สลด! รถรางตกรางในลอนดอน ดับ 7 ศพ เจ็บหลายสิบคน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 พ.ย. 2559 05:45

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/778882

 

รถรางในกรุงลอนดอน ตกรางขณะวิ่งเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเมื่อวันพุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ส่วนสาเหตุอาจเกิดจากความประมาทของคนขับ…

สำนักข่าวต่างประเทศ เกิดเหตุรถรางตกรางตะแคงข้างขณะเข้าโค้งหักศอก ที่เมืองเครย์ดอน ทางใต้ของกรุงลอนดอน เมื่อเวลาประมาณ 6:00น. วันพุธ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และมีผู้โดยสารมากกว่า 50 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในจำนวนนี้มี 8 คนบาดเจ็บสาหัส หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต

หลังเกิดเหตุ คนขับรถรางคันนี้ วัย 42 ปี ถูกจับกุมในฐานะผู้ต้องสงสัยฐาน ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่เจตนา โดยตำรวจจราจรสหราชอาณาจักรกำลังสืบสวนว่า เขาหลับระหว่างควบคุมรถรางหรือไม่ ส่วนคณะกรรมการสืบสวนอุบัติเหตุรถราง (อาร์เอไอบี) ระบุว่า รถรางคันนี้เดินทางด้วยความเร็วเกินกว่าที่กำหนดมาก

 

ใครว่า ทรัมป์ ไม่เก่ง! จาก‘เซลส์แมน’ ล้มละลาย กลายเป็นปธน.ใหม่สหรัฐฯ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 พ.ย. 2559 05:40

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/778616

 

ต้องถือว่าหักปากกา ‘โพล’ เกือบทุกสำนัก พลิกล็อกมโหฬาร ถล่มโลก สำหรับชัยชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ มหาเศรษฐีจากรัฐนิวยอร์ก ผู้ที่สื่ออเมริกันให้ฉายา ‘เซลส์แมน’ (salesman) สามารถเอาชนะ นางฮิลลารี คลินตัน นักการเมืองมืออาชีพ คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ‘ตัวเต็งจ๋า’ มาตลอด ชนิดที่ฮิลลารีเอง คงรู้สึกผิดหวังเสียใจไม่น้อย

‘หากปราศจากความทะเยอทะยาน คุณก็จะไม่มีพลัง หากปราศจากพลังคุณก็จะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย’ คติพจน์ประจำใจของทรัมป์ ที่สำคัญ เขาได้ทำให้เห็นว่าได้ยึดถือและปฏิบัติตามนั้นจริง

เพราะคงไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับ ใครสักคน ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อนเลย (ยกเว้นเงินมหาศาลและความมุ่งมั่นเกินร้อย) จะสามารถฝ่าฟัน ปราการอันแข็งแกร่งของบรรดาผู้สมัครชิงเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี  จนได้เป็นตัวแทนพรรค มาสู้กับนักการเมืองที่อยู่บนสังเวียนนี้มายาวนานนับ 30 ปี อย่างนางฮิลลารี คลินตัน และเขาก็ทำสำเร็จ ชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา


* ประวัติโดนัลด์ ทรัมป์

โดนัลด์ ทรัมป์ เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1946 ปัจจุบัน อายุ 70 ปี  5 เดือน เขาเป็นทั้ง นักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล นักเขียน และผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ โดยทรัมป์ เป็นประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัททรัมป์ ออร์กาไนเซชัน ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา ทรัมป์ยังเป็นผู้ก่อตั้งทรัมป์เอนเตอร์เทนเมนต์รีสอร์ต ที่มีกิจการกาสิโนและโรงแรมหลายแห่งทั่วโลก

ด้วยการใช้ชีวิตที่หรูหราและการพูดจาที่โผงผาง ทำให้ทรัมป์ มีชื่อเสียง ยังเป็นส่วนให้เขาประสบความสำเร็จในรายการเรียลลิตี้โชว์ทางช่อง NBC ที่ชื่อ The Apprentice (ที่เขารับตำแหน่งพิธีกรและผู้อำนวยการสร้าง) ซึ่ง ผู้คนจดจำเขาได้อย่างรวดเร็ว จากทรงผมเอกลักษณ์ และวลีฮิตติดปาก “คุณถูกไล่ออกแล้ว” ที่ทรัมป์มักพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสะใจ

โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นบุตรคนที่ 4 ใน 5 ของนายเฟรด ทรัมป์ มหาเศรษฐี นักพัฒนาอสังหาฯแห่งนิวยอร์ก ซิตี้ เขาได้รับอิทธิพลทางความคิดอย่างมากจากพ่อของเขา ในเป้าหมายของอาชีพการเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และในครั้งจบการศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์และการเงิน ที่ วอร์ตัน สคูล คอลเลจ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ในปี ค.ศ. 1963 หลังจากนั้นทรัมป์ได้เข้าร่วมทำงานในบริษัทของพ่อของเขา ‘ทรัมป์ ออร์กาไนเซชัน’


