มนุษย์อวกาศสกอตต์ เคลลี ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรกซึ่งมีชีวิตอยู่ด้วยการเดินทางในอวกาศ นานเกือบปี สารภาพเมื่อเดินทางกลับลงมาถึงพื้นโลกว่า การมองเห็นทะเลสาบสีรุ้งบนยอดเขาหิมาลัยกับการไม่ปล่อยให้ว่างทำให้เขาไม่เป็นบ้าไป

เขากับเพื่อนมนุษย์อวกาศรัสเซีย นายมิคาเอล กอร์นีเยนโก ได้เข้าคู่กันรับหน้าที่ประจำอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ โดยทำหน้าที่ศึกษาอันตรายของการแผ่รังสี สภาพไร้น้ำหนัก และการต้องทนอุดอู้อยู่ภายในที่คับแคบของการเดินทางในอวกาศ ซึ่งประสบการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นของมนุษย์ ก่อนที่จะออกเดินทางในอวกาศไกลๆ ไปถึงดาวอังคาร เคลลียอมรับว่าการต้องทนอยู่ในอวกาศนอกโลกนานเป็นแรมปีแรมเดือน นับว่าทารุณอย่างหนึ่ง เขายังรู้สึกขัดยอกไม่หาย เมื่อเดินทางกลับมาสู่บนที่ซึ่งมีแรงดึงดูดของโลก

ตัวเขาเองซึ่งเมื่อก่อนออกเดินทางเมื่อปีกลาย ก็ต้องผ่านการฝึกอบรมและการทดสอบสติปัญญาอย่างหนักมาแล้ว ครั้นกลับจากเดินทางครั้งนี้ เขาก็จำต้องเข้าฝึกอบรม และเพื่อให้แพทย์ได้ศึกษาผลที่มีต่อร่างกายของเขาอีกเป็นเวลานานหลายวันด้วยกัน เขายังเล่าว่า ชั้นบรรยากาศของโลกของเรานั้นบอบบางเพียงใด ต้องเผชิญกับปริมาณของมลพิษชนิดที่น่ากลัว เพราะมองเห็นระบบมลพิษทั้งระบบกับตามาแล้ว.

ความฝันของมนุษย์ ที่อยากจะเป็น “นารายณ์ 4 กร” เกือบใกล้จะเป็นความเป็นจริงเข้าไปแล้ว เมื่อนักวิจัยสหรัฐฯสามารถสร้าง “มือกลอัจฉริยะ” ให้เป็นมือที่ 3 ใช้งานได้จริง

นักวิจัยของสถานเทคโนโลยีแห่งจอร์เจียได้สร้างแขนกลยาว 2 ฟุต ทดลองติดเข้ากับหัวไหล่นักดนตรี เพื่อช่วยให้นักดนตรีเล่นเครื่องดนตรีได้มากขึ้น และพยายามใช้เทคโนโลยีให้สุดกำลังความสามารถ

ศาสตราจารย์กิล เวนเบิร์ก กล่าวว่า “เราเชื่อว่าหากเราระดมเทคโนโลยีเข้าช่วย จะทำให้มนุษย์แสดงฤทธิ์เดชมากขึ้นได้อีกมาก และเราเห็นว่าดนตรี จะเป็นสื่อที่น่าจะลองดูอย่างหนึ่ง เพราะดนตรีเป็นของที่ขึ้นอยู่กับจังหวะจะโคน เราจำเป็นจะต้องกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงไปในชั่วเสี้ยววินาทีหนึ่ง”

แขนกลถูกตั้งไว้ให้สนองตอบกับท่าทางและเสียงเพลง อย่างเช่น เมื่อพลกลองขยับตัวจะเล่นตีฉิ่งตัวบน แขนกลขยับฉิ่งตัวล่างให้ตรียมรับทันที

ขณะนี้นักวิจัยกำลังเดินหน้าไปอีก พยายามจะเชื่อมแขนกลให้เข้าไว้กับปฏิกิริยาของสมอง ด้วยเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองโดยตรง.

ทหารเสนารักษ์อเมริกันได้ตั้งฤกษ์ไว้แล้วว่าจะประกอบพิธีปลูกถ่ายเนื้อเยื่ออวัยวะเพศให้กับทหารหนุ่มผู้อาภัพคนหนึ่ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บในสงคราม ที่อัฟกานิสถาน จนต้องสูญเสียกล่องดวงใจไป

การผ่าตัดแบบนี้ยังไม่เคยทำมาก่อนในสหรัฐอเมริกา แต่พลทหารได้รับอวัยวะบริจาคมาจากเจ้าของที่เสียชีวิตลงแล้ว โดยจะทำการผ่าตัดที่โรงเรียนแพทย์ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในเมืองบัลติมอร์ ด้วยความหวังว่ามันจะสามารถใช้งานได้อย่างปกติ หลังผ่าตัดสัก 4-5 เดือน นอกจากถ่ายปัสสาวะแล้ว ยังเชื่อว่าเขาจะมีลูกหลานสืบสกุลได้

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเคยเปิดเผยว่า ทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งในศึกที่อิรัก หรืออัฟกานิสถาน ระหว่าง พ.ศ.2544-2556 มีด้วยกัน 1,367 คน ล้วนแต่ยังหนุ่มแน่น อายุไม่เกิน 35 ปี และเกือบทุกคนได้รับบาดเจ็บจากระเบิดแสวงเครื่อง บางคนก็ต้องสูญเสียอวัยวะทั้งหมดหรือบางส่วน ทางแพทย์ถือว่าเป็นการสูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์และอวัยวะปัสสาวะ

ดร.ดับเบิลยูพี แอนดรูว์ ลี ประธานแผนกศัลยกรรมตกแต่งและฟื้นฟูของโรงพยาบาล ได้กล่าวว่า “การบาดเจ็บตามอวัยวะเหล่านี้ เรามัก ไม่ค่อยได้ยินกันนัก แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าเราควรจะเห็นใจทหารที่อาภัพเหล่านี้” การผ่าตัดปลูกถ่ายเนื้อเยื่ออวัยวะสืบพันธุ์ชายเคยทำมาก่อนกับ 2 รายในจีนเมื่อ พ.ศ.2549 และที่แอฟริกาใต้เมื่อปีกลายนี้.