“อกร่องทองเกษตร 1” กับที่มาพันธุ์หวานดก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/592172

โดย นายเกษตร 18 มี.ค. 2559 05:01

 

มะม่วงชนิดนี้เป็นพันธุ์ใหม่ ที่ถูกคัดพันธุ์จากมะม่วงอกร่องทองพันธุ์แท้ดั้งเดิมของไทยโบราณโดยเกษตรกรฝีมือดีหลายวิธีทั้งเพาะเมล็ด ติดตา และเขี่ยเกสร จากนั้นก็นำต้นกล้าที่ได้ไปปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผล ปรากฏว่า มีลักษณะเด่นกว่ามะม่วงอกร่องทองพันธุ์เดิม

หลายจุด เช่น ลำต้นแข็งแรง ขนาดความสูงของต้นเตี้ย และถือเป็นที่สุดได้แก่ติดผลดกมาก ติดผลเป็นพวงตามฤดูกาล โดยธรรมชาติไม่ต้องบังคับด้วยปุ๋ยอะไรเลย เป็นมะม่วงพันธุ์ใหม่แบบถาวรแล้ว จึงถูกตั้งชื่อว่า “อกร่องทองเกษตร 1” ดังกล่าว

รูปทรงของผลสวย เหมือนกับผลของมะม่วงอกร่องทองพันธุ์ดั้งเดิมทุกอย่าง แต่ขนาดของผลจะใหญ่กว่าเล็กน้อย ผลดิบเป็นสีเขียว เมื่อสุกเป็นสีเหลืองทองน่าชมยิ่ง เนื้อสุกเป็นสีเหลือง รสชาติหวานหอมแบบมะม่วงอกร่องทองหรือมะม่วงอกร่องเขียวที่เป็นเอกลักษณ์ของมะม่วงไทยทุกอย่าง วัดความหวานได้ประมาณ 24 องศาบริกซ์ มีเสี้ยนน้อย รับประทานกับข้าวเหนียวมูนหรือข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมาก

มะม่วง “อกร่องทองเกษตร 1” มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับต้นมะม่วงอกร่องทองทั่วไปทุกอย่าง แต่ต้นจะเตี้ยสูงเพียง 3-5 เมตรเท่านั้น ผู้ปลูกสามารถตัดแต่งกิ่งทำให้ต้นเตี้ยลงได้อีกจะไม่ทำให้ผลผลิตต่อต้นลดน้อยลงกว่าเดิมอย่างเด็ดขาด จะติดผลดกเป็นพวงเต็มต้น ไม่ต้องใช้ไม้คํ้ายันต้นเหมือนกับมะม่วงสายพันธุ์อื่น เมื่อต้นเตี้ยจะทำให้ดูแลรักษา และเก็บผลผลิตได้สะดวกขึ้น เป็นมะม่วงปี หรือติดผลดกปีละครั้งตามฤดูกาล ขยายพันธุ์ทั่วไปด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด

ใครต้องการกิ่งตอนด้วยระบบเสียบยอดต้นแท้ของมะม่วง “อกร่องทองเกษตร 1” ติดต่อตรงที่ “คุณประภาส สุภาผล” บ้านเลขที่ 33/4หมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร.08-8533-2299 ราคาสอบถามกันเอง เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลกินในครัวเรือน หรือปลูกหลายๆ ต้นเก็บผลขายเชิงพาณิชย์ได้คุ้มค่ามากครับ.

“นายเกษตร”

“แปะก๊วย” กับสรรพคุณน่ารู้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/591656

โดย นายเกษตร 17 มี.ค. 2559 05:01

 

