“จริงๆก็เริ่ม จากศูนย์ สมัยนั้น ยังไม่ค่อยมีคนเลี้ยงไส้เดือน ส่วนใหญ่ก็ยี้กันหมด แม่แฟนเกลียดมาก ทุกวันนี้ก็ยังเกลียดอยู่เลย แค่หยิบไส้เดือนมาก็แทบจะวิ่ง ภรรยา ลูก ไม่มีใครเอา แค่เห็นตัวไส้เดือนก็กรี๊ด แต่ทำไงได้เป็นอาชีพของเรา พอโตก็ขายได้ตัวละ 2 บาท”
ธีธัช บำรุงทรัพย์ หรือที่ใครๆในแวดวงธุรกิจไส้เดือน เรียกอาจารย์ป๋อง บอกธีธัชเรียนจบวิศวะไฟฟ้า ทำงานโรงงานอุตสาหกรรมมา 20 กว่าปี ปี 2549 ชีวิตเกิดวิกฤติ ออกจากงาน ไม่ได้วางแผนอะไร คิดอย่างเดียวว่าทำอะไรก็ได้ อยากเป็นนายของตัวเอง
วันหนึ่งไปเดินสวนจตุจักร มองหาว่าจะทำอะไรดี ไปเห็นคนขายไส้เดือนที่ร้านตกปลา เขาขายไส้เดือนตัวละบาทห้าสิบ เกิดสนใจ ตัวเองเป็นคนราชบุรี อยู่บ้านนอกขุดหาไส้เดือนไปตกปลา แต่กรุงเทพฯเอามาใส่กล่องขาย สมองก็คิดขึ้นมาทันที น่าจะเลี้ยงได้ ก็ไปซื้อไส้เดือนมาทดลองเลี้ยง แต่ไม่สำเร็จ ตายหมด
เปิดอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทราบว่า รศ.ดร.สมชัย จันทร์สว่าง ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร เปิดคอร์สเรียนไส้เดือนกำจัดขยะ เป็นพันธุ์แอฟริกันไนท์ คอลเลอร์
ไส้เดือนพันธุ์นี้ตลาดบ้านเรานิยมเลี้ยง ดูแลง่าย โตเร็ว
เรียนมา 2 วัน ได้ไส้เดือน 20 ตัว ใส่กล่องลิ้นชักเล็กๆ หิ้วขึ้นรถเมล์ ตอนนั้นอากาศก็ร้อน ไส้เดือนคลานออกมา คนก็ฮือฮา
“ผมอายมาก” ธีธัชเล่า “รีบจับใส่ๆ คิดว่าไม่เป็นไร เราไม่ได้ลักขโมยใคร พอมาถึงบ้าน เช็กอีกทีไส้เดือนตายหมด”
อีกวัน…ขึ้นรถเมล์กลับไปขอใหม่ คราวนี้ได้ไส้เดือน 25 ตัว เอาไส้เดือนกลับมาเลี้ยงที่บ้าน ได้ความรู้มาก็ยังทำไม่ค่อยเป็น เขาไม่ได้สอนละเอียด สอนแต่ทฤษฎี ก็มาลองผิดลองถูก
“เริ่มค้นหาเทคนิค ทำยังไงถึงจะเพาะเลี้ยงไส้เดือนให้ได้มากๆ แล้วก็ไม่เหม็น เหม็นไม่ได้แฟนก็บ่น เพื่อนบ้านก็บ่น ตอนแรกเหม็นมาก เราเองก็พูดไม่ออก เพราะมันเป็นงานอาชีพ”
ต่อมาก็คิดค้นหาสูตร ทำอย่างไรไม่ให้เหม็น พอทำได้ ก็เริ่มขาย รายได้ดีมาก เรียกว่าเลี้ยงครอบครัวได้สบายๆ ก็ดีใจ ถึงจุดนี้เวลาผ่านไปถึงห้าปี
ระหว่างทำไป เริ่มกลับมามองตัวเอง เดี๋ยวคนอื่นก็ต้องเลี้ยงขายเหมือนกับเรา แล้วเราจะขายใคร
คิดรวบรวมเอาความรู้ทำเป็นหลักสูตร เปิดเป็นศูนย์การอบรมการเลี้ยงไส้เดือน “ธีธัชฟาร์ม” 35/809 หมู่ 2 หมู่บ้านทรัพย์สมบูรณ์ ซ.ประชาอุทิศ 91 ถ.ประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ
ธีธัชบอกว่า วิชาที่ได้มาจากเรียนจบปริญญาโท ด้านการตลาด จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ช่วยได้เยอะมาก เริ่มทดสอบเปิดตลาดกระจายพร้อมกันทั่วกรุงเทพฯ รับจ้างสอนทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
“เราใช้ภาษาอังกฤษ ข้อดีคือได้ลูกค้าต่างชาติ สมัยก่อนมีไฮ 5 เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ มีคนติดต่อเข้ามา โทรศัพท์มาบ้าง หลังๆรับลูกค้าทั้งยุโรป ออสเตรเลีย อาเซียน เราสอนไป 10 กว่าชาติทั่วโลก”
ฝรั่งบางคน มาก็มั่วแบบมีศิลป์ เอาให้เขาเข้าใจ เพราะภาษาที่เลี้ยงไส้เดือน 99% เป็นภาษาอังกฤษ ตามสไตล์คนไทยภาษาอังกฤษไม่เก่ง แต่เราจะอธิบายอย่างไรให้เขาเข้าใจ ใช้ทั้งภาษากาย ภาษาพูด ใช้เทคนิคทุกอย่างที่จะพูดให้ลูกค้าฝรั่งเข้าใจ ว่าสิ่งที่เขาต้องการจะได้ครบไหม
ฝรั่งเก่ง รู้จักถาม ดึงข้อมูลจากเรา
เรายังมีเคสที่เป็นบริการสังคมสอนฟรี คัดเลือกคนเรียนที่ขาดโอกาส คนเฒ่าคนแก่ พระภิกษุสามเณร โรงเรียนต่างๆ บางทีก็เป็นข้าราชการ ดูแลทุกอย่างฟรี
ธีธัชบอกว่า ถ้าใครอยากมาเรียน หนึ่งต้องมีใจก่อน ต้องคุยกันยาวถึงความพร้อม นอกจากค่าเรียน 5,000 บาทแล้ว เมื่อก่อนเก็บถูก 1,000 เดียว คนมาเรียนเยอะ แต่พอสอนไปสอนมา ปรากฏว่าไม่ค่อยได้ผล
ที่เราสอนๆไม่ทำ เขาอาจมองว่าเสียน้อยก็ได้ พอไม่ทำก็เสียดายโอกาสที่จะมีรายได้
“เราตั้งใจเอาคนที่ทำจริงๆไม่เกิน 1 ปี คุณจะได้เงินเพิ่มจากที่คุณทำ 10 เท่า ลงทุน 5 พัน 1 ปีรับประกันได้เลย คุณมีรายได้สูงมาก เพราะหลักสูตรเรา 3 เดือน เรียนที่นี่ 1 วันก่อน แล้วตามสอนคุณที่บ้านอีก 3 เดือน”
สอนแบบใช้ไลน์คุยทุกวัน ไส้เดือนตายมาเอาไปใหม่ ถ้าไม่ได้จริง ไม่คุณมาก็อาจารย์ไป มาเรียนใหม่ สอนจนคุณเข้าใจ อาจารย์ไม่ได้ดูแลคุณไปตลอดชีวิต เราดูแลทุกอย่าง การตลาดก็ต้องดูแล ผลิตสินค้าออกมา เราหาลูกค้าให้ คุณจะต้องเรียนฝึกขาย
คนเลี้ยงไส้เดือนมีตลาดฟิชชิ่งช็อป ตลาดอาหารสัตว์ ไส้เดือนมีโปรตีนสูงมาก ขายตัวละ 2 บาท เป็นที่นิยมของคนเปิดฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เช่น สัตว์ปีก พวกนก สัตว์น้ำ พวกปลาสวยงาม สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ พวกกบ
ตลาดที่เขามาซื้อไปเป็นอาหาร คือตลาดกว้าง บ้านเราการผลิตเทียบกับประชากรยังไม่มาก เพียงแต่คนที่เลี้ยงกับคนที่ต้องการซื้อยังไม่เจอกัน เวลาเจอทีราคาก็กระโดดสูง คนซื้อก็รับไม่ได้
“ที่นี่พยายามให้คนที่ใช้จริงๆ” ธีธัชว่า “เอาไปปลูกผัก เอาไปทำสวนเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง เอาไปทำเกษตรอินทรีย์ ผลิตปุ๋ย”
