที่สวยงาม หายาก และที่ตัวเองชอบ ตอนแรกคิดจะปลูกเล่นๆ เก็บไว้ดูเพลินตาไว้ข้างบ้าน แต่พอเกษียณมีเวลาว่างมาก ไม่รู้จะทำอะไร เลยหัดเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ด้วยตัวเอง ทำไปทำมามันก็เพิ่มจำนวนขึ้นมาเรื่อย จนต้องขยายพื้นที่ มีคนผ่านไปผ่านมาเข้ามาขอซื้อเดือนเดือนหนึ่ง อย่างน้อยๆสามหมื่น นั่งอยู่กับที่ไม่ต้องไปไหน แถมมีความสุข”

ดร.ตุ๋ย บอกว่า การขยายพันธุ์สับปะรดสีนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงแค่แยกหน่อออกมาแล้วทาด้วยปูนแดงทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นจึงไปลงปลูกต่อ ด้วยวัสดุปลูกกาบมะพร้าวสับเป็นท่อน แบบเดียวกับการปลูกกล้วยไม้


“จะให้สับปะรดสีเติบโตได้เร็ว ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ 14-14-14 ต้นละไม่กี่เม็ด เพื่อไม่ต้องการให้โตไว เพราะใบจะยืดยาวผิดฟอร์มไม่สวย แต่พันธุ์ที่มีดอกต้องการปุ๋ยสูตร 0-24-28”

ตอนนี้สวนสับปะรดสี พื้นที่ 10 กว่าไร่ ดร.ตุ๋ย บอกว่า ทำเองคนเดียวได้ เพราะเป็นพืชไม่ค่อยต้องการน้ำ รดครั้งเดียวอยู่ได้ 3 วัน ยิ่งหน้าฝนแทบไม่ต้องเลย ให้มากไปทำใบเน่าตายได้…


เจ้าของสวนสับปะรดสี ดร.ตุ๋ย ฝากบอกถึงผู้สูงวัยที่สนใจหันมาเอาดีทางนี้บ้าง…ผู้ปลูกต้องศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองถึงจะประสบความสำเร็จ เพราะการปลูกเลี้ยงแต่ละสายพันธุ์ต่างกัน บางพันธุ์ชอบแดดจัด บางสายพันธุ์ต้องการไม่มากนัก โรงเรือนควรใช้ซาแลนพรางแสง 60% หรือ 70% แล้วแต่สายพันธุ์


พื้นที่ปลูกทำได้ทั้งในกระถางตั้งพื้น ตั้งโต๊ะ ใส่วัสดุแขวน นำไปเกาะไว้กับต้นไม้ใหญ่ ตามซอกหิน วางในบ้านบนชั้นตู้โชว์ หรือจะจัดวางบนกำแพงแบบสวนแนวตั้ง สามารถทำได้โดยไม่มีข้อจำกัดแต่อย่างใด…สนใจไปชมหาความรู้ สอบถาม ดร.ตุ๋ย ได้ที่ 08-9939-5067.

ไชยรัตน์ ส้มฉุน