ผู้อ่านไทยรัฐ จำนวนมากที่เป็นขาประจำคอลัมน์อยากทราบว่า “แปะก๊วย” กินแล้วดีอย่างไร ซึ่งก็เคยแนะนำในคอลัมน์ไปนานแล้วว่า สตรีหลังคลอด จะมีอาการปัสสาวะบ่อย เนื่องจากมดลูกจะหย่อน เป็นแล้วบางครั้งไอหรือจามจะกลั้นไม่อยู่ ปัสสาวะไหลหรือเล็ดได้ ทำให้รู้สึกรำคาญมาก สามารถแก้ได้คือ ให้เอา “แปะก๊วย” 7 เม็ด หรือ 10 เม็ด เผื่อเสีย เอาทั้งเปลือกคั่วไฟให้เปลือกเกรียมเกือบดำ จากนั้นกะเทาะเปลือกออกเอาเนื้อในที่ยังคงมีเยื่อหุ้มอยู่กินก่อนอาหารทุกวัน วันละครั้งจนครบ 10 วัน ทำกินต่ออีกแบบเดิม แต่ครั้งนี้ให้เอาเยื่อหุ้มออกกินจนครบ 10 วันเช่นกัน และ ที่สำคัญก่อนนอนจะต้องขมิบช่องคลอดช่วยด้วย ครั้งละไม่น้อยกว่า 100 ครั้ง อาการปัสสาวะบ่อยจะหายได้ ยังทำให้มดลูกกระชับดีด้วย

แปะก๊วย หรือ GINKGO BILOBA เป็นไม้ยืนต้น สูง 15-20 เมตร ใบคล้ายใบขึ้นฉ่าย ดอกเป็นสีขาวนวล “ผล” รูปกลมรีคล้ายลูกรักบี้ เนื้อในผลเป็นสีเหลือง มีดอกและผลปีละ 2 ครั้ง มีผลแห้งขายทั่วไป ส่วนต้นมีขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับสวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 21 แผง “คุณพร้อมพันธุ์” ราคาสอบถามกันเอง ปลูกได้ในดินทั่วไป

สรรพคุณเฉพาะ ใบของ “แปะก๊วย” ช่วยให้โลหิตหัวใจสมองไหลเวียนดี บำรุงร่างกาย แก้อาการหูอื้อ ปวดศีรษะ นอนหลับไม่สนิท ความจำ เสื่อมขี้หลงขี้ลืมยังไม่ถึงขั้นเป็นอัลไซเมอร์ ชะลอความแก่ เสริมภูมิต้านทานในร่างกาย โดยให้เอาใบแห้งหรือสดต้มกับนํ้า ครั้งละ 3-12 กรัม ดื่มวันละ 2 เวลา เช้ดาเย็นก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ ครั้งละ 1 แก้ว ถ้าเป็นแบบบรรจุห่อสำเร็จ 1 ซอง ต้มได้ 5 ครั้ง สัดส่วน 1 ครั้งต่อนํ้า 3 แก้ว ดื่มประจำจะดีมาก ผลทั้งเปลือก 10 ผล ต้มนํ้าผสมนํ้าตาลทรายแดงเล็กน้อย ดื่มแก้โรคฉี่บ่อยและไตไม่ปกติได้ ดังนั้น ต้น “แปะก๊วย” จึงเหมาะจะปลูกเพื่อใช้ประโยชน์เป็นทั้งอาหารและประโยชน์ทางยาตามที่กล่าวข้างต้นได้คุ้มค่าครับ.

“นายเกษตร”

“บัวรัตติกาล” บานกลางคืนสีสวย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/591022

โดย นายเกษตร 16 มี.ค. 2559 05:01

 

บัวชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ในประเทศไทยนานแล้ว จัดเป็นบัวสายชนิดหนึ่งที่ดอกจะบานสะพรั่งตอนกลางคืนตั้งแต่พลบคํ่าเรื่อยไปจนถึงรุ่งเช้าประมาณสิบโมงเช้าดอกจะหุบลง จึงถูกตั้งชื่อเป็นภาษาไทยว่า “บัวรัตติกาล” หรืออีกชื่อหนึ่ง “บัวราตรี” ซึ่งก็เป็นตัวเดียวกันกับบัวเรดแฟร์ ที่เคยแนะนำในคอลัมน์ไปแล้ว เวลามีดอกบานยามคํ่าคืนถูกแสงจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวงหรือ

แสงไฟสาดส่องกระทบสีสันของกลีบดอกจะดูสวยงามยิ่งนัก

บัวรัตติกาล หรือ บัวเรดแฟร์ อยู่ในวงศ์ MYMPHAEACEAE เป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นใต้ดินคล้ายหัวเผือก ใบเดี่ยวออกสลับลอยเหนือผิวนํ้าเรียงเป็นวงกว้าง แผ่นใบค่อนข้างกลม โคนเว้าลึก ขอบจัก ผิวใบเป็นสีแดงอมม่วงเกือบดำ มีขนนุ่ม ก้านใบหรือเรียกว่าสายบัวเป็นสีแดงเข้ม เมื่อหักจะมีใยสีขาวยาวยืดเรียกว่า “ใยบัว” ที่คนมักจะเอาไปเปรียบเทียบเป็นคำพังเพยว่า “ตัดบัวแล้วยังเหลือเยื่อใย” ซึ่งก็หมายถึง “ตัดไม่ขาด” นั่นเอง

ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ บานเหนือนํ้าเล็กน้อย มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ ด้านหลังกลีบเลี้ยงเป็นสีเขียว ด้านในเป็นสีเดียวกับกลีบดอก ซึ่งกลีบดอกจะมีจำนวนมากเรียงซ้อนกันหลายชั้น เป็นสีแดงเข้มหรือสีแดงอมม่วงตามภาพประกอบคอลัมน์ ดอกมีขนาดใหญ่กว่าดอกบัวสายสายพันธุ์ไทยทั่วไป ดอกจะบานเฉพาะตอนกลางคืนและจะหุบตอนเช้าประมาณสิบโมงเช้าตามที่กล่าวข้างต้น ดอกออกทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยหน่อ

ปัจจุบัน “บัวรัตติกาล” หรือบัวเรดแฟร์ และ “บัวราตรี” มีขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 2 แผง “คุณเกด” ราคาสอบถามกันเอง นิยมปลูกลงกระถางบัวตั้งประดับในที่แจ้ง บำรุงปุ๋ยสูตร 16-16-16 ห่อด้วยกระดาษชำระ 5-7 เม็ด กดลงใต้ดินในกระถางเดือนละครั้งจะทำให้ “บัวรัตติกาล” มีดอกสวยงามยามราตรีครับ.

“นายเกษตร”

“ส้มโอขาวนํ้าผึ้ง” หวานหอมผลขายคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/590465

โดย นายเกษตร 15 มี.ค. 2559 05:01

 

ส้มโอขาวนํ้าผึ้ง เป็นสายพันธุ์ ไม่มีเมล็ดโดยธรรมชาติ นิยมปลูกเฉพาะถิ่นแถบจังหวัดภาคกลางไม่กี่จังหวัดเท่านั้น จึงทำให้มีผลวางขายไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค มีความโดดเด่น คือ รสชาติหวานหอมคล้ายกลิ่นนํ้าผึ้ง กรอบอร่อยมาก กลายเป็นส้มโอ

ยอดนิยมที่ตลาดผลไม้ทั่วไปมีความต้องการสูงมากในปัจจุบัน

ส้มโอขาวนํ้าผึ้ง หรือ PAMELO, SHAD-DOCK-CITRUS MAXIMA (BURMF.) MEER (C.GRANDIS (LINN.) OSBECK.) อยู่ในวงศ์ RUTACEAE เป็นไม้ยืนต้นสูง 5-10 เมตร กิ่งก้านมักมีหนามแหลม ใบเป็นใบประกอบชนิดมีใบย่อยใบเดียว ออกเรียงสลับ ใบย่อยเป็นรูปรีหรือรูปไข่กลับ ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด แต่ละช่อมีดอกย่อยหลายดอก กลีบดอกเป็นสีขาว มีกลิ่นหอมเย็นแบบสะอาดๆ “ผล” รูปทรงกลมหรือรูปไข่กว้าง เปลือกผลสีเขียวแกมเหลือง ไม่มีเมล็ดตามที่กล่าวข้างต้น เนื้อหรือถุงนํ้าเป็นสีเหลืองอ่อน เนื้อไม่แฉะ รสชาติหวานหอมคล้ายกลิ่นของนํ้าผึ้ง กรอบรับประทานอร่อยมาก จึงถูกตั้งชื่อตามกลิ่นหอมของเนื้อว่า “ส้มโอขาวนํ้าผึ้ง” ดังกล่าว ที่สำคัญแต่ละกลีบของถุงนํ้าหรือเนื้อจะมีขนาดใหญ่และให้นํ้าหนักดีกว่ากลีบเนื้อของส้มโอทั่วไปอย่างชัดเจน จึงทำให้ผู้รับประทานชื่นชอบอย่างแพร่หลายอยู่ในเวลานี้ ติดผลปีละครั้งตามฤดูกาล ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง ทาบกิ่งและเสียบยอด

มีต้นขาย เป็นต้นที่ขยายพันธุ์ด้วยระบบเสียบยอด และเป็นต้นแท้ ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 17 แผง “นายดาบสมพร” โทร. 08-6605-4945 ราคาสอบถามกันเอง เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลรับประทานในครัวเรือน หรือปลูกหลายๆ ต้นเพื่อเก็บผลขายเชิงพาณิชย์ได้คุ้มค่ามาก เนื่องจากตลาดผลไม้ต้องการสูงและมีราคาเฉพาะเนื้อกิโลกรัมไม่ตํ่ากว่า 100-150 บาทขึ้นครับ.