ในลักษณะเชิงพาณิชย์ อย่างโรงงานอุตสาหกรรม มีบริษัทขายรถยนต์ของญี่ปุ่นยี่ห้อดัง เขาทำแปลงเกษตรปลูกผักอินทรีย์ส่งตลาด มีปัญหาเรื่องปุ๋ย ปัญหาเรื่องขยะ เขาเลือกมาที่นี่ ส่งพนักงานมาเรียนรู้กลับไปทำปุ๋ย เขาบอกว่าลดต้นทุนได้ 70 เปอร์เซ็นต์
เรากลายเป็นที่ตอบสนองสำหรับหน่วยงานใหญ่ กลุ่มลูกค้าของเรา นอกเหนือจากมูลไส้เดือนแพ็กขายถุงละ 50 บาท ยังมีน้ำไส้เดือน ที่เราสกัดเอามาขายลิตรละ 30 บาท ลิตรครึ่ง 50 บาท
ไส้เดือนไม่ใช่ใช้เฉพาะพืช ตลาดของเรามีงานวิจัย สามารถเอาส่วนที่เป็นน้ำที่สกัดจากมูลไส้เดือนบริสุทธิ์ ใช้วิธีสกัดเย็น ได้น้ำออกมา เราเรียกว่าน้ำเอนไซม์ เป็นโปรไบโอติก
เอนไซม์ตัวนี้เป็นจุลินทรีย์ด้วย เวลาเข้าไปอยู่ในสิ่งมีชีวิต ในทางเดินอาหาร จะทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น เรียกว่าเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์
ขั้นตอนในการผลิตต้องมีวิธีการ เริ่มต้นตั้งแต่การเลี้ยงไส้เดือน ใช้ขยะที่มีคุณภาพ ขยะที่มีสารอาหาร เช่น ขยะที่มีจุลินทรีย์มีกากใยค่อนข้างมาก ทำให้ที่อยู่ของไส้เดือนโปร่ง ไส้เดือนก็จะกินเร็วขึ้นปริมาณความเข้มข้นของมูลไส้เดือนที่อยู่ในบ่อเลี้ยงจะได้ 100%
เราสอนให้คนมีอาชีพ สอนให้แพ็กกิ้ง แพ็กขวด แพ็กถุง สอนวิธีการขาย พูดยังไง เจรจาต่อรองยังไง จะได้เงินจากลูกค้า เป็นหลักสูตรที่เรากำหนดขึ้นมา กว่าจะจบคนหนึ่งเหนื่อยมาก
เพราะฉะนั้นการขายสินค้าของเรา ขอให้เลี้ยงไส้เดือนได้ตามมาตรฐาน คือการเลี้ยงไส้เดือนต่างกัน คนเลี้ยงทั่วไปก็เลี้ยงไปอย่างหนึ่ง ของเราก็เลี้ยงไปอย่างหนึ่ง
เราอ้างอิงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน คุณภาพของเราต้องมาก่อน เวลาเราขายสินค้าก็ต้องขายในนามของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
“เราต้องแสดงความรับผิดชอบให้มากที่สุด เราต้องสร้างเขาให้ได้ เราบอกเสมอว่าไม่ใช่ธีธีชฟาร์มอย่างเดียว มีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วย เราเอาถุงของมหาวิทยาลัยเกษตรฯแพ็กไปขาย เวลาคุณทำไม่ดี ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เสีย แต่เสียไปถึงมหาวิทยาลัยด้วย”
ธีธัชบอกว่า ชีวิตเริ่มต้นจากวิกฤติ ถ้าไม่ออกจากงานวันนั้น ก็จะไม่มีวันนี้ สมองก็จะไม่คิดทำอะไรเลย การร่างหลักสูตรใช้เวลา 5 ปี หลักสูตรของเราทางรัฐบาลขอไปใช้กับ ปวช. ปวส. เราให้เฉพาะส่วนที่ให้ได้
ใช้ชีวิตอย่างนี้ 10 ปี ตั้งแต่ปี 49 อายุตอนนี้ก็ 50 ปี ภูมิใจที่ได้สอนอาจารย์เกษตร ทั้งที่ตัวเองไม่เคยเรียนเกษตร แต่ก็ได้เป็นสมใจแล้ว.