“มะนาวแป้นสุขประเสริฐ” ดกทั้งปีผู้ปลูกชอบ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/585415

โดย นายเกษตร 4 มี.ค. 2559 05:01

 

มะนาวชนิดนี้ มีจุดเด่นเป็นพันธุ์ใหม่และเป็นพันธุ์เบา ปลูกแล้วต้นโตเร็ว ติดผลง่าย ผลดกเต็มต้นตลอดทั้งปี เป็นสายพันธุ์ที่มีความทนทานต่อโรคแมลงหรือโรคแคงเกอร์ที่ชอบลงเกาะกินต้นมะนาวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย จึงทำให้ผู้ปลูกสอบถามกันเยอะว่า จะหาซื้อต้นพันธุ์ไปปลูกได้จากแหล่งไหน เพราะไปซื้อที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ที่เปิดขายเฉพาะไม้ดอกไม้ผลเพียงอย่างเดียวทุกวันพุธ-พฤหัสฯ แล้วไม่มี ทั้งนี้เนื่องมาจากผู้ขายต้นพันธุ์ไม่มีแผงขายในตลาดดังกล่าว ส่วนใหญ่จะเร่ขายตามงานไม้ดอกไม้ผลที่จัดขึ้นทั่วไปเท่านั้น จึงตัดสินใจแนะนำและสนองความต้องการของผู้อ่านอีกครั้งคงไม่ว่ากัน

มะนาวแป้นสุขประเสริฐ เกิดจากการเขี่ยเกสรผสมระหว่างมะนาวแป้นพิจิตร 1 กับมะนาวแป้นแม่ลูกดก จากนั้นก็เอาเมล็ดที่ได้จากผลของการผสมเกสรไปเพาะเป็นต้นกล้าจำนวนหลายต้นแล้วปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผล ปรากฏว่าสีของดอกเป็นสีขาวอมม่วงแตกต่างจากสีของดอกมะนาวทั่วไปที่เป็นสีขาวล้วน รูปทรงของผลกลมแป้น เปลือกผลบาง ผ่าบีบคั้นนํ้าให้นํ้าเยอะ รสเปรี้ยวจัดมีกลิ่นหอมแรง ไม่มีเมล็ด ต้นทนต่อโรคแมลงหรือโรคแคงเกอร์สูง ผู้เขี่ยเกสรผสมเชื่อว่าเป็นมะนาวพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์แบบถาวรแล้ว จึงตั้งชื่อว่า “มะนาวแป้นสุขประเสริฐ” ดังกล่าว กำลังเป็นที่นิยมของผู้ปลูกอย่างแพร่หลายอยู่ในเวลานี้

มะนาวแป้นสุขประเสริฐ มีลักษณะทางพฤษกศาสตร์เหมือนกับมะนาวแป้นทั่วไปทุกอย่าง ดอกเป็นสีขาวอมม่วง มีกลิ่นหอม “ผล” กลมแป้น เปลือกผลบาง ไม่มีเมล็ด ให้นํ้าเยอะ รสเปรี้ยวจัด มีกลิ่นหอมแรง เป็นพันธุ์เบาติดผลง่ายดกทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยการติดตากับตอส้มโอ

ใครต้องการ ต้นพันธุ์แท้ติดต่อ “สวนฑณศา-คุณไก่” 132/2 หมู่ 7 ต.โคกไม้ลาย อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โทร. 09-4956-5323, 08-7753-5849 และที่งานกาชาดหน้าศาลากลาง จ.ราชบุรี วันที่ 4 มี.ค.-13 มี.ค.59 ร้าน “สวนฑณศาพันธุ์ไม้” ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“ตำลึงตัวผู้” หัวสดดียอดกินท้องเสีย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/584874

โดย นายเกษตร 3 มี.ค. 2559 05:01

 

