CNN รายงานผลไม่ทางการ ทรัมป์ ชนะ ฮิลลารี ใน 2 รัฐ เคนทักกี-อินเดียนา

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ย. 2559 07:21

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/777852

 

มีรายงาน การเริ่มนับผลเลือกตั้ง ใน 3 รัฐ เคนทักกี อินเดียนา และนิวแฮมป์เชียร์ พบ ทรัมป์ คะแนนนำ ฮิลลารี โดย 2 ใน 3 รัฐ เป็นฐานเสียงของรีพับลิกัน …

เวลา 06.53 น. ตามเวลาในประเทศไทย สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานการเปิดหีบนับคะแนนใน 3 รัฐ คือ รัฐเคนทักกี ในรัฐนี้ ถือเป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน ทำให้ โดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนนำ ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต เช่นเดียวกับ รัฐอินเดียนา

ส่วนที่น่าจับตามอง จะอยู่ที่ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่งถือเป็นรัฐสวิงสเตท โดยล่าสุดแม้ ทรัมป์ จะมีคะแนนนำฮิลลารี แต่ยังไม่สามารถวางใจได้

ขณะที่รัฐ เวอร์มอนต์ คะแนนอย่างไม่เป็นทางการตกเป็นของ ฮิลารี นอกจากนี้ อีก 2 รัฐที่เพิ่งปิดหีบไป ได้แก่ รัฐฟลอริดา และจอร์เจีย ซึ่งน่าจับตามองไม่แพ้กัน

ล่าสุด สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ทรัมป์ ชนะ ฮิลลารี แล้วใน 2 รัฐ คือ เคนทักกี และอินดีแอนา และที่น่าจับตาคือ โอไฮโอ และนอร์ท แคโรไลนา

** เกาะติดการเลือกตั้งสหรัฐฯ2016 **

 

 

มะกันเอือม คู่ชิง “ผีเน่าโลงผุ”

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/776912

 

โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน หอมแก้มขอบคุณเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา ที่กล่าวแนะนำเปิดการปราศรัย (ซ้าย) ขณะที่ฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต ขึ้นเวทีด้วยสีหน้าประทับใจ โดยมีบิล คลินตัน สามี ให้กำลังใจอยู่เคียงข้าง (ขวา)

การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา นับเป็นปรากฏการณ์ที่สมควรถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของการเมืองแดนพญาอินทรียุคใหม่

เนื่องจากเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ ที่บรรยากาศ “การแข่งขัน” อันควรจะแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของนักการเมืองที่จะมาบริหารบ้านเมืองภายภาคหน้ากลับกลายเป็นความเลอะเทอะ เต็มไปด้วยการสาดโคลน ใส่ร้ายป้ายสี สร้างความอับอายแก่กระบวนการประชาธิปไตย

แทนที่จะได้ฟังนโยบายกลับต้องมาทนรับน้ำลาย

ลามไปถึงการสร้างบรรยากาศความหวาดกลัวแก่สังคมอเมริกัน ไม่ว่าการจุดกระแสกีดกันชาวมุสลิม หรือการชี้เป้าว่านโยบายของอีกฝ่าย อาจทำให้เสถียรภาพความมั่นคงโลกสั่นคลอน สุ่มเสี่ยงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือกระทั่งการประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง

จนกลายเป็นเรื่อง “เบื่อหน่าย” ในสายตาประชาชน ที่ยิ่งใกล้วันดีเดย์ ยิ่งส่งเสียงหมดศรัทธา ถูกนำมาเป็นประเด็นในสื่อกระแสหลัก ครูไม่กล้ายกตัวอย่างการเลือกตั้งครั้งนี้มาสอนนักเรียน ผลโพลสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน ชี้คนอเมริกันเกินร้อยละ 50 ตกอยู่ในภาวะเครียดจัดจากการเมือง

ชาวบ้านตามท้องถนนบอกพอกันที จบๆไปได้แล้ว

ทนมานานตั้งแต่ศึกเลือกตั้งภายในพรรค จวบจนมาถึงโค้งสุดท้ายวันชี้ชะตา โหมโรงตั้งแต่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ที่เป็นข่าวสัปดาห์เว้นสัปดาห์ เปิดประเด็นโจมตีประชากรชาวเม็กซิกันในสหรัฐฯ ว่าเป็นพวกก่อคดีข่มขืนและเป็นอาชญากร