“นายเกษตร”

“ดีปลี” กับวิธีแก้โรคภูมิแพ้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/590102

โดย นายเกษตร 14 มี.ค. 2559 05:01

 

สมุนไพรแก้โรคภูมิแพ้ มีหลายอย่าง แต่ “ดีปลี” ที่แนะนำในวันนี้ ใช้ได้ผลดีระดับหนึ่งกับคนทุกธาตุ โดยให้เอาดอก “ดีปลี”
30 กรัม หัวตะไคร้แกง ยาว 2 นิ้วฟุต 30 กรัม ขิง แก่หรืออ่อนก็ได้ 30 กรัม ทั้งหมดแบบแห้ง และใบต้นหนุมานประสานกาย จำนวน 40 ใบย่อยแบบสด นำทั้งหมดต้มรวมกันในน้ำมากหน่อยจนเดือดดื่มก่อนอาหารครึ่งแก้วเช้าเย็น ดื่มไปเรื่อยๆ อาการโรคภูมิแพ้ หลอดลมอักเสบ มีเสมหะเยอะจะดีขึ้นให้ต้มดื่มจนกว่าจะหาย

ดีปลี หรือ LONG PEPPER, PIPER RETROFLACTUM VAHL. อยู่ในวงศ์ PIPERA-CEAE สรรพคุณเฉพาะ ผลแก่จัดแต่ยังไม่สุกตากแห้งใช้เป็นยาขับลม บำรุงธาตุ แก้ท้องเสีย ขับรกหลังคลอด โดยให้ใช้ผล 10-15 ผล ต้มน้ำดื่มเป็นยา ช่วยแก้ไอด้วย ผลแห้งครึ่งผลฝนกับน้ำมะนาวเกลือป่นเล็กน้อยกวาดคอ หรือจิบบ่อยๆ มีฤทธิ์ขับลม แก้ไอได้ดีมาก

ครับ หนังสือ “สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก” เล่มที่ 5 ของ “นายเกษตร” พิมพ์จำนวนจำกัดหมดแล้วหมดเลย ไม่วางขายที่ไหน ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งกลับเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติซื้อสั่งจ่าย “คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์” ตู้ ปณ.48 ปณ.สามแยกลาดพร้าว กทม. 10901 หรือสอบถามผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยาแก้ริดสีดวงจมูก น้ำมูกไหล มีกลิ่นเหม็น, น้ำมัน 12 ประดง ใช้ภายนอกฆ่าเชื้อสมานแผล แก้เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน ชันนะตุ แพ้เหงื่อ, ข่อยขัดรักแร้ ดับกลิ่นเต่า รักแร้หายดำ คล้ำ, น้ำมันงาบริสุทธิ์ ทาผิวหมักผม, ว่านชักมดลูกแคปซูล ช่วยให้มดลูกกระชับ แก้คาวปลา กลิ่นเหม็นในสตรี แก้ต่อมลูกหมากอักเสบ ไส้เลื่อนในบุรุษ, กระเทียมโทนแคปซูล สูตรแก้หอบหืด แก้ถุงลมโป่งพอง, ยาลดเบาหวานแคปซูล, ยาบำรุงไตแคปซูล ไม่ใช่รักษาไต, ดีบัวแคปซูล ขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองหัวใจ, ตรีผลาแคปซูล ลดไขมันในเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์, ยาต้มคลายเส้นไม้เท้าเฒ่าอาลี แก้ปวดเมื่อย แก้เกาต์ ลดเบาหวาน, คอลลาเจนบริสุทธิ์ เป็นผงทาหน้า ช่วยให้ผิวหน้ากระชับ, ครีมโลดทนง รักษาสิวฝ้ารูขุมขนตีบลง โทร.0–2275–2692 ครับ.