โดนัลด์ ทรัมป์ สมัยยังเป็นหนุ่มหล่อ

*เริ่มต้นทำธุรกิจ แล้วล้มละลาย

ทรัมป์ เริ่มงาน ด้วยการซื้อโรงแรมคอมมอดอร์ มาปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อเป็นโรงแรม แกรนด์ไฮแอตต์ กับครอบครัวพริตซ์เกอร์ เขายังคงดำเนินงานทรัมป์ทาวเวอร์ในนิวยอร์ก และหลายโครงการที่พักอยู่อาศัย ต่อมา ทรัมป์ยังขยับขยายธุรกิจสู่อุตสาหกรรมการบิน และธุรกิจกาสิโนแอตแลนติกซิตี รวมถึงการซื้อ ทัชมาฮาลกาสิโน จากครอบครัวครอสบี

แต่ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 เขาต้องเผชิญกับปัญหาการเงินอย่างหนัก เพราะกู้หนี้ยืมสินมากเกินตัวเพื่อขยายธุรกิจ แต่สุดท้ายเมื่อเศรษฐกิจอเมริกาถดถอย ส่งผลให้ทรัมป์ล้มละลาย แต่ด้วยความมุ่งมั่น เขาฟื้นฟูธุรกิจกลับมาได้อีกครั้งในช่วงปลายทศวรรษเดียวกัน และเริ่มกอบกู้ชื่อเสียงด้วยการสยายปีกจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เข้าไปลงทุนเพิ่มในธุรกิจมีเดีย ในปี ค.ศ. 2001


*ทำธุรกิจอสังหาฯ สร้าง ‘ทรัมป์ เวิลด์ ทาวเวอร์’

ทรัมป์ ดำเนินการสร้างทรัมป์เวิลด์ทาวเวอร์สำเร็จ เป็นอาคารที่อยู่อาศัย 72 ชั้น ตั้งอยู่ตรงข้ามสำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ เขายังเริ่มสร้าง ทรัมป์เพลซ กลุ่มอาคารหลายหลังริมแม่น้ำฮัดสัน ทรัมป์ยังเป็นเจ้าของพื้นที่การค้าในทรัมป์อินเตอร์แนชนัลแอนด์ทาวเวอร์ อาคาร 44 ชั้น (โรงแรมและอาคารชุดรวมกัน)

ทรัมป์ยังเป็นเจ้าของพื้นที่หลายล้านตารางฟุต อสังหาริมทรัพย์ในแมนแฮตตัน และยังถือเป็นบุคคลสำคัญทางด้านอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาและเป็นคนมีชื่อเสียงสำคัญกับสื่อมวลชน


* แต่งงานมาแล้ว 3 ครั้ง ลูก 5 คน

ด้านชีวิตครอบครัว ทรัมป์แต่งงานมาแล้ว 3 ครั้ง โดยได้แต่งงานกับ ภรรยาคนแรก คือ อีวานา ทรัมป์ และมีบุตรด้วยกัน 3 คน คือ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์, อิวังกา ทรัมป์ และอีริก ทรัมป์ ต่อมา ได้แต่งงานกับ ภรรยาคนที่ 2 มาร์ลา เมเปล มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ ทิฟฟานี ทรัมป์ และมาแต่งงานครั้งที่ 3 กับ ภรรยาคนปัจจุบันคือ เมลาเนีย ทรัมป์ ซึ่งแต่งงานกันมาตั้งแต่ปี 2548 มีบุตรชื่อ บาร์รอน ทรัมป์

* เจ้าของกิจการประกวดมิสยูนิเวิร์ส

ทรัมป์ยังเป็นเจ้าของกิจการการประกวดนางงามสหรัฐฯ และนางงามจักรวาล หรือ มิส ยูนิเวิร์สอีกด้วย ในปี ค.ศ. 2013 ทรัมป์ได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่ หอเกียรติยศ ดับเบิลยูดับเบิลยูอีประจำปี ค.ศ. 2013 และในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.2016 โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการเสนอชื่อให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเลือกตั้ง


* ฝ่าฟันหาเสียงมาราธอน จนชนะเลือกตั้ง

ไม่มีใครอยากจะเชื่อ มหาเศรษฐีอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครที่สร้างสีสันให้การเลือกตั้งสหรัฐฯอย่างมาก ด้วยการพูดจาโผงผาง และนโยบายแบบสุดโต่งเพื่อคนอเมริกัน บวกกับความกล้าของเขา ทำให้ทรัมป์ สามารถคว้าชัยชนะไปได้ในที่สุดอย่างเหลือเชื่อ เอาชนะใจคนอเมริกันส่วนใหญ่จนชนะเลือกตั้ง ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่และเป็นคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา.