สร้างความไม่โปร่งใส ลีลาไม่ยอมเผยบัญชีการจ่าย “ภาษี” จนถูกนำเรื่องมาเปิดโปงว่าใช้ช่องกฎหมายเลี่ยงจ่ายภาษีนาน 18 ปี แต่เจ้าตัวกลับชี้แจงหน้าด้านๆ “แสดงว่าผมฉลาดยังไงล่ะ”

ไม่รวมถึงเรื่องฝีปากเราะร้าย หาเรื่องใครไปทั่วทั้งผู้พิพากษา ผู้ประกาศข่าว นางงามจักรวาล ไปถึงครอบครัวมุสลิมอเมริกันที่ลูกพลีชีพรับใช้ชาติ และที่กลายเป็นประเด็นฉาวที่สุดในเดือน ต.ค. ถูกแฉด้วยคลิปวีดิโอเก่าว่าพูดจาไม่ให้เกียรติเพศแม่ “ไม่ต้องพูดอะไรมาก จูบและจับอวัยวะเพศไปเลย”

เล่นเอาพรรครีพับลิกันระส่ำ แตกแยกภายใน แกนนำอย่างพอล ไรอัน ประธานรัฐสภาประกาศตัดหางปล่อยวัด หนำซ้ำมีผู้หญิงอีกอย่างน้อย 10 คนทั้งในและนอกวงการนางแบบ ออกแถลงข่าวว่าถูกทรัมป์ลวนลาม และพยายามใช้เงินซื้อตัว

แม้แต่ภริยาเมลาเนีย ทรัมป์ โมเดลสาวชาวสโลวีเนีย ยังบอบช้ำ โดนกล่าวหาว่าไร้สมองไปลอกสุนทรพจน์ของมิเชล โอบามา สตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯมาทั้งดุ้น และเคยแอบมารับจ็อบในสหรัฐฯ ทั้งที่ยังไม่ได้วีซ่าอนุญาตทำงาน ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย

ส่วน “ฮิลลารี คลินตัน” ตัวแทนพรรคเดโมแครต ถึงจะเป็นนักการเมืองอาชีพที่คร่ำหวอด แต่ใช่จะไร้บาดแผล ถูกเว็บไซต์จอมแฉวิกิลีกส์ เปิดโปงกระบวนการหลังฉาก ได้รับการช่วยเหลือจากนักข่าวซีเอ็นเอ็น ป้อนคำถามให้ก่อนขึ้นโต้วาที

จุดข้อสงสัยความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับมูลนิธิคลินตัน ว่าใช้เป็นหน้าฉากรับเงินบริจาคจากรัฐบาลต่างชาติ เดินสายล็อบบี้กิจการ นัดพบคนวงในของรัฐบาล แลกกับการจ่ายเงินบริจาค หรือเชิญบิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีผู้เป็นสามี ไปกล่าวปาฐกถา

พร้อมปมเผือกร้อน ในอดีตสมัยเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ตามมาหลอกหลอน กรณีใช้เซิร์ฟเวอร์จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ส่วนตัว เสี่ยงต่อการทำให้ข้อมูลลับทางราชการรั่วไหล

ถึงขั้นสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางเอฟบีไอสหรัฐฯ ล็อกเป้าตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยการปิดคดีไปรอบแรกเมื่อเดือน ก.ค. ไม่พบว่าฮิลลารีมีมูลความผิดใดๆ

แต่เพียง 11 วันก่อนประชาชนเข้าคูหา กลับเจอระเบิดลูกสอง

เจมส์ โคเมย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ออกโรงส่งจดหมายชี้แจงต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ ว่าจะเปิดการสอบสวนอีกครั้ง มุ่งเป้าที่ฮูมา อาเบดีน ผู้ช่วยระดับสูงคนสนิทฮิลลารี หลังต้องการตรวจสอบอีเมลกว่า 650,000 ฉบับ ภายในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ที่อาเบดีนใช้ร่วมกับสามีแอนโธนี ไวเนอร์ อดีต ส.ส.รัฐนิวยอร์ก ผู้เคยตกเป็นข่าวอื้อฉาว ส่งข้อความลามกกับเด็กสาววัย 15 ปี

แม้สุดท้ายจะตบหัวลูบหลัง ระบุช่วงโค้งสุดท้ายหาเสียง ไม่พบอะไรในกอไผ่ แต่แรงกระเพื่อมทางการเมืองเกิดขึ้นไปแล้ว กระทบความเชื่อมั่นต่อตัวผู้สมัคร และอาจกลายเป็นเรื่องเช็คบิลย้อนหลัง ผอ.เอฟบีไอเข้าข่ายละเมิดกฎหมายแฮช พ.ศ.2482 เจ้าหน้าที่รัฐระดับบริหารแทรกแซงการเลือกตั้ง.