ตำลึงตัวผู้ เป็นไม้ที่พบขึ้นแพร่หลายตามที่ราบบนดอยสูงทางภาคเหนือของประเทศไทย ชาวเขาและคนในท้องถิ่นรู้จัก “ตำลึงตัวผู้” เป็นอย่างดี เนื่องจากหัวสดมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรชั้นดี โดยให้เอาไปฝานเป็นแว่นบางๆ หรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตำจนละเอียดแล้วใช้เนื้อไปปิดบริเวณแผลสดและบริเวณที่เกิดอาการปวดจากการฟกบวม ทำให้แผลสดแห้งหายได้เร็วขึ้น และอาการปวดเพราะฟกบวมจะยุบหายได้ ซึ่งในยุคนั้นนิยมกันอย่างกว้างขวาง เพราะได้ผลดีระดับหนึ่ง ส่วนใบ หรือยอดอ่อนของ “ตำลึงตัวผู้” สามารถกินเป็นอาหารได้เหมือนกับตำลึงตัวเมียที่มีวางขายทั่วไปตามตลาดสดทุกอย่าง แต่ไม่นิยมรับประทาน เนื่องจากใบและยอดอ่อนของ “ตำลึงตัวผู้” กินแล้วจะทำให้เกิดอาการท้องระบายอย่างรุนแรงหรือท้องเสียนั่นเอง เลยทำให้ “ตำลึงตัวผู้” ในปัจจุบันนิยมปลูกเป็นไม้ประดับประเภทโชว์ความสวยงามของหัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปลูกไม้แคระหรือบอนไซจะชื่นชอบมาก

ตำลึงตัวผู้ หรือ SOLENA AMPLEXICAULIS (LAM.) GANDHI. อยู่ในวงศ์ CUCURBITACEAE เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็ง มีหัวหรือเหง้าขนาดใหญ่ใต้ดิน ตามภาพประกอบคอลัมน์ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับรูปค่อนข้างกลมเป็น 5 เหลี่ยม หรือเว้าลึกเป็น 3-5 แฉก โคนเว้าเป็นรูปหัวใจเหมือนกับใบของตำลึงตัวเมีย มีมือเกาะออกตามข้อเช่นกัน ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ หรือเป็นช่อ 2-3 ดอก ตามซอกใบ ลักษณะดอกเป็นดอกแยกเพศ โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็นกลีบดอก 5 กลีบ สีขาวสดใส “ผล” รูปทรงกลมยาวหรือรูปทรงกระบอก ผลอ่อนสีเขียว เมื่อผลสุกเป็นสีแดงหรือแดงอมม่วง ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก ดอกออกทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 24 แผง “คุณหล้า-คุณโอม” ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“แซนด์ดอลล่าร์แคคตัส” ดอกสวยทนแดดน้อย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/584389

โดย นายเกษตร 2 มี.ค. 2559 05:01

 

ในประเทศไทย รู้จักกระบองเพชรชนิดนี้ในชื่อ SAND DOLLAR CACTUS และมักจะเรียกกันสั้นๆว่า “แซนด์” เฉยๆ ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ในประเทศไทยนานแล้ว ซึ่งในตอนแรกที่นำเข้าใหม่ๆ ราคาจะแพงมาก ปัจจุบันราคาตํ่าลงตามกาลเวลาและทราบว่ามีการพัฒนา “แซนด์” ให้มีรูปทรงของต้นและสีสันของต้นสวยงามขึ้นหลากหลายรูปแบบจนทำให้ “แซนด์” ครองใจผู้ปลูกกระบองเพชรเรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้

แซนด์ดอลล่าร์แคคตัส หรือ ASTERIAS ASTROPHYTUM ชื่อสามัญ SAND DOLLAR CACTUS, SILVER CACTUS, SEAUREHIN อยู่ในวงศ์ NOTOCACTEAE หรือ “ทรายดอลล่าร์กระบองเพชร” และ “เม่นทะเลกระบองเพชร” มีถิ่นกำเนิดจากรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา และบางพื้นที่ของประเทศเม็กซิโก ขึ้นเป็นต้นเดี่ยว รูปทรงต้นกลมแป้น เส้นผ่าศูนย์กลางต้นโตเต็มที่ประมาณ 20 ซม. ลำต้นเป็นสัน 5-12 สัน ผิวต้นเกลี้ยงมีเกล็ดสีขาวกระจายทั่ว ตุ่มหนามเรียงตัวอยู่บนสันอย่างเป็นระเบียบ ไม่มีหนาม มีขนสั้นสีขาวหรือสีนํ้าตาลเทา ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ บริเวณยอดของต้น เป็นรูปกรวยหรือรูปแตร กลีบดอกเป็นสีเหลืองสด โคนกลีบดอกเป็นสีแดงอมส้มหรือสีแดงเข้ม เวลามีดอกบานพร้อมกันหลายๆดอกจะดูสวยงามมาก “ผล” รูปทรงกลม ผิวเรียบ เมื่อผลแก่หรือสุกเป็นสีแดงปนเทา ภายในมีหลายเมล็ด ดอกออกเกือบทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