“นายเกษตร”

“สะบ้ามอญ” สรรพคุณดี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/588671

โดย นายเกษตร 11 มี.ค. 2559 05:01

 

ในยุคสมัยก่อน ผู้เฒ่าผู้แก่มีวิธีรักษาเส้นผมให้แข็งแรงและดกดำเป็นเงางามอยู่เสมอด้วยธรรมชาติ คือ เอาใบกิ่งก้านที่ยังไม่แก่ของ “สะบ้ามอญ” มากน้อยตามต้องการใช้ในแต่ละครั้ง ทุบพอชํ้าแล้วผึ่งลมให้หมาดนำไปตีกับนํ้าในกะละมังจะเกิดฟองลื่นเหมือนฟองสบู่ จากนั้นเอานํ้าดังกล่าวชโลมเส้นผมให้ทั่ว ขยี้เกาเหมือนการสระผมจนพอใจแล้วล้างนํ้าออก จะทำกี่ครั้งได้ตามใจชอบ เมื่อใช้ผ้าเช็ดเส้นผมจะพบว่ามีกลิ่นหอมเป็นธรรมชาติ เส้นผมแข็งแรงดกดำเป็นเงางามไม่แตกปลายและไม่เป็นรังแคทำให้คันหนังศีรษะ ลำต้นกิ่งก้านยังใช้เป็นยาขับพยาธิผิวหนังโดยใช้ภายนอกได้อีก เมล็ดสุมไฟจนเป็นเถ้ากินแก้พิษไข้ดีระดับหนึ่ง

สะบ้ามอญ หรือ ENTADA SCANDENS, CENTH. อยู่ในวงศ์ MIMOSEAE เป็นไม้เถาเลื้อย ลำต้นแบนและมักบิดเป็นเกลียว ดอกเป็นช่อกระจุกสีขาวอมเหลือง “ผล” เป็นฝักยาว มีเมล็ด 5-7 เมล็ด เปลือกหุ้มเมล็ดสีแดงเข้ม รูปทรงคล้ายสะบ้าหัวเข่า ในเทศกาลสงกรานต์ชาวมอญนิยมเอาเมล็ดไปทอยเรียกว่าเล่น “สะบ้า” จึงถูกเรียกชื่อว่า “สะบ้ามอญ” พบขึ้นตามป่าราบทุกภาคของประเทศไทย

สะบ้ามีอีก 3 ชนิด แต่ละชนิดเป็นไม้เถาเลื้อยเหมือนกัน แตกต่างเพียงเมล็ดและฝักคือ “สะบ้าลาย” มีเมล็ด 2-3 เมล็ด ไม่นิยมใช้เป็นสมุนไพร ชนิดที่ 2 คือ “สะบ้าดำ” มี 7-8 เมล็ด ขนาดของเมล็ดและฝักเล็กกว่า “สะบ้ามอญ” นิยมเอาเมล็ดเป็นยาทาแก้กลากเกลื้อน หิดเหา ผื่นคัน โรคผิวหนังต่างๆ และสุดท้ายได้แก่ “สะบ้าเลือด” เปลือกเมล็ดจะแข็งมาก นิยมเอาไปหุงเป็นนํ้ามันทาแก้กลากเกลื้อนดีมาก

ปัจจุบันต้น “สะบ้ามอญ” หายากแล้ว ใครต้องการต้นไปปลูกต้องเดินสอบถามตามแผงขายไม้ไทยโบราณ ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ ให้ผู้ขายช่วยจัดหาให้ ส่วนเมล็ดของ “สะบ้ามอญ” ตามภาพประกอบคอลัมน์ มีขายที่บริเวณโครงการ 24 แผง “คุณหล้า-คุณโอม” สามารถนำเมล็ดไปเพาะเป็นต้นได้ ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“จำปาดะสีทอง” กับที่มาพันธุ์ดกปลูกคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/588170

โดย นายเกษตร 10 มี.ค. 2559 05:01

 