ทีมข่าวต่างประเทศ

 

วังอังกฤษยัน เจ้าชายแฮร์รีกำลังคบดาราสาว ‘มาร์เคิล’-กริ้วแฟนถูกคุกคาม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ย. 2559 04:40

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/777827

 

แถลงการณ์จากสำนักพระราชวังอังกฤษ ยืนยัน เจ้าชายแฮร์รี กำลังทรงคบหากับมีแกน มาร์เคิล ดาราสาวชาวอเมริกัน พระองค์ยังทรงแสดงความไม่พอพระทัยที่น.ส.มาร์เคิลถูกคุกคามจากสื่อและข้อความต่างๆ ด้วย…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักพระราชวังเคนซิงตันแห่งอังกฤษ ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ 8 พ.ย. ว่า เจ้าชายแฮร์รี รัชทายาทลำดับที่ 5 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงยืนยันแล้วว่า ทรงคบหาดูใจกับน.ส. มีแกน มาร์เคิล ดาราสาวชาวอเมริกัน วัย 35 ปี โดยคบหากันมานาน 2-3 เดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าชายแฮร์รียังแสดงความไม่พอพระทัยที่น.ส.มาร์เคิลตกเป็นเป้าของการสบประมาทและตามรังควานจากสื่อทั้งหลาย

แถลงการณ์ซึ่งออกโดยเลขาธิการฝ่ายการสื่อสารของเจ้าชายแฮร์รีระบุว่า “มีแกน มาร์เคิล แฟนสาวของพระองค์ ตกเป็นเป้าหมายของการสบประมาทและตามรังควานหลายระลอก ซึ่งบางอย่างก็เปิดเผยอย่างมาก เช่นการใส่ความบนหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ในประเทศฉบับหนึ่ง, การแสดงความเห็นในเชิงเหยียดเชื้อชาติเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งความเห็นเชิงเหยียดเพศและเชื้อชาติบนโลกออนไลน์ หรือบทความตามเว็บไซต์ต่างๆ

“เรื่องราวบางอย่างในกลุ่มนี้ถูกซ่อนจากสังคม จากการต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อไม่ให้เรื่องราวหมิ่นประมาทพวกนี้ถูกตีพิมพ์ มารดาของน.ส.มาร์เคิลต้องเผชิญกับกองทัพนักข่าวเพื่อเดินไปประตูหน้าบ้าน, ผู้สื่อข่าวและช่างภาพพยายามเข้าไปในบ้านของเธออย่างผิดกฎหมาย ซึ่งตามด้วยการโทรแจ้งตำรวจ, สื่อบางฉบับพยายามติดสินบนมากมายแฟนเก่าของเธอ และการติดต่อจากเพื่อน, เพื่อนร่วมงาน และบุคคลที่เธอรักที่ถาโถมเข้ามา”

แถลงการณ์ระบุอีกว่า เจ้าชายแฮร์รีทรงเป็นห่วงความปลอดภัยของน.ส.มาร์เคิล และทรงผิดหวังอย่างยิ่งที่พระองค์ไม่สามารถปกป้องเธอได้ มันเริ่มไม่ถูกต้องที่การคบหากับเจ้าชายแฮร์รีเพียง 2-3 เดือนจะทำให้น.ส.มาร์เคิลตกเป็นเป้าหมายของการกระทำเช่นนี้ “พระองค์ทรงรู้ว่าเหล่านักวิจารณ์จะพูดว่า นี่เป็นราคาที่เธอต้องจ่าย และนี่เป็นส่วนหนึ่งของเกม แต่พระองค์ทรงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง นี่ไม่ใช่เกม นี่คือชีวิตของพระองค์และเธอ”

