“มะละกอศรีสุภา”ปลูกเก็บผลขายหลังเกษียณคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/579101

โดย นายเกษตร 19 ก.พ. 2559 05:01

 

ผู้อ่านไทยรัฐ วัยเกษียณจำนวนมากมีที่ว่างเล็กน้อยอยากปลูกไม้ผลเพื่อเก็บผลขายในยามว่าง แต่ไม่รู้จะปลูกอะไรที่สามารถปลูกแล้วต้นโตเร็วให้ผลผลิตสูง จึงขอแนะนำว่า “มะละกอศรีสุภา” น่าจะเหมาะกับความต้องการเป็น

อย่างมาก เนื่องจากเป็นไม้โตเร็วให้ผลผลิตต่อต้นดกเป็นร้อยผล ใช้เวลาปลูกไม่นาน สามารถเก็บผลดิบและผลสุกขายได้ ราคาดีอีกด้วย

มะละกอศรีสุภา อยู่ในวงศ์ CARICACEAE เป็นพันธุ์ใหม่ เกิดจากการเขี่ยเกสรผสมระหว่างมะละกอฮอลแลนด์กับมะละกอแขกนวล จากนั้นก็นำเอาเมล็ดจากผลสุกจำนวนมากไปเพาะเป็นต้นกล้าแล้วแยกปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผล ปรากฏว่าขนาดของต้นไม่สูงใหญ่นัก ติดผลดกเต็มต้น (ตามภาพประกอบคอลัมน์) รูปทรงของผลสวยงามแตกต่างจากรูปทรงของผลพันธุ์พ่อและพันธุ์แม่อย่างชัดเจน เชื่อว่าเป็นมะละกอพันธุ์ใหม่ จึงขยายพันธุ์ปลูกทดสอบความนิ่งของสายพันธุ์อยู่เป็นเวลานาน ทุกอย่างยังคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงหรือได้กลายพันธุ์แบบถาวรแล้ว เลยตั้งชื่อว่า “มะละกอศรีสุภา” พร้อมเก็บเมล็ดแก่นำไปตากแห้งบรรจุถุงและนำต้นจริงออกวางขายได้รับความนิยมจากผู้ซื้อไปปลูกอย่างแพร่หลายอยู่ในเวลานี้

ดอก ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ ดอกเป็นสีขาวอมเหลือง มีกลิ่นหอม “ผล” รูปทรงกระบอกยาวและใหญ่กว่าผลของมะละกอฮอลแลนด์ แต่จะสั้นกว่าผลมะละกอแขกนวล ติดผลแต่ละครั้งหรือแต่ละชุดจะดกไม่น้อยกว่าร้อยผลต่อต้น เนื้อผลหนา กลวงในเล็กน้อย ผลโตเต็มที่ นํ้าหนักเฉลี่ยระหว่าง 2-3 กิโลกรัมต่อผล ผลดิบเป็นสีเขียว เนื้อกรอบฉ่ำนํ้าไม่แห้ง ปอกเปลือกสับเป็นฝอยทำส้มตำดีมาก ผลแก่ฝานเป็นแว่นๆแกงส้มใส่กุ้งสดอร่อยมาก เนื้อสุกมีความหวานสูง เนื้อไม่เละแม้สุกงอม มีเมล็ดน้อย ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

ใคร ต้องการเมล็ดพันธุ์และต้นแท้ติดต่อ “คุณประภาส สุภาผล” 33/4 หมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร.08-8533-2299 สามารถส่งทางไปรษณีย์ได้ ราคาสอบถามกันเอง เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลขายตามที่กล่าวข้างต้นคุ้มค่ามากครับ.