จำปาดะสีทอง เกิดจากการพัฒนาพันธุ์ของจำปาดะดั้งเดิมอยู่หลายวิธีจนได้พันธุ์ใหม่ มีความโดดเด่นกว่าจำปาดะดั้งเดิมคือ ผลใหญ่ขึ้น ติดผลดกทั้งปี เป็นจำปาดะพันธุ์เบา ติดผลง่ายหลังปลูก 3 ปี เนื้อสุกเป็นสีเหลืองเข้ม ที่สำคัญสามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย เป็นจำปาดะพันธุ์ใหม่ที่ได้ปลูกทดสอบความนิ่งของสายพันธุ์แล้วทุกอย่างยังคงที่ จึงถูกตั้งชื่อว่า “จำปาดะสีทอง” ดังกล่าว

จำปาดะสีทอง หรือ ARTOCARPUSINTEGER MERR อยู่ในวงศ์ MORACEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 7-10 เมตร ใบเดี่ยวออกเรียงสลับ ปลายแหลมโคนมน ดอกและผลออกตามลำต้นเหมือนขนุน “ผล” รูปกลมยาว ก้านผลรวมก้านเดียว ผิวผลเป็นตุ่มตื้นๆคล้ายผลขนุน ขนาดผลเล็กกว่าผลขนุน แต่จะใหญ่กว่าผลจำปาดะดั้งเดิม ผลสุกมีกลิ่นหอมแรง เนื้อในเป็นสีเหลืองเข้ม เวลาติดผลจะดกเป็นกระจุก 3—5 ผล ตามภาพประกอบคอลัมน์ เนื้อสุกค่อนข้างแฉะโดยธรรมชาติ รสชาติหวานหอม ติดผลดกสม่ำเสมอแบบต่อเนื่องตลอดทั้งปี ขยายพันธุ์ทั่วไปด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง เสียบยอด และติดตา

ทางอาหาร เนื้อสุกรสชาติหวานหอมนิยมเอาไปชุบแป้งทอดเป็นขนม “จำปาดะ” มีกลิ่นหอมแรงรับประทานอร่อยมาก ซึ่งในปัจจุบันนิยมรับประทานทั่วไป โดยเฉพาะชาวมาเลเซียและอินโดนีเซียชื่นชอบยิ่งนัก เมล็ด ยังนำไปหมกขี้เถ้าใต้กองไฟทำเป็นเครื่องแกงมัสมั่น แกงไตปลา และแกงกระทะ ชาวมุสลิมทั่วโลกนิยมรับประทานอย่างกว้างขวาง

ใคร ต้องการต้นพันธุ์ของ “จำปาดะสีทอง” เป็นต้นแท้ที่ขยายพันธุ์ด้วยระบบติดตา ติดต่อ “คุณประภาส สุภาผล” บ้านเลขที่ 33/4 หมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร.08-8533-2299 มีรากแก้วดีทุกต้น ปลูกแล้วโตเร็วติดผลง่าย เติบโตได้ทุกพื้นที่ เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลกินในครัวเรือนและเก็บผลขายได้คุ้มค่ามาก ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“ฝ้ายแดง” กับสรรพคุณน่ารู้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/587604

โดย นายเกษตร 9 มี.ค. 2559 05:01

 

ฝ้ายแดง มีถิ่นกำเนิดแถบเอเชียเขตร้อนกับกึ่งร้อนทั่วไปและในประเทศแอฟริกา ประเทศไทยนิยมปลูกตามบ้านตามวัดมาแต่โบราณ เพื่อชมความสวยงามของสีดอก และเพื่อใช้ประโยชน์เป็นสมุนไพรเท่านั้น โดยตำรายาแผนไทยระบุว่า รากและเปลือกของรากตากแห้งบดเป็นผงชงกับนํ้าเดือดดื่มเป็นยาช่วยขับปัสสาวะ บีบมดลูกขับนํ้าคาวปลาในสตรี นอกจากนั้นใบสดแก่หรืออ่อนตามแต่จะหาได้ผสมตำรับยา เช่น ยาเขียว เป็นยาแก้ไข้ลดความร้อนของร่างกายได้ เมล็ดสดหรือตากแห้งบดเป็นผงกินรักษาโรคหนองในดีมาก แต่มีข้อห้ามคือ สตรีมีครรภ์ห้ามกินอย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้แท้งลูกได้