 

 


โดนัลด์ ทรัมป์ กับไมค์ เพนซ์ คู่หูชิงรองประธานาธิบดี
 

นโยบายต่างประเทศ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 10 พ.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/778002

 

…ป่านนี้คงพอเห็นเค้าลาง “ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45” คือ “ฮิลลารี คลินตัน” ตัวแทนพรรคเดโมแครต หรือ “โดนัลด์ ทรัมป์” ตัวแทนพรรครีพับลิกัน…

โฉมหน้าท่าทีอเมริกาจะอย่างไรต่อไป ผลกระทบมากน้อยจะเกิดแก่โลกด้านใดแค่ไหนต้องติดตาม เพราะการกระดิกตัวของอเมริกาแต่ละครั้งส่งผลกระเพื่อมทั้งโลก โดยเฉพาะ “นโยบายต่างประเทศ” —Foreign Policy

ระหว่างการหาเสียงดุเดือดของ “สาวใหญ่ฝีปากกล้าอดีตสตรีหมายเลข 1” ด้วยคำขวัญ “เข้มแข็งยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน”— Stronger Together กับ “มหาเศรษฐีหนุ่มใหญ่ปากจัด” ภายใต้คำขวัญ “ทำอเมริกาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง”–Make America Great Again ตลอดช่วงเวลานานนับปี “นโยบายต่างประเทศ” ของฝ่ายสาวใหญ่กับหนุ่มใหญ่ถูกเฝ้าติดตามวิเคราะห์จากทั่วโลก แม้ประเด็นการหาเสียงส่วนใหญ่ของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯครั้งนี้เน้นไปทาง “สาดโคลน” ถึงขนาดชาวอเมริกันหลายคนระบุการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ “ตัวเลือกแย่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติสหรัฐอเมริกา”

“นโยบายต่างประเทศเฉพาะด้านความมั่นคง” ของนางฮิลลารีกับนายทรัมป์ ไล่เป็นเรื่องๆจะเห็นมุมมองทั้งแตกต่างและคล้ายคลึง ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย หนักหน่วง แข็งกร้าวหรือผ่อนปรนดูเหมือนต่างกันตามลักษณะตัวตนของทั้งคู่

* ประเด็น “นาโต” องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ สมาชิก 28 ประเทศ “ทรัมป์” วิพากษ์วิจารณ์นโยบายนาโตโบราณคร่ำครึ สมาชิกนาโตอกตัญญู แค่อาศัยผลประโยชน์จากสหรัฐฯ ไม่ค่อยยอมควักจ่ายทุน สหรัฐฯแบกภาระปกป้องชาติยุโรปและเอเชียทั้งหมดไม่ได้อีกต่อไป ถ้าประเทศเหล่านั้นไม่ช่วยเหลือตัวเองบ้าง ทั้งขู่ถอนทหารสหรัฐฯในต่างแดนกลับประเทศถ้าได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดี

ส่วน “ฮิลลารี” ยังยึดมั่นสถานะสมาชิกและพันธมิตรนาโตอย่างเหนียวแน่นเช่นเดียวกับรัฐบาลบารัค โอบามา ระบุการลงทุนกับนาโตคือสิ่งยอดเยี่ยมที่สุดประการหนึ่งเท่าที่อเมริกาเคยดำเนินการ ทั้งเตือนถึงแนวนโยบายของนายทรัมป์ไม่ยืดหยุ่น ยิ่งจะทำให้รัสเซียกล้ากร้าวมากขึ้น

* ประเด็นรัสเซีย

“ฮิลลารี” ต้องการ “รีเซต” ยกเครื่องปรับความร่วมมือกับรัสเซีย แต่ไม่วายต้องแข็งกร้าวมากขึ้นต่อท่าทีของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ต้องจำกัดการรุกรานครอบงำของรัสเซียต่อยูเครนและซีเรีย โดยอาศัยพลังร่วมจากชาติพันธมิตรนาโต

ต่างจากท่าทีของ “ทรัมป์” เชื่อมั่นว่าจะลดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซียได้ไม่ยาก เพราะทำธุรกิจกับรัสเซียมานาน มีที่ปรึกษาเกี่ยวข้องกับรัสเซียก็หลายคน ทั้งชื่นชมยกย่องผู้นำรัสเซียคือผู้นำยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลกและมีความสัมพันธ์อันดีส่วนตัวต่อกัน เชื่อว่าผู้นำรัสเซียเคารพตนมากกว่านางฮิลลารีและนายโอบามา

* ประเด็นกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส)

ทั้งสองคนให้ความสำคัญปัญหานี้มากพอๆกัน คือมุ่งกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามอย่างแข็งกร้าวด้วยความร่วมมือจากชาติตะวันตก ชาติอาหรับ รวมถึงรัสเซีย ทั้งยืนกรานไม่ส่งทหารสหรัฐฯไปร่วมรบในอิรักกับซีเรีย ความแตกต่างของแนวทางแก้ปัญหาคือ นางฮิลลารีมุ่งประเด็นการเมืองต้องการโค่นอำนาจประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาดแห่งซีเรียลงให้ได้แม้ต้องเสี่ยงเผชิญหน้าทางทหารกับรัสเซียที่หนุนรัฐบาลอัสซาด