“นายเกษตร”

“มะขามเปรี้ยวฝักโค้ง” ใหญ่ยาวเนื้อเยอะคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/578582

โดย นายเกษตร 18 ก.พ. 2559 05:01

 

กระแส การปลูกมะขามรสเปรี้ยวยังคงเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมะขามเปรี้ยวที่มีผลหรือฝักใหญ่ยาวจะได้รับเลือกไปปลูกเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากจะให้เนื้อเยอะเมื่อนำผลสุกไปแกะเอาเนื้อแปรรูปทำเป็นมะขามเปียกได้จำนวนมากและได้ราคาดี ซึ่ง “มะขามเปรี้ยวฝักโค้ง” เป็นสุดยอดของมะขามเปรี้ยวที่มีดอกและติดผลดกเต็มต้นตามฤดูกาลจนเป็นสายพันธุ์ มะขามเปรี้ยวยอดนิยมของผู้ปลูกเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน

มะขามเปรี้ยวฝักโค้ง หรือ TAMARINDUS INDICA LINN. ชื่อสามัญ TAMARIND, INDIAN DATE อยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 8-15 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาหนาแน่น เนื้อไม้เหนียว ใบเป็นใบประกอบออกเรียงสลับ มีใบย่อย 10-20 คู่ รูปขอบขนานค่อนข้างยาว ดอกเป็นสีเหลืองแกมส้ม ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน มีเกสรตัวผู้สมบูรณ์ 3 อัน “ผล” เป็นฝักใหญ่และยาวโค้งไม่เป็นฝักตรงเหมือนสายพันธุ์อื่น เปลือกผลหนา แข็ง เปราะ สีน้ำตาลหรือน้ำตาลอมเทา เนื้อดิบและสุกมีรสเปรี้ยวจัด เนื้อหนาแน่นละเอียด แต่ละฝักจะมีเมล็ดตั้งแต่ 15–17 เมล็ด มีดอกและติดผลช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง และทาบกิ่ง มีกิ่งตอนขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 17 แผง “นายดาบสมพร” โทร. 08– 6605–4945 ราคาสอบถามกันเอง เหมาะจะปลูก เพื่อเก็บผลใช้ประโยชน์ในครัวเรือน หรือมีที่ว่างมากๆ ปลูกหลายๆต้นเก็บผลดิบและผลสุกแกะเอาเนื้อแปรรูปทำเป็นมะขามเปียกขายได้ราคาดีและคุ้มค่ามาก

ประโยชน์ เปลือกต้นต้มน้ำหรือต้มกับน้ำปูนใสดื่มแก้ท้องเดิน เนื้อไม้เหนียวทำเขียงทนทานใช้ได้นาน ใบต้มน้ำดื่มช่วยย่อยและขับปัสสาวะ ใบผลและดอกเป็นอาหาร เนื้อในฝักเป็นยาระบายอ่อนๆ แก้ไอ ขับเสมหะ เมล็ดคั่วสุกเอาเปลือกหุ้มเมล็ดทิ้งกินเฉพาะเนื้อ ขับพยาธิไส้เดือนดีมาก ซึ่งมะขามทั่วไปมีถิ่นกำเนิดเอเชียและแอฟริกาเขตร้อนครับ.

“นายเกษตร”

“สตรอเบอรี่แคคตัส” สวยแปลก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/578153

โดย นายเกษตร 17 ก.พ. 2559 05:01

 

ผู้อ่านไทยรัฐ จำนวนมากที่ชอบปลูกไม้ประดับจำพวกต้นกระบองเพชร อยากทราบว่าต้น “สตรอเบอรี่แคคตัส” เป็นอย่างไร ซึ่งก็เป็นต้นกระบองเพชรชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเด่นเฉพาะพันธุ์คือ ขนาดของต้นเล็ก แตกต้นเป็นกอกระจายหลายสิบต้นต่อกอ ลำต้นเป็นสีม่วงอมแดง เวลาแตกต้นเป็นกอจำนวนหลายๆต้นทำให้ดูคล้ายผลสตรอเบอรี่เป็นกระจุกสวยงามน่าชมมาก จึงถูกตั้งชื่อตามลักษณะว่า “สตรอเบอรี่แคคตัส” ดังกล่าว เป็นไม้นําเข้าจากต่างประเทศนานกว่า 2 ปีแล้ว ระบุไม่ได้ว่าเป็นพันธุ์ลูกผสมใหม่หรือพันธุ์แท้ กำลังนิยมแพร่หลายในปัจจุบัน