มีต้นขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ แผง “คุณตะวัน” ตรงกันข้ามระหว่างโครงการ 13-15 โทร.08-5682-4645 ราคาสอบถามกันเอง การปลูก “แซนด์ดอลล่าร์แคคตัส” เป็นกระบอง เพชรสายพันธุ์ที่มีความทนทานต่อแสงแดดได้น้อยมาก ดังนั้นจึงต้องพรางแสงแดดให้ รดนํ้าเล็กน้อย 7-10 วันครั้ง บำรุงปุ๋ยละลายช้าทุก 3 เดือน หลังปลูก 1 ปี จะมีดอกได้เรื่อยๆแบบไม่ขาดต้นดูงดงามมากครับ.

“นายเกษตร”

“มะม่วงอกร่องทอง” ราคาดีดกหวานหอม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/583909

โดย นายเกษตร 1 มี.ค. 2559 05:01

 

มะม่วงอกร่องทอง แตกต่างกับมะม่วงอกร่องเขียวคือ ผลสุกของ “มะม่วงอกร่องทอง” จะเป็นสีเหลืองตลอดทั้งผลสวยงามน่าชมมาก รสชาติหวานหอมเหมือนกับมะม่วงอกร่องเขียวทุกอย่าง จึงเป็นที่มาของชื่อว่า “มะม่วงอกร่องทอง” ดังกล่าว ส่วนสีของผลสุกมะม่วงอกร่องเขียวจะเป็นสีเขียวปนสีเหลืองเล็กน้อย ขนาดของผล “มะม่วงอกร่องทอง” จะใหญ่กว่าผลของมะม่วงอกร่องเขียวอย่างชัดเจน เนื้อสุกมีเสี้ยนน้อยกว่า เนื้อเหนียวไม่เละแม้สุกงอม รสชาติหวานหอมเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อสุกมะม่วงอกร่องเช่นเดียวกันทุกอย่าง

มะม่วงอกร่องทอง เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่รอบกิ่งก้านบริเวณปลายยอด ใบเป็นรูปรีแกมรูปขอบขนานถึงรูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนมน ขนาดของใบจะเรียวเล็กกว่าใบมะม่วงสายพันธุ์อื่น ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก ดอกเป็นสีขาวนวล มีกลิ่นหอม “ผล” รูปกลมรีเหมือนกับผลของมะม่วงอกร่องทั่วไปทุกอย่าง แต่ขนาดของผลจะใหญ่กว่าผลของมะม่วงอกร่องเขียวอย่างชัดเจนตามที่กล่าวข้างต้น ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อผลสุกจะเป็นสีเหลืองตลอดทั้งผล แตกต่างจากสีของมะม่วงอกร่องเขียวที่จะเป็นสีเขียวปนเหลืองเล็กน้อย เนื้อสุกเป็นสีเหลือง เหนียวไม่เละแม้สุกงอม มีเสี้ยนน้อยกว่ามะม่วงอกร่องเขียว เมล็ดลีบบาง รสชาติหวานหอมรับประทานกับข้าวเหนียวมูนอร่อยมาก ติดผลดกเต็มต้นตามฤดูกาล ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลรับประทานในครัวเรือนหรือปลูกจำนวนหลายๆต้นเพื่อเก็บผลขายได้กิโลกรัมหลายบาทคุ้มค่ามาก

ปัจจุบัน “มะม่วงอกร่องทอง” มีกิ่งตอนรุ่นใหม่วางขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับสวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ เป็นต้นแท้บริเวณโครงการ 17 แผง “นายดาบสมพร” ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“ผักคราดหัวแหวน” กับวิธีแก้ปวดฟัน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/583498