เจ้าชายแฮร์รียังทรงเรียกร้องให้สื่อต่างๆ ที่ปลุกปั่นเรื่องนี้ หยุดการกระทำและพิจารณาตัว ก่อนจะเกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ด้วย

 

เยอรมันรวบ 5 ผู้ต้องสงสัยโยงเครือข่ายเกณฑ์คนป้อนไอซิส

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ย. 2559 03:20

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/777816

 

เจ้าหน้าที่ของเยอรมนีจับกุมผู้ต้องสงสัยเชื่อมโยงกับเครือข่ายเกณฑ์คนให้กลุ่มไอซิส 5 คน โดยหนึ่งในนี้อาจเป็นสมาชิกระดับสูงที่สุดของไอซิสในเยอรมนี…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของประเทศเยอรมนีสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย 5 คนฐานมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (ไอซิส) ได้ในปฏิบัติการบุกตรวจค้นที่อพาร์ตเมนต์หลายแห่งในภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ รวมทั้งที่มัสยิดใกล้เมืองฮันโนเวอร์

หนึ่งในผู้จับกุมเป็นชาวอิรักผู้มีฉายาว่า อาบู วาลาอา หรือ ‘นักเทศไร้หน้า’ ส่วนคนอื่นๆ รวมไปถึง ชายชาวตุรกีวัย 50 ปี, ชายวัย 36 ปี ผู้ถือสัญชาติเยอรมันและเซอร์เบีย กับชายอายุประมาณ 20 ปีจากเยอรมนีกับแคเมอรูน พวกเขาถูกกล่าวหาว่า ช่วยเกณฑ์คนให้กลุ่มไอซิส และให้ความช่วยเหลือสมาชิกใหม่ เดินทางไปร่วมการต่อสู้ในซีเรีย อย่างไรก็ตาม พวกเขาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายใดๆ

สถานีโทรทัศน์ เอ็นดีอาร์ ทีวี ของเยอรมนีระบุชื่อของ อาบู วาลาอา ว่า อาห์หมัด อับเดลอาซิซ เอ. พวกเขายังระบุด้วยว่า ปฏิบัติการตรวจค้นเกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากนาย อานิล โอ นักรบญิฮาดวัย 22 ปี ซึ่งใช้เวลาหลายเดือนอยู่กับกลุ่มไอซิสในซีเรีย ก่อนจะหลบหนีเข้าตุรกี กลับเยอรมนีเมื่อปลายเดือนก.ย. เขายังกล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์ด้วยว่า นายอาบู วาลาอา เป็นสมาชิกไอซิสหมายเลข 1 ในเยอรมนี

ทั้งนี้ นายโธมัส เดอ เมซิแอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแห่งเยอรมนี กล่าวว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ และแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยังตื่นตัวและพร้อมปฏิบัติการ

 

หลังชนฝา! ผู้นำโสมขาวยอมให้สภาเลือกนายกฯ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 9 พ.ย. 2559 02:20

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/777651

 

เมื่อ 8 พ.ย. ประธานาธิบดีปาร์ก กึน-เฮ ของเกาหลีใต้ที่เผชิญเรื่องอื้อฉาวถูกกล่าวหาปล่อยให้เพื่อนแทรกแซงการทำงานและหาผลประโยชน์จนคะแนนนิยมส่วนตัวตกต่ำเป็นประวัติการณ์เหลือแค่ 5% และถูกฝูงชนชุมนุมขับไล่จากเรื่องนี้ กล่าวยอมรับให้รัฐสภาเป็นผู้เลือกคนที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งถือเป็นการยอมอ่อนข้อทางการเมืองครั้งใหญ่ที่แต่เดิมเป็นสิทธิ์และอำนาจของประธานาธิบดีเพื่อเลือกคนที่จะมาทำงานสนองนโยบายในฐานะนายกรัฐมนตรี และน่าจะทำให้ผู้นำหญิงคนแรกแห่งเกาหลีใต้ทำงานยากลำบากขึ้นในช่วง 15 เดือนที่เหลือก่อนหมดวาระ

การตัดสินใจของผู้นำหญิงของเกาหลีใต้ มีขึ้นหลังการหารือกับประธานสมัชชาแห่งชาติหรือรัฐสภาของเกาหลีใต้ ซึ่งหมายความว่าคนที่เธอเสนอไว้เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องถูกเปลี่ยนตัว และผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ต้องได้รับความเห็นชอบจาก ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลก่อน

ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนข้อกล่าวหาของนางชอย ซุน-ซิล ลูกสาวของชอย แต-มิน ผู้นำลัทธิ “โบสถ์ชีวิตนิรันดร์” แทรกแซงกิจการรัฐบาลโดยไม่มีตำแหน่งเป็นทางการและใช้ความสนิทสนมในฐานะเพื่อนของผู้นำเกาหลีใต้แสวงหาผลประโยชน์ ล่าสุดอัยการเข้าตรวจค้นสำนักงานบริษัทซัมซุงในกรุงโซลเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับกรณีซัมซุงถูกกล่าวหาให้การช่วยเหลือทางการเงินโดยมิชอบแก่ลูกสาวของนางชอย ซุน-ซิล แต่อัยการไม่แถลงผลการตรวจค้น.

 

มะกันชนแห่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งปธน. ‘คลินตัน-ทรัมป์’ หย่อนบัตรในนิวยอร์ก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

มะกันชนแห่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งปธน. ‘คลินตัน-ทรัมป์’ หย่อนบัตรในนิวยอร์ก

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/777767

 

ชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งประเทศแห่ออกไปใช้สิทธิ์ในวันอังคาร เช่นเดียวกับนาง ฮิลลารี คลินตัน และนาย โดนัลด์ ทรัมป์ 2 ตัวเก็งผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ขณะที่เหลืออีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงจะปิดหีบแล้ว…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวอเมริกันทั้งประเทศแห่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของพวกเขา ในวันอังคารที่ 8 พ.ย. โดยมีตัวเลือกระหว่างนาง ฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครตผู้คร่ำหวอดในวงการการเมืองสหรัฐฯ มายาวนาน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน มหาเศรษฐีฝีปากกล้า ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่มากมาย

การเลือกตั้งครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นโดยที่โพลสำนักต่างให้นางคลินตันเป็นผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า ขณะที่ทรัมป์ต้องคว้าชัยชนะในรัฐสำคัญส่วนใหญ่ให้ได้ เพื่อให้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) ถึง 270 คะแนน และนอกจากนี้เลือกตั้งประธานาธิบดีแล้ว ยังมีการตั้งสมาชิกวุฒิสภาเป็นเดิมพันด้วย ซึ่งเดโมแครตต้องการเก้าอี้ในสภาสูงเพิ่มอีก 4 ที่นั่งเพื่อครองเสียงข้างมาก หากนางคลินตันชนะเลือกตั้ง แต่หลายฝ่ายคาดว่า รีพับลิกันจะสามารถครองเสียงข้างมากในสภาล่างเอาไว้ได้ต่อไป


สามีภรรยาคลินตันใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงที่หน่วยเลือกตั้งเมืองชัปปากวา ในรัฐนิวยอร์ก

ฮิลลารี คลินตัน และบิล คลินตันผู้เป็นสามี เดินทางไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงที่หน่วยเลือกตั้งในเมืองชัปปากวา ในรัฐนิวยอร์ก หลังเวลา 8 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่นเล็กน้อย ท่ามกลางเสียงเชียร์จากผู้สนับสนุนที่เขามาขอถ่ายรูป “ฉันรู้ดีว่าตำแหน่งนี้มาพร้อมกับความรับผิดชอบขนาดไหน ดังนั้นคนมากมายจึงฝากความหวังที่ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งมีความหมายต่อประเทศของเรา และฉันจะทำงานอย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้ หากฉันโชคดีพอจะได้รับชัยชนะในวันนี้” นางคลินตันกล่าว

ด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งของนางคลินตัน เดินทางไปใช้สิทธิ์ที่เมืองแมนฮัตตัน ในเวลาประมาณ 11 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น โดยเขากล่าวว่า เขาต้องการกระตุ้นสมรรถภาพที่ยังไม่ปรากฏของชาวอเมริกัน “ผมเห็นความหวังและความฝันมากมายที่ไม่เกิดขึ้นจริง แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้ ด้วยความเป็นผู้นำ ด้วยผู้นำที่เหมาะสม” ทรัมป์บอกกับสำนักข่าว ฟ็อกซ์ นิวส์ ผ่านทางโทรศัพท์