สตรอเบอรี่แคคตัส มีชื่อเฉพาะคือ SULCOREBUTIA RAUSCHII ลำต้นเป็นรูปทรงกลมขนาดเล็ก ต้นสูงไม่เกิน 2-2.5 นิ้วฟุต ตามลำต้นมีหนามแหลมสั้นกระจายทั่ว แตกต้นเป็นกอเบียดกันหนาแน่นจำนวนมากกว่า 20-30 ต้น
ขึ้นไป ลำต้นเป็นสีแดงอมม่วง

ดอก ออกบริเวณปลายยอดของต้น กลีบดอกเป็นสีแดงอมม่วง เวลามีดอกพร้อมๆกันหลายๆ ต้น จะมีสีสันสวยงามน่าชมยิ่งนัก “ผล” กลมขนาดเล็ก มีเมล็ด ดอกออกได้เรื่อยๆ อยู่ที่ความสมบูรณ์ของต้น ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด และเสียบยอดกับตอต้นแก้วมังกร

การปลูก “สตรอเบอรี่แคคตัส” เป็นไม้ชอบแดดจัด 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ชอบนํ้ามากนักจะทำให้รากเน่าตาย หลังปลูกรดนํ้า 7–10 วันครั้ง ในช่วงฤดูฝนต้องยกหลบไม่ให้โดนฝน เพราะไม่ชอบฝน บำรุงปุ๋ยละลายช้าสูตรเสมอ 3-4 เดือนครั้ง จะทำให้ต้น “สตรอเบอรี่แคคตัส” แตกเป็นกอจำนวนมากและมีดอกสวยงาม

ปัจจุบัน “สตรอเบอรี่แคคตัส” กำลังเป็นที่นิยมปลูกอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นแคคตัสหรือต้นกระบองเพชรขนาดเล็กสามารถยกไปตั้งประดับบนโต๊ะทำงานหรือเคลื่อนย้ายได้ง่ายนั่นเอง

มีต้นขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณตรงกันข้ามกับโครงการ 13 หรือโครงการ 15 แผง “คุณตะวัน” โทร.08-5682-4645 ผู้ขายมีวิธีปลูกแนะนำให้ด้วย ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“จำปีแดงใหม่” ดอกใหญ่ สีเข้มหอมทั้งปี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/577628

โดย นายเกษตร 16 ก.พ. 2559 05:01

 

ไม้ต้นนี้ พบมีวางขายมีภาพถ่ายดอกจริงและป้ายชื่อเขียนติดไว้ว่า “จำปีแดงใหม่” ผู้ขายบอกว่าเป็นคนละต้นกับจำปีแดงที่ “นายเกษตร” เคยแนะนำในคอลัมน์ ซึ่งผู้ขายได้แจกแจงข้อแตกต่างให้ฟังว่า สีสันของดอก “จำปีแดงใหม่” จะเป็นสีแดงเข้มอมม่วงดูสวยงามกว่า ขนาดของใบใหญ่กว่า และที่สำคัญ “จำปีแดงใหม่”ยังเป็นไม้พุ่มไม่ใช่ไม้ยืนต้น ปลูกลงดินกลางแจ้งต้นสูงไม่เกิน 4 เมตร ปลูกลงกระถางขนาดใหญ่ตั้งประดับในที่มีแสงแดดส่องถึงทั้งวัน ต้นสูงไม่เกิน 2 เมตร สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ทั้งที่สูงที่ราบตํ่าของประเทศไทย

จำปีแดงใหม่ อยู่ในวงศ์แม็กโนเลียทั่วไป เป็นไม้พุ่มสูงไม่เกิน 4 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับหนาแน่นช่วงปลายกิ่ง ใบเป็นรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน ปลายใบแหลมโคนใบสอบ เนื้อใบหนา ใบมีขนาดใหญ่ ขอบใบเรียบเป็นคลื่น ใบดกน่าชมมาก
ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆตามซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกมีขนาดใหญ่ มีกลีบดอก 8-12 กลีบ เรียงซ้อนกันหลายชั้น เนื้อกลีบดอกหนาเป็นสีแดงเข้มอมสีม่วงตลอดทั้งกลีบดอก ดอกตูมเป็นรูปกระสวย มีเกสรตัวเมีย 10-13 อัน ดอกมีกลิ่นหอมแรง เวลามีดอกดกและดอกบานพร้อมกันทั้งต้นจะมีสีสันเจิดจ้าสวยงามและส่งกลิ่นหอมเป็นที่ประทับใจมาก ซึ่งผู้ขายยืนยันว่าดอกออกตลอดทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด เป็นไม้นำเข้าจากต่างประเทศนานกว่า 3 ปีแล้ว เหมาะจะปลูกประดับทั้งแบบลงดินกลางแจ้งและปลูกลงกระถางขนาดใหญ่ตามที่กล่าวข้างต้น เป็นไม้ไม่ชอบนํ้ามากนัก ดังนั้นหลังปลูกจึงควรรดนํ้าวันละครั้ง หรือวันเว้นวัน บำรุงปุ๋ยมูลสัตว์โรยรอบโคนต้นเดือนละครั้งสลับกับใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ครึ่งเดือนครั้ง จะทำให้ต้น “จำปีแดงใหม่” แข็งแรงและมีดอกสวยงามส่งกลิ่นหอมไม่ขาดต้น