ฝ้ายแดง หรือ GOSSYPIUM ARBOREUM LINN. ชื่อสามัญ CEYLON COTTON, CHINESE COTTON, TREE COTTON อยู่ในวงศ์ MALVACEAE เป็นไม้พุ่ม สูง 2.5-3.5 เมตร ลำต้นเป็นสีนํ้าตาลแดง ใบเดี่ยวออกเรียงสลับ รูปไข่หรือค่อนข้างกลม ขอบใบหยักลึก 3-7 แฉก ปลายแหลมหรือมน โคนเว้า ก้านใบและเส้นใบเป็นสีแดงคลํ้า ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆตามซอกใบ ใกล้ปลายยอดมีใบประดับ 3 ใบ เป็นรูปสามเหลี่ยมซ้อนกัน กลีบเลี้ยง 5 แฉก เชื่อมกันเป็นรูปถ้วย กลีบดอก 5 กลีบ เป็นสีแดงเข้มหรือสีเหลืองอ่อน ใจกลางดอกเป็นสีม่วงแดง มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ก้านเกสรเชื่อมกันเป็นหลอดล้อมรอบเกสรตัวเมีย ปลายเกสรตัวเมียแยกเป็น 5 แฉก “ผล” กลม หัวท้ายแหลมเป็นสีเขียวและสีดำ ผลแก่จะแตกอ้า มีเมล็ดจำนวนมาก ปลายเมล็ดจะมีปุยสีขาวคล้ายนุ่นติดอยู่ ดอกออกช่วงเดือนพฤษภาคม ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 21 แผง “คุณพร้อมพันธุ์” ราคาสอบถามกันเอง ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ตามที่กล่าวข้างต้นคุ้มค่ามากครับ.

“นายเกษตร”

“มะนาวแป้นดกพิเศษ” กับที่มาพันธุ์ปลูกคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/587119

โดย นายเกษตร 8 มี.ค. 2559 05:01

 

มะนาวแป้นดกพิเศษ

ปัจจุบัน ผู้ปลูกไม้ผลส่วนใหญ่ ต้องการทราบประวัติความเป็นมาของสายพันธุ์ไม้ผลแต่ละต้น ก่อนตัดสินใจซื้อไปปลูก ซึ่ง “มะนาวแป้นดกพิเศษ” ก็เช่นเดียวกัน เกิดจากการเขี่ยเกสรผสมระหว่าง มะนาวแป้นพิจิตร 1 ที่มีความทนต่อโรคแมลงหรือโรคแคงเกอร์ได้สูง และมีขนาดของผลใหญ่ ติดผลดกไม่ขาดต้นเกือบตลอดปี เป็นธรรมชาติของสายพันธุ์ กับมะนาวแป้นรำไพ ที่มีน้ำรสเปรี้ยวจัด น้ำมีกลิ่นหอมแรงเฉพาะตัว จากนั้นก็นำ เอาเมล็ดที่ได้จากผลที่เขี่ยเกสรผสมไปเพาะเป็นต้นกล้าจำนวนมากแล้วแยกต้นปลูกจนต้นโตมีดอกและติดผล ปรากฏว่า แต่ละต้นจะมีขนาดผลใหญ่กว่าพันธุ์พ่อและพันธุ์แม่อย่างชัดเจน บางต้นติดผลดกมากเป็นพวง 3-5 ผล เปลือกผลบาง ผ่าบีบหรือคั้นน้ำให้น้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัด มีเมล็ดน้อย 3-5 เมล็ดต่อผล ที่สำคัญ แต่ละต้นมีความทนทานต่อโรคแมลงหรือโรคแคง– เกอร์ได้ดีมาก ติดผลดกสม่ำเสมอเหมือนกับมะนาวพันธุ์พ่อและพันธุ์แม่ทุกอย่าง ผู้เขี่ยเกสรผสมเคยคัดเอาต้นดีที่สุดไปปลูกเลี้ยงทดสอบความนิ่งของสายพันธุ์อยู่เป็นเวลานานและหลายวิธี ทุกอย่างยังคงที่ เป็นมะนาวกลายพันธุ์ถาวรแล้ว จึงตั้งชื่อว่า “มะนาวแป้นดกพิเศษ” ดังกล่าว