ขณะที่ “ทรัมป์” มุ่งถล่มกองกำลังไอเอสและต้องการยึดคืนบ่อน้ำมันจากกลุ่มไอเอส เช่นเดียวกับ “ประเด็นนิวเคลียร์อิหร่าน” ทั้งสองคนพร้อมใช้กำลังทหารกับอิหร่านถ้าอิหร่านพยายามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ แต่แตกต่างกันเรื่องรายละเอียดของเส้นทางไปสู่จุดนั้น


http://www.thairath.co.th/clip/84227

*ประเด็นจีน

ไม่ว่าใครได้ขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ก็ต้องแบกรับภาระสำคัญเรื่องความสัมพันธ์กับจีนในฐานะชาติมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลก โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างประเทศ

นโยบาย “ฮิลลารี” ยังไม่ชัดเจนถึงสถานะสหรัฐฯกับจีนจะหนักไปทางมิตรหรือคู่แข่ง แต่ยังจำเป็นต้องคงยุทธศาสตร์นโยบาย “ปักหมุดเอเชีย” เอาไว้อย่างเหนียวแน่น เพื่อคานอำนาจอิทธิพลจีน

ส่วน “ทรัมป์” ดูเหมือนกร้าวแกร่งพร้อมเผชิญหน้ากับจีนมากกว่า “ฮิลลารี” แต่ยังไม่เปิดแผนยุทธศาสตร์ดำเนินการไปทางไหนดี แต่ชี้กวาดถึงปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือต้องให้จีนยื่นมือช่วยคลี่คลายปัญหาให้มากกว่านี้ หาไม่แล้วชาติภูมิภาคเอเชียตะวันออกอื่นๆก็จำเป็นต้องมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ป้องกันตนเอง…

ทีมข่าวต่างประเทศ

 

จีนเร่งช่วยตี๋เล็ก 5 ขวบตกบ่อน้ำร้างลึก 40 เมตร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 10 พ.ย. 2559 02:30

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/778732

 

(ภาพจากเว็บไซต์ weibo)

ความพยายามของหน่วยกู้ภัยของจีนพร้อมเครื่องจักรกลหนักที่เร่งค้นหาเด็กชายวัย 5 ขวบที่พลัดตกบ่อน้ำแห้งแคบๆ แต่ลึกมากถึง 40 เมตร ในหมู่บ้านเหม็งชาง เมืองเป่าติง มณฑลเหอเป่ย ขณะช่วยพ่อแม่เก็บผัก ยังไม่ประสบผล หลังเหตุการณ์สลดดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เช้าวันที่ 6 พ.ย.

โดยข่าวรายงานล่าสุดเมื่อ 9 พ.ย. หรือกว่า 3 วันหลังเกิดเหตุ ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทีมกู้ภัยหลายสิบคนพร้อมรถตักดิน 60 คัน รถบรรทุกดิน (รถดั๊มพ์) 100 คัน เร่งทำงานแข่งเวลา เพื่อพยายามช่วยเหลือ ด.ช.วัย 5 ขวบคนดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ความหวังยังมืดมิด เพราะบ่อแคบมาก มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางแค่ 30 ซม. ยากที่จะหย่อนตัวลงไปช่วย จึงทำได้แต่อัดก๊าซออกซิเจนลงไปรวมทั้งอาหารโดยยังไม่รู้ชะตากรรม ด.ช.ที่อยู่ก้นบ่อว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะการหย่อนเครื่องตรวจหาสัญญาณชีพลงไปก็ตรวจสอบอะไรไม่ได้ บวกกับทัศนวิสัยมืดสนิทมองไม่ถนัด ส่วนปฏิบัติการค้นหา ทีมกู้ภัยต้องเคลียร์หน้าดินโดยรอบเป็นบริเวณกว้าง.

 

เลิกธนบัตรใหญ่! นายกฯ อินเดียชูปราบโกง-สกัดก่อการร้าย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 10 พ.ย. 2559 01:45

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/778731

 

เมื่อ 8 พ.ย. นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมทีของอินเดียแถลงออกโทรทัศน์ประกาศยกเลิกใช้ธนบัตรฉบับมูลค่า 500 รูปี (ราว 262 บาท) และ 1,000 รูปี (ราว 525 บาท) ซึ่งเป็นธนบัตรมูลค่าสูงที่สุดที่ใช้ในอินเดียปัจจุบัน เพื่อแก้ปัญหาคอร์รัปชันและสกัดกองกำลังหัวรุนแรงจากปากีสถานที่ลอบเข้ามาโจมตีอินเดียหลายครั้งและมักปลอมธนบัตรชนิด 2 มูลค่าดังกล่าวเป็นทุนสนับสนุน การยกเลิกมีผลหลังเที่ยงคืนวันเดียวกัน ส่วนธนบัตรใหม่มูลค่า 500 และ 2,000 รูปีจะถูกนำออกใช้ภายหลังโดยธนาคารกลางอินเดีย ขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆระบุธนบัตรใหม่จะพร้อมใช้ได้ใน 10 พ.ย. แต่โรงพยาบาลและหน่วยงานอื่นๆยังรับธนบัตรเก่าภายในอีก 72 ชม.ข้างหน้า ส่วนธนาคารและตู้เอทีเอ็มจะถูกปิดใน 9-10 พ.ย.


นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมที ของอินเดีย

ขณะที่เหล่าผู้นำธุรกิจส่วนใหญ่ตอบรับนโยบายล่าสุดของรัฐบาล แม้ว่าบางคนยังเป็นห่วงว่าจะกระทบกับผู้ค้ารายย่อยอยู่บ้าง ด้านนายศักติกานต์ ดัส รมว.คลังของอินเดียระบุว่า การตัดสินดังกล่าวเป็นมาตรการที่จริงจังและเด็ดขาดเพื่อปราบปรามวงจรเงินในตลาดมืดและการใช้ธนบัตรรูปีปลอม ทั้งนี้หลังพบมีกระแสธนบัตรฉบับละ 500 และ 1,000 รูปี หมุนเวียนในระบบมากเกินปกติในรอบ 5 ปีหลัง โดยธนบัตร 500 รูปี รุ่นใหม่ จะฝังภาพโบราณสถาน “เรด ฟอร์ต” สัญลักษณ์เมืองในกรุงนิวเดลี และธนบัตรใหม่มูลค่า 2,000 รูปีจะมีภาพยานสำรวจดาวอังคาร “มงคลยาน” ของอินเดีย.

 

‘รีพับลิกัน’ เรืองอำนาจ ยังครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสมะกัน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 พ.ย. 2559 00:05

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/778797

 

พรรครีพับลิกัน ยังคงครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกาเหมือนเดิม หลังจากเดโมแครตไม่สามารถตีตื้นขึ้นมาได้ในการเลือกตั้งแห่งชาติเมื่อวันอังคาร…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วันเลือกตั้งแห่งชาติ (National Election Day) ประจำปี 2016 ของสหรัฐฯ ถือเป็นช่วงเวลาของพรรครีพับลิกันอย่างแท้จริง โดยไม่เพียงตัวแทนของพรรคอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีฝีมากกล้า จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างพลิกความคาดหมายเหนือคู่แข่งจากเดโมแครตอย่างนาง ฮิลลารี คลินตัน นักการเมืองประสบการณ์สูงแล้ว รีพับลิกันยังสามารถรักษาเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาไว้ได้อีกด้วย


แทมมี่ ดักเวิร์ธ ส.ว.เดโมแครตรัฐอิลลินอยส์

ในวันเลือกตั้งแห่งชาติเมื่อ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา 34 ที่นั่งจากทั้งหมด 100 ที่นั่ง แต่เดโมแครตกลับได้เพิ่มเพียง 1 ที่นั่งเดียวจากที่มาอยู่ ด้วยชัยชนะของ แทมมี่ ดักเวิร์ธ หรือ ลัดดา ดักเวิร์ธ นักการเมืองอเมริกันเชื้อสายไทย ที่รัฐอิลลินอยส์ ชิงตำแหน่งนาย มาร์ก เคิร์ก ที่พยายามจะป้องกันตำแห่งเป็นสมัยที่ 2 ส่วนที่รัฐเนวาดา นางคอร์เตซ มาสโต สามารถรักษาตำแหน่งส.ว.ให้พรรคเดโมแครตได้สำเร็จ โดยเอาชนะนาย โจ แฮค และกลายเป็นส.ว.เชื้อสายละตินอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือไปจากทั้ง 2 รัฐ รีพับลิกันสามารถรักษาเก้าอี้สำคัญได้หมด ทั้งที่รัฐ อินเดียนา, นอร์ท แคโรไลนา, วิสคอนซัน, ฟลอริดา และรัฐแอริโซนา ซึ่งนายจอห์น แมคเคน ครองตำแหน่งเป็นสมัยที่ 6


คอร์เตซ มาสโต ส.ว.เดโมแครตรัฐเนวาดา

นอกจากนี้ เดโมแครตยังล้มเหลวในการลดช่องว่างในสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่าง โดยคว้าเพิ่มได้อีกเพียง 5 ที่นั่งเท่านั้น โดยที่สร้างความฮือฮาคือนาง อิลฮาน โอมาร์ คว้าชัยชนะที่รัฐมินนิโซตา กลายเป็นส.ส.ชาวอเมริกันเชื้อสายโซมาเลียคนแรกของประเทศ ส่วนนาย พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร สังกัดรีพับลิกัน สามารถรักษาเก้าอี้ที่รัฐวิสคอนซินเอาไว้ได้

สรุป ผลอย่างไม่เป็นทางการตอนนี้รีพับลิกันครองเก้าอี้วุฒิสภาอยู่ 51 ต่อ 47 ที่นั่ง และมีเก้าอี้สภาผู้แทนราษฎรอยู่ในมือ 238 ที่นั่ง ต่อ 193 ที่นั่งของฝั่งเดโมแครต


พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร สังกัดรีพับลิกัน ส.ส.รัฐวิสคอนซิน

ทั้งนี้ การที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภาปกครองสูงสุดของสหรัฐฯ ทั้ง 2 สภา ทำให้นายทรัมป์สามารถนำนโยบายของตัวเองออกเป็นกฎหมายได้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะทำได้ง่ายดายหรือไม่ เนื่องจากแกนนำคนสำคัญของรีพับลิกันหลายคน ไม่สนับสนุนนายทรัมป์