ปัจจุบัน “จำปีแดงใหม่” มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 11 แผง “คุณหมู” โทร.08-1861-6644 ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“หอมแดง” กับวิธีแก้หอบหืด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/577232

โดย นายเกษตร 15 ก.พ. 2559 05:01

 

หอมแดง เป็นอีกสูตรหนึ่งที่เอาไปรวมกับอย่างอื่นแล้ว สามารถแก้โรคหอบหืดได้ระดับหนึ่ง โดยให้เอา “หอมแดง” สด 1 ขีด กับขิงสด 1 ขีด และกระเทียมสด 1 ขีด ปอกเปลือกล้างน้ำให้สะอาด ใส่น้ำ 1 แก้ว ปั่นจนละเอียดกรองเอาเฉพาะน้ำผสมน้ำผึ้งลงไป 1 ช้อนโต๊ะ บีบน้ำมะนาวลงไปด้วย 3 ผล คนให้เข้ากัน กินครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ วันละครั้งก่อนนอน ทำกิน 1 อาทิตย์ จะรู้สึกว่าอาการดีขึ้น สามารถทำกินเรื่อยๆได้จะหายในที่สุด

หอมแดง หรือ ALLIUM ASCALONICUM LINN. อยู่ในวงศ์ ALLIACEAE ให้แคลเซียม ฟอสฟอรัส ที่เหมาะกับการดูซึมของร่างกาย มีสาร จำพวก “ฟลาโวนอยด์” โดยเฉพาะ “เควอซิทิน” เป็นเกราะกันมะเร็งให้คนได้ กลิ่นฉุนของ “หอมแดง” มีสารจำพวกกำมะถัน เข้าตาทำให้รู้สึกแสบตาแสบจมูก “หอมแดง” ทุบดมทำให้จมูกโล่งดี หัวสดตำผสมเหล้าขาวพอกจุดถูกแมลงกัดต่อยหายปวดบวมได้

ครับ หนังสือ “สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก” เล่มที่ 5 ของ “นายเกษตร” พิมพ์จำนวนจำกัดหมดแล้วหมดเลย ไม่วางขายที่ไหน ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งกลับเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติซื้อสั่งจ่าย “คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์” ตู้ ปณ.48 ปณ.สามแยกลาดพร้าว กทม. 10901 หรือสอบถามผลิตภัณฑ์สมุนไพร กระเทียมโทนแคปซูล ผสมสมุนไพรอื่นแก้หอบหืด แก้ถุงลมโป่งพอง, แห้วหมูแคปซูล ลดความดันโลหิต, แชมพูสูตร 5 ชนิด ขจัดรังแค บำรุงรากผม, สเปรย์ฉีดบำรุงรากผม, น้ำมันงาบริสุทธิ์ ทาผิว หมักผม, น้ำมัน 12 ประดง ใช้ภายนอกฆ่าเชื้อสมานแผล แก้เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน แพ้เหงื่อ, ครีมโลดทนง รักษาสิว ฝ้า รูขุมขนตีบลง, ยาแก้ริดสีดวงจมูกแคปซูล ทำจากสมุนไพรหลายอย่าง แก้น้ำมูกไหลมีกลิ่นเหม็นด้วย,ยาต้มคลายเส้นไม้เท้าเฒ่าอาลี แก้ปวดเมื่อย แก้เกาต์ ลดเบาหวาน,คอลลาเจนบริสุทธิ์เป็นผง ทาหน้าช่วยให้ผิวหน้ากระชับ, ดีบัวแคปซูล ขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงสมอง หัวใจ, ตรีผลาแคปซูล ลดไขมันเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์, ยาบำรุงไตแคปซูลไม่ใช่รักษาไต และอื่นๆ โทร. 0–2275–2692 ครับ.