มะนาวแป้นดกพิเศษ เป็นไม้พุ่ม สูง 2-4 เมตร กิ่งก้านมีหนามแหลม โดยเฉพาะกิ่งอ่อน ใบเป็นใบประกอบชนิดมีใบย่อยเพียงใบเดียว ใบเป็นรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนมน ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด กลีบดอกเป็นสีขาวสดใส ดอกมีกลิ่นหอมแบบสะอาดๆ ตามแบบฉบับของดอกมะนาวทั่วไป “ผล” รูปกลมแป้นหรือกลมรีเล็กน้อย ติดผลดกเป็นพวง เปลือกผลบาง ผ่าบีบคั้นเอาน้ำได้ง่ายและให้น้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัดมีกลิ่นหอมตามที่กล่าวข้างต้นเหมือนน้ำมะนาวแป้นทั่วไป 1 ผล มีเมล็ด 3-5 เมล็ด ติดผลดกอย่างสม่ำเสมอเกือบตลอดทั้งปี ขยายพันธุ์ทั่วไปด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด

มีต้นแท้ด้วยระบบเสียบยอดขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ โครงการ 17 แผง “นายดาบสมพร” โทร.08–6605–4945 ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“ถั่วแดง” บำรุงหัวใจกระดูก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/586766

โดย นายเกษตร 7 มี.ค. 2559 05:01

 

สูตรดังกล่าว ให้เอา “ถั่วแดง” ที่มีวางขายทั่วไป หนัก 2 ขีด ล้างน้ำให้สะอาด ต้มกับน้ำครึ่งลิตรจนเดือด เนื้อถั่วสุกและเปื่อย ใส่ “โอวทึ้ง” ลงไปเล็กน้อยพอมีรสหวาน หรือหา “โอวทึ้ง” ไม่ได้ใช้น้ำตาลทรายแดงแทนก็ได้ จากนั้นกินทั้งน้ำและเนื้อจนหมด วันละครั้ง ต้มกินต่อเนื่องเรื่อยๆได้ไม่มีอันตรายอะไร จะช่วยบำรุงเลือดทำให้หัวใจแข็งแรง และที่สำคัญหัวใจจะไม่โตอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันโรคหัวใจโตมีคนเป็นกันเยอะ

ถั่วแดง หรือ PHASECOLUS VULGARS L. อยู่ในวงศ์ FABACEAE สรรพคุณทั่วไป ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดสมองปริแตกได้ ช่วยขับพิษในร่างกาย บำรุงลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร ลดอาการบวมน้ำ บรรเทาอาการปวดบวมหรือปวดตามข้อต่อต่างๆ มีแคลเซียมสูง กินประจำบำรุงกระดูกและฟัน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและอื่นๆอีกเยอะ

ครับ หนังสือ “สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก” เล่มที่ 5 ของ “นายเกษตร” สี่สีทั้งเล่ม พิมพ์จำนวนจำกัดหมดแล้วหมดเลย ไม่วางขายที่ไหน ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งกลับเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติซื้อสั่งจ่าย “คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์” ตู้ ปณ.48 ปณฝ.สามแยกลาดพร้าว กทม. 10901 หรือสอบถามผลิตภัณฑ์สมุนไพร ดีบัวแคปซูล ขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองหัวใจ, ตรีผลาแคปซูล ลดไขมันในเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์, แห้วหมูแคปซูล ผสมสมุนไพรหลายอย่าง ลดความดันโลหิต, กระเทียมโทนแคปซูล แก้หอบหืด แก้ถุงลมโป่งพอง, เพชรสังฆาตแคปซูล แก้ริดสีดวงทวาร, น้ำมัน 12 ประดง ใช้ภายนอกฆ่าเชื้อสมานแผล แก้เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน แพ้เหงื่อ, ยาแก้ริดสีดวงจมูกแคปซูล แก้น้ำมูกไหล มีกลิ่นเหม็น, น้ำมันงาบริสุทธิ์ ทาผิวหมักผม, ข่อยขัดรักแร้ดับกลิ่นเต่า รักแร้หายคล้ำ, ยาต้มคลายเส้นไม้เท้าเฒ่าอาลี แก้ปวดเมื่อย แก้เกาต์ ลดเบาหวาน, คอลลาเจนบริสุทธิ์ เป็นผงทาหน้า ช่วยให้ผิวหน้ากระชับ, ครีมโลดทนง รักษาสิวฝ้ารูขุมขนตีบลง, โลชั่นบำรุงผิว และอื่นๆ โทร. 0–2275–2692 ครับ.

“นายเกษตร”