 

ไม่ยอมรับ ‘ทรัมป์’ เป็นปธน.! ม็อบเดินขบวนประท้วงทั่วแคลิฟอร์เนีย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ย. 2559 23:00

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/778712

 

ชาวอเมริกันผู้ไม่ยอมรับในตัวนายโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาเดินขบวนประท้วงในหลายรัฐ โดยเฉพาะรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากมหาเศรษฐีฝีปากกล้าคนนี้ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเหนือความคาดหมาย…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนหลายร้อยคนออกมาเดินขบวนประท้วงในหลายเมืองของรัฐแคลิฟอร์เนีย ในช่วงเช้ามืดวันพุธที่ 9 พ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่น) เพื่อแสดงความไม่ยอมรับในตัวนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเพิ่งชนะการเลือกตั้งเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอมเริกาอย่างเหนือความคาดหมายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ที่เมืองเบิร์กลีย์ การประท้วงเริ่มขึ้นโดยกลุ่มนักศึกษาที่มารวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ เพื่อรอฟังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี และหลังจากเป็นที่แน่ชัดแล้วว่านายทรัมป์จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง เหลานักศึกษาก็ออกมารวมตัวกันบนถนนและเคลื่อนขบวนไปยังเมืองโอ๊กแลนด์ที่อยู่ติดกันเมื่อเวลาประมาณ 1:00น. วันพุธ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองโอ๊กแลนด์สามารถยับยังผู้ชุมนุมไม่ให้เคลื่อนขบวนไปถึงสำนักงานตำรวจท้งถิ่นได้ ก่อนที่กลุ่มผู้ประท้วงจะสลายตัวในเวลา 3:00น. แต่ประกาศด้วยว่าพวกเขาจะมาชุมนุมกันอีกในไม่กี่วันข้างหน้า


นักศึกษาม.แคลิฟอร์เนีย เมืองเดวิส ถือธงชาติเม็กซิโกและธงของคนรักเพศเดียวกัน เดินขบวนประท้วงโดนัลด์ ทรัมป์

นาย อดัม เบรเวอร์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วัย 22 ปี ซึ่งร่วมในการเดินขบวนด้วย บอกกับสื่อสหรัฐฯ ว่า พวกเขาไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆ และให้คนเหยียดเพศและเชื้อชาติกลายเป็นประธานาธิบดีได้ “เขาทำให้เราดูแย่ในสายตาคนทั้งโลก และนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวเท่านั้น” ขณะที่นาย แดเนียล คอลิน นักศึกษาปริญญาโทภาควิชาระบาดวิทยา ผู้เป็นชาวกัวเตมาลาที่ได้รับสัญชาติอเมริกัน กล่าวว่า เขารวมทั้งนักศึกษาเชื้อสายละตินคนอื่นๆ ที่ออกมาร่วมเดินขบวน กังวลเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเพื่อนและญาติของพวกเขา ระหว่างที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะเขาท่าทีกีดกันผู้อพยพจากละตินอเมริกา

ที่เมืองโอ๊กแลนด์ ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งก่อเหตุทุบทำลายหน้าต่างสถานีข่าวของ ‘โอ๊กแลนด์ ทริบิวน์’, จุดไฟเผาถึงขยะและยางรถยนต์ ผู้ประท้วงยังเผาหุ่นจำลองของนายทรัมป์อีกด้วย ขณะเดียวกัน ที่มหาวิทยาลแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตซานตา บาร์บารา ประชาชนหลายร้อยคนออกมาเดินขบวนพร้อมกับตะโกนว่าทรัมป์ ไม่ใช่ประธานาธิบดีของพวกเขา


ผู้ประท้วงคนหนึ่งเผากองขยะที่เมืองโอ๊กแลนด์

อีกด้านหนึ่ง ที่ชุมชน ลา ฮอยยา นักศึกษามหาวิทยาลัยแคลิฟอเนียร์ เมืองซาน ดิเอโก จำนวนประมาณ 500 คน ออกมาประท้วงชัยชนะของนายทรัมป์ และตะโกนชื่อของเขาพร้อมกับคำสบถ นอกจากนี้ยังมีการประท้วงที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในนครลอสแอนเจลิส, เมืองซานตา ครูซ และเมืองเออร์ไวน์ โดยหลายคนตะโกนสโลแกน “ไม่ใช้ประธานาธิบดีของฉัน” เพื่อต่อต้านนายทรัมป์ด้วย

ส่วนที่ย่านใจกลางนครลอสแอนเจลิส กลุ่มผู้ชุมนุมออกมาร่วมตัวกันใกล้ศาลาว่าการเมือง บางคนลงมือพ่นสีรั้วบ้านหรืออาคารเป็นรูปภาพล้อเลียนนายทรัมป์ ขณะที่มีรายงานด้วยว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งเดินขบวนประท้วงบนถนนหลวงหมายเลข 24 ในซาน ฟรานซิสโก ก่อทนที่ผู้ประท้วงหญิงคนหนึ่งจะถูกรถอเนคประสงค์ชน ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บรุนแรง และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าอาการของเธอเป็นอย่างไร