โดย นายเกษตร 29 ก.พ. 2559 05:01

 

การปวดฟัน ที่เกิดจากฟันเป็นรูเพราะถูกแมงกินฟัน เป็นแล้วทรมานมาก กินอะไรไม่ได้ มันปวดร้าวไปหมดถึงน้ำตาร่วงเลยทีเดียว ในทางสมุนไพรช่วยได้คือให้เอาต้นสดของ “ผักคราด หัวแหวน” 2 ต้นไม่รวมรากตำให้ละเอียด ใส่เกลือป่นลงไป 1 ช้อนชา ใช้ผ้าขาวบางห่อบีบคั้นเอาน้ำแล้วใช้สำลีพันปลายไม้จิ้มฟันจุ่มกับน้ำดังกล่าวให้เปียก นำไปอุดรูฟันที่ปวดจะหายปวดทันที ทำวันละ 2–3 ครั้ง อาการปวดจะดีขึ้นและอาจหายได้

ผักคราดหัวแหวน หรือ PARA CRESS SPILANTHES ACMELLA MURR อยู่ในวงศ์ COMPOSITAI ต้นสดตำผสมเหล้าขาวหรือผสมกับน้ำสมสายชูเล็กน้อย อมแก้ฝีในลำคอ ใช้อุดรูฟันที่ถูกแมงกินฟัน แก้ปวดฟันได้ ช่อดอก ก้านช่อดอกมีสาร SPILANTHOL มีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่ สารสกัดจากต้นสดด้วยแอลกอฮอล์เทียบกับยาชา LIDOCAINE ได้ผลเร็วกว่า แต่ระยะออกฤทธิ์สั้นกว่า

ครับ หนังสือ “สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก” เล่มที่ 5 ของ “นายเกษตร” พิมพ์จำนวนจำกัดหมดแล้วหมดเลย ไม่วางขายที่ไหน ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งกลับเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติสั่งจ่าย “คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์” ตู้ ปณ.48 ปณ.สามแยกลาดพร้าว กทม. 10901 หรือ สอบถามผลิตภัณฑ์สมุนไพร น้ำมัน 12 ประดง ใช้ภายนอก ฆ่าเชื้อ สมานแผล แก้เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน แพ้เหงื่อ, ยาแก้ริดสีดวงจมูกแคปซูล และน้ำมูกไหลมีกลิ่นเหม็น, ครีมโลดทนง รักษาสิว ฝ้า รูขุมขนตีบลง, ข่อยขัดรักแร้ ดับกลิ่นเต่า รักแร้หายดำคล้ำ, แชมพูสูตร 5 ชนิด บำรุงรากผม ขจัดรังแคแก้คันศีรษะ, คอลลาเจนบริสุทธิ์ เป็นผงทาหน้า ช่วยให้ผิวหน้ากระชับ, ยาต้มคลายเส้นไม้เท้าเฒ่าอาลี แก้ปวดเมื่อย แก้เกาต์ ลดเบาหวาน, ตรีผลาแคปซูล ลดไขมันในเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์, ดีบัวแคปซูล ขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงสมอง หัวใจ, ยาลดเบาหวานแคปซูล ทำจากสมุนไพรหลายอย่าง, ยาบำรุงไตแคปซูล ไม่ใช่รักษาไต, เพชรสังฆาตแคปซูล แก้ริดสีดวงทวาร, ว่านชักมดลูกแคปซูล ช่วยให้มดลูกกระชับ ดับกลิ่นเหม็นแก้คาวปลาสตรี แก้ต่อมลูกหมากอักเสบ ไส้เลื่อนในบุรุษ และอื่นๆ โทร. 0–2275–2692 ครับ.