“นายเกษตร”

“จุหลัน” สวยหอม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/575907

โดย นายเกษตร 12 ก.พ. 2559 05:01

 

กล้วยไม้ชนิดนี้ พบขึ้นตามธรรมชาติในป่าดิบเขาทางภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย มีเขตกระจายพันธุ์ทั่วไปในประเทศอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง “จุหลัน” มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ CYMBIDIUM ENSIFOLIUM (L.) SW. ชื่อพ้อง EPIDENDRUM ENSIEFOLIUM L. มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นกล้วยไม้ดินที่มีการเจริญทางด้านข้าง ได้แก่ กล้วยไม้มีเหง้า ส่วนทอดเลื้อยหรือไหล เมื่อต้นเจริญเต็มที่แล้วสามารถแตกต้นใหม่หรือหน่อใหม่จากโคนกอหรือตามลำข้อได้ มีด้วยกันหลากหลายสายพันธุ์

ลำต้น หรือลำลูกกล้วยของ “จุหลัน” เป็นรูปกระเปาะค่อนข้างกลม สูงได้ประมาณ 1.5-3 ซม. ใบเป็นรูปเข็มขัด ออกเรียงสลับปลายใบตัดหรือแหลม โคนใบเป็นกาบหุ้มลำต้น ใบกว้าง 2.5-3 ซม. ยาว 30-60 ซม. เนื้อใบค่อนข้างหนา สีเขียวเป็นมัน

ดอก ออกเป็นช่อตั้งขึ้นจากโคนกอ ช่อยาวประมาณ 20-30 ซม. แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อย 10-15 ดอก ลักษณะดอก มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกเป็นสีเขียวอมเหลือง มีขีดตามยาวเป็นสีนํ้าตาลแดง 5-7 เส้น กลีบปากเป็นสีเหลืองอ่อน มีแต้มและประสีแดง ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 3-4 ซม. ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้จมูกดมจะได้กลิ่นดังกล่าว ดอกออกช่วงระหว่างเดือนตุลาคมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมกราคมของปีถัดไป ขยายพันธุ์ด้วยการแยกต้น

ปัจจุบัน “จุหลัน” มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 24 แผง “คุณหล้า-คุณโอม” ราคาสอบถามกันเอง นิยมปลูกลงกระถางกล้วยไม้ทำทางระบายนํ้าก้นกระถางให้ดีอย่าให้มีนํ้าท่วมขัง ใช้เครื่องปลูกอิฐมอญทุบรองก้นกระถาง จากนั้นนำต้นลงปลูกแล้วปิดทับส่วนที่เหลือด้วยกาบมะพร้าวแห้งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ มีวางขายทั่วไปให้แน่นนำกระถางไปตั้งในที่แจ้งมีลมพัดโกรกดีทั้งวัน รดนํ้าวันละครั้งพร้อมบำรุงปุ๋ยสิบวันครั้งจะทำให้ต้นแข็งแรงมีดอกสวยงามตามฤดูกาลครับ.

“นายเกษตร”

“ตะลิงปลิง” กับวิธีรักษาโรคคางทูม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/575406

โดย นายเกษตร 11 ก.พ. 2559 05:01

 

