แอร์อินเดียทำลายสถิติ นิวเดลี-ซานฟรานฯ รวดเดียว14 ชม. กว่า 1.5หมื่นกม.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 26 ต.ค. 2559 13:20

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/764861

 

ภาพจาก เฟซบุ๊กแฟนเพจ Air India

สายการบินแอร์อินเดีย ทำลายสถิติโลกบินไกลเชิงพาณิชย์ ด้วยไฟล์ตบินตรงเที่ยวบิน AI 173 เส้นทางกรุงนิวเดลี-ซานฟรานซิสโก ระยะทาง 15,140 ไมล์ นาน 15 ชั่วโมง โค่นแชมป์เก่าเส้นทาง โอ๊คแลนด์-ดูไบ ของเอมิเรตส์…

เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2559 ที่ผ่านมา สำนักข่าวเดอะเทเลกราฟ ของอังกฤษ รายงานถึงเที่ยวบินที่ทำลายสถิติเที่ยวบินตรงแบบไม่หยุดพักบินที่บินไกลที่สุดในโลก ในเที่ยวบิน AI 173 ของสายการบินแอร์อินเดีย เส้นทาง นิวเดลี ประเทศอินเดีย – ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2559 ที่ผ่านมา ด้วยเครื่องบินโดยสารแบบโบอิ้ง 777-200LR ที่ออกแบบมาให้บินได้ในระยะไกลมากๆ โดยเที่ยวบนี้ นักบินใช้เส้นทางด้านฝั่งตะวันออก จากอินเดีย เข้าน่านฟ้าเมียนมา ผ่าน น่านฟ้าจีน น่านฟ้าญี่ปุ่น ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก และลงจอดที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา รวมระยะทาง 15,140 กิโลเมตร หรือ ราว 9,400 ไมล์ ใช้เวลาเดินทางเกือบ 14 ชั่วโมง 30 นาที สำหรับกัปตันในเที่ยวบินนี้ คือ Capt. Rajneesh Sharma Capt.Gautam Verma Capt. MA Khan และ Capt.SM Palekar

สำหรับเจ้าของสถิติเดิม คือ สายการบินเอมิเรตส์ ในเส้นทาง โอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ – ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK449 ที่บินเป็นระยะทาง 14,203 กิโลเมตร ข้ามมหาสมุทรอินเดีย และ แปซิฟิกใต้ ใช้เวลาบินรวม 17 ชั่วโมง 15 นาที เริ่มบินครั้งแรก 2 มี.ค.2016 ด้วยเครื่องบิน โบอิ้ง 777-200LR เช่นเดียวกัน

ชมคลิป กัปตัน Rajneesh Sharma พูดหลังเครื่องลงจอด

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของแอร์อินเดีย กล่าวกับไทมส์ ออฟ อินเดีย ว่า การที่เลือกเส้นทางด้านทิศตะวันออก ทำให้เครื่องบินโบอิ้ง 777-200LR ของแอร์อินเดียต้องบินไกลกว่า 15,000 กิโลเมตร มากกว่า ระยะทางโอ๊คแลนด์ – ดูไบ ของสายการบินเอมิเรตส์ ที่บินไกล 14,120 กม. แต่การที่บินเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก แอร์อินเดียจะได้เปรียบเพราะได้ลมส่งท้าย หรือ เทลล์วินด์ เร็วกว่า 86 ไมล์ต่อชั่วโมง จากการบินตามกระแสลม ช่วยลดเวลาบินลงไป 2 ชั่วโมง ทำให้เราใช้เวลาบินเพียง 14 ชั่วโมง 30 นาที หากบินย้อนกลับไปทางทิศตะวันตก เราต้องเจอกับลมต้าน หรือ เฮดวินด์ ที่ลดความเร็วของเครื่องบินลง ดังนั้นถ้าบินตามลมก็จะได้ลมส่งท้ายช่วยให้บินเร็วขึ้น

การบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก จะทำให้เครื่องบินต้องเจอกับลมต้านที่เร็ว 24 กม.ต่อชั่วโมง ส่งผลให้เครื่องบินเหลือความเร็วเพียง 776 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่ถ้ากลับกันหากบินไปในทิศตะวันออก แล้วบินข้ามแปซิฟิก ก็จะได้ลมส่งท้ายความเร็ว 138 กม.ต่อชั่วโมงมาช่วย ทำให้เครื่องบินบินเร็วขึ้นถึง 938 กม.ต่อชั่วโมงนั่นเอง.