“นายเกษตร”

“ชมพู่สตรอเบอรี่” ผลสวยหวานอร่อย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/582182

โดย นายเกษตร 26 ก.พ. 2559 05:01

 

ชมพู่ชนิดนี้ เป็นสายพันธุ์นำเข้า จากประเทศไต้หวันเมื่อปี 2557 และได้ทดลองปลูกในหลายพื้นที่ของประเทศไทยทั้งที่สูงและพื้นที่ราบตํ่าอยู่เป็นเวลานาน ปรากฏว่าในทุกพื้นที่ ปลูกมีอายุได้ประมาณ 1 ปีกว่าๆ ต้นยังไม่สูงนัก สามารถมีดอกและติดผลให้เห็นแล้ว ถือว่าเป็นชมพู่พันธุ์เบามีดอกและติดผลได้ง่ายและไวมากเมื่อเปรียบเทียบกับชมพู่สายพันธุ์อื่นๆที่มีปลูกในประเทศไทย ส่วนลักษณะผล เป็นรูปทรงระฆัง ผลมีขนาดใหญ่ติดผลดกเป็นพวง 5-7 ผล ผลแก่จัดเป็นสีแดงสดใสตลอดทั้งผลและทุกๆผลดูสวยงามยิ่ง นํ้าหนักผลโตเต็มที่เฉลี่ยระหว่าง 200 กรัมต่อผล เนื้อผลหนา กรวงน้อยเกือบตัน เมล็ดขนาดเล็ก 2-3 เมล็ดต่อผล รสชาติเนื้อหวานละเอียดกรอบอร่อยมาก ที่สำคัญผลที่ติดอยู่บนต้นจะไม่เน่าหรือเสียร่วงได้ง่าย ติดผลดกเต็มต้นตามฤดูกาล ผู้นำเข้าจึงตั้งชื่อเป็นภาษาไทยว่า “ชมพู่สตรอเบอรี่” ดังกล่าว

ชมพู่สตรอเบอรี่ อยู่ในวงศ์ MYRTACEAE มีลักษณะทั่วไปเหมือนกับต้นชมพู่มะเหมี่ยวทุกอย่าง เพียงแต่ขนาดของต้นจะไม่สูงใหญ่นัก 5-7 เมตรเท่านั้น ใบออกเรียงสลับขนาดใหญ่คล้ายใบชมพู่มะเหมี่ยว ดอก ออกตามกิ่งก้าน เป็นสีแดง มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก “ผล” เป็นรูประฆัง ติดผลดกเป็นพวง ผลแก่จัดเป็นสีแดงตามภาพประกอบคอลัมน์ มีดอกและติดผลตามฤดูกาลช่วงระหว่างเดือนตุลาคมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด การป้องกันโรคแมลงให้ห่อผลขณะผลโตเท่าหัวแม่มือผู้ใหญ่ จากนั้น 30-45 วัน ผลจะแก่สามารถเก็บผลกินหรือขายได้

ใคร ต้องการต้นพันธุ์ของแท้ ติดต่อ “คุณวิรัช ทับทองหลาง” 130 หมู่ 6 ต.ท้อแท้ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก โทร.08-9706-1931, 08-4989-1998 หรือไปซื้อที่งานเกษตรแห่งชาติมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ล็อก เอ 183-เอ 186 ร้าน “สวนวิรัชไม้ผล” ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-6 มี.ค.59 ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“มะละกอแขกดำหนองแหวน” เตี้ยดกผลกินขายคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/581602

โดย นายเกษตร 25 ก.พ. 2559 05:01

 

มะละกอชนิดนี้ เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลใช้ประโยชน์ในครัวเรือน หรือปลูกเพื่อเก็บผลขายได้คุ้มค่ามาก โดยเฉพาะคนวัยเกษียณในยามว่าง เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่มีขนาดต้นเตี้ย ติดผลดกไม่น้อยกว่าร้อยผลต่อต้นต่อฤดูกาล เนื้อผลหนา ผลดิบฉ่ำนํ้ากรอบดี เนื้อสุกเหนียวไม่เละแม้สุกงอม รสชาติหวานสูงอร่อยมาก ที่สำคัญ “มะละกอแขกดำหนองแหวน” เป็นพันธุ์ที่ต้องการนํ้าไม่มากนัก รดนํ้าเพียงวันเว้นวัน พร้อมบำรุงปุ๋ยตามกำหนดจะให้ผลผลิตสูงมากตามฤดูกาล ทำให้สามารถเก็บผลใช้ประโยชน์หรือเก็บผลขายได้ราคาดี ตลาดมีความต้องการสูง