ในยุคสมัยก่อน คนเป็นโรคคางทูมกันเยอะ เป็นแล้วบริเวณลำคอใต้คางจะนูนขึ้นมองเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งในยุคนั้น คนที่มีอาการของโรคดังกล่าวจะเดินทางไปพบแพทย์เฉพาะทางลำบากมาก เนื่องจากบ้านอยู่ห่างไกลโรงหมอหรือสุขศาลา ส่วนใหญ่จึงอาศัยหมอพื้นบ้านให้เจียดสมุนไพรรักษาให้ โดยเอาใบสดของ “ตะลิงปลิง” ประมาณ 1 กำมือล้างนํ้าให้สะอาด ตำหรือโขลกพอละเอียดใส่นํ้าลงไปเล็กน้อย จากนั้นเอาทั้งนํ้าและเนื้อพอกบริเวณที่เป็นคางทูม 2 เวลา เช้าเย็น พร้อมเปลี่ยนตัวยาไปเรื่อยๆทุกวัน ประมาณ 1 อาทิตย์จะหายได้ ปัจจุบันโรคคางทูมแทบไม่พบอีกแล้ว แนะนำให้เป็นความรู้

ตะลิงปลิง หรือ AVERRHOA BILIMBI LINN. ชื่อสามัญ BILIMBI, CUCUMBER TREE อยู่ในวงศ์ AVERRHOACEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 12 เมตร ใบประกอบ ออกสลับ มีใบย่อย 25-35 ใบ เป็นรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบและมีขนนุ่มทั้งใบ ดอก ออกเป็นช่อตามโคนต้นและกิ่งแก่ มีกลีบดอก 5 กลีบ เป็นสีแดงอมม่วง ใจกลางดอกเป็นสีนวล ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกเมื่อบานเต็มที่เส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 ซม. มีเกสรตัวผู้ 10 อัน สั้นยาวอย่างละ 5 อัน “ผล” รูปกลมรีกว้างประมาณ 2 ซม. ยาวประมาณ 4 ซม. ผลแบ่งเป็นพูตื้นๆ 5 พู เนื้อผลฉ่ำนํ้า รสเปรี้ยวจัด ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกจะเป็นสีเขียวอมเหลือง ภายในมีเมล็ด มีดอกและติดผลเกือบทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง มีถิ่นกำเนิดจากประเทศมาเลเซีย อเมริกาเขตร้อน ในประเทศไทยมีปลูกมาแต่โบราณแล้ว จนกลายเป็นไม้ไทยไปโดยปริยาย มีชื่อเรียกอีกคือปลีมิง (มาเลเซีย-นราธิวาส) และ หลิงปลิง (ภาคใต้)

ทางอาหาร ผลสดปรุงอาหารที่ต้องการให้มีรสเปรี้ยว แปรรูปเป็นผลไม้แห้ง แช่อิ่ม ส่วนประโยชน์ทางสมุนไพร ใบสดรักษาโรคผิวหนัง ขับเสมหะครับ.

นายเกษตร

“กะหลํ่าประดับ” งามเมื่อเหมันต์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/574848

โดย นายเกษตร 10 ก.พ. 2559 05:01

 

ผู้อ่านไทยรัฐ จำนวนมาก โดยเฉพาะที่เป็นคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่อยากทราบว่า “กะหลํ่าประดับ” เป็นอย่างไรและเป็นไม้ไทยหรือไม่ ซึ่ง “กะหลํ่าประดับ” มีถิ่นกำเนิดจากประเทศในแถบยุโรปตะวันตก แล้วกระจายพันธุ์ปลูกไปทั่วโลก ในประเทศไทยถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์นานมากแล้ว จนทำให้หลายๆคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไม้ของไทยไปโดยปริยาย ส่วนใหญ่นิยมปลูกตามสวนหย่อมหรือสวน สาธารณะทางภาคเหนือ เนื่องจาก “กะหลํ่าประดับ” เป็นไม้ชอบอากาศเย็นหรืออากาศหนาวจึงจะงอกงามแบบเฉพาะกาลในช่วงฤดูเหมันต์เท่านั้น