ผู้สมัครทั้ง 2 คนยังใช้เวลาในวันอังคารให้สัมภาษณ์ผ่านทางวิทยุหลายต่อหลายครั้ง ในรัฐที่การแข่งขันยังคงสูสี หลังรีบเร่งเดินทางหาเสียงในรัฐแบทเทิลกราวด์หลายรัฐเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา


โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้สิทธิ์ลงคะแนนในเมืองแมนฮัตตัน

ทั้งนี้ก่อนถึงวันดีเดย์ มีชาวอเมริกันเกือบ 45 ล้านคนใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้ว ซึ่งผู้ใช้สิทธิ์หลายคนแสดงความโล่งใจที่การแข่งขันหาเสียงอันดุเดือดที่ดำเนินมานานเกือบ 2 ปี รวมทั้งการทำสงครามน้ำลายและสายข้อกล่าวหาใส่กันระหว่างผู้ลงสมัครเลือกตั้ง จะจบลงเสียที

 

ผู้ดีแนะผู้หญิง พึงสังวรสัญญาณเตือนมะเร็งเต้านม ไม่ใช่แค่ ไม่เจอก้อน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 8 พ.ย. 2559 20:34

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/777571

 

ทีมนักวิจัยจากยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน เสนอผลงานวิจัย พบผู้หญิงป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ราว 1 ใน 6 คน มีอาการอย่างอื่นบ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นมะเร็งเต้านม มากกว่าคลำเจอก้อนเนื้อที่หน้าอก ระบุผู้หญิงควรตระหนักถึงสัญญาณเตือนอื่นๆ ที่บอกให้รู้ว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม เพื่อที่จะได้รีบมาพบแพทย์

เมื่อ 8 พ.ย. สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย ยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน ในอังกฤษ ชี้ ผู้หญิงจำเป็นต้องตระหนักถึงสัญญาณเตือนอื่นๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของหัวนม ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม ไม่ใช่เพียงแค่การคลำพบก้อนเนื้อในทรวงอกเท่านั้น โดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย ยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน ได้เสนอผลงานการวิจัยต่อที่ประชุมสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งชาติ ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ว่า ผู้หญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมประมาณ 1 ใน 6 คน ร่างกายได้เริ่มมีการแสดงอาการอย่างอื่น มากกว่าการคลำเจอก้อนในหน้าอก

แพทย์หญิงคาเรน เคนเนดี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโรคมะเร็งแห่งชาติในอังกฤษ ระบุว่า จากการติดตามอาการของผู้หญิง 2,300 คน ที่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าผู้หญิงที่คลำไม่เจอก้อนเนื้อในหน้าอก ดูเหมือนจะมาพบแพทย์ช้ากว่าผู้หญิงคลำพบก้อนเนื้อ แม้จะมีอาการที่บ่งบอกว่าเป็นมะเร็งเต้านมแล้วก็ตาม โดยแพทย์หญิงคาเรน ชี้ว่า เป็นเพราะผู้คนไม่ได้ระวังหรือตระหนักว่า มะเร็งเต้านมสามารถแสดงออกมาให้เห็นด้วยอาการหลายแบบที่แตกต่างกันไป ไม่ใช่แค่เพียงการคลำพบก้อนเนื้อในหน้าอกเท่านั้น

สำหรับโรคที่คล้ายกับมะเร็งเต้านมนั้น ควรได้รับการวินิจฉัยโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อแผนการรักษาจะได้มีการพัฒนาและเริ่มต้นรักษาผู้ที่วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม   ทั้งนี้ อาการและสัญญานของมะเร็งเต้านมนั้น ได้แก่ พบก้อนเนื้อหรือบริเวณที่หนาผิดปกติในเต้านมอย่างไม่เคยมีมาก่อน, ขนาดและรูปทรงที่เปลี่ยนแปลงไปของเต้านม, มีเลือดออกบริเวณหัวนม, มีก้อนเนื้อหรือบวมบริเวณรักแร้, เป็นแผลบนผิวของเต้านม, เป็นผื่นรอบหัวนม, การเปลี่ยนแปลงของหัวนม เช่น จมลงไปในเต้านม เป็นต้น.