มะละกอแขกดำหนองแหวน เกิดจากการคัดพันธุ์จากมะละกอแขกดำทั่วไปอยู่หลายวิธีจนมั่นใจได้ว่าเป็นมะละกอสายพันธุ์ใหม่ดีที่สุด จึงตั้งชื่อว่า “มะละกอแขกดำหนองแหวน” มีลักษณะเด่นประจำพันธุ์คือ ต้นเตี้ย ข้อต้นถี่ ติดผลดกเต็มต้น รูปทรงของผลสวย “ผล” โตมีนํ้าหนักเฉลี่ย 1.5-2 กิโลกรัมต่อผล ผลดิบเนื้อหนาฉ่ำนํ้ากรอบปรุงอาหารได้หลายอย่าง โดยเฉพาะทำส้มตำมะละกอ ผลสุกเป็นสีเหลืองอมส้ม เนื้อในเป็นสีแดงเข้ม เนื้อสุกไม่เละแม้สุกงอม รสชาติหวานอร่อยมาก กลวงในเล็กน้อย มีเมล็ดไม่มากนัก ติดผลดกตามภาพ ประกอบคอลัมน์ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

มะละกอแขกดำหนองแหวน ปลูกได้ในดินทั่วไป บำรุงปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักโรยรอบโคนต้นเล็กน้อย 2 เดือนครั้ง สลับกับใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ทุก 20 วัน รดนํ้าพอชุ่มวันเว้นวัน จะทำให้ติดผลดกตามฤดูกาล หลังปลูก 3 เดือนจะมีดอกและติดผลขนาดเล็กให้เห็น จากนั้นนับต่อไป 5 เดือนสามารถเก็บผลดิบขายได้ และนับต่อไปให้ครบ 7 เดือนผลจะสุกเก็บขายได้ราคาดีทั้งผลดิบและผลสุก เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง

ใคร ต้องการเมล็ดพันธุ์หรือต้นแท้ติดต่อตรง “คุณประภาส สุภาผล” 33/4 หมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร.08-8533-2299 สามารถส่งทางไปรษณีย์ได้ด้วย ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“พวงแก้วกุดั่น” ดอกสวยหอมแรง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/581090

โดย นายเกษตร 24 ก.พ. 2559 05:01

 

หลายคน อยากทราบว่า “พวงแก้วกุดั่น” เป็นอย่างไรและจะหาซื้อต้นไปปลูกประดับได้จากที่ไหน ซึ่ง “พวงแก้วกุดั่น” ถูกระบุว่า เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอินเดีย แล้วกระจายพันธุ์ปลูกในเขตร้อนไปทั่วโลก ในประเทศไทย ถูกนำเข้ามาปลูกแพร่หลายช้านานแล้ว จนกลายเป็นไม้ไทยไปโดยปริยาย ส่วนใหญ่จะปลูกให้ต้นหรือเถาเลื้อยพันรั้วหน้าบ้านหรือปลูกให้เลื้อยซุ้มประตูทางเข้าบ้าน เวลามีดอกดกและดอกบานพร้อมกันตามฤดูกาลนอกจากจะดูสวยงามแล้ว ดอกยังส่งกลิ่นหอมแรงฟุ้งกระจายทั่วบริเวณใกล้เคียงเป็นที่ชื่นใจยิ่ง

พวงแก้วกุดั่น หรือ CLEMATIS SMILACIFOLIA WALL. อยู่ในวงศ์ RANUNCULACEAE เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็งอายุหลายปี ต้นหรือเถาสามารถเลื้อยได้ยาวกว่า 5 เมตร ลำต้นกลมสีเขียวหรือสีคลํ้าดำเกือบม่วง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปไข่ ปลายและโคนใบแหลม เนื้อใบค่อนข้างหนา ผิวใบและขอบใบเรียบเป็นมัน สีเขียวสด ใบดกน่าชมมาก