กะหลํ่าประดับ หรือ BRASSICA OLERACEA LINN. VAR. ACEPHALA DC. ชื่อสามัญ ORNAMENTAL-LEAVED KALE อยู่ในวงศ์ CRUCIFERAE มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นเดี่ยว ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับรอบลำต้น เนื้อใบหนา ใบล่างสุดมักจะมีรูปร่างกลมหรือเป็นรูปไข่กลับ ซึ่งสายพันธุ์ที่นิยมปลูกประดับในบ้านเราจะมีด้วยกันหลายสี เช่น สีขาว สีชมพู และสีม่วง เป็นต้น ใบขอบจักและเป็นคลื่น หรือเป็นแฉกฝอยๆ ใบเรียงซ้อนกันหนาแน่นหลายชั้น ทำให้เวลาปลูกประดับจำนวนหลายๆต้น หรือปลูกเป็นกลุ่มๆจำนวนมาก จะดูสวยงามแปลกตามาก ดอก เป็นสีเหลืองอมขาวหรือสีเหลืองอมสีครีม มีกลีบเลี้ยง 4 แฉก กลีบดอกมี 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้ 6 อัน “ผล” รูปกลมยาว ภายในมีเมล็ด ซึ่งในบันทึกระบุว่าปลูกในประเทศไทยมักจะไม่ออกดอก แต่ปัจจุบันพบว่า “กะหลํ่าประดับ” สามารถมีดอกได้ในประเทศ ไทยเหมือนกันตามภาพประกอบคอลัมน์ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

ในช่วงก่อนสิ้นปีระหว่างเดือนธันวาคมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมกราคม จะมีผู้นำเอาต้น “กะหลํ่าประดับ” ทุกสีวางขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ หลายแผงหลายเจ้า ส่วนใหญ่ราคาอยู่ที่ความสดและสีของใบ เหมาะจะปลูกประดับเพื่อชมความสวยงามแปลกตาในช่วงฤดูหนาวหรือฤดูเหมันต์ครับ.

“นายเกษตร”

“มะขามเนื้อแดงฝักตรง”เปรี้ยวจัดราคาดี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/574323

โดย นายเกษตร 9 ก.พ. 2559 05:01

 

มะขามเนื้อแดงมีหลายสายพันธุ์ ทั้งฝักใหญ่อ้วนและฝักโค้งงอ ส่วน “มะขามเนื้อแดงฝักตรง” เป็นพันธุ์โบราณ นิยมปลูกกันมาช้านาน ในแถบ จ.ชัยนาท เพื่อใช้ประโยชน์ทั่วไปเหมือนกับมะขามเนื้อธรรมดาทุกอย่าง มีลักษณะประจำพันธุ์คือ เนื้อในจะเป็นสีแดงตั้งแต่เริ่มติดผลเป็นฝักอ่อนเล็กๆ จนกระทั่งฝักสุก สามารถเก็บผลสุกแกะเอาเฉพาะเนื้อทำเป็นมะขามเปียกปั้นเป็นก้อนๆ หรือชั่งกิโลขายได้ราคากิโลกรัมหลายบาท รสชาติเปรี้ยวจัดสีสันสวยงาม เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างแพร่หลาย

มะขามเนื้อแดงฝักตรง อยู่ในวงศ์ CAESALPINICEAE มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับมะขามทั่วไปทุกอย่างคือ เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร ใบเป็นใบประกอบออกเป็นคู่ตามก้านใบ 10-18 คู่ ใบรูปขอบขนาน ปลายและโคนมน ใบอ่อนและใบแก่รสเปรี้ยวปนฝาดกินได้ นิยมทำต้มส้มใส่ปลานํ้าจืดหรือใส่ไก่ปรุงรสรับประทานอร่อยมาก ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยหลายดอก ดอกเป็นสีเหลือง มีประสีแดงกลางดอก ดอกมีรสเปรี้ยวรับประทานได้ “ผล” รูปกลมแบนเล็กน้อยยาวเกือบตรง ไม่โค้งงอเหมือนมะขามเนื้อแดงสายพันธุ์อื่น เปลือกผลค่อนข้างหนา สีนํ้าตาลเทา เนื้อในเป็นสีแดงตั้งแต่ติดผลเป็นฝักอ่อนจนกระทั่งฝักสุก จึงถูกตั้งชื่อว่า “มะขามเนื้อแดงฝักตรง” ดังกล่าว ติดผลเป็นพวงและติดผลดกทั้งต้นตามฤดูกาล มีเมล็ด รสชาติเปรี้ยวจัดตั้งแต่ยังเป็นฝักอ่อนจนฝักสุก ออกดอกช่วงฤดูฝน ติดผลจนฝักแก่ในช่วงฤดูหนาว ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง

มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 17 แผง “นายดาบสมพร” โทร. 08-6605-4945 ราคาสอบถามกันเอง เหมาะจะปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ในครัวเรือน หรือปลูกเก็บผลสุกแกะเนื้อทำมะขามเปียกขายคุ้มค่ามาก ประโยชน์ทางสมุนไพร ใบแก่ปรุงเป็นยาแก้ไอ แก้โรคบิด ขับเสมหะในลำไส้ เนื้อดิบหรือสุกกินแก้ท้องผูก เป็นยาระบายแก้ไอขับเสมหะ เมล็ดแก่คั่วบดให้เด็กกินขับพยาธิไส้เดือนได้ครับ.

“นายเกษตร”

“เพชรสังฆาต” กับวิธีแก้กระดูกเสื่อม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/573935

โดย นายเกษตร 8 ก.พ. 2559 05:01

 

ผู้สูงอายุ ไม่น้อยเพิ่ง เริ่มมีอาการปวดกระดูกตามข้อต่างๆของร่างกาย แต่ยังไม่รุนแรง อยากทราบว่ามีสมุนไพรอะไรบ้างที่มีสรรพคุณบรรเทาอาการดังกล่าวได้ ซึ่งก็เคยแนะนำไปแล้วคือให้เอาต้น “เพชรสังฆาต” กับหัวจุกมะพร้าวน้ำหอม แก่นต้นเถาวัลย์เปรียง และว่านหางจระเข้ไม่ปอกเปลือกแบบสด ทั้งหมดเท่ากันกะตามต้องการต้มกับน้ำ 2 ลิตร จนเดือดดื่มครั้งละ 3 ส่วน 4 แก้ว เช้า กลางวัน เย็น ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ ถ้าดื่มแล้วอาการดีขึ้นต้มดื่มจนยาจืดและต้มดื่มต่อเนื่องจะหายได้ หลังจากนั้นต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ และไปพบแพทย์เฉพาะทางให้รักษาประจำ จะไม่เกิดอาการปวดขึ้นอีก

เพชรสังฆาต หรือ CISSUS QUADRANGULALIS LINN. อยู่ในวงศ์ VITACEAE เถาสดกินแก้ริดสีดวงทวาร วันละ 1 ข้อจนครบ 3 วัน โดยหั่นบางๆ ใช้เนื้อมะขามเปียกหรือกล้วยสุกหุ้มกลืนทั้งหมด เพราะเถาอาจจะทำให้คันคอได้

ครับ หนังสือ “สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก” เล่มที่ 5 ของ “นายเกษตร” เหลือไม่มากนัก ไม่วางขายที่ไหน หมดแล้วหมดเลย ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งกลับเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติซื้อสั่งจ่าย “คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์” ตู้ ปณ.48 ปณ.สามแยกลาดพร้าว กทม. 10901 หรือสอบถามผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพชรสังฆาตแคปซูล แก้ริดสีดวงทวาร, กระเทียมโทนแคปซูล ผสมสมุนไพรหลายชนิด แก้หอบหืด แก้ถุงลมโป่งพอง, ยาลดเบาหวานแคปซูล ทำจากสมุนไพร 5 อย่าง กินได้กับคนเป็นเบาหวานทุกธาตุ, ยาบำรุงไตแคปซูล ไม่ใช่รักษาไต มีส่วนผสมสมุนไพรหลายชนิด, ตรีผลาแคปซูล ไขมันในเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์, ดีบัวแคปซูล ขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองหัวใจ, ครีมโลดทนง รักษาสิว ฝ้า รูขุมขนตีบลง, ยาต้มคลายเส้นไม้เท้าเฒ่าอาลี แก้ปวดเมื่อย แก้เกาต์ ลดเบาหวาน, คอลลาเจนบริสุทธิ์เป็นผง ทาหน้าช่วยให้ผิวหน้ากระชับ, น้ำมัน 12 ประดง ทาภายนอกฆ่าเชื้อสมานแผล แก้เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน แพ้เหงื่อ, ยาแก้ริดสีดวงจมูกแคปซูล น้ำมูกมีกลิ่นเหม็นและอื่นๆ โทร. 0–2275–2692 ครับ.

“นายเกษตร”