ที่มา : telegraph

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บ๊ายบายเที่ยวบินที่ไกลที่สุดในโลก 18.5ชั่วโมง บน A340-500

เที่ยวบินตรงของแอร์บัสเอ380ที่ไกลและนานที่สุด

รู้จักเที่ยวบินตรงที่ไกลที่สุดของ เอ380 ‘การบินไทย’

 

มนุษย์ทำนาเกือบ 10,000 ปีมาแล้ว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 27 มิ.ย. 2559 12:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/647641

 

คณะนักโบราณคดี มานุษยวิทยามหาวิทยาลัยโตรอนโต ที่แคนาดา ค้นพบว่า มนุษย์ทำนาปลูกข้าวมาตั้งเกือบ 1 หมื่นปีแล้ว บนนาผืนแรก ซึ่งเป็นดินแดนอยู่ในจีน ปัจจุบันนี้ทำให้บอกได้ว่า ผลการค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2554 อ้างว่า มนุษย์เพิ่งทำนานาน 8,200 ปีแล้ว ต้องไปแก้เสียใหม่

คณะฯมีอาจารย์ณัฏฐา ชื่นวัฒนา รวมอยู่ด้วย ได้ค้นพบความรู้ใหม่ของชาวนารุ่นแรกและประวัติศาสตร์เริ่มแรกการทำเกษตรของมนุษย์

อาจารย์แกรี คอฟอร์ด กล่าวว่า “ทุกวันนี้ข้าวได้กลายมาเป็นอาหารที่สำคัญที่สุด ในเศรษฐกิจโลกอย่างหนึ่ง ทั้งที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่แต่ในป่า ไม่รู้ว่ามนุษย์ได้เอาข้าวมาไว้ในโลกได้อย่างไร ทำให้เราพอได้เค้าลางว่า มนุษย์ได้กลายเป็นชาวนาอย่างไร” นอกจากตัวอย่างพืชพันธุ์ข้าวแล้ว คณะฯยังได้ขุดพบเครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือหิน กระดูกสัตว์ ถ่านและเมล็ดพันธุ์อย่างอื่นอีกด้วย.

 

ต้ังพิพิธภัณฑ์ดารา คู่หย่าร้างเลิกรากัน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 27 มิ.ย. 2559 08:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/647616

 

มีผู้ตั้งพิพิธภัณฑ์ของคนอกหักและหย่าร้างขึ้นแล้ว ที่ฮอลลีวูด ซึ่งเป็นแหล่งดาราชายหญิง หย่าร้างแตกหักกันไปแล้วไม่รู้สักกี่รายต่อกี่รายตั้งแต่แรกมา

พิพิธภัณฑ์ได้เปิดที่ถนนฮอลลีวูด บูลเลอวาร์ด นครลอสแอนเจลิส ประกอบด้วยวัตถุซึ่งรวบรวมมาได้ ขยะและชิ้นส่วนแตกหักข้าวของ ของผู้ที่หย่าร้าง เลิกรักกันนานาชนิด รวมได้ถึง 104 อย่าง มีตั้งแต่ทั้งซองยาสีฟันที่ใช้แล้ว กางเกงยีนส์ที่ถูกแย่งยื้อกัน จนขาดเป็นสองท่อน เป็นต้น

ผู้ช่วยภัณฑารักษ์ได้คุยว่า นครลอสแอนเจลิส เป็นที่ ซึ่งเหมาะสมที่สุด ที่จะเปิดพิพิธภัณฑ์เพราะว่ามีการหย่าร้างมาแล้วไม่รู้จะกี่คู่ต่อกี่คู่ ในเมืองซึ่งเต็มไปด้วยความหวังลมๆแล้งๆ และความฝัน ซึ่งจะต้องมีผู้แพ้ที่จะต้องหลบลี้หนีหน้าไป