ดอก ออกเป็นช่อกระจุก 2-3 ดอกต่อช่อ ออกตามซอกใบ มีกลีบเลี้ยง 4-6 แฉก รูปแถบยาว ปลายแฉกแหลม สีม่วงแดง ปลายกลีบเลี้ยงจะม้วนงอลงชัดเจน กลีบดอกไม่มี ส่วนที่เป็นฝอยๆ สีขาวจำนวนมากนั้นคือเกสรไม่ใช่กลีบดอก ดอกจะทยอยบานไม่พร้อมกัน ดอกมีกลิ่นหอมแรงตลอดทั้งวัน จะส่งกลิ่นจัดจ้านยิ่งขึ้นในช่วงพลบคํ่า ทำให้เวลามีดอกดกและดอกบานพร้อมกันหลายๆดอก นอกจากจะดูงดงามแล้ว ดอกยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายเป็นที่ประทับใจมาก “ผล” รูปทรงกลม มีขนาดเล็ก ภายในมีเมล็ดเยอะ ดอกออกช่วงระหว่างเดือนมกราคม ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนเมษายนของทุกปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและปักชำต้น มีชื่อเรียกในประเทศ ไทยอีกคือ เครือจางหลวง และ จางน้อย

มีต้นขายทั่วไป ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ ราคาอยู่ที่ขนาดของต้น เป็นไม้ชอบแดดจัด ไม่ชอบนํ้าท่วมขังครับ.

“นายเกษตร”

“มะนาวแป้นแม่ลูกดก” กับที่มาพันธุ์ปลูกคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/580708

โดย นายเกษตร 23 ก.พ. 2559 05:01

 

มะนาวชนิดนี้ เป็นพันธุ์ลูกผสมด้วยวิธีเขี่ยเกสรระหว่าง มะนาวแม่ไก่ไข่ดก กับ มะนาวแป้นเอี่ยมเซ้ง โดยฝีมือ อ.วัง สุขประเสริฐ ซึ่งธรรมชาติของมะนาวแม่ไก่ไข่ดก มีลักษณะเด่นประจำพันธุ์คือ มีดอกและติดผลดกมาก แต่ขนาดของผลจะเล็ก ส่วน มะนาวแป้นเอี่ยมเซ้งผลมีขนาดใหญ่ มีดอกและติดผลไม่ดกนัก แต่จะมีความทนทานต่อโรคแคงเกอร์ หรือโรคแมลงที่ลงเกาะกินต้นมะนาวที่ปลูกทั่วไปและเป็นปัญหาของเกษตรกรในปัจจุบันได้สูงมาก

จากนั้น ก็นำเอาเมล็ดที่ได้จากผลเกิดจากการเขี่ยเกสรจำนวนกว่าร้อยเมล็ดไปเพาะเป็นต้นกล้าแล้วแยกต้นไปปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผล ปรากฏว่ามีลักษณะเด่นคือ เป็นมะนาวพันธุ์เบา มีดอกและติดผลง่าย หลังปลูกเพียง 3-4 เดือน สามารถมีดอกและติดผลได้แล้ว และที่สำคัญเมื่อต้นมีอายุได้ 2 ปีขึ้นไปจะมีดอกและติดผลดกขึ้นเรื่อยๆตามอายุของต้นและตามฤดูกาล เชื่อว่าเป็นมะนาวพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์ถาวร จึงตั้งชื่อ “มะนาวแป้นแม่ลูกดก” ดังกล่าว

มะนาวแป้นแม่ลูกดก เป็นไม้ยืนต้นสูง 3-4 เมตร กิ่งอ่อนมีหนามแหลม ใบเป็นใบประกอบชนิดมีใบย่อยใบเดียว ออกเรียงสลับ ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ หรือเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายยอด กลีบดอกเป็นสีขาว ร่วงง่าย ดอกมีกลิ่นหอมแบบสะอาดๆ “ผล” รูปกลมแป้นหรือแบนอย่างชัดเจน ผลมีนํ้าหนักเฉลี่ยระหว่าง 12 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม เปลือกผลบาง สีเขียวสวน ผ่าบีบหรือคั้นนํ้าได้นํ้าเยอะ นํ้าเป็นสีขาวใส แตกต่างจากนํ้ามะนาวทั่วไป รสเปรี้ยวจัด มีกลิ่นหอม ติดผลดกตามฤดูกาล ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด

ปัจจุบัน “มะนาวแป้นแม่ลูกดก” มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 17 แผง “นายดาบสมพร” โทร.08-6605-4945 ราคาสอบถามกันเอง เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลใช้ประโยชน์ในครัวเรือนหรือปลูกหลายๆ ต้นเก็บผลขายได้คุ้มค่ามากครับ.