ตำรวจปิดถนนกั้นผู้ประท้วงที่ไม่ยอมรับนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี ที่เมืองยูจีน รัฐโอเรกอน

ชาวเมืองซีแอตเทิล ในรัฐวอชิงตัน ปิดถนนประท้วงต้านโดนัลด์ ทรัมป์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทรัมป์ชนะ พลิกล็อกถล่มโลก บ่งชี้อเมริกันชน ต้องการ CHANGE ของจริง

ทรัมป์ ประกาศชัย ! หลังหักปากกา‘โพล’ ช็อกโลก ได้เป็นปธน.ใหม่สหรัฐฯ

 

ปูติน มาแล้ว ยินดี ทรัมป์ชนะทันที หวังสัมพันธ์มะกัน-รัสเซียพ้นจุดวิกฤติ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ย. 2559 17:39

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/778542

 

ประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย ส่งโทรสารแสดงความยินดีกับโดนัลด์ ทรัมป์ ทันที หลังคว้าชัยเลือกตั้ง ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่สหรัฐฯ มุ่งหวังได้ทำงานร่วมกัน เจรจากันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซียผ่านพ้นจากจุดวิกฤติ เพื่อประโยชน์ของชาวอเมริกัน-รัสเซีย ตลอดจนประชาคมโลก

เมื่อ 9 พ.ย. สื่อต่างประเทศรายงานปฏิกิริยาของบรรดาผู้นำในประชาคมโลกต่อชัยชนะช็อกโลก ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 เมื่อ 8 พ.ย. และมีการประกาศผลเลือกตั้งออกมาเมื่อช่วงเช้า วันที่ 9 พ.ย.ของสหรัฐฯ ด้วยความระทึกตื่นเต้นเพราะคะแนนของนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ‘ตัวเต็ง’ กลับตามไล่หลังมาตลอดว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ได้ส่งโทรสารมาแสดงความยินดีกับโดนัลด์ ทรัมป์ ทันทีที่สามารถคว้าชัยชนะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่และเป็นคนที่ 45 ของสหรัฐฯ

ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย หรือวังเครมลิน ในกรุงมอสโก ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ว่า ประธานาธิบดีปูติน ได้ส่งโทรสารแสดงความยินดีต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมกับหวังว่าจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างชาวรัสเซียกับอเมริกันผ่านพ้นมาจากจุดวิกฤติ โดยประธานาธิบดีปูติน ยังบอกด้วยว่า เขามีความหวังว่าจะมีการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ระหว่างรัฐบาลมอสโกกับวอชิงตัน บนพื้นฐานของความเท่าเทียม ความเคารพซึ่งกันและกัน รวมทั้งการคำนึงอย่างแท้จริงถึงจุดยืนของกันและกัน ตลอดจน ผลประโยชน์ของประชาชนชาวอเมริกันและรัสเซีย รวมทั้งประชาคมโลก


ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีนับตั้งแต่การหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่แสดงความเป็นมิตรกับประธานาธิบดีรัสเซีย ผู้นำชาติมหาอำนาจที่ยืนอยู่ละฟากกับรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา โดยทรัมป์ ยังเคยพูดชื่นชมประธานาธิบดีปูตินว่า มีความเก่งกาจในการบริหารประเทศ มากกว่า ผู้นำสหรัฐฯ อย่างโอบามาเสียอีก จนทำให้ถูกคาดการณ์กันว่า หากทรัมป์ ชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีใหม่ของสหรัฐฯจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซียดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่กำลังตึงเครียดกันอย่างหนัก


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทรัมป์ ประกาศชัย ! หลังหักปากกา‘โพล’ ช็อกโลก ได้เป็นปธน.ใหม่สหรัฐฯ

ทรัมป์ชนะ พลิกล็อกถล่มโลก บ่งชี้อเมริกันชน ต้องการ CHANGE ของจริง

 

ทรัมป์ ประกาศชัย ! หลัง​หักปากกา‘โพล’ ช็อกโลก ได้เป็นปธน.ใหม่สหรัฐฯ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ย. 2559 16:36

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/778457

 

โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชัยด้วยความตื้นตัน คว้าชัยชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่สหรัฐฯ โค่น ‘ตัวเต็ง’ ฮิลลารี คลินตันได้อย่างพลิกความคาดหมาย สะท้านโลก..ลั่นถึงเวลาแล้วที่จะเยียวยาความแตกแยกที่เกิดขึ้นระหว่างหาเสียง พร้อมจะทำงานเพื่อประเทศชาติ และสร้างอเมริกาให้ยิ่งใหญ่