 

สลด ไอซิสสุดโหด! ทหารอิรักบุกโมซูล พบหลุมศพใหญ่ ถูกฆ่าตัดหัวนับร้อย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 8 พ.ย. 2559 18:56

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/777536

 

กองกำลังอิรักสุดสลด ระหว่างยกทัพบุกตีเมืองโมซูลคืนจากไอซิส…พบหลุมขนาดใหญ่ มีศพพลเรือนชาวอิรัก ถูกฆ่าตัดหัวร่วมร้อยศพ ที่เมืองฮัมมาม อัล-อาลิล ชานเมืองโมซูล คาดไม่พ้นฝีมือสุดโหดกลุ่มไอซิส

เมื่อ 8 พ.ย.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์คืบหน้า กองกำลังทหารอิรัก พร้อมด้วยนักรบชาวเคิร์ด เปชเมอร์กา บุกเมืองโมซูล ทางภาคเหนือของอิรัก เพื่อยึดคืนจากการครอบครองของกลุ่มมุสลิมติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส ที่ยึดเมืองโมซูล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ในอิรักมานานกว่า 2 ปี ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 7 พ.ย. กองกำลังทหารอิรักออกแถลงการณ์ พบหลุมศพขนาดใหญ่ อยู่ภายในโรงเรียนเกษตกรรมแห่งหนึ่ง บริเวณชานเมืองโมซูล โดยในหลุมมีศพพลเรือนชาวอิรัก ถูกฆ่าด้วยวิธีตัดศีรษะมากถึงประมาณ 100 ศพ

ขณะที่ ผู้บัญชาการกองกำลังร่วมอิรักเปิดเผยกับนักข่าวว่า กองกำลังทหารอิรักได้พบหลุมศพขนาดใหญ่นี้ ในโรงเรียนเกษตรกรรมแห่งหนึ่งที่เมืองฮัมมาม อัล-อาลิล ชานเมืองโมซูล หลังจากทหารอิรักสามารถโจมตียึดบริเวณพื้นที่ดังกล่าว จากการครอบครองของกลุ่มไอซิส เมื่อวันจันทร์ที่ 7 พ.ย. โดยผู้บัญชาการกองกำลังอิรักยังระบุว่า แก๊งนักรบไอซิสได้ก่ออาชญากรรมต่อพลเมืองของเรา


ทหารอิรักชี้ให้นักข่าวดูบริเวณพบหลุมศพขนาดใหญ่ ที่เมืองฮัมมาม อัล-อาลิล

แถลงการณ์ของกองกำลังอิรัก ยังเผยว่า ทีมทหารชุดปฏิบัติการพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายของอิรักกำลังถูกส่งไปยังบริเวณที่พบหลุมศพขนาดใหญ่ เพื่อตรวจสอบเหตุฆาตกรรม แต่สภาพผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกฆ่าตัดศีรษะ และหลุมศพขนาดใหญ่ กลายเป็น สัญลักษณ์ความโหดเหี้ยมของกลุ่มมุสลิมนิกายสุหนี่กลุ่มนี้ไปเสียแล้ว

ทั้งนี้ กองกำลังตำรวจและทหารอิรักได้บุกเข้าโจมตีเมืองฮัมมาม อัล-อาลิล ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโมซูลไปทางใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร และสามารถเอาชนะกลุ่มไอซิสจนแตกกระเจิงทิ้งเมืองไป โดยเมืองฮัมมาน อัล-อาลิล ถือเป็นเมืองสำคัญริมฝั่งแม่น้ำไทกริส ก่อนจะไปถึงเมืองโมซูล ที่ตอนนี้คาดว่ามีชาวอิรักยังอยู่ในเมืองมากถึง 1.2 ล้านคน.

 

ซัมซุงงานเข้าอีก! อัยการบุกค้นสนง.ใหญ่ อาจให้เงินเพื่อนฉาวปธน. 100ล้าน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 8 พ.ย. 2559 16:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/777362

 

ทีมอัยการเกาหลีใต้บุกเข้าตรวจค้น สำนักงานใหญ่ บ.ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ในกรุงโซล หาหลักฐานอาจมอบเงินนับ 100 ล้าน ให้แก่นางชอย ซุน ซิล เพื่อนสนิทของ ปธน.ปาร์ก กึน เฮ และบุตรสาวของนางชอย เพื่อไปเรียนเป็นนักขี่ม้าที่เยอรมนี