“นายเกษตร”

“กะทกรก” ฆ่าตัวหิด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/580372

โดย นายเกษตร 22 ก.พ. 2559 05:01

 

โรคหิด เป็นกันเยอะในยุคสมัยก่อน เป็นแล้วผิวหนังตามร่างกายดูน่าเกลียดมาก สังคมไม่ต้อนรับเนื่องจากเป็นโรคติดต่อกันได้ ในทางสมุนไพร ให้เอาใบสดของ “กะทกรก” ตามต้องการล้างน้ำให้สะอาด ตำจนละเอียดใส่น้ำลงไปเล็กน้อย แล้วเอาน้ำทาบริเวณที่เป็นหิดวันละ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ประมาณ 1 อาทิตย์จะแห้งหายได้ เพราะตัวหิดจะตายเกลี้ยง

กะทกรก หรือ PASSIFLORA FOETIDAL. อยู่ในวงศ์ PASSIFLORACEAE เป็นไม้เลื้อยล้มลุก มีมือเกาะ คนส่วนใหญ่จะรู้จักดี เพราะมีขึ้นตามที่รกร้างทั่วไป ใบเป็น 3 แฉก ดอกเป็นสีเขียวอ่อน “ผล” รูปทรงกลมและพองลมสีเขียวอ่อน ผลสุกสีแดง มีเมล็ดจำนวนมากกินได้ รสเปรี้ยวปนหวาน ยอดอ่อนเป็นอาหาร ประโยชน์ทั้งต้นเป็นยาแก้เหน็บชา โดยให้เอาไปสับเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดพอสลบหรือสดก็ได้ ใช้ 1 กำมือต้มกับน้ำ 4 แก้ว เคี้ยวจนเหลือ 2 แก้ว กินเช้า เย็น อาการเหน็บชาจะหายได้

ครับ หนังสือ “สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก” เล่มที่ 5 ของ “นายเกษตร” ไม่วางขายที่ไหนหมดแล้วหมดเลย ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งกลับเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติซื้อสั่งจ่าย “คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์” ตู้ ปณ.48 ปณ.สามแยกลาดพร้าว กทม. 10901 หรือสอบถามผลิตภัณฑ์สมุนไพร น้ำมัน 12 ประดง ใช้ภายนอกห้ามกิน ฆ่าเชื้อสมานแผล แก้เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน แพ้เหงื่อ, ยาแก้ริดสีดวงจมูกแคปซูล แก้น้ำมูกไหลมีกลิ่นเหม็น, ครีมโลดทนง รักษาสิวฝ้ารูขุมขนตีบลง, ข่อยขัดรักแร้ ดับกลิ่นเต่า รักแร้หายคล้ำ, ข่อยสีฟันเป็นผง ไม่มีฟอง ใช้แล้วเหงือกฟันทนและขาว, ดีบัวแคปซูล ขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองหัวใจ, ตรีผลาแคปซูล ลดไขมันในเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์, ยาต้มคลายเส้นไม้เท้าเฒ่าอาลี แก้ปวดเมื่อยแก้เกาต์ ลดเบาหวาน, คอลลาเจนบริสุทธิ์เป็นผง ทาหน้าช่วยให้ผิวหน้ากระชับ, ยาลดเบาหวานแคปซูล ทำจากสมุนไพรกว่า 5 ชนิด, ว่านชักมดลูกแคปซูล ช่วยให้มดลูกกระชับ ดับกลิ่นเหม็นในสตรี แก้ต่อมลูกหมากอักเสบ ไส้เลื่อนในบุรุษ, เพชรสังฆาตแคปซูล แก้ริดสีดวงทวาร โทร. 0–2275–2692 ครับ.

“นายเกษตร”