ความจริงพิพิธภัณฑ์แบบนี้แห่งแรก เคยเปิดมาแล้วที่เมืองซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย เมื่อ 10 ปีมาแล้ว แต่เมื่อทนายอเมริกัน และเป็นนักรวบรวมศิลปะ จอห์น บีควิน ไปเห็นเข้า กระดิกนิ้วดังเป๊าะว่า ควรจะย้ายมันไปตั้งอยู่ที่ฮอลลีวูด ถึงจะใช่เลย เขายังกล่าวว่ามันเป็นสถานที่ที่คนเข้าไปเที่ยวทีแรก ก็อาจจะคิดว่า ตนเองต้องเจ็บปวดมาก่อน เป็นต้น แต่เมื่อได้เห็นด้วยตาของสิ่งของต่างๆ ก็จะรู้สึกค่อยยังชั่วว่าคนที่ต้องเผชิญกับทุกข์ใจที่หนักกว่าเราก็ยังมี และก็พลอยทำให้เรามีอารมณ์ดีขึ้น”.

 

ประมวลภาพ ‘ดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์’ เมืองไทยเห็นอีกที 2575

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/618060

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 พ.ค. 2559 10:55

 

สดร.เผยภาพปรากฏการณ์หาชมยาก ดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ เมื่อ 9 พ.ค.นักดาราศาสตร์ไทย ตั้งกล้องเก็บภาพ ณ ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เผยคนไทยได้เห็นอีกที 2575 ขณะที่ทั่วโลกตื่นตัวตั้งกล้องชมกันพร้อมเพรียง นาซาจับภาพใกล้ที่สุด…

ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. นำทีมเก็บภาพ “ดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์” บริเวณพระมหาธาตุนภเมธนีดล อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากปรากฏการณ์ดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2559 นี้ จะสามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 18:10 น. จนถึง 18:35 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า ดาวพุธจะปรากฏอยู่บริเวณใกล้ขอบฟ้ามาก จำเป็นต้องตั้งจุดสังเกตการณ์ในพื้นที่สูง จึงจะมีโอกาสเก็บภาพปรากฏการณ์หาชมยากนี้มาฝากคนไทย

ภาพดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ โดย : ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา สิทธิพร เดือนตะคุ ธีรยุทธ์ ลอยลิบ

ดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ โดยกล้องขององค์การนาซา

ภาพจากทวิตเตอร์ @NASASunEarth

ภาพดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ จาก บอยเยอร์ทาวน์ เพนซิลเวเนีย

นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษกำลังส่องกล้องดูดวงอาทิตย์

ภาพดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย

ที่ประเทศอังกฤษ

เด็กนักเรียนที่อินเดีย กำลังส่องกล้องดูดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ โดยมีฟิลเตอร์กรองแสงป้องกัน

ภาพที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา

กิจกรรมส่องกล้องดูดวงอาทิตย์ของ นร.ไฮสคูล โรงเรียนบอยเยอร์ทาวน์ เพนซิลเวเนีย

คุณป้าชาวโปแลนด์ก็ตั้งกล้องส่องดูดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์

ภาพดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน

ดาวพุธเป็นจุดสีดำเล็กๆ ตรงกลางด้านล่าง ภาพโดยองค์การนาซา

ปรากฏการณ์ดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ เป็นปรากฏการณ์ที่ดาวพุธเคลื่อนที่ผ่านแนวเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างโลกกับ ดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงอาทิตย์ ดาวพุธ และโลก เรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกัน เมื่อสังเกตจากโลกจะเห็นดาวพุธปรากฏเป็นจุดกลมเล็กเคลื่อนที่ผ่านดวงอาทิตย์ นักดาราศาสตร์ใช้ปรากฏการณ์นี้ศึกษาระยะห่างระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ ครั้งต่อไปดาวพุธจะเคลื่อนที่ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 แต่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ในประเทศไทย สำหรับประเทศไทยต้องรอไปอีก 16 ปี จึงจะได้ชมปรากฏการณ์ดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์อีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2575.