เมื่อ 9 พ.ย.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกาะติดศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 หลังจากผลการเลือกตั้งออกมาสร้างความตกตะลึงพรึงเพริด ช็อกกันทั้งโลก เมื่อในที่สุด นายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีจากรัฐนิวยอร์ก ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ผู้ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์และตำแหน่งทางการเมืองใดๆ มาก่อนเลย เป็นฝ่ายคว้าชัยการเลือกตั้ง ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่และเป็นคนที่ 45 ของสหรัฐฯ สามารถเอาชนะนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ได้เป็นผลสำเร็จ โดยได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งแล้วถึง 276 คะแนน เหนือนางฮิลลารี ที่ได้ 218 คะแนน ขณะที่การนับคะแนนยังไม่แล้วเสร็จครบทั้ง 50 รัฐ

หลังทราบผลการเลือกตั้งที่ออกมาด้วยชัยชนะอย่างที่ไม่มีใครคาดฝันแล้ว ทรัมป์ ได้ขึ้นเวทีประกาศชัยชนะด้วยความตื้นตัน ที่ห้องบอลรูมของโรงแรมนิวยอร์ก ฮิลตัน มิดทาวน์ ในย่านแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ย.(ตามเวลาท้องถิ่น) หรือตรงกับเย็นของวันที่ 9 พ.ย.ตามเวลาในประเทศไทย โดยมีครอบครัว ประกอบด้วย นางเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยาคนสวย บุตรชายและบุตรสาว ตลอดจนทีมงานหาเสียงที่ทุ่มเททำงานและร่วมหาเสียงแบบมาราธอนกันมายาวนาน จนประสบกับชัยชนะในการเลือกตั้งในวันนี้ขึ้นเวทีด้วย


โดนัลด์ ทรัมป์ จับมือดีใจกับ ไมค์ เพนซ์ คู่หูรองประธานาธิบดี

ทรัมป์ วัย 70 ปี ซึ่งถือเป็นประธานาธิบดีที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ กล่าวขอบคุณชาวอเมริกันที่สนับสนุนเขาจนทำให้คว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง และถึงเวลาสำหรับชาวอเมริกันที่จะมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว พร้อมกับเยียวยาบาดแผลของความแตกแยกในสังคมชาวอเมริกันที่เกิดขึ้นในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง

จากนั้น ทรัมป์ยังพูดแสดงความเสียใจไปถึงนางฮิลลารี คลินตัน ผู้ซึ่งได้อุทิศทำงานเพื่อประเทศชาติมายาวนาน พร้อมกับบอกว่า ฮิลลารียังแสดงความยินดีกับเขาที่คว้าชัยชนะการเลือกตั้ง โดยทรัมป์กล่าวว่า ขอยินดีกับพวกเรา ผู้สนับสนุนเขาจนทำให้สามารถก้าวมาถึงวันนี้



ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเป็นประธานาธิบดีของชาวอเมริกันทั้งหมด และถึงแม้ก่อนหน้านี้ จะมีใครที่ไม่ได้สนับสนุนเขาก็ตาม แต่ ‘เรา’ จะทำงานด้วยกันเพื่อสร้างอเมริกันให้เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ พร้อมกับ ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำงานเพื่อประเทศชาติสหรัฐอเมริกา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทรัมป์ชนะ พลิกล็อกถล่มโลก บ่งชี้อเมริกันชน ต้องการ CHANGE ของจริง

 

ทรัมป์ชนะ พลิกล็อกถล่มโลก บ่งชี้อเมริกันชน ต้องการ CHANGE ของจริง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ย. 2559 14:42

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/778186

 

อเมริกันชนต้องการ‘Change’ (เปลี่ยนแปลง) ของจริง… ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 พลิกล็อกมโหฬาร ถล่มโลก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยเลือกตั้ง ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่สหรัฐฯ ดับฝัน ฮิลลารี คลินตัน

เมื่อ 9พ.ย.59 สำนักข่าวต่างประเทศ รวมทั้งซีเอ็นเอ็น และบีบีซี รายงานผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 ที่ดำเนินไปด้วยความตื่นเต้นสุดระทึกว่า  ในที่สุด ได้เกิดการพลิกล็อกมโหฬาร ชนิดหักปากกา ‘โพล’ แทบทุกสำนักที่สำรวจความนิยมของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี มาโดยตลอด เมื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีจากรัฐนิวยอร์ก วัย 70 ปี ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่และเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกแล้ว หลังจากผลการนับคะแนนเป็นไปอย่างสูสีคู่คี่เบียดกับนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตมาตลอด


ชัยชนะในศึกเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ มาจากการคว้าชัยในรัฐสวิงสเตท หรือรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคใดพรรคหนึ่ง ในหลายรัฐ รวมทั้งในรัฐฟลอริดา โอไฮโอ และนอร์ท แคโรไลนา ทำให้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งของทรัมป์ รวมแล้วได้มากถึง  276 คะแนน ขณะที่ ฮิลลารีได้  218 คะแนน ทำให้ทรัมป์เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง เพราะได้คะแนนคณะเลือกตั้งเกินกว่า 270 คะแนน เนื่องจากเป็นคะแนนที่จำเป็นในการได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ  ถึงแม้การนับคะแนนยังไม่แล้วเสร็จทั้งหมดก็ตาม