“กระท้อนผอบทอง” ดกเนื้ออร่อยขายคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 8 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/602391

 

กระท้อนชนิดนี้ มีลักษณะประจำพันธุ์คือ เนื้อเป็นปุยฟูและหนานุ่ม สามารถใช้ช้อนตักรับ-ประทานได้จนถึงเปลือก โดยรสชาติจะหวานสนิทไม่มีรสเปรี้ยวหรือฝาดเจือปนเลย ส่วนใหญ่เนื้อเปลือกกระท้อนจะมีรสเปรี้ยวและฝาด จัดเป็นกระท้อนพันธุ์เบา ติดผลง่ายให้ผลผลิตสูงหลังปลูกแค่ 2 ปีเท่านั้นจะเริ่มติดผลเป็นชุดแรก และจะติดผลดกขึ้นเรื่อยๆเมื่อต้นมีอายุได้ 4 ปีขึ้นไปตามภาพประกอบคอลัมน์ นอกจากนั้น “กระท้อนผอบทอง” ยังแตกต่างจากกระท้อนสายพันธุ์อื่นคือ เวลาติดผลจะแก่ได้เร็วกว่าประมาณ 15 วัน ทำให้ผู้ปลูกเก็บผลขายได้ก่อนกระท้อนพันธุ์อื่น สร้างรายได้ก่อนใคร และที่สำคัญเวลาติดผลไม่ต้องห่อผลป้องกันแมลงอีกด้วย น้ำหนักผลเมื่อโตเต็มที่อยู่ระหว่าง 4-6 ขีดต่อผล ผลอ่อนสีเขียว พอผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองยังไม่ถึงแก่หรือสุกเนื้อในจะหวาน กินได้เลย ผลสุกหรือแก่เป็นสีเหลืองจัด รูปทรงของผลกลมแป้นเล็กน้อยทำ ให้ดูเหมือนกับผอบทองโบราณ จึงถูกตั้งชื่อว่า “กระท้อนผอบทอง” ดังกล่าว ผลสุกสามารถติดอยู่กับต้นได้นานโดยเนื้อในไม่เป็นโรคน้ำหมาก รับประทาน อร่อย เหมือนเดิม

กระท้อนผอบทอง หรือ SANDORI-CUM INDICUMCAR, KOETJAPE-MERR อยู่ในวงศ์ MELIACEAE เป็นกระท้อนสายพันธุ์โบราณ มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมที่ จ.นนทบุรี ถูกนำไปปลูกต่างถิ่นครั้งแรกเมื่อประมาณปี พ.ศ.2505 ที่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สามารถเจริญเติบโตมีดอกและติดผลดกได้ดีเหมือนปลูกในถิ่นเดิมทุกอย่างและติดผลดกมากตามที่ระบุข้างต้น ส่วนต้นแม่เดิมที่ จ.นนทบุรีนั้นถูกน้ำท่วมตายในเวลาต่อมา ขยายพันธุ์ทั่วไปด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง เสียบยอด และติดตา

ใคร ต้องการกิ่งตอนด้วยระบบติดตาต้นแท้ ติดต่อ “คุณประภาส สุภาผล” 33/4 หมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร.08-8533-2299 หรือ “สวนณับธิดาพันธุ์ไม้” โทร.08-0646-4699 ราคาสอบถามกันเอง ปลูกได้ทุกภาคของประเทศ ไทย เหมาะจะปลูกเก็บผลกินในครัวเรือน หรือเก็บผลขายได้คุ้มค่ามากครับ.

“นายเกษตร”