เมื่อ 8 พ.ย. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ทีมอัยการเกาหลีใต้บุกเข้าตรวจค้นสำนักงานใหญ่ของบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ในกรุงโซล เพื่อเสาะหาหลักฐาน เมื่อเช้าวันที่ 8พ.ย. เนื่องจากคณะอัยการกำลังตรวจสอบข้อกล่าวหา บริษัทซัมซุง อาจให้เงินแก่นางชอย ซุน ซิล เพื่อนสนิทของประธานาธิบดีปาร์ก กึน เฮ ที่กำลังเกิดเรื่องอื้อฉาวอยู่ในเวลานี้ รวมทั้งยังให้เงินแก่ บุตรสาวของนางชอยด้วย

คณะอัยการเกาหลีใต้ได้ทวีตข้อความล่าสุดเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีนางชอย ซุน ซิล ที่โดนจับกุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย. พร้อมกับถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง และแทรกแซงกิจการรัฐ โดยใช้สายสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนสนิทของประธานาธิบดีปาร์ก ทั้งที่ไม่มีตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง ว่า คณะอัยการกำลังตรวจสอบข้อกล่าวหาว่าบริษัทซัมซุงอาจจะให้เงินจำนวนมากถึง 2.8 ล้านยูโร หรือ 3.1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 108 ล้านบาท) แก่บริษัทหนึ่งซึ่งนางชอย ร่วมเป็นเจ้าของ รวมทั้ง การให้เงินแก่บุตรสาวของนางชอยไปเรียนเป็นนักขี่ม้าในเยอรมนี


นางชอย ซุน ซิล ขณะมาให้ปากคำแก่คณะอัยการ เมื่อ 3พ.ย. ก่อนจะถูกควบคุมตัวและโดนตั้งข้อหาฉ้อโกง -แทรกแซงกิจการรัฐ

นอกจากนั้น อัยการเกาหลีใต้ยังแจ้งว่า ทีมอัยการยังได้บุกเข้าตรวจค้นสหพันธ์กีฬาขี่ม้าแห่งเกาหลี และสมาคมขี่ม้าเกาหลี รวมถึงได้ตรวจค้นสถานที่อีกหลายแห่งด้วย  อย่างไรก็ตาม ด้านบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ เพียงแต่ยืนยันกับนักข่าวบีบีซีว่า มีทีมอัยการบุกเข้าตรวจค้นสำนักงานใหญ่ของบริษัทจริง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม

 

เลือกตั้งสหรัฐฯ​ เริ่มแล้ว! ฮิลลารี กำลังใจมาอื้อ ออกสตาร์ตสวย ชนะก่อน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 8 พ.ย. 2559 14:28

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/777261

 

เริ่มแล้วเลือกตั้งประเทศสหรัฐฯ…ฮิลลารี คลินตัน เฮก่อน ออกสตาร์ตดีมีชัยไปกว่าครึ่ง…คว้าชัยชนะที่ ดิกซ์วิลล์ น็อทช์ หมู่บ้านเล็กๆ ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ หลังเปิดคูหาเลือกตั้งก่อนเป็นแห่งแรกในสหรัฐฯ ทันทีที่เข็มนาฬิกาชี้เวลาเที่ยงคืน หรือ‘มิดไนต์ โหวต’

เมื่อ 8 พ.ย. 59 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเกาะติดศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า เริ่มขึ้นแล้ว ในหมู่บ้านดิกซ์วิลล์ น็อทช์ หมู่บ้านเล็กๆ ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่งถือเป็นหน่วยเลือกตั้งที่เปิดคูหาเป็นแห่งแรกของสหรัฐฯ เนื่องจากมีการเปิดคูหาเลือกตั้งทันทีที่เข็มนาฬิกาชี้ที่เวลา 24.00 น. หรือเรียกกันว่า มิดไนต์ โหวต และเข้าสู่เวลา 00.01 น. เข้าสู่เช้าวันที่ 8 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น


ผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จากพรรคเดโมแครต เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะก่อนเหนือโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรค เพราะ ฮิลลารี ได้คะแนน 4 คะแนน ส่วน โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ 2 คะแนน นายแกรีย์ จอห์นสัน อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเม็กซิโกตัวแทนพรรคลิเบอร์ทาเรียน ได้ 1